ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 07 มีนาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10588
ลางร้าย ไทยรักไทย เนื่องแต่ ผล "เอแบคโพลล์" แนวโน้ม ยุบพรรค-สูง
คอลัมน์ วิภาคแห่งวิพากษ์
มีคำตอบต่อบางคำถามจากประชาชนภายในกระบวนการสำรวจความเห็นประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลของ "เอแบคโพลล์" ที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง
แม้ว่าจะเป็นการสำรวจจากเพียง 1,420 กลุ่มตัวอย่าง
แม้ว่าหัวข้อหลักของการสำรวจจะเป็น "วิจัยฐานการเมืองและการปรับคณะรัฐมนตรีในสายตาประชาชน"
น้ำหนักของผลสำรวจยังสะท้อนถึงความนิยมที่ยังมีต่อรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
กระนั้น ก็ปรากฏบางฐานข้อมูลที่ไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ ต่อคำถามที่ว่า หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกพรรคการเมืองใดแม้ว่า 50.6% ของกลุ่มตัวอย่างจะระบุว่า ยังไม่มีพรรคที่ชอบ
แต่ 22.0% ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่าเลือกพรรคไทยรักไทย 16.1% เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 4.2% เลือกพรรคชาติไทย 1.7% เลือกพรรคอื่นๆ
เป็นผลจากการสำรวจระหว่างวันที่ 3-4 มีนาคม 2550
ทั้งๆ ที่เป็นการสำรวจในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มิได้เป็นการสำรวจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือและภาคกลางขณะเดียวกัน หากลงลึกไปในรายละเอียดของการสอบถามถึงความเชื่อถือศรัทธาสนับสนุนเปรียบเทียบระหว่าง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
37.1% ของกลุ่มตัวอย่างยังเชื่อถือ ศรัทธา สนับสนุน ต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
26.5% ของกลุ่มตัวอย่างยังเชื่อถือ ศรัทธา สนับสนุน ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ที่ควรให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษก็คือ 36.4% ของกลุ่มตัวอย่างตอบในช่อง ไม่มีความเห็น
ที่ควรให้ความสนใจเพราะว่า 36.4% นี้แหละคือตัวแปร
เป็นตัวแปรที่อาจเทให้กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และเป็นตัวแปรที่อาจเทให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
"เอแบคโพลล์" ยังระบุด้วยว่า
"เมื่อจำแนกออกตามกลุ่มอาชีพ พบว่าประชาชนยังคงเชื่อถือ ศรัทธา สนับสนุน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพียง 30.1% ขณะที่ 34.0% เชื่อถือ ศรัทธา สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
แสดงว่าฐานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ที่กลุ่มรับจ้างแรงงานทั่วไป
ผลสำรวจที่ออกมา เช่นนี้ค่อนข้างแปลกเมื่อคำนึงความเป็นจริงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกขุดคุ้ยโจมตีอย่างรุนแรงนับแต่เดือนกันยายน 2548 เป็นต้นมา
ยิ่งภายหลังรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ยิ่งถูกชำระล้างอย่างเป็นระบบ
ภาระหน้าที่ของ "รัฐบาล" และ "คมช." ล้วนถือเอาการบดขยี้ชื่อเสียงและเกียรติภูมิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นภาระหน้าที่หลัก
บางคนมาดหมายถึงขั้นจะเอาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็น "สุสาน" ฝังประจานศพด้วยซ้ำ
แม้ปาฐกถาพิเศษของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เนื่องในวาระ 52 ปี สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2550 ก็ถึงกับสรุปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า
"ไม่สมควรที่จะเรียกตนเองว่าเป็นคนไทย"
การที่ผลการสำรวจความเห็นประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลบ่งชี้ออกมาเช่นนี้จึงนับว่าเหลือเชื่อ
เหลือเชื่อว่าเหตุปัจจัยอะไรยังทำให้มีคนเชื่อถือ ศรัทธา สนับสนุน อยู่
และหากมองภาพกว้างออกไปยังฐานการเมืองเดิมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ก็ยิ่งน่าเป็นห่วง
น่าเป็นห่วงว่า "คปค." ที่แปรมาเป็น "คมช." ยังต้องทำงานหนักอีกเป็น 10 และ 20 เท่า
ฐานข้อมูลที่ปรากฏผ่าน "โพล" เช่นนี้ไม่น่าจะเป็นผลดีกับพรรคไทยรักไทยเท่าใดนัก
อย่างน้อยที่สุด แรงผลักดันในเรื่องยุบพรรคไทยรักไทยก็จะยิ่งขึ้นสู่กระแสสูง ประสานกันไปกับแรงผลักดันในสิ่งที่เรียกว่าตุลาการภิวัตน์ของปัญญาชนสาธารณะบางท่าน
เพราะว่าเป้าหมายของการอภิวัตน์คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0103090350&day=2007/03/09§ionid=0101ข่าวนี้น่าจะสร้างกำลังใจ พลังใจให้คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ที่ทุ่มเทแรงเงิน แรงใจ ไปเยอะ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
