ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 15:05
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  33 ล้าน "คุณหญิง"ยังงง..แต่มีคนค้นมาให้ก่อน...คุณหญิงลองค้นดูนะครับ.. 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
33 ล้าน "คุณหญิง"ยังงง..แต่มีคนค้นมาให้ก่อน...คุณหญิงลองค้นดูนะครับ..  (อ่าน 2934 ครั้ง)
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« เมื่อ: 14-03-2007, 14:20 »

"สนธิหมดราคา".!! ขู่จะปูด 40 ล้าน us กรณีไทยคม 3...ก็ทำได้แค่เห่าใบตองแห้ง.!!!

จริงๆแล้วมันแค่ 33 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น...แต่วิสัยในการใส่ใข่ของมัน...
ทำให้ยอดเงินกลายเป็น 40 ล้านเหรียญไปซะงั้น...

จากการที่ SATTELได้รับค่าสินไหมชดเชยจำนวน 33 ล้านเหรียญสหรัฐจากบริษัทประกัน...
กรณีไทยคม 3 เสียหายจนไม่สามารถงานได้...
แต่เงินดังกล่าวไม่ได้นำเข้าประเทศเพื่อส่งคืนกระทรวงการคลัง...
ทำให้ไอ้ฮ่อลิ้มเห็นว่า...ผิดหลักเกณฑ์การนำเงินส่งคืนรัฐ...

เรื่องคือ...เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2546 ดาวเทียมไทยคม 3 เกิดเหตุขัดข้องในระบบพลังงานส่งผลให้มีพลังงานไม่เพียงพอในการเปิดช่องสัญญาณดาวเทียมทุกช่องได้...
ซึ่งจากเหตุขัดข้องในระบบพลังงานดังกล่าว...

บริษัทรับประกันภัยได้ตกลงชำระค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนเงินประมาณ 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ...

อย่างไรก็ตามมูลค่าประกันภัยดังกล่าวไม่ครอบคลุมผลเสียหายจากการสูญเสียรายได้อันสืบเนื่องมาจากการเสียหายของดาวเทียมครั้งนี้...

ทั้งนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของดาวเทียม...
และเป็นผู้ร่วมรับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย...ได้ตกลงที่จะนำเงินค่าสินไหมทดแทนเก็บไว้ในบัญชี Escrow...


โดยมีเงื่อนไขในการเบิกจ่ายเพื่อให้บริษัทฯ นำไปดำเนินการจัดหา และ/หรือจัดสร้างดาวเทียมดวงใหม่...เพื่อทดแทนช่องสัญญาณดาวเทียมที่เสียหายต่อไป...

ซึ่งบริษัทฯ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ลงนามในสัญญา Escrow  Account เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2547...

ต่อมาในปี 2548 บริษัทฯ ได้คัดเลือกให้ Alcatel เป็นผู้จัดสร้างดาวเทียมไทยคม 5...และให้ Arianespace เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งดาวเทียมสู่วงโคจร...โดยแหล่งเงินทุนบางส่วนมาจากเงินค่าสินไหมทดแทนดาวเทียมไทยคม 3...

ทีนี้จากแนวคิดที่ว่า...เมื่อดาวเทียมไทยคม 3 เป็นของรัฐ...ดังนั้นเงินค่าประกันความเสียหายส่วนนี้ก็ควรต้องตกเป็นของรัฐ...แต่เงินส่วนนี้ก็ไม่ได้ถูกนำส่งเข้ากระเป๋ารัฐ...
แถมยังนำเอาไปสร้างดาวเทียมดวงใหม่ทดแทนไทยคม 3...ทำให้ไอ้ฮ่อลิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องที่จะได้เรื่องไว้แบล็คเมล์เพิ่มอีกเรื่อง...

แต่หลังจากให้สาวกไปหาข้อมูลมาเพิ่มเพื่อเตรียมถล่มคุณหญิงให้หงายเก๋ง...แต่ตัวมันกลับต้องหงายเก๋งแทน...
เพราะสัญญาที่ทำกับบริษัทประกันระบุไว้ชัดเจนว่า... เงินดังกล่าวจะต้องนำมาเพื่อจัดหาดาวเทียมทดแทน...ไม่ให้นำไปใช้ในกรณีอื่น...

เรื่องนี้ไอ้ฮ่อลิ้มก็เลยทำได้แค่อย่างเดียวคือ...ม๊ายยย ฮับ...ม๊ายฮับ...หมาเห่า...หมาเห่า...โฮ่ง...โฮ่ง...............(ฮา)...

จากคุณ : กระบี่ไร้พ่าย - [ 8 มี.ค. 50 15:12:27 A:220.226.63.254 X: ]

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5204906/P5204906.html

หากเป็นการโจมตีจาก ลิ่วล้อหน้าเหลี่ยม ผมจะไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

แต่มันแปลกที่การโจมตีออกมาจาก "สนธิเจ้าลัทธิจานดาวเทียม"

เห็นทีจะต้อง รวมรวม-เรียบเรียงความชั่วร้ายของ "ระบอบสนธิ" ซัก 500 หน้า-1,000 หน้า ท่าจะขายดีแฮะ...

ตำนานนี้ อาจจะขายดีกว่า "หมักจืด-หมากไม่เคยจืด" ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

engg
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #1 เมื่อ: 14-03-2007, 14:29 »

หาได้ยากมากๆ คนกล้า ที่กล้าพูดเรื่องไม่จริงต่อหน้าคนจำนวนมาก หาได้ยากจริง ๆ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #2 เมื่อ: 14-03-2007, 14:36 »

สาวกท่านพ่อสนธิอาจมีช๊อคตายคาจอคอมฯเมื่ออ่านข้อมูลดังกล่าว.....โธ่....ลุงแคนค่ะ ไม่น่าทำบาปผิดศีลข้อ 1 เลยหน๊า
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 14-03-2007, 14:40 »

อืม................. ถ้าเป็นเรื่องจริง แป๊ะลิ้มมีหวัง เครดิตเสียหายหมดแน่ๆ 

ว่าแต่ว่า แล้วไม่มีเนื้อข่าวในหนังสือพิมพ์อะไรบ้างหรือ ลุงแคน

 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
noppon
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 165



« ตอบ #4 เมื่อ: 14-03-2007, 14:49 »

ก็รอดูกันต่อไป นึกว่า Can ไปค้นมาเอง ที่ไหนได้ เอามาจากราชดำเนิน  

เป็นสิ่งที่สื่อสงสัย ก็เอามาเล่าให้คนฟัง คนที่ถูกตั้งข้อสงสัย ก็ต้องชี้แจงแถลงไข

ชี้แจงได้ชัดเจน มีหลักฐานประกอบก็จบ คนสงสัยก็แค่หน้าแตก ที่เข้าใจผิด ไม่ใช่เรื่องที่ต้องประนาม
(ยกเว้นพวกที่จ้องจะโจมตีอย่าง Can)

ชี้แจงไม่ชัดเจน ไม่มีหลักฐานอันน่าเชื่อถือ ก็ต้องเป็นเรื่องราวให้ต้องตรวจสอบกันต่อไป

เจ้าตัวเองยังบอกขอดูเอกสารก่อน นี่มีกองเชียร์ร้อนตัวออกมาบอกแทนซะ (เหมือนสมัยเหลี่ยม)

ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟครับ
บันทึกการเข้า

สมาชิกลำดับที่ #71 ครับ
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #5 เมื่อ: 14-03-2007, 15:11 »

ผมว่าที่หมดราคาคือท่านCanCan หมดราคาจริงๆ
 
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
engg
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #6 เมื่อ: 14-03-2007, 15:21 »

รายละเอียดเงินก้อนนี้มีใน โพสท์ทูเดย์แล้ว
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 14-03-2007, 16:06 »

ปกติ แมลงวัน มักไม่ตอมแมลงวัน เว้นแต่ทาง ทำเนียบจะแถลงข่าวออกมา

ที่จริงกลิ่นมันออกตั้งแต่ เค้าให้ คุณหญิงทิพาวดี มาดูแลเรื่อง "ไอทีวี" แล้วครับ

เพราธีรภัทร์ โยนก้อนเนื้อเข้า อสมท. แต่โยนไม่เข้า "จานป๋อง" ไม่เล่นด้วย

การโจมตีคุณหญิงทิพาวดี จึงไปงัดเรื่องนี้ขึ้นมา

ฉายา "จอมแบล็คเมล์" สำหรับสนธิจึงไม่ใกลเกินความจริง
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 14-03-2007, 16:11 »

อย่างที่ผมบอกแต่แรก เรื่องแบบนี้ หากเป็น "ฝ่ายตรงข้าม" แบบพวกลิ่วล้อหน้าเหลี่ยม เอามาเล่น

เพราะเป็น รมต. สมัยหน้าเหลี่ยม นั่นจะมี "ข้อมูลชัดเจนที่สุด"

แต่ข้อมูลครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้ กลายมาเป็น ศาสดาสนธิ หยิบขึ้นมา

ผมคนหนึ่งย่อมเกาะติด และหาเหตุผลว่า "ทำไม"

ในที่สุด เมื่อถามว่า "ทำไม" เหมือนที่ศาสดาสนธิพร่ำสอน

ผมก้พบความจริงว่า...ผลประโยชน์ไม่ลงตัว ตีให้เข้าหา

วันแรกประกาศอ้าแขนรับ ดร.สมคิด

วันที่ 2 พันธมิตรกระซวกกลับ ศาสดาสนธิ "กลับลำ" แทบไม่ทัน

อ้าว...ไม่เสียดาย กาแฟวันจันทร์เหรอสนธิ...ตอนนี้ ดร.สมคิด ยังมาขอกินกาแฟ อยู่อีกหรือเปล่า
บันทึกการเข้า

lucky@winter
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90



« ตอบ #9 เมื่อ: 14-03-2007, 16:24 »

เมื่อคืนวานนี้สนธิก็บอกว่า 33 ล้านเหมือนกัน

ลุงแคนน่าจะไปออกทีวีดวลกับสนธิที่ ASTV เนอะ    ชอบดูคนทะเลาะกัน ให้เห็นดำเห็นแดงไปข้างเลย 

ตอบโต้ 2 ทางเร็วดีกว่า ไม่ต้องรอดูสนธิตอนกลางคืน มาอ่านของลุงแคนตอนเช้า ไม่ทันใจ 

บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #10 เมื่อ: 14-03-2007, 16:34 »

มันก็เป็นเช่นนี้.....................เมื่อมหาโจรมองเหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นคนอื่นที่จะปล้น มันย่อมหันกลับมาซัดเพื่อนโจรที่เหลือตามสันdanดิบที่เคยเป็นมา ประเด็นก็คือ ทำไมต้องแปลกใจกับพฤติกรรมของมหาโจรตัวนี้ด้วยคร้า!?!


ก็ดันอยากให้โจรขึ้นบ้านเองนี่นา 
บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #11 เมื่อ: 14-03-2007, 16:34 »

สาวกท่านพ่อสนธิอาจมีช๊อคตายคาจอคอมฯเมื่ออ่านข้อมูลดังกล่าว.....โธ่....ลุงแคนค่ะ ไม่น่าทำบาปผิดศีลข้อ 1 เลยหน๊า

ไม่เห็นต้องช็อค เลย ไม่ได้ ขายชาติ เลี่ยง ภาษี หรือ คอรับชั่น ใครซักหน่อย

ก็ดี ครับ จะได้ รู้เลย ว่าใครพูดจริง ใครพูดโกหก

สนธิ ถามเรื่องนี้ ทำให้ผม เห็นแล้ว ว่าใครเดือดร้อนแทน แม้กระทั่ง ลิ่วล้อทักษิณ ยังหาข้อมูล มาให้ ท่าน  
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 14-03-2007, 16:49 »

พฤติกรรมส่อเจตนาครับ

เราประชาชนผู้รับสาร ย่อมมีวิจารณญาณ และรู้จักตั้งคำถาม

เมื่อเราเห็นเหตุที่ผิดปกติ...เราก็ถามว่า..ทำไม...แล้วก็ค้นย้อนหลังไปเรื่อย ๆ

แล้วเราก็พบว่า ก่อนการเคลื่อนไหวของ สว.กระไดล่อ กับ คุณวีระ คือการกล่าวออกมาก่อนของ "ศาสดาสนธิ"

ว่าจะพาคนเดินขบวนออกมาต้าน ศาสดาสนธิบอกว่าจะพาคนออกมาเอง

เรื่องฟ้องร้อง ศาสดาสนธิก็บอกเตรียมคนเอาไว้แล้ว ข่มขู่สารพัด...เพื่ออะไร...

แล้วก็พาดพิงไปเรื่อง รสพ. ก็มีการจับกรณี รสพ. ออกมาเทียบเคียง

แล้ว ม้อบ รสพ. ก็ออกมา เชิญมาออกทีวี ทั้ง ๆ ที่สื่ออื่น ๆ เค้าเฉย ๆ

ทุกอย่างถูกเรียบเรียงออกมาอย่างเป็นระบบ ทั้ง ๆ ที่ รสพ.กับ ไอทีวี มันเรื่องคนละมิติ

ไม่สามารถนำมาเทียบเคียงกันได้เลย...เว้นแต่เรื่องพนักงานเท่านั้น

แต่เรื่อง รสพ. มันก็เป็นเรื่องของรัฐบาลเก่า ที่ต้องรอการจัดการของรัฐบาลใหม่

หากเป็นช่วงไล่ทักษิณ กรณีนี้ ก็จะเป็นเรื่องราวความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ

ตอนนั้น ASTV ทำอะไรกันอยู่ ไม่พาพวกเค้าออกมาเรียกร้องทางทีวี

และจนถึงวันนี้ ในกรณี ไอทีวี รัฐบาลก็ได้พิสูจน์แล้วว่า "ยังไม่ได้ควักเงินซักบาท"

แต่ จอไอทีวี ก็ยังทำหน้าที่ของมันไปได้ เกือบอาทิตย์

ในห้วงเวลา "เปลี่ยนผ่าน" เช่นนี้ ผมกลับมองว่า รัฐบาลลดแรงกระทบและความเสียหายอันจะเกิดขึ้น

ไม่เฉพาะเรื่องคดีความที่ต้องฟ้องร้องกับบริษัท และ ทรัพย์สินที่จะต้องตกเป็น"ของรัฐ"

แม้การยึดทรัพย์สมบัติของ บริษัทไอทีวี หากไม่ดำเนินการให้ดี ทรัพย์สมบัติที่จะขนออกมา ก็จะกลายเป็้น"เศษวัสดุ" ในทันที

เพราะเครื่องมือพวกนี้ ต้องมีการดูแลรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

การขนย้าย ไม่ใช่เรื่องง่าย อาจเสียหายและเสียค่าขนย้ายอีกหลายตังค์

วิธีดำเนินการอย่างนุ่มนวลกับพนักงานครั้งนี้ อย่างน้อยก็ได้รักษาทรัพย์สินของชาติเอาไว้ให้คงค่า

ส่วน "รายได้" อันเกิดขึ้น ก็ยังสามารถนำกลับเข้ารัฐได้โดยไม่ตกหล่น

ดีกว่าปล่อยให้ บริษัทไอทีวีมหาชน เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปเรื่อย ๆ และไม่มีทีท่าจะว่าหยุดเก็บรายได้และไม่นำส่งรัฐ

การตัดวงจร ด้วยการประกาศยกเลิกสัญญา พร้อม ๆ กับ "ไฟเขียว" ให้พนักงาน "รักษาการ" ไปก่อน

น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด อย่างน้อย ๆ มองเห็น "ผลดี 3 ประการคือ

1. พนักงานยังพอมีงานทำ
2. ทรัพย์สินที่จะตกเป็นของรัฐยังได้รับการดูแล
3. ประชาชนคนดู ยังได้รับข่าวสารและบันเทิงตามแบบที่เค้าคุ้นชิน

ส่วนการฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทไอทีวีมหาชน ก็ยังคงดำเนินต่อไป

การจัดตั้งองค์กรบริหารความถี่ UHF ก็ต้องทำต่อไป ภายใต้กรอบระเบียบและกฎหมาย

คำถามที่ถาว่า 5-6 วันนี้ รายได้ตกแก่ใคร พูดตรง ๆ คือ ตกแก่รัฐ ไม่มีข้อสงสัย

ส่วนวิธีดำเนินการจะเป็นอย่างไร ข้าราชการระดับสูงที่มาเป็น "หนังหน้าไฟ" หากไม่แน่ใจ

ไม่มีใครเอาคอไปขึ้นเขียงหรอกครับ เพราะต่างก็รับบัญชาจากนายกรัฐมนตรีทั้งนั้น

ท้ายที่สุด เราก็ถามตัวเองว่า ผลของการดำเนินการของรัฐบาลในครั้งนี้

มีใครเสียหายอะไรบ้าง...สำรวจไปแล้ว...ผู้เสียหายกลับเป็น "กระสือ" ที่จ้องจะงาบไอทีวี

กับประชาชนที่เกลียดทักษิณ ไม่พอใจการทำงานของพนักงานไอทีวีในห้วงที่ผ่านมา

ถ้ามันตกงานได้ ข้าพอใจ...คงคิดได้ประมาณนี้แหละครับ

พอ ๆ กับคำว่า "ไปตายซะ" นั่นแหละ

แต่ทำแล้วมันมีอะไรดีขึ้น ทำแล้วมันสะบายใจจริงหรือ

ทำแล้วคิดว่านั่นคือ "การแก้ปัญหา" จริงหรือ

ปัญหามีไว้ให้แก้ไข ไม่ใช่มีไว้ให้ทำลาย

ปิดจอทีวี มันไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับ...แต่ทำยังไงให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นแฟนทีวีเค้าพอใจ นั่นต่างหากคือโจทย์ที่สำคัญ

ทักษิณ ทำลายความสามัคคีมามากแล้ว จนบัดนี้ เรายักจะสร้างความแตกแยกต่อไปอีกหรือ

หรือจะเอากันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง....

ถึงยังไงพวกเราก็หญ้าแพรก เป็นเบี้ยตัวเล็ก ๆ ให้เค้าปั่นหัวเล่นแค่นั้นเอง...


คนเราหากไม่ยอมรู้เหตุ รู้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาล รู้สถานที่

เห็นทีจะมีแต่ความวุ่นวายในบ้านเมืองไม่รู้สิ้น


หรือต้องให้ยกทำเนียบมาไว้ที่บ้านพระอาทิตย์ ถึงจะพอใจ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2007, 17:46 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

kumtong
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82


« ตอบ #13 เมื่อ: 14-03-2007, 17:02 »

อ้าว..เมียน้อยจารย์จ๊ะ  กะ ลุงแคน พวกเดียวกันเหรอ   
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #14 เมื่อ: 14-03-2007, 17:05 »

อ้าว..เมียน้อยจารย์จ๊ะ  กะ ลุงแคน พวกเดียวกันเหรอ   


เรื่องการขุดคุ้ยข้อมูลเอาคนชั่วมาแฉ...ไม่มีการฮั๊วเด็ดขาดคร้า ผิดเป็นผิด...อิชั้นด่าเปิง!!!
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #15 เมื่อ: 14-03-2007, 17:07 »

ขอบคุณท่านลุงแคนค่ะ 

การแก้ปัญหา "ไอทีวี" ที่ถูกรุมทึ้งมานานแล้วของรัฐ นับเป็น win win solution ดีกว่าหักด้ามพร้าด้วยเข่าด้วยการปิดสถานีอย่างแน่นอน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2007, 17:10 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #16 เมื่อ: 14-03-2007, 17:11 »

ขอบคุณท่านลุงแคนค่ะ 

การแก้ปัญหา "ไอทีวี" ที่ถูกรุมทึ้งมานานแล้วของรัฐ นับเป็น win win solution ดีกว่าหักด้ามพร้าด้วยเข่าด้วยการปิดสถานีอย่างแน่นอน 


เห็นด้วยคร้า....การปิดสถานีทำให้คนนับพันเดือดร้อนและไม่เกิดประโยชน์ใดๆแก่สังคมสักนิดเดียว 
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #17 เมื่อ: 14-03-2007, 17:22 »

หนุกจริงวุ้ย....

หนังเรื่องเนี้ยยย

ใครพระเอก ใครโจร
ใครจะเป็น "ร้อยตำรวจเอก..." โผล่มาตอนจบ


 
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #18 เมื่อ: 14-03-2007, 17:29 »

หนุกจริงวุ้ย....

หนังเรื่องเนี้ยยย

ใครพระเอก ใครโจร
ใครจะเป็น "ร้อยตำรวจเอก..." โผล่มาตอนจบ


 

พี่แคมขา...เรื่องนี้มันมีแต่มหาโจรที่สวมบททุกอย่างราวกับเสียงพากษ์หนังขายยาตามงานวัด อิชั้นว่าไปๆมาๆมันก็กลายเปงปาหี่หลอกคนดูเพื่อเบี่ยงเบนปัญหา 3 จว.ใต้ และเศรษฐกิจเน่าเท่านั้นเอง


พึบพั๊บๆๆๆๆๆๆๆๆ(เสียงสลัดผ้าถุง)
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #19 เมื่อ: 14-03-2007, 17:41 »

ขอบคุณท่านลุงแคนค่ะ 

การแก้ปัญหา "ไอทีวี" ที่ถูกรุมทึ้งมานานแล้วของรัฐ นับเป็น win win solution ดีกว่าหักด้ามพร้าด้วยเข่าด้วยการปิดสถานีอย่างแน่นอน 


เห็นด้วยคร้า....การปิดสถานีทำให้คนนับพันเดือดร้อนและไม่เกิดประโยชน์ใดๆแก่สังคมสักนิดเดียว 

อ้อ ตกลงข้าน้อยก็สามารถ "สมานฉันท์" กับคุณนายจ๊ะได้แล้วหรือจ๊ะ อิอิ  Mr. Green เฉพาะ "ประเด็นไอทีวี" นะจ๊ะ 

ปล. เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม และไม่ก่อให้เกิดมลพิษทั้งทางสายตาและทางหู คุณนายจ๊ะควรจะเปลี่ยนไปสวมกางเกงขาวยาวเอวต่ำดีกว่า เลิกสะบัดผ้าถุงได้แล้วมั้ง  Mr. Green Mr. Green Mr. Green

บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 14-03-2007, 17:57 »

ผมก็บอกแล้ว สภาพการจ้างงานของ พนักงานไอทีวี ก็ไม่รู้จะจบสิ้นลงวันใหน

มันไม่ได้มั่นคง เหมือนสถานีของรัฐ หรือพวกรัฐวิสาหกิจอะไรเลย

แต่ดันเอาไปเทียบกับ ช่อง 11 ซึ่งเค้าเป็น "ข้าราชการ" ที่มีความมั่นคงในชีวิตเอามาก ๆ

พวกพนักงานไอทีวี ต่างก็เป็น คนในสายงาน ที่ "รับจ้าง" เหมือน ๆ กับ ประชาชนคนธรรมดานี่เอง

ที่เด่น ๆ ดัง ๆ เค้าไม่มีวันตกงานหรอกครับ มีสถานีช่องอื่น ๆ พร้อมจะรับเข้าทำงานเยอะแยะไป

แต่ระดับล่าง ๆ นั่นสิ ที่น่าสงสารนับ ร้อยนับพันคน

ถ้าเราแก้ปัญหาอย่างไม่รู้จักแยกแยะ มันก็จะมองดูเหมือนรัฐบาลอุ้มพนักงานไอทีวี

แต่ถ้าจะว่าไปจริง ๆ แล้ว คนกลุ่มนี้ ต้องถือโอกาสนี้ปรับตัว จัดกลุ่มเพื่อ "รับผลิตรายการ" เป็นทีมงานเล็ก ๆ

ที่พร้อมจะรับจ้างทั่วไป....ทุกคนก็ต้องแสวงหาความมั่นคงในชีวิตของตนเอง ตามความรับผิดชอบในครอบครัวอยู่แล้ว

ขอเวลาให้เค้าเตรียมตัว เตรียมงาน เตรียมใจอีกซักพัก

ถึงเวลาที่จำเป็น ก็สามารถปลดออกได้ ตามที่ "ทีไอทีวี" ต้องการ

แบบนี้สามารถลดแรงกระแทกได้ดีกว่า

หรือชอบใจที่จะให้ "ปิดจอดำ" แล้วปล่อยพนักงานไปตามยถากรรม

ทิ้ง "แอสเซท" ที่ยังมีคุณค่าทางเศรษฐกิจไปดื้อ ๆ แบบนั้น...ชอบมากใช่มั๊ยครับ
บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #21 เมื่อ: 14-03-2007, 20:27 »

เรื่องคือ...เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2546 ดาวเทียมไทยคม 3 เกิดเหตุขัดข้องในระบบพลังงานส่งผลให้มีพลังงานไม่เพียงพอในการเปิดช่องสัญญาณดาวเทียมทุกช่องได้...
ซึ่งจากเหตุขัดข้องในระบบพลังงานดังกล่าว...

บริษัทรับประกันภัยได้ตกลงชำระค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนเงินประมาณ 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ...

อย่างไรก็ตามมูลค่าประกันภัยดังกล่าวไม่ครอบคลุมผลเสียหายจากการสูญเสียรายได้อันสืบเนื่องมาจากการเสียหายของดาวเทียมครั้งนี้...

ทั้งนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของดาวเทียม...
และเป็นผู้ร่วมรับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย...ได้ตกลงที่จะนำเงินค่าสินไหมทดแทนเก็บไว้ในบัญชี Escrow...

โดยมีเงื่อนไขในการเบิกจ่ายเพื่อให้บริษัทฯ นำไปดำเนินการจัดหา และ/หรือจัดสร้างดาวเทียมดวงใหม่...เพื่อทดแทนช่องสัญญาณดาวเทียมที่เสียหายต่อไป..


ข้อความโดย: CanCan



โดยมีเงื่อนไขในการเบิกจ่ายเพื่อให้บริษัทฯ นำไปดำเนินการจัดหา และ/หรือจัดสร้างดาวเทียมดวงใหม่...เพื่อทดแทนช่องสัญญาณดาวเทียมที่เสียหายต่อไป .......

ทำไม จึงมีเงื่อนไขอย่างนี้ Question


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #22 เมื่อ: 14-03-2007, 20:36 »

ขอบคุณท่านลุงแคนค่ะ 

การแก้ปัญหา "ไอทีวี" ที่ถูกรุมทึ้งมานานแล้วของรัฐ นับเป็น win win solution ดีกว่าหักด้ามพร้าด้วยเข่าด้วยการปิดสถานีอย่างแน่นอน 


เห็นด้วยคร้า....การปิดสถานีทำให้คนนับพันเดือดร้อนและไม่เกิดประโยชน์ใดๆแก่สังคมสักนิดเดียว 



ถ้าผู้บริหาร ITV ลูกน้อง'เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก' มีความรับผิดชอบอย่างผู้บริหารฯ
มีความคิดในใจเหมือน'คนในครอบครัวหนอนจ๊ะ' ก็ดีนะ...... 

ไม่ทำตัวเป็น'อีแอบ'หลบหลังพนักงาน ITV.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 14-03-2007, 20:41 »

ต้องถาม กระทรวงไอซีทีและการสื่อสารครับ

คงมิใช่เรื่องของ คุณหญิง แต่เพียงอย่างเดียว

จะว่าไป หากมีสามัญสำนึกซักนิด เงินที่รับจากการประกัน ก็คือค่าเสียหายจากช่องสัญญาณที่หายไป

เมื่อได้เงินประกันมา ก็เท่ากับรัฐไม่ต้องจ่ายค่าดูแลรักษาช่องสัญญาณสามารถมี"ช่องสัญญาณเท่าเดิม

 น่าจะเป็น "เรื่องดี" มากกว่าเรื่องเสียหาย

น่าจะเป็น "ความรอบคอบในการลงทุน" มากกว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดจนต้องนำมาประจานแบบ "ความจริงครึ่งเดียว"
บันทึกการเข้า

stromman
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 526



« ตอบ #24 เมื่อ: 14-03-2007, 20:53 »

เข้ามาอ่านทำแต้มอะครับ
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 14-03-2007, 21:04 »

เข้ามาอ่านทำแต้มอะครับ

อิ อิ เมื่อกี้ก็ฟัง สนธิ ทางเน็ต

ท่าทางอยากเป็นนายกซะเอง

ใครทำอะไรก็ไม่ถูกใจ ต้องให้ได้แบบ เจ้าลัทธิสั่ง ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

noppon
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 165



« ตอบ #26 เมื่อ: 14-03-2007, 21:09 »

เพิ่งเข้าใจคำว่า "ชอบแถ" ก็วันนี้เอง 555
บันทึกการเข้า

สมาชิกลำดับที่ #71 ครับ
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #27 เมื่อ: 14-03-2007, 21:11 »

ต้องถาม กระทรวงไอซีทีและการสื่อสารครับ

คงมิใช่เรื่องของ คุณหญิง แต่เพียงอย่างเดียว

จะว่าไป หากมีสามัญสำนึกซักนิด เงินที่รับจากการประกัน ก็คือค่าเสียหายจากช่องสัญญาณที่หายไป

เมื่อได้เงินประกันมา ก็เท่ากับรัฐไม่ต้องจ่ายค่าดูแลรักษาช่องสัญญาณสามารถมี"ช่องสัญญาณเท่าเดิม

 น่าจะเป็น "เรื่องดี" มากกว่าเรื่องเสียหาย

น่าจะเป็น "ความรอบคอบในการลงทุน" มากกว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดจนต้องนำมาประจานแบบ "ความจริงครึ่งเดียว"




นี้จากแนวคิดที่ว่า...เมื่อดาวเทียมไทยคม 3 เป็นของรัฐ...ดังนั้นเงินค่าประกันความเสียหายส่วนนี้ก็ควรต้องตกเป็นของรัฐ.. แต่เงินส่วนนี้ก็ไม่ได้ถูกนำส่งเข้ากระเป๋ารัฐ....
แถมยังนำเอาไปสร้างดาวเทียมดวงใหม่ทดแทนไทยคม 3...ทำให้ไอ้ฮ่อลิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องที่จะได้เรื่องไว้แบล็คเมล์เพิ่มอีกเรื่อง...


แต่หลังจากให้สาวกไปหาข้อมูลมาเพิ่มเพื่อเตรียมถล่มคุณหญิงให้หงายเก๋ง...แต่ตัวมันกลับต้องหงายเก๋งแทน...
เพราะสัญญาที่ทำกับบริษัทประกันระบุไว้ชัดเจนว่า... เงินดังกล่าวจะต้องนำมาเพื่อจัดหาดาวเทียมทดแทน...ไม่ให้นำไปใช้ในกรณีอื่น...

เรื่องนี้ไอ้ฮ่อลิ้มก็เลยทำได้แค่อย่างเดียวคือ...ม๊ายยย ฮับ...ม๊ายฮับ...หมาเห่า...หมาเห่า...โฮ่ง...โฮ่ง...............(ฮา)...

จากคุณ : กระบี่ไร้พ่าย - [ 8 มี.ค. 50 15:12:27 A:220.226.63.254 X: ]

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5204906/P5204906.html


1. ทำไม ต้องมีเงื่อนไขพรรค์นั้น Question
2. ทำไม ต้องนำเงินได้จากบริษัทประกันภัย "พัก" ไว้ที่สิงคโปร์ Question
3. ทำไม เงินจำนวนนั้น "พัก" ไว้ในประเทศไทยไม่ได้หรือ Question


ปล. 1. เจ้าของรถยนต์ที่เคยประกันภัยชั้นหนึ่ง เคยได้รับเงื่อนไข"พิเศษ"อย่างผมหรือไม่ว่า
      ผมสามารถไปซ่อมที่ "อู่ซ่อม" ของผม หรือของบริษัทประกันก็ได้...
      ผมสามารถรับเป็น"เงินสด" หรือ "ใบสั่งซ่อม" อู่ของผม หรือ อู่ของบริษัทประกันก็ได้...
      
     2. รัฐบาล/กระทรวงฯ ไม่สามารถได้รับเงื่อนไข"พิเศษ" อย่างผมเลยหรือ.... Question
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2007, 21:14 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
noppon
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 165



« ตอบ #28 เมื่อ: 14-03-2007, 21:11 »

CanCan รังเกียจ "สนธิ" ไม่ชอบ "ASTV"
แต่เหมือนจะ "ติดตามดู" "สนธิ" ทาง "ASTV" ทุกวัน
ไม่รู้ว่า "ติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน" หรือเปล่า  
บันทึกการเข้า

สมาชิกลำดับที่ #71 ครับ
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 14-03-2007, 21:23 »

ต้องถาม กระทรวงไอซีทีและการสื่อสารครับ

คงมิใช่เรื่องของ คุณหญิง แต่เพียงอย่างเดียว

จะว่าไป หากมีสามัญสำนึกซักนิด เงินที่รับจากการประกัน ก็คือค่าเสียหายจากช่องสัญญาณที่หายไป

เมื่อได้เงินประกันมา ก็เท่ากับรัฐไม่ต้องจ่ายค่าดูแลรักษาช่องสัญญาณสามารถมี"ช่องสัญญาณเท่าเดิม

 น่าจะเป็น "เรื่องดี" มากกว่าเรื่องเสียหาย

น่าจะเป็น "ความรอบคอบในการลงทุน" มากกว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดจนต้องนำมาประจานแบบ "ความจริงครึ่งเดียว"




นี้จากแนวคิดที่ว่า...เมื่อดาวเทียมไทยคม 3 เป็นของรัฐ...ดังนั้นเงินค่าประกันความเสียหายส่วนนี้ก็ควรต้องตกเป็นของรัฐ.. แต่เงินส่วนนี้ก็ไม่ได้ถูกนำส่งเข้ากระเป๋ารัฐ....
แถมยังนำเอาไปสร้างดาวเทียมดวงใหม่ทดแทนไทยคม 3...ทำให้ไอ้ฮ่อลิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องที่จะได้เรื่องไว้แบล็คเมล์เพิ่มอีกเรื่อง...


แต่หลังจากให้สาวกไปหาข้อมูลมาเพิ่มเพื่อเตรียมถล่มคุณหญิงให้หงายเก๋ง...แต่ตัวมันกลับต้องหงายเก๋งแทน...
เพราะสัญญาที่ทำกับบริษัทประกันระบุไว้ชัดเจนว่า... เงินดังกล่าวจะต้องนำมาเพื่อจัดหาดาวเทียมทดแทน...ไม่ให้นำไปใช้ในกรณีอื่น...

เรื่องนี้ไอ้ฮ่อลิ้มก็เลยทำได้แค่อย่างเดียวคือ...ม๊ายยย ฮับ...ม๊ายฮับ...หมาเห่า...หมาเห่า...โฮ่ง...โฮ่ง...............(ฮา)...

จากคุณ : กระบี่ไร้พ่าย - [ 8 มี.ค. 50 15:12:27 A:220.226.63.254 X: ]

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5204906/P5204906.html


1. ทำไม ต้องมีเงื่อนไขพรรค์นั้น Question
2. ทำไม ต้องนำเงินได้จากบริษัทประกันภัย "พัก" ไว้ที่สิงคโปร์ Question
3. ทำไม เงินจำนวนนั้น "พัก" ไว้ในประเทศไทยไม่ได้หรือ Question


ปล. 1. เจ้าของรถยนต์ที่เคยประกันภัยชั้นหนึ่ง เคยได้รับเงื่อนไข"พิเศษ"อย่างผมหรือไม่ว่า
      ผมสามารถไปซ่อมที่ "อู่ซ่อม" ของผม หรือของบริษัทประกันก็ได้...
      ผมสามารถรับเป็น"เงินสด" หรือ "ใบสั่งซ่อม" อู่ของผม หรือ อู่ของบริษัทประกันก็ได้...
     
     2. รัฐบาล/กระทรวงฯ ไม่สามารถได้รับเงื่อนไข"พิเศษ" อย่างผมเลยหรือ.... Question
 



วันนี้คุณหญิงทิพาวดี ถึงพูดไม่ออกครับ ทั้งที่ตัวเองรู้รายละเอียดอยู่แล้ว

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 14-03-2007, 21:37 »

ถึงรู้...บางทีเค้าเฉย ๆ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นชี้แจงแทน

เพราะจริง ๆ ก็คือ มีข้อตกลงทั้งฝ่าย ไอซีทีและการสื่อสาร

ของกล้วย ๆ แบบนี้ จะมีคน แพล็ม "ข้อมูล" ออกมาให้เล่น

มันก็ขึ้นกับว่า "ใคร" จะเล่น "ยังไง"


ที่สำคัญ น่าจะหาข้อมูลเรื่องการเกิด "ไทยคม 5" ที่จะมาทดแทน "ไทยคม 3"

และเมื่อมีทั้ง รมต.และ ปลัดกระทรวง รวมถึง การสื่อสาร ทำไม"หวย" มาออกที่ "คุณหญิง" เพียงคนเดียว

กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา...แบล็คเมล์หรือเปล่า...สนธิ...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2007, 22:34 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #31 เมื่อ: 15-03-2007, 11:48 »

เป็นความจริงที่แป๊ะลิ้มออกมาอาละวาดตอนนี้ บางเรื่องราวกับเด็กไม่ได้ของเล่นดังใจ

แต่ลุงครับ ถ้าแป๊ะไม่ออกมาพูดเรื่องนี้ ใครจะรู้บ้างว่ามันมีบัญชี Escrow อยู่ด้วย

เกิดวันดีคืนดี มีคนเข้าไป "ปันส่วน" ค่า Broker ออกจากบัญชีนี้ สัก 10% นัยว่าเป็นค่าบริหารจัดการ ซึ่งสิงคโปโตก ถนัดเป็นอย่างยิ่ง เงินจะหายไปหลายล้านนะครับ

แป๊ะอาจจะแย่ในสายตาลุง แต่แป๊ะก็มีประเด็นใหม่ ๆ ให้เราใด้ขบคิด หรือจับผิด ลับสมองอยู่เรื่อย ๆ อันนี้มองในแง่คุณูปการก็แล้วกันนะลุง ถ้าไม่มีแป๊ะคอยออกมากระทุ้ง หลาย ๆ เรื่องเราก็ยังคงอยู่ในความมืดแน่นอนเลยครับลุง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2007, 12:31 โดย Limmy » บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #32 เมื่อ: 15-03-2007, 11:55 »

ปล่อย สนธิ แฉไปเถอะครับ .......เปิดประเด็นออกมา ถ้าเป็นเรื่องไม่จริง ก็เป็นการดิสต์เครดิตตัวเอง.....อย่างน้อยหลายเรื่อง ที่สนธิออกมาแฉ มันก็มีความจริงบ้าง อย่างน้อยก็บางเรื่อง.....บางที มีคนอย่างสนธิในสังคมบ้าง ไว้เป็นไม้กันหมา ก็ดีเหมือนกัน......พวกเราเป็นผู้ดูผู้ติดตาม คงต้องใช้วิจารณญาน ไตร่ตรองกันเองว่า อันไหนจริง อันไหนเท็จ อันไหนจริงครึ่ง ไม่จริงครึ่ง.........
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #33 เมื่อ: 15-03-2007, 12:06 »

ก็บอกว่า "ความจริงครึ่งเดียวไงครับ"

ผมถึงตั้งกระทู้ "การครอบงำผู้อื่นเป็นธรรมชาติของมนุษย์"

เพราะเห็นวิธีการ "แบล็คเมล์" แบบนี้แหละ ที่ไม่ชอบ

ลีลาการ "เล่นข่าว" แบบนี้ พวก"สื่อ"ด้วยกันมองออกหมดแหละครับ

เพียงแต่เสียดายว่า..."แมลงวันมักไม่ตอมแมลงวัน"...

ที่สำคัญ...เมื่อไม่มี "แมลงวัน" ตัวอื่น ๆ ตามดูพฤติกรรมกันเอง

การบรรเลงเพลงข่าว สนุกสนานตามแต่ปากจะพาไปด้วยหัวใจโลภมาก

แค่กิตติ สิงหาปัตย์ บอกว่า รสพ.ก็ได้รับเงินชดเชยเรียบร้อย

เท่านั้นแหละ "่สนธ"ิ ก็เก็บมาด่าซะไม่มียั้ง....

บอกตรง ๆ เมื่อคืน ฝืนดูจนจบได้ ก็เพราะอยากรู้ว่า "ไส้พุงของสนธิ" มีกี่ขด แค่นั้นเอง

สภาการหนังสือพิมพ์อยู่ที่ใหน สมาคมวิทยุโทรทัศน์อยู่แห่งใด

ทำไมไม่มีใครลอง ๆ แหย่ ๆ "ศาสดาสนธิ" ซักที อิ อิ

อยากเห็นครับอยากเห็น...

หรือว่าเค้าไม่ยอมรับว่า "ศาสดาสนธิ" เป็น "สื่อ"

แต่เป็น "นักการเมืองในร่างสื่อ"

ถ้าเป็นเช่นนั้น ยิ่งน่าจะต้องนำขึ้นพิจารณาว่า...ศาสดาสนธิ...มีสถานะ..."เป็นอะไร"
บันทึกการเข้า

lucky@winter
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90



« ตอบ #34 เมื่อ: 15-03-2007, 13:04 »


ในโลกของข้อมูลข่าวสาร ความจริง  ความเท็จ โฆษณาชวนเชื่อ ทั้งของรัฐ ของเอกชน ปะปนเกลื่อนกลาดไปหมด

สื่อจะบอกความจริงหรือเท็จอย่างไร ก็ไม่มีผลต่อผู้มีอำนาจหรอก ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเล่าว่า ก็น่าจะชี้แจงความจริงด้วยตัวเอง
สื่อนั้นก็จะหมดความเชื่อถือไปเอง 

ดูแบบเหลี่ยมสิ โดนกล่าวหาแล้วไม่ออกมาชี้แจง คนก็เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ใช้ หวอรูมมาชี้แจงไม่ได้ผลหรอก

ลุงแคนมาชี้แจงแทนก็จะเหมือนกับการใช้หวอรูมของเหลี่ยมนั่นแหละ

บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #35 เมื่อ: 15-03-2007, 13:57 »

ก็บอกว่า "ความจริงครึ่งเดียวไงครับ"

ผมถึงตั้งกระทู้ "การครอบงำผู้อื่นเป็นธรรมชาติของมนุษย์"

เพราะเห็นวิธีการ "แบล็คเมล์" แบบนี้แหละ ที่ไม่ชอบ

ลีลาการ "เล่นข่าว" แบบนี้ พวก"สื่อ"ด้วยกันมองออกหมดแหละครับ

เพียงแต่เสียดายว่า..."แมลงวันมักไม่ตอมแมลงวัน"...

ที่สำคัญ...เมื่อไม่มี "แมลงวัน" ตัวอื่น ๆ ตามดูพฤติกรรมกันเอง

การบรรเลงเพลงข่าว สนุกสนานตามแต่ปากจะพาไปด้วยหัวใจโลภมาก

]แค่กิตติ สิงหาปัตย์ บอกว่า รสพ.ก็ได้รับเงินชดเชยเรียบร้อย

เท่านั้นแหละ "่สนธ"ิ ก็เก็บมาด่าซะไม่มียั้ง.... [/color

บอกตรง ๆ เมื่อคืน ฝืนดูจนจบได้ ก็เพราะอยากรู้ว่า "ไส้พุงของสนธิ" มีกี่ขด แค่นั้นเอง

สภาการหนังสือพิมพ์อยู่ที่ใหน สมาคมวิทยุโทรทัศน์อยู่แห่งใด

ทำไมไม่มีใครลอง ๆ แหย่ ๆ "ศาสดาสนธิ" ซักที อิ อิ

อยากเห็นครับอยากเห็น...

หรือว่าเค้าไม่ยอมรับว่า "ศาสดาสนธิ" เป็น "สื่อ"

แต่เป็น "นักการเมืองในร่างสื่อ"

ถ้าเป็นเช่นนั้น ยิ่งน่าจะต้องนำขึ้นพิจารณาว่า...ศาสดาสนธิ...มีสถานะ..."เป็นอะไร"




]แค่กิตติ สิงหาปัตย์ บอกว่า รสพ.ก็ได้รับเงินชดเชยเรียบร้อย
เท่านั้นแหละ "่สนธ"ิ ก็เก็บมาด่าซะไม่มียั้ง.... [/color


ผมไม่ได้ฟังรายการนี้ จึงไม่วิจารณ์  แต่.....

    ถ้ากิตติฯ บอกว่า รสพ. ได้รับเงินชดเชยเรียบร้อยแล้ว แต่ ไอทีวี ยังไม่ได้รับเงินชดเชย เป็นความ'แตกต่าง'
ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ.....
    ถ้ามองในแง่ รสพ.เป็น'รัฐวิสาหกิจ' แต่ ไอทีวี เป็น'เอกชน' ที่ผู้บริหารเจตนากระทำผิดเงื่อนไข ยิ่งแล้วกันใหญ่


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #36 เมื่อ: 15-03-2007, 14:14 »

ต้องถาม กระทรวงไอซีทีและการสื่อสารครับ

คงมิใช่เรื่องของ คุณหญิง แต่เพียงอย่างเดียว

จะว่าไป หากมีสามัญสำนึกซักนิด เงินที่รับจากการประกัน ก็คือค่าเสียหายจากช่องสัญญาณที่หายไป

เมื่อได้เงินประกันมา ก็เท่ากับรัฐไม่ต้องจ่ายค่าดูแลรักษาช่องสัญญาณสามารถมี"ช่องสัญญาณเท่าเดิม

 น่าจะเป็น "เรื่องดี" มากกว่าเรื่องเสียหาย

น่าจะเป็น "ความรอบคอบในการลงทุน" มากกว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดจนต้องนำมาประจานแบบ "ความจริงครึ่งเดียว"




นี้จากแนวคิดที่ว่า...เมื่อดาวเทียมไทยคม 3 เป็นของรัฐ...ดังนั้นเงินค่าประกันความเสียหายส่วนนี้ก็ควรต้องตกเป็นของรัฐ.. แต่เงินส่วนนี้ก็ไม่ได้ถูกนำส่งเข้ากระเป๋ารัฐ....
แถมยังนำเอาไปสร้างดาวเทียมดวงใหม่ทดแทนไทยคม 3...ทำให้ไอ้ฮ่อลิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องที่จะได้เรื่องไว้แบล็คเมล์เพิ่มอีกเรื่อง...


แต่หลังจากให้สาวกไปหาข้อมูลมาเพิ่มเพื่อเตรียมถล่มคุณหญิงให้หงายเก๋ง...แต่ตัวมันกลับต้องหงายเก๋งแทน...
เพราะสัญญาที่ทำกับบริษัทประกันระบุไว้ชัดเจนว่า... เงินดังกล่าวจะต้องนำมาเพื่อจัดหาดาวเทียมทดแทน...ไม่ให้นำไปใช้ในกรณีอื่น...

เรื่องนี้ไอ้ฮ่อลิ้มก็เลยทำได้แค่อย่างเดียวคือ...ม๊ายยย ฮับ...ม๊ายฮับ...หมาเห่า...หมาเห่า...โฮ่ง...โฮ่ง...............(ฮา)...

จากคุณ : กระบี่ไร้พ่าย - [ 8 มี.ค. 50 15:12:27 A:220.226.63.254 X: ]

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5204906/P5204906.html


1. ทำไม ต้องมีเงื่อนไขพรรค์นั้น Question
2. ทำไม ต้องนำเงินได้จากบริษัทประกันภัย "พัก" ไว้ที่สิงคโปร์ Question
3. ทำไม เงินจำนวนนั้น "พัก" ไว้ในประเทศไทยไม่ได้หรือ Question


ปล. 1. เจ้าของรถยนต์ที่เคยประกันภัยชั้นหนึ่ง เคยได้รับเงื่อนไข"พิเศษ"อย่างผมหรือไม่ว่า
      ผมสามารถไปซ่อมที่ "อู่ซ่อม" ของผม หรือของบริษัทประกันก็ได้...
      ผมสามารถรับเป็น"เงินสด" หรือ "ใบสั่งซ่อม" อู่ของผม หรือ อู่ของบริษัทประกันก็ได้...
     
     2. รัฐบาล/กระทรวงฯ ไม่สามารถได้รับเงื่อนไข"พิเศษ" อย่างผมเลยหรือ.... Question
 



วันนี้คุณหญิงทิพาวดี ถึงพูดไม่ออกครับ ทั้งที่ตัวเองรู้รายละเอียดอยู่แล้ว

 


ความสงสัยนี้ รัฐบาล/รัฐมนตรี/เจ้าหน้าที่คนไหน จะสามารถตอบคำถามของประชาชนได้... Question

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 15-03-2007, 14:21 »

“ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ เงินที่กระทรวงไอทีซีได้รับในฐานะผู้รับประโยชน์ร่วม จะต้องนำส่งคลังก่อนหรือไม่ จากนั้นค่อยส่งออกไป ดังนั้น ส่วนตัวเห็นด้วยถ้าจะมีการส่งประเด็นดังกล่าวไปถามคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้มีความชัดเจนในขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ สำหรับให้ข้าราชการยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ สำหรับการทำงานของดิฉันตอนที่เป็นปลัดกระทรวงไอซีที ดิฉันก็ยืนยันว่า ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมา รอบคอบ ได้ตั้งคณะทำงานไปดู เมื่อเสนอความเห็นมาว่าจ่ายให้บริษัทฯ ได้ ดิฉันก็เสนอผ่านขึ้นไปให้รัฐมนตรี” คุณหญิงทิพาวดีกล่าว

คุณหญิงทิพาวดี กล่าวด้วยว่า การหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาตรวจสอบ ตนถือว่าไม่มีปัญหา การทำงานของตนที่ผ่านมา มีขั้นตอนการปฏิบัติและมีการพิจารณาร่วมกัน รวมทั้งดูข้อกฎหมายในข้อสัญญาต่าง ๆ และเมื่อมาเป็นรัฐมนตรีก็พร้อมรับการตรวจสอบ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความโปร่งใสในระบบราชการ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของกระทรวงไอซีทีที่มีมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 ดังนั้น รายละเอียดต่าง ๆ ขอให้ไปถามรัฐมนตรีว่าการฯ และปลัดกระทรวงไอซีทีคนปัจจุบัน

http://www.posttoday.com/breakingnews.php?sec=breaking&id=154296

คุณหญิงทิพาวดี ยังเห็นด้วยที่จะให้มีการตรวจสอบประเด็นนี้

ดังนั้น ถ้าประชาชนก็ได้ประโยชน์จากการตรวจสอบ

สนธิ ลิ้ม พูดมันจะเสียหายอะไร หากถือเป็นเครดิตของสนธิ ลิ้ม ก็ยังได้

...

อีกในมุมมองหนึ่ง

เป็นธรรมดา ในมุมมองของคนรักทักษิณ จะเห็นตรงข้าม

เห็นว่าที่สนธิ ลิ้มพูด เป็นสิ่งเลวร้ายไปหมด

Cool
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #38 เมื่อ: 15-03-2007, 15:31 »

พฤติกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
บันทึกการเข้า

best
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #39 เมื่อ: 15-03-2007, 15:42 »

เป็นไง คุณแคน

ระหว่างเถียงกับสาวกสนธิ กับเถียงกับลิ่วล้อเหลี่ยม แบบไหนสนุกกว่ากัน
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #40 เมื่อ: 15-03-2007, 16:40 »

Yeahhhhhhhhhhh......และแล้วลุงแคนของนู๋ก็เป็นสมาชิกคนแรกในเว๊บนี้ที่ตาสว่าง


เมื่อมีเบอร์หนึ่งเกิดขึ้น....เบอร์ สอง  สาม  สี่........ย่อมตามมาไม่ช้าก็เร็วคร้า 
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 15-03-2007, 16:56 »

ข่าวมติชนวันนี้ ดูซิตรงกันมั๊ย
.................................

นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวว่า กระทรวงไอซีทีได้รวบรวมรายละเอียดเพื่อเตรียมส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความแล้ว ในประเด็นที่ว่า เงินค่าประกันที่ได้ จะต้องโอนให้กับหน่วยงานใดระหว่างบริษัท ชิน แซทเทลไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ กระทรวงไอซีที คาดว่าจะยื่นให้กฤษฎีกาพิจารณาได้ในเร็วๆ นี้

"ตอนนี้เงินค่าประกันอยู่กับชินแซทฯ และส่วนหนึ่งได้ใช้เพื่อสร้างดาวเทียมดวงใหม่ไปแล้ว ส่วนหลังจากกฤษฎีกาตีความแล้ว จะเรียกคืน หรือดำเนินการอย่างไรต่อไป ต้องรอให้กฤษฎีกาตีความก่อน และจะเป็นการเสียมารยาทที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะคุณหญิงทิพาวดีอยู่ในรัฐบาลเดียวกัน" นายสิทธิชัยกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงไอซีทีกล่าวว่า สาเหตุของเรื่องนี้มาจากการที่ดาวเทียมไทยคม 3 มีปัญหาหน่วยพลังงานเสื่อม ทำให้ช่องสัญญาณบางช่องไม่สามารถใช้งานได้ พื้นที่ในการใช้ดำเนินธุรกิจจึงมีน้อยลง ไม่คุ้มต่อการลงทุน ทางชินแซทฯจึงผลักดันให้ดาวเทียมไทยคม 3 ออกจากวงโคจร และยิงดาวเทียมไทยคม 5 ขึ้นไปแทน ซึ่งความสูญเสียที่เกิดขึ้นทางบริษัทที่รับประกันก็ได้จ่ายเงินค่าประกันกลับคืนมา แต่แทนที่ทางบริษัทชินแซทฯ จะนำเงินส่งให้กระทรวงไอซีที เนื่องจากดาวเทียมถือว่าตกเป็นทรัพย์สินของกระทรวงไอซีทีตามสัญญาสัมปทาน แต่กลับมีการเปิดบัญชีรับเงินประกันในประเทศสิงคโปร์ หลังจากนั้นก็มีการอนุมัติให้สามารถใช้เงินดังกล่าวในการดำเนินธุรกิจได้



http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0114150350&day=2007/03/15&sectionid=0101
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #42 เมื่อ: 15-03-2007, 23:45 »

เป็นไง คุณแคน

ระหว่างเถียงกับสาวกสนธิ กับเถียงกับลิ่วล้อเหลี่ยม แบบไหนสนุกกว่ากัน

พอ ๆ กันครับ อิ อิ

คือชอบพูดความจริงครึ่งเดียวกันเป็นส่วนใหญ่

ดังนั้น หากเราไม่อยากตกเป็นเหยื่อหรือถูกครอบงำ ก็ต้องแสวงหา "ข้อเท็จจริงทุกด้าน"


แต่จับโกหก "สนธิ" ง่ายกว่ากันเยอะเลย ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

ฮอยล้อ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 99


A Night Firefly


« ตอบ #43 เมื่อ: 16-03-2007, 04:09 »

  เอ......ทำให้สงกะสัยว่า...
can can ....ไม่มีเวทีเล่น...
เลย...หาเครดิดให้ตัวเอง   อะปล่าวววนิ...
....ถ้าใช่ละ........โอ้...เวรกรรมๆๆๆ
บันทึกการเข้า

"Power without justice is brutal
Justice without power is a mere suggestion"
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 16-03-2007, 06:25 »

เหลิม สนธิ เหลี่ยม อิทธิวัฒน์  สี่เกลอหัวแข็ง ชั่วกันมานานแล้วครับ
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #45 เมื่อ: 16-03-2007, 11:15 »

อิทธิวัฒน์ เพียรเลิศ เหรอ...อืมม ตำรวจรุ่นพี่ทักษิณนะ อิ อิ

รู้สึกจะเรียนวิศวะ...

เหลิม ดาวเทียม ต้องถาม พี่เด็ด พญาไม้ ผู้ตั้งฉายาให้

คนนี้รู้สึกคบกันมาตั้งแต่สมัยเหลิมอยู่ "ลุมพินี"
บันทึกการเข้า

The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #46 เมื่อ: 16-03-2007, 17:26 »

เป็นไง คุณแคน

ระหว่างเถียงกับสาวกสนธิ กับเถียงกับลิ่วล้อเหลี่ยม แบบไหนสนุกกว่ากัน

พอ ๆ กันครับ อิ อิ

คือชอบพูดความจริงครึ่งเดียวกันเป็นส่วนใหญ่

ดังนั้น หากเราไม่อยากตกเป็นเหยื่อหรือถูกครอบงำ ก็ต้องแสวงหา "ข้อเท็จจริงทุกด้าน"


แต่จับโกหก "สนธิ" ง่ายกว่ากันเยอะเลย ฮ่า ฮ่า



ว้า....แบบนี้ท่านพ่อสนธิก็อดแหกตาสาวกอ่ะดิ๊   น้องเมียเศร้าใจจัง.....เฮ้ออออออออออ 
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #47 เมื่อ: 19-03-2007, 00:12 »


ชี้โอนเงินประกัน"ดาวเทียม" ส่อผิดกม.-โทษอาญา-แพ่ง



ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายการคลังชี้ ไอซีทีโอนเงินประกันดาวเทียมไทยคม กว่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปสิงคโปร์ ส่อเข้าข่ายฝ่าฝืน กม.วิธีการงบประมาณ-เงินคงคลัง เพราะไม่ได้ขออนุมัติจาก รมว.คลัง มีโทษอาญาและแพ่ง รมว.ไอซีทีออกตัวเป็นคนหัวโบราณ ดันเลิกแปรรูป "กสท-ทีโอที" ระบุเป็นสมบัติชาติและเกี่ยวกับความมั่นคง หวั่นเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วควบคุมลำบาก



นายปรีชา สุวรรณทัต อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายการคลังให้สัมภาษณ์ "มติชน" เมื่อวันที่ 17 มีนาคม กรณีที่คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงที่ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้โอนเงินค่าประกันดาวเทียมไทยคม 3 กว่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบัญชีร่วมกันระหว่างกระทรวงไอซีทีกับบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ประเภทบัญชีเอสโครว์ว่า สัญญาดังกล่าวระบุว่าเงินประกัน 33 ล้านเหรียญ ที่บริษัทประกันภัยจ่ายให้เป็นค่าสินไหมทดแทนให้กับดาวเทียมไทยคม 3 เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมระหว่างกระทรวงไอซีทีกับบริษัท ชินแซทฯซึ่งตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502 มาตรา 24 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า บรรดาเงินที่ส่วนราชการได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ไม่ว่าจะได้รับตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับ หรือได้รับชำระตามอำนาจหน้าที่หรือสัญญาหรือที่ได้รับจากการใช้ทรัพย์สิน หรือเก็บดอกผลจากทรัพย์สินของราชการ ให้ส่วนราชการที่ได้รับเงินนั้นนำส่งคลังตามระเบียบหรือข้อบังคับที่รัฐมนตรีกำหนด เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดเป็นอย่างอื่น

นายปรีชากล่าวว่า เมื่อสัญญาดังกล่าวระบุว่าเงินประกันเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมระหว่างกระทรวงไอซีทีกับบริษัท ชินแซทฯ ก็คือเงินที่ส่วนราชการได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ตามสัญญา แม้ว่าสัญญาจะเขียนไว้ให้ไปใส่ไว้ในบัญชีเอสโครว์ แต่สัญญาไม่สามารถยกเว้นกฎหมายได้คือ ต้องนำส่งเข้าคลังตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เงินดังกล่าวเป็นเงินค่าสินไหมทดแทนที่ชดใช้ค่าเสียหายอาจไม่ต้องนำส่งคลังก็ได้ ถ้านำไปใช้จ่ายเพื่อซ่อมแซมบูรณะทรัพย์สินที่เสียหายให้กลับคืนมา (มาตรา 24 วรรคสี่ (1)) แต่ต้องขออนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก่อน ซึ่งกรณีดังกล่าวก่อนที่จะโอนเงินไปต่างประเทศไม่รู้ว่า กระทรวงไอซีทีได้ขออนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่

นายปรีชากล่าวว่า ข้าราชการหรือลูกจ้างผู้ใดของส่วนราชการกระทำก่อหนี้ผูกพันหรือจ่ายเงินหรือโดยรู้อยู่แล้วว่า ยินยอมอนุญาตให้กระทำการดังกล่าวนั้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายนี้ นอกจากความรับผิดทางอาญาซึ่งอาจได้รับตามกฎหมายแล้ว ผู้กระทำหรือผู้ยินยอมอนุญาตให้กระทำดังกล่าว จะต้องรับผิดชอบชดใช้จำนวนเงินที่ส่วนราชการได้จ่ายไปหรือต้องผูกพันจะต้องจ่าย ตลอดจนค่าสินไหมทดแทนใดๆ ให้แก่ส่วนราชการนั้น (มาตรา 26)

นายปรีชากล่าวว่า การโอนเงินประกันดังกล่าวไปต่างประเทศนอกจากเสี่ยงต่อการฝ่าฝืน พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณแล้ว ยังอาจฝ่าฝืน พ.ร.บ.เงินคงคงคลัง พ.ศ.2491 มาตรา 4 ที่กำหนดให้เงินทั้งปวงที่พึงชำระให้แก่รัฐบาลไม่ว่าเป็นกรณีภาษีอากร ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ เงินกู้หรือเงินอื่นใด หัวหน้าส่วนราชการที่ได้เก็บหรือได้รับเงินนั้นมีหน้าที่ควบคุมให้ส่งเข้าบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 1 โดยไม่หักเงินไว้เพื่อการใดๆ เลย อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจกำหนดข้อบังคับอนุญาตให้หัวหน้าส่วนราชการ หักรายจ่ายจากเงินที่จะต้องนำส่งเข้าบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 1 ได้ในบางประเภท เช่น จ่ายให้แก่บุคคลใดๆ เพราะเป็นเงินอันไม่พึงต้องชำระให้แก่รัฐบาลซึ่งต้องดูว่า เงินประกันดังกล่าวเข้าข้อยกเว้นและมีระเบียบชัดเจนหรือไม่

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษอย่างไม่เป็นทางการ ถึงแนวคิดการยกเลิกการนำบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) แปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ ว่า 2 หน่วยงานนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงจึงไม่เหมาะสมที่เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เพราะเท่ากับเอาสมบัติของชาติไปขายให้เอกชนและการควบคุมจะเป็นไปอย่างลำบาก ดังนั้นหน่วยงานนี้ควรจะเป็นสมบัติของแผ่นดินต่อไป เพื่อให้การควบคุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่คิดว่าทั้งสองหน่วยงานนี้จะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวเองในการทำงานด้วย

"ผมอาจจะอายุเยอะแล้วและเป็นคนหัวโบราณ ผมไม่เห็นด้วยที่จะเอารัฐวิสาหกิจไปเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้เชื่อว่าพนักงานทุกคนอยากเป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่มีใครอยากจะไปเป็นบริษัทเอกชน" นายสิทธิชัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดนี้จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนหรือไม่เพราะนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจกลับไปกลับมาหลายครั้ง นายสิทธิชัยกล่าวว่า รัฐบาลนี้ไม่เคยกลับไปกลับมา ตนบอกตั้งแต่ต้นเลยว่าไม่เห็นด้วย ไม่เคยกลับไปกลับมา

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ก็มีรัฐวิสาหกิจบางแห่งกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว นายสิทธิชัยกล่าวว่า ก็เขาเปลี่ยนผิด และในความคิดของตนเห็นว่ามันผิดเราจะปล่อยให้ผิดไปอย่างนั้นหรือ ทั้งนี้ตนจะพยายามผลักดันเรื่องการนำรัฐวิสาหกิจกลับมาเหมือนเดิมให้ได้ แต่ไม่ทราบว่าจะทันหรือไม่ แต่พยายามจะเริ่มไว้ก่อน และถือว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่โชคดีที่แปรรูปไม่ทัน

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0113180350&day=2007/03/18&sectionid=0101


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2007, 00:18 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #48 เมื่อ: 19-03-2007, 00:17 »

1. ทำไม ต้องมีเงื่อนไขพรรค์นั้น
2. ทำไม ต้องนำเงินได้จากบริษัทประกันภัย "พัก" ไว้ที่สิงคโปร์
3. ทำไม เงินจำนวนนั้น "พัก" ไว้ในประเทศไทยไม่ได้หรือ

ปล. 1. เจ้าของรถยนต์ที่เคยประกันภัยชั้นหนึ่ง เคยได้รับเงื่อนไข"พิเศษ"อย่างผมหรือไม่ว่า
      ผมสามารถไปซ่อมที่ "อู่ซ่อม" ของผม หรือของบริษัทประกันก็ได้...
      ผมสามารถรับเป็น"เงินสด" หรือ "ใบสั่งซ่อม" อู่ของผม หรือ อู่ของบริษัทประกันก็ได้...
     
     2. รัฐบาล/กระทรวงฯ ไม่สามารถได้รับเงื่อนไข"พิเศษ" อย่างผมเลยหรือ....

 

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: