ประธานศาลปกครองสูงสุด ย้ำคดีที่อดีตพนักงานไอทีวีฟ้องเพิกถอนมติ ครม.ห้ามระงับออกอากาศยังดำเนินต่อไป เพราะคลื่นยูเอชเอฟเป็นคลื่นสาธารณะ ไม่ควรหยุดแพร่ภาพ ขณะเดียวกัน เตือน สปน.บริหารคลื่นไม่ถูกต้องอาจถูกฟ้องได้ วันนี้ (9 มี.ค.) นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลปกครองชั้นต้น มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี หรือ ไอทีวี เดิม ว่า ศาลเห็นว่าคลื่น UHF ที่ให้สัมปทานไป เพื่อเป็นสัมปทานสาธารณะ ซึ่งสัมปทานสาธารณะดังกล่าวไม่ควรได้รับผลกระทบให้หยุดดำเนินการเผยแพร่ภาพ จึงมีคำสั่งให้มีการเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ศาลไม่ได้บอกว่า คำว่า ต่อเนื่อง ให้ทำอย่างไร หรือมอบให้ใครทำ
ตรงนั้นเป็นเรื่องของเจ้าของคลื่น คือ สำนักงานสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ต้องไปพิจารณาว่าต้องทำอย่างไร โดยวิธีการจะถูกหรือผิด ไม่เกี่ยวกับศาล และตรงนั้นยังเป็นปัญหาที่จะต้องไปถกเถียงกันว่า สัญญาที่ถูกเป็นอย่างไร และอะไรที่ไม่ถูก โดยการดำเนินการของ สปน.นับจากนี้ หากมีการใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถถูกฟ้องร้องดำเนินการได้ นายอักขราทร กล่าว
นายอักขราทร กล่าวว่า แม้คณะกรรมการกฤษฎีกาจะวินิจฉัย ว่า กรมประชาสัมพันธ์สามารถเข้าไปบริหารไอทีวีได้ และนายกรัฐมนตรีจะให้มีการแพร่ภาพอย่างต่อเนื่องไม่ให้หยุดชะงัก ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำฟ้องของพนักงานของไอทีวี ที่ให้มีการเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรี ที่สั่งไอทีวีระงับการออกอากาศเป็นการชั่วคราว โดยเนื้อคดีหลักศาลก็ต้องมาพิจารณา ไม่ใช่พอผู้มีอำนาจสั่งให้เปิดดำเนินการแล้ว คดีที่ฟ้องอยู่ก็เป็นอันจบไป เพราะเรื่องคดีความจะมาฮั้วกันไม่ได้
ที่มา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000028030*********************
สงสัยจะมีคนติดคุกจริงๆละทีนี้ ศาลเขาแค่ให้แพร่ภาพต่อเฉยๆไม่ได้บอกต้องเอาภาษีประชาชนไปอุ้มพนักงาน
ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฏหมายข้ออื่นๆด้วยนี่คือการส่งสัญญาณเตือนถึงนายกซื่อบื้อ