'สนธิ' ไฟเขียวนายกฯ คนนอก ปัดล็อบบี้ 'ประสงค์' 12 มีนาคม พ.ศ. 2550 08:00:00
ประธาน คมช.ไม่ขวางข้อเสนอกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ นายกฯ ไม่ต้องเป็นส.ส. ปัดไม่เคยหารือประธานยกร่าง เตรียมจัดสัมมนา รธน.ในมุมมองทหาร 14-16 มี.ค.กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : จากข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยเห็นควรเปิดช่องทางให้นายกรัฐมนตรีมาจากเสียงข้างมากของ ส.ส.ซึ่งได้รับการต่อต้านจากหลายฝ่ายนั้น
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ให้เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการยกร่างฯ และสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เนื่องจากเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และ คมช.ก็ไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายการร่างรัฐธรรมนูญ ตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์
ผมไม่รู้ ไม่เคยคุยกันกับน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเลย ไม่เคยคุยกับคณะ ส.ส.ร.ด้วยซ้ำ ก็แล้วแต่ทางนั้น พล.อ.สนธิ กล่าว ขณะที่พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกระทรวงกลาโหม และในฐานะหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวว่า คมช.ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ คมช. คงยังไม่มีความเห็นอะไรเรื่องนี้ เพราะ คมช.จะเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความเห็นร่างรัฐธรรมนูญก็ต่อเมื่อร่างรัฐธรรมนูญใกล้เสร็จสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง คมช.ไม่หวั่นเกิดการต่อต้านจากประชาชนเหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬใช่หรือไม่ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยกร่างฯ คงพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าจะเป็นทางออกของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 ล็อกกรอบไว้ให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง และต้องเป็น ส.ส.เมื่อถึงจุดอับจนที่รัฐธรรมนูญไม่สามารถแก้ไขได้เหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมา แนวทางนี้น่าจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหา และเพื่อไม่ให้เราหันไปหาช่องทางนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวจะเกิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่ามีพฤติกรรมเช่นไร
"ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากรัฐธรรมนูญ แต่เกิดจากตัวบุคคลว่าเป็นอย่างไร ซึ่งแนวทางนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นการล็อกไม่ให้มีทางออก ทำให้รัฐธรรมนูญถึงทางตัน เรียกร้องนายกรัฐมนตรีพระราชทาน และเมื่อเข้าตาจน จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยทหารขึ้น" ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการ คมช.จะจัดสัมมนาเกี่ยวกับการเตรียมการมีรัฐธรรมนญูฉบับใหม่ของทหาร ซึ่งจะเป็นการสัมมนาเพื่อระดมสมองพิจารณาข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญในมุมมองของทหาร โดยจะเชิญทหารระดับสูงในกองทัพตั้งแต่ระดับกองพลขึ้นไปประมาณ 80-100 คน เข้าร่วมสัมมนาในระหว่างวันที่ 14-16 มีนาคมนี้ ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ หาดจอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี เบื้องต้น พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการคมช. จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดสัมมนาในวันที่ 14 มีนาคมนี้ และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธาน คมช.จะเป็นประธานปิดในวันที่ 16 มีนาคม
"เกริกเกียรติ"ดับฝันนายกฯคนนอก ด้านนายเกริกเกียรติ พิพัฒนเสรีธรรม กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวบรรยายในการเสวนา ว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ถือว่าเป็นฉบับหนึ่งที่ให้สิทธิเสรีภาพกับประชาชนไว้มากที่สุด กว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมา โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับนี้กรรมาธิการยกร่างฯ ทุกคนมีความเห็นพ้องกันว่าต้องมีการปฏิรูประบบการศึกษา รัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารงานจะต้องยึดเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยจะต้องจัดสรรงบประมาณให้กับกระทรวงศึกษาธิการเป็นอันดับแรก และค่อยเจียดจ่ายไปให้กับกระทรวงอื่น ซึ่งหากไม่เพียงพอจะต้องพิจารณาจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เพราะคุณภาพของคนถือว่าเป็นหัวใจของการปฏิรูปการเมืองและการแก้ไขปัญหาความยากจน
ส่วนประเด็นที่น.ต.ประสงค์ ได้แสดงความเห็นว่า ควรจะเปิดช่องที่มาของนายกรัฐมนตรีสามารถมาจากคนนอกได้นั้น ขอยืนยันว่าประเด็นนี้ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ความเห็นที่ออกมานั้น น่าจะเป็นการล้อเล่นของน.ต.ประสงค์ ที่ต้องการที่จะผ่อนคลายความตึงเครียดของสมาชิกในระหว่างการประชุม
เพราะจากการพูดคุยในวงนอกมีกรรมาธิการไม่น้อยกว่า 30 คน ที่มีความเห็นพ้องกันว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องมาจาก ส.ส.ในระบบเขตเลือกตั้งเท่านั้น ส่วนที่มีความเห็นว่านายกฯ สามารถมาจากคนนอกได้นั้นมีเพียงส่วนน้อย ซึ่งเรื่องนี้มีสิทธิที่แสดงความคิดเห็นได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่คนระดับประธานคณะกรรมาธิการออกมาแสดงความคิดเห็นนั้น จะทำให้ภาพที่ออกมาสู่สังคมว่าจะมีการล็อกสเปคเอาไว้หรือไม่ นายเกริกเกรียรติ กล่าวว่า เท่าที่ดูยังไม่เห็นว่ามีพิพม์เขียว ซึ่งหากมีจริง เรื่องนี้ไม่สามารถจะมาปิดปากเขาได้ และหากเขาจะต้องออกมาปิดอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้อยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมาธิการว่าจะยกร่างขึ้นไปอย่างไร เมื่อหากยกร่างขึ้นไปแล้วโอกาสที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องที่จะง่ายนัก และเชื่อว่าใน ส.ร.ร.ทั้ง 100 คน กว่า 90 % ก็มีความคิดเห็นตรงกันว่าไม่ควรที่จะไปฝืนความรู้สึกของประชาชน
ประชามติล่มโยนรัฐบาลเฉี่อยเป็นเหตุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มนักวิชาการและภาคประชาชนมีความเป็นห่วงว่าร่างรัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านกระบวนการทำประชาพิจารณ์ นายเกริกเกียรติ กล่าวว่า เรามีหน้าที่อย่างไรก็จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านไม่ใช่อำนาจของเรา แต่ขอยืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับที่ดีที่สุด ซึ่งหากไม่ผ่านการทำประชามติก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องของการเนื้อหาในตัวร่าง
เพราะนี่ขนาดยังไม่ได้เขียนก็มีกลุ่มไอเซย์โนขึ้นมาแล้ว ซึ่งก็ยังไม่มีการถกเถียงกันเลย ก็มีเสียงบอกว่าไม่เอาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว เรื่องร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านนี้ ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องของเกมการเมือง ไมใช่อยู่ที่เนื้อหาว่าตัวหรือไม่ กระบวนการนี้เกิดความหน่อมแน้มของรัฐบาล และคมช.เอง ที่ไม่ยอมสั่งอายัดทรัพย์ของกลุ่มขั้วอำนาจเก่ามาตั้งแต่แรก ทำให้มีการต่อท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มต่างๆ ได้ออกมาเคลื่อนไหวได้"
http://www.bangkokbiznews.com/2007/03/12/WW10_WW10_news.php?newsid=58382 'สนธิ' กำลังชี้นำ ประสานเสียงกับ 'ประสงค์' แล้ว
แต่ไม่กล้าพูดความจริงจากใจ.......... อย่าให้คนไทยที่ต่อต้านรัฐประหารคราวนี้ ทำให้คนไทยที่ยอมรับและ'เข้าใจ'การรัฐประหารคราวนี้ ลำบากใจ และ ผิดหวัง เปลี่ยนใจใหม่ ต่อต้าน คมช.และ รัฐบาลนี้เลย.....
อย่าให้คำว่า 'ตะเภาเดียว'กันเป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทยที่สนใจการเมืองเลย.... "ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากรัฐธรรมนูญ แต่เกิดจากตัวบุคคลว่าเป็นอย่างไร ซึ่งแนวทางนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นการล็อกไม่ให้มีทางออก ทำให้รัฐธรรมนูญถึงทางตัน เรียกร้องนายกรัฐมนตรีพระราชทาน และเมื่อเข้าตาจน จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยทหารขึ้น" อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงความต้องการของกลุ่มผู้มีอำนาจในขณะนี้ เลย
คนที่มีความคิดไร้เรียงสา จึงเชื่อว่า 'รักษาการนายกฯ'ในขณะนั้น จะยินยอมให้มี 'นายกฯคนนอก'ที่ไม่ใช่พวกของเขา......