ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
16-04-2024, 13:31
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  หนี้ หนี้ หนี้ ขอบคุณบริษัทเงินกู้ที่ทำให้คนเป็นหนี้ทั่วประเทศ!! 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
หนี้ หนี้ หนี้ ขอบคุณบริษัทเงินกู้ที่ทำให้คนเป็นหนี้ทั่วประเทศ!!  (อ่าน 913 ครั้ง)
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« เมื่อ: 06-03-2007, 10:32 »

วันอังคาร ที่ 6 มีนาคม 2550
หนี้ หนี้ หนี้ ขอบคุณบริษัทเงินกู้ที่ทำให้คนเป็นหนี้ทั่วประเทศ!!
Posted by พายุหินกูรู : 08:56:47 น.


  ว่าจะเขียนเรื่องดนตรีพวก World Music ให้อ่านกัน แต่มันมีเรื่องที่บรรดาชาวบ้านร้านตลาดหรือปัญญาชนมนุษย์เงินเดือนในระบบทุนนิยม กำลังเดือดร้อนกันแสนสาหัส กับเรื่องการกูหนี้ยืมสินกับบริษัทเงินกู้ชื่อดังทั้งหลาย เช่น.......(ใครเกลียดบริษัทไหนที่มันตามทวงหนี้ก็เติมช่องว่างเอาเองก็แล้วกัน อิ อิ) ไม่ว่าจะเป็นเงินด่วนทันใจ งดสดไร้เงื่อนไข เงินจั***ที่ต้องกู้เอาไปใช้หนี้การพนันฟุตบอล หรืออะไรก็แล้วแต่  มันเป็นความทรมานในชีวิตประจำวันเลยนะครับ บางคนไม่เป็นอันทำมาหากิน ตื่นเช้าต้องบากหน้าไปหาเพื่อน ญาติโกโหติกา ขอยืมเงินมาหมุนให้กับพวกทวงหนี้  เอาแค่ค่าโทรศัพท์ที่มันทวง (มันบอกว่าทำตามหน้าที่) ก็ปาเข้าไปหลายพันบาทแล้ว  ยิ่งช่วงนี้ มันเพิ่มค่าทวง รู้สึกอย่างต่ำตอนนี้ 240หรือพวกที่***มเกรียมก็ค่าทวง 500 พวกนอกระบบคือ ตาย!! ทวง 5 ครั้งก็แย่แล้ว      และขอบอกว่า ประเทศไทยมีคนเป็นหนี้เงินกู้มากที่สุด!ผมจัดรายการเรื่อง "เม้าท์เรื่องบ้าน บ้านผู้รู้" กับอาจารย์ชัยณรงค์ จากสำนักงานอาณาจักรกฏหมาย นักกฏหมายมือวางอันดับต้นๆ อาจารย์บอกว่า คดีเรื่องเบัตรเครดิต ดำลังท่วมสำนักงาน!!และเริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลคุณทักษิณ ที่ทำให้ประชาชนตีปีกเริงร่ากับการขยันออกมาประกาศของกระทรวงการคลังว่า เศรษฐกิจโตกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ และแบงค์ชาติก็ออกมาสำทับอีกว่า เรายังมีเงินคงคลังเหลือเฟือหลังจ่ายหนี้ไอเอ็มเอฟหมดแล้ว การส่งออกเฟื่องฟุ้งรุ่งเรือง ซึ่งมันเข้าล็อคกับความรู้สึกของคนไทยที่ปกติก็ไม่ค่อยจะประหยัดกันอยู่แล้ว (ธนาคารออมสินบอกว่า เฉลี่ยเงินออมต่อหัวของคนไทยน้อยมาก)  ตามมาด้วยนโยนบายประชานิยมอีกร้อยแปดโครงการ เท่าที่ไอเดีย "มอมเมา" ของบรรดาเหล่าลูกล้อทั้งหลายจะคิดค้นกันมาออกมา
 แท้ที่จริงมันเป็นสงครามจิตวิทยาหลอกๆให้ประชาชนรื่นเริง จะได้ไม่ต้องไปวิตกกังวลกับการทำมาหากิน แต่ต้องยอมรับกันว่า โครงการประชานิยมนี่ มันเข้าถึงอุปนิสัยคนไทยจริงๆ คือ มีคนเอาอาหารมาป้อนให้ถึงปาก!!
   ไม่เคี้ยวกินก็บ้าแล้ว!!
 แบบนี้เข้าทางพวกบริษัทเงินกู้โดยไม่ต้องใช้งบโฆษณาให้เปลือง
 มาย้อนอดีตกันสักนิด ช่วงที่ฟองสบู่แตก ตอนนั้นคนไทยกำลังเริงร่ากับบัตรพลาสติก ขนาดกรรมกรก่อสร้างยังมีบัตรผ่อนสินค้า บัตรสินเชื่อ บัตรเอทีเอ็ม เดินเข้าไปกดเงินอย่างเท่ แล้วเป็นไงครับ พอฟองสบู่แตก หนีกลับบ้านโคกแมงกุดจี่เกือบไม่ทัน
     หมดยุคเงินพลาสติก มาเข้ายุค เงินด่วนทันใจ
  ไม่มีใครคาดคิดว่า หทารจะถือปืนออกมาปฏิวัติ เพราะนี่มันยุคไฮเทค
  ทำเอาพวกที่กำลังเริงร่ากับการใช้เงินกู้ ใบหน้าห่อเหี่ยวลงทันที
  ยิ่งตอนนี้ ยิ่งลำบาก เพราะรัฐบาลเต่า ท่านยังไม่มีนโยบายออกมาสักแผ่นว่า จะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจยังไง มาเจอหม่อมอุ๋ย ตบเท้าลาออก ยิ่งมืดตึ๊บ!!!
   ตัวใครตัวมันล่ะครับทีนี้
 คอลัมน์ "คุยกับลุงแจ่ม" ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เริ่มมีจดหมายเข้ามาขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเป็นหนี้แล้วถูกตามทวงเช้าทวงเย็น เผลอๆมีตอนเที่ยงคืน
   ตอนกู้ยืมนี่ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ เพราะร้อนเงิน ถ้าถามต่อไปว่า ร้อนเงินเพราะอะไร ก็แล้วแต่ปัญหาของแต่ละคน  ใช้จ่ายเกินตัว เงินหาเลี้ยงลูกเต้าไม่พอใช้ จน กินเหล้า เครียด 
  ตอนนี้เจอหน้าใครก็ร้อนรนกันไปหมด วิ่งหาเงินหมุนกันเท้าเป็นระวิง
  แบบนี้เข้าทางบริษัทเงินกู้หน้าเลือดอีก!!
 มีทั้งโฆษณาให้กู้ไปล้างหนี้เก่า
  ผมเคยลองแย็ปถามธนาคารที่มีนโยบายแบบนี้เหมือนกัน คำนวณดูแล้ว กู้ 5 แสน เพื่อเอามาล้างหนี้  แล้วผ่อนเดือนละ 12,000 เป็นระยะเวลาอีก 5 ปี รวมดอกเบี้ยเข้าไปแล้ว เป็นลมครับ! เพราะเกือบล้านบาท!!
 อาจารย์วีระ ธ๊รภัทร ปากจรวดบอกว่า อย่าไปหลงเชื่อพวกนี้โดยเด็ดขาด ว่าจะสามารถล้างหนี้ เพราะมันเป็นหนี้ก้อนที่โตกว่า กว่าจะใช้หมด ขอโทษนะครับ อาจจะตายห่ะ ไปเสียก่อน!!เพราะดอกเบี้ยทับหัวจนแบน!!
   วินาทีนี้นะครับ คนไทย 10 คน เป็นหนี้บริษัทเงินกู้อยู่ 9 คนครึ่ง!!!
  ไม่นับพวกที่มีคดีความฟ้องร้องกันในศาลอีกบานตะเกียง
  ผมเคยถามบริษัทเงินกู้ว่า ทำไมคิดดอกเบี้ยโหดขนาดนั้น เขาบอกว่า มันช่วยไม่ได้ เพราะลูกหนี้เลวๆ กู้แล้วหนีหายจ้อยก็เยอะ
  เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะกู้ด้วยกรณีใดก็ตาม ลงว่าเงินถึงมือแล้ว นรกมาถึงหน้าบ้านแล้ว คนกู้เสียเปรียบทุกประตู สิ้นเดือนจะประสาทเสียกับพวกทวงหนี้
  หมดยุคเงินพลาสติก เข้าสู่ยุคเงินสดเงินด่วนทันใจ เฮ้อ ประเทศสยาม นามประเทืองว่าเมืองทอง เรืองรองไปด้วยหนี้กันทุกหย่อมหญ้า!!
   ช่วงนี้  บริษัทกูหนี้ไม่ต้องเดินออกไปหาลูกค้าแล้ว ลูกค้ากำลังเดินเข้าหาอย่างหน้ามืด ผมขอเตือนไว้เลยนะครับ อย่าโดยเด็ดขาด  ข้อที่ควรระมัดระวังในช่วงนี้คือ การสำรวจตัวเองแล้วเอาความพอเพียงขององค์ในหลวงมาใช้ดีที่สุด อย่าหลงระเริงไปกับวัตถุนิยมรายรอบตัว แล้วไอ้การใช้จ่ายแบบไทยๆประเภท เห็นสินค้าลดราคามิดไนท์เซลล์เนี่ยชอบกันนัก  พวกห้างสินค้านี่ก็ต้องหากลยุทธ์ดูดเงินลูกค้าอยู่แล้ว
   คนรู้จักพอเพียงเท่านั้น จึงจะอยู่รอด ท่ามกลางความอึมครึมของรัฐบาลเต่า!!
  เอาล่ะครับ ผมขออนุญาตสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำสักหน่อยก็แล้วกัน
  ถ้ารัฐบาลเต่า อยากได้คะแนนนิยมเหมือนประชานิยมคุณทักษิณที่ให้คนจนไปขึ้นทะเบียน (ท้ายที่สุดลงนรกกันเป็นแถว ฮ่า ฮ่า ฮ่า) ลองเอาไอเดีย "ปลดหนี้" คนที่มีปัญหาเงินกู้ จะด้วยวืธีไหนก็แล้วแต่นะครับ ผมว่าท่าน คมช.ทั้งหลายจะได้คะแนนพัดมาจากทุกสารทิศทั่วไทยแน่ๆ ต้องประกาศเป็นนโยบายแห่งชาติเลยนะครับ ไหนๆก็ไม่เห็นนโยบายเศรษฐกิจที่ชัดเจน เอาไอเดียผมไปใช้ได้เลย ผมไม่คิดค่าสมองหรอก
   แฮ่ แฮ่  ผมก็จะไปสมัครเหมือนกันว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!
  คำเตือนในยุครัฐบาลเต่าวันนี้ก็คือ ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสิรฐครับ!!!
    [color]
http://www.oknation.net/blog/payuhin
 
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #1 เมื่อ: 22-11-2007, 09:37 »

ผมอ่านบทความนี้ แล้วก็รู้สึกโดนใจ.....แต่คงเขียนไม่ได้ดี เท่ากับ เจ้าของบทความ.......กลับมาอ่านอีกที ก็ยังรู้สึกว่า ไม่ล้าสมัย...เลยขุดมาให้เพื่อน ๆ อ่านกันใหม่อีกครังครับ
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #2 เมื่อ: 22-11-2007, 10:48 »

อินา ทานัง ทุกขัง โลเก การมีหนี้เป็นทุกข์ในโลก

พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้สองพันกว่าปีมาแล้วค่ะ  แต่ผู้คนในโลกทุนนิยมสามนาย์ ก็โง่พอที่จะหาความทุกข์นี้ใส่ตัว

บางคนถึงกับกล่าวว่า การมีหนี้คือการมีเครดิต  และบางคนก็คืดว่า การกู้หนี้ยืมสินมาทำการค้าหรือลงทุน เป็นวิถีทางที่ถูกต้อง และพวกไร้ปัญญาเหล่านั้น ก็เป็นทุกข์ไปตามสัจธรรม

มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน

 
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #3 เมื่อ: 22-11-2007, 11:37 »

ทั้งที่มีเงินไม่พอแต่กระแสบริโภคนิยมก็ทำให้คนเราอยากมีนั่นมีนี่
สุดท้าย.. ไม่มี "นั่น".. มีแต่ "หนี้" 


บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
หน้า: [1]
    กระโดดไป: