.....คงนึกว่าคนอื่นเค้าตามไม่ทัน ....??...
ดูๆแล้วการป่วนในเสรีไทย นอกเสรีไทย น่าจะมีเป้าหมาย
ลงเอยในจุดเดียวกัน ....การยั่วยุให้"ปฏิวัติ"ซ้ำโดย นงนุช สิงหเดชะ
การชุมนุมของหลายกลุ่มที่อ้างตัวเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐประหารที่สนามหลวงระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคมที่ผ่านมา ดูคล้ายกับการเรียกร้องอย่างบริสุทธิ์ใจให้มีการคืนประชาธิปไตย แต่ดูโดยภาพรวมแล้วยากจะเป็นการแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่า นี่เป็นการเรียกร้องอย่างบริสุทธิ์แท้จริงทุกคนหรือไม่ เพราะบางท่วงทำนองคล้ายกับเป็นการสอดแทรก แฝงเร้น จากกลุ่มผู้นิยมทักษิณ
พูดง่ายๆ ส่วนหนึ่งเป็นการถือโอกาสชุมนุมของกลุ่ม "เอาทักษิณ" เพราะการปราศรัยของบางคนบนเวทีเห็นได้ชัดว่าเป็น "คนชอบทักษิณ" และในบริเวณงานยังมีข้อความ คำพูดเชิญชวนด้วยว่า "ใครรักทักษิณ ให้มาเจอกันอีกวันที่ 5 เมษายน"
แน่นอนผู้ชุมนุมบางส่วนอาจเป็นผู้มีอุดมการณ์จริง แต่ที่เหลือยังไม่ทราบชัดว่ามีเจตนาอื่นทางการเมืองแฝงเร้นหรือไม่ เพราะย่อมจะไม่มีใครอยากสารภาพตรงๆ ว่ามาชุมนุมเพราะชอบคุณทักษิณ เนื่องจากหากพูดเช่นนั้นความชอบธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ในการชุมนุมเรียกร้องก็จะขลังน้อยลง
การชุมนุมที่ว่านี้ จึงก้ำกึ่งระหว่างการเรียกร้องประชาธิปไตย กับการฉวยโอกาสสวมรอยของเครือข่ายอำนาจเก่า ในอีกทางหนึ่งกลุ่มที่โชว์ฉากหน้าว่าต่อต้านการรัฐประหารจึงเป็นเครื่องมือของกลุ่มรักทักษิณไปโดยอัตโนมัติ
การมีอุดมการณ์เป็นเรื่องดี แต่อุดมการณ์ที่ไร้เดียงสา เยาว์ความรู้และวัยวุฒิ อ่อนประสบการณ์ ขาดมุมมองที่รอบด้าน ขาดวิจารณญาณที่ดี บางทีก็เป็นอันตราย แทนที่จะเป็นคุณ
การรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน เกิดจากการประท้วงและความวุ่นวายแตกแยกทางการเมืองและสังคม โดยมีตัวเร่งสำคัญมาจากการที่กิจกรรมทางการเมืองมีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และตัวเร่งสำคัญยังมาจากกรณีนายสมัคร สุนทรเวช ออกมาพูดในลักษณะจาบจ้วง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และที่เป็นจุดไคลแมกซ์แตกหักก็คือกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาพูดเรื่อง "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ฟังแล้วตีความว่าหมายถึงบุคคลที่คนไทยเคารพเทิดทูนสูงสุด
การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐประหารในครั้งนี้ มีแนวโน้มว่าจะเป็น "สายล่อฟ้า" และยั่วยุให้เกิดการรัฐประหารซ้ำอีกก่อนที่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่และการเลือกตั้งในปลายปีจะเกิดขึ้น และนั่นก็อาจจะทำให้ระยะเวลาในการเลือกตั้งต้องยาวนานออกไปอีก นี่จึงเป็นเหตุผลที่มีการพูดหนาหูว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่การรัฐประหารซ้ำ
"สายล่อฟ้า" ครั้งนี้ชัดเจนและรุนแรง เพราะมีการกล่าวหา พล.อ.เปรมอย่างเปิดเผย และใช้คำรุนแรงชัดเจนกว่าที่นายสมัครพูดเอาไว้ และเนื้อหาที่ปราศรัยโจมตีก็มีทำนองละม้ายกับใบปลิวโจมตี พล.อ.เปรม และ คมช.ที่เผยแพร่ในภาคอีสานก่อนหน้านี้ คล้ายกับเนื้อหาที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของกลุ่มต่อต้านรัฐประหารเหล่านี้ทั้งในรูปบทความ บทแสดงความคิดเห็นที่ให้คนโพสต์เข้ามา หรือในรูปของคลิปวิดีโอ ที่หลายเรื่องก็เห็นชัดว่ามีการจับแพะชนแกะและ "ตัดต่อ" ข้อมูลแหกตา
หากจำกันได้เนื้อหาโจมตี พล.อ.เปรม โดยกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐประหารในครั้งนี้ คล้ายกับเนื้อหาที่ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางตามเว็บไซต์ต่างๆ มาเป็นเวลานานตั้งแต่ช่วงที่มีการชุมนุมขับไล่คุณทักษิณซึ่งในครั้งนั้นก็ถูกมองว่าเป็นฝีมือของฝ่ายนิยมพรรคไทยรักไทย
จึงเท่ากับว่าบัดนี้ "คลื่นใต้น้ำ" บางส่วนได้ปรากฏตัว "กลางแจ้ง" ที่ท้องสนามหลวงนี่เอง
แกนนำชุมนุมที่เป็นหญิงนางหนึ่ง พูดจาลามปามเจื้อยแจ้วแบบไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรว่า "ไม่ยอมรับอำนาจขององคมนตรี" จึงน่าตั้งคำถามว่าหญิงนางนี้กำลังลามปามไปถึงใคร เพราะองคมนตรีคือที่ปรึกษาใกล้ชิดของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย หากเห็นว่าเป็นบุคคลที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย หรือทรงเห็นว่าเป็นคนดีหรือคนทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ หากไม่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยใครก็คงไม่ทรงแต่งตั้ง
เห็นหรือไม่หลังจากกลุ่มนี้ออกมาจาบจ้วงและโจมตี พล.อ.เปรม ทางนายวีระ มุสิกพงศ์ คนไทยรักไทยก็ฉวยโอกาสออกมารับลูกทันที บอกว่าจะทำการวิจัยหรือศึกษาว่า "เหตุใดคนที่เป็นรัฐบุรุษ จึงถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งตามเว็บไซต์และที่อื่นๆ"
ซึ่งนายวีระน่าจะพูดให้ชัดว่า คนที่วิพากษ์วิจารณ์องคมนตรี มีกี่กลุ่ม ที่เห็นชัดตั้งแต่ก่อนช่วงรัฐประหาร ก็เห็นมีแต่พวกนิยมทักษิณทั้งนั้น แล้วก็เว็บไซต์ที่วิจารณ์โจมตี พล.อ.เปรม อย่างต่อเนื่องใครเป็นคนจัดทำและป้อนเนื้อหาเล่า
ทำไมการชุมนุมจึงมีขึ้นหลังจากการทำงานของ คตส. มีความคืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะล่าสุดอัยการมีคำสั่งฟ้องคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ในคดีนิติกรรมอำพรางเรื่องหุ้นไปแล้ว
ทำไมท่วงทำนองการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านรัฐประหาร จึงสอดรับและดำเนินไปในทิศทางเดียวกับพรรคไทยรักไทย คือมุ่งโจมตี พล.อ.เปรม
การชุมนุมครั้งนี้ เรียกร้องประชาธิปไตย หรือว่าแท้จริงแล้วแฝงเร้นการเรียกร้องให้ทักษิณกลับมา หรือเพื่อล้มกระดานกระบวนการตรวจสอบเอาผิดของคุณทักษิณและพวก
ความน่าเชื่อถือและเครดิตของกลุ่มต่อต้านรัฐประหารจะมีมากกว่านี้ หากว่าพวกเขาจะสนับสนุนงานบางอย่างของรัฐบาลปัจจุบัน เช่น การตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาลคุณทักษิณที่หลายเรื่องก็เห็นชัดว่ามีหลักฐานชัดเจน
คนกลุ่มนี้ไม่เคยออกมาประณามการกระทำของคลื่นใต้น้ำ ที่เผาโรงเรียนหลายสิบแห่งในภาคอีสาน คล้ายกับว่าเห็นดีเห็นงามไปด้วย
ขณะเดียวกันตลอดห้วงของรัฐบาลทักษิณ ก็ไม่ใคร่เห็นว่าคนเหล่านี้จะเอาธุระหรือมีบทบาทในการตรวจสอบปัญหาทุจริตและปัญหาย่ำยีประชาธิปไตยในยุคทักษิณ แกนนำบางคนที่ยื่นเรื่องตรวจสอบที่ดินบนเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ไม่เห็นว่าจะทุกข์ร้อนเป็นธุระตรวจสอบคุณทักษิณ การทำหน้าที่ของคนพวกนี้ในนามที่อ้างว่าเป็นพวกรักประชาธิปไตย จึง "ติดๆ ดับๆ" ไม่สม่ำเสมอ ทำหน้าที่กับเฉพาะบางรัฐบาล
มีแกนนำขององค์กรที่ร่วมการชุมนุมครั้งนี้ เคยให้สัมภาษณ์อย่างภูมิใจว่า เขาจะทำให้รัฐบาลชุดนี้และคณะรัฐประหารออกไปอย่าง "บอบช้ำและสะบักสะบอม" โดยที่ไม่คำนึงว่าความบอบช้ำนั้นมันเกิดเฉพาะกับคณะรัฐประหารหรือกับประเทศชาติโดยรวมด้วย
ความหมายของนายคนนี้อาจจะหมายถึงว่า "ข้าจะป่วนจนเอ็งอยู่ไม่ได้" เช่นนั้นหรือ ทำแบบนี้รักชาติมากกว่าคนอื่นเช่นนั้นหรือ
บัดนี้ก็เห็นชัดแล้วว่า พวกเขาได้เริ่มปฏิบัติการตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว