ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 05:49
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  =ทหารพรานปราบโจรใต้ (Update ข่าว+คุยปัญหาภาคใต้เสียเลย)= 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
=ทหารพรานปราบโจรใต้ (Update ข่าว+คุยปัญหาภาคใต้เสียเลย)=  (อ่าน 5354 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 02-03-2007, 15:47 »

เท่าที่จำได้นานเหลือเกินแล้วที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสูญเสีย โดยที่ทำอะไรโจรใต้ไม่ได้เลย
วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่เจ้าหน้าที่ไม่เป็นอะไรแต่โจรใต้ประสบความสูญเสีย 

-------------------------------------------------------------------------------------
ทหารพรานยิงปะทะโจร สอยร่วง5ศพที่อ.ระแงะ [2 มี.ค. 50 - 13:17]
http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=38748
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (2 มี.ค.) เกิดเหตุทหารพราน กองร้อย 4509 ยิงปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ขณะทหารพรานนำกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ ออกลาดตระเวนบนเทือกเขาตะเว หลังหมู่บ้านกูตง ม.3 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พบกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ไม่ทราบจำนวน จนเกิดการยิงปะทะกันอย่างหนัก

หลังจากปะทะกันนานเกือบ 1 ชั่วโมง เมื่อเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ ตรวจสอบพบกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบถูกยิงเสียชีวิตรวม 5 ราย เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ และสามารถยึดปืนสงครามเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนอีกนับร้อยนัด ส่วนทหารพรานทุกนายปลอดภัย
-------------------------------------------------------------------------------------
ทหารพรานยิงปะทะเดือด ดับโจรใต้ 5 ศพ ที่ระแงะ 
http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?Newsid=119493&NewsType=1&Template=1

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มี.ค.เกิดเหตุทหารพราน กองร้อย 4509 ยิงปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ขณะทหารพรานนำกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการ ออกลาดตระเวนบนเทือกเขาตะเว หลังหมู่บ้านกูตง ม.3 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พบกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ไม่ทราบจำนวน เกิดการยิงปะทะกันนานประมาณ 30 นาที หลังเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบกลุ่มก่อความไม่สงบถูกยิงเสียชีวิตรวม 5 ศพ สามารถยึดปืนสงครามเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และกระสุนปืนนับร้อยนัด ส่วนทหารพรานปลอดภัย.
-------------------------------------------------------------------------------------

หวังว่าเดี๋ยวคงได้ชื่อโจรที่เสียชีวิต ... และอาจสาวถึงเครือข่ายข้างหลังได้บ้างนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2007, 19:01 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 02-03-2007, 16:08 »

..ค่อยยังชั่วหน่อย 

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #2 เมื่อ: 02-03-2007, 16:11 »

ทหารปะทะเดือดโจรใต้ที่ระแงะคนร้ายดับ 5 ราย - เสรีพิศุทธ์" สั่งเปิดเกมรุก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000025035

นราธิวาส/ปัตตานี – เกิดเหตุทหารปะทะโจรใต้พื้นที่ระแงะ เบื้องต้นโจรใต้ดับ 5 คน ขณะที่ชาวนราธิวาสแสดงพลังต้านเหตุความไม่สงบคนร้ายยิงเด็กนักเรียน ด้านรักษาราชการแทน ผบ.ตร.มอบนโยบายตำรวจที่ปัตตานี สั่งกำชับปรับยุทธวิธีต่อสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ จากฝ่ายตั้งรับมาเป็นฝ่ายรุกบ้าง

------
      
       วันนี้ (2 มี.ค.) เวลา 10.50 น.ได้เกิดการปะทะกันระหว่างทหารพรานที่ 4509 กับกลุ่มก่อความไม่สงบบนเทือกเขาตะเว หลังหมู่บ้านกูตง ม.3 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่ได้ยิงต่อสู้กับคนร้ายกว่าครึ่งชั่วโมง กลุ่มคนร้ายจึงล่าถอย
      
       จากการเข้าเคลียร์พื้นที่ พบศพคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 5 ราย เจ้าหน้าที่จึงยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย ล่าสุดหน่วยกองกำลังใกล้เคียงได้เดินทางไปสบทบเพื่อติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายแล้ว
      

ชาวนราธิวาสรวมตัวต้านคนร้ายยิงนักเรียน
      
       ขณะเดียวกันนายนันทวัฒน์ เจริญวรรณ นายอำเภอจะแนะ จ.นราธิวาส พร้อมคณะครู นักเรียน และชาวบ้านกว่า 1,000 คน ได้รวมพลังบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอจะแนะ เมื่อเช้าวันนี้ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านการกระทำของผู้ก่อเหตุไม่สงบ ที่ใช้อาวุธสงครามกราดยิงรถทหารที่พาคณะนักเรียนกลับจากทัศนศึกษาที่ จ.สงขลา ขณะเดินทางมาถึงบริเวณบ้านยะลูตง หมู่ 3 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้นักเรียนบาดเจ็บ 6 ราย
      
       ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 1 ราย คือ ด.ญ.ไลลา มะเด็ง นักเรียนโรงเรียนบ้านไอร์โซ หมู่ 5 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ ยังรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมกันนี้ กลุ่มพลังมวลชนยังร่วมกันละหมาดฮายัต ขอให้สันติสุขกลับคืนมาโดยเร็ว และยืนยันว่าจะร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาความไม่สงบ
      
"เสรีพิศุทธ์"สั่งตำรวจเปิดเกมรุกบ้าง
      
       ทางด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังคงมอบแนวทางปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยวันนี้ (2 มี.ค.) เดินทางไปมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.ปัตตานี โดยเน้นย้ำถึงการปรับยุทธวิธีจากฝ่ายตั้งรับ มาเป็นฝ่ายรุก ซึ่งยืนยันว่าไม่ขัดกับแนวทางสมานฉันท์ เพราะการสมานฉันท์ไม่ใช่การตั้งรับให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีอย่างเดียว
      
       นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำการทำงานประสานกับทหาร ฝ่ายปกครอง และพลเรือน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
      
งานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวยังคึกคัก
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นวันที่สองวันนี้ยังคงมีประชาชนเดินทางมาสักการะองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของทหาร ตำรวจอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุร้ายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มาร่วมงาน
      
       ขณะที่ผู้ขายสินค้าภายในงานส่วนใหญ่ระบุว่า งานวันแรก (1 มี.ค.) มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา คงเป็นเพราะผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น
      
       อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไปตลอดงานถึงวันที่ 7 มีนาคม ส่วนพิธีลุยน้ำลุยไฟจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคมนี้
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #3 เมื่อ: 02-03-2007, 16:15 »

ทหารพรานปะทะเดือดกว่าครึ่งชั่วโมงยิงโจรดับ 5 ศพ
http://www.bangkokbiznews.com/2007/03/02/WW10_WW10_news.php?newsid=57124

2 มีนาคม พ.ศ. 2550 11:36:00
 
ทหารพรานที่4509 ปะทะเดือดโจรใต้นานกว่าครึ่งชั่วโมง ขณะออกลาดตระเวณ ผลคนร้ายดับ 5 ศพ ยึดเอ็ม16ได้ 3 กระบอก ส่วน จนท.ปลอดภัย

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : เมื่อเวลา 11.00 น. ทหารพรานที่ 4509  ยิงปะทะกับกลุ่มคนร้ายบริเวณเทือกเขาตะเว หลังหมู่บ้านกูตง หมู่3 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส  นานประมาณ 30 นาที เมื่อเสียงปืนหยุดลง ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ และพบคนร้ายเสียชีวิตจำนวน 5 คน ยึดปืนเอ็ม 16 ได้ 2 กระบอก อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก  ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารปลอดภัยทุกนาย 

ดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ทหารพรานที่ 4509 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการออกเดินเท้าลาดตระเวนจนพบกับกลุ่มคนร้าย และเกิดการปะทะกันขึ้น

ขณะนี้ ผู้สื่อข่าวกำลังติดตามสถานการณ์ แต่เนื่องจากโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ จึงต้องรอรายละเอียดต่อไป
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 02-03-2007, 16:18 »

นับเป็นข่าวดี ในรอบหลายปี

นับว่าเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ที่ได้ผล 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #5 เมื่อ: 02-03-2007, 16:54 »

ผลงานทหารพรานหญิงในวันนี้ก็ไม่น้อยหน้าทหารพรานชายนะครับ

เพราะสามารถสลายกลุ่มหญิงคลุมหน้าที่อุ้มเด็กมาประท้วงปิดสะพาน
เมื่อตอนเช้าวันนี้ได้เรียบร้อยแล้ว (ข่าวว่าคลุมหน้ากันมาหลายร้อยคน)

ทหารพรานสู้ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้ทั้งทหารชาย ทหารหญิง 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #6 เมื่อ: 02-03-2007, 16:55 »

อาแดงนี่แม่นจริงๆแฮะ แสดงว่ายุทธวิธีการรบที่อาแดงเคยโพสไว้ได้เริ่มถูกนำไปใช้แล้ว ต้องรอดูว่าหัวหน้าทหารหน่วยอื่นจะนำไปใช้ด้วยหรือไม่
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #7 เมื่อ: 02-03-2007, 16:56 »

ทหารสู้ ๆ
 
บันทึกการเข้า

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 02-03-2007, 17:00 »

อาแดงนี่แม่นจริงๆแฮะ แสดงว่ายุทธวิธีการรบที่อาแดงเคยโพสไว้ได้เริ่มถูกนำไปใช้แล้ว ต้องรอดูว่าหัวหน้าทหารหน่วยอื่นจะนำไปใช้ด้วยหรือไม่


เคยเห็น เสธแดง ว่าไว้เหมือนกัน ยืนยัน
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #9 เมื่อ: 02-03-2007, 17:40 »

หลังๆ มานี้โจรใต้เริ่มทำงานพลาดหลายครั้งแล้วครับ

เมื่อปลายเดือนก็วางระเบิด ร้านมินิมาร์ท ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ที่ยะลา
พลาดท่าโดนระเบิดเอง แขนขาด แม้จะพากันหนีไปได้ แต่ตำรวจก็ใช้
สุนัขตามกลิ่นเลือดไปถึงบ้านต้องสงสัยได้

ชิ้นส่วนแขนที่เก็บได้ยังเอาไปตรวจดีเอ็นเอ หาผู้ที่เกี่ยวข้องได้อีก
ชาวบ้านไม่มีใครตาย แต่ตัวโจรที่แขนขาดอาจตายไปแล้วครับ

---

ที่ผ่านมาโจรชอบมอมเมาล้างสมองเยาวชนแนวร่วมว่าทำเพื่อศาสนา
แบบนี้สมาชิกก็มั่นใจไม่ได้แล้วว่า พระเจ้าเข้าข้างตัวเองจริงหรือเปล่า


โจรพวกนี้เอาเข้าจริงมีไม่กี่คนหรอกครับ เต็มที่ไม่น่าจะถึงพันคนด้วยซ้ำ
ที่อยู่มาได้ส่วนหนึ่งก็เพราะอาศัยความเกรงกลัวของชาวบ้านเป็นสำคัญ
และเดิมโจรเป้าหมายมุ่งทำร้ายคนไทยพุทธ และเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
ทำให้ชาวมุสลิมที่เป็นคนส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกคุกคาม แถมอาจ-
รู้สึกว่าโจรจะช่วยให้ได้มีรัฐอิสลามที่เป็นของตัวเอง

แต่ระยะหลังนี้โจรเล่นงานมุสลิมกันเองด้วย ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
ยิ่งไปทำเกินเหตุยิงรถรับส่งนักเรียน ภาพลักษณ์โจรใต้ยิ่งเสียหายหนัก
ถ้าขยายเรื่องให้เห็นว่าโจรเป็นภัยคุกคามชาวบ้านทุกคน ไม่ใช่เฉพาะ
ชาวไทยพุทธและเจ้าหน้าที่รัฐ ได้จะดีมาก

ถ้ากดดันปราบปรามกันจริงๆ  ทำให้ชาวบ้านเห็นว่าโจรเป็นฝ่ายถูกล่า
ยอมให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อดำเนินการปราบปราม
โจรก็จะมีที่อยู่น้อยลง เคลื่อนไหวไม่ได้ฝ่อตายไปเองล่ะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2007, 17:48 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 02-03-2007, 17:56 »

ความหวังเริ่มมีประกายขึ้นทีละนิด
วันนี้ทหารทลายสถานที่ซ่องสุมกำลังของกองโจรใต้ได้  กำจัดโจรใต้ไปได้ 8 คน จับกุมได้อีก 13 คน คาดว่าน่าจะขยายผลได้โดยไม่ยาก
บันทึกการเข้า

jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #11 เมื่อ: 02-03-2007, 18:16 »

ความหวังเริ่มมีประกายขึ้นทีละนิด
วันนี้ทหารทลายสถานที่ซ่องสุมกำลังของกองโจรใต้ได้  กำจัดโจรใต้ไปได้ 8 คน จับกุมได้อีก 13 คน คาดว่าน่าจะขยายผลได้โดยไม่ยาก


โอ้โห .. เป็นข่าวดีจริงๆ ไม่ทราบพอจะมีรายละเอียดหรือเปล่าครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #12 เมื่อ: 02-03-2007, 18:27 »

ข่าวผลงานทหารพรานหญิงของเราวันนี้ ขอปรบมือเป็นกำลังใจให้ครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทพ.หญิงสยบม็อบสตรี-เด็กมุสลิมกดดันปล่อยผู้ต้องสงสัย
http://www.bangkokbiznews.com/2007/03/02/WW03_0301_news.php?newsid=57122
 
2 มีนาคม พ.ศ. 2550 11:30:00
 
ยะลา - ม็อบสตรี-เด็กมุสลิม ปิดสะพาน "รอบสอง" 3 ชั่วโมง กดดันเจ้าหน้าที่ปล่อยผู้ต้องสงสัย สุดท้ายต้องใช้ทหารพรานหญิงเข้าสลาย

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : จากกรณีเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ เลขที่ 42/9 หมู่ 3 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่ด้านข้างร้านมิมิมาร์ท ของปั้มคาลเท็กซ์ จากการตรวจสอบที่มุมด้านหลังของร้าน พบแขนของมนุษย์ ด้านขวา ช่วงท่อนแขนลงมา สภาพนิ้วมือแตกละเอียด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ แต่ชาวบ้านได้มีการชุมนุมประท้วงในรอบแรกเมื่อวันที่ 27 ก.พ.50 ที่ผ่านมาให้ปล่อยตัว ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้(2มี.ค.) เวลา 07.00 น. มีกลุ่มชาวบ้านเป็นเด็ก และสตรีมุสลิมประมาณ 100 คน ใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า รวมตัวชุมนุมประท้วงที่บริเวณหัวสะพานถนนเพชรเกษม ยะลา-บ้านเนียง ม.3 บ้านลิดล ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา รอยต่อกับเขตเทศบาลนครยะลา เป็นรอบที่สอง เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัว นายนิเซ็ง บาละอาแซ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/1 ม.3 ต.ท่าสาป ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดรถกระบะ รถจักรยานยนต์ไปด้วย เพื่อหาคราบเลือดของคนร้าย 

เบื้องต้นจากการตรวจคาบเลือดที่รถกระบะ พบว่าดีเอ็นเอตรงกับเลือดที่ได้จากแขนของคนร้ายที่ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้นำตัวไปควบคุม ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อซักถามเพื่อขยายผล เนื่องจากต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ เมื่อวันที่ 27 ก.พ.50 ที่ผ่านมา 

ต่อเวลา 08.00 น. พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา ได้เข้าไปเจรจาโดยกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมเจรจาด้วย เรียกร้องจะขอพบ นายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ.ยะลา เพียงผู้เดียว โดยกลุ่มสตรีมุสลิมได้เขียนป้ายข้อความต่างๆ เช่น "รัฐจะให้ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน" "ทำไมเจ้าหน้าที่รังแกประชาชนที่ไม่มีทางต่อสู้" พร้อมกล่าวเป็นภาษาอาหรับ คำว่า "ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ " และ คำว่า "อัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่" นอกจากนั้นการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ทำให้การจราจรในช่วงเข้า-ออกเมืองยะลา เกิดการติดขัดเป็นอย่างมาก   

ต่อเวลา 08.30 น. นายกฤษฎา บุญราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เข้าเจรจา โดยทางเจ้าหน้าที่จะให้ภรรยาและบุตรของนายนิเซ็ง เดินทางไปพบสามีที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมให้เดินทางไป พร้อมเรียกร้องให้นำนายนิเซ็งกลับมาที่จุดชุมนุมเท่านั้น เป็นผลทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประสาน กองกำลังอาสาสมัครทหารพรานหญิง จากกองร้อยทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.เมือง จ.ยะลา จำนวน 50 นาย เข้าคุมพื้นที่ หากเกิดความวุ่นวายก็จะใช้กำลังเข้าสลายม็อบทันที

กระทั่งเวลา 09.00 น. กองกำลังทหารพรานหญิง จากกองร้อยทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.เมือง จ.ยะลา จำนวน 50 นาย ได้เดินทางมาถึงจุดผู้ชุมนุม พร้อมเข้าเจรจาให้ภรรยาของนายนิเซ็ง เดินทางไปพบสามีนอกจากนั้นยังได้ขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมุนมเปิดทางให้รถสามารถสัญจรผ่านได้ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก ได้รับผลกระทบ ซึ่งก็ไม่เป็นผลเช่นกัน จึงทำให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานหญิง ต้องสลายกลุ่มผู้ชุมนุมในที่สุด โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เมื่อเวลา 10.00 น.
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #13 เมื่อ: 02-03-2007, 18:39 »

พวกไทยรักไทย เค้าจะดีใจ กับเราไหมหนอ 
บันทึกการเข้า
achiteer
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 285



« ตอบ #14 เมื่อ: 02-03-2007, 18:47 »

ทหารพรานปะทะเดือนอาร์เคเค เด็ดหัวได้ 8 ศพ
ขณะกำลังฝึกรบที่ฐานชั่วคราวบนเทือกเขาตะเว จ.นราธิวาส ยึดเอ็ม 16 อุปกรณ์สนามจำนวนมาก ม็อบสตรี-เด็ก ที่ยะลาปิดถนนกดดันปล่อยผู้ต้องสงสัย อุ้มเด็ก 1-2 เดือน ร่วมขบวนม็อบหวังต่อรองสร้างเงื่อนไขทหารพรานหญิงเข้าสลายเรียบร้อย

เหตุยิงปะทะระหว่างทหารพรานกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 มีนาคม ร.ต.ต.ศรเพชร ตันติอมรชัยกุล ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดเฉพาะกิจที่ 4509 ว่ามีเหตุปะทะกับกลุ่มโจรติดอาวุธอาร์เคเค บนเทือกเขาตะเว บริเวณหลังหมู่บ้านกูตง หมู่ 3 ต.บองอ อ.ระแงะ เบื้องต้นมีกลุ่มก่อความไม่สงบเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 8 คน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิกุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ ทราบ พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ฉก.34 อ.ระแงะ ระดมกำลังตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองกว่า 200 นาย เข้าเสริมกำลังทันที

จากนั้นจึงแบ่งกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ซึ่งใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องร่วมเดินทางเข้าไปด้วย ทั้งนี้ต้องเดินเท้าขึ้นเทือกเขาระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร จากการตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดระเกะระกะอยู่ตามพุ่มไม้ ต้นยางพารา และตามพื้น รวม 8 คน ในที่เกิดเหตุพบรอยเลือดกระจายทั่ว และหยดเป็นทางเข้าไปในป่าลึก เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ได้รับบาดเจ็บและหลบหนีไปได้ส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงลำเลียงศพทางเฮลิคอปเตอร์ลงมายังสนามโรงเรียนชุมชนสหพัฒนา ต.บองอ อ.ระแงะ เพื่อส่งไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีกลุ่มผู้หญิงและเด็กเริ่มก่อตัวเพื่อประท้วงเจ้าหน้าที่

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด 4509 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการรวม 12 นาย สืบทราบว่าบนเทือกเขาดังกล่าวมีฐานปฏิบัติการของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ใช้ฝึกอาวุธเพื่อเตรียมลอบโจมตีเจ้าหน้าที่ครั้งใหญ่อีกครั้ง จึงส่งกำลังทหารพรานชุดดังกล่าวเข้าพิสูจน์ จนกระทั่งพบกองกำลังอาร์เคเคประมาณ 15-17 นาย พร้อมอาวุธปืนยาวครบมือ กำลังซ้อมแผนการรบ และการใช้อาวุธแบบประชิดตัว

เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าโอบล้อมพื้นที่ และเมื่อกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาจึงเปิดฉากกราดยิงใส่ เกิดปะทะกันนานกว่า 30 นาที จนเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นเชื่อว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหลบหนีเข้าป่าลึกอย่างน้อย 2 คน โดยทิ้งอาวุธปืนสงครามประจำกายเอ็ม 16 รวม 2 กระบอก อาวุธปืนลูกซองอีก 1 กระบอก และเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนทหารพรานปลอดภัยทั้งหมด

ส่วนผู้เสียชีวิต ได้แก่ นายอาหามะ หะยีมะเจ๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นายมะไฟซา ดอเลาะห์ บ้านเลขที่ 53 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นายอับดุลฟาตา อลอเฮ็ง บ้านเลขที่ 29 หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส นายอิสมาแอ แวมะเม็ง บ้านเลขที่ 63/4 หมู่ 1 ต.กาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นายสุกรี มะและ บ้านเลขที่ 15 หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 6.นายมูฮัมมัสนูร์ มะยูโซะ อยู่บ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นายมะดือเระ สาและ อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 4 ต.กายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส แล นายนูรฮาฟีซี มูซอรี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

เผยได้ข้อมูลจากชาวบ้านแจ้ง

พ.อ.สมพล ปานกุล รองผบ.ฉก.3 นราธิวาส กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องได้รับแจ้งข้อมูลจากประชาชนบริเวณดังกล่าวว่าพบกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งแต่งกายคล้ายทหารลงจากเขาเพื่อมาซื้อหาอาหาร เครื่องอุปโภค จึงวางแผนเข้าลาดตระเวนโจมตี อย่างไรก็ตาม พบว่าฝ่ายตรงข้ามแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงวอร์ม รองเท้ายางหุ้มส้น ส่วนอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ยึดได้ ตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธปืนที่ปล้นจากค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 (ค่ายปิเหล็ง) เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 นอกจากนี้ ยังยึดอุปกรณ์ภาคสนาม อุปกรณ์ใช้ฝึกร่างกาย เช่น บาร์เดี่ยว อุปกรณ์ใช้งัดข้อ เครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง เต็นท์ ไวท์บอร์ด และเอกสารภาษายาวีจำนวนหนึ่ง ที่สำคัญพื้นที่ดังกล่าวถูกดัดแปลงเป็นสนามฝึก คาดว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้วิธีชักชวนเยาวชนที่หลงเชื่อให้ขึ้นมาบนเขาตะเว เพื่อฝึกฝนร่างกาย

รอง ผบ.ฉก.3 นราธิวาส กล่าวอีกว่า ผู้ก่อความไม่สงบที่ปะทะกันครั้งนี้คาดว่าเป็นกองกำลังติดอาวุธระดับดูแลพื้นที่ มีการเคลื่อนไหวอยู่บนเขาตะเวไม่เกิน 40 คน อายุระหว่าง 20-30 ปี ตั้งค่ายฝึกอาวุธและร่างกาย ส่วนกลุ่มที่พบและเกิดการปะทะน่าจะเป็นกลุ่มแนวร่วมย่อยที่เข้ามาฝึกทบทวนในพื้นที่ดังกล่าวจนเกิดการปะทะกัน

ม็อบสตรีปิดสะพานกดดันปล่อยผู้ต้องสงสัย

ส่วนเหตุการณ์ชุมนุมกดดันเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยผู้ต้องหา เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 มีนาคม กลุ่มชาวบ้านซึ่งได้แก่ เด็ก สตรีมุสลิมประมาณ 100 คน ใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า ชุมนุมที่บริเวณหัวสะพานถนนเพชรเกษม ยะลา-บ้านเนียง หมู่ 3 บ้านลิดล ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา เป็นรอบที่สอง เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวนายนิเซ็ง บาละอาแซ อายุ 43 ปี ผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ที่คนร้ายวางระเบิดพลาดจนแขนขาดทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการชุมนุมกดดันเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แต่การชุมนุมครั้งนี้มีการอุ้มเด็กอายุประมาณ 1-2 เดือน มาร่วมชุมนุมด้วย ซึ่งมีรายงานว่าเป็นลูกของนายนิเซ็ง

ทั้งนี้นายนิเซ็งถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปพร้อมยึดรถกระบะ รถจักรยานยนต์ไปด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบคราบเลือดที่รถกระบะ พบว่าดีเอ็นเอตรงกับเลือดที่ได้จากแขนของคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงนำตัวไปซักถามขยายผลที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ต่อมาเมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา ได้เข้าไปเจรจา แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมเจรจาด้วย เรียกร้องจะขอพบนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าฯ ยะลา เพียงผู้เดียว กระทั่งเวลา 08.30 น. นายกฤษฎา บุญราช รองผู้ว่าฯ ยะลา เป็นผู้แทนผู้ว่าฯ ยะลา เข้าเจรจา โดยเจ้าหน้าที่จะให้ภรรยาและบุตรของนายนิเซ็งไปพบนายนิเซ็งที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมให้เดินทางไป พร้อมเรียกร้องให้นำนายนิเซ็งกลับมาที่จุดชุมนุมเท่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประสานกองกำลังอาสาสมัครทหารพรานหญิงจากกองร้อยทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.เมือง จ.ยะลา 50 นาย เข้าคุมพื้นที่

กระทั่งเวลา 09.00 น. กองกำลังทหารพรานหญิงมาถึงจุดชุมนุม พร้อมเข้าเจรจาให้ภรรยานายนิเซ็งไปพบสามี นอกจากนั้น ยังได้ขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทางให้รถสัญจรผ่านได้ แต่ไม่เป็นผล ทหารพรานหญิงจึงเข้าไปแยกกลุ่มสตรีกับเด็ก พร้อมพยายามหาแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3-4 คน มาทำประวัติ แต่ไม่สามารถติดตามตัวได้ เนื่องจากผู้ชุมนุมสลายตัวไปคนละทิศทาง ทั้งนี้ทหารพรานหญิงที่เข้าทำหน้าที่ครั้งนี้ไม่มีการพกอาวุธแต่อย่างใด

 

เผยนำเด็กมาร่วมชุมนุมหวังสร้างเงื่อนไข

พ.อ.ทิม เรือนโต ผบ.ฉก.ทหารพรานที่ 41 จ.ยะลา กล่าวว่า การสลายการชุมนุมได้โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บถือเป็นความสำเร็จระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ชุมนุมมีความพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบการชุมนุม โดยอุ้มเด็กเล็กอายุประมาณ 1-3 เดือนเข้ามาร่วมชุมนุมด้วยประมาณ 2-3 ราย ส่วนหนึ่งเชื่อว่าน่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเงื่อนไขกดดันให้เจ้าหน้าที่เร่งปล่อยตัวผู้ต้องหาเร็วขึ้น โดยอ้างความปลอดภัยของเด็กที่นำมาด้วยหากเกิดอันตรายถึงชีวิตจะได้โยนให้เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ได้ง่ายที่ปล่อยการชุมนุมยืดเยื้อ เนื่องจากวิธีการให้เด็กอายุ 7-8 ขวบ มาร่วมเป็นแนวกำแพงบังหน้าเริ่มไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะเจ้าหน้าที่รู้แผนและสามารถสลายการชุมนุมได้หลายครั้ง

ผบ.ฉก.ทหารพรานที่ 41 จ.ยะลา กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเชิงลึกว่าเด็กเล็กที่กลุ่มผู้ชุมนุมอุ้มมาร่วมประท้วงด้วยนั้นมีผู้ปกครองนำมาจริงหรือไม่ เนื่องจากการนำเด็กเล็กมาชุมนุมท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดถือว่าอันตรายมากเสี่ยงต่อการเกิดอาการช็อกและเสียชีวิตได้ จึงไม่เชื่อว่าผู้ปกครองจะยอมนำบุตรหลานมาประท้วงจริง หรือ อาจถูกกดดันทางอ้อมให้เข้าร่วมชุมนุมโดยไม่เต็มใจ

"เราไม่เชื่อว่าพ่อแม่จะใจร้ายอุ้มลูกเล็กๆ มาร่วมชุมนุมท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดเพราะอันตรายถึงชีวิต โดยเชื่อว่าหากอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมงเด็กมีปัญหาแน่นอน และจะนำมาสู่ปัญหาความรุนแรงตามแผนการที่กลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบวางไว้ ดังนั้นจึงต้องรีบเข้าสลายการชุมนุมอย่างเร่งด่วนเพื่อหยุดพฤติกรรมนี้ให้ได้ และขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบหาที่มาของเด็กเพราะกลัวจะถูกบังคับให้นำมาเป็นข้อต่อรองรัฐ" พ.อ.ทิม กล่าว

แหล่งข่าวจากชุด ฉก.ทหารพรานรายหนึ่ง กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่าคนร้ายที่ถูกสะเก็ดระเบิดจนแขนขาดเป็นครูสอนศาสนาหรืออุสตาสที่สอนในโรงเรียนอิสลามแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา และเป็นคนในพื้นที่หมู่บ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ล่าสุดได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว และญาติได้ทำพิธีฝังศพตามศาสนาอิสลามไปแล้ว

ชี้ไม่จำเป็นต้องให้ทหารนั่งรองผู้ว่าฯ

กรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เสนอแนวคิดให้ทหารเข้าไปมีบทบาทในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดฝ่ายความมั่นคง เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด อยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย หากทหารเข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการการคัดเลือกและต้องมีการรับโอนกันให้ถูกต้อง ซึ่งค่อนข้างจะยุ่งยากหลายขั้นตอน ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เอง เขาก็มีตำแหน่งอีกตำแหน่งที่ทำอยู่แล้ว คือ ตำแหน่ง ผอ.กอ.รมน.ของจังหวัด อีกทั้งรอง ผอ.กอ.รมน.ฝ่ายทหารที่เข้ามาดูแลความมั่นคงก็มีอยู่แล้วเช่นกัน จึงไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมต้องเอาทหารมานั่งตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดฝ่ายความมั่นคงอีก เพราะจะเป็นการซ้ำซ้อนกัน

นายอัฮหมัด สมบูรณ์ บัวหลวง นักวิชาการด้านสันติวิธี และอดีตคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) กล่าวว่า ขณะนี้ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนโยบายการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนหรือยัง ถ้าชัดเจนแล้ว ทหารจะเข้าไปในจุดนั้นก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร คิดว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากมองว่าไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เพราะบทบาทหน้าที่ของฝ่ายปกครองกับทหารแตกต่างกัน

ขณะที่ นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะเสนอแนวคิด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ การจะเพิ่มรองผู้ว่าฯ ที่มีภารกิจด้านความมั่นคงถือว่าเป็นเรื่องดี เพื่อให้ผู้ว่าฯ ได้ทำงานในบทบาทอื่นที่กว้างขวางมากขึ้น อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้ยังไม่ได้มีการหารือกับรัฐบาล

รมว.กลาโหมย้ำปิดช่องว่างสกัดคนร้ายก่อเหตุ

วันเดียวกัน พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวขณะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่และหน่วยกำลังที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งตั้งอยู่ภายในค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ว่า ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับชั้นพยายามลดช่องว่างในการทำงานเพื่อไม่ให้คนร้ายมีโอกาสก่อเหตุร้ายได้ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากภาคเอกชนในการสอดส่องดูแลพื้นที่และแจ้งเบาะแสของการก่อความไม่สงบ ทั้งนี้ต้องเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ควบคู่กันไปด้วย เพราะเป็นการมอมเมาเยาวชนให้เข้าไปเป็นแนวร่วมและก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบขึ้น จึงเน้นย้ำให้มีการสกัดกั้นและให้นำเยาวชนที่ติดยาเสพติดไปทำการบำบัดโดยเร็ว

พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้นำมาเลเซียระบุว่าภาคใต้ไทยเป็นแหล่งเพาะผู้ก่อการร้ายว่า ทางผู้นำทางทหารมาเลเซียแจ้งข่าวให้ทราบว่า หนังสือพิมพ์ของไทยลงข่าวไม่ถูกต้อง โดยเขาแจ้งว่าเขาไม่ได้พูดเช่นนั้น ส่วนความจริงเป็นเช่นไร ลึกลับ ซับซ้อนแค่ไหน ต้องไปถามผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งนี้ มาเลเซียให้ความร่วมมือแก้ปัญหาภาคใต้กับไทยอยู่

เมื่อถามว่า ปัญหาภาคใต้มีแนวโน้มขยายวงกว้างออกนอกประเทศหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ต้องเอาปัญหาให้อยู่เฉพาะในประเทศ ทั้งนี้ เรามีความกังวลในเรื่องนี้อยู่ เพราะหากปัญหาขยายออกไปจะส่งผลกับประเทศไทย และเชื่อว่าความรุนแรงคงไม่เข้ามาถึงพื้นที่กรุงเทพฯ ง่ายๆ ทั้งนี้คนไทยควรทำใจกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ต้องเกิดขึ้น อย่าไปตื่นเต้นตกใจ แต่จะต้องระวังตัว และเป็นหูเป็นตาให้แก่บ้านเมือง

ป่วนโทรขู่วางบึ้มร้านทอง-แบงก์-โชว์รูมรถ

เมื่อเวลา 10.45 น. ศูนย์รวมข่าว สภ.อ.เมืองยะลา รับแจ้งว่ามีผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์ขู่ลอบวางระเบิดภายในห้างร้านหลายแห่งในเขตเทศบาลนครยะลา ได้แก่ ธนาคารออมสิน สาขายะลา ร้านแสงเจริญนาประดู่ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด สาขายะลา ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า และที่ห้างทองซังเต้ง 1 จึงแจ้งให้ พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา นำกำลังไปตรวจสอบ แต่ไม่พบวัตถุต้องสงสัยใดๆ จึงเชื่อว่าคนร้ายต้องการก่อกวนและสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่

วันเดียวกันมีผู้พบใบปลิวทิ้งไว้ใน ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา พิมพ์ข้อความเป็นภาษามลายู อ้างว่าเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดเมื่อคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เป็นฝีมือของกลุ่มนักรบปัตตานีดารุสลาม

นายนันทวัฒน์ เจริญวรรณ นายอำเภอจะแนะ จ.นราธิวาส พร้อมคณะครู นักเรียน และชาวบ้านกว่า 1,000 คน รวมพลังหน้าที่ว่าการอำเภอจะแนะ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านการกระทำของผู้ก่อเหตุไม่สงบที่ใช้อาวุธสงครามกราดยิงรถทหารที่พาคณะนักเรียนกลับจากทัศนศึกษาที่ จ.สงขลา ทำให้นักเรียนบาดเจ็บ 7 คน ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 1 คน คือ ด.ญ.ไลลา มะเด็ง นักเรียนโรงเรียนบ้านไอร์โซ อ.จะแนะ ที่ยังรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
http://www.komchadluek.net/2007/03/02/a001_95298.php?news_id=95298
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 02-03-2007, 18:52 »

พวกไทยรักไทย เค้าจะดีใจ กับเราไหมหนอ 

นั่นนะซี 
บันทึกการเข้า

irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #16 เมื่อ: 02-03-2007, 19:10 »

ดีใจสุดๆครับ


 
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 02-03-2007, 20:02 »

ดีใจสุดๆครับ


 

โอ้ หน้าดีใจทำไมโหดจัง 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #18 เมื่อ: 03-03-2007, 11:27 »

มา Update ข่าวของวันนี้สักหน่อยครับ 

เรื่องจำนวนโจรที่เสียชีวิตยังไม่ตรงกันครับ มี 2 จำนวน คือ 5 ศพ กับ 8 ศพ
แต่ทางฝั่งมติชน-ข่าวสด น่าจะเป็นข้อสรุปได้นะครับ

คือโจรน่ะพบเสียชีวิต 5 ศพ แต่เจอบัตรประชาชนรวม 8 ใบครับ
ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าเป็นบัตรประชาชนของโจรที่ตายหรือไม่

ทีนี้ถ้าใช่ ... อีก 3 ใบ อาจเป็นของโจรที่บาดเจ็บหนีไป เนื่องจาก
พบคราบเลือดเข้าไปในป่าลึกนะครับ  แต่ถ้าไม่ใช่ก็เท่ากับได้เบาะแส
อีกถึง 8 รายที่อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มโจรครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------
ทหารพรานปะทะฆ่าโจรใต้ดับ5ศพ
ข่าวสด - วันที่ 03 มีนาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5938
http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03p0106030350

ทหารพรานปะทะเดือดโจรใต้กลางป่าลึกบนเทือกเขา ฝ่ายโจรตายเกลื่อน 5 ศพ ที่เหลือโดนยิงบาดเจ็บหนีเข้าป่าไปได้ เผยขณะลาดตระเวนเจอฐานปฏิบัติการกลุ่มอาร์เคเคกลางป่า ปรับพื้นที่เป็นสนามฝึกซ้อมอาวุธ มีทั้งเต็นท์ เสบียงอาหาร ก่อนกราดยิงใส่กันดุเดือด ยึดปืนลูกซอง เอ็ม 16 อีก 2 กระบอก เป็นปืนทหารที่โดนปล้นไป ด้านยะลาวุ่นหนักทั้งวัน ชาวบ้านนับร้อยฮือปิดถนน จี้ปล่อยตัวผู้ต้องหา รองผู้ว่าฯ รุดเจรจาแต่ไม่เป็นผล สุดท้ายต้องใช้ทหารพรานหญิงสลายการชุมนุม ขู่วางบึ้มหลายจุดกลางเมือง ประกบยิงพ่อค้าอ้อยปางตาย ไล่ยิง 2 ผัวเมียคนงานเหมืองแร่

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 มี.ค. ร.ต.ต.ศรเพชร ตันติอมรชัยกุล ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดเฉพาะกิจที่ 4509 ปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบบนเทือกเขาตะเว ด้านหลังหมู่บ้านกูตง หมู่ 3 ต.บองอ อ.ระแงะ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิกุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนกว่า 200 นาย รุดไปยังที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ และต้องเดินเท้าเข้าไปยังจุดที่ปะทะกันเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเส้นทางขึ้นเขา ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมงกว่าจะถึง และเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบศพกลุ่มก่อความไม่สงบจมกองเลือดอยู่ตามพุ่มไม้ ใต้ต้นยางพารา และตามพื้น รวม 5 ศพ แต่ละศพอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงวอร์ม สวมรองเท้ายาง อายุประมาณ 20-30 ปี อีกทั้งพบรอยเลือดกระจายทั่ว และหยดเป็นทางเข้าไปในป่าลึก เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเลือดของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน และหลบหนีเข้าป่าไปได้ส่วนหนึ่ง

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุยังพบบัตรประจำตัวประชาชน 8 ใบ ระบุชื่อ 1.นายอาหามะ หะยีมะเจ๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 2.นายมะไฟซา ดอเลาะห์ อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 3.นายอับดุลฟาตา ดอลอเฮ็ง อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 4.นายอิสมาแอ แวมะเม็ง อยู่บ้านเลขที่ 63/4 หมู่ 1 ต.กาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 5.นายสุกรี มะและ อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 6.นายมูฮัมมัสนูร์ มะยูโซ๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส 7.นายมะดือเร๊ะ สาและ อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 4 ต.กายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส และ 8.นายนูรฮาฟีซี มูซอรี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงลำเลียงศพกลุ่มก่อความไม่สงบลงจากเทือกเขา ขึ้นเฮลิคอปเตอร์มายังสนามโรงเรียนชุมชนสหพัฒนา ต.บองอ อ.ระแงะ เพื่อส่งไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่ร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยจะนำบัตรประจำตัวประชาชนทั้ง 8 ใบที่พบในจุดเกิดเหตุมาตรวจสอบกับทั้ง 5 ศพว่าเป็นใครต่อไป ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ก็มีบรรดากลุ่มผู้หญิงและเด็กก่อตัวประท้วงการกระทำของเจ้าหน้าที่

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดเฉพาะกิจที่ 4509 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ จำนวน 12 นาย ออกลาดตระเวนบนเทือกเขาตะเว พบฐานของกลุ่มก่อความไม่สงบ และพบชายฉกรรจ์กองกำลังระดับหน่วยจรยุทธ์ขนาดเล็ก หรืออาร์เคเค ประมาณ 15-17 คน กำลังฝึกซ้อมอาวุธอยู่กลางป่าในเทือกเขา เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าโอบล้อมพื้นที่ และเมื่อกลุ่มก่อความไม่สงบเห็นเจ้าหน้าที่ จึงเปิดฉากกราดยิงใส่เกิดการปะทะกันขึ้นนานกว่า 30 นาที จนเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่พบฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 5 ศพ คาดมีบางส่วนถูกยิงได้รับบาดเจ็บหลบหนีไปได้ ส่วนทหารพรานทั้ง 12 นายไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก ทะเบียน 5537273 และ 9545859 เป็นอาวุธปืนของกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ที่ถูกปล้นไปเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2547 อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบเสื้อผ้า เครื่องสนาม เสบียงอาหาร ข้าวสาร อาหารแห้ง ปลากระป๋อง ปลาเค็ม กระดานไวท์บอร์ดสำหรับเขียนบรรยาย เต็นท์พักแรมขนาด 10 คนนอน 1 หลัง ส่วนสภาพพื้นที่ใกล้เคียงถูกปรับสภาพเป็นสนามฝึกกว้าง 20x20 เมตร มีราวดึงข้อ และลวดหนาม

ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่บนเทือกเขาสูง ต้องเดินเท้าเข้าไปเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงจึงจะเดินทางไปถึง และจะปูพรมตรวจพื้นที่ดังกล่าวโดยรอบ เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบตั้งฐานปฏิบัติการ เพื่อเตรียมพร้อมก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ครั้งใหญ่ การพบฐานของผู้ก่อเหตุครั้งนี้ เนื่องจากได้รับเบาะแสจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่ามีวัยรุ่นที่ไม่ใช่คนในพื้นที่ขึ้นไปบนเทือกเขาคราวละ 10-20 คน และจากการสืบทราบพบว่า ฐานปฏิบัติการแห่งนี้ใช้ฝึกวัยรุ่นมาแล้ว 2 รุ่น กำลังฝึกรุ่นที่ 3 ใช้เวลาการฝึกครั้งละ 30-45 วันต่อรุ่น เชื่อว่าน่าจะมีพื้นที่ลักษณะนี้อีกมาก อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

โฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ต้องขอแสดงความเสียใจที่การปะทะกันครั้งนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 5 ราย แม้จะเป็นคนร้ายที่ก่อความไม่สงบในพื้นที่ แต่บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นประชาชนคนไทยในพื้นที่ เปรียบเสมือนพี่น้องกัน

ด้านเจ้าหน้าที่เองก็มิได้มุ่งหวังให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ยืนยันเจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติงานตามหน้าที่ โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือเพื่อปกป้องประชาชนให้อยู่อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งขอเรียกร้องไปยังกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ให้หยุดการก่อเหตุเพื่อทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ เพราะไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง อีกทั้งการกระทำดังกล่าวผิดหลักทางศาสนาที่ไม่ไห้ฆ่าผู้บริสุทธิ์

ด้านนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่เจ้าหน้าที่รัฐยิงปะทะกลุ่มก่อความไม่สงบ ทำให้กลุ่มก่อความไม่สงบเสียชีวิตถึง 5 คน และสามารถยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 ได้ 2 กระบอก ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐมักจะเสียชีวิต หรือไม่ก็บาดเจ็บเกือบทุกครั้ง ส่วนงานของศอ.บต.ในขณะนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ประชาชนในพื้นที่เริ่มไว้ใจมากขึ้น แม้จะยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตามเพราะยังมีความหวาดกลัวอยู่

ผอ.ศอ.บต. กล่าวต่อว่า ศอ.บต.ทำหน้าที่หลักสนับสนุนให้เกิดความสันติสุขโดยเร็วและยั่งยืน จะไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงรายวัน ในระยะเวลา 4 เดือนที่เข้ามาทำงาน ถือว่าได้ใจคนในพื้นที่พอสมควรว่า คนในพื้นที่หากมีปัญหาคับข้องใจก็สามารถมาบอกกับศอ.บต.ได้ ความลับไม่ถูกเปิดเผย ถือว่าได้ผลในระดับหนึ่ง จนทำให้ผู้ก่อความไม่สงบเริ่มสับสน และไม่สนใจผลกระทบว่าเป็นอย่างไร จะเสียมวลชนหรือไม่ เพียงต้องการให้ประชาชนในพื้นหวาดกลัวเท่านั้นก็พอ
...
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ล้างโคตรทักษิณ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 903



« ตอบ #19 เมื่อ: 03-03-2007, 12:16 »

อย่าประมาท ระวังพวกมันใช้วิธียิงประชาชนล้างแค้น
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #20 เมื่อ: 03-03-2007, 13:35 »

jaofoto
ภาพนี้มีเรื่องเล่า
Permalink : http://www.oknation.net/blog/jaofoto
วันศุกร์ ที่ 2 มีนาคม 2550
เพื่อสร้างศรัทรา หรือเพื่อสร้างภาพ หมายเหตุที่ยะลา
Posted by jao : 14:09:03 น.



ทันทีที่ได้รับภาพจากคุณจรูญ ทองนวล ช่างภาพศูนย์ภาพเนชั่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  อดไม่ได้ที่อยากขอ

ขอมูลว่า  เป็นพัฒนาการในการเคลื่อนไหว เหมือนที่ผมเข้าใจหรือเปล่า

              การเรียกร้องของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้  รูปแบบของม๊อบผู้หญิงปิดหน้า

รวมตัวเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัย ในหลายๆเหตุการณ์   พัฒนาจนมาถึง  นำเด็กทากรวัย 1 เดือนมาสร้างจุด

เปลี่ยนนำเสนอให้กับสื่อมวลชน เพื่อถ่ายทอด  ขยายผลต่อไป   

               เสียงเด็กร้องกลางกลุ่มผู้ชุมนุม  สื่อมวลชนต่างกระวีกระวาด ทำหน้าที่บันทึกภาพ  ความสงสัยแรกก็เพียงว่าเกิดอะไรขึ้น   แต่เหตุปัจจัยของเสียงก็คือ   การต่อสู้ปฐมบทสัญชาติญาณแรกๆของมนุษย์ คือ หิว และอิดอัด ร้อน

มิได้มีเจตนาอย่างอื่น  ซ้อน  เล้น     ทำให้บรรดากองทัพสื่อมวลชนที่เข้ามาทำข่าว  ต้องคิด และทบทวนแนวทางในการรายงานข่าว  หรือต้องรู้ให้เท่าทันกลุ่มผู้ชุมนุม  ว่าเป็นพัฒนาการของม๊อบ  หรือพัฒนาการของการต่อสู้ ที่ได้ขบคิดออกมาจากกลุ่มจริงๆ   หรือ ไม่มีเจตนานำเด็ก   เด็กทารกวัย 1 เดือนมาเรียกร้อง

มิติใหม่ๆในการนำเสนอต่อสื่อมวลชน     

              ปุจฉา  คนทำข่าววันนี้ มันต้องทำหน้าที่  และประมวนผลให้เร็วๆ  เหมือนความเร็วใน cpu ของคอมพิวเตอร์   


ขอบคุณ  ภาพจาก คุณ จรูญ ทองนวล  ช่างภาพศูนย์ภาพเนชั่น
 
http://www.oknation.net/blog/jaofoto/2007/03/02/entry-2



ก่อนหน้านี้ใช้ผู้หญิงและเด็กบังหน้าข่มขู่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้ปล่อยผู้ต้องหาหรือคนร้าย ได้สำเร็จมาแล้ว จึงได้ใจ ใช้แผนซ้ำซาก  เมื่อ'ทางการ' ใช้ทหารพรานหญิง 'รับมือ' เจ้าหน้าที่รัฐผู้ชาย  เพื่อป้องกันการกล่าวหาว่า ใช้ความรุนแรง ลวนลาม และ จาบจ้วงศาสนาฯ 
พวกก่อความไม่สงบ ก่อการร้ายก็พัฒนารูปแบบ'ม๊อบ'ใหม่ด้วยการใช้'ทารก'อายุไม่กี่เดือนแทน.....

เศร้าใจความสิ้นคิด และ จิตใจหฤโหดต่อทารกน้อย ของพวกวางแผนการนี้...... Exclamation





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2007, 13:47 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #21 เมื่อ: 03-03-2007, 13:39 »

เป็นสัญญาณที่ดีครับ
ปูผ้ากราบชาวบ้าน แล้วเข้าป่าไปยิงหัวโจร
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #22 เมื่อ: 04-03-2007, 15:10 »

หลังจาก "เรา" ดีใจ ได้ไม่นาน

ความจริงในเวลาต่อมา ก็ทำให้เรากลับไปเศร้าเหมือนเดิม

เพราะไอ้พวกโจรใจบาป มัน "แก้แค้นคืน" ทันควัน
ด้วยการ ยิงผู้บริสุทธิ์ คืน 4 ศพรวด ในวันเดียวกัน

ในจำนวนนั้น 2 คน เป็นนักเรียนหญิง อายุ 15 และ 17 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน
โจรชั่ว มันกราดยิง อย่างอำมหิตเลือดเย็น

เศร้า และ เจ็บปวด เกินจะบรรยาย
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #23 เมื่อ: 04-03-2007, 15:17 »

มันเริ่มเล่นวิชามารตามคาด ด้วยการปล่อยข่าวว่าคนที่ตายไม่ใช่โจร
แต่ทางเราก็แก้เกมส์ทันควันเหมือนกัน ด้วยการออกประชาสัมพันธ์
รู้สึกว่าหลังๆ โจรเริ่มหมดมุขโดนเดาทางถูกง่ายๆ จนจะกลายเป็น
โจรมุขแป้กไปแล้วล่ะครับ

ส่วนเรื่องที่มาลอบยิงตามจุดต่างๆ ผมว่าตอนนี้มันก็ต้องระวังตัวแจ
พลาดท่าโดนจับได้เมื่อไหร่ มีหวังเจอกวาดล้างแน่นอน  การไปยิง
เด็กนักเรียนผมว่าโจรมันหลุดแล้ว  เพราะจะหาความชอบธรรมอะไร
ไม่ได้เลย มีโอกาสสูญเสียมวลชนในพื้นที่สูง  ถ้าชาวบ้านช่วยเป็น
หูตาให้ทางการเมื่อไหร่ เราก็ได้เปรียบทันทีครับ  เหมือนกับกรณี
ที่ยึดค่ายฝึก ฆ่าโจรได้ 5 คนนี้ ก็เพราะได้เบาะแสจากชาวบ้านครับ

----

สำหรับข่าวที่ว่าจับเป็นโจรป่าได้ 13 คน ยืนยันแล้วว่าเป็นข่าวลือ

ส่วนบัตรประชาชนที่เจอ 8 ใบ อาจไม่ใช่ของโจรที่ตาย และได้ข่าว
ว่าตามไปถึงบ้านแล้ว ปรากฏว่าเจ้าของบัตรไม่อยู่บ้านหลายเดือน
ซึ่งถ้าเกลี้ยกล่อมให้มามอบตัวได้ ก็จะเป็นผลงานใหญ่ทีเดียวครับ

เอาข่าววิชามารของโจรมา Update สำหรับคนยังไม่ได้อ่านนะครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------

โฆษกทัพบกยันคนร้ายบนเขาตะเวเป็นแนวร่วม RKK ไม่ใช่คนตัดไม้
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000025580
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 มีนาคม 2550 12:34 น.
 
 
       นราธิวาส - โฆษกกองทัพบกยืนยันกลุ่มคนร้ายที่เสียชีวิต บนเทือกเขาตะเวเป็นกลุ่มอาร์เคเค ไม่ใช่คนตัดไม้ตามที่มีการปล่อยข่าว
      
      
       พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร กองทัพภาค 4 เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีทหารพรานปะทะกับคนร้าย จนคนร้ายเสียชีวิต 5 ราย ที่เทือกเขาตะเว อ.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ว่า กรณีที่มีข่าวสารข้อมูลจากเหตุการณ์ดังกล่าวออกไปในหลายๆ สื่อ ทั้งตัวเลขของผู้เสียชีวิต และการจับกุมคนร้ายได้นั้น
      
       ตามข้อเท็จจริงแล้ว ข่าวสารเหล่านั้นคลาดเคลื่อนไปจากความจริง คนร้ายเสียชีวิตมีจำนวนทั้งสิ้น 5 ราย และไม่มีการปะทะรอบสอง หรือการควบคุมตัวคนร้ายเพิ่มเติมได้อีก 13 ราย ตามที่เป็นข่าวออกมาตามสื่อต่างๆ ยังคงเป็นข้อมูลเดิม ตามที่ ศปชส.พตท.ภ.4 ได้ส่งไปให้สื่อมวลชน รวมไปถึงการแถลงข่าวที่ผ่านมา
      
       พ.อ.อัคร กล่าวอีกว่า ยังมีเรื่องของกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้นอีกหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น อย่างการล่าช้าในการนำศพลงมายังพื้นที่ราบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไปยิงคนลักลอบตัดไม้ ไม่ใช่คนร้ายกลุ่มฝึก อาร์เคเค นั้น ขอยืนยันว่า บุคคลที่เสียชีวิตทั้ง 5 รายเป็นคนร้ายจริง เพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ไม่ใช่คนลักลอบตัดไม้เถื่อน ตามข่าวลือที่ออกมา เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด และคาดเคลื่อนจนนำไปสู่การปลุกระดมชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้
      
       “หากเป็นคนลักลอบตัดไม้จริง คงอายุมาก แต่ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตเป็นกลุ่มวัยรุ่น และเครื่องมือรวมไปถึงอาวุธปืนที่มี ก็บอกอยู่ชัดเจนว่าไม่ใช่กลุ่มคนลักลอบตัดไม้ ผมเชื่อว่า หากศพและ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำการตรวจยึดมาจากที่เกิดเหตุลำเลียงลงมาถึงพื้นที่ราบได้ ความชัดเจนจากเหตุการณ์คงกระจ่างขึ้นทั้งหมดกระแสข่าวลือต่างๆ ก็จะหมดไปเอง” พ.อ.อัคร กล่าว
      
       หน.ศปชส.พตท.ภ.4 กล่าวอีกว่า ในเรื่องการแก้ไขปัญหากระข่าวลือที่เกิดขึ้น ทางเราได้ใช้รถติดเครื่องขยายเสียเข้าไปในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้าน ไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกับกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้น เพราะพื้นที่ ต.บองอ อ.ระแงะ เป็นพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วม ที่ต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เป็นจำนวนมาก
      
       ขณะนี้ จังหวัดนราธิวาส โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้เตรียมประสานทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด รวมไปถึงญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายมาทำการพิสูจน์ยืนยันบุคคลทั้ง 5 และเตรียมในการทำพิธีทางศาสนา รวมไปถึงการมอบเงินช่วยเหลือตามโครงการเยียวยาต่อไป
      
       ด้านพล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากการตรวจสอบศพคนร้ายทั้ง 5 ในเบื้องต้นยืนยันว่าเป็นคนร้ายจริงอย่างแน่นอน เนื่องจากทั้ง 5 รายใส่ชุดนักรบคล้ายทหารพราน ท่อนบนเป็นชุดสีเขียวลายพราง ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงสีเขียว สวมรองเท้าผ้าใบ สภาพอยู่ในชุดเตรียมพร้อมฝึก จึงไม่ใช่ลักษณะวิสัยของคนตัดไม้อย่างแน่นอน

------------------------------------------------------------------------------------------------

บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 04-03-2007, 15:23 »

ต้องขอบคุณทั้งทหารและตำรวจ สุดยอด!

(เอ๊ะ หลังจากไอ้เหลี่ยมไปแล้ว เหมือนกับตำรวจและทหารทำงานได้ผลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด)
บันทึกการเข้า

jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #25 เมื่อ: 04-03-2007, 15:39 »

หลังจาก "เรา" ดีใจ ได้ไม่นาน

ความจริงในเวลาต่อมา ก็ทำให้เรากลับไปเศร้าเหมือนเดิม

เพราะไอ้พวกโจรใจบาป มัน "แก้แค้นคืน" ทันควัน
ด้วยการ ยิงผู้บริสุทธิ์ คืน 4 ศพรวด ในวันเดียวกัน

ในจำนวนนั้น 2 คน เป็นนักเรียนหญิง อายุ 15 และ 17 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน
โจรชั่ว มันกราดยิง อย่างอำมหิตเลือดเย็น

เศร้า และ เจ็บปวด เกินจะบรรยาย

..ก็แล้วแต่จะมองว่าเป็นปฏิบัติการแก้แค้นหรือเปล่านะครับ..

เพราะคิดในอีกทางนึง ตลอดเวลาที่ผ่านมามันก็ยิงทุกวันอยู่แล้ว
แต่ผมมองในแง่ว่า ปฏิบัติการของโจรเริ่มมั่ว ฆ่าแบบน็อตหลุด
เช่น การยิงเด็กนักเรียนหญิง ที่เสี่ยงกับการสูญเสียมวลชน

*ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดแข็งเพียงจุดเดียวของโจรใต้*

และการที่เรายึดปืนที่โดนปล้นคืนมาได้ โดยสามารถระบุชื่อ
ขบวนการก่อการร้าย เท่ากับสามารถโฟกัสกลุ่มก่อการร้ายได้
จะเกิดความชัดเจนในการวางแผน การหาข่าว และสำคัญที่สุด
คือการประชาสัมพันธ์ ที่เราจะให้ข่าวไปได้ทั่วโลก จากแต่เดิม
ที่เราไม่เคยระบุกลุ่มคนร้ายได้เลย ถือเป็นจุดเปลี่ยนเลยครับ

สำหรับผมจึงยังรู้สึกมีกำลังใจอยู่นะครับ เพราะปฏิบัติการครั้งนี้
ถือเป็นความคืบหน้าแบบก้าวกระโดดทีเดียว ในการแก้ปัญหา
ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


ผมยกตัวอย่างนะครับ อย่าง จ.นราธิวาส ที่เกิดปะทะกับโจรใต้
ประชากรรวมทั้งจังหวัด มีเพียงประมาณ 6-7 แสนคนเท่านั้น
ถ้าดูที่ จ.ยะลา มีแค่ประมาณ 4 แสนคน ไปดูที่ จ.ปัตตานี ก็มี
ประมาณเท่ากับนราธิวาส ทั้งหมดนี้เป็นไทยพุทธร่วมๆ 3 แสน
ที่เหลือจึงเป็นชาวมุสลิม ที่มีคนร้ายไปแฝงตัวอยู่

ประชากรเพียงเท่านี้ เทียบกับกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร+ตำรวจ
4 หมื่นนาย บวกกับกำลังข้าราชการ และอาสาสมัครชาวบ้าน
ถ้าโฟกัสกลุ่มคนร้ายได้แบบนี้  จัดการต่อไม่ยากแล้วครับ

ยิ่งฝ่ายโจรปฏิบัติการแบบเสี่ยงสูญเสียมวลชนแบบนี้เข้าไปอีก
ก็ยิ่งเป็นตัวเร่งสถานการณ์  ผมว่ารอดูต่อไปมีลุ้นแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-03-2007, 15:47 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #26 เมื่อ: 04-03-2007, 16:00 »

ก็อยากให้มันเป็นเช่นนั้นแหละครับ

แต่ถ้าตัด "ความรู้สึกเชิงบวก" เกี่ยวกับการใช้ยุทธวิธีตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ออกไป

คุณ jerasak - คุณ ThaiTruth - ผม และใคร ๆ อีกหลายคน ก็น่าจะ "คิด" ตรงกันว่า
การใช้กำลังตอบโต้ ปราบปราม ฆ่ามันให้มากที่สุด ไม่ใช่วิธี "เอาชนะ" ศัตรูที่มองไม่เห็นตัวพวกนี้ได้

วิธีที่ได้ผล ก็คือ ดึง "แนวร่วม" ให้กลับมาเป็น "แนวเรา" ให้ได้
เหมือนที่รัฐบาลพลเอกเปรม เคยใช้นโยบาย 66/2523 สยบพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้
(แต่โดยส่วนตัวก็อดคิดแย้งไม่ได้ว่า นโยบาย 66/2523 ที่ป๋าเปรมและบิ๊กจิ๋ว ภูมิใจนักหนานั้น จริง ๆ มันบังเกิดผลโดยตรง หรือประจวบเหมาะกับ การเมืองระหว่างประเทศ ช่วงนั้น มันเปลี่ยนไป ก็ไม่รู้)

ตอนนี้ ผมลุ้น ความร่วมมือ ไทย-มาเลเซีย มากกว่า ว่าจะ ตั้งใจ และ จริงใจต่อกัน มากน้อยเพียงใด ต่อกรณีนี้

ผมว่า กุญแจสำคัญ (ดอกหนึ่ง) ในการยุติปัญหา อยู่ตรง การเมืองระหว่างประเทศ ที่ว่านี้
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #27 เมื่อ: 04-03-2007, 16:41 »


ข้อควรระวังอีกประการหนึ่งในขณะนี้คือ "การล้างแค้น"

เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เจ้าหน้าที่สังหารผู้ก่อการ กลางวันแสกๆ โดยที่ยังอยู่ในชุดพราง

ยึดอาวุธได้ แถมยังได้บัตรประชาชนอีก

แม้จะไม่ใช่ของผู้ก่อการทั้งหมด แต่ก็สามารถสาวถึงแกนกลางได้ไม่ยาก

วอนทุกฝ่ายช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงสงกรานต์

ช่วยกันดูย่านรามคำแหง และรังสิต เห็นเหตุน่าสงสัยรีบโทรแจ้งกองทัพได้เลยทันที

ก่อนจะสายเกินแก้
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #28 เมื่อ: 06-03-2007, 18:44 »

ก็อยากให้มันเป็นเช่นนั้นแหละครับ

แต่ถ้าตัด "ความรู้สึกเชิงบวก" เกี่ยวกับการใช้ยุทธวิธีตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ออกไป

คุณ jerasak - คุณ ThaiTruth - ผม และใคร ๆ อีกหลายคน ก็น่าจะ "คิด" ตรงกันว่า
การใช้กำลังตอบโต้ ปราบปราม ฆ่ามันให้มากที่สุด ไม่ใช่วิธี "เอาชนะ" ศัตรูที่มองไม่เห็นตัวพวกนี้ได้

วิธีที่ได้ผล ก็คือ ดึง "แนวร่วม" ให้กลับมาเป็น "แนวเรา" ให้ได้
เหมือนที่รัฐบาลพลเอกเปรม เคยใช้นโยบาย 66/2523 สยบพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้
(แต่โดยส่วนตัวก็อดคิดแย้งไม่ได้ว่า นโยบาย 66/2523 ที่ป๋าเปรมและบิ๊กจิ๋ว ภูมิใจนักหนานั้น จริง ๆ มันบังเกิดผลโดยตรง หรือประจวบเหมาะกับ การเมืองระหว่างประเทศ ช่วงนั้น มันเปลี่ยนไป ก็ไม่รู้)

ตอนนี้ ผมลุ้น ความร่วมมือ ไทย-มาเลเซีย มากกว่า ว่าจะ ตั้งใจ และ จริงใจต่อกัน มากน้อยเพียงใด ต่อกรณีนี้

ผมว่า กุญแจสำคัญ (ดอกหนึ่ง) ในการยุติปัญหา อยู่ตรง การเมืองระหว่างประเทศ ที่ว่านี้

เห็นด้วยครับคุณ cameronDZ

แต่ในความเห็นของผม .. เกี่ยวกับปัญหาเรื่องความร่วมมือ ไทย-มาเลย์ ก็คือ
ผมไม่มั่นใจว่า มาเลย์ จะอยากออกแรงร่วมมือกับเราจริงๆ น่ะสิครับ


เพราะปล่อยสถานการณ์ให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนเท่าไหร่
แถมหากเกิดกรณีแบ่งแยกดินแดนขึ้นมาได้จริงๆ เขาจะได้ประโยชน์ด้วยซ้ำ

เรื่องการแบ่งแยกดินแดนในปัจจุบัน มีประวัติย้อนไปได้ถึงประมาณ พ.ศ.2500
ซึ่งเป็นช่วงก่อนหน้า มาเลย์ จะได้รับเอกราช  มีกลุ่มการเมืองกลุ่มนึงที่ทราบว่า
ประเทศมาเลย์ที่จะได้รับเอกราชจะมีการปกครองแบบสหพันธรัฐ จึงเกิดแนวคิด
จะแยกดินแดนตั้งรัฐปัตตานี แล้วไปรวมเป็นรัฐนึงกับประเทศมาเลย์

ซึ่งการจะคิดไปถึงขนาดนั้นได้ น่าจะต้องมีการตอบรับจากว่าที่รัฐบาลมาเลย์แล้ว-
ในระดับนึง และหากการตั้งรัฐปัตตานีในครั้งนั้นทำได้สำเร็จตอนนี้พื้นที่ 3 จังหวัด
จะเป็นส่วนนึงของประเทศมาเลเซียด้วยซ้ำ ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าถึงตอนนี้มาเลย์
ยังคิดหรือเปล่าว่าเป็นเรื่องดีหากจะได้ 3 จังหวัดมาอยู่ด้วย เหมือนที่เคยวางแผน
กันเอาไว้เมื่อครั้งก่อตั้งประเทศ?

แต่จากยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในสมัยนั้น ทำให้แผนแบ่งแยกดินแดนล้มเหลวไป
มาเลย์เลยไม่มีรัฐปัตตานีอยู่ในแผนที่ และต่อมาต้องแยกสิงคโปร์ที่เป็นเมืองท่า
ออกไปอีกเพราะเงื่อนไขทางการเมือง การจะได้รัฐปัตตานีกลับไปเป็นส่วนหนึ่ง
ของประเทศ อาจคล้ายๆ กับที่ไทยเองก็อยากได้ดินแดน ที่เสียไปสมัย ร.5 คืน
ซึ่งผมคิดว่าเป็นความฝันนึงของชนชั้นปกครอง และประชาชนไทยเหมือนกัน

*การจะให้มาเลย์ร่วมมือ จึงต้องตอบคำถามให้ได้ก่อนว่ามาเลย์จะได้ประโยชน์อะไร
ซึ่งเรื่องนี้ผมว่าทางการทูตและการทหารก็คงเตรียมคำตอบให้มาเลย์แล้วล่ะครับ*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2007, 19:07 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #29 เมื่อ: 06-03-2007, 19:00 »

ความจริงเรื่องโจรใต้ ถึงไม่มีความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน เราเองก็น่าจะ
แก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ไม่น่าจะเกิดเหตุวุ่นวายไม่สงบขนาดนี้

....

เพราะกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่เกิดขึ้นเดิม ปัจจุบันกลายสภาพไปเป็นเพียงกองโจร
และแตกเป็นกลุ่มย่อยไม่ต่ำกว่า 5-6 กลุ่ม  แนวคิดแยกดินแดนที่เคยใฝ่ฝันกันไว้
ก็เหี่ยวฝ่อไปตามอายุขัยของแกนนำ บางกลุ่มแค่ข่มขู่เก็บค่าคุ้มครอง บางกลุ่ม-
ย่ำแย่กว่าเป็นแค่ที่รวมของโจรรับจ้างที่มีคดีติดตัว  ทั้งหมดเพิ่งพยายามรวมตัว
แบบหลวมๆ โดยใช้ชื่อร่วมกันเมื่อไม่กี่ปีมานี้ และเกิดฟิตจัดจะแบ่งแยกดินแดน
กันใหม่อีกครั้งก็ในสมัยทักษิณนี่เอง

โจรที่ปฏิบัติการก็เป็นเด็กใหม่ๆ ที่เพิ่งฝึกสอนกันขึ้นมาไม่กี่ปีนี้ โดยแกนนำรุ่นใหม่
ที่มีความเกี่ยวพันไม่มากนักกับผู้ก่อตั้งขบวนการแยกดินแดนรุ่นเดิม (รุ่นแรกร่ำรวย
จากผลประโยชน์ในพื้นที่ไปนอนตีพุงต่างประเทศ เลิกคิดแยกดินแดนไปนานแล้ว)
และเป็นที่รู้กันว่าโจรทั้งหมดไม่มีความพร้อมที่จะตั้งประเทศใหม่ได้จริงๆ จะเป็นได้
ก็แค่ก่อการร้ายเท่านั้น

จึงเป็นเรื่องที่ผมสงสัยมาตลอด เกี่ยวกับความจริงใจในการแก้ปัญหาของเจ้าหน้าที่
ในยุคที่ผ่านมา  น่าสงสัย.. ว่าจะมีใครได้ผลประโยชน์จากสถานการณ์ความไม่สงบ
และอยากให้สถานการณ์ขณะนั้นดำรงอยู่ต่อไปหรือเปล่า
 

ความจริงก่อนหน้านี้ใน 3 จังหวัดภาคใต้ก็มีเรื่องผลประโยชน์ด้านต่างๆ ในพื้นที่
และเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงผู้ดูแลอย่างขนานใหญ่ในยุคทักษิณ เรื่องมันจึงพัวพัน
ยุ่งกันไปหมด ทั้งกลุ่มโจรหลายกลุ่ม ทั้งเจ้าหน้าที่ และทั้งประเทศเพื่อนบ้าน
โดยในยุคทักษิณ ประชาชนแทบไม่มีโอกาสทราบรายละเอียดอะไรในพื้นที่เลย
เพิ่งจะเริ่มได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นหลังเหลี่ยมหมดอำนาจ และมีการเปลี่ยนแปลง
ผู้ดูแลพื้นที่ชุดใหม่นี่เอง

ความจริงแล้วด้วยความสามารถของกลุ่มโจร เทียบกับศักยภาพของฝ่ายรัฐบาล
ไม่มีทางที่โจรจะทำอะไรได้เหมือนที่ผ่านมา ที่ปราบไม่ได้จึงน่าสงสัยว่ามีอะไร
แอบแฝงอยู่ มากกว่าความเก่งของโจรบวกความห่วยของเจ้าหน้าที่ และการที่
โจรยังสามารถอาละวาดได้อยู่ตอนนี้ ก็เป็นผลจากที่มีโอกาสเคลื่อนไหวจนสร้าง-
อิทธิพลในพื้นที่มาได้หลายปี (ทั้งที่ไม่น่ามีโอกาสเคลื่อนไหวขนาดนี้)

การมีเจ้าหน้าที่ชุดใหม่ที่จริงจังในการแก้ปัญหา จึงเป็นนิมิตรหมายอันดีมากๆ
ว่าปัญหาโจรใต้จะทุเลาเบาบางลงไป ยกตัวอย่างเทือกเขาตะเว ที่ปล่อยให้
โจรไปซ่องสุมฝึกซ้อมกองกำลังมาหลายปี ก็เพิ่งถูกทหารบุกถล่มไม่กี่วันนี้เอง

ตอนนี้ก็เอาใจช่วยเจ้าหน้าที่แหละครับ แต่กว่าเหตุการณ์จะสงบจริงๆ คงไม่ใช่
ใช้เวลาไม่กี่วัน หรือไม่กี่เดือน แต่คงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่เป็นปีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2007, 19:09 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #30 เมื่อ: 06-03-2007, 19:03 »

สดุดีวีรกรรมเทือกเขาตะเว
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000026357
 
โดย หมายเหตุผู้จัดการ 6 มีนาคม 2550 15:00 น.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
ในพลันที่พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รมน. มีคำสั่งตั้งให้พลเอก ไพศาล กตัญญู รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เกิดความแปลกใจแก่หลายคนว่าจะไหวหรือ เพราะพลเอก ไพศาล กตัญญู ไม่มีประสบการณ์ในพื้นที่ภาคใต้มาก่อนเลย
       
       เราฟันธงว่าเป็นการตั้งถูกตัวถูกคน เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน แล้ว และการตัดสินใจที่ถูกต้องในครั้งนี้จะส่งผลให้สถานการณ์ความไม่สงบมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่มีอนาคตคือความสงบสุขกลับคืนพื้นที่นั้นเป็นมั่นคง
       
       พลเอกไพศาล กตัญญู เป็นนายทหารอาชีพ เป็นขุนพลคนสำคัญ จัดเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่คุมกำลังหลักตลอดมา โดยเฉพาะการคุมกำลังหลักในพื้นที่ใจกลางมหานคร
       
       แม้ว่าอายุราชการจะเหลืออยู่อีกเพียง 7 เดือนเท่านั้น แต่ขุนพลผู้นี้กลับมีปณิธานแรงกล้าที่จะใช้เวลาเท่าที่มีอยู่นี้ทำการสนองพระเดชพระคุณและสนองคุณแผ่นดินเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของประชาชนให้เป็นผลสำเร็จ
       
       เข็มมุ่งแรกของนายพลผู้นี้คือต้องยุติเหตุการณ์ฆ่ารายวันให้สำเร็จ มิฉะนั้นงานมวลชนหรืองานพัฒนาอื่นใดก็จะไม่มีทางประสพความสำเร็จได้
       
       เป็นการประกาศที่ถูกต้องเป็นครั้งแรกของการดำเนินยุทธศาสตร์สันติของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ด้านหนึ่งดำเนินนโยบายสมานฉันท์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับมวลชน อันจะนำไปสู่การพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่ แต่อีกด้านหนึ่งก็คือการทำให้พื้นที่ปลอดภัย ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้เป็นผลสำเร็จ
       
       ใครไม่เข้าใจยุทธศาสตร์สันติในลักษณะเช่นนี้อย่าได้ส่งลงไปภาคใต้ ใครที่อยู่แล้วก็ต้องเรียกตัวกลับคืน และต้องเสริมคนที่เข้าใจยุทธศาสตร์ดังกล่าวลงไปทำงานให้เร็วที่สุด
       
       การพร่ำเพ้อเรื่องสมานฉันท์ด้านเดียวโดยที่คนไทยทั้งพี่น้องไทยพุทธและพี่น้องไทยมุสลิมยังถูกฆ่ารายวันอยู่เป็นการเพ้อเจ้อที่ไร้สาระ เพราะขาดเนื้อหาอีกด้านหนึ่งคือการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
       
       การที่พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ตั้งพลเอกไพศาล กตัญญู ไปดูแลเรื่องนี้ มีอำนาจบัญชาทั้งแม่ทัพภาคที่ 4 พตท. และ ศอ.บต. จึงเป็นเอกภาพทางการบังคับบัญชาโดยผู้บังคับบัญชาที่ปรีชาสามารถแล้ว เป็นการบุกเบิกเงื่อนไขที่จะนำความสงบสุขกลับคืนแผ่นดินแล้ว
       
       เราขอให้พี่น้องร่วมชาติทั้งประเทศ ขอให้พี่น้องทหารกองเกินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคน ขอให้ยามเฝ้าแผ่นดินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคน ขอให้พี่น้องชาวไทยทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าเชื้อชาติ ศาสนาไหน และเพศ วัยใด ได้ร่วมใจกันสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของ กอ.รมน.ในครั้งนี้ให้เป็นผลสำเร็จ โดยร่วมแรงแข็งขันสามัคคีกัน ประสานกัน และเป็นกำลังให้กับแผ่นดินในการนำความสงบสุขกลับคืนมาสู่บ้านเมืองเพื่อความร่มเย็นและความปลอดภัยของลูกหลานเราทุกคน
       
       หลังพลเอก ไพศาล กตัญญู รองผู้บัญชาการทหารบก เข้ารับผิดชอบบัญชาการแก้ไขปัญหาแล้ว เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็มีข่าวคราวหน่วยทหารพรานรุกเข้าตีฐานผู้ก่อความไม่สงบในเขตเขาหลายแห่ง โดยเฉพาะเขตเทือกเขาตะเวในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
       
       เกิดการปะทะกันหลายครั้ง ฝ่ายทหารพรานปลอดภัยทุกตัวคน ในขณะที่ข้าศึกเสียชีวิตจำนวนมาก ที่เป็นข่าวมีจำนวน 8 คน และหลบหนีไปยังพื้นที่จังหวัดสงขลาจนถูกจับได้อีก 5 คน
       
       เราขอสดุดีการทำงานอย่างเสียสละกล้าหาญของหน่วยทหารพรานที่ 4303 และ4509 ที่รุก รบอยู่ในแนวหน้าสุดในเขตเขาตะเว และขอสดุดีความร่วมมือร่วมใจของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตลอดจนมวลชนผู้รักสันติที่ได้แจ้งข่าวสารให้เจ้าหน้าที่ของรัฐจนสามารถจับกุมผู้หลบหนีได้
       
       เหตุการณ์นี้น่าสนใจเพราะจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของการดำเนินยุทธศาสตร์สันติของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นครั้งแรก คือเป็นทั้งเชิงรุก เป็นทั้งเชิงกระทำ และเป็นการรุกเข้าสู่ศูนย์กลางของฐานกำลังข้าศึก
       
       เรามาดูปรากฏการณ์แรกนี้คือยุทธการบนเทือกเขาตะเว
       
       ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ประกอบทั้งเขตที่ราบ เขตชายทะเล เขตแอ่งน้ำลำธาร เขตป่าและเขตเขา เฉพาะเขตเขานั้นมีถึง 18 เขตเขา เป็นเขตเทือกเขาสูง ระดับ 1,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ลดหลั่นลงมาจนถึงประเภทควนที่มีความสูงตั้งแต่ 80-300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จัดเป็นชัยภูมิที่ดีในทางการทหาร เพราะเป็นชัยภูมิที่ได้เปรียบ
       
       เขตเขาตะเวเป็นเทือกเขาสูงยาวเหยียด มีความสูงถึง 1,800 เมตร มีความยาวของเทือกเขาถึงประมาณ 35 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณแนวเส้นแวงที่ 15 ตั้งแต่จุดตัดกับเส้นรุ้งที่ 15-25 เป็นป่ารกชัฏ และเป็น 1 ใน 17 เขตเขาของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
       
       หลังจากรัฐบาลทักษิณบอนไซ กอ.รมน. ยุบ ศอ.บต. และ พตท.43 แล้วให้ทหารออกนอกพื้นที่ ให้ตำรวจเข้าจัดการพื้นที่แทนแล้ว ข้าศึกได้ขยายตัวเติบใหญ่และเข้ายึดครองเขตเขาเกือบทั้ง 17 เขตเขา ยึดเอาเป็นชัยภูมิในการทำสงครามยืดเยื้อ และดำเนินยุทธศาสตร์สงครามจรยุทธ์ ขยายงานมวลชนเพื่อบรรลุถึงเป้าหมายสุดท้าย คือขับไล่คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธและคนไทยเชื้อสายจีนออกจากพื้นที่ให้หมด
       
       เขตเขาตะเวได้ถูกใช้ไปเพื่อประโยชน์ของข้าศึกโดยที่รัฐทอดทิ้งไม่เหลียวแล และโดยสภาพที่ตั้งของเขตเขาตะเวดังกล่าว ได้เอื้อประโยชน์ให้กับข้าศึกในการส่งกองกำลังเข้าไปคุกคามอำเภอระแงะ อำเภอสุไหงปาดี อำเภอสุคิริน อำเภอจะแนะ และอำเภอแว้ง ของจังหวัดนราธิวาส
       
       เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 5 อำเภอดังกล่าวนี้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาล้วนเกี่ยวข้องและแยกไม่ออกกับขุมกำลังบนเขตเขาตะเว การระดมพล การเคลื่อนกำลัง การเข้าตี การล่าถอยและการหลบหนี ล้วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเทือกเขาตะเวทั้งสิ้น
       
       เพราะชัยภูมิที่ได้เปรียบเนื่องจากเป็นเขตเขาสูงและป่าทึบรกชัฏ ประกอบทั้งรัฐไม่สนใจและไม่ศึกษาสภาพ จึงทำให้เหตุการณ์ร้ายทุกครั้งไม่เคยจับหรือทำลายข้าศึกได้เลย
       
       วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ชัยภูมิเหล่านี้กำลังจะถูกทำให้เป็นแหล่งที่ปลอดจากกองกำลังของข้าศึก และโดยศักยะทางการทหารของกองทัพไทย โดยเฉพาะ กอ.รมน. และ พตท. ประสานกับความสามัคคีสมานฉันท์พร้อมกันทำสงครามต่อต้านของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3-4 จังหวัดภาคใต้แล้ว เรามั่นใจว่าสถานการณ์ได้เริ่มต้นของจุดพลิกผันแล้ว
       
       การเข้าตีของหน่วยทหารพรานที่ 4303 และ 4509 เป็นเพียงวีรกรรมหนึ่ง ซึ่งกำลังขยายตัวไป เพราะนี่คือปฏิบัติการทางยุทธวิธีเพื่อทำให้เขตเขาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปลอดจากข้าศึก
       
       นับได้ว่าเป็นเข็มมุ่งทางยุทธศาสตร์ที่มีนัยยะสำคัญยิ่ง และแสดงให้เห็นด้วยว่าขีดความสามารถของหน่วยทหารพราน “นักรบชุดดำผู้ชนะ” ในยุคปัจจุบันนี้ยังคงสืบทอดอุดมการณ์และความปรีชาสามารถของหน่วยทหารพรานหน่วยแรกที่เคยจัดตั้งขึ้นที่ปักธงชัยเมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้วได้อย่างยอดเยี่ยม
       
       ถึงเวลาแล้วที่ทหารพรานทั้งหลายจะได้เคลื่อนตัวสู่แนวหน้าสุด และถึงเวลาแล้วที่อดีตทหารพรานทุกคนที่เลือดนักรบยังกรุ่นอยู่จะได้เข้ามาอาสาชาติในครั้งนี้
       
       ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงการประสานงานและบูรณาการที่มีประสิทธิภาพและทรงพลัง หลังการปรับปรุงระบบระบอบการทำงานครั้งล่าสุด
       
       ขอให้พี่น้องร่วมชาติทุกคนให้กำลังใจและสนับสนุนปฏิบัติการของกองทัพไทย ของ กอ.รมน. ของกองทัพภาคที่ 4 ของ พตท. และ ศอ.บต. ในการนำความสงบสุขกลับคืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สำเร็จด้วยกันเถิด.
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อมพระมาพูด
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 918


สนิมเกิดแต่เนื้อในตน


« ตอบ #31 เมื่อ: 06-03-2007, 19:10 »

 

ขอให้สันติสุข กลับคืนโดยไว ด้วยเทอญ และผมขอเป็นกำลังใจให้นายทหาร ทุกนายที่เข้าปฏิบัติภาระกิจ นี้ด้วยครับ
บันทึกการเข้า

พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #32 เมื่อ: 06-03-2007, 20:08 »

สำหรับพิกัดตำแหน่งของเทือกเขาตะเว ที่ผู้จัดการระบุคงคลาดเคลื่อนนะครับ
น่าจะอยู่ที่ ประมาณ

6°N ถึง 6°14'N และ 101°47'E

สำหรับตำแหน่งของ ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส อยู่ที่ตรงนี้นะครับ
ถ้าเล่น google earth ก็ก็อปปี้ไปใส่ช่อง Fly To แล้ว Enter ได้เลย

6°12'41.79"N 101°47'56.04"E

ไม่ค่อยชัดนักเท่าไหร่นัก แต่พอได้ feeling ครับ
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #33 เมื่อ: 06-03-2007, 20:31 »

อ้าวตัวองศา ทำไมกลายเป็น ° ไปเสียแล้ว แบบนี้ก็ก็อปไป google earth ไม่ได้สิ

ถ้าก็อปไปต้องเปลี่ยนเป็นตัวองศาก่อนนะครับ หรือเลื่อนภาพไปให้ตรงพิกัดตำแหน่งก็ได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2007, 20:35 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #34 เมื่อ: 07-03-2007, 00:32 »

กระทู้นี้ คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ไม่ยอมเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยเลย...........

พวกก่อความไม่สงบ ก่อการร้ายตายเพียง 5 คน ก็ไม่เข้ามาร่วมกระทู้แล้ว.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: