คตส.เรียก "ทักษิณ-พจมาน-สุริยะ" รับข้อหามี.ค.นี้

คตส.ดีเดย์เรียก "ทักษิณ-พจมาน-สุริยะ" รับทราบข้อหากลางเดือนมีนาคม ด้านอนุกรรมการกรณีซื้อที่ดินย่านรัชดาฯเรียกอดีตนายกฯ พร้อมภรรยารับทราบข้อหา 12 มีนาคม ส่วนทุจริตจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 ออกหนังสือเรียก 16 มีนาคม
แหล่งข่าวจาก คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนจำนวน 2 คณะ ประกอบด้วยคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการซื้อที่ดินของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีนายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการคตส.เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการไต่สวนโครงการจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุงระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีนายอำนวย ธันธรา กรรมการคตส. เป็นประธาน จะเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลที่ถูก คตส.ตั้งข้อกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

โดย คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการซื้อที่ดินของคุณหญิงพจมาน ได้ออกหนังสือเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 12 มีนาคม 2550 และคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีซีทีเอ็กซ์ 9000 ได้ออกหนังสือเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศรีสุข จันทรางศุ อดีตประธานกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.) และนายชัยเกษม นิติศิริ รองอัยการสูงสุด มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.

กรณีการจัดซื้อซีทีเอ็กซ์ อนุกรรมการไต่สวนได้ประชุมร่วมกันวานนี้ (28 ก.พ.) ว่า ผู้ถูกกล่าวหาชุดแรกจะเรียกบุคคลทั้ง 4 มารับทราบข้อกล่าวหาก่อน เพราะทั้ง 4 คน ถูกตั้งข้อกล่าวหา 2 กรณี คือ

1. กรณีการจัดทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างออกแบบและปรับเปลี่ยนระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและสัมภาระผู้โดยสาร และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ระหว่าง บทม.กับกิจการร่วมค้าไอทีโอฯ

2. สัญญาจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ จากบริษัท จีอี อินวิชั่น โดยตรง

นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. ในฐานประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบกรณีการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้กว่า 46 คน เป็นลักษณะของการเหวี่ยงแห ว่าเข้าใจว่าสังคมคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะในระหว่างการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่ประชุมก็มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการอภิปรายแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ก็พบว่าไม่สามารถที่จะละเว้นการไม่เอาผิดกับใครได้ เนื่องจากการพิจารณาคนที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาจากเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

“ในอดีตเคยมีการพิพากษาคดีหนึ่ง เกี่ยวกับการที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติขึ้นเงินเดือนให้กับตนเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถเลือกได้ว่าคนไหนทำผิด คนไหนไม่ทำผิด เพราะคนที่ร่วมกันเห็นชอบมติดังกล่าว ก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกันทั้งหมด แต่ขณะนี้เราคงไม่ออกความเห็นอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้” นายอุดม กล่าว

แหล่งข่าวจาก คตส. กล่าวว่า สำหรับกลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะถูกชี้มูลความผิดในคดีนี้จะมี 32 คน ทั้งหมดได้เข้าร่วมประชุมครม. เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2546 และร่วมกันมีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการหวย 2 ตัว 3 ตัว แต่ในส่วนของรัฐมนตรีที่จะไม่ถูกชี้มูลด้วยก็คือ คนที่ไม่ได้เข้าร่วมในการประชุมครั้งนั้น

นายสัก กอแสงเรือง กรรมการ คตส. ในฐานะคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ชินคอร์ป กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบ ว่าขณะนี้การตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายหุ้นในส่วนของบริษัท แอมเพิล ริช อินเวสต์เม้นท์ จำกัด กำลังอยู่ระหว่างรอข้อมูลบางส่วนจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ในคดีนี้ ที่ได้ยังจัดส่งมาให้ไม่ครบถ้วน จึงยังไม่แน่ใจว่าในการประชุม คตส. ชุดใหญ่ วันที่ 6 มีนาคมนี้ จะนำเสนอผลการตรวจสอบให้ที่ประชุมพิจารณาได้หรือไม่

ที่มีข่าวว่าคณะอนุกรรมการตรวจสอบชุดนี้ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สั่งการไปยังธนาคารพาณิชย์ให้ตรวจสอบเอกสารแสดงการเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีเงินฝากของบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดี 36 คนนั้น นายสัก กล่าวว่า ไม่ทราบว่าตัวเลข 36 คน มาจากไหน แต่การตรวจสอบเรื่องนี้ ในเบื้องต้น คณะอนุกรรมการได้วางกรอบการทำงานไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องทำการรวบรวมข้อมูลจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำมาใช้ประกอบ

http://www.bangkokbiznews.com/2007/03/01/news_22925764.php?news_id=22925764

เอ้า !!!!!!!!! .......เรียกร้องกันจัง บรรดา สาวกเหลี่ยม จะได้ สมหวังกันซะที