ปปช.ตั้งอนุไต่สวน'ภาณุพงศ์'พวก10คน ซ้อมผู้ต้องหาปล้นปืน

23 มีนาคม พ.ศ. 2550 11:24:00

ป.ป.ช.มีมติให้ตั้งอนุกก.ไต่สวน"พล.ต.ท.ภาณุพงศ์" พร้อมพวก 10 คน คดีซ้อมผู้ต้องหาปล้นปืนใต้ และโยงคดีอุ้ม"ทนายสมชาย" เล็งขยายผลถึง "พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ"

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : วานนี้(22มี.ค.) นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กับพวก ข้อหาเป็นพนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังและทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา 5 คน ในคดีปล้นอาวุธปืนของกองพันทหารพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้การรับสารภาพ ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.พิจารณา
โดยมีตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน ทั้งนี้ ตามสำนวนที่ดีเอสไอส่งมามีผู้ต้องหาหลายคน ซึ่งคณะอนุกรรมการจะต้องสอบสวนต่อไปว่า เกี่ยวข้องพาดพิงไปถึงใครบ้าง

ด้านนายวิชา มหาคุณ ป.ป.ช. กล่าวว่า ตามสำนวนที่ดีเอสไอส่งมาให้ ป.ป.ช.ไต่สวน พบว่าคดีดังกล่าวมีนายตำรวจระดับสูงจนถึงชั้นประทวนเข้าไปเกี่ยวข้อง 10 คน ซึ่งปลัดกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็มีความเป็นห่วงและอยากให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะมีความเกี่ยวพันกับการถูกอุ้มหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม เนื่องจากนายสมชายเข้าไปเป็นทนายให้แก่ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน รวมถึงองค์กรด้านการยุติธรรมของต่างประเทศก็ให้ความสำคัญต่อคดีการหายตัวไปของนายสมชายเป็นอย่างมาก และคอยซักถามความคืบหน้าอยู่ตลอดเวลา

มีรายงานด้วยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ยังมีมติให้คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้ขยายผลการสอบสวนเอาผิดไปถึง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการละเลยการปฏิบัติหน้าที่กรณีที่ปล่อยให้มีการซ้อมผู้ต้องหาคดีปล้นอาวุธ ปืน 5 คนหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหาคดีปล้นอาวุธปืนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวน พล.ต.อ.โกวิท ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช.เห็นว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับคดีของ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ จึงให้รวมเรื่องมาตรวจสอบไปพร้อมกัน

เคอร์ฟิว 7 วันรวบแล้ว 60 ผู้ต้องสงสัย

พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการประกาศเคอร์ฟิวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดูสถานการณ์ แต่เท่าที่ดูก็ยังไม่มีความจำเป็นว่าจะต้องประกาศเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ส่วน อ.ยะหาและ อ.บันนังสตา ที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้ ก็อยู่ในช่วงดำเนินการ สามารถจับกุมและควบคุมผู้ต้องสงสัยได้กว่า 60 คน และอยู่ระหว่างขยายผล ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

พล.ต.ท.เจตนากร นภีตะภัฎ ผบช.ภ.9 กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาอัตรากำลังพลขาดแคลน ปัจจุบันพบว่ามีอัตราว่างถึง 3,800 นายว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีผู้แจ้งความประสงค์ในการเข้าบรรจุในพื้นที่ชายแดนใต้ ล่าสุดได้นำเสนอปัญหาให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ทราบ เพื่อเร่งประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดหากำลังพลและแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนแบบถาวรแล้ว ขณะเดียวกัน ได้ทำหนังสือประสานไปยังโรงเรียนนายร้อยตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์และเร่งบรรจุกำลังพลลงมาในพื้นที่ด้วย ทั้งนี้ตามกำหนดการส่งอัตรากำลังพลจะต้องรอช่วงการปรับอัตรากำลังพลในเดือนเมษายนนี้อีกครั้ง เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะสามารถดึงอัตรากำลังพลใหม่เข้ามาในพื้นที่ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 อัตรา ยิงทหารดับก่อนขโมยปืนหนี

ขณะเดียวกัน คนร้ายยังคงก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 มีนาคม พ.ต.อ.วิรัตน์ อ่อนสง ผกก.สภ.อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันที่สามแยกบ้านแลแวะ หมู่ 2 ต.ตะโละแมะนา ที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพนิสสัน เอ็นวี ทะเบียน กข 6904 นราธิวาส จอดอยู่ริมถนน และพบผู้ถูกยิงเสียชีวิตคือ จ.ส.อ.สุริยะ ยามา อายุ 39 ปี สังกัดทหารพรานที่ 41 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา สภาพถูกยิงด้วยปืน 9 มม. เข้าที่บริเวณราวนม ใต้ตาทะลุศีรษะ สีข้าง รวม 5 นัด อาวุธปืนพกสั้น 9 มม. ถูกคนร้ายขโมยไปด้วย สอบสวนทราบว่า ขณะผู้ตายขับรถยนต์ส่วนตัวมาจอดข้างถนนเพื่อจะแวะซื้อแตงโม แต่ระหว่างข้ามถนนมีคนร้าย 4 คน เข้าประกบ และ 1 ใน 4 คนร้ายชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.กระหน่ำยิงจนเสียชีวิต จากนั้นคนร้ายอีกคนไปค้นที่รถของผู้ตาย และขโมยอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม.ไปด้วย

ช่วงเช้าวันเดียวกัน คนร้ายลอบวางระเบิดขณะตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ชุด มว.ฉก.2101 จำนวน 6 นาย ใช้รถปิกอัพออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยบนถนนสายจารุเสถียร บ้านต้นไม้สูง เทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้ จ.ส.ต.อัครเดช อวบสำอาง อายุ 34 ปี ได้รับบาดเจ็บ เวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุระเบิดริมถนนบ้านไอปายง หมู่ 5 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี ขณะทหารชุดร้อย ร.6013 ฉก.39 จำนวน 6 นาย ขี่รถจักรยานยนต์ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวน โดยคนร้ายนำระเบิดไปวางไว้ที่โคนเสาไฟฟ้า แต่ระเบิดพลาดเป้าทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่ จ.ปัตตานี คนร้ายยิงนายมะแซ บือราเฮง อายุ 60 ปี เสียชีวิตที่บ้านพักเลขที่ 36 หมู่ 2 บ้านบาโงซากอ ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยที่ฝาผนังบ้านมีรูกระสุนหลายแห่ง สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายมะแซ กำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่ในบ้านกับภรรยา ส่วนลูก 4 คนเข้าไปนอนในห้อง จากนั้นมีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 20 เมตร แล้วใช้อาวุธปืนอาก้ากราดยิงเข้าไปในบ้านหลายสิบนัด ทำให้นายมะแซเสียชีวิต ส่วนภรรยาและลูก 4 คน ปลอดภัย

นอกจากนี้คนร้ายยังก่อเหตุยิงนายเฉิม ภูมี อายุ 65 ปี ชาวบ้าน ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิต ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก โดยมีนางเนี้ยม จันทโคตร อายุ 57 ปี ภรรยาของผู้ตายนั่งซ้อนท้ายมาด้วย โดยนางเนี้ยม ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส

http://www.bangkokbiznews.com/2007/03/23/WW10_WW10_news.php?newsid=60701