ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 05:47
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  จาก'บูล็อก'ถึงบ้าน'เอื้ออาทร' สัมพันธ์ลึก'ทักษิณ-วัฒนา-อภิชาติ' ติดคุก!!!! 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
จาก'บูล็อก'ถึงบ้าน'เอื้ออาทร' สัมพันธ์ลึก'ทักษิณ-วัฒนา-อภิชาติ' ติดคุก!!!!  (อ่าน 2641 ครั้ง)
RONALDO
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 684


ไม่มีใคร ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยได้ หากเราไม่ยินยอม


« เมื่อ: 24-03-2007, 21:15 »

อึ้งกันไปทั้งประเทศ เมื่อผลวินิจฉัยการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร 600,000 หน่วย ตามนโยบายประชานิยมรัฐบาลทักษิณ โดยนายแก้วสรร อัติโพธิ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. เพราะผลวินิจฉัยพบหลักฐานสำคัญมัดตัว นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่ามีส่วนพัวพันรับเงินใต้โต๊ะจำนวน 82 ล้านบาท จากบริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด หนึ่งในผู้ได้รับสิทธิ์ดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร ทั้งเส้นทางการเงินโยงใยไปถึงบริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทค้าข้าวรายใหญ่รายหนึ่ง


"สินบน-ฟอกเงิน"บ้านเอื้อฯ:
ความผิดปกติของเส้นทางการเงิน ที่ส่งผ่านบริษัท พาสทิญ่าไทย ไปยังบริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทอื้อฉาวที่มีความสัมพันธ์แนบแน่น ในสมัยที่นายวัฒนา นั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีหลักฐานสำคัญ ที่พบว่ามีขบวนการโยกเงินจากบริษัทพาสทิญ่า ไปฟอกเงิน ที่ บริษัทเพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง ก็คือ
วันที่ 15 มีนาคม 2549 ปรากฏชื่อของนาย ชาฮ์นน บินยาขอบ ได้อนุมัติให้ออกเซ็คเงินสด ธนาคารกรุงเทพสาขารัตนาธิเบศร์ จำนวน 11 ฉบับ ยอดเงิน 18,750,260 บาท จากบัญชี เลขที่ 058-301793-4 ชื่อบัญชี บจก .พาสทิญ่า ไทย 18,750,260 บาท เข้าบัญชีของ คนขับรถของ นายอภิชาต จันทร์สกุลพร เจ้าของบริษัทเพรซิเดนท์ ฯ และเงินจำนวนนี้ได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย และ อีกเช็คเงินสดอีก 34 ฉบับ 63,850,000 บาท เข้าบัญชี นางสาวรุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงานแม่บ้านของบริษัทเพรซิเด้นท์ ฯผ่านธนาคารกรุงเทพสาขาอโศก-ดินแดง และโอนผ่านต่อไปบังบัญชีของ นางสาวกรองทอง วงศ์แก้ว พนักงานพิมพ์ดีดของบริษัทเพรซิเด้นท์ ฯที่ได้รับมอบฉันทะจากนางสาวรุ่งเรืองให้เบิกถอนเงิน จำนวน 63,850,000 บาท และนำเข้าบัญชีตนเอง 400,000 บาทและถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกโดยไม่มีร่อยรอยว่าส่งไปที่ใดต่อส่วนเงินที่เหลือจำนวน 63,450,000 นางสาวกรองทอง ได้โอนเข้าบัญชีตนเองอีกครั้ง และแยกย่อย กระจาย เข้าบัญชีของบริษัทเพรซิเด้นท์ 2 บัญชี ซึ่งเป็นของธนาคารกรุงเทพสาขาเพชรบุรีตัดใหม่ จำนวน 31,004,204.75 บาท อีกบัญชี จำนวน 24,400 ,000 บาท และเข้าบัญชีของนายอภิชาต ธนาคารกรุงเทพสาขาอโศกดินแดง 155,313 บาท และบัญชีของ นางกิ่งแก้ว ลิมปีสุข สาขาเดียวกัน 3,000,000 บาท
อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 5 บัญชีดังกล่าว เป็นบัญชีส่วนตัว และบัญชีการค้าเงินที่ดินจาก นางสาวกรองทองทั้ง 5 บัญชี ได้กลืนเป็นเงินส่วนตัวและชำระหนี้ทางการค้าของเจ้าของบัญชี ซึ่งขณะนี้ คตส.อยู่ระหว่างการติดตามการฟองเงิน และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 46 คดี รวม 181 โครงการ จากจำนวนบ้านเอื้ออาทร ทั้งหมด 600,000 หน่วย
การถอนเงินจากธนาคารกรุงเทพ สาขารัตนาธิเบศร์ จำนวน 18 ล้านบาท ของบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด โดยเป็นเช็ค 11 ฉบับ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2547 และการโอนเงินโดยบริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด หนึ่งในจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร ให้กับบริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 63 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2547 และข่าวการจ่ายสินบน 82 ล้านบาท ให้นักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับโครงการบ้านเอื้ออาทร ชื่อบริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทค้าข้าว ไปเกี่ยวข้องกับโครงการบ้านเอื้ออาทร ได้อย่างไร


สัมพันธ์ทักษิณ-วัฒนา-อภิชาต:
ทั้งนี้ นาย วัฒนา และ นาย อภิชาตมีสัมพันธ์ลึกชึ้งตั้งแต่ฝ่ายแรกเป็น รองเลขานุการ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแนบแน่นขึ้น เมื่อฝ่ายแรกดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายอภิชาติ เคยให้สัมภาษณ์"ฐานเศรษฐกิจ"เมื่อปี 2547 ถึงสัมพันธ์สามเส้าระหว่างตัวเขา วัฒนา และ พ.ต.ท.ทักษิณว่า เขารู้จักกับพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ก่อนรู้จักกับนายวัฒนา เพราะมีอยู่วันหนึ่ง ตนมีโอกาสเข้าพบพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยไปกับคณะของ สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ ก่อนหน้านั้นไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย เมื่อมีโอกาสได้พบในนามสมาคมฯเขาได้ยื่นนามบัตรเพื่อแนะนำตัวกับพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ
หลังจากนั้น พ.ต.ท.ดร ทักษิณ ก็ให้ ตนไปพบและถามว่าจะให้ช่วยอะไร ตนได้บอกว่าให้ช่วยบอกอินโดนีเซียซื้อข้าวจากไทย เพราะอินโดนีเซียไม่ได้ซื้อข้าวจากไทยมา 15 ปีแล้ว ต่อมานายกทักษิณบอกว่าได้ช่วยพูดให้แล้วและอินโดนีเซียซื้อข้าวจากไทย 5 แสนตัน บริษัท เพรซิเด้นท์ฯเป็นผู้ส่งมอบรายเดียว ส่วนหนึ่งนั้นตนได้ประสานกับทางรัฐบาลอินโดนีเซีย(องค์กรไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่เนื่องจากขายข้าวให้อินโดนีเซียต้องรัฐบาลกับรัฐบาลเท่านั้น หลังจากนั้นให้ ตนประสานกับ คุณวัฒนา (วัฒนา เมืองสุข )ซึ่งขณะนั้นเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และได้ติดต่อกันเรื่อยมา
"เรื่องขายข้าวให้อินโดนีเซีย ถ้าไม่มีนายกฯทักษิณ ผมขายไม่ได้ เพราะอินโดนีเซียซื้อรัฐบาลกับรัฐบาลเท่านั้น" นาย อภิชาต กล่าวและกล่าวต่อว่า
นอกจากพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ เป็นผู้มีส่วนช่วยเจรจาให้รัฐบาลอินโดนีเซียซื้อข้าวจากรัฐบาลไทย โดยมีบริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัดเป็นผู้ส่งมอบ หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ กับนายอภิชาต อย่างเป็นทางการก็ยุติลง แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง นายอภิชาติ กับ นายวัฒนากับงอกเงยขึ้นโดยหลังฝ่ายหลัง ขึ้นดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเปิดประมูลข้าว ขายข้าวสารในสต๊อกจำนวน 2 ล้านตัน เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2547 การประมูลครั้งนั้น บริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด เป็นผู้ชนะประมูล ข้าวเพียงรายเดียวจำนวน 1.78 ล้านตัน
ต่อจากนั้น บริษัท เพรซิดนท์ อะกรี เทรดดิ้ง ของ นายอภิชาต ยังประมูลข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ได้อีกหลายครั้งจนเป็นที่โจษจรรย์และเป็นปัจจัยหนุนให้บริษัทค้าข้าวเล็กรายนี้ผงาดขึ้นเป็นผู้ส่งออกข้าวหมายเลขหนึ่งของวงการอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อนายวัฒนาย้ายจากกระทรวงพาณิชย์ไปนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสังคมและความมั่นคงของมุนษย์ ไม่มีใครคาดคาดคิดว่าเยื่อใยระหว่างนายวัฒนากับนายอภิชาติยังเอื้ออาธรถึงกันกระทั่ง คตส.ปูดเรื่องออกมา
ส่งไม้ต่อดีเอสไอ-ปปง.เชือด
สำหรับอนาคตของอดีตรัฐมนตรีและพ่อค้าข้าว หลังคตส.เปิดประเด็นแล้ว นายแก้วสรร
กรรมการและเลขานุการ คตส. ได้ส่งไม้ต่อให้ทางกรมสวบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ได้เข้ามาดูแลในส่วนของการยึดหรืออายัดทรัพย์ นอกจากนี้ ยังตรวจสอบเอาผิดทางคดีอาญาอีกด้วย รวมถึงการขยายผล เรื่องการฟอกเงิน ปิดบังอำพรางแหล่งที่มาของเงินที่เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการต่อไป


แหล่งข่าวจาก ปปง.กล่าวว่าเตรียมที่จะเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินและบัญชีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหมายความว่านับจากนาทีนี้เป็นต้นไป ข้อมูลเส้นทางการเงินระหว่างบัญชีบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องระหว่าง นายวัฒนาและนายอภิชาติ ที่จะค่อยๆถูกเลาะออกมาเป็นชิ้นเล็กๆจนสามารถ ปะติดปะต่อให้เห็นโยงใยเส้นทางผลประโยชน์ นอกจากจะเป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงความเอื้ออาธรที่ทั้ง 2 คนมีต่อกันแล้ว ยังบอกถึงชะตากรรมของอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง ว่าจะจบลงอย่างไรอีกด้วย

คุกนี่จะพอเพียงกับอัคยำยำมหาเศษสวะ หน้าเหลี่ยมและพวกรึป่าวน้อ
บันทึกการเข้า

เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าไล่พวกโกงกิน ขจัดระบอบทักษิณ ให้ออกไป
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #1 เมื่อ: 24-03-2007, 21:46 »


ก่อนหน้าเกิดรัฐประหารไม่นาน
จำไม่ได้หรือ ว่านายวัฒนา "บิดาแห่งกุ๊ยทั่วราชอาณาจักร" คนนี้  เคยพยายามดันโครงการ
"ทุบแฟลตดินแดง - เพื่อสร้างใหม่"

คุณครับ...
หากไม่ทำก่อสร้าง  แล้วจะตั้งงบยังไง ?
บันทึกการเข้า

RONALDO
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 684


ไม่มีใคร ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยได้ หากเราไม่ยินยอม


« ตอบ #2 เมื่อ: 24-03-2007, 22:05 »

เพราะความเป็น คิดว่าตัวเองเป็น อภิสิทธิ์ชนไงครับ คิดว่าเป็นลูกเขย CP ถึงกร่างเข้าไปทำยำยำตำบอน

คุณลองดูแต่ละนโยบายสิ้นคิดของมันสิ เปิดสนามแข่งมอไซต์ เมียกราบตีนผัว อะไรๆอีก ปัญญาอ่อนสิ้นดี

และยังมาโกงกินมูมมามคำโต เป็นธรรมดาของพวกสมองกลวง ที่คิดมุกได้แค่นั้น มันเลยเป็นคนแรกๆ ที่เปิดช่อง กลบหลักฐานไม่มิดไงครับ ถึงโดนเล่นคนแรกเลย

ถ้ามันไวเป็นกลดเหมือนพ่อหน้าเหลี่ยมมันคงยังไม่ง่ายขนาดนี้ครับ

สมน้ำหน้ามัน
บันทึกการเข้า

เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าไล่พวกโกงกิน ขจัดระบอบทักษิณ ให้ออกไป
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 24-03-2007, 22:13 »

เจ้าของวลี คนหรือควาย ด่าเด็กช่างกล...

ก็รอดูครับ เค้าบอกว่า "คุก" ไม่ได้มีไว้ขังคนรวย

ผมจะรอดู
บันทึกการเข้า

ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #4 เมื่อ: 25-03-2007, 00:14 »


คุณวัฒนาคงไม่เหงาหรอก ถ้าได้อยู่แดนเดียวกันคุณรักเกียรติ ถือว่าโชคเข้าข้างนะเนี่ย

บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 25-03-2007, 21:38 »


คุณวัฒนาคงไม่เหงาหรอก ถ้าได้อยู่แดนเดียวกันคุณรักเกียรติ ถือว่าโชคเข้าข้างนะเนี่ย



ตั้งโพลเลยดีไม๊ครับ

วัฒนา กับ รักเกียรติ คุณคิดว่า 2 คนนี้เป็นคู่เกย์กันหรือไม่ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ภารโรงวัยดึก
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


« ตอบ #6 เมื่อ: 25-03-2007, 21:39 »

ผมว่าในคุกนั้น มีพวกที่วัฒนาด่าว่าควายเอาไว้เยอะพอสมควรนะ งานนี้ถ้าติดจริง เจ้าตัวคงต้องเตรียมตัวรับน้องใหม่หนักหน่อย 
บันทึกการเข้า
นิรนาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 554



« ตอบ #7 เมื่อ: 25-03-2007, 23:20 »

ขออนุญาตขุดกรุเอาเรื่องเก่า เมื่อ 09/10/2006 มาเล่าใหม่อีกรอบแล้วกัน

บ้านเอื้ออาทร หลังน้ำลดตอผุด "หน้าเหลี่ยม" หลอกคนจนเป็นหนี้ชั่วลูกชั่วหลาน?
http://forum.serithai.net/index.php?topic=6947.0

โดน "สมุนเหลี่ยม" ใส่ซะแทบกระอัก.. RONALDO อยู่ไหนหนอไม่มาช่วยกันบ้างเลย..ฮา

อ้อ..ขอแถมด้วย

"บ้านเอื้ออาทร" น้ำลดตอผุด! ช่วย"คุณหญิงจารุวรรณ" เอาเงินแผ่นดินคืนมา?

ใส่ไว้เมื่อ: 23-09-2006

http://forum.serithai.net/index.php?topic=7780.0

ตัวนี้ค่อยยังชั่วหน่อย.. ไม่โดนอัดเท่าไหร่...?


บันทึกการเข้า

"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ  จันดำ
ถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
      นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน
“บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา”
กาฬปักษ์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 28


« ตอบ #8 เมื่อ: 26-03-2007, 13:08 »

น้องสาวผมจ่ายเดือนละ 300 เป็นเวลาปีหนึ่งแล้ว มันบอกว่าจะเข้าอยู่ได้กลางเดือนที่แล้ว ป่านนี้ยังไม่เห็นแววว่าจะได้อยู่เลย เอาเงินคืนตรูเถอะ
บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #9 เมื่อ: 26-03-2007, 13:59 »

นี่แหล่ะครับ ปากสุนัข ที่เคยพล่นพล่อยๆ ว่าไม่มีใบเสร็จผมก็จะจัดการ ไหงเป็นยุค ที่บ้านเมืองวุ่นวานแตกแยก รวมทั้ง มีการทุจริตคอรัปชั่นกัน บานตะไท

การหากินบนทางอุบาทของนักการเมือง เมื่อไหร่จะหมดไป ถ้าประชาชน ไม่เข้มแข็ง ไม่รู้ทัน

ข้าราชการ รู้เห็นเป็นใจ

วงจรอุบาทนี้ ก็คงตายไปได้ยากจริงๆ
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #10 เมื่อ: 26-03-2007, 23:28 »

เมื่อสักครู่คุณแก้วสรร ได้แสดงความคิดเห็นในรายการ ASTV....
1. เรียกร้องให้รัฐบาลสนใจโครงการ"เอื้ออาทร" โดยปรับปรุงให้รัดกุมเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชน...
2. โดยหน้าที่กรรมการ คตส. จะแยกพนักงานการเคหะฯที่ดีออกจากคนชั่ว..
3. เปิดโปงการคอร์รั่ปชั่นของรัฐมนตรี ผู้บริหารการเคหะฯรุ่นก่อน....


การแสดงความคิดเห็นใจกว้างของคุณแก้วสรรในเรื่องทุจริต"บ้านเอื้ออาทร"
และสนับสนุนให้รัฐบาลสนใจ ดำเนินการต่อไป อาจจะมี "บริหาร"ของ"นายผู้ชาย" เอาดีใส่ตัว"นายผู้ชาย"ได้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 27-03-2007, 02:00 »

เมื่อสักครู่คุณแก้วสรร ได้แสดงความคิดเห็นในรายการ ASTV....
1. เรียกร้องให้รัฐบาลสนใจโครงการ"เอื้ออาทร" โดยปรับปรุงให้รัดกุมเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชน...
2. โดยหน้าที่กรรมการ คตส. จะแยกพนักงานการเคหะฯที่ดีออกจากคนชั่ว..
3. เปิดโปงการคอร์รั่ปชั่นของรัฐมนตรี ผู้บริหารการเคหะฯรุ่นก่อน....


การแสดงความคิดเห็นใจกว้างของคุณแก้วสรรในเรื่องทุจริต"บ้านเอื้ออาทร"
และสนับสนุนให้รัฐบาลสนใจ ดำเนินการต่อไป อาจจะมี "บริหาร"ของ"นายผู้ชาย" เอาดีใส่ตัว"นายผู้ชาย"ได้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




สิ่งที่น่าเป็นห่วง ไม่ใช่เรื่องการทุจริตแต่เพียงอย่างเดียว

แต่ความเสียหาย จะแก้ไขอย่างไร นั่นต่างหากที่ต้องรีบทำ

พวกขี้โกงยังไงมันก็ไปไม่รอดหรอก...กฎหมายจัดการได้อยู่แล้ว

แต่ความเสียหายนี่สิ ยังไม่เห็นแนวทางเชิงรุก...ที่พอจะอุ่นใจได้

กลัวมันจะเจ๊งกันต่อ กลายเป็น "หนี้เน่า" รอวันล้มครืน....นับแสนล้านนะครับ โครงการนี้
บันทึกการเข้า

นิรนาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 554



« ตอบ #12 เมื่อ: 27-03-2007, 07:59 »

ขออนุญาต "เอาของเก่ามาหากิน" แล้วกัน คือ ผมไม่รู้จะเขียนอะไรน่ะ ฮา....

    บ้านเอื้ออาทร หลังน้ำลดตอผุด "หน้าเหลี่ยม"หลอกคนจนเป็นหนี้ชั่วลูกชั่วหลาน?
« เมื่อ: 10-09-2006, 18:38

--------------------------------------------------------------------------------
รัฐบาลทักษิณ คุยโม้โอ้อวดว่าจะทำให้คนยากคนจนหมดไปจากแผ่นดิน ภายใน 5 ปีคนยากจนที่ไม่มีบ้านอยู่อาศัย จะมีบ้านเป็นของตัวเอง โดยรัฐบาลจะช่วยสร้างให้ ออกเงินค่าซื้อที่ดินจากเอกชนให้คนละ 80,000 บาทแล้วให้ผ่อนชำระเดือนละ 1,500 บาท

สิ้นคำคุยโวโอ้อวดของ "คนหน้าเหลี่ยม" การเคหะแห่งชาติก็ผุดโครงการบ้านเอื้ออาทรแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 21 ตารางวา 2 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ โถงโล่งเอนกประสงค์ ซักล้าง ขึ้นทั่วประเทศรวม 68 โครงการ(ไม่นับรวมอาคารชุด 33 ตารางเมตร ที่เกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด)

คนยากคนจน คนหาเช้ากินค่ำแห่ไปลงชื่อจองกันสลอนนับแสน ๆ คน แต่การเคหะแห่งชาติเจ้าของโครงการสุ่มจับสลากเหลือ 80,000 คนเศษ เพราะมีพื้นที่ดำเนินงานตามโครงการแค่นี้

สุดท้าย พอน้ำลดตอก็เริ่มผุดโผล่ขึ้นมาให้เห็น ผู้ที่ได้สิทธิ์บ้านเอื้ออาทรแห่ถอนตัวกันอื้อกว่าร้อยละ 60 ในทุกโครงการ

เพราะบ้านบ้าอะไรไม่รู้แคบและเล็กพอ ๆ กับบ้านการ์ตูนในหนังดิสนีย์แลนด์ แต่ราคาแพงมหาโหด 390,000 บาท และไม่ใช่ 390,000 ตรงตัว เมื่อดูสัญญาให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้วจะรู้ว่าถ้าตกหลุมพรางที่ "หน้าเหลี่ยม"ทำเอาไว้ ประชาชนคนเดินดินกินข้าวแกงที่มีหนี้สินพอประมาณ จะมีหนี้ก้อนใหม่ซึ่งต้องชดใช้กันถึงลูกถึงหลานรวมแล้วกว่า 900,000 บาท

เนื่องจากพอก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ ผู้ได้สิทธิ์ต้องนำบ้านพร้อมที่ดินเข้าจำนองกับธนาคารของรัฐ หรือธนาคารพาณิชย์ ที่การเคหะแห่งชาติจัดหาให้ ในราคารับจำนองหลังละ 386,400 บาท โดยให้เวลาในการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 30 ปี ทั้งนี้นับแต่วันเซ็นสัญญากู้เงินกับธนาคารถึงวันสิ้นสุดการชำระเงินตามสัญญา ผู้กู้จะต้องอายุไม่เกิน 65 ปี

พูดกันง่าย ๆ ก็คือโครงการนี้เปิดโอกาสให้เฉพาะผู้ที่มีอายุสูงสุดไม่เกิน 35 ปีเท่านั้นเข้าเป็นเจ้าของบ้าน ถ้าอายุเกินกว่า 35 ปี ก็ต้องหาคนมาเป็นผู้กู้ร่วม โดยผู้กู้ร่วมต้องมีอายุอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด

ที่นี่มาดูเงื่อนไขในการผ่อนชำระเงินกับธนาคารขั้นต่ำเดือนละ 1,500 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรกร้อยละ 4 ต่อปี ปีที่ 4 - 5 ร้อยละ 5 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 6 เป็นต้นไปเท่ากับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว 0.25 ของธนาคารที่รับจำนอง กำหนดตามตารางคำนวณโดยใช้อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.5 ต่อปี

รวมความแล้ว คือ ปีที่ 1 - 3 ผ่อนเดือนละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 54,000 บาท ปีที่ 4 - 6 ผ่อนเดือนละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 72,000 บาท ปีที่ 7 - 9 ผ่อนเดือนละ 2,200 บาท รวมเป็นเงิน 79,200 บาท ปีที่ 10 - 12 ผ่อนเดือนละ 2,400 บาท รวมเป็นเงิน 86,400 บาท ปีที่ 13 - 15 ผ่อนเดือนละ 2,600 บาท รวมเป็นเงิน 93,600 บาท ปีที่ 16 - 18 ผ่อนเดือนละ 2,700 บาทรวมเป็นเงิน 97,000 บาท ปีที่ 19 - 21 ผ่อนเดือนละ 2,800 บาท รวมเป็นเงิน 100,800 บาท ปีที่ 22 - 24 ผ่อนเดือนละ 2,900 บาท รวมเป็นเงิน104,400 บาท ปีที่ 25 - 27 ผ่อนเดือนละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 108,000 บาท ปีที่ 28 ขึ้นไปจนกว่าจะครบตามจำนวนเงินกู้และดอกเบี้ยผ่อนเดือนละ 3,100 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 111,600 บาท

งานนี้จากต้นเงิน 386,400 บาท "คนจน"ต้องเป็นหนี้และต้องใช้หนี้กันชั่วลูกชั่วหลาน เป็นเงินมหาศาลถึง 907,000 บาท(เป็นการคิดในอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน แต่ถ้าในอนาคตดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นก็ไปคำนวณเอาเอง)

ผลก็คือคนจนที่หลงไหลได้ปลื้มว่าตัวเองจะมีบ้านอยู่อาศัยตามคำโฆษณาชวนเชื่อของ "หน้าเหลี่ยม" ถอยกรูด แห่ถอนตัวกันอื้อซ่าเกินกว่าครึ่งในแต่ละโครงการ จนการเคหะแห่งชาติหาเงินค่ามัดจำ 3,600 บาทคืนให้ไม่ทัน

แบบนี้ต้องเรียกว่า "คนจนร้อยละ 60 ของจำนวน 80,000 ครอบครัว"เริ่มที่จะรู้เท่าทัน "หน้าเหลี่ยม" บ้างแล้ว งานนี้"หน้าเหลี่ยม" เสียรังวัดไปกับ "คนจนผู้รู้ทัน" ประมาณ 48,000 ครอบครัว เฉลี่ยแต่ละครอบครัวมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 4 คน งานนี้คะแนนหายไป 192,000 คะแนน

มาดูกันต่อไปว่า โครงการบ้านเอื้ออาทร(แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 21 ตารางวา) มีความโปร่งใสไม่โปร่งใสอย่างไรบ้าง

เมื่อเริ่มต้นกำหนดพื้นที่ดำเนินงานตามโครงได้แล้ว ก่อนอื่นต้องหาผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาร่วมโครงการ โดยให้ผู้รับเหมาจัดหาพื้นที่ดำเนินงานเอามาขายให้กับรัฐบาลในราคาไร่ละ 500,000 บาท (คุณจะซื้อมาไร่ละ 10,000 - 20,000 บาทเรื่องของคุณ แต่เมื่อรวมค่าปรับถมที่แล้วต้องขายให้รัฐบาล "หน้าเหลี่ยม" ในราคาไร่ละ 500,000 บาทนี่แหละ) แล้วไปขายต่อให้ผู้ได้สิทธิ์ตารางวาละ 7,000 บาทขาดตัว

ขั้นตอนต่อไป คือ ให้การเคหะแห่งชาติออกไปโพนทะนาป่าวประกาศให้คนยากคนจนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองไปจองสิทธิ์ บอกมันคร่าว ๆ ไม่ต้องให้รายละเอียดมาก เอาแค่ว่าเป็นบ้านเอื้ออาทรสำหรับคนยากจนที่รัฐดำเนินการก่อสร้างให้โดยออกเงินให้ก่อนหลังละ 80,000 บาท ให้ผ่อนชำระเดือนละ 1,500 บาท แค่นี้ก็ขี้คร้านคนจนจะวิ่งไปจองสิทธิจนแทบจะเหยียบกันจมธรณีแล้ว

เมื่อได้จำนวนผู้จองสิทธิ์ตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือผู้รับเหมาต้องไปเซ็นสัญญาก่อสร้างกับการเคหะแห่งชาติ ตกลงกันในราคาหลังละ 270,000 บาท(รวมค่าที่ดินหลังละ 147,000 บาท)และค่าสาธารณูปโภค(ค่าสายไฟฟ้า, ค่าระบบประปาภายในและนอกอาคาร, ค่ากระจกหน้าห้องน้ำ, ค่าโถส้วม, ค่าก๊อกน้ำ)หลังละ 65,000 บาท(มิเตอร์ไฟฟ้า,ประปาผู้ซื้อบ้านต้องไปจ่ายเงินให้การประปา,การไฟฟ้าเอาเอง)

ผู้รับเหมาจรดปากกาเซ็นปั๊บ ควักกระเป๋านับเงินสด ๆ ราคาหลังละ 20,000 บาท ให้การเคหะแห่งชาติ เพื่อให้นำไปส่งส่วยให้กับเสนาบดีเจ้ากระทรวง นำไปบำรุงกระเป๋าตัวเองและเป็นเงินที่จะนำไปใช้ในการหาเสียงของพรรค

80,000 หลัง เอา 20,000 คูณเอาเองว่าเป็นเงินปากถุงที่พวกฟาดกันเท่าไหร่?

ดูกันต่อที่วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างนอกจากค่าปากถุงหลังละ 20,000 บาทแล้ว พวกยังกินนอกกินในกันหยุบหยิบไปหมด สีต้องเป็นของ บริษัท ทวีรุ่ง จำกัด ของหลานผู้ว่าการการเคหะฯ น่ะ ห้ามเอาของคนอื่น ถึงของคนอื่นจะราคาถูกกว่าก็ห้ามนำมาใช้เด็ดขาด ปูนซีเมนต์ต้องเป็น "บารอน"นะ ซึ่งก็ไม่รู้โผล่มาจากป่าไหน เหล็ก วงกบหน้าต่างประตู ต้อง "เอกวิบูลย์"นะ

ผลก็คือบ้านแต่ละหลังรวมราคาที่ดิน 21 ตารางวา ราคาสูงลิ่วถึงหลังละ 220,000 บาท ผู้รับเหมาบอกว่าถ้าให้เลือกวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างตามใจชอบราคารวมที่ดินแค่ 200,000 บาท ได้บ้านดีกว่าที่เห็นซะอีก

ยัง ๆ ไม่หมดแค่นี้ จากตัวเลขที่ไล่มาทั้งหมดมองเผิน ๆ ผู้รับเหมาจะได้กำไรหลังจ่ายค่าปากถุง 20,000 บาทแล้วอยู่หลังละ 30,000 บาท แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะเจ้าหน้าที่การเคหะ, คนของ รมต. ตามไปขอค่าน้ำร้อนน้ำชาไม่เว้นอาทิตย์ เหลือกำไรให้ผู้รับเหมาแค่หลังละ 3,000 บาทเท่านั้น 
--------------------------------------------------------------------------------
"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง
มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"  ประเสริฐ  จันดำ
 
เอากันคร่าว ๆ แค่นี้ก็แล้วกัน ดูแล้วก็จะเห็นว่ามีการทุจริตตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั้งจบ ควรแล้วที่ คตส.จะเข้าไปจัดการ

นี่ผมใส่เอาไว้ตั้งแต่ก่อน คมช.ยึดอำนาจ ตอนนั้นยังกลัว ๆ อยู่เลย ว่าจะถูก "สาวกทักษิณ"กระทืบจมพสุธา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2007, 08:10 โดย นิรนาม » บันทึกการเข้า

"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ  จันดำ
ถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
      นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน
“บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา”
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #13 เมื่อ: 27-03-2007, 08:43 »

เมื่อคืนผมได้ดูอาจารย์แก้วสรรนำเสนอ
หูตาสว่างขึ้นอีกเยอะ
เป็นความอัปยศอดสูในแผ่นดิน
เป็นความตั้งใจโกงอย่างหน้าด้านๆ

อะไรไม่ว่า
ทั้งลูกพี่ ลูกน้อง
เหมือนกันเด๊ะ
คนขับรถ แม่ครัว ลูกจ้าง
ถูกใช้เป็นเส้นทางฟอกเงิน


อัปมงคลจริงๆ
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: