บันทึกการเดินทางสู่เสียมเรียบ " See Angkor Wat and die "

[ใบไม้ทะเล]

วันนี้ข่าวการเมืองเยอะจัง จนหนูเกิดอาการอยากต่อว่าต่อขาน พี่ๆๆในนี้ขึ้นมา หากหนูล่วงเกินพี่ๆๆตรงไหน ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ 

ขอดำเนินรายการตามที่ได้ขึ้นหัวกระทู้เลยแล้วกัน 

เมื่อต้นเดือนนี้ พอดีอนากลับเมืองไทยก่อนกลับเลยขอแวะเที่ยวประเทศกัมบูชาสักหน่อย เพราะอยากไปดูสิ่งที่ได้ขึ้นชื่อว่า มรดกโลก ว่าจะสวยสักแค่ไหน

งานนี้ด้วยความที่ไม่มีเวลา เลยต้องขอใช้วิธีลัด โดยการขึ้นเครื่องแทนการเดินทางโดยรถยนต์ ซึ่งคนไทยส่วนมากจะใช้เส้นทางนี้โดยไปเข้าด้านที่ ปอยเปต และต่อรถที่โรงเกลือ ถ้าอนาฟังไม่ไม่ผิดนะค่ะ

เที่ยวบินจากเมืองไทย แน่นอนค่ะ มีสายการบินเดียวเท่านั้นที่เข้าเสียมเรียบนั่นคือ bangkok airways 



เครื่องบินลำเล็กค่ะ เลยใช้เวลาเดินทางประมาณ หนึ่ง ชม. อ๋อ รูปเครื่องบินนะ ไม่ใช่เครื่องที่อนาขึ้นนะค่ะ แต่มันคล้ายๆๆเครื่องนี้ค่ะ ไปก๊อปเขามา http://www.cambodia-airports.com/userImages/Inauguration%20flight/Airbus%20Bangkok%20Airways.jpg



พอเดินทางมาถึงสนามบิน อากาศต่างกับบ้านเรานิดๆๆ คือร้อนกว่าค่ะ เสียมเรียบเป็นสนามบินเล็กๆๆค่ะ ตึกชั้นเดียว

รูปนี้ก็ก๊อปเขามาเหมือนกัน ตัวเองไม่ได้ถ่ายไว้ มีถ่ายแต่มันมีรุปคนนะค่ะ 

พอเดินทางเราก็มาทำวีซ่าก่อนค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้ทำมาจากเมืองไทย ค่าวีซ่า 25 ดอลล่า ค่ะ อย่างแพง สำหรับอนานะค่ะ  จากนั้นก็รอเข้าคิวเชคพาสปอตย์ มาถึงตรงนี้ อนาค่อนข้างงงกับคนของเขา เพราะเขาไม่สนใจนักท่องเที่ยวที่ยืนต่อแถวรอตรวจหนังสือเดินทางเลยค่ะ บางเจ้าหน้าที่โทรศํพย์ ไม่สนใจเลย บางคนคุยกับเพื่อน แล้วพอเขาพร้อมจะทำเขาก็ไม่เรียกให้เราไปนะค่ะ นั่งรออยุ่นั่นแระ จนหนูต้องสกิดคุณป้าคนข้างหน้าว่า สงสัยช่องนั้นจะโอเคมั่งค่ะ สิ่งแรกที่หนุประทับใจจริงๆๆ

[ใบไม้ทะเล]

พอฝ่าด่านสนามบินเรียบร้อยแล้ว เราก็เช่าแท๊กซี่ไปที่ รร เลย เนื่องจากว่าอนาลืมบอกทาง รร มารับ เลยต้องไปด้วยตัวเอง

สิ่งที่งง กับเมืองนี้ คือความแตกต่างอย่างเห้นได้ชัด คือ โรงแรมที่สวยงามแทบทุกโรงแรม แล้วจะออกสไตร์ศิลปทางเขมรเกือบหมดเลยค่ะ เห็นแล้วสวยดี เหมาะสมกับเป็นเมืองที่มีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกจริงๆๆ

รูปนี้เป้น รร. ที่อนาพักค่ะ

ชื่อโรงแรม Apsara Angkor hotel โรงแรมยอมรับว่าสวย แล้วก็สะอาดค่ะ แต่ยกเว้นอาหาร ออกหวานไปหน่อย  เนื่องจากตัวเองหวานอยุ่แล้ว เลยไม่ค่อยอยากเพิ่มน้ำตาลให้ตัวเองนะค่ะ 

อันนี้เป็นรูป โรงแรมฝั่งตรงข้ามค่ะ


ประชาชนใน พื้นที่ส่วนมากก็ใช้จักรยาน รถยนต์ที่เห็น ไม่รถตู้นักท่องเที่ยวก็รถบัส เป็นส่วนมากค่ะ

สรุปสั้นๆๆเมืองนี้ เมืองท่องเที่ยวจริงๆๆค่ะ

[ใบไม้ทะเล]

เรามาถึงกันก็เย็นพอดีค่ะ อากาศร้อน ทำเอาหนูเหนื่อยเหมือนกัน ทั้งๆๆที่ก็ไม่ได้ทำไรมาก พอดีเรามาแบบรีบๆๆไมได้วางแผนไรเลย เลยต้องอาศํยถามแท๊กซี่ที่มาส่งเราที่ รร ให้แนะนำร้านอาหาร สรุปเราเลยต้องนัดแท๊กซี่ให้พาเราไปร้านอาหารยอดนิยมของเมืองนี้นั่นคือ Tonlesap restuarant ภัตตาคารโตนเลสาป น่าจะเขียนอย่างงี้ค่ะ เป็นร้านอาหารนานาชาติแบบบุฟเฟ่ หัวล่ะ สิบสองเหรียญ

อาหารรสชาติออกหวานค่ะ อ่า หนุว่าหนูทานหวานิดๆนะค่ะ มาเจออาหารเขาหวานจริงๆๆค่ะ แต่หน้าตาแยกไม่ออกค่ะ ว่าอาหารไทยป่าว 

ตอนที่คนขับรถแนะนำเรานั้นเขาบอกมา Apsara dance ให้ดูด้วย เราก็เลยสนใจเพราะอยากรู้รำนี้แระค่ะ แต่อย่างว่าค่ะ ประเทศเพื่อนบ้าน ศิลปวัฒนธรรมเลยใกล้เคียงกัน





 

[ใบไม้ทะเล]

เนื่องจากหนูอนาไม่นิยมตื่นเช้าค่ะ ฉะนั้น จึงพลาดชอทเด็ดนั่นคือ พระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัดค่ะ 

ฉะนั้นเช้านี้ เราจึกวางแผนไปเที่ยวที่นครธมกันก่อน นครธมเป็นกลุ่มปราสาทและสิ่งก่อสร้างหลายๆ หลังรวมกัน ซึ่งไม่เหมือนมหาปราสาทหนึ่งเดียวอย่างนครวัด

อากาศร้อนมาก ฉะนั้น หนูอนาเลยขอซื้อหมวกประกับความสวยตัวเองก่อนเลย แฮะๆๆ  มันร้อนจริงๆๆค่ะ





จุดแรกที่เราได้เที่ยวก็คือประตูทางเข้านครธมมีถนนกว้างขวางยาวเหยียดทอดผ่านประตูหรือโคปุระอันใหญ่  ขนาบด้วยนาคกวนเกษียรสมุทรขนาดยักษ์  อย่างในรุปข้างบนนะค่ะ

หนูบรรยายผิดไง ต้องขออภัยนะค่ะ เพราะความรุเรื่องประวัติศาสตร์อนาไม่ถนัดเลย

ประตูหรือโคปุระก่อนเข้านครธม





อีกมุมค่ะ อย่าว่าอย่างนั้นเลยนะค่ะ อนายอมรับว่าถ่ายภาพได้แย่มาก

[ใบไม้ทะเล]

พรุ่งนี้ เด๋วมาต่อนะค่ะ วันนี้เข้าแค่ประตูก่อนแล้วกัน 

[เก็ดถวา]

ว้าววว เราอยากไปมากเหมือนกันแหละอนา

อยู่อันดับต้นๆ ของลิสต์เลยนะ รองจากเวียดนาม กับพุกาม

ว่าจะต้องไปภายในปีสองปีนี้ อิอิ

จะรอชมตอนต่อไปจ้า   

[สมชายสายชม]

หวานจริงด้วย .. มดไต่ตอมจอเลย 

       

[ใบไม้ทะเล]

ว้าววว เราอยากไปมากเหมือนกันแหละอนา

อยู่อันดับต้นๆ ของลิสต์เลยนะ รองจากเวียดนาม กับพุกาม

ว่าจะต้องไปภายในปีสองปีนี้ อิอิ

จะรอชมตอนต่อไปจ้า   

อนาคิดว่าคงมีโอกาศไปอีกจ้ะ เพราะดูแล้วป้าๆๆที่เจแปน อยากไปเที่ยวกันมาก วางแผนกันจะมาเดือนเมษา สงสัยอนาต้องเตรียมตัวทนทานกับอากาศร้อนแน่เลย ยิ่งเมษา บรือๆๆๆๆๆ ไม่อยากคิดเลย

หวานจริงด้วย .. มดไต่ตอมจอเลย 

       

ออกจากกระทู้นี้ อย่าลืมไปโรงพยาบาท อุ้ยย โรงพยาบาลเชคระดับน้ำตาลในเลือดนะค่ะพี่สมชาย เด๋วจะหาว่า หนูอนาไม่เตือน  [/color]

[นทร์]

น่าไปเหมือนกันแฮะ

รอดูรูปต่อ 

* วันนี้เนทอืดสุด 

[อังศนา]

..อยากไปด้วยจังเลยนิ 

..ฝรั่งมังค่ามาจากร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
ถามรายไหนรายนั้น ไปมาแล้วทั้งนั้น
เทียบกับข้าพเจ้าแล้ว เหมือนอยู่แค่ปลายจมูก
แต่ไม่ยักได้ไปซักกะที ..ใกล้เกลือกินด่างแท้ๆ 

[อมพระมาพูด]

 

สวยมากครับ (คน+สถานที่) ผมไปมาแล้วยังอยากไปซ้ำอีกเลยครับ เจอรูปสลักไดโนเสาว์ รึปล่าวเอ่ย ?

[ภารโรงวัยดึก]

ไว้กระผมเก็บตังได้ซักก้อน ก็ว่าจะไปมั่ง อยากเห็นนครวัดเป้นบุญตาซักครั้ง












แต่คงอยู่คิวถัดไปจากทัวร์ยุโรป 10 วัน 14 ประเทศที่จองเอาไว้อ่ะนะ

[cameronDZ]

ด้วยภาระหน้าที่ และ ความชอบ

ผมไป นครวัด มาแล้ว 4 ครั้ง

และยังอยากไปอีก ...See Angkor Wat and Still Alive... อิ อิ

แต่ที่อยากไปมากที่สุด คือ บาหลี (ยังไม่มีปัญญา และ โอกาส)

เพราะยังปักใจเชื่อมั่นคงว่า สาว ๆ ที่นั่น เดินเปลือยอก โทง ๆ อย่างที่ "เขาเล่าว่า" ที่ได้ยินแต่เด็ก

(แต่เพื่อนที่เคยไป บอกว่า ถ้ามึงยังเชื่ออย่างนั้น ไป พัฒน์พงศ์ ดีกว่า ผมก็เลยไปเที่ยวพัฒน์พงศ์ซ้อมไปพลาง ๆ ก่อน)

[ใบไม้ทะเล]

น่าไปเหมือนกันแฮะ

รอดูรูปต่อ 

* วันนี้เนทอืดสุด 

ขอบคุณค่ะ พี่นทร์ ที่ติดตาม ตอนต่อไปกำลังเริ่มค่ะ คอยจับตามองดีๆๆนะ 

..อยากไปด้วยจังเลยนิ 

..ฝรั่งมังค่ามาจากร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
ถามรายไหนรายนั้น ไปมาแล้วทั้งนั้น
เทียบกับข้าพเจ้าแล้ว เหมือนอยู่แค่ปลายจมูก
แต่ไม่ยักได้ไปซักกะที ..ใกล้เกลือกินด่างแท้ๆ 

พี่อังฯค่ะ อนาอาจจะเหมือนพี่อังฯก็ได้ ถ้าอนายังอยู่เมืองไทย เพราะที่คิดจะไปดูนครวัดก็เพราะคนที่นี้นิยมกันไปดูมากค่ะ โดยส่วนมากคนที่นี้จะแวะมาเมืองไทยเป็นหลักก่อนเข้าไปดูนครวัดที่เขมรกัน

ไว้กระผมเก็บตังได้ซักก้อน ก็ว่าจะไปมั่ง อยากเห็นนครวัดเป้นบุญตาซักครั้ง



แต่คงอยู่คิวถัดไปจากทัวร์ยุโรป 10 วัน 14 ประเทศที่จองเอาไว้อ่ะนะ

ภารโรงที่ไหน มีเงินไปเที่ยวยุโรปนี้ 

สวยมากครับ (คน+สถานที่) ผมไปมาแล้วยังอยากไปซ้ำอีกเลยครับ เจอรูปสลักไดโนเสาว์ รึปล่าวเอ่ย ?

พี่อมพระฯ อนาสนใจมากที่สุดคือรุปนางอัปสรค่ะ เวลามองดูแล้วอดจินตนาการถึงความสวยของพวกเธอไมได้เลย บางทีอนาก็แอบคิด เราเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่วน๊า 

ด้วยภาระหน้าที่ และ ความชอบ

ผมไป นครวัด มาแล้ว 4 ครั้ง

และยังอยากไปอีก ...See Angkor Wat and Still Alive... อิ อิ

แต่ที่อยากไปมากที่สุด คือ บาหลี (ยังไม่มีปัญญา และ โอกาส)

เพราะยังปักใจเชื่อมั่นคงว่า สาว ๆ ที่นั่น เดินเปลือยอก โทง ๆ อย่างที่ "เขาเล่าว่า" ที่ได้ยินแต่เด็ก

(แต่เพื่อนที่เคยไป บอกว่า ถ้ามึงยังเชื่ออย่างนั้น ไป พัฒน์พงศ์ ดีกว่า ผมก็เลยไปเที่ยวพัฒน์พงศ์ซ้อมไปพลาง ๆ ก่อน)

โหยยย สี่ ครั้งที่ว่าไปนี้ สงสัยจังเลยค่ะ ว่าไปทำไรค่ะ  :slime_bigsmile:

[ใบไม้ทะเล]

เมื่อประตูนครธม สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งแระก็คือปราสาทแรกที่ดังที่สุดแห่งหนึ่ง นั่นคือปราสาทบายน  ซึ่งได้ฉายานามว่า "“บายน” ปราสาทแห่งรอยยิ้ม" โดยเขาว่ากันว่า เป็น ยิ้มที่อมตะที่สุด นื่นคือ ยิ้มบายน ณ ปราสาทบายน

ปราสาทบายนสร้างเมื่อประมาณต้นศตวรรษที่ 13 ซึ่งหากนับอายุของยิ้มบายนก็ปาเข้าไปกว่า 800 ปีแล้ว

 ถ้าพูดถึงยิ้มบายน หากจะไม่พูดถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มันก็ดูจะกระไรอยู่ เพราะว่ากษัตริย์ขอมองค์นี้ถือเป็นผู้สร้างปราสาทบายนอันเป็นที่มาของยิ้มบายนอันลือลั่น และเป็นหนึ่งในปราสาทขอมที่ดูน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
       
 ปราสาทบายนสันนิษฐานว่าถูกสร้างให้เป็นดังวัดกลางแห่งราชสำนักขอมในยุคนั้น เนื่องจากว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นับถือศาสนาพุทธมหายาน แต่กระนั้นปราสาทบายนก็ยังมีการบูชาเทวรูปตามคติพราหมณ์ร่วมอยู่ด้วย (กษัตริย์ขอมส่วนใหญ่นับถือพราหมณ์) อยู่ด้วย

พูดถึงความโดดเด่นของปราสาทบายนที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของนครธมนั้นมีอยู่หลายประการด้วยกัน
       
       ประการแรกปราสาทบายนไม่มีกำแพงล้อมรอบเหมือนกับหลายๆปราสาท ซึ่ง “สูน เพียบ” ไกด์เขมรผู้นำชมปราสาทบายนได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นเพราะปราสาทบายนมีกำแพงนครธมอยู่แล้ว เลยไม่มีการสร้างกำแพงล้อมอีกชั้น
       
       ส่วนอีกประการที่ถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย ก็คือรูปสลักหินที่บริเวณระเบียงชั้นล่างของปราสาท ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายๆคนมักมองข้ามไป เพราะส่วนมากจะนิยมเดินลุยถั่วขึ้นสู่ชั้น 2 ชั้น 3 เพื่อไปชมยิ้มบายน โดยลืมที่จะดูของดีที่อยู่บริเวณระเบียงชั้นล่างไป (อันนี้หนูอนาก็ไม่ได้สังเกตค่ะ) 

[ใบไม้ทะเล]

ทุกๆ ยอดปรางค์จะมีภาพพระพักตร์อยู่ทั้ง 4 ด้าน  ถ้าใครไปลองนับๆๆดูค่ะ แต่อากาศร้อน อนานับไม่ไหว 


ทีนี้ก็มาถึงสิ่งน่าสนใจประการสุดท้ายที่ถือเป็นดังไฮไลท์ของปราสาทบายนและเป็นดังสัญลักษณ์ของนครธมก็คือ ภาพสลักหินใบหน้าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 4 หน้าบนยอดของปรางค์ที่บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ที่สูน เพียบบอกว่าของเดิมมี 54 ยอด แต่ปัจจุบันพังทลายลงไปเหลืออยู่ 37 ยอด



อันภาพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรนี้แหละที่คนทั่วไปขนานนามให้เป็นยิ้มบายน เนื่องจากว่าเป็นภาพสลักใบหน้าที่สายตามองชำเลืองต่ำๆและมีการยิ้มมุมปากเล็กน้อย
       
       “คนส่วนมากเชื่อกันว่ายิ้มบายนคือการจำลองใบหน้าของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มาไว้บนยอดปรางค์ทั้ง 4 ทิศ โดยสายตาที่มองลงต่ำนั้นเป็นการมองราษฎร ส่วนจำนวนปรางค์ 54 ยอดที่มีแต่ดั้งเดิมนั้นแทนจำนวนจังหวัด 54 จังหวัดที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปกครองในยุคนั้น”


ที่มา http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9470000080097

[เก็ดถวา]

มาปูเสื่อรอชม ด้วยความอิจฉาเพื่อนเล็กๆ 

[สเลเต]

ไปมาแล้ว
แต่ก็ยังอยากไปอีกครั้งค่ะ
นอกจากหลงรักอังกอร์วัดแล้ว
ยังแอบปันใจให้กับปราสาทหินทรายสีชมพูเล็กๆ
ที่ชื่อว่า "บันทายสรี"
น่ารักมากเลยค่ะ
ถือเป็นปราสาทหินทรายขนาดเล็กที่งดงาม
และสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

 

[ใบไม้ทะเล]

มาปูเสื่อรอชม ด้วยความอิจฉาเพื่อนเล็กๆ 

มาต่อแย้ววววววว วันนี้กะเอาให้จบเลยหนูเกด อิอิ ขี้เกียจมาหลายวันแระ

ไปมาแล้ว
แต่ก็ยังอยากไปอีกครั้งค่ะ
นอกจากหลงรักอังกอร์วัดแล้ว
ยังแอบปันใจให้กับปราสาทหินทรายสีชมพูเล็กๆ
ที่ชื่อว่า "บันทายสรี"
น่ารักมากเลยค่ะ
ถือเป็นปราสาทหินทรายขนาดเล็กที่งดงาม
และสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

 

หว๊า เสียดายจังค่ะ ถ้าอนามีคุณสเลเตไปด้วย อาจจะได้ดูอะไรสวยๆๆที่อนามองพลาดก็ได้ เพราะอนาไม่ได้พกไกด์หรือหนังสือไปเลย มีเวลานิดเดียว เองค่ะ เลยดูสำรวจๆๆเผื่อคราวหน้ามากับเพื่อนจะได้รุ้ว่าอันไหนน่าดู น่าชมยังไง

[เก็ดถวา]

เลเตเค้าเอกโบราณ น่ะ อนา อิอิ  

[นทร์]

รูปหมดแล้วเหรอครับ อยากดูต่อ