ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
17-04-2024, 06:47
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  The Godfather 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
The Godfather  (อ่าน 2905 ครั้ง)
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« เมื่อ: 22-03-2007, 19:26 »

The Godfather
ภาค 1 กับ ภาค 2


ชอบภาคไหนมากกว่ากันครับ


 

ถามดื้อ ๆ อย่างนี้แหละ
เพราะคิดว่าคนชอบดูหนัง ทุกคนต้องเคยดู Godfather
เหมือนที่คนชอบฟังเพลงทุกคน ต้องเคยฟัง Beatles

 
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 22-03-2007, 20:10 »

ตอบดื้อๆ ชอบเท่ากันเลยค่ะ ทั้ง ๓ ภาค 
(ไม่ใช่แค่ ๑ กะ ๒ ด้วย) ..เกรียนมะ!

..ทนทรมานดาวน์โหลดจากที่เขาแจกกันมาเก็บไว้ในคอมพ์ ทั้ง ๓ ภาค
ดั๊นเบิร์นลงแผ่น DVD ไม่ได้ ดูในคอมพ์จอมันจิ้วหริวจนหมดสนุก 

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #2 เมื่อ: 22-03-2007, 20:21 »

ภาค 3 ไม่ดูฮับ

แบบ...ใครจะเอาข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้ อะไรมาขู่ ก็ไม่ยอมดู

แบบ...หัวโบราณอ๊ะครับ ไม่ชอบให้ใครมา "ย้อนรอย" ประวัติศาสตร์ตัวเอง

สตาร์วอร์ ที่มาทำ episode ใหม่ สองสามตอน ก็ไม่ดูเหมือนกัน

****
Godfather จะว่าไปแล้วก็เหมือนการเมืองไทยละนะ

ภาคแรก ดอน วีโต้ คลอลิโอเน่ ไม่ต่างจาก "ป๋า" ที่ทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ

ส่วนภาคสอง ไมเคิล คลอลิโอเน่ ก็เหมือน ทักสิน ที่ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง

อิ อิ เปรียบไปได้
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
СεгЪεгυŞ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70



« ตอบ #3 เมื่อ: 22-03-2007, 20:30 »

ชอบภาคแรกฉากเปิดตัวครับ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นภาพลอดแขนไปที่หน้าของช่างทำขนมปังดูแล้วหน้านอบน้อมดี กับฉากสุดท้ายที่ปิดประตูครัวกั้นระหว่างไมเคิลกับเคย์ปล่อยให้เคย์ทำหน้าตาเหรอหราจนภาพหายไป แสดงให้เห็นถึงภาพคนนอกที่มองมายังดอน

นอกนั้นภาคแรกจะออกลิเกไปหน่อยเพราะต้องรวบรัดให้จบภายในเวลา

ชอบภาคสองมากกว่าครับ เสียแต่เดอ เนโรสูงกว่าในนิยาย

ภาคสองเสียเส้นตรงที่เฟรโดตาย นอกนั้นโอเค ฉากที่ดีที่สุดก็คือฉากจบที่ฉายภาพซ้อนอดีตกับปัจจุบันว่าไม่ว่าไมเคิลจะอยู่เลือกเส้นทางไหนจะทำตามใจตัวเองหรือทำตามความจำเป็นของครอบครัว มันก็เซมๆเด้อ
บันทึกการเข้า

ม้าหนุ่มแห่งชินจูกุ
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #4 เมื่อ: 22-03-2007, 20:40 »

ฮี่ ๆ ๆ

เจอแฟนพันธุ์แท้ ก็อดฟาเธอร์ ยังงี้ คุยกันได้ทั้งวันทั้งคืน

เคยจับเวลาไหมครับ ฉากแต่งงาน ฉากแรกฉากเดียว
ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง
แบบเหมือน คอปโปล่า ตั้งใจจะให้ฉากเปิดเรื่อง cover เรื่องราวไว้ทั้งหมดเลย

ส่วนภาคสอง ผมว่า การสลับฉาก ไปมา ระหว่าง ช่วงชีวิต ดอน วีโต้ วัยหนุ่ม กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน
ทำให้หนังมีสีสัน เข้มข้น ขึ้นมาก
เพราะลำพัง ธีม ของภาคสอง ไม่มีอะไร

แค่จะชี้ให้เห็นว่า มนุษย์คนหนึ่ง (ไมเคิล คลอลิโอเน)
ต้องการจะเอาชนะ "ทุกอย่าง" ในโลก
ซึ่งผลลัพธ์มันก็ได้มาเป็น ความว่างเปล่า - ชัยชนะที่ว่างเปล่า
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
СεгЪεгυŞ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70



« ตอบ #5 เมื่อ: 22-03-2007, 20:54 »

สมัยผมเด็กๆนั่น ผมพยายามโฟกัสที่ฉากของซันนีกับเพื่อนเจ้าสาวครับ

What shall it profit a man if he gain the whole world and lose his own soul?

อิอิ

บันทึกการเข้า

ม้าหนุ่มแห่งชินจูกุ
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #6 เมื่อ: 22-03-2007, 22:14 »

ชอบเหมือนกัน..ส่วนตัวแล้วชอบฉากเปลี่ยนแปลงชีวิตของ michael เริ่มตั้งแต่ don vito โดนยิง แล้วไม่มีใครสามารถควบคุมเหตุการณ์ได้

จนมาถึงฉากยิงตำรวจในร้านอาหารที่แสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็นของ michael (ส่วนฉากแต่งงานก็ชอบเพราะคลุมธีมของหนังในเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวไว้เยอะ)

ในภาคสองไม่สนุกเท่าภาคแรกแต่ robert de nero เล่นได้หมือน marlon brando เลย

ผมว่าในภาคแรก คอปโปล่า ตั้งใจจะสื่อให้เห็นวิถีของชาวอิตาลีในชิชิลี เรื่องของความสัมพันธ์ รวมทั้งพยายามครอบคลุมเนื้อหาในหนังสือที่บอกบุคลิกของตัวละครได้เกือบ ๆ จะครบถ้วนเพียงเวลาแค่สองสามชั่วโมง ได้เลิศ แถมสนุกอีกต่างหาก...ส่วนภาคสองจะโฟกัสมาที่ตัว don vito ซะมาก ว่าทำไม godfather ถึงเกิดขึ้นมาได้

ในด้านนักแสดง al pacino ,brando,de nero แสดงได้ดีหมด

จริง ๆ แล้วได้อ่านนิยายของ puzo ก่อนจะดูได้ดูด้วยเลยทำให้รู้สึกว่า coppola ทำหนังเรื่องนี้ (โดยเฉพาะสองภาคแรก) ได้ดีจริง ๆ
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 22-03-2007, 22:23 »

เคยดูครั้งแรกเป็นภาค 2 รู้สึกว่ามันไม่ค่อยสนุก

ตอนนั้นเลยเลยงงๆ อยู่ว่า เอ.. ทำไมมันดังจัง..  Undecided
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #8 เมื่อ: 22-03-2007, 22:39 »

เคยดูครั้งแรกเป็นภาค 2 รู้สึกว่ามันไม่ค่อยสนุก

ตอนนั้นเลยเลยงงๆ อยู่ว่า เอ.. ทำไมมันดังจัง..  Undecided


เง้อ.....

*****

มาน้ำลายแตกฟองต่ออีกหน่อย

พอมาดูครั้งหลัง ๆ ที่เริ่มดูหนัง ฮาร์ดคอร์ มากขึ้น
ผมกลับไม่ชอบ การแสดงแบบ over act สไตล์ละครเวที ของ มาร์ลอน แบรนโด แฮะ

แต่ก็คงเป็นแค่ ความรู้สึกแบบ แอนตี้ฮีโร่ ในภายหลังนะแหละ
เพราะพูดกันจริง ๆ ถ้า ไม่มีมาร์ลอน แบรนโด มาอมสำลียัดกระพุ้งแก้ม ทำปากห้อย ปากย้อย
หนังภาคแรก ก็คงจะ จืด น่าดู
และก็มองไม่ออกว่า จะหาใครมาแสดงแทนแกได้ ในบทนี้

ส่วนตัวละครอื่น ๆ เล่นได้ดีมาก
ตัว ซันนี่ ที่มีบุคลิกพาร์ทเดียว คือ โมโหฉุนเฉียวแบบหมาบ้า ก็เล่นได้ถึง
ตัว เฟรโด้ ก็เล่นบทอ่อนแอ ได้เยี่ยมยอด
ยิ่งพวก มือปืน รุ่นเก่า (แก่) คัดเลือกคนมาเล่นได้ดีทุกคน

อ้อ...ว่าแต่ คุณ sillysoulagency ได้อ่าน "เดอะ ซิซีเลี่ยน" ที่ มาริโอ พูโซ มาเขียนตอนหลังไหมครับ
ผมว่า "ม่ายล่ายเรื่องงงงง" เลย
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
СεгЪεгυŞ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70



« ตอบ #9 เมื่อ: 22-03-2007, 22:51 »


ภาคสองเป็นการเก็บเรื่องที่ขาดหายไปของภาคแรกให้สมบูรณ์ครับ (ประมาณหนังเรื่อง "ปิดตำนานสองคนสองคม" ) บทไมเคิลในภาคสองน่าจะเป็นการพยายาม maintain ความฝันที่ค้างมาตั้งแต่ภาคหนึ่ง สลับกับการเชื่อมอดีตของพ่อตัวเองที่ก็เคยพยายามจะทำในสิ่งเดียวกันคือสร้างอาณาจักรให้แข็งแรงและปกป้องคนในอาณาจักร  สัญลักษณ์อย่างภาพการที่วีโตอุ้มไมเคิลตอนเป็นทารกแล้วภาพก็ตัดกลับมาที่ยุคปัจจุบัน สำหรับผมว่าเยี่ยมครับ

งานแต่งงานนั่นก็เหมือนเป็นความหมายถึงความรุ่งเรืองในยุคอดีตที่กำลังโดนสิ่งใหม่ๆเข้ามาเปลี่ยนแปลงมั้งครับ ประเพณีแต่งงานแบบอเมริกัน-อิตาเลียน การขอความช่วยเหลือในวันแต่งงานลูกสาวก็อดฟาเธอร์จากเหล่าก็อดซัน ทุกอย่างมันเป็นรูปแบบที่คาดเดาได้ แล้วจู่ๆก็มีซอลอสโซไอ้ตุรกีเข้ามาในงานพร้อมกับข้อเสนอเรื่องยาเสพติด(ด้วยการหนุนหลังจาก 5 ตระกูลใหญ๋) ที่เหลือของเรื่องคือการเปลี่ยนแปลง

โม้ด้วยคนจิ

เดอะซิซิเลียน ผมว่าใช้ได้นา (แต่อ่านแค่หนเดียว) ชอบตอนที่เขาพูดถึงคนที่ยิงคนนั้นน่ะ(ไม่กล้าสปอยด์) ถ้าคนนั้นไม่ยิง ชื่อของคนนั้นก็จะถูกเลือนไปเพราะเป็นแค่ตัวประกอบแสนดีคนหนึ่ง แต่เพราะว่าทำได้ทำชั่วลงไป ชื่อเสียงก็เลยได้อยู่เป็นส่วนหนึ่งในตำนานในเรื่องของความดี(เพราะตัวเองเป็นความชั่ว) 
บันทึกการเข้า

ม้าหนุ่มแห่งชินจูกุ
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 22-03-2007, 23:00 »


ภาคสองเป็นการเก็บเรื่องที่ขาดหายไปของภาคแรกให้สมบูรณ์ครับ (ประมาณหนังเรื่อง "ปิดตำนานสองคนสองคม" )

ถึงบางอ้อ..เป็นอย่างนี้นี่เอง

มิน่า....ทำไมดูแล้วงงๆ   

ขอบคุณครับที่ไขข้อสงสัย เป็นหนึ่งในข้อสงสัยที่มีมานานมากแล้ว 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #11 เมื่อ: 22-03-2007, 23:03 »

ไม่ได้อ่านอ่ะครับ...ปกติอ่านหนังสือแบบสะเปะสะปะ อยากอ่านอันไหนค่อยหยิบมาอ่าน อย่าง puzo นี่ อ่านแค่ก็อดฟาเธอร์ภาคแรกภาคเดียวเอง ประทับใจหนังสือที่บรรยายความสัมพันธ์ของชาวซิชิเลียนไว้แบบนึกภาพตามไปด้วยค่อนข้างชัดเจน (ผมอ่านหนังสือแปลนะ) พอมาเห็นฉากแต่งงานในหนัง โอ้โห มันทำได้ยังกะที่เราคิดไว้ตอนได้อ่านเลยนะเนี่ย แล้วคอปโปล่าก็ให้ความสำคัญกับฉากนี้เหมือนกัน เพราะมันบอกอะไรหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับครอบครัวนี้.. รู้สึกว่าจะมีหลายตอนในหนังสือที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในหนังด้วยนะครับ (ผมก็จำไม่ค่อยได้ว่าตอนไหนบ้าง ว่าง ๆ จะกลับอ่านอีกทีรวมทั้ง "ซิชิลี" ด้วย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2007, 07:45 โดย sillysoulagency » บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #12 เมื่อ: 23-03-2007, 00:11 »

ถ้ากระทู้ หนังเรื่องนี้
ไม่มีเพลงประกอบภาพยนตร์ Speak Softly Love ของ Andy Williams ด้วย
ก็คงไม่ถือว่าสมบูรณ์

หาแบบ ฟังได้เลย มาจากเวบ ภาษาอะไรก็ไม่รู้หรอกครับ
คุณภาพเสียง ไม่ถึงกับดีนัก
แต่ก็พอฟัง เอาอารมณ์

http://www.tingroom.com/song/7/2810.html
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #13 เมื่อ: 23-03-2007, 04:56 »

unbelievable  !!!!    พระเจ้าจอร์จ   ข้าพเจ้ามี link เก็บไว้ใน favorites 
โหลดมาดูเป็นบางช่วงอารมณ์  ขอมอบให้เพื่อความสมบูรณ์ของกระทู้   อิอิ   

http://www.metacafe.com/watch/237401/speak_softly_love/

Speak softly, love and hold me warm against your heart
I feel your words, the tender trembling moments start
Were in a world, our very own
Sharing a love that only few have ever known

Wine-colored days warmed by the sun
Deep velvet nights when we are one

Speak softly, love so no one hears us but the sky
The vows of love we make will live until we die
My life is yours and all becau-au-se
You came into my world with love so softly love

(instrumental interlude>

Wine-colored days warmed by the sun
Deep velvet nights when we are one

Speak softly, love so no one hears us but the sky
The vows of love we make will live until we die
My life is yours and all becau-au-se
You came into my world with love so softly love

ชอบ อัล ปาชีโน  อิอิ 
บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #14 เมื่อ: 23-03-2007, 07:47 »

ผมกลับชอบ เดอ นีโร ในภาคสองแฮะ เท่ห์ไม่หยอก (แต่ยอมรับเลยว่า alpacino เหมาะกับบทดุ ๆ โหด ๆ มาก การันตีได้ในไอ้หน้าบาก)
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: