ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 17:36
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ...ซึ้งในน้ำพระทัย ...จนต้องตั้งกระทู้ ...@@@... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
...ซึ้งในน้ำพระทัย ...จนต้องตั้งกระทู้ ...@@@...  (อ่าน 1547 ครั้ง)
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« เมื่อ: 18-03-2007, 09:58 »

....ตื่นเช้าขึ้นมา  กะว่าวันนี้จะพักผ่อน  ปิดจอ
ปิดใจ  เตรียมงานอื่นที่จะทำ...
พอดีแฟนเค้ามีภาระกิจไม่ได้ติดตามข่าวช่วงนี้
เค้าเลยถามข่าวคราวบ้านเมือง  โดยเฉพาะเรื่องทางใต้
เพราะมีญาติพี่น้อง  เพื่อนฝูงอยู่ทางนู้นหลายคน เค้าถามว่า.....

        *****************

......." เป็นไงเรื่องทางใต้ไปถึงไหนแล้ว "  ...
เท่านั้นล่ะ  สิ่งที่ประทับใจและมีความซาบซึ้งใจ
ที่ได้อ่านในหนังสือพิมพ์คมชัดลึกเมื่อวาน  ยังก้อง
อยู่ในหัวใจ ....................ก็ได้ระบายเล่าให้แฟนฟัง
และค้างคาใจที่จะนำมาเป็นประเด็นการพูดคุยเสวนา
ในเสรีไทย  ในเชิงว่าเป็นเรื่องใหญ่มากๆระดับ
ประเทศทีเดียว  แต่ทำไมคนไทยภาคอื่น  จึงมองข้าม
ที่จะช่วยเหลือ คนทางใต้สุด  ถ้าท่านได้ฟังเค้าเล่าว่าเจ้า
หน้าที่ทางนู้นทำงานอย่างไร  และเค้าต้องใช้ชีวิตประจำวัน
อย่างไรในหนึ่งวัน  ท่านจะสลดใจมากกก  ข้างล่างนี้
คือข้อความในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับเมื่อวาน....


............."  พล.อ.ณพล กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ
 พระบรมราชินีนาถ ทรงอยากเห็นประเทศเรามีการปกครองโดยใช้กฎหมายให้มีความศักดิ์สิทธิ์
ไม่ว่าจะเป็นพุทธหรือมุสลิม ถ้าผิดก็ต้องลงโทษ มิเช่นนั้นเราจะปกครองกันไม่ได้ พระองค์ท่านมี
พระราชดำรัสว่า ต่อไปนี้ต้องเข้าไปช่วย ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ต้องทำให้ประชาชนที่เหลืออยู่
รอดให้ได้ จำเป็นต้องฝึกก็ต้องฝึก หากต้องติดอาวุธก็ต้องยอม เพื่อป้องกันตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย
 ไม่ได้สั่งให้ไปติดอาวุธเพื่อที่จะไปไล่ฆ่าใคร แต่เพื่อต้องการให้ฝึกเพื่อป้องกันตัวเองให้ได้ ตรงนี้
ฝากทำความเข้าใจด้วย เพราะตอนนี้มีกลุ่มคนบางกลุ่มพวกสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย ไปแปลเจตนาผิด
 โดยหาว่าเป็นการฝึกเพื่อทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างคนพุทธกับมุสลิม ถ้าไม่ฝึกจะไปหมดมากกว่านี้
ซึ่งเป็นที่มาของโครงการฝึกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน ตอนนี้ฝึกไปแล้ว 33 กองร้อย

     “เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงว่า เราคงจะใช้วิธีการที่จะสมานฉันท์อย่างเดียวไม่ได้ ผมไม่ได้ไปต่อ
ต้านนโยบายรัฐบาล แต่ได้ไปให้ข้อคิดเห็นกับท่านนายกฯ เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เราต้องทำ
ควบคู่กันไป ในส่วนใดที่เขาร่วมมือร่วมใจ เราก็ช่วยเหลือ ในส่วนใดที่เราใช้ความรุนแรง เราก็ต้อง
ใช้การปฏิบัติตามตัวบทกฎหมาย อย่าให้คนผิดลอยนวล ในขณะนี้ถ้าเราจับมาแล้วปล่อย จับมาแล้ว
ปล่อย โดยที่ไม่มีการลงโทษใดๆ ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติขวัญเสีย“ รองสมุหราชองครักษ์ กล่าว



...ข้อความข้างบนนี้ ...ประทับใจพระองค์ท่านมาก  ท่านเป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
ท่านยังเป็นห่วง และทรงกังวลพระทัยเกี่ยวกับคนทางใต้มาก  ผิดกับเหล่าเจ้าหน้าที่บ้าน
เมือง นายทหาร นายตำรวจ อีกหลายร้อย  หลายพันท่าน  ที่ทำเรื่องชายแดนใต้
แบบลูบหน้า  ปะจมูก  แก้ปัญหาพอรอดตัวไปวันๆหนึ่ง  ขาดความจริงใจ  จริงจัง
และตั้งใจอย่างจริงจังที่จะแก้ไขปัญหาให้ได้ .....ในเสรีไทยหลายคน  หลายความคิด
อาจจะไม่อยากพูดถึงชายแดนใต้  เพราะท่านคิดว่า  เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา  และ
ความใจเย็น  มันไม่ใช่นะคะ  จะพูดไงดีล่ะว่า  ขณะนี้ ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองของเรา
ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้น  เกรงอกเกรงใจโจรมาก  จริงอยู่แม้แยกปลาแยกน้ำไม่ได้
ไม่รู้ว่าใครเป็นโจร  เรื่องนี้ก็ใช่  แต่มีหลายสถานการณ์ที่ต้องใช้มาตรการ
ใช้ความเด็ดขาด  ใช้กฎหมายคุมเข้ม  ทำไมไม่ทำ  ยกตัวอย่างนะ


...*  เมื่อเค้าออกมาก่อม๊อบ ให้ปล่อยนักโทษ  ให้ปล่อยคนทำผิด
ทำไมไม่สลายม๊อบ  เพราะพวกม๊อบนั่นล่ะ คือพวกที่ชี้เจตนาได้ใช่มั๊ย
ว่าส่อเจตนาเป็นโจรกลายๆ  ก็สลายเสียสิ  ทำไมเมื่อมีม๊อบที่อื่น
ที่มิใช่ทางใต้  ทำไมสลายได้  แต่พอทางใต้  ทำไมไม่สลาย
นี่เป็นสิ่งที่คาใจ คนทางนู้นประเด็นหนึ่ง


..*  ขออนุญาติใช้คำว่า   "โจรไม่มีศาสนา "  ดูจะคุยกันง่ายหน่อย
ถ้าเค้านับถืออิสลาม  หรือนับถือ ศานาพุทธ หรือศาสนาอื่นๆ อย่างแท้จริง
ยึดมั่นในศาสนาอย่างแท้จริง  เค้าไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์แน่นอน อันนี้ชี้ชัด
ทีนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า  พวกทำร้ายผู้บริสุทธิ์ไม่มีศาสนาหรอก  และกำลัง
เอาศาสนาบังหน้า  ที่สำคัญ การแต่งกายแบบชุดหิญาบ ที่นอกศาสนพิธี
นอกมัสยิส  ที่เค้าเที่ยวใส่เดินเกร่ในเมือง  จริงอยู่ห้ามไม่ให้เค้าใส่ไม่ได้


แต่ทำไม ไม่ตรวจบัตรประชาชนอย่างคุมเข้ม  ให้บันทึกลายมือ
เป็นเรื่องเป็นราว  ใช้กล้องวงจรปิดอย่างมีคุณภาพจับทุกขั้นทุกตอน
ที่เค้าย่างก้าวไปไหน  ยามนี้ภาวะบ้านเมืองวิกฤตแบบนี้ มิว่าจะเป็น
คนไทยพุทธ คนจีน  คนอิสลาม  ใครจะแต่งกายอย่างไร  ทำไมไม่ตรวจ
เข้มทุกคน  ตรวจบัตรประชาชนอย่างจริงจัง บันทึกลายมืออย่างจริงจัง
ใช้กล้องวงจรปิดจับอย่างจริงจังทุกพื้นที่  ส่งกำลังทหาร มิว่า
ทหารเรือ  ทหารบก  ทหารออากาศ  ที่เกียร์ว่างมากมาย  มาปฏิบัติ
งานอย่างคุมเข้ม   ปิดชายแดน  ไม่ให้ใครเข้าใครออก ...ถ้าทำอย่างนี้
มิทราบว่า   ดจรหน้าไหนมันจะกล้า  มันแหลมออกมา จับได้ว่าใครทำ
ลงโทษ  จับแล้วไม่ปล่อย  ใครประท้วงก็สลายม๊อบเสีย




....**  ทำแค่เพียงเท่านี้  ไม่มีใครตายสักคนเดียว  ไม่เห็นต้อง
ใช้สงคราม  ไม่เห็นจะต้องกังวลความเป็นความตายของคน  แต่อย่าละเมอ
คำว่าสมานฉันท์ไปเลย ... ณ วินาทีนี้ มันใช้ไม่ได้แม้สักนิดเดียว
ถ้าไม่เอาจริง เสียตอนนี้  อย่าว่าแค่ชายแดนใต้เลย  กทม ...ก็เหอะ
อย่านึกว่าโจรจะไม่กล้านะ ....




เพลงของขวัญจากก้อนดิน

http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2007/03/18/entry-1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2007, 19:29 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 18-03-2007, 10:07 »

ผมก็ข้องใจว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่ ทำไมไม่แก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียที เรื่อง3จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องใหญ่มากนะครับ

เป็นปัญหาที่รอการแก้ไขเร่งด่วนที่สุด เร่งมือเข้าเถอะครับท่านพล.อ.สุรยุทธ์ แล้วประชาชนจะเทใจให้ท่าน
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #2 เมื่อ: 18-03-2007, 10:23 »

ผมก็ข้องใจว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่ ทำไมไม่แก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียที เรื่อง3จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องใหญ่มากนะครับ
เป็นปัญหาที่รอการแก้ไขเร่งด่วนที่สุด เร่งมือเข้าเถอะครับท่านพล.อ.สุรยุทธ์ แล้วประชาชนจะเทใจให้ท่าน

หนูเชื่อว่าการแก้ปัญหานั้นทำอย่างจริงจังแล้ว แต่การแก้ปัญหาด้วยวิธีการบางอย่าง เขาคงไม่อาจเปิดเผยได้ค่ะ แต่เราก็พอจะมองทางออกบ้าง

การดึงมวลชนกลับมาไม่ใช่เรื่องง่าย ในเมืองรัฐฐาลไทยรักไทยทำพินาศเละเทะไว้เช่นนี้ และการใช้กำลังนั้นก็ไม่อาจใช้แบบเหวี่ยงแหได้ เหมือนที่หน่วยเฉพาะกิจของไทยรักไทยลงไปฆ่าตัดตอนไว้ เพราะนั่นคือการทำให้ยุ่งหนักขึ้นไปอีก  แต่เราอาจจะสังเกตุเห็นได้ว่า เมื่อไหร่ที่มีการประท้วงของชาวบ้าน ในชุดคลุมหน้าคลุมตา ว่ามีคนของเขาตายหรือหาย นั่นหมายถึงอะไรบางอย่างที่มีการจัดการแล้วแต่ไม่ประกาศหรือประชาสัมพันธ์ค่ะ

ยุคที่มี ศอ.บต. และ พตท 43  การจัดการนั้นเป็นเอกภาพมาก จนบ้านเมืองสงบได้ในระดับที่น่าพอใจ ปีหนึ่งๆจะมีการออกมาก่อความวุ่นวายเพื่อสร้างผลงานไม่กี่ครั้ง แต่เมื่อยุบเลิกสองหน่วยงานนี้ไป ก็พินาศค่ะ กำลัง สายข่าว ระเบียบ กระจัดกระจายไปหมด ดังนั้นการแก้ไขจำเป็นต้องใช้เวลาจริงๆ

หนูเชื่อว่าไม่มีใครที่ใส่เกียร์ว่างในเรื่องสามจังหวัดภาคใต้ ยกเว้นพวกโจรที่แอบแฝงอยู่ในกลไกของรัฐเท่านั้นค่ะ พวกนี้พยายามใส่เกียร์ถอยหลังเลยทีเดียว

การเรียกร้องให้ใช้ความรุนแรงเข้าจัดการปัญหานั้น ไม่เฉพาะคนไทยที่ใจร้อนเท่านั้นนะคะ โจรมันก็อยากได้เหมือนกัน  เข้าทำนองว่ามันรอออยู่ว่าเมื่อไหร่จะรบกันเสียที แล้วมันจะเกณฑ์เด็ก ผู้หญิง คนชรา ออกมาตาย เพื่อเรียกร้องต่อสังคมโลกว่า คนไทยฆ่าเด็กฆ่าผู้หญิงฆ่าคนชรา และเรียกร้องเสรีภาพค่ะ

สงครามมวลชนมันก็ลำบากแบบนี้แหละค่ะ  สู้เด็กอาชีวะตีกันก็ไม่ได้ ลุยๆกันไปแล้วก็จบ 
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 18-03-2007, 11:24 »

หนูเชื่อว่าการแก้ปัญหานั้นทำอย่างจริงจังแล้ว แต่การแก้ปัญหาด้วยวิธีการบางอย่าง เขาคงไม่อาจเปิดเผยได้ค่ะ แต่เราก็พอจะมองทางออกบ้าง



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


   น้องพรรณชมพูคะ  เข้าใจเจตนาของน้องพรรณชมพูนะคะ คือไม่อยากให้เกิดความรุนแรง
เพราะมิใช่การแก้ไขปัญหาที่ถาวร  แต่ประเด็นของการแก้ไขปัญหา  ตอนนี้มันอยู่ที่


  ความไม่จริงจังของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่  ซึ่งคำพูดนี้ได้มาจากไหน
ก็มาจากคนในพื้นที่เล่าให้ฟังเองค่ะ  เล่าให้ฟังว่า  กลยุทธิ์ ความฉลาด
หลักแหลมของโจร เหนือกว่าเจ้าหน้าที่หลายร้อยเท่า  เจ้าหน้าที่ไม่ต้องเปิดเผย
กลยุทธิ์ออกมาให้สาธารณทราบหรอกค่ะ  แค่ลงมือปฏิบัติเสียเลย 

  ประชาชนทางนู้นก็ชื่นใจแล้วค่ะ  แต่นี้เค้ารอมาหลายเดือนแล้วนะคะ
ยังไม่เจอกลยุทธิ์ที่เจ้าหน้าที่จะสู้โจรได้เลย


  ขาดกลยุทธิ์ยังพอมองออกว่า  อืมมันก็เป็นเรื่องยากล่ะนะ  เพราะคนพวกนี้
ถูกฝึก ถูกย้อมมาเพื่อให้สู้รบในเรื่องแบ่งแยกดินแดนโดยเฉพาะ
พลีชีพได้ว่างั้นเหอะ  เจ้าหน้าที่เราก็คงสู้ยากกก 

  แต่การตรวจเข้มมมม    การเอ็กซเรย์ทุกอณูพื้นที่  การตรวจบัตรประชาชน
อย่างจริงจัง  การบันทึกลายนิ้วมืออย่างจริงจัง  การใช้กล้องวงจรปิดอย่าง
มีคุณภาพ  ประเด็นนี้ยังไม่ได้ทำนะคะน้อง  และไม่ต้องใช้กลยุทธิ์อะไร
ทั้งนั้น  แค่เอาจริงในการปฏิบัติเท่านั้นเอง  หัวหน้าสูงสุดของทหาร
สั่งการและติดตามอย่างจริงจังแล้วหรือยัง  ชาวบ้านแถวนู้นเค้าฝากถามมา



------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการโยกย้าย พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง กลับกระทรวงกลาโหม โดยย้ำว่าเป็นความประสงค์ของ พล.อ.ไวพจน์เองที่มีเจตนาว่าต้องการทำหน้าที่นี้แค่ 6 เดือน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการอยู่
       
       “ยืนยันไม่ใช่การปลด แต่ท่านต้องการทำหน้าที่แค่ 6 เดือน และทางกระทรวงกลาโหมขอตัวกลับต้นสังกัดเดิม ไม่เกี่ยวกับการที่ท่านตั้งกระทู้ถามรัฐบาลในสภา เพราะท่านเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติฯ สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติอยู่แล้ว” พล.อ.สุรยุทธ์ ชี้แจงเมื่อถูกถามถึงสาเหตุที่ย้าย พล.อ.ไวพจน์ เพราะมีการกระทู้ถามในสภาเรื่องการแก้ปัญหาภาคใต้หรือไม่
       
       ถามว่าเมื่อสถานการณ์ภาคใต้รุนแรงขึ้น ผบ.ทบ.ควรต้องลงพื้นที่ให้มากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แล้วแต่ท่าน (พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.) จะตัดสินใจพิจารณาด้วยตัวท่านเองตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่การกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ทำความเข้าใจต่อประชาชนให้มากขึ้น
       
       “คุณจะลงไปพร้อมกับผมหรือไม่ ถ้าพร้อมก็จะพาไป เพราะถือว่ามีส่วนดีที่จะเข้าใจสถานการณ์และรายงานสภาพในพื้นที่ได้เข้าใจมากขึ้น ส่วนผมจะลงไปถ้ามีโอกาส แต่ยังบอกตอนนี้ไม่ได้” นายกฯ กล่าวอย่างค่อนข้างมีอารมณ์เมื่อถูกผู้สื่อข่าวคนหนึ่งสอบถามในลักษณะที่ว่าทำไมนายกฯ ไม่ลงไปดูสถานการณ์หลังเกิดเหตุ



  --ท่านนายกพูดถูก  สภาพทีท่านนายกได้รับรายงาน และสภาพภาพ หน้า
ฉากที่ท่านนายกเห็นแน่นอนเค้ารายงานว่า  ---มาถูกทาง  ดีขึ้นแน่นอน    แต่หลังฉากล่ะ  เป็นไง ชาวบ้านทั่วไปเห็น
  ข้าราชการผู้ใหญ่หลายคนเห็น  หลายคนรับรู้ถามว่า  ท่านนายกทราบหรือไม่  ว่า  สิ่งที่ท่านได้รับรายงานกะข้อเท็จ
จริงมันไม่เหมือนกันเลย   สิ่งที่ท่านเห็นกะข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น   มันใช่หรือไม่  นี่ล่ะตัวปัญหา เพราะมันเป็นค่านิยม 
 วัฒนธรรมของข้าราชการไปเสียแล้ว  ซุกขี้ไว้ไต้พรม  รายงานแต่สิ่งสวยงามไว้ฉากหน้าให้นายเห็น     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2007, 11:49 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 18-03-2007, 12:27 »

สวัสดีครับ.....BLOGนี้สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ คือ Update ข่าว สามจังหวัดชายแดนใต้

    ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับว่า.....ผมเป็นเด็กสามจังหวัดชายแดนใต้ เกิดจังหวัดยะลา...นับถือศาสนาพุทธ.....ตลอดระยะเลาที่ผ่านมาเกือบสิบปี...ผมได้เห็นรอยยิ้มของชาวพุทธและมุสลิมที่มีให้ต่อกัน....ความเอื้ออาทร....แต่....วันนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น...

ไทยพุทธ...และ...มุสลิม....กลับหันหน้าที่จะสู้กัน....วันนี้แผ่นดินไทยเลยต้องนองเลือด

.....สำหรับข่าวครับ  ตอนนี้เจ้าหน้าที่จับผู้ต้องสงสัยได้ 14 คน พาไปสอบที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร....4ใน14 คนคาดว่าเป็นแกนนำใหญ่ผู้ปลุกระดม...

ขณะที่ตอนนี้ ชาวไทยพุทธกว่าหมื่นคนในสามจังหวัดชายแดน เข้าร่วมสาบานต่อผืนธงไตรว่าและพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระเจ้าอยู่หัวและองค์ราชินี ว่า จะปกป้องแผ่นดินไทย...ไว้ด้วยชีวิต

....ขณะเดียวกัน ชาวมุสลิมบางส่วนก็ได้มาขอพระต่อพระอัลฮ. และซูเปาะ(สาบาน)ว่าจะรักษาพืนแผ่นดินเกิดไว้ด้วยชีวิตเช่นกัน

   ผมได้คุยกับชาวไทยพุทธกลุ่มนึงเขาบอกว่า ถ้ารัฐบาลยังหาผู้กระทำผิดไม่ได้พวกเขาก็จะเดินประท้วงครั้งใหญ่และถ้าถึงวันนั้นพวกเราจะลุกขึ้นสู้....และจะไม่มีคำว่าสมานฉันท์อีกต่อไป....ยิ่งตอนนี้เราเห็นพระราชเสาวนีย์ขององค์ราชีนีด้วยแล้วว่า "ฉันทนไม่ได้" และเห็นมุสลิมบางส่วนฉีกธงชาติไทย พวกเรายิ่งอยากลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องมาตุภูมิของเรา

ผมเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า....คนที่อ่านBLOG อยู่ในขญะนี้จะเห็นด้วยกับเรา

http://www.oknation.net/blog/army/2007/03/18/entry-1


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้



 



 จากการที่ทุกฝ่ายต้องการเห็นความสงบเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ไม่มีหน่วยงานใดของรัฐบาลสามารถแก้ไขได้นั้น แสดงให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหาไม่ได้ง่ายเสียแล้วในเวลาปัจจุบัน



 


จึงขอเสนอแนะวิธีการแก้ไขให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปใช้เพื่อความสงบของพี่น้องคนไทยตามปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน



 


1.ข้อสมมุติฐาน การต่อสู้ด้วยอาวุธสงครามและระเบิดของกลุ่มคนร้ายในสามจังหวัดภาคใต้ ต้องการที่จะให้เห็นพลังของกลุ่มผู้ก่อการร้ายว่าสามารถที่จะควบคุมประชาชนในพื้นที่ได้พร้อมทั้ง ต้องการให้การแยกดินแดนเป็นความจริงโดยให้ประชาชนในหมู่บ้านเข้ามาเป็นพวกคอยสนับสนุน



 


2.จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความมีเอกภาพและมีประสิทธิภาพของผู้ก่อการร้าย ดังนั้นต้องอาศัยความอ่อนแอของฝ่ายบริหารกระทำการให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด



 



 


- วิธีการแก้ไขปัญหา



 


1.ตามสมมุติฐานที่ได้ตั้งไว้ทำให้รู้ขีดความสามารถของผู้ก่อการร้ายว่ามีความพร้อมเต็มขั้นสูงและสามารถทำลายมวลชนได้สำเร็จ พิจารณาจากการให้ผู้หญิงและเด็กมากดดันเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จับกุมผู้กระทำความผิดได้



 


ต้องดำเนินการโดยฝ่ายบริหารซึ่งมีรัฐบาลเป็นแกนหลักเพื่อให้ประชาชนรู้ว่าผืนแผ่นดินที่อาศัยอยู่เป็นของไทยไม่ใช่ของกลุ่มโจรก่อการร้าย



 


2.ต้องให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีบัตรประชาชนสองสัญชาติ ให้เลือกเอาว่าจะอยู่ประเทศไหน พร้อมทั้งให้ยกเลิกบัตรดังกล่าวเสีย เพื่อเป็นแนวทางที่จะกำหนดว่าใครคือคนไทยหรือใครคือคนต่างด้าว



 


3.กำหนดยุทธศาสตร์การสู้รบของฝ่ายบริหารเสียใหม่ ด้วยการส่งกองกำลังติดอาวุธเข้าไปในพื้นที่เต็มกำลังขยายผลไปตลอดทั้งพื้นที่โดยเฉพาะในป่า ภูเขาทุกลูกจะต้องใช้กำลังเสริมคอยสนับสนุนการสู้รบเต็มอัตรากำลัง



 


4.ปิดพรมแดนสามจังหวัดในภาคใต้ทั้งหมดห้ามมีการติดต่อกับประเทศมาเลเซียโดยอ้างว่าต้องการแก้ไขปัญหาภายในประเทศ พร้อมทั้งประสานการปฏิบัติกับฝ่ายบริหารของประเทศมาเลเซียทางการทูต



 


5.จากการปิดพรมแดนและการให้ประชาชนในพื้นที่เลือกว่าจะเป็นคนไทยหรือคนประเทศอื่น ทำให้เจ้าหน้าของรัฐสามารถกำหนดเป้าหมายของผู้ก่อการร้ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและทำการด้านยุทธศาสตร์ได้เต็มที่ พร้อมทั้งตัดการช่วยเหลือของฝ่ายผู้ก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนโดยผ่านมาทางพรมแดนไทย-มาเลเซียไม่ว่าจะเป็นอาวุธ วัตถุระเบิดเพราะส่วนใหญ่ได้รับการขนส่งมาจากด้านมาเลเซียเป็นหลักโดยผ่านทางรถไฟ



 


หากสามารถทำตามข้อเสนอแนะได้จะสามารถแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้สำเร็จอย่างถาวรต่อไป



 

http://www.oknation.net/blog/meg/2007/03/18/entry-1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2007, 12:35 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #5 เมื่อ: 18-03-2007, 12:45 »

เอาไงดีประเด็นนี้
ผมอยู่จังหวัดยะลาผมและกลุ่มของผมก็คิดมาสมอว่าบ้านที่ผมอยู่มา20กว่าปีจะ30หละ มันเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ สุดท้ายผมหาคำตอบให้ไม่ได้เหมือนกัน ผมกับมุสลิมไม่ได้ทะเลาะกันนะ มีเพื่อนที่กินข้าวด้วยกัน เที่วด้วยกันเยอะแยะ แต่ก็มีบางคนที่ตายไปด้วยข้อหา เป็นโจร ผมจึงไม่สามารถระบุได้ว่า คนที่เดินสวนกับผม ใครเป้นโจร ใครไม่เป้นโจร

ข้อแรกที่ผมไม่รุ้สึกเห็นด้วยคือ คำว่า สมานฉันท์ ไม่ใช่ว่าผมไม่รักสันติ แต่ก็ไม่ใช่พวกนิยมความรุนแรง แต่คำถามที่ถามกลับ คือ สมานฉันท์กับใคร ในเมื่อคนที่นั่งข้างๆผมตอนนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่าเค้าเป็นโจร หรือเปล่า
ข้อที่สอง ผมไม่สามารถระวังตัวเองได้เลย เนื่องจากผมไม่รู้เลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นจนกว่าจะได้ยินเสียงระเบิดหือรถ มูลนิธิ ต่างๆวิ่งวุ่นพร้อมกับเสียงกรี้ดร้องของคนที่ตกใจกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น
ข้อสาม ถ้าหากการก่อการร้ายเกิดขึ้นบ่อยๆจนกระทั่งไม่มีใครกล้าทำสวนยางจริงๆแล้ว ทำไม ราคายางกลับลดลงได้ แล้วในเมื่อไม่มีการกรีดยางแล้วไซร้ ยางที่มีออกมาเรื่อยๆ ใครเป้นคนกรีด ในเมื่อเจ้าของสวนบอกว่าไม่กล้ากรีด แล้วใครกรีดออกมา
ข้อสี่ ทำไมเม็ดเงินหมุนเวียนของจังหวัดยะลา ถึงได้ไม่ลดลง ถ้าเศรษฐกิจตกต่ำลงจริงอย่างที่พูดกัน เม็ดเงินที่เข้ามา มาจากไหน การจับจ่ายใช้สอยไม่ได้มีความรู้สึกลดลงเลย ตรงกันข้าม ทำไม กลุ่มผู้นับถือศาสนา อิสลามกับมีเงินมาใช้จ่ายได้มากกว่าปกติ(สังเกตุจากที่ผมทำการค้า)
นี่คือประเด็ดบาประเด็นที่ผมกับเพื่อ หยิบมาให้คุณๆทั้งหลายที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ สามจังหวัด ได้ลองอ่านดู

ปล.ผมขอย้ำคำเดิม ผมไม่เคยทะเลาะหรือรุสึกแยกศาสนา ผมรู้ส฿ปแบ่งแยกพวกที่ไม่เคารพกฎหมายที่เอาผ้ามาคลุมหน้ายามก่อม๊อบ หรือ ลอบทำร้ายชาวบ้าบ้านโดยบอกว่าเป้นประสงค์ของพระเจ้า ถ้าพระเจ้าเชื่อว่าการฆ่าคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยกัยตนเรียกว่า ถูกต้อง พระเจ้า สมควรเป็นพระเจ้าต่อไปหรือไม่
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 18-03-2007, 15:52 »

เอาไงดีประเด็นนี้
ผมอยู่จังหวัดยะลาผมและกลุ่มของผมก็คิดมาสมอว่าบ้านที่ผมอยู่มา20กว่าปีจะ30หละ มันเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ สุดท้ายผมหาคำตอบให้ไม่ได้เหมือนกัน ผมกับมุสลิมไม่ได้ทะเลาะกันนะ มีเพื่อนที่กินข้าวด้วยกัน เที่วด้วยกันเยอะแยะ แต่ก็มีบางคนที่ตายไปด้วยข้อหา เป็นโจร ผมจึงไม่สามารถระบุได้ว่า คนที่เดินสวนกับผม ใครเป้นโจร ใครไม่เป้นโจร

ข้อแรกที่ผมไม่รุ้สึกเห็นด้วยคือ คำว่า สมานฉันท์ ไม่ใช่ว่าผมไม่รักสันติ แต่ก็ไม่ใช่พวกนิยมความรุนแรง แต่คำถามที่ถามกลับ คือ สมานฉันท์กับใคร ในเมื่อคนที่นั่งข้างๆผมตอนนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่าเค้าเป็นโจร หรือเปล่า
ข้อที่สอง ผมไม่สามารถระวังตัวเองได้เลย เนื่องจากผมไม่รู้เลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นจนกว่าจะได้ยินเสียงระเบิดหือรถ มูลนิธิ ต่างๆวิ่งวุ่นพร้อมกับเสียงกรี้ดร้องของคนที่ตกใจกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น
ข้อสาม ถ้าหากการก่อการร้ายเกิดขึ้นบ่อยๆจนกระทั่งไม่มีใครกล้าทำสวนยางจริงๆแล้ว ทำไม ราคายางกลับลดลงได้ แล้วในเมื่อไม่มีการกรีดยางแล้วไซร้ ยางที่มีออกมาเรื่อยๆ ใครเป้นคนกรีด ในเมื่อเจ้าของสวนบอกว่าไม่กล้ากรีด แล้วใครกรีดออกมา
ข้อสี่ ทำไมเม็ดเงินหมุนเวียนของจังหวัดยะลา ถึงได้ไม่ลดลง ถ้าเศรษฐกิจตกต่ำลงจริงอย่างที่พูดกัน เม็ดเงินที่เข้ามา มาจากไหน การจับจ่ายใช้สอยไม่ได้มีความรู้สึกลดลงเลย ตรงกันข้าม ทำไม กลุ่มผู้นับถือศาสนา อิสลามกับมีเงินมาใช้จ่ายได้มากกว่าปกติ(สังเกตุจากที่ผมทำการค้า)
นี่คือประเด็ดบาประเด็นที่ผมกับเพื่อ หยิบมาให้คุณๆทั้งหลายที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ สามจังหวัด ได้ลองอ่านดู

ปล.ผมขอย้ำคำเดิม ผมไม่เคยทะเลาะหรือรุสึกแยกศาสนา ผมรู้ส฿ปแบ่งแยกพวกที่ไม่เคารพกฎหมายที่เอาผ้ามาคลุมหน้ายามก่อม๊อบ หรือ ลอบทำร้ายชาวบ้าบ้านโดยบอกว่าเป้นประสงค์ของพระเจ้า ถ้าพระเจ้าเชื่อว่าการฆ่าคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยกัยตนเรียกว่า ถูกต้อง พระเจ้า สมควรเป็นพระเจ้าต่อไปหรือไม่


   ขอบคุณมากนะคะ  ที่เป็นคนในพื้นที่แล้วออกมาแสดงความคิดเห็นให้รับรู้กัน
เราคนไทยด้วยกัน  ถึงเวลาแล้วล่ะค่ะ  ที่ต้องกล้าแสดงความคิดเห็น  ออกมาร่วม
ด้วยช่วยกัน  ส่วนรัฐบาลท่านจะรับฟังหรือไม่  อยู่ที่ใจท่านจะอนุเคราะห์และพิจารณาค่ะ
คนที่ไม่มีญาติพี่น้อง  เพื่อนฝูงอยู่ทางนู้น  คงจะเข้าใจอารมณ์เช่นนี้ได้ยากกค่ะ


โฟล์คเหน่อ

วิถีชีวิตของคนทำงานเพลงใต้ดิน เขียนกวี เล่นดนตรีในร้านเหล้า
Permalink : http://www.oknation.net/blog/folkner
วันเสาร์ ที่ 17 มีนาคม 2550
บทกวี แด่โจรใต้
Posted by โฟล์คเหน่อ : 13:49:12 น. | หมวดหมู่ : ถักร้อยถ้อยกวี   


ฟังเพลง "ไฟใต้" ประกอบบทกวี

คำร้อง/ทำนอง/ขับร้อง โดย   สุริยา   สุพรรณคง

ได้ที่ลิงค์นี้


http://www.oknation.net/blog/folkner/2007/03/17/entry-3

                                               


โจรใต้

แค้นเคือง  เรื่องใด  กันเล่าหนา

คราบเลือด  และน้ำตา  คือของเขา

หัวใจ  และชีวิต  ท่านปลิดเอา

น่าเศร้า  แค่ไหน  ถ้าใจเป็นคน

แค้นใด  ทำได้  ถึงปานนี้

เคืองใด  ถึงมี  อกุศล

เป็นคน แต่ไฉน  ใจไม่เป็นคน

สัตว์หน้าขน  ก็ยังไม่  ใช่อย่างนี้

เกิดเป็นคน  แต่ใจจริง  ยิ่งกว่าสัตว์

เที่ยวลอบกัด  ไร้หัวใจ  ไร้ศักดิ์ศรี

ศาสดา  ล้วนชี้นำ  ทำความดี

อเวจี  ชั้นไหน  สอนให้ทำฯ

แด่  โจรภาคใต้ที่ลอบกัดรายวัน


********************************


เพราะที่นี่เป็นอย่างนั้น
หลายหลากเรื่องราวละแวกบ้าน สะท้อนผ่านตัวอักษร
Permalink : http://www.oknation.net/blog/bigtoh
วันเสาร์ ที่ 17 มีนาคม 2550
"เคอร์ฟิว"ไม่จบแค่ ยะหา-บันนังสตา
Posted by โต.รัตนะ : 13:23:51 น.

                                          "เคอร์ฟิว"ไม่จบแค่ ยะหา-บันนังสตา

                                             

                                                          จารย์ ปณิธาน วัฒนายากร

              "เคอร์ฟิว"ไม่จบแค่ยะหา-บันนังสตา
               มีโอกาสพูดคุยกับ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังเดินทางกลับเยือนบ้านเกิดที่จังหวัดยะลาหนล่าสุด
              จึงได้ฟังคำวิเคราะห์สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอยะหา บันนังสตา จังหวัดยะลา หลังจากผู้ก่อความไม่สงบสังหารผู้โดยสารในรถตู้เบตง-หาดใหญ่ 8ศพ ตามด้วยเหตุปาระเบิดมัสยิด ยิงใส่ร้านน้ำชา กระมั้งนำไปสู่การประกาศเคอร์ฟิว
              ดร.ปณิธาน บอกว่า  ผลพวงจากปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้ามครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกแตกแยกในหมู่ประชาชนในระยะสั้นค่อนข้างรุนแรง โดยเป้าที่ถูกกระทำอย่างชัดเจนครั้งนี้คือราษฎรไทยพุทธ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการป้องการการกระทบกระทั่งของคนสองศาสนา เพราะปัจจุบันในพื้นที่ดังกล่าวกองกำลังไทยพุทธที่ติดอาวุธเพื่อป้องกันตัวเองก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย ฉะนั้นการควบคุมอารมณ์ของคนกลุ่มนี้ให้ดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวังมากที่สุด
            นักวิชาการรายนี้ กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องออกมาลดอุณภูมิสถานการณ์โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะในช่วง2-3วันนี้อารมณ์ร่วมกับสถานการณ์ที่พาไป จะผลักดันให้ปัญหาเป็นไปตามแผนที่ผู้ก่อความไม่สงบกำหนดเอาไว้ ฉะนั้นการพยายามนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตยะหาเวลานี้ถือเป็นการรถอดสลักระเบิดอารมณ์ลดการเผชิญหน้าระหว่างพุทธและมุสลิมได้ดีที่สุด
            ดร.ปณิธาน การประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่อำเภอยะหา จังหวัดยะลาเพื่อควบคุมสถานการณ์ เพราะประเมินสถานการณ์แล้วพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความน่าจำเป็นที่ต้องใช้มาตรการนี้ แต่ต้องมีการทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้ดี ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการควบคุมพื้นที่ และง่ายต่อการไล่ล่าฝ่ายตรงข้ามที่เคลื่อนไหว เพราะพื้นที่ยะหาถือเป็นขุมกำลังของฝ่ายตรงข้ามสำคัญแห่งหนึ่งในขณะนี้
            นักวิชาการด้านความมั่นคงรายนี้ ยังวิเคราะห์อีกว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในอำเภอยะหาคือกระบวนการโจมตีลูกโซ่ ซึ่งลอกเลียนมาจากการก่อการร้ายต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อตีกันความร่วมมือของประชาชนที่มีต่อรัฐ และควบคุมมวลชนให้ตกอยู่ในความกลัว อีกทั้งยังเป็นการลดทอนอำนาจรัฐ และถือเป็นการรักษาระดับความรุนแรงของผู้ก่อความไม่สงบได้ในตัว
           "หากเขายังสามารถดำเนินการยุทธการในลักษณะนี้ได้บ่อยครั้ง และเกิดขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่ เขามีโอกาสบรรลุเป้าหมายในการแบ่งแยกดินแดนได้ไม่ยาก แม้ปัจจุบันเขาจะยังไม่สามารถไปถึงจุดที่ต้องการได้ก็ตาม แต่ขณะนี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวเพื่อดำเนินการเจรจาโดยผ่านตัวแทนจากต่างประเทศบางคนที่แสดงตัวบางแล้ว โดยเริ่มมีการคัดเลือกและวางตัวผู้นำในการปลดแอกแล้วเช่นกัน"นักวิชาการด้านความมั่นคง กล่าว
            สิ่งที่น่าเป็นห่วงหลังจากนี้ไปคือโอกาสที่จะเกิดเหตุลักษณะซ้ำรอยการสังหารหมู่ในรถตู้มีอีกแน่นอน โดยกลุ่มที่ลงมือจะแบ่งปฏิบัติการออกเป็น 2ชุด คือ 1.กลุ่มเซลล์เคลื่อนที่โดยการโจมตีเป้าหมายที่ไม่ติดอาวุธ  และพัฒนาไปสู่การก่อเหตุใหญ่เรื่อยๆ โดยสังเกตุได้จากปฏิบัติการหลายครั้งที่ผ่านมาซึ่งมีการทดลองประสิทธิภาพวัตถุระเบิดเช่นก่อเหตุกับรถทหาร และขยายผลไปสู่การระเบิดในเขตเมืองเช่นชุมชน ตลาดสดเป็นต้น
           ส่วนกลุ่มที่สองคือ ทำหน้าที่ลอบสังหารบุคคลชั้นสูง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความสั่นสะเทือน ขวัยและกำลังใจเจ้าหน้าที่ สังเกตุได้จากในรอบปีนี้มีเหตุ ลอบสังหารบุคคลระดับสูงหลายรายเช่น ในรอบปีเห็นได้จากการถล่ม พ.ต.ท.วรรณะ บุญชัย  รองผกก.ตชด.44 ค่ายพญาลิไท จ.ยะลา ลอบยิงท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล ประธานคณะกรรมการเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดนในพระบรมราชินูปถัมป์ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และลอบวางระเบิดรถ พ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รอง ผบก.จว.ยะลา.เมื่อวันที่ 7มีนาคม ที่ผ่านมา
          ดร.ปณิธาน กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรอบสัปดาห์นี้ ถือเป็นการตอบโต้ปฏิบัติการบนเทือกเขาตะเว จังหวัดนราธิวาส  รวมทั้งเป็นการประกาศสัญลักษณ์ครบรอบสถาปนาบีอาร์เอ็น ทั้งนี้เพื่อสร้างเครดิตแก่องค์กร และอีกประการหนึ่งถือเป็นการตอบโต้ยุทธศาสตร์ของรัฐที่มาถูกทางเพราะเรียกมวลชนกลับมาเป็นพวกได้มากขึ้น โดยประเด็นเฉพาะการสร้างความใจในต่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาคใต้ รวมไปถึงการปรับท่าทีให้ความร่วมมือของมาเลเซีย ที่หันมาร่วมกดดันฝ่ายตรงข้ามจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายในประเทศเพื่อนบ้านเหมือนช่วงที่ผ่านมา


-------

บลอกแก้ไขปัญหาไฟใต้ทั้งหมดอ่านได้ที่นี่
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2007/03/18/entry-2


..............................................................................

on the way
แหล่งรวมความคิด ความเห็น ว่าด้วยปรัชญา-ศาสนา และสื่อสารมวลชน
Permalink : http://www.oknation.net/blog/chakkrish
วันเสาร์ ที่ 17 มีนาคม 2550
ไม่มีการฆ่าผู้บริสุทธิ์ในอิสลาม
Posted by jk : 00:16:41 น. | หมวดหมู่ : ศาสนาและปรัชญา   

     การหลั่งเลือดและชีวิตผู้บริสุทธิ์ เป็นความผิดมหันต์ในอิสลาม

     ผู้ที่จะกระทำเยี่ยงนี้ได้ ย่อมมิใช่มุญาฮิด หรือผู้ที่ต่อสู้ในวิถีทางแห่งอิสลาม หากเป็นเพียงฆาตกรเลือดเย็น

     "ด้วยเหตุ (แห่งการฆ่ากันระหว่างมนุษย์ที่นำมาแต่ความหายนะ) ดังกล่าว เรา(อัลลอฮ์) จึงได้กำหนดแก่ลูกหลานอิสรออีลว่า ผู้ใดที่ฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิชอบด้วยเหตุของการคร่าชีวิตผู้อื่น และไม่ใช่ด้วยเหตุของการก่อความเสียหายใดๆบนแผ่นดิน นั่นเสมือนว่า เขาได้ฆ่าผู้คนทั้งหมดแล้ว และผู้ใดที่ให้ชีวิต (แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง)นั่นเสมือนว่าเขาได้ให้ชีวิตแก่ผู้คนทั้งหมดแล้ว"

     (อัล-กุรอาน บทที่ 5 วรรค 32)

    อิบนุ อับบาส สาวกคนหนึ่งของศาสดามุฮำมัด อธิบายว่า ผู้ใดที่ฆ่าชีวิตหนึ่งที่อัลลอฮ์ห้ามไม่ให้ฆ่า ก็เท่ากับเขาได้ฆ่าผู้คนทั้งหมด ส่วนความหมายของการให้ชีวิตนั้น คือการไม่ฆ่าชีวิตที่อัลลอฮ์ห้ามไม่ให้ฆ่า ไม่ว่าเขาจะเป็นมุสลิมหรือไม่ก็ตาม

    การหลั่งเลือดผู้บริสุทธิ์เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลาม การฆ่าจะได้รับการอนุมัติก็ต่อเมื่อได้ผ่านกระบวนการพิจารณาพิพากษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ยกเว้นฆาตกรหรือข้าศึก

   "และผู้ใดที่ฆ่าผู้ศรัทธาโดยเจตนา แน่นอนผลตอบแทนของเขา คือการทรมานในขุมนรกตลอดกาล และอัลลอฮ์ทรงพิโรธ สาปแช่งเขา และพระองค์เตรียมไว้สำหรับเขาซึ่งการลงโทษที่ใหญ่หลวง"

  อัล-กุรอาน บทที่ 4 วรรค 93)

  ท่านอับบาส กล่าวว่า ไม่มีการอภัยโทษจากอัลลอฮ์แก่ผู้ที่ฆ่าผู้ศรัทธาโดยเจตนา

  ไม่เพียงการฆ่าผู้อื่นโดยไร้เหตุผลเท่านั้น อิสลามยังห้ามฆ่าผู้ปฎิเสธที่อยู่ภายใต้สนธิสัญญาแห่งรัฐอิสลามด้วย

  การฆ่าผู้บริสุทธิ์จากนี้ จึงเป็นเพียงฆาตกรรมอำพราง ที่ทำให้ผู้คนเข้าใจว่าเป็นความขัดแย้งเรื่องศาสนา และยั่วยุให้ตกลงไปในหลุมพรางเท่านั้น
 

 
 








 


 

 
 








 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2007, 17:01 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #7 เมื่อ: 18-03-2007, 18:28 »

ช่วยกรุณา แจกปืนให้คุณครูทุกคน และชาวบ้านทุกหลัง
ใครเข้าเขตที่ดิน เขตบ้าน อย่างไม่ชอบมาพากล ยิงป้องกันตัวเองได้ไม่ผิด

โจรจำนวนหมื่น ชาวบ้านคนรักแผ่นดินจำนวนแสน ให้รู้ไปที สู้กัน ซัดกันตรงๆไปเลย

เป็นเรื่องของชาวบ้านกับชาวบ้าน ทางการไม่เกี่ยว ...

ในอเมริกาก็เห็นให้พกปืนกันได้ทุกบ้าน
ไทยเราแจกไปเลย หรือขายให้โดยชาวบ้านสามารถซื้อถูกๆก็ได้
ไม่ต้องญาติดีกันแล้วล่ะ กับพวกโจรเถื่อนไร้สัญชาติพวกนี้

 


บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 18-03-2007, 18:33 »

ประชาชนต้องลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเองครับ
บันทึกการเข้า

รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 18-03-2007, 18:42 »

ช่วยกรุณา แจกปืนให้คุณครูทุกคน และชาวบ้านทุกหลัง
ใครเข้าเขตที่ดิน เขตบ้าน อย่างไม่ชอบมาพากล ยิงป้องกันตัวเองได้ไม่ผิด

โจรจำนวนหมื่น ชาวบ้านคนรักแผ่นดินจำนวนแสน ให้รู้ไปที สู้กัน ซัดกันตรงๆไปเลย

เป็นเรื่องของชาวบ้านกับชาวบ้าน ทางการไม่เกี่ยว ...

ในอเมริกาก็เห็นให้พกปืนกันได้ทุกบ้าน
ไทยเราแจกไปเลย หรือขายให้โดยชาวบ้านสามารถซื้อถูกๆก็ได้
ไม่ต้องญาติดีกันแล้วล่ะ กับพวกโจรเถื่อนไร้สัญชาติพวกนี้

 





  ตอนนี้เท่าที่ทราบ  ฟังคนแถวนั้นเค้าเล่าให้ฟัง
ก็พกปืนกันอยู่ทุกบ้านนะคะ  แต่พวกโจรพวกนี้

นิสัยลอบกับ  นิสัยซุ่ม ...บางครั้งเจาะยางมะตอย
ฝังระเบิดด้วยซ้ำ  ทุกอย่างที่ทำ  เหนือชั้น ...


...ถ้าทางการไม่ตรวจสอบ  ไม่ตรวจค้นอย่างคุม
เข้มจริง เอาไม่อยู่หรอกค่ะ  เอาง่ายๆ....ในกรณีล่าสุด
ที่เอาท่อนไม้ไปขวาง  ก่อนที่จะยิงคนบนรถตู้  ถามว่า
ไม่มีใครเห็นเลยเหรอ  ว่าใครเป็นคนเอาท่อนไม้ไปขวาง

  แล้วถ้าเห็น  เจ้าหน้าที่สอบสวนเอาข้อเท็จจริง
ตรงนี้ไม่ได้เหรอ ...ที่จริงถามว่าโจรยังกลัวเจ้าหน้าที่มั๊ย
เค้ากลัวนะ  ถ้าไม่กลัว  โจรไม่ซุ่มลอบกัดหรอก  นี่คือ
ตรรกง่ายๆๆๆ..............


*******************************************

ประชาชนต้องลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเองครับ

.......................................


**  เค้าจะสู้ไหวหรือคะ  คนหนึ่งสู้ในที่สว่าง
แต่อีกคนหนึ่งซุ่มในที่มืด ถามว่าใครได้เปรียบ

มีอยู่ทางเดียว ...ต้องเด็ดขาด  ต้องมีมาตรการ
ต้องตรวจบัตร  ต้องให้พิมพ์ลายนิ้วมือ  ต้องตรวจค้น
ให้เค้ากล้าหาญชายชัย  ออกมาจากที่มืดให้ได้

เมื่อเค้าออกมาจากที่มืดได้  ทีนี้จะสู้กันไงก็ว่ามา
ค่อยสมน้สมเนื้อหน่อย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2007, 18:48 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #10 เมื่อ: 18-03-2007, 18:47 »

งั้นส่งทหารและครอบครัวลงไปอยู่อีกสัก 5 หมื่น ตั้งเป็นจังหวัดทหารไปเลย
ย้ายโรงเรียนนายร้อย โรงเรียนจ่า โรงเรียน นายสิบ ไปเรียนที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เปิดเป็นเมืองทหารไปเลย
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #11 เมื่อ: 18-03-2007, 18:50 »

นู๋เจ๋ง ไปปัตตานี นราธิวาส มือเปล่าทุกที
เห็นพวกผู้ชาย พกปืนกัน แต่ผู้หญิงเด็กๆ ไม่มีหรอกค่ะ คุณรวงข้าว
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 18-03-2007, 18:52 »

งั้นส่งทหารและครอบครัวลงไปอยู่อีกสัก 5 หมื่น ตั้งเป็นจังหวัดทหารไปเลย
ย้ายโรงเรียนนายร้อย โรงเรียนจ่า โรงเรียน นายสิบ ไปเรียนที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เปิดเป็นเมืองทหารไปเลย


....น้องนู๋เจ๋งคะ  ขอบคุณสำหรับคำเสนอของน้องค่ะ
อย่าให้ถึงที่น้องว่าเลยค่ะ  ชาวบ้านแถวนู้นเค้าน้อยใจ
อยู่นะว่า ....กำลังทหาร  ตำรวจ  ตำรวจตระเวนชายแดน
ทหารพราน  ทั้งหมดของประเทศไทย  ที่ว่างงาน
ไปอยู่ที่ไหนเสียหมด   ทั้งๆที่ประเทศไม่มีข้าศึกรุกรานด้านไหนเลย
มีแค่ภาคใต้ที่เดียว
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 18-03-2007, 18:54 »

นู๋เจ๋ง ไปปัตตานี นราธิวาส มือเปล่าทุกที
เห็นพวกผู้ชาย พกปืนกัน แต่ผู้หญิงเด็กๆ ไม่มีหรอกค่ะ คุณรวงข้าว

....อ้าวเหรอคะ  ถ้างั้นข่าวนี้  จะลองติดตามจากญาติๆ
เพื่อนฝูงเพิ่มเติมนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ  ที่บอก ....
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #14 เมื่อ: 18-03-2007, 19:17 »

ไม่ทราบว่า นู๋เจ๋ง มานี่ มาค้างหรือแค่ผ่าน ถ้าค้าง ค้างนานแค่ไหน ครับ
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #15 เมื่อ: 18-03-2007, 21:02 »

ไม่ทราบว่า นู๋เจ๋ง มานี่ มาค้างหรือแค่ผ่าน ถ้าค้าง ค้างนานแค่ไหน ครับ


เมื่อก่อนนี้ไปบ่อยค่ะ ติดตามผู้ใหญ่ไป...
ช่วง 4 -5 เดือนหลังนี้ จะลงไปช่วย เดือนละครั้งค่ะ
แต่ละครั้ง ค้าง 1 คืน 2 คืน บ้าง 3 คืนบ้างค่ะ ช่วงนี้ช่วยงานอยู่ที่กรุงเทพฯ   แต่ก็พร้อมลงไปช่วยกันตลอดเวลาค่ะ

มีหลายเรื่องที่ ..สะเทือนใจ ..เล่าเรื่องเบาๆ ..ให้ฟังละกันสักเรื่องนะคะ...ประมาณปลายปีที่แล้ว...
ครั้งหนึ่ง ตอน ประมาณ 1 ทุ่ม นู๋เจ๋งเดินออกไปซื้อโรตีร้านอร่อยทานร้านดังของนราฯ ที่หน้าโรงแรมอิมพีเรียลกับเพื่อน 4-5 คน
พวกเราก็สั่งแล้วยืนคุยกัน รอโรตีที่หน้าร้านข้างถนน ...ก็มีคุณลุงท่านหนึ่ง ใส่สะโหร่ง สวมหมวกแบบอิสลามเดินเข้ามา เหมือนจะทักทายพวกเรา
คงคิด..คล้ายๆว่า สาวๆกลุ่มนี้มาจากไหน จะไปไหนกัน แต่พอคุณลงเข้ามาใกล้ ประมาณ 1 เมตร ...
เพื่อนที่เป็นคนในพื้นที่เค้าถอยกรูด ออกห่างทันที.. ห่างออกไป สัก 1-2 เมตร
นู่เจ๋ง ยืนนิ่ง อยู่ตรงกลาง ... ระหว่างคุณลุงคนนั้น...กับ ...เพื่อนที่ถอยห่างไป..
ช่วงเวลานั้น ทุกคน ต่างนิ่ง งัน กันชั่วขณะ.. นิ่งจริงๆ ไม่มีใครพูดอะไรเลยค่ะ...
นู๋เจ๋งหันไปมองคุณลุงเห็นแววตา สะเทือนใจในตา ของคุณลุง....เหมือนลุงจะเข้ามาทักทายด้วยมิตรจิต มิตรใจ
เพื่อนก็ รวมกลุ่มมองมาทางลุง
แต่ ในที่สุด นู่เจ๋งก็ต้อง ค่อยๆเดินถอยเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ
ทิ้งให้คุณลุงยืนอยู่คนเดียวตรงนั้น ..สักพักพวกเราได้โรตี ก็เดินข้ามถนนกลับโรงแรม ..คุณลุงก็ ยังเก้ๆ กังๆ อยู่แถวนั้นต่อไป

เพื่อนเค้าบอกนู๋เจ๋งว่า ที่นี่เราจะไว้ใจใครไม่ได้ ต้องระวัง..ดูแลตัวเองไว้ก่อน
คิดอีกแง่ หากลุงคนนั้นมีปืนเข้ามายิงประชิดตัว ก็คงแย่
แต่หากลุงคนนั้น ตั้งใจจะมาถามสารทุกข์สุขดิบแบบมิตรจิตร มิตรใจ

นู่เจ๋งสงสาร ใจลุงคนนั้นจัง แต่ไม่ทราบว่าจะลดช่องว่างตรงนั้นอย่างไร

แล้วช่องว่าง ตรงที่นู๋เจ๋งยืน ระหว่างลุงที่เป็นอิสลามคนนั้น กับเพื่อนๆที่เป็นคนพื้นที่ เค้าจะหันเข้าหากันได้อย่างไร?   

เฮ้อ.... !!

อีกอย่างหนึ่งก็คือ สงสาร ทหารใหม่หน้าอ่อนๆ ชุดใหม่เอี่ยมๆ เลยค่ะ ..
จะถือปืน ยืนใส่ชุดพราง ตากแดด ยืนตามสี่แยกไฟแดง
หรือไม่ก็ข้างถนน ที่ไม่ใช่หน้าร้าน หน้าบ้านคน ซึ่งก็จะตากแดด
คือถ้าไปยืนหน้าบ้านคนก็ไม่มีใครอยากให้ทหารไปอยู่ใกล้ๆ
เค้ากลัวโดนลูกหลงกัน
เลยดูเหมือนทหารไปยืนตากแดดเป็นเป้านิ่งยังไงก็ไม่รู้ค่ะ
ทหารก็รู้ว่า คนก็กลัว เวลาเข้าร้านอาหาร..ถ้ามีทหารนั่งทานอยู่
ชาวบ้านจะเลือกไปนั่งโต๊ะไกลๆ คนละมุม..
น่าเห็นใจ และ สงสารทหารที่นั่นนะคะ

เฮ้อ อีกที!!

หมอพยาบาลที่นั่นก็หนักหนา กันทุกคน...
วันนี้เล่าเรื่องเบาๆ ไม่เล่าเรื่อง เจ็บ เรื่องตาย..เพราะมันเศร้ากว่านี้เยอะนักค่ะ !!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2007, 21:16 โดย นู๋เจ๋ง » บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #16 เมื่อ: 19-03-2007, 00:07 »

รัฐบาลุดนี้รักสันติมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 19-03-2007, 12:32 »

ข้อที่ควรพิจารณา ...!!!!

กลุ่มที่ออกมาประท้วง   ประท้วงเพื่อแสดงชี้ชัด

บ่งชี้เจตนาว่า  รักษ์ไทย  หรือ ....อะไร ช่วยพิจารณาด้วย
 
 


****************************************************




สะบ้าย้อยป่วนอีก! หญิง-เด็กร่วม 200 ปิดทาง จนท.ตรวจปอเนาะ
 


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ชนวนสุมไฟใต้ที่สะบ้าย้อยยังถูกจุดให้ป่วนขึ้นอีกตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (19) ระหว่างเจ้าหน้าที่สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และชุดวิทยาการ พร้อมตัวแทนกรรมการอิสลามเดินทางเข้าตรวจสอบโรงเรียนปอเนาะที่เกิดเหตุถูกลอบวางระเบิดและกราดยิงตาย 2 เจ็บ 8 เมื่อวันก่อน ได้ถูกกลุ่มผู้หญิงและเด็กเกือบ 200 คนชุมนุมปิดเส้นทาง แม้จะยินยอมเจรจาด้วยแล้ว แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (19 มี.ค.) นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ นายอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา พร้อมกำลังฝ่ายปกครอง ตัวแทนคณะกรรมการอิสลามประจำอำเภอสะบ้าย้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชุดวิทยาการรวมประมาณ 200 นาย ได้ร่วมกันเดินทางเข้าไปยังโรงเรียนปอเนาะบำรุงศาสตร์ บ้านควนรัน ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย
       
       ทั้งนี้ เพื่อทำการตรวจสอบจุดเกิดเหตุกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเด็กนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าวจนมีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 8 คน โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา และกรณีดังกล่าวนี้เป็นชนวนให้ชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นหญิงและเด็กรวมตัวชุมนุมต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.)
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางเข้าไปยังโรงเรียนปอเนาะบำรุงศาสตร์ อยู่นั้น ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านที่เกือบทั้งหมดเป็นหญิงคลุมฮิญาบปกปิดหน้าสีดำและเด็กๆ รวมประมาณ 150 คน ได้ปักหลักชุมนุมปิดเส้นทางอยู่บริเวณสามแยกปากทางเข้าโรงเรียนปอเนาะดังกล่าว โดยไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและสื่อมวลชนผ่านเข้าไป
       
       พร้อมกันนั้น ผู้ชุมนุมยังได้ตะโกนไล่เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนตลอดเวลา และมีการชูป้ายโจมตีว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมมีการระบุว่า มีสื่อมวลชนบางสื่อได้นำเสนอข่าวอย่างบิดเบือนจากความเป็นจริง โดยมีการระบุว่า โรงเรียนปอเนาะแห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกของขบวนการ รวมถึงมีการเคลื่อนไหวของแนวร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย ขณะที่กลุ่มชาวบ้าน อ้างว่า ในความเป็นจริงแล้วขณะเกิดเหตุนักเรียนปอเนาะแห่งนี้ประมาณ 40 คนได้ถูกกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดและซุ่มยิง และไม่ได้มีการปะทะกันอย่างที่เป็นข่าว
       
       อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ขอเจรจากับผู้ชุมนุมอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้ยินยอมให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ส่งตัวแทนเข้าไปเจรจากับ นายดลเลาะ หะยีเจ๊ะเลาะ เจ้าของโรงเรียนปอเนาะบำรุงศาสตร์ ประกอบด้วย นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ นายอำเภอสะบ้าย้อย ปลัดอำเภอสะบ้าย้อย และตัวแทนกรรมการอิสลามอีก 1 คน รวมแล้วเป็น 3 คนที่เข้าไปเจรจาต่อไป
       
       สำหรับการเจรจายังคงดำเนินไปต่อเนื่อง แม้เวลานี้ 11.45 น.ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหาบทสรุปกันได้ ขณะเดียวกัน กำลังเจ้าหน้าที่ติดอาวุธทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองส่วนใหญ่ รวมถึงสื่อมวลชนได้ถอนตัวออกจากบริเวณที่มีการชุมนุมแล้ว โดยได้ถอยร่นออกไปคุมเชิงบริเวณพื้นที่รอบนอก บางส่วนกลับไปเตรียมรับสถานการณ์ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอ เพื่อลดความตึงเครียด โดยได้ทิ้งกำลังฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งเฝ้าสังเกตการณ์ในพื้นที่เท่านั้น
       
       นอกจากนี้แล้ว ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า ในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้มีการเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดยมีผู้หญิงและเด็กทยอยเดินทางมาสมทบเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ความคืบหน้า “ผู้จัดการออ
 
 
 
 
 ขอรบกวน..ช่วยเป็นกำลังใจส่งแรงใจให้คนทางใต้หน่อยเหอะค่ะ

http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2007/03/19/entry-3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2007, 19:30 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
หน้า: [1]
    กระโดดไป: