ความทรงจำเก่าๆ "ครั้งหนึ่ง ... แสนหกกับควาย"

[100600]

(ขอเกริ่น วอร์มเครื่องก่อนซักแล้วตาก 11 บรรทัด รวมบรรทัดนี้ ฮ่าฮ่า)

เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นมานานนอมอแล้ว ก็นานราวๆร่วมๆ ~20 ปีก่อนปู้นน
เด๋วก่อนนะ (2549 - 2531 ก็ = 18 ปีก่อน ... ใช่แล้วๆๆๆ)

เรื่องราวที่จะเล่านี้ เกิดขึ้นที่ไหนเหรอ
เกิดขึ้น ณ ท้องทุ่งลาดกระบัง ย่านหัวตะเข้ โค้งยัยจ้อย ไง ฮ่าฮ่า
เอ่ะเอ่ะ ท่านก็คงจะนึกไม่ออกอยู่ดี กับสถานที่นี้กันหร๊อก (เน๊อะ)

งั้นลงปจว. ... บันทึกวัน เวลา สถานที่ ให้ตรงกับเรื่องจริง
เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการเล่าความทรงจำ "ครั้งหนึ่ง ... แสนหกกับควาย" ก็แล้วกัน ฮ่าฮ่า

ท้องทุ่งลาดกระบัง ย่านหัวตะเข้ โค้งยัยจ้อย
พูดให้นึกออกกันง่ายๆ ... ทางคน 10 กม. ทางควาย 5 กม. ทางแม้วบินตรงไม่น่าเกิน 2.5 กม.จะไปเจอ สุวรรณภูมิ Golden Land
สนามบินหมื่นๆๆๆปีอันแสนจะภาคภูมิใจในมหากาพย์ มหาโกง ไร้คอรัปชั่น CTX-9000 ของเราไง ฮ่าฮ่า






มาๆ เข้าเรื่องกัน .. ความทรงจำเก่าๆ "ครั้งหนึ่ง ... แสนหกกับควาย" .. ฮ่าฮ่า อิ๊อิ๊ เอิ๊ก เอิ๊ก กกก


4 โมงเย็น 2531 ...
ชาวนาหนุ่มใหญ่แห่งท้องทุ่งลาดกระบัง ย่านหัวตะเข้ โค้งยัยจ้อย วัยราว 40
ขี่ปิคอั๊พมาจอดหน้ากระต๊อบกิจกรรมนักศึกษา หน้าตาตื่นมาขอความช่วยเหลือ
ขอให้ผมไปช่วยควาย ... ควายจริงๆครับ ควายตัวเป็นๆ ควายน่ะควาย ควายของแกเอง

ควายของพี่ชาวนาแกเดินไปติดหล่มปรัก นอนแช่ตัวอยู่ในหนองน้ำโคลนท้องนาปลายหัวโค้งยัยจ้อยมานาน 1 คืนกับ 1 วัน

ผม "หมอควาย แสนหก" (เขียนแยกกันชัดเจนแล้วนะ อย่าแซวกันนะครับ ... คนพันทิพ/ราชดำเนิน มาเก่าก่อน รู้ทางกันดี ฮ่าฮ่า)
ผมกับรุ่นน้อง "หมอควาย" ด้วยกัน 18 - 20 คน ชาย/หญิง กระโดดขึ้นรถพี่ชาวนา ขี่ท้ายปิ๊กอั๊พ จุดมุ่งหมาย ไปกู้ควาย

พวกเราไปถึง ก็ผูกปมปลายเชือก ตามหลักวิชาการที่ร่ำเรียนกันในห้องเรียนมานาน รัดสวาปตามสูตรดึงฉุดลากควาย

ถึงจะอัตราส่วน 8 แรงฮึดหมอควายชาย กับ 12 แรงเชียร์ หมอควายสาวๆ ... ก็เห๊อะ
ฮุ้ยเลฮุ้ยยยย ... ดึงงงๆๆ ... ฉุดดดดดๆๆๆ ... ลากๆๆๆ
ดึง ฉุด ลาก ยังไงๆ ควายก็ไม่ขึ้น ควายไม่ขึ้นจริงๆ ควายมันหนักหนาสาหัสเกินกว่า 1 พันปอนด์ (500 - 700 กก.)

ฉุด ดึง ลาก .. ดึง ลาก ฉุด .. ลาก ฉุด ดึง  ... เริ่มยังไง ก็อยู่มันยังงั้น
นับเวลาประเมินๆก็น่าจะเสียไป 1 ชม. เห็นจะได้ ... อ่อนแรงกันทั้งคนทั้งควาย ฮ่าฮ่า

สุดท้าย ควายเพลีย เหนื่อยล้า หมดเรี่ยวแรง
ควายเลิกยิ้ม ไม่มีอมยิ้มที่หน้าควาย ไม่เหมือนกะครั้งแรก ที่อมยิ้มทักทายต้อนรับทีมงานพวกเรา
ก็ความประทับใจและความหวังที่จะขึ้นสู่ฝั่งของควายมันหายโม้ดดด
ฝันหวานของควายล่มสลายลงซะแล้วเพราะพวกเรา เศร้าใจเจงๆๆๆๆ!

ผมก็เหนื่อยหมดแรงนะ แต่เห็นอาการควายทอดร่างนอนหมดเรี่ยวแรง ก็เลยสบช่อง เกิดปิ๊งไอเดีย
บอกพี่ชาวนาว่า "ควายมันเหนื่อย อ่อนแรง ไม่มีท่าทีจะลุกขึ้นยืนได้ ขามันเปลี้ยน่ะพี่
น่าจะลองช่วยมัน มันน่าจะกำลังต้องการสารอาหารเสริมป๊อปควาย เอ๊ย!!! ป๊อบอาย"

ใช่แล้ว!!!! ปิ๊งๆๆๆๆๆๆ ... ฉีดวิตามิน กลูโคสโมโนแซ๊คคาไรด์กับอาหารเสริมโปรตีน เอสเซนเชี่ยลอมิโนฟูลทีมจับฉ่าย ฮ่าฮ่า

ผมพูดจบ พี่ชาวนา ก็เห็นชอบด้วย ดีๆๆๆๆๆๆ ... เออ ออ ยอกันเอง ในฐานะอย่างคนเข้าใจควายด้วยกัน
ผมก็เลย ดรอว์ยา (draw) พอดูดได้ Dose ตามคำนวณ ผมก็จัดแจง ... "จิ้มพรวด ดดด .. เข้าตูดควาย" ฮ่าฮ่า

อูยยย ลืมเซ็นเซ่อ!!! คงไม่ว่ากันนะครับ เพื่อนๆหญิงชายสุภาพชนคนเน็ตเสรีไทย เอิ๊ก เอิ๊ก กกก

ควายท่าน ในทีเผลอ ออกท่าสะดุ้ง โหยงงง ... ควายตกอกตกใจสุดกำลัง
กระโจนพรวด ดดดด ลุกจากปรักหนองน้ำโคลนที่ตัวนอนจม ขี้นมายืนเหยียบบนฝั่งคันนาด้วยท่าทางทะมัดทะแมง ควายทรนง

พี่ชาวนายิ้มร่าฟันดำอี๋  พวกเราเหล่าหมอควายเฮกันลั่นท้องทุ่งลาดกระบัง ย่านหัวตะเข้ โค้งยัยจ้อย
ควายขึ้นจากปรักโคลนด้วยมหัศจรรย์ไอเดีย ... จิ้มพรวด ตรูดควายยยยย ฮ่าฮ่า
 
พี่ชาวนาขอบอกขอบใจ ... ซื้อของมามอบกำนัล เป็นเหล้า 4 ขวดกลมๆโตๆ ขอบอกขอบใจ ทีมกู้ควายของเรากันยกใหญ่

คืนนั้นเหรอ พวกเราก็เลยเมาแอ๋ เมากันเละ ฉลองที่สร้างชื่อเสียงให้กับสถาบัน



ค่ำคืนนี้ ทีมหมอควายเฮฮากันกิ๊วก๊าวววว  ยังกะทีมหมอควายพวกเราไปชิงชนะ UCL ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกมาได้จากทีมดัง Arsenal ฮ่าฮ่า

แต่เรื่องราวจะต่อไปของมันอย่างไรนั้น ต้องติดตาม มันหักมุมเอาน่ะซี่ครับ

ผมจะขอแค่เกริ่น เอาไว้ตรงนี้ว่า
ความร้าวฉานระหว่างทีมงานกู้ควาย กำลังกล้ำกราย ย่างเข้ามาเยือนพวกเราชั่วข้ามคืน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด!!!



เช้าตรู่ของรุ่งขึ้น ... ยังไม่ทันจะ 6 โมงเช้าเล้ยยยย
พี่ชาวนาคนนั้น ขับรถกลับมาจอดที่หน้ากระต๊อบคลีนิคอีกครั้ง
เดินข้ามสะพานไม้สั้นๆ 5 เมตร ก็มาถึงหน้ากระต๊อบคลีนิคกิจกรรมนศ.ของพวกเรา
"คลีนิครักษาสัตว์ เปิดทำการ 23 ชั่วโมง" ... 1 ชม.ที่หายไปนั้น พวกเราขอหลับเอามันส์ ฮ่าฮ่า (ยังจำสโลแกนต๊องๆของพวกเราได้ติดตา)

พี่ชาวนา ในเช้าวันนี้ ดูเป็นคนละมาดเท่ห์กับพี่ชาวนาคนที่ยิ้มร่าฟันดำอี๋ เมื่อตอนเย็นวานนี้เลย
ดูหน้าสลด หางคิ้วตกๆยังไงชอบกล พี่แกกล่าวขึ้นเรียบๆ ไม่ดัง ไม่เบา ได้ยินกันชัดหูทุกๆคน ... "ควาย ตาย แล้ว"
 
ห๊ะ!!! ตะลึงจังงัง งงๆๆๆ "ควาย ตาย แล้ว ววว ววววววววววววววว"

พวกเราเองก็ยังเมา แฮ้งค์กับเหล้าที่พี่ชาวนาเขาอุตส่าห์ตีรถกลับไปเอาที่ตลาดหัวตะเข้ข้างโรงเจ มากำนัลพวกเรา
พวกเราแทบอยากจะอ้วกคืนพี่แกไปเลย ไม่ได้หยาบคายกับพี่ชาวนาเขานะ ... โอยๆๆๆๆๆ อะไรจะเกิดเรื่องเช่นนี้!!!
 
"รุ่นน้องรุ่นพี่ ทีมหมอควาย" มองหน้ากัน ... มองกันแล้ว ... ก็มองกันอีก ...หันมามอง ... จ้องหน้าพี่แสน หึย!!!!
"พี่แสนนั่นแหละตัวดี ฉีดกลูโคสป๊อปควาย โอเวอร์โด๊ส ทำให้ควายช๊อคๆๆๆๆๆชักตาย!!!!"

พี่แสนงงเต๊ก ... "เราก็ฉีดตามฎีกาว่าไว้ เอ๊ย!! ฉีดตามตำราว่าไว้ ... ควายมันตาย แล้วมาว่าเราเงี้ย อย่าเลยๆๆๆ "
 
"รุ่นน้องรุ่นพี่ ทีมหมอควาย" ก็เลยจัดเสวนาย่อย จับพี่แสนโยงขึ้นเขียง impeachment เค้นเอาความจริง "ทำไมควายตาย????"

ทีมหมอควายน้องพี่พวกเรา สามัคคีกันมาช้านาน
ทว่า เช้าวันนี้ เราหมดความยำเกรงและเอ็นดูซึ่งกันและกัน
ไม่ต้องพูด ไม่ต้องเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันแล้วเว้ย (อันนี้ ถึงจะโกรธแต่ก็ได้แค่แอบคิดในใจ)
ต่างคนก็ชี้หน้า ทะเลาะกันหน้าดำ เครียดๆๆๆๆๆๆๆ อะไรจะเครียดเท่านี้ "ควาย ตาย ทั้ง ตัว"



พี่ชาวนามองมาที่พวกเรา ด้วยสีหน้าเพลียๆ งงๆ คงนึกในใจ "ควายตูตาย ตูเศร้า ตูมาบอก ... พวกเอ็งทะเลาะกันหาอะไร (วะ)"

แล้วพี่ชาวนาก็บอกต่อ ... "ควายตายเมื่อตอนก่อนตี 4 ... มันข้ามถนน เสียท่าถูกรถ 10 ล้อชนตาย"
 


เกือบโดนรุ่นน้องหมอควายชกเข้าให้ แต่ก็เกือบจะชกหน้าน้องหมอควาย เข้าให้เหมือนกัน อิ๊อิ๊ ในความทรงจำ

[Can ไทเมือง]

ฮ่า ฮ่า...น่าจะไปฉีดยาโด้ปให้..."อัศวินควายดำ"

ขอเข็มใหญ่ ๆ นะจ๊ะพ่อแสนหก

[(-O-)Koka]

ควายมันขึ้นได้เพราะยานั่นหรือโดน "จกตรูด" กันแน่อ่ะครับ
 


สงสัย

[RiDKuN]

  ที่แท้ก้อรุ่นพี่สถาบันเรานี่เอง
สมัยก่อนหน้าผมเข้าเรียนสองสามปี เห็นเขาว่าก็ยังมีควายเดินป้วนเปี้ยนอยู่
แต่เดี๋ยวนี้คงไม่มีแล้วมั้ง

[เสลา]

พระเอกแห่งทุ่งลาดกระบัง

[นายท้ายเรือ]

ผมขอย้อนเวลาถอยหลังไกลกว่า น้องแสน อีก 40 ปี โน้น ..น้องแสน คงยังลอยอยู่บนท้องฟ้า
ใครจะนึกละว่า นายท้ายเรือ คนนี้ เคยเลี้ยงควายมาจริงๆ
...
สั้นๆ ...ว่า ตอนป.1-4 ผมไม่มีรองเท้าใส่  เดินทางไปโรงเรียนเท้าเปล่า 3-4 กิโล
ไฟฟ้าเพิ่งเข้าหมู่บ้านก็ตอนนายกชาติชาย เมื่อไม่นานมานี้เอง ก็คงนึกภาพกันออกนะครับ
ซึ่งในชนบทที่ห่างไกลของไทยเราก็ยังเหลืออยู่
...
อยู่กับท้องทุ่ง อยู่กับธรรมชาติ สุขใจไปอีกแบบ .....
พอดีว่า ผมเรียนเก่ง...กว่าหลายคนในหมู่บ้าน ป 1-4 จอง 1 ตลอด อิอิอิ
เลยพ่อแม่ไม่สอนวิธีไถนา ก็ได้แต่ดูพี่ๆ เขาไถนา ส่งเสียง ...ซ้าย..ๆๆ ...ขวา...ช้าๆๆ
(ต้องพูดเป็นภาษาใต้ด้วยนะครับ)  ....
...
โทษที่นะน้องแสน พอดีคิดถึงอดีตอันเก่าแก่สมัยแก้ผ้า วิ่งกลางท้องนา ท่ามกลางสายฝน
เลยเขียนเฮฮาไม่เป็น ......
...
ผ่านมา 40 กว่าปีแล้ว แม้ที่บ้านไม่มีควายเลี้ยงแล้ว ( เลี้ยงวัวแทน )
ก็ยังจำได้...และยังอยากจะกลับไปอยู่กับธรรมชาติไม่รู้คลาย..
 

[Suraphan07]

!!!อั๊ย หยา!!!

นึกถึง ตอนลงคะแนนเลือก สส.ขึ้นมาทันทีเลย...

ตูด ... กู.

[ปุถุชน]

ดึง ฉุด ลาก ยังไงๆ ควายก็ไม่ขึ้น ควายไม่ขึ้นจริงๆ ควายมันหนักหนาสาหัสกว่า [color=red1 พันปอนด์ (500 - 700 กก.) ][/color]


ครายมีลูกคิดอยู่ใกล้มือ ดีดให้ดูหน่อยซีว่า 1พันปอนด์ =500-700 กก.....!

[มีวิตามินบี1]

อ้าว...งี้คุณ 100600กะคุณ Ridkun  ก็เป็นรุ่นพี่เราสิคะ vet ที่ไหนคะ
ถ้าใช่ต้องพาไปเลี้ยง  ฮี่ๆ(ห่างกันกี่ปีเนี่ย..2531 เราเพิ่ง 3 ขวบเอง)

อ่านเรื่องแล้วขำจัง  ยังไม่เคยไปออกทำค่ายแบบนี้เลย  อย่างมากก็ออกทริปวันเดียวไปฉีดrabies ทำแต่ค่ายเด็กกับค่ายอนุรักษ์อย่างเดียวแล้ววันมันทับกับพวกค่ายอาสาเลยอดไป

ภารกิจหลักตอนนี้คือไปเรียนขี่ม้าค่ะ  สนุกดีแต่เวลาม้าวิ่งแล้วตัวเราเด้งกระแทกๆเนี่ยเจ็บจริงๆเล๊ย

[100600]

คุณ V.b1 ...
เราไม่ใช่เว็ท'รี่ เราเป็น แอนิม่อน เอ๊ย แอนิม่อล'ส์ ฮัดสะแบนดรี้ จ๊ะ อิ๊อิ๊
ถาม (มั่ง) ... "เรียนขี่ม้าค่ะ  สนุกดีแต่เวลาม้าวิ่งแล้วตัวเราเด้งกระแทกๆเนี่ยเจ็บจริงๆเล๊ย" ... ขี่ม้า เจ็บตรงไหนเหรอ? ฮ่าฮ่า




ลุง อ.ปุ ...
เรามีลูกคิดใกล้มือ แต่เราดีดไม่เป็น ฮ่าฮ่า
จำไว้นะลุงอ. marketing ... 1 Kgs. = 2.2 pounds  ... estimate 500-700 Kgs. ก็ ~ 1,120 - 1,568 Kgs.




คุณ  Suraphan07 ...
ถ้าคุณไม่ฉีกบัตร ไม่อารยขัดขืน ใครหรือมาจิ้มตรูดคุณในคูหา ฮ่าฮ่า




คุณริดคุง ...
บ้านเราก็ใกล้กัน เดินทะลุซอยก็แค่ครึ่งกิโล'ควาย ... เรียนก็ที่เดียวกันอีก ... เป็นบทพิสูจน์ โลกมันเอียง เอ๊ย!! โลกมันกลม

[snowflake]

"1 Kgs. = 2.2 pounds  ... estimate 500-700 Kgs. ก็ ~ 1,120 - 1,568 Kgs."
------

คุณ 100600 ท่าจะอ่อนเลขนะคะ

คำนวณแล้วยังได้หน่วยเดิม แบบนี้ควายอาจได้ overdose จริง

เพิ่งรู้ว่าน้องควายนี่เขาหนักกันเป็นครึ่งตัน ใช้อะไรชั่งล่ะคะ

แล้ว "ครึ่งกิโลควาย" นี่มันไกลสักแค่ไหนล่ะคะ

แหม มีแต่คำถามควายๆ จะตอบมั้ยนี้ 


(webmaster ไม่อยู่ ปลอดโปร่ง
แต่ถ้าจะมีเซ็นเซอร์ก็คงโดนทั้งกระทู้ มิใช่แต่เราผู้เดียว  )

[ลูกไทย หลานไทย]

ผมว่ามันขึ้นจากตลิ่งเพราะเข็มจิ้มของเฮียแมวนั่นแหละครับ มันเจ็บน่ะ

[100600]

ป้า snowflake ละหาเรื่อง ...

เราแข็งเลขน๊า แต่อ่อนพิมพ์ พิมพ์ตกตะหาก อิ๊อิ๊
เอ้า!!! มาเอารายละเอียดๆๆๆๆปายโหน่ย ...  1 Kgs. = 2.24 pounds ... ideal!!!! ฮ่าฮ่า
500 - 700 Kgs. = 1,120 - 1,568 pounds ถูกเผงโล้ววววววว




สูตรคำนวณหาน้ำหนักควาย ช้าง หมี แรด กระทิง ฯลฯ ... ideal เหมียนกานนนน อิ๊อิ๊
วัดรอบอก วัดความยาว วัดความสูง + อายุควาย เพศควาย แล้วเขย่า เข้าสูตรคำนวณ
ตัวเลขออกมานั่นแหล๊ะ น้ำหนักควาย ... เข้าจายไหมๆๆๆๆเอิ๊ก เอิ๊ก กกก



"ครึงกิโลควาย"
อันนี้ก็ย้ายจากหน่วยเมตริกชั่ง มาเป็นหน่วยเมตริกวัด
มาๆๆๆ มาช่วยฟื้นควาจำ .. วัดน้ำหนักเป็นหน่วยกรัม gms. .. วัดระยะทางเป็นหน่วยเมตร m. .. วัดการตวงเป็นหน่วยลิตร ltrs.


วัดหน่วยเดินมั่ง ... "กิโลเดิน" ฮ่าฮ่า
1 กิโลแม้ว = 2 กิโลควาย
1 กิโลควาย = 2 กิโลคนเมือง (คนในเน็ตเสรีไทยก็จัดในกลุ่มคนเมือง)
งั้น 1 กิโลแม้ว = 4 กิโลคนเมือง

Ex.
- คนหัว'เข้ จะขับรถไปสนามสุวรรณภูมิ ก็แสนภูมิใจ
ขับรถไปตามถนน อ้อมไปอ้อมมา ก็ 10 กม. (กิโลเมตรนะ ไม่ใช่ กิโลแม้ว ... สับสนๆๆ)

- ควายหัว'เข้ จะเดินไปสุวรรณภูมิ เฉยๆๆ ไม่คิดรู้สึกภูมิใจ
เดินลัดเลาะไปตามคันและเทือกนา ตรงมั่งเฉียงมั่งหลบกิ่งไม้ ก็ 5 กม. (กิโลเมตร เหมียนกันนนนน)

- แม้วหัว'เข้ แม่งเล่นบินไปสุวรรณภูมิ โคตรๆๆๆภูมิใจ จะไปดู CTX-9000 ที่อาเตี๋ยของมันซื้อมาแพงเกินป๊าย
ขี่ไทยคู่ฟ้า ดิ่งตรงป๊ะแหน่ว โกทู สุวรรณภูมิ 2 กม. เหมียนกัน



จะลบกระทู้ทำมายยย ล้าวว ... เว็บมาสเตอร์ ก็อยู่ข้างบนไง ... "คุณริดคุน"

ป้าหิมะเฟ๊ก ไม่รู้ละ มั่ว มั่วเหนือมั่วใต้ ฮ่าฮ่า เอิ๊ก เอิ๊ก กกก

[istyle]

1 กิโล*แม้ว = 2 กิโล*ควาย
1*แม้ว = 2*ควาย

ดังนั้น แม้วตัวเดียว = ควายสองตัว 

[มะตาด]

ไม่รู้เรียนรุ่นเดียวกันหรือเปล่า.. ผมจบปี34 นะ

[Haa]

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อ่านเรื่องนี้ แล้วนึกถึงเพลง ชะชะชะ ใครวะขโมยควายไป ...

[(-O-)Koka]

ของผมเพลงนี้ ออิอิ

ฉันขี่ไอ้ทุยวิ่งลุยท้องนา... ฮึ่ยๆๆๆ

[Haa]

สมัยก่อน มีเพลงลูกทุ่ง เกี่ยวกับควายเยอะนะครับ 

[SiamsmilE]

หนูยิ้ม ชอบควายนะ หน้าตาน่ารัก น่าชัง ยิ้มหวานด้วย  แต่ลึกๆ แล้วก็กลัวควายเหมือนกัน ก็เคยไปเที่ยวที่โคราช เดินผ่านควาย[ที่ผูกไว้หลวมๆ กะเสาหลักเตี้ยๆ แรกๆ มันก็มองตาม แค่มองเฉยๆ  เอ๊ะ พอเดินผ่านครั้งที่สอง เฮ้ย มันมอง แหม่งๆ แล้ว มองไม่มองเปล่า ยังทำท่าฮึดฮัดด้วย ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าเพราะหนูยิ้มใส่เสื้อแดงด้วยหรือป่าว ก็ผู้เฒ่าผู้แก่ เขาบอกไว้ อย่าใส่เสื้อแดงไปนา ควายมันไม่ชอบสีแดง  อืม ตอนมาอยู่ซิดนีย์แล้ว ดูวีดีโอของไทย ละครทีวี ออกแนวบ้านนอก ชนบท เห็นควายแล้ว ร้องไห้โฮ เลย อยากกลับเมืองไทย แง แง  ... ยิ้มค่ะ

[100600]

.

[100600]

คุณมะตาด ...
จบปี 34 คุณเป็นรุ่นน้อง ผมเป็นรุ่นพี่จ้า ฮ่าฮ่า
ปี 34 ผมทำงานหลายปีแล้ว เป็นเซลล์แมนมืออาชีพ ปีที่ว่าก็ขึ้นชั้นเป็นผจก.ไปซะแล้ว

เดือนก่อน เห็นจม.ชุมนุมฯที่ส่งมาประจำทุกปี
ปีนี้แจ้งรุ่นพี่ๆว่าจะรื้อกระต๊อบคลีนิคที่ฝาไผ่หลังคาจาก สร้างเป็นอาคารถาวรลงเสาก่ออิฐถือปูน
ก็นึกเสียดายกระต๊อบเก่าๆ อมตะๆๆๆๆกำลังจะหมดไป ตำนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



คุณ Haa ...
ผมนึกภาพท่าน ดร. Haa ขี่ไอ้ทุยวิ่งลุยท้องนา ฮึ่ยๆๆๆๆๆๆ เหมือนคนบ้านป่าหน้าตาเหมือนโจร ... เอีก เอิ๊ก กกก



คุณนู๋ยิ้ม ...
- ชอบควาย รักควาย เห็นควายยิ้ม ... นั่นแสดงว่า จิตนู๋ยิ้มบริสุทธิ์ รักธรรมชาติ ท้องถิ่นลูกทุ่งไทย
- แต่ลึกๆ แล้วก็กลัวควาย พอเดินผ่าน มันฮึดฮัด เพราะนุ่งผ้าแดง ... อันนี้ จิตปรุงแต่ง คิดไปเองครับ
ควายมันตาบอดสีครับ เห็นแต่ขาวดำ ไม่เคยเห็นสีแดงและสีอื่น

ที่บอกว่า พอเดินผ่านมัน มันออกอาการฮึดๆฮัดๆ เป็นเพราะมันเห็นสีผิวของนู๋ยิ้มซะมากกว่า ฮ่าฮ่า

[RiDKuN]

ผมขอยืนยันว่า ไม่ลบกระทู้นี้ ตราบใดที่ควายมันยังมีสระอาอยู่ครับ 

[The Navigator]

หลายๆ คนนี่ท่าทางจะเป็นรุ่นพี่ผมนะครับ
ผมจบปี 48 รหัส 46XXXXXX (ป.โท) ครับ

[มะตาด]

พี่แสนหก อิอิ..

[วัวทอง]

555 มาสืบความลับแสนหก  555

[ใบไม้ทะเล]

ดูท่า เฮียแสนจะชอบควาย อิอิ

[นทร์]

ตอนเด็กๆเคยขี่ควาย

ตกจากหลังควาย เป็นประสบการณ์

นานมาแล้ว ... เดี๋ยวนี้คงมีคนเลี้ยงควายน้อยลง ไปใช้เครื่องกันหมด

[ป้าแจ๋วแหวว]

ตามมาอ่านเรื่องควายค่ะคุณแสน 

[ปุถุชน]

หนูยิ้ม ชอบควายนะ หน้าตาน่ารัก น่าชัง ยิ้มหวานด้วย  แต่ลึกๆ แล้วก็กลัวควายเหมือนกัน ก็เคยไปเที่ยวที่โคราช เดินผ่านควาย[ที่ผูกไว้หลวมๆ กะเสาหลักเตี้ยๆ แรกๆ มันก็มองตาม แค่มองเฉยๆ  เอ๊ะ พอเดินผ่านครั้งที่สอง เฮ้ย มันมอง แหม่งๆ แล้ว มองไม่มองเปล่า ยังทำท่าฮึดฮัดด้วย ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าเพราะหนูยิ้มใส่เสื้อแดงด้วยหรือป่าว ก็ผู้เฒ่าผู้แก่ เขาบอกไว้ อย่าใส่เสื้อแดงไปนา ควายมันไม่ชอบสีแดง  อืม ตอนมาอยู่ซิดนีย์แล้ว ดูวีดีโอของไทย ละครทีวี ออกแนวบ้านนอก ชนบท เห็นควายแล้ว ร้องไห้โฮ เลย อยากกลับเมืองไทย แง แง  ... ยิ้มค่ะ

สวัสดีครับ
แม่หนูยิ้ม.............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ดอกเข็มขาว]

เป็นความทรงจำในอดีตที่น่าสนุกเมื่อคิดถึงทุกครั้งนะคะ

[ปุถุชน]

คุณมะตาด ...
จบปี 34 คุณเป็นรุ่นน้อง ผมเป็นรุ่นพี่จ้า ฮ่าฮ่า
ปี 34 ผมทำงานหลายปีแล้ว เป็นเซลล์แมนมืออาชีพ ปีที่ว่าก็ขึ้นชั้นเป็นผจก.ไปซะแล้ว

เดือนก่อน เห็นจม.ชุมนุมฯที่ส่งมาประจำทุกปี
ปีนี้แจ้งรุ่นพี่ๆว่าจะรื้อกระต๊อบคลีนิคที่ฝาไผ่หลังคาจาก สร้างเป็นอาคารถาวรลงเสาก่ออิฐถือปูน
ก็นึกเสียดายกระต๊อบเก่าๆ อมตะๆๆๆๆกำลังจะหมดไป ตำนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



คุณ Haa ...
ผมนึกภาพท่าน ดร. Haa ขี่ไอ้ทุยวิ่งลุยท้องนา ฮึ่ยๆๆๆๆๆๆ เหมือนคนบ้านป่าหน้าตาเหมือนโจร ... เอีก เอิ๊ก กกก



คุณนู๋ยิ้ม ...
- ชอบควาย รักควาย เห็นควายยิ้ม ... นั่นแสดงว่า จิตนู๋ยิ้มบริสุทธิ์ รักธรรมชาติ ท้องถิ่นลูกทุ่งไทย
- แต่ลึกๆ แล้วก็กลัวควาย พอเดินผ่าน มันฮึดฮัด เพราะนุ่งผ้าแดง ... อันนี้ จิตปรุงแต่ง คิดไปเองครับ
ควายมันตาบอดสีครับ เห็นแต่ขาวดำ ไม่เคยเห็นสีแดงและสีอื่น

ที่บอกว่า พอเดินผ่านมัน มันออกอาการฮึดๆฮัดๆ เป็นเพราะมันเห็นสีผิวของนู๋ยิ้มซะมากกว่า ฮ่าฮ่า

ขอคุยหน่อย....
ปี 2500 ผมขี่ควายเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
นาข้าวหน้าโรงเรียนปานะพันธุ์ แถวลาดพร้าว......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[cha_srt]

คำเตือนคำเตือน
พิมพ์คำว่าควาย โปรดระวังอย่าให้สระอา "า"ขาดหายเป็นอันขาด
ไม่งั้น หมอควายจะกลายเป็นอย่างอื่นไปได้ อิอิ เข้ามาแซวลุงแสนหกซะหน่อย
รุ่นผมทันความเหล็กสนิมเขลอะนะครับ ควายเนื้อมันกลายเป็นมัสมั่นไปซะหมด
หลงเหลือแต่เจ้าเขาโง้วให้คนกับคนแก่ ๆที่มีใจผูกพันกับควาย(สระอายังอยู่นะคุณRiDKuN) จูงกินยาตามหัวไร่ปลายนาควบคู่กับเสียงควายเหล็กน้ำเดือนปุด ๆ
ส่วนคนใช้ควายเหล็กก่อนเที้ยงก็เอาไข่ใส่ไว้ในหม้อน้ำเดือด ๆ เสร็จไถ่นาก็กินข้าวเที้ยงพร้อมไข่ต้นหม้อน้ำ
จากควายเหล็กพอดี รสชาติมันช่างอร่อยเหาะ(ทำงานจนหิวอะไรก็อร่อยว่าไหม อิอิ)
พอมาอีกรุ่นก็พัดตะนาแล้วเป็นรุ่นหม้อน้ำพัดลม(ต้มไข่ไม่ได้) รุ่นนี้เข้ามาในหมู่บ้าน
ใหม่ๆ คนไปดูกันตรึม(เอ๋ดูรถไถ่หรือดู กันตรึม กันแน่)ไม่ใช่รถใครที่ไหนแต่เป็นรถของ
อาของขาพเจ้าเอง เพราะแำก่ทำสวนไปด้วย ปัญญาทำนาหมดหวังที่จะซื้อหามา
รุ่น โคโบต้า เรียกขานกันว่า รุ่น วัวโบต้า(อันนี้แต่งขึ้นเอง แข่งกับควาย)แต่ควาย
เหล็กรุ้นนี้มักจะใจร้อน(้ร้อนทั้งเครื่องนี้) ไถ่ไปต้องหยุดพักไปไม่รู้เพราะควายเหล็ก
เหนื่อยหรือว่าคนไถ่เห่อรถใหม่ไม่กล้าใช้มากเวลาล่วงเลยมาหลาย 10ปี ควายเหล็ก
เหล่านั้นถูกขายทอดตลาด กลายเป็นควายเหล็กไถ่น่ากุ้ง แทนซะงั้น ส่วนที่นาที่เคย
ิวิ่งเล่นสมัยเด็กมันก็กลายเป็นส่วนปาล์มน้ำมันหนามเหลม ๆไปซะงั้น เห็นบอกกันว่า
เงินดีกว่าทำนาเป็นไหน ๆ (แต่หารู้ไม น้ำมันแพง ปุ๋ยก็แพง)

ร่วมด้วยช่วยกันเป็นคนแก่แต่จริง ๆ แต่20กว่า ๆ จะกว่าอีก10 หรือ 20 ปีคงบอกไม่ได้

[100600]

ขอบคุณในความหวังดีของคุณ cha_srt  ... ควาย ต้องมี สระอา ... สระลุง ก็ไม่ได้เน๊อะ อิ๊อิ๊

และเพื่อเป็นการตอกย้ำความไม่ผิดพลาด ยังไงๆควายก็ต้องมีสระอา งั้นขอโพสต์รูปควายมาการันตี จะดีกว่า