เทศกิจ-ตำรวจเข้ารื้อเต้นท์เครือข่ายต้าน คมช.กลางท้องสนามหลวง เคลียร์พื้นที่จัดงานประเพณีชักว่าว ถูกคนเฝ้าเต้นท์ 5 คนขว้างขวดใส่เทศกิจ 2 นายขาเหวอะหวะ ตำรวจลากคอผู้ต้องหาสอบปากคำ ก่อนพิจารณาประกันตัวสำนักข่าวทั้มพ์ไดร์ฟ - เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 15 มีนาคม พ.ต.อ.จักรี ภู่พันธ์ศรี รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (รองผบก.น.1) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามจราจล กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (ปจ.บก.น.1) จำนวน 50 นาย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตพระนคร เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเต็นท์ และเวทีของเครือข่ายต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ชุมนุมอยู่ภายในสนามหลวง ตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งหอสมุดแห่งชาติ โดยเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ขอกำลังคุ้มกันไปยังทาง บก.น.1 ระหว่างการเข้ารื้อถอน
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจได้เข้าทำการรื้อถอนเวทีและเต็นท์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแล ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เทศกิจได้ทำการรื้อถอนเต้นท์นั้น ปรากฎว่าผู้ที่นอนเฝ้าเต้นท์ 5 คน ซึ่งเป็นกลุ่มฝ่ายต่อต้าน ได้นำขวดเครื่องดื่มชูกำลัง และสิ่งของออกมาปาใส่ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ 2 นายถูกขวดดังกล่าวปาเข้าที่ขาเป็นแผลขนาดใหญ่ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยืนดูความเรียบร้อยอยู่ภายนอกได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์พร้อมเชิญตัวผู้ชุมนุมทั้ง 5 คนมาสอบสวนที่สน.นางเลิ้ง
สำหรับบุคคลที่ขัดขวางการรื้อเต้นท์ประกอบด้วยนายนรุจ วรจิตวุฒิกุล อายุ 38 ปี แกนนำกลุ่มพิราบขาว อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.3 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายศักดิ์ชาย แซ่ลี้ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ต.บางพลี อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นายสุรพงศ์ สินประเสริฐ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/107 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นายอารีย์ โชคลาบ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 9 ต.เตย อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี และนายสมพงษ์ สมบัติหอม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.9 ต.เหว่า อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 5 คนในข้อหาขัดขวางการปฎิบัติงานของเจ้าพนักงานระหว่างปฎิบัติงาน และทำร้ายเจ้าหน้าที่พนักงานระหว่างปฎิบัติงาน
พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ได้เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยที่ สน.นางเลิ้ง พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้านั้น สืบเนื่องมาจาก ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนคร ได้ทำการประสานขอกำลังมายัง บก.น.1 เพื่อเข้าทำการรื้อถอนเต้นท์ของกลุ่มเครือข่ายต่อต้านคมช. โดยมีกลุ่มคนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ กลุ่มนกพิราบขาว และกลุ่มอื่นๆ ที่เป็นเครือข่ายพันธมิตรต่อต้าน คมช. โดยจะมีการตั้งเวทีปราศัยกันทุกเย็น โดยเวทีดังกล่าวเริ่มตั้งมาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยใช้เต้นท์สีขาวจำนวน 3 หลังพร้อมนำแผงกั้นจราจรมากันบริเวณอาณาเขต เพื่อใช้เป็นที่เก็บวัสดุอุปกรณ์และใช้เป็นที่หลับนอนในตัว และยังมีเวทีปราศรัยขนาดย่อมพร้อมเครื่องเสียงจำนวนหนึ่งอยู่ถัดออกมา
พล.ต.ต.มานิต กล่าวต่อว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศกิจของสำนักงานเขตพระนครกำลังรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอยู่นั้น ก็ได้มีกลุ่มบุคคลจำนวน 5 คน เข้ามาขัดขวาง และทำร้ายร่างกายโดยใช้ขวดเครื่องดื่มชูกำลังขว้างปาใส่ บางรายก็ถือไม้ขู่เจ้าหน้าที่ จนทำให้เจ้าหน้าที่เทศกิจได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย โดยหลังเกิดเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บได้เข้าแจ้งความอยู่ที่ สน.ชนะสงคราม
พล.ต.ต.มานิต ยังกล่าวอีกด้วยว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการระงับเหตุ และทำการควบคุมตัวบุคคลทั้ง 5 คน มาพบพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม โดยใช้สถานที่ สน.นางเลิ้ง เนื่องจากที่ สน.ชนะสงคราม นั้น คับแคบ ก่อนที่จะแจ้งข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายร่างกาย และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะทำการสอบสวนก็ได้มีทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมฟังการสอบสวนด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงพิจารณาให้การประกันตัวออกไป
ทั้งนี้เหตุที่เข้าทำการรื้อเต้นท์ เนื่องจากทางสำนักงานเขตมีกำหนดการจะต้องใช้พื้นที่ จัดงานกีฬาของสมาคมกีฬาพื้นบ้าน และจัดงานประเพณีชักว่าว ของสมาคมว่าวแห่งประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพยายามจะรื้อถอนเต้นท์ดังกล่าวหลายครั้งแล้ว แต่ถูกทางกลุ่มผู้เข่าร่วมชุมนุมเข้าขัดขวาง ในวันนี้จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปคุ้มกัน สำหรับทางผู้ต้องหาทั้ง 5 คนนั้น หากสอบปากคำเสร็จสิ้น จะอนุญาตให้ประกันตัวได้ โดยระหว่างสอบปากคำมีกลุ่มพรรคพวกของผู้ต้องหาที่ทราบข่าว จำนวน 25 คน มาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อเข้ามาเป็นกำลังใจให้ผู้ต้องหา แต่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแต่อย่างใด