ครม.มีมติยึดคลื่นไอทีวี 'ปรีดิยาธร'ระบุอีก10วัน'เรียบร้อย'
27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 14:47:00
(Update)ครม.มีมติหลัง6มี.ค.ยึดไอทีวีคืนทันที 'ปรีดิยาธร'ระบุอีก10วันทุกอย่างเรียบร้อย ผู้บริหารไอทีวีแถลงรับสภาพ ไม่มีเงินชำระ ประชุมผู้ถือหุ้น20มี.ค. โยนสปน.รับค่าเช่าอาคาร-อุปกรณ์
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าที่ประชุมครม.ได้พิจารณาข้อพิพาทตามสัญญาเข้าร่วมการงานและการดำเนินงานสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) และบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน)
โดยที่ประชุมครม.มีมติว่าหากวันที่ 6มีนาคมนี้ ทางไอทีวีไม่จ่ายค่าสัมปทานค้างจ่ายและค่าปรับเป็นเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท ที่ประชุมครม.มีมติให้สปน.บอกเลิกสัญญากับไอทีวี และให้ยึดคลื่นกลับคืนมาเป็นของรัฐทันที ทั้งนี้ตนได้รับมอบหมายให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาบริหารคลื่นที่ยึดคืน และให้การดำเนินรายการของไอทีวีเป็นไปตามปกติ
คุณหญิงทิพาวดี กล่าวอีกว่าที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาเรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับข้อพิพาทตามสัญญาเข้าร่วมการงานและการดำเนินงานสถานีวิทยุโทรทัศน์ไอทีวี ที่เป็นข้อพิพาทระหว่างสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) และบริษัทไอทีวี ในการประชุม ครม.วันนี้ ทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้เสนอ 5 แนวทางตามที่ทางบริษัทไอทีวี ได้เสนอมา เพื่อให้ ครม.พิจารณาและมีมติเพื่อให้สำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินงานต่อไป ทั้งนี้ในแต่ละข้อเสนอนั้นมีรายละเอียดและสาระพิจารณาหลายประการ แต่ที่สำคัญแนวทางที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอให้ ครม.พิจารณากันอย่างรอบคอบนั้น ก็ดูในแง่ของข้อตกลงตามเงื่อนไขสัญญาต่างๆ
รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สถานภาพปัจจุบันคือสำนักปลัดฯ ได้ยืดเวลาในการขอให้ทางไอทีวีชำระค่าสัมปทานที่ติดค้างและค่าปรับที่จำเป็นต้องจ่ายเนื่องจากผิดสัญญา อย่างไรก็ตามถึงวันนี้ถือว่ายังไม่ครบกำหนดตามที่สำนักปลัดฯ ได้ยืดเวลาให้ ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลาในวันที่ 6 มี.ค. ที่ประชุม ครม.จึงได้หารือกันในลักษณะการให้แนวทางแก่สำนักปลัดฯ ที่จะดำเนินการต่อไป เมื่อครบกำหนดต้องชำระเงินในวันที่ 6 มี.ค. คือเมื่อครบกำหนดแล้วหากไอทีวีไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่สำนักปลัดฯได้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขของสัญญาที่สำนักปลัดฯ ได้ผ่อนปรนมาตลอด หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็อนุญาตให้ ทางสำนักปลัดฯ ดำเนินการบอกเลิกสัญญาการงานได้ และจะมีผลในวันที่ 7 มี.ค.ทันที และ ครม.ได้มอบหมายให้ตนในฐานะที่กำกับดูแลสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารฯ เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป
คุณหญิงทิพาวดี กล่าวว่า รัฐบาลจะรอให้ถึงกำหนดตามเงื่อนไขสัญญา หลังจากนั้นจะพิจารณาดำเนินการต่อไป และขอยืนยันว่าเราจะพยายามให้รายการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และทางสำนักปลัดสำนักนายกฯ มีความพร้อมในระดับหนึ่งที่จะให้บริการสาธารณะได้โดยไม่เกิดความขัดข้อง ส่วนพนักงานที่มีความประสงค์จะดำเนินการต่อไป ทางสำนักปลัดฯ ก็ยินดีรับมาที่จะดำเนินการต่อ ทั้งนี้ในการดำเนินการจะใช้มืออาชีพที่มีความสามารถที่จะทำให้ไอทีวีเป็นที่ยอมรับต่อไป
นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาลกล่าวอีกว่าส่วนอนาคตของไอทีวีต้องถอนออกจากตลาดหุ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์
ผู้สื่อข่าวถามว่าการยกเลิกสัญญาแล้วจะมีการดำเนินการฟ้องล้มละลายบริษัทไอทีวี ใช่หรือไม่ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เป็นการนำคลื่นกลับมา เพราะในสัญญาทางสำนักปลัดฯ เป็นเจ้าของคลื่น ดังนั้นสิ่งที่เราจะยึดคืนมาคือการบอกเลิกสัญญา เท่ากับว่าไม่มีการให้สัมปทานต่อไปแล้ว เป็นการนำคลื่นของสำนักปลัดฯ คืนมา
"ปรีดิยาธร"ชี้ต้องยึดคืน ไม่ทำก็เป็นตัวตลก
ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า เราจำเป็นต้องบอกเลิกสัญญา เพราะเขาไม่จ่ายเงิน ถ้าเขาไม่จ่ายเงินตามคำสั่งศาล ก็แปลว่าเราให้โอกาสเขาถึงที่สุดแล้ว
"
ถ้าเราไม่เลิกสัญญา เราก็กลายเป็นตัวตลก เพราะฉะนั้นเมื่อเขาไม่จ่ายเงินก็ต้องยกเลิกสัญญา และผมได้กำชับคุณหญิงทิพาวดี ให้รีบตั้งคณะกรรมการขึ้นมา และทำให้รายการโทรทัศน์ของไอทีวีดำเนินการเหมือนเดิมและต่อเนื่อง พยายามจะไม่ให้หยุดแม้แต่วันเดียว อีกทั้งพนักงานทุกคนจะต้องไม่ตกงาน"
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า สำหรับรูปแบบที่จะให้มืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการนั้น จะเป็นกรรมการบริหารกิจการเฉพาะ และเป็นในลักษณะการดำเนินการของรัฐคือทางสำนักปลัดฯเป็นเจ้าของไปก่อน ซึ่งนักกฎหมายกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร เราจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง คาดว่าในอีก 10 กว่าวันนี้ทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อย วันนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นรูปแบบใด แต่ยืนยันว่าจะเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ และรัฐบาลคงต้องพิจารณางบประมาณจากงบกลางเพื่อใช้จ่ายเป็นค่าบริหารจัดการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางสำนักปลัดฯ ได้เสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกรรมการบริหารบ้างหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า มีให้เลือก แต่ยังไม่บอก ขออุบชื่อไปก่อน เดี๋ยวเลือกผิด แต่ยืนยันไม่ใช่ เอเอสทีวี แน่
บอร์ดกรรมการบริหารไอทีวีแถลงข่าว
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประธานกรรมการบริหาร ITV จะเปิดแถลงข่าวด่วนในเวลาประมาณ 16.30 น. ที่ตึกชินวัตร 3 ภายหลังคณะรัฐมนตรี มีมติอนุญาตให้สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี(สปน.)บอกเลิกสัญญาสัมปทานได้ หาก ITV ไม่จ่ายค่าปรับและค่าสัมปทานค้างจ่ายประมาณ 1 แสนล้านบาทได้ทันตามกำหนดเวลาในวันที่ 6 มี.ค.นี้
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่าทั้งนี้ผู้บริหารไอทีวียอมรับว่าไม่สามารถจ่ายเงินค่าปรับและค่าสัมปทานราว 1 แสนล้านบาทได้ และคาดว่าต้องจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานราว 200 ล้านบาท หากถูกบอกเลิกสัญญา
"ผู้ถือหุ้นทุกรายอยากให้ไอทีวีเดินหน้าต่อ แต่หากต้องจ่าย 1 แสนล้านบาทก็เป็นไปไม่ได้ แต่หากผ่อนปรนให้จ่าย 2.2 พ้นล้านบาท ก็ยังมีความเป็นไปได้"
นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวอีกว่าส่วนอนาคตของไอทีวีต้องถอนออกจากตลาดหุ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์ หากสปน.ต้องการให้สถานีโทรทัศน์ไอทีวีมีการออกอากาศอย่างต่อเนื่อง บริษัทยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของผู้ชมรายการและพนักงาน
ซึ่งนอกจากทรัพย์สินที่ไอทีวีจะส่งมอบให้รัฐแล้ว ภาระความรับผิดชอบต่างๆหลังจากที่บริษัทหมดใบอนุญาตแล้วจะเป็นของสปน.ทั้งสิ้น อาทิการเช่าอาคารที่ทำการ การเช่าอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เฮลิคอปเตอร์ ดาวเทียม รวมทั้งสัญญาต่าง ๆ ที่จำเป็นในการออกอากาศเพื่อให้สถานีออกอากาศได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของพนักงาน บริษัทคงต้องเลิกจ้างและจ่ายค่าชดเชยให้กับพนักงานตามกฎหมาย และพนักงานสามารถเซ็นสัญญาว่าจ้างกับหน่วยงานใหม่ที่ สปน.จะจัดขึ้นต่อไป สำหรับผู้เช่าเวลาสถานีและผู้ผลิตรายการร่วมก็สามารถเริ่มดำเนินงานกับหน่วยงานใหม่ได้
สำหรับการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จะมีการหารือในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 20 มี.ค.นี้
http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/27/WW10_WW10_news.php?newsid=56500 พนักงานไอทีวี วอนผู้บริหารกลุ่มใหม่ยึดเจตนารมณ์ดั้งเดิม
27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 20:14:00
ตัวแทนไอทีวี แถลงการณ์ขอบคุณ ต่อมติครม.ที่ออกมาล่วงหน้าก่อนครบวาระต้องจ่ายค่าสัมปทานและค่าปรับกว่าแสนล้านบาท 6 มี.ค. วอนผู้บริหารกลุ่มใหม่ ยึดมั่นเจตนารมณ์ดั้งเดิม
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ตามข้อเสนอของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) ให้ดำเนินการบอกเลิกสัญญา ถ้าบริษัทไอทีวี จำกัด(มหาชน) ไม่สามารถชำระหนี้ได้ภายในวันที่ 6 มีนาคม
ต่อมาเมื่อ เวลา 15.00 น. ที่อาคารชินวัตร ทาวเวอร์3 ถนนวิภาวดีรังสิต ที่ตั้งสถานีโทรทัศน์ไอทีวี มีการประชุมตัวแทนฝ่ายต่างๆ ของไอทีวี
กระทั่งเวลา 17.40 น. น.ส.ตวงพร อัศววิไล ตัวแทนพนักงานไอทีวี ได้อ่านแถลงการณ์ว่า พนักงานสถานีโทรทัศน์ไอทีวี 1,010 คน ขอขอบพระคุณ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่มีมติล่วงหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาของบริษัทไอทีวีฯ
โดยตั้งคณะทำงานพิเศษเข้ามาบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถแพร่ภาพออกอากาศได้ต่อเนื่องตามปกติ และให้ สปน.รับพนักงานเข้าทำงานในหน่วยงานใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้น โดยคงสภาพการจ้างเดิม และขอยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า ขอให้คณะกรรมการพิเศษมีแนวทางและเป้าหมายในการจัดตั้งที่ชัดเจน โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ คือ 1.ยึดมั่นในเจตนารมณ์ดั้งเดิมของการก่อตั้งสถานีในปี 2538 โดยนำเสนอข่าวสารด้วยความเป็นกลาง มีอิสระและเป็นที่พึ่งของสังคม 2.ปลอดจากการแทรกแซง 3.มีอิสระในการประกอบธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ และเห็นว่าคณะทำงานพิเศษที่เข้ามากำกับดูแล สมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นที่ยอมรับในสังคม และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม
http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/27/WW10_WW10_news.php?newsid=56574ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า ITV ปัจจุบัน เคย....
1.ยึดมั่นในเจตนารมณ์ดั้งเดิมของการก่อตั้งสถานีในปี 2538
โดยนำเสนอข่าวสารด้วยความเป็นกลาง มีอิสระและเป็นที่พึ่งของสังคม
2.ปลอดจากการแทรกแซง
3.มีอิสระในการประกอบธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้