ครึ่งทาง คมช.......ครึ่งทาง4พันธกิจ ทางเดินข้างหน้าต้องกล้าปราบยุงรำคาญ ก่อนตามล่าฆ่าอริราชศัตรู.......???????[/color][/size]
โดย นายหัวไทร : วันอังคาร ที่ 20 มีนาคม 2550 23:43:04 น.
ผ่านไปแล้วสำหรับการแถลงผลงานของของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในโอกาสครบ6เดือนของการทำงาน และเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมาสู่รัฐบาลที่มาจากการปฏฆิวัติ โดยคณะผู้ก่อการที่เรียกตัวเองว่า คณะปฏิรูปการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข เหตุผลสำคัญ 4 ข้อของการปฏิวัติครั้งนั้น มี 4 ข้อ คือ 1.หมิ่นพระบรมเดชานุภาพของผู้นำประเทศอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 2.ทุจริตคอรัปชั่นอย่างกว้างฃวาง 3.แทรกแซงองค์กรอิสระ 4.สร้างความแตกแยกในสังคม ซึ่งทั้ง 4 ประการกลายเป็นพันธกิจอง คมช. และรัฐบาลที่จะต้องช่วยกันเหมือน "คอหอยกับลูกระเดือก" ในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน คอหอยกระดกขึ้นลงอย่างไร ลูกระเดือกก็ต้องกระดกตาม ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างกระดก อันนี้มีปัญหาแน่ๆๆๆ
พันธกิจที่ 1 หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีคนแจ้งความไว้ 7 คดี ตำรวจรวมเป็นคดีเดียว ทั้งๆที่ต่างกรรม ต่างวาระ เอาละไม่ว่ากัน แต่คดีคืบหน้าไปถึงไหนครับ สมัย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนนะ เป็น ผบ.ตร.สั่งไม่ฟ้องมาแล้ว แต่เมื่อฟ้าเปลี่ยนสี่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ มาเป็นรักษาการ ผบ.ตร. และเปลี่ยนแปลงรัฐบาลด้วย
อัยการภายใต้ นายพัชระ ยุติธรรมดำรง ได้สั่งการให้ตำรวจกองปราบไปสอบสวนใหม่ 7 ประเด็นหลักกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์ที่นายกฯทักษิณ คุยกับเท็กซี่ ที่สนามกีฬาหัวหมาก เรื่องกระซิบข้างหู ในรายการนายกฯทักษิณคุยกีบประชาชน เหตุการณ์ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เรื่อง "ธงทรงพระเจริญ" โดย
อัยการให้สอบสื่อทั้งหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับนำเสนอเรื่องนี้อย่างไร ทีวีเสนอข่าวอย่างไร ให้ตำรวจถอดเทปโดยละเอียดคำพูดของนายกฯ สื่อคิดอย่างไรกับคำพูดของนายกฯ เป็นต้นพันธกิจที่ 2 เรื่องการทุจริตคมช.มีการตั้ง คตส.ขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้ และคตส.รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว 13 เรื่อง
บางเรื่องคืบหน้าไปมาก ถึงขั้นส่งสำนวนให้อัยการแล้ว รออัยการส่งศาล บางคดี คตส.ชี้มูลแล้ว และให้ต้นสังกัดมาแจ้งข้อกล่าวหาก บางหน่วยงานของรัฐก็ร้องทุกข์ไปแล้ว เช่น เรื่อง การจัดซื้อเครื่องดับเพลิง ผู้ว่าฯอภิรักษ์ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษมาแล้ว แต่อย่างเรื่อง หวยบนดิน การปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ที่ดินหญิงอ้อ ก็ยังไม่มีใครไปร้องทุกข์ (ไม่กลัวมาตรา 157 กฏหมายอาญา) เพราะเจ้านายทำผิดเอง แต่ต้องปรบมือให้สำหรับคดีที่ชี้มูลไปแล้ว ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วก็มี เช่น คดีหุ้นชินฯ
แต่ไม่ว่าจะมาร้องทุกข์หรือไม่ ก็ไม่น่าสำคัญแล้ว เพราะสนช.ได้แก้ไขกฏหมาย ปปช.เปิดช่องให้ คตส.กล่าวโทษได้เอง โดยไม่ต้องรอให้ใครมากล่าวโทษอีก รอแค่ประกาศในราชกิจจานเท่านั้นเอง......แล้วจะได้เห็นดำเห็นแดงกันนะครับ
พันธกิจที่ 3 การแทรกแซงองค์กรอิสระ คมช.ได้เริ่มการแต่งตั้งกรรมการในองค์กรอิสระ เช่น ปปช. / กกต. สตง. เป็นต้น ให้กลับเข้ามมาทำงานเหมือนเดิม หลังปฏิวัติ รวมทั้ง กกต.ด้วย งานของค์กรอิสระทั้งหลายจึงเริ่มปรากฏผลงานออมาเรื่อยๆ ช้าบ้าง เร็วบ้างก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า
ผลีผลามก็ไม่ได้ "คุกรออยู่เหมือนกัน" ซึ่งอาจจะไม่ค่อยทันใจใครบางคนที่บอกว่า "ขิงแก้-แป้งโกกิ" หรือแม้กระทั้ง "ฤาษีเลี้ยงเต่า" ก็ตาม แต่ผลงานจะเป็นเครื่องการันตีในอนาคต
พันธกิจที่ 4 เรื่องความแตกแยกในสังคม คงจำกันได้ว่าช่วงนั้นสาหัสสากรรจ์จริงๆ คนในครอบครัวเดียวกัน คนข้างบ้าน ไม่กล้าพูดเรื่องการเมือง กลังความเห็นจะไม่ตรงกันแล้วจะเกิดปัญหาตามมา ซึ่ง
ปัญหาความแตกแยกทั้งหลายเกิดขึ้นจากคำพูดของผู้นำทั้งสิ้น เช่น ปัญหาภาคใต้ มาจากคำว่า "โจร 500 หรือโจรกระจอก" นำเกิดจากที่ผู้นำได้รับข้อมูลที่ผิดพลาด นำมาสู่การได้ยุบ ศอ.บต. และพ.ต.ท. 43 ในที่สุด แล้วปัญหาภาคใต้ก็ลุกลามาบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างทุกวันนี้ หรือแม้กระทั้งจังหัดไหนเลือกพรรคไทยรักไทย ก็จะได้รับการพัฒนาก่อน ล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นสร้างความแตกแยกทั้งสิ้น
นี้ยังไม่คิดนโยบายอื่นๆของรัฐบาลที่เลือกปฏิบัติ หรือ
"สองมาตรฐาน" อีกหลายเรื่องจนบางครั้งถูกมองว่า
ภาคใต้ไม่มีรัฐมนตรี ไม่มีส.ส.รัฐบาลเอาไว้พัฒนาทีหลังก็แล้วกัน เพราะไม่รู้จะประสานงานกับใคร .....มันตลกไหมละ
อย่างไรก็ตามทั้ง 4 พันธกิจนี้ 6 เดือนผ่านไป บางเรื่องก็เห็นหน้าแล้ว แต่บางเรื่องไม่เห็นหน้าเห็นหลัง เช่น เรื่องหมิ่นเบื้องสูง เหมือนกับกระอักกระอ่วนฝจในการทำคดี จึงเหมือนไม่คืบหน้า รวมทั้งเรื่องการแตกแยกความสามัคคีก็ยังไม่เห็นวีแว่วว่าจะแก้ตก เช่น ปัญหาภาคใต้ ปัญหาคนไม่เห็นด้วยกีบ คมช. ไม่รับรัฐธรรมนูญทั้งๆที่ยังร่างไม่เสร็จ ยังไม่เห็นเนื้อหาถ้าถามว่าจะให้ประเมิน ก็บอกได้ว่า ทั้งรัฐบาล และ คมช.ยังไม่ผ่าน เดินมาครึ่งทางก็น่าจะได้แค่ 50 % แต่ครึ่งทางหลังหนักกว่ามากๆๆๆๆ จะทำอย่างไร กับเวลาที่เหลืออยู่เท่ากัน 50 % ที่เหลือถ้าไม่รีบเหยียบเกียร์เร่ง ไม่จี้ข้าราชการใส่เกียร์ว่าง ไม่ว่ายเลยครับท่าน
แม้กระทั้งเวลานี้ ก็มีสารพัดม็อบมารุมเร้า ทั้งๆที่ปัญหาอื่นสำคัญมากกกว่าด้วยซ้ำที่ต้องแก้ไข แต่มันมี "ยุงรำคาญ" คอยรบกวนอยู่ตลอดเวลา จะให้ทำอย่างไร กำจัดยุงรำคาญก่อนดีไหม เพราะยุงรำคาญมันไม่กัดหรอก
แค่มันมาไต่ตอมแล้วรำคาญ ท้ายที่สุดก็ต้อง "ตบยุงรำคาญ" อยู่ดี แล้วงานจะเดินหน้าไปได้
อย่าปล่อยไว้นานนะครับ ยุงรำคาญตอนนี้มีไม่กี่ตัว "เหวง-สันต์-ประทีป-จอน" เป็นต้น ให้รัฃีบกำจัดเสีย ก่อนจะลุกลามกลายเป็นยุงนำเชื้อร้ายมาสู่ คมช. และรัฐบาล เวลานี้ยุงรำคาญก้าวล่วงแม้กระทั้ง "ป๋าเปรม"แล้ว ไต่ตอมอยู่นั้นแหละ น่ารำคาญ แต่ที่รำคาญยิงกว่า คือ คมช.ไม่กล้าตบแม้แต่ยุงรำคาญ.........แล้วจะไปปราบโจรใต้ได้อย่างไรhttp://www.oknation.net/blog/man/2007/03/20/entry-4
