ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
15-05-2025, 20:43
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  อย่าขี้เหนียวในอำนาจ คือ การคุมกำเนิดรัฐประหารที่ (ผมเชื่อว่า) ดีที่สุด 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อย่าขี้เหนียวในอำนาจ คือ การคุมกำเนิดรัฐประหารที่ (ผมเชื่อว่า) ดีที่สุด  (อ่าน 1267 ครั้ง)
ปฐม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 398



« เมื่อ: 21-03-2007, 04:09 »

ตอนนี้กระแสเรื่อง  “ทำอย่างไร  มิให้เกิดการรัฐประหารเกิดขึ้นอีก”   เป็นที่กล่าวขวัญในวงกว้าง   หลายฝ่ายเริ่มเปิดเสวนากันมากมาย   แต่สุดท้ายก็คิดว่าคงหาที่จบลงยากครับ   เพราะปัญหามันไม่ใช่แก้ที่ระบบอย่างเดียวมันก็ต้องแก้ที่คนด้วย...   

เพราะคนมันจะก่อการเอาช้างมาฉุด   มันก็รั้งไว้อยู่เหมือนกัน...

แต่ปัญหาที่เราพอทำให้มันบางเบาลงได้   ซึ่งผมไม่ทราบว่าเปิดประเด็นนี้หรือยัง   ผมไม่ทราบนะครับ   แต่ผมขอบ่น ๆ ให้ฟังก็แล้วกัน...

มันต้องลดบทบาทของนายกรัฐมนตรีลง   และ  เพิ่มอำนาจให้กับประชาชนมากขึ้น...

นานแล้วที่ผมเคยพล่ามเรื่อง  สภาประชาชน   แต่ก็โดนโจมตียับไปเหมือนกัน   จึงขอละไว้   เอาแต่เหตุการณ์เฉพาะหน้านี้ก่อน

การลดบทบาทของ  นายกรัฐมนตรี   ที่ผมอยากเสนอคือ   ให้กำหนดวันเลือกตั้งเป็นเกณฑ์บังคับ   จะได้ไม่ต้องมาถกเถียงและประท้วงกันจนทำให้บ้านเมืองเกิดสภาวะสุญญากาศนานอย่างที่เคยเป็น

ไทยรักไทยก็ไม่ถอย  ประชาธิปัตย์ก็ดื้อแพ่ง   แต่จากนี้ไปให้กำหนดเลยว่า   หลังจากยุบสภาหกสิบวันให้จัดการเลือกตั้งทันที   ไม่ต้องมีช่วงหรือระยะ   เอาตายตัวไปเลยว่า  60  วัน   

ถ้าพรรคไหนไม่พร้อมก็ไม่ต้องลง...   ตัดสิทธ์ออกไป

หรือถ้าเห็นว่า  หกสิบวัน  มันไม่เป็นธรรมก็ขยับปรับเปลี่ยนได้ตามอัธยาศัย   แต่ห้ามให้เกิดช่องว่างของระยะเวลา   “จง”  กำหนดให้มันตายตัว    เพื่อจะได้เป็นการยุติธรรมต่อกัน

และจะได้ไม่มีข้อแม้ในการคว่ำบาตรไม่ลงเลือกตั้ง    และที่สำคัญต้องเพิ่มเกณฑ์การคัดเลือกสมาชิกสภาให้สูงขึ้นโดยตั้งกฎว่า   ไม่ว่าจะมีคนลงสมัครหรือไม่สมัคร   ต้องได้เสียงรับเลือกตั้งให้เกิน  50  เปอร์เซ็นต์   ถ้าต่ำกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ถือว่าเขตนั้นต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ทันที...

และถ้าในขณะเดียวกัน   ต้องเพิ่มอำนาจของประชาชน   โดยเพิ่มเกณฑ์ล่ารายชื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี   โดยยึดเอาเรื่องในสภาเป็นเกณฑ์    ถ้าเกิดฝ่ายค้านไม่สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้    ให้ใช้อำนาจประชาชน   ใช้การลงชื่อ  หนึ่งแสนคน   

ถ้าประชาชนผู้ไม่สังกัดพรรคการเมือง   ย้ำว่า  ต้องไม่สังกัดพรรคการเมือง   ล่ารายชื่อรวมกันได้หนึ่งแสนคน   สภาต้องเปิดให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ทันที    และขณะเดียวกัน   ถ้าเกิดเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว  รัฐบาลชนะโหวตชนิดค้านสายตาประชาชน   

ประชาชนสามารถล่าลายชื่อ   ถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้ทันที   โดยใช้เกณฑ์วัดอยู่ที่  ห้าแสนคน   ถ้าล่าได้ครบห้าแสน   ไม่ต้องรอตรวจสอบใด ๆ นายกรัฐมนตรีต้องออกจากตำแหน่งชั่วคราว   จนกว่าขบวนการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น

ถ้าทำอย่างนี้ได้   จะไม่มีปัญหาเรื่อง   เผด็จการรัฐสภาโดยเด็ดขาด

และควรจะลดและกำหนดผู้ที่จะมาเป็น  นายกรัฐมนตรี   ผมเห็นด้วยเรื่อง  “ห้ามเอาคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี”   และอยากให้จำกัดไปถึง   “นักธุรกิจ”   ด้วย   ให้นับตั้งแต่วันลงสมัครเป็นสำคัญ   ต้องไม่กระทำธุรกิจใด ๆ ทั้งสิ้น   หรือมีชื่อหรือคนในครอบครัว   ถือครองอยู่

กล่าวง่าย ๆ คือ  ห้ามผู้ที่จะสมัครเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  (ปาร์ตี้ลิสต์  อันดับ  หนึ่ง)   รวมไปถึงเหล่าคณะรัฐมนตรี   ห้ามถือครองหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจใด ๆ   รวมไปถึงครอบครัวด้วย

เพราะปัญหาของคนไทยคือ   ขี้โกง   แม้จะมีหลักฐานหรือไม่มี

คนจับผิด  ก็ใช้เล่ห์หาหลักฐาน   คนถูกจับผิด   ก็ใช้เล่ห์ปกปิดหลักฐาน   ดังนั้นต้องตัดปัญหา   ถ้าจะมาทำงานเพื่อชาติต้องทำงานเพื่อชาติจริง ๆ   และ  ต้องรายงานบัญชีทรัพย์สิน   ของ  ทุกคนในตระกูล   เดือนละหนึ่งครั้ง

ผมไม่คิดว่า   ความคิดผมมันจะใช้ได้ครับ   แต่ผมมองว่า  ปัญหาของบ้านเมืองเราคือ   อำนาจของประชาชนยังไม่สิทธ์จริง...   และระบบตรวจสอบไม่เข้มแข็ง

การรัฐประหารจึงเกิดขึ้น

ถามว่า   ถ้าทักษิณยอมถอยหนึ่งก้าวได้ไหม    ได้ครับ....    เรื่องจบง่ายด้วย

แต่ผมถามจริง ๆ เถอะ   ใครมันจะยอม

ข้อเรียกร้องไม่ใช่สิ่งที่กระทำตามได้ยากเย็น    แต่ถ้าทำตามผู้ประท้วงมันทุกข้อ   ก็คงจะไม่ไหว

ดังนั้นคืนอำนาจส่วนหนึ่งให้ประชาชนไปเลยดีไหม   

จริงอยู่...   มีการล่ารายชื่อ    แต่ผมอยากถามว่า   เมื่อล่าเสร็จแล้วได้อะไรครับ...

เอาให้มันเด็ดขาดไปเลยครับ   บ้านเมืองจะสะดุดบ้างก็ไม่ถึงกับต้องล้ม   เพราะการที่  คมช.  เข้ามาบริหารงานวันนี้ท่านกล้าพูดไหมว่า   “มันไม่เสียหาย”

เราเสียหายมาเยอะพอแล้วครับ    ถ้าอะไรที่ประชาชนมันช่วยดูแลให้เขาได้   ก็ให้ประชาชนทำบ้างเถิดครับ   อย่าไปขี้เหนียวมันนักเลย...



บันทึกการเข้า

ถ้าจะอยู่  ก็ขออยู่อย่าง  เย้ยฟ้าท้าดิน
ปฐม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 398



« ตอบ #1 เมื่อ: 21-03-2007, 04:10 »

http://www.oknation.net/blog/tiger

"พื้นที่โฆษณา"

"ใครอยากจิ้มก็จิ้ม"
บันทึกการเข้า

ถ้าจะอยู่  ก็ขออยู่อย่าง  เย้ยฟ้าท้าดิน
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 21-03-2007, 04:25 »

ริดกุน... ใบเสร็จรับเงินที่ลิ้นชัก จ่ายค่าโฆษณาซะ ฮึ !!!

ผมเห็นด้วยกับหลักการ "เพิ่มอำนาจประชาชน" โดยไม่ต้องเพิ่มอำนาจรัฐ ประชาชนสามารถตรวจสอบ และถอดถอนนักการเมืองอย่างเป็นรูปธรรมได้
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

ปฐม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 398



« ตอบ #3 เมื่อ: 21-03-2007, 04:26 »

ไอ้ฮาวายย

มรึงแหกตาดูตรงลายเซ็นมรึงงงซิ

ชิกหาย  ตัวเท่าบ้าน

ของ  กรู  ช่องเท่าตูดมด  มรึง  จะมาเก็บ

ปั๊ดเหนี่ยวหนังหน้าขาด
บันทึกการเข้า

ถ้าจะอยู่  ก็ขออยู่อย่าง  เย้ยฟ้าท้าดิน
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #4 เมื่อ: 21-03-2007, 13:30 »

เราเอาระบบประชาธิปไตยมาจากฝรั่ง เอามาใช้แต่เอามาไม่หมด เพราะคณะราษฎรมีความเห็นว่า ประชาธิปไตยเป็นของใหม่ ประชาชนยังไม่พร้อมจะปกครองตนเองทั้งหมด และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ 75 ปีแล้ว ประชาชนก็ยังไม่พร้อมจะปกครองตนเองอยู่นั่นแหละ พิสูจน์ได้จากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และคุณภาพของสมาชิกสภาผูแทนราษฎรที่ปรากฎให้เห็น

การปฎิวัติต้องเกิดขึ้นอีก หากคุณภาพของการเมืองยังเป็นเช่นนี้อีก การกระจายอำนาจอาจช่วยได้ในระดับหนึ่ง เมื่อกระจายอำนาจนายกรัฐมนตรีก็จะมีอำนาจน้อยลงโดยอัตโนมัติ

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ควรควบคุมเฉพาะนโยบาย ส่วนการปฎิบัติ ต้องกระจายอำนาจออกไปให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ตัวอย่างเช่นการประมูลงานของราชการ รัฐบาลนั้นควรจะมีหน้าที่แค่การกำหนดว่าจะสร้างอะไร จะซื้ออะไร แล้วการกำหนดคุณสมบัติต้องมาจากสภาของสาขาวิชาชีพนั้นๆ และการประมูลต้องมาจากคณะกรรมการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง แยกอำนาจหน้าที่ออกไป ก็จะลดการคอรัปชั่น ซึ่งเป็นต้นเหตุหนึ่งของการปฎิวัติรัฐประหาร

การตรวจสอบนักการเมือง ต้องเป้ดกว้างให้มากกว่านี้ คนที่อาสามารับใช้ประชาชน หากไม่อาจทนทานต่อการตรวจสอบ ก็อย่าเสนอหน้าเข้ามา คนที่จะอาสาเข้าไม่ ไม่ใช่เพียงต้องโปร่งใส แต่ต้องเปลือยล่อนจ้อนให้ตรวจสอบกันเลย รับไม่ได้ อย่าเสนอหน้าเข้ามา

แต่ก่อนจะไปถึงฝั่งฝันดังที่ว่า ขณะนี้อาชญากรทางการเมือง กำลังดิ้นรนก่อความวุ่นวายเพื่อหาทางกลับเข้ามาปล้นประชาชน

เผด็จการไปพลางๆ ระหว่างยังคิดไม่ออก หาทางไม่ได้ ก็เก๋ไปอีกแบบค่ะ 
บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #5 เมื่อ: 21-03-2007, 22:38 »

ผมกลับชอบ นะ ..สนุกดีออก

55+

ถ้ามันกำลังแย่ ก็ เอารถถังออกมาหยุด ให้ประชาธิปไตยได้พักหายใจ แ้ล้วค่อยกลับมาวิ่งใหม่
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: