ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 14:43
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เก็บมาฝาก : ไอทีวี..ศพสุดท้ายจาก "พฤษภาทมิฬ" 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เก็บมาฝาก : ไอทีวี..ศพสุดท้ายจาก "พฤษภาทมิฬ"  (อ่าน 1826 ครั้ง)
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« เมื่อ: 27-02-2007, 21:47 »

Posted by เทพชัย : 15:46:02 น.

     ฉากสุดท้ายของไอทีวี อดีตทีวีเสรี กำลังจะมาถึงแล้ว  คณะรัฐมนตรีวันนี้มีมติให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรียึดสัมปทานไอทีวีคืนหากฝ่ายบริหารของไอทีวีไม่สามารถจ่ายเงินค่าสัมปทานที่ค้างไว้ในวันที่ 6  มี.ค. นี้   ผมเคยเขียนหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับไอทีวีที่มีชื่อว่า "บทสุดท้าย ทีวีเสรี" 

     ผมอยากหยิบเอาบทสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้มาเตือนความจำว่าไอทีวีมีที่มาอย่างไร และคนในฝ่ายข่าวที่ยืนหยัดในหลักการต้องเผชิญกับอะไรบ้างในการต่อสู้กับการแทรกแซงทางการเมือง   หนังสือเล่มนี้ผมเขียนขึ้นในขณะที่พนักงานฝ่ายข่าว 20 ที่ถูกเรียกว่า "ขบถไอทีวี" ถูกฝ่ายบริหารของชิน คอร์ปของตระกูลชินวัตรไล่ออก เพราะไม่ยอมถูกแทรกแซง
     บทนี้มีชื่อว่า  “ศพสุดท้าย” จาก “พฤษภาทมิฬ”


     ..........ผมเข้าใจดีถึงความรู้สึกที่อดีตเพื่อนร่วมงานของผมกลุ่มหนึ่งกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้  เพราะนั่นเป็นความรู้สึกที่ผมมีเช่นเดียวกันเมื่อเจ็ดแปดเดือน ก่อนหน้านี้
    เพียงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย  พนักงานฝ่ายข่าวไอทีวีกว่า 20 คน ประกาศจุดยืนต่อต้านการแทรกแซงการทำข่าวของฝ่ายบริหารจากชินคอร์ปฯ
     มันเป็นเหตุการณ์ที่สวนความรู้สึกของคนในสังคมนี้มาก
     ในขณะที่เราคาดหวังให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูปการเมือง สถานีโทรทัศน์ที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อเสรีภาพทางด้านการแสดงออก กลับไม่สามารถทำหน้าที่ของสื่อได้อย่างเสรี
     ผมชื่นชมในความกล้าหาญของคนข่าวเหล่านี้ที่ยอมเอาอนาคตการทำงานของตัวเองมาเสี่ยง ด้วยการออกมาฟ้องประชาชน
     ในขณะเดียวกัน ผมรู้สึกภูมิใจเงียบๆ ที่ รู้ว่า ยังมีคนในฝ่ายข่าวไม่น้อย ที่เห็นหลักการ และเสรีภาพในการทำงาน สำคัญกว่า “ความอยู่รอด” ทางการงานของตัวเอง
     “เราโดดเดี่ยว  แต่เราไม่มีทางเลือก  ถ้าเราไม่ทำ เราจะอธิบายให้กับคนรุ่นต่อไปได้อย่างไร” วิศาล ดิลกวานิช   ยืนยันถึงการตัดสินใจที่อาจจะหมายถึงการตกงาน
    วิศาลและเพื่อนๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตอะไรในกองบรรณาธิการ  เขาเป็นเพียงนักข่าวสายไอทีคนหนึ่ง ซึ่งผู้ชมอาจจะรู้จักเขาในฐานะผู้ประกาศข่าวมากกว่า 
     แต่คุณไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งที่ใหญ่โต ถึงจะมีจุดยืน หรือมีหลักการได้
     พนักงานฝ่ายข่าวทุกคนที่ออกมาเคลื่อนไหวรู้ล่วงหน้าแล้วว่า พวกเขาจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง     
     พวกเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ทุกคน หรือคนส่วนใหญ่ของสถานีเข้าใจถึงความสำคัญของของ “ความเป็นเสรี” ของไอทีวี
     และมันเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า ที่หวังจะเห็นทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหว
     “ผมไม่โทษใครครับ และผมไม่ว่าใครด้วย ผมเข้าใจความจำเป็นของแต่ละคน   แต่ไม่ว่าคนที่มาร่วมต่อสู้จะมีกี่คน ถึงแม้จะเหลือผมคนเดียว ผมก็จะสู้” วิศาล ประกาศความเด็ดเดี่ยวของเขา
     ในที่สุดแล้ว  มันกลายเป็นการต่อสู้ โดยกลุ่มพนักงานเพียงกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง
     วิธีการ “แบ่งแยก และปกครอง” ถูกฝ่ายบริหารนำมาใช้อีกครั้ง  และมันก็ได้ผล
     วิศาลและเพื่อน ๆ กลายเป็นคน “กลุ่มน้อย”
     แต่ในการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และเพื่อหลักการ    ความสำคัญไม่ใช่อยู่ที่จำนวน
     ถึงแม้ ถ้าหาก วิศาล เป็นเพียงคนเดียวที่ลุกขึ้นมาปกป้องความเป็นเสรี ของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้   การต่อสู้ครั้งของเขาก็ยังจะมีความหมาย
     แต่ความเจ็บปวดของคนเหล่านี้อยู่ที่ว่า การต่อสู้ที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจของพวกเขาถูกบิดเบือนทั้งโดยฝ่ายบริหารและสื่อบางฉบับ   การเรียกร้องเสรีภาพของฝ่ายข่าวถูกป้ายสีให้เป็นการเคลื่อนไหวที่มีเรื่องของความขัดแย้งทางธุรกิจอยู่เบื้องหลัง
     ขณะที่ผมกำลังปิดต้นฉบับ วิศาลและเพื่อน ๆ อีก 22 คน ถูกยื่นซองขาวด้วยข้อหาที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง  พวกเขาถูกกล่าวหาว่าเป็น “ปรปักษ์” และ “กระด้างกระเดื่อง” ต่อฝ่ายบริหาร  และ “ทุจริตในหน้าที่”
     ผู้บริหารไอทีวี ได้สร้างคำนิยามใหม่ให้กับการเรียกร้องเสรีภาพในการทำงานเสียแล้ว   
     นอกจากทำลายอิสระในการทำงานของคนในฝ่ายข่าวแล้ว ผู้บริหารไอทีวียังแสดงธาตุแท้ของนายทุนที่ไม่เคารพแม้กระทั่งความรู้สึกของคนในสังคม   
     การไล่พนักงานฝ่ายข่าวออกเพียงเพราะคนเหล่านี้ออกมาปกป้องความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของไอทีวี เป็นการตบหน้าสังคมฉาดใหญ่
     ผู้บริหารไอทีวีไม่สนใจด้วยซ้ำว่าความคาดหวังของสังคมที่มีต่อสถานีโทรทัศน์ช่องนี้เป็นอย่างไร
     ความต้องการของสังคมคงไม่แตกต่างไปจากสิ่งที่ฝ่ายข่าวเรียกร้อง สังคมต้องการเห็นไอทีวีเป็นสถานีโทรทัศน์ที่เป็นอิสระไม่ถูกนักการเมืองหรือนักธุรกิจครอบงำ
     มันไร้ประโยชน์ที่ฝ่ายบริหารไอทีวีจะพยายามสร้างภาพของความเป็นทีวีเสรีให้กับสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ ด้วยการแต่งตั้งบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมมาตรวจสอบความเป็นกลางในการเสนอข่าว หลังจากทำการกำจัดกลุ่มนักข่าวที่ต้องการทำงานอย่างเสรี
     หรือด้วยการดึงเอา “มืออาชีพ” ทางด้านข่าวจากที่อื่นมาดูแลฝ่ายข่าว
     เพราะความเป็นจริงก็คือ ฝ่ายบริหารไม่สามารถยัดเยียดความเป็นเสรีให้กับสถานีแห่งนี้ได้
     ไอทีวีจะมีความเป็นเสรีหรือไม่ อยู่ที่ความรู้สึกและความเชื่อของคนในสังคม 
     ไม่ใช่อยู่ที่ฝ่ายบริหาร หรือผู้ถือหุ้น
     ในความรู้สึกของคนในสังคมที่มีความคาดหวังอย่างสูงต่อสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ ความเป็นทีวีเสรีของไอทีวีได้ตายไปแล้วพร้อมๆ กับการหมดอิสระในการทำหน้าที่ของฝ่ายข่าว
     ถ้าจะถามว่าไอทีวีทุกวันนี้คืออะไร

     ผมอยากจะตอบว่า สภาพของไอทีวีในปัจจุบัน ก็คือ “ศพสุดท้าย” จากเหตุการณ์ “พฤษภาทมิฬ”...........

 
http://www.oknation.net/blog/yong/2007/02/27/entry-1

เอวัง
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #1 เมื่อ: 27-02-2007, 22:09 »

คนออกมาสู้เพื่ออิสระในการเสนอข่าว 20 กว่าคน
ที่เหลือพันกว่าคน ออกมาสู้เพื่อเงินเดือนของตัวเอง

สื่อเพื่อประชาชนจริงๆ 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #2 เมื่อ: 27-02-2007, 22:48 »

นักข่าว ที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพในการทำข่าว เรียกว่า "สื่อมืออาชีพ"

ส่วนนักข่าวที่ยอมก้มหัว รับการถูกฟาดด้วยเงินของนายทุนสามานย์ เรียกว่า ..

"อาชีพสื่อ"  ศักดิ์ศรีเทียบไม่ได้กับ "คนขายเต้าฮวย"

...
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 27-02-2007, 23:17 »

เกิดจาก พฤษภาทมิฬ การเรียกร้องประชาธิปไตย

แต่ ตาย เพราะเป็นเครื่องมือเผด็จการ

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Dont cry for me:Thailand
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74


« ตอบ #4 เมื่อ: 27-02-2007, 23:42 »

มันเขียนมาได้ไงเนี่ย

ช่วงนั้น มันต่อต้านการเข้ามาซื้อหุ้น ITV ของ Shin

ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมสากกระเบือ

ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความเป็นสื่อเหียกอะไรหรอก

เพราะลึกๆแล้ว พวกมันก็โดนเสี้ยมมาจากไอ้พวก Nation
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #5 เมื่อ: 28-02-2007, 08:51 »

มันเขียนมาได้ไงเนี่ย

ช่วงนั้น มันต่อต้านการเข้ามาซื้อหุ้น ITV ของ Shin

ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมสากกระเบือ

ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความเป็นสื่อเหียกอะไรหรอก

เพราะลึกๆแล้ว พวกมันก็โดนเสี้ยมมาจากไอ้พวก Nation

เค้าต่อต้าน เพื่ออะไรก็สุดแล้วแต่..........สุดท้ายแล้ว หลัง กลุ่มชินเข้าซื้อ ITV  .....มันกลายเป็น TV ของพรรคการเมือง หรือปล่าวครับ
บันทึกการเข้า
skl98
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 227


เป็นเสือในป่า ดีกว่าเป็นหมาในกรุง


« ตอบ #6 เมื่อ: 28-02-2007, 09:21 »

รัฐบาล เอางบประมาณแผ่นดิน
ไปอุ้มพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง
จากการเลิกกิจการ
ถูกต้อง เหมาะสม เป็นธรรม มีธรรมาภิบาล 
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษ ของไทย แต่โบราณ          ปกบ้าน ป้องเมือง คุ้มเหย้า          เสียเลือด เสียเนื้อ มิใช่เบา             หน้าที่เรา รักษา สืบไป         
ลูกหลาน เหลนโหลน ภายหน้า          จะได้มี พสุธา อาศัย                   อนาคต จะต้องมี ประเทศไทย         มิยอมให้ ผู้ใด มาทำลาย         
ถึงขู่ฆ่า ล้างโคตร ก็ไม่หวั่น                จะสู้กัน ไม่หลบ หนีหาย             สู้ตรงนี้ สู้ที่นี่ สู้จนตาย                     ถึงเป็นคน สุดท้าย ก็ลองดู         
บ้านเมืองเรา เราต้อง รักษา               อยากทำลาย เชิญมา เราสู้         เกียรติศักดิ์ ของเรา เราเชิดชู           เราสู้ ไม่ถอย จนก้าวเดียว.....
                                                                     
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #7 เมื่อ: 28-02-2007, 10:09 »

รัฐบาล เอางบประมาณแผ่นดิน
ไปอุ้มพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง
จากการเลิกกิจการ
ถูกต้อง เหมาะสม เป็นธรรม มีธรรมาภิบาล 

ถึงเวลาที่จะต้องเชิญหม่อมอุ๋ยไปพักผ่อนแล้วนะคะ 
บันทึกการเข้า
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 28-02-2007, 10:41 »

ไม่ใช่แค่เรื่องการซื้อหุ้นอย่างเดียว หลังจากเข้ามาไม่นาน ก็มีการแทรกแซงกองบรรณาธิการข่าว ห้ามทำข่าวซุกหุ้นภาคแรก พรคคฝ่ายตรงข้ามหาเสียงก็ห้ามทำข่าว สรุปแล้ว เปลี่ยนจาก ทีวีเสรี เป็น ทีวีของไอ
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #9 เมื่อ: 28-02-2007, 10:57 »

ไม่ใช่แค่เรื่องการซื้อหุ้นอย่างเดียว หลังจากเข้ามาไม่นาน ก็มีการแทรกแซงกองบรรณาธิการข่าว ห้ามทำข่าวซุกหุ้นภาคแรก พรคคฝ่ายตรงข้ามหาเสียงก็ห้ามทำข่าว สรุปแล้ว เปลี่ยนจาก ทีวีเสรี เป็น ทีวีของไอ
จริง!!!!!!!!แท้แน่นอน
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 28-02-2007, 11:15 »

..เบื่ออุ๋ยสุดๆ 
ดูเหมือนจะพลิกลิ้นตามกระแสไปวันๆ
ไม่รู้ทำงานประสาอะไร มีจุดยืนมีเป้าหมายมั่งป่าวก็ไม่รู้


บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #11 เมื่อ: 28-02-2007, 11:20 »

ไม่ใช่แค่เรื่องการซื้อหุ้นอย่างเดียว หลังจากเข้ามาไม่นาน ก็มีการแทรกแซงกองบรรณาธิการข่าว ห้ามทำข่าวซุกหุ้นภาคแรก พรคคฝ่ายตรงข้ามหาเสียงก็ห้ามทำข่าว สรุปแล้ว เปลี่ยนจาก ทีวีเสรี เป็น ทีวีของไอ

เดาว่า ตอนนั้น ต่อมสามัญสำนึกกำลังฝ่อ 

พอตอนนี้ รู้ตัวว่า กำลังจะตกงาน ต่อมสามัญสำนึก กลับมาทำงานได้ใหม่

ต่างพากันชูธงอุดมการณ์ของการทำข่าวอย่างอิสระ ปราศจากการแทรกแซง .. ขากกก ถุยยย

พวกโสเภณี ขายเฉพาะตัว ไม่ขายหัวใจ

แต่ไอ้พวกห่านั้น มันขายจิตวิญญาณให้แก่้ซาตานแม้ว ไปตั้งแต่ปี ๒๕๔๔   

...
บันทึกการเข้า
Dont cry for me:Thailand
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74


« ตอบ #12 เมื่อ: 28-02-2007, 12:29 »

ย้อนกลับไป Time Line ใหม่นะครับ ตอนนั้น แกนนำ มันออกมาต่อต้านไม่ให้มีการเข้าซื้อ ก็ไอ้พวกเด็กเก่าเนชั่นนั่นแหละ ที่มันไม่ถอนยวงตามไอ้โล้นหยุ่นออกไปด้วย หลังจากที่ Shin เข้ามาเต็มตัว ก็เกิดการล้างบาง คนพวกนี้ก็ถูกเลิกจ้าง เพราะอะไรหรือ ก็เพราะมันเป็นสื่อฯ แต่ไปจุ้นจ้านเรื่องธุรกิจขององค์กรเขาได้อย่างไร ? ทีนี้ก็มีการเจรจากับแกนนำ ว่าจะไม่มีการแทรกแซงการทำงานของฝ่ายข่าว ก็ถึงได้ลงตัว ลงเอย กิตติ สิงหาปัตย์ เข้ามาทำหน้าที่แทนพวกที่ถูกเลิกจ้างไป ทุกวันนี้ก็ยังมองหน้ากันไม่ติดไม่ใช่หรือ หาว่า ไม่ช่วยกันต่อต้าน Shin หาว่าเอาตัวรอด จนกระทั่งทุกวันนี้ ในวงการฟรีทีวี ITV ก็ยังคงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในเรื่องด้านการข่าว จริงหรือเปล่า ?

บันทึกการเข้า
Dont cry for me:Thailand
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74


« ตอบ #13 เมื่อ: 28-02-2007, 12:37 »

ITV นี่ ถ้ารัฐมันยึดคืน ก็เท่ากับ เป็นการหักดิบ มติครม.สมัย รัฐบาลผู้ดีถ่*** เพราะเจตนารมณ์ในการก่อตั้งสถานี เขาไม่ต้องการให้มันเป็นของรัฐ จากเหตุการณ์ พ.ค.ทมิฬ 2535 มันต้องไปยกเลิกมติครม.นั้นก่อน ถึงจะให้ องค์กรของรัฐ เข้าไปทำแทนได้

นี่ก็เท่ากับว่า ถอยหลังลงคลองลงคูไปอีก 15 ปี ตายโหงฟรีกันไป

และที่สำคัญ ถ้ามันเอาไปให้ เอกชนรายอื่นทำแทน แล้วเรียกเก็บค่าสัมปทานน้อยกว่าเดิม ถือว่ามัน "ขายชาติ" ถือว่ามัน "เอื้อพวกพ้อง"
บริษัท ธุรกิจ ห้างร้านทั้งหลาย ผู้ลงทุนรายย่อยทั้งหลาย ที่ถือใบหุ้น ITV 0 สตางค์คามืออยู่ในเวลานี้
เขาก็ต้องคิดแล้วว่า นี่มันคืออะไรกัน

มันจะต้องเก็บค่าสัมปทานอย่างน้อยที่สุด ต้องเท่ากับของเดิม
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 28-02-2007, 12:41 »

ไม่รู้นะ คนทำสื่อที่ดี มักจะมี "วิญญาณกบฎ" อยู่ในตัว

ไม่งั้นตรวจสอบใครไม่ได้ครับ
บันทึกการเข้า

สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #15 เมื่อ: 28-02-2007, 13:39 »

ย้อนกลับไป Time Line ใหม่นะครับ ตอนนั้น แกนนำ มันออกมาต่อต้านไม่ให้มีการเข้าซื้อ ก็ไอ้พวกเด็กเก่าเนชั่นนั่นแหละ ที่มันไม่ถอนยวงตามไอ้โล้นหยุ่นออกไปด้วย หลังจากที่ Shin เข้ามาเต็มตัว ก็เกิดการล้างบาง คนพวกนี้ก็ถูกเลิกจ้าง เพราะอะไรหรือ ก็เพราะมันเป็นสื่อฯ แต่ไปจุ้นจ้านเรื่องธุรกิจขององค์กรเขาได้อย่างไร ? ทีนี้ก็มีการเจรจากับแกนนำ ว่าจะไม่มีการแทรกแซงการทำงานของฝ่ายข่าว ก็ถึงได้ลงตัว ลงเอย กิตติ สิงหาปัตย์ เข้ามาทำหน้าที่แทนพวกที่ถูกเลิกจ้างไป ทุกวันนี้ก็ยังมองหน้ากันไม่ติดไม่ใช่หรือ หาว่า ไม่ช่วยกันต่อต้าน Shin หาว่าเอาตัวรอด จนกระทั่งทุกวันนี้ ในวงการฟรีทีวี ITV ก็ยังคงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในเรื่องด้านการข่าว จริงหรือเปล่า ?


กรรม มันเ้กิดจากการกระทำ ว่ะ

ถ้าแกนนำเป็นเด็กเก่้าเนชั่น ทำไมไม่ไปอยู่เนชั่น ซะส่วนใหญ่หล่ะ เห็นกระเด็นกระดอนไปอยู่ TV บูรพา บ้าง มีคนสองคนเท่านั้นที่ไปอยู่ เนชั่น

ณ ตอนนี้ถึงจะมาแหกปากด่าเขายังไง ก็ไม่มีใครฟังแล้วหล่ะ เขารู้สันดาน เห็นหมดแล้ว ว่าใครเป็นยังไง
บันทึกการเข้า
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 28-02-2007, 15:33 »

อ๋อ คนที่พูดว่า "ไปรับเงินเดือนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยซิ" เลยได้ขึ้นมาแทน ไม่แปลกใจซักกะติ๊ด 

ไอทีวีเป็นสื่ออันดับหนึ่ง ตรงไหนกัน คิดไปเองป่าว (และแน่นอนว่า ไม่ใช่ผู้จัดการด้วย เหอ เหอ เหอ)

ถ้าพูดถึงการต่อสู้ของสื่อ กับอำนาจทางการเมืองละก็ ลองไปถามป๋าเปลวดีมั้ยคะ แกรู้ดี 
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 28-02-2007, 16:11 »

มันเขียนมาได้ไงเนี่ย

ช่วงนั้น มันต่อต้านการเข้ามาซื้อหุ้น ITV ของ Shin

ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมสากกระเบือ

ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความเป็นสื่อเหียกอะไรหรอก

เพราะลึกๆแล้ว พวกมันก็โดนเสี้ยมมาจากไอ้พวก Nation


สากกะเบือจริงๆ...  แต่คงจะไม่ใช้นักข่าวที่ต่อสู้ในสมัยนั้น..  แต่ใครควรจะเป็นสากะเบือของจริงก็คิดกันเอาเองล่ะกัน.. ใช้ไอคนที่ชอบพูดจาอวดดีและโผล่หน้ามาตอนประมาณ3ทุ่มรึเปล่าหว่า ตัวจริงของสากกะเบือ

อ้อ..


และความจริงก็ไม่อยากจะเอามาแปะอีกหรอก..

แต่เบื่อไอ้พวกสากะเบือน่ะ...


ดูสิมันจะเเถไปท่าไหนกันอีก...



พลิกแฟ้มคดี"ไอทีวี" 4 ปีก่อนถึงวันพิพากษา ชัยชนะของคนทำงานสื่อ
 
   
     
มติชน วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1282

ในประเทศ

พลิกแฟ้มคดี"กบฏไอทีวี" 4 ปีก่อนถึงวันพิพากษา ชัยชนะของคนทำงานสื่อ

"เป็นชัยชนะของคนทำงานสื่อเสรี เรายินดีที่จะกลับไปทำงานในไอทีวี เราอยากที่จะฟื้นฟูสหภาพ อยากทำให้ไอทีวีเป็นของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เป็นของนายทุน"

"ในเมื่อวันนี้ท่านทักษิณชนะการเลือกตั้งแล้ว คงไม่ต้องการใช้ไอทีวีเป็นฐานอีกแล้ว"

นายสกลเดช ศิลาพงษ์ อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโสโต๊ะข่าวต่างประเทศ กล่าวภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานมีคำพิพากษายืนตามศาลแรงงานกลาง ให้บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) รับพนักงานทั้ง 21 คน ที่ถูกเลิกจ้างเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2544 กลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดิม

และให้จ่ายค่าเสียหายเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย นับแต่วันเลิกจ้างจนถึงวันรับกลับเข้าทำงาน

พนักงานหรือ "กบฏไอทีวี" ทั้ง 21 คน ประกอบด้วย

1.วิศาล ดิลกวานิช 2.ปฏิวัติ วสิกชาติ 3.ยุวดี เตชะไพทูรย์สุข 4.อังสนา เทศขยัน 5.กรุณา บัวคำศรี 6.ภัทราพร สังข์พวงทอง 7.นาตยา แวววีรคุปต์ 8.อรพิน ลิลิตวิศิษฏ์วงศ์ 9.สกลเดช ศิลาพงษ์ 10.ม.ล.สุกุณฏีร์ จรูญโรจน์ 11.แก้วตา ปริศวงศ์

12.เชิดชาย มาศบำรุง 13.ชมพูนุช คงมล 14.ภุชงค์ แดงประเสริฐ 15.สุดารัตน์ สุขแสงรัตน์ 16.นงลักษณ์ สุขใจเจริญกิจ 17.สินินาฎ ดิลกวานิช 18.สุภาลักษณ์ ตั้งจิตศีล 19.จีรชาฎา ทองนาค 20.สมมาตร วัฒนคุโณปการ 21.สุวรรณา อุยานันท์

ค่าเสียหายที่ทางไอทีวีต้องจ่ายให้กับพนักงาน 21 คน คิดเป็นตัวเลขกลมๆ ตกอยู่ราวประมาณ 20 ล้านบาท



ชนวนเหตุการณ์กบฏไอทีวี เกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2543

หลังจากมีข่าว "ชินคอร์ป" จะเข้ามาถือหุ้นในไอทีวีที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน แต่ถูกกลุ่มผู้สื่อข่าว นำโดย นายจิระ ห้องสำเริง บรรณาธิการบริหารขณะนั้น เป็นหัวหอกคัดค้าน

กระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2543 กลุ่มชินคอร์ปได้เข้ามาถือหุ้นไอทีวี ท่ามกลางการต่อต้านอย่างหนักจากพนักงานฝ่ายข่าว เพราะไม่พอใจที่ถูกผู้บริหารตัวแทนจากชินคอร์ปแทรกแซง ห้ามไม่ให้ทำข่าวที่มีผลด้านลบต่อตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ตัวเก็งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น

โดยเฉพาะเรื่อง "ซุกหุ้น" และปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์

เนื่องจากเกรงจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 มกราคม 2544

การเข้าแทรกแซงของฝ่ายผู้บริหารมีทั้งการสั่งเปลี่ยนตัวนักข่าวที่ไปยิงคำถา มแทงใจ พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องการโอนหุ้น มีการสั่งไม่ให้ออกอากาศข่าวเรื่องสนามกอล์ฟ มีความพยายามเข้ามากำหนดและชี้นำประเด็นในฝ่ายข่าวมากขึ้น สั่งห้ามผู้ประกาศข่าวในรายการสายตรงไอทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ลงข่าวเรื่องการโอนหุ้น และที่ดินสนามกอล์ฟ

ยังมีเหตุการณ์ที่ผู้บริหารชินคอร์ป สั่งเรียกรถโอวีกลับสถานีขณะกำลังจะไปทำข่าวปราศรัยหาเสียงของพรรคประชาธิปั ตย์ ขณะที่พรรคไทยรักไทยได้รับอภิสิทธิ์เช่ารถโอวีของบริษัทไอทีวี เพื่อถ่ายทอดการปราศรัยของพรรคไทยรักไทยหลายครั้ง โดยไม่มีหนังสือหรือบันทึกถึงฝ่ายข่าวแม้แต่ครั้งเดียว

การแทรกแซงยังลามไปถึงโต๊ะข่าวบันเทิง ที่ไม่ได้ไปทำข่าวเปิดตัวนักร้องใหม่ในเครือของค่ายชินคอร์ป ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายบริหาร และมีคำสั่งให้ไปทำข่าวชิ้นนั้นออกอากาศในทันที

มีการล้วงลูกสั่งให้กองบรรณาธิการยกเลิกการวิเคราะห์ข่าวของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่วิเคราะห์พาดพิงถึงหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ติดต่อกัน 3 วัน เกี่ยวกับปัญหาการถือหุ้น

มีการสั่งถอดรายการวิเคราะห์ข่าวการเมือง เปรียบเทียบฟอร์มระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ และ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ทำให้พนักงานฝ่ายข่าวไม่พอใจอย่างมาก

ทั้งหมดนำมาสู่การออกแถลงการณ์ข้อเรียกร้องจำนวน 7 ข้อ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ, นายบุญคลี ปลั่งศิริ ผู้บริหารชินคอร์ป และ นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล กรรมการผู้จัดการไอทีวี มีเนื้อหาโดยรวมคือให้ยุติการครอบงำ กดดัน กลั่นแกล้ง และแทรกแซงสื่อ ซึ่งถือเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 41

นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ตัวจักรสำคัญในการสร้างทีมข่าวไอทีวีจนโด่งดัง ถูกบีบจนต้องลาออก ขณะที่ นายปีย์ มาลากุล ซึ่งเข้ามาแทนก็ถูกสั่งปลดเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2543

หลังมีการเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง นายบุญคลี ปลั่งศิริ ขอให้ยุติการแทรกแซงข่าวไอทีวี



วันที่ 4 มกราคม 2544 กลุ่มผู้สื่อข่าวไอทีวี ออกแถลงการณ์ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขอให้ยุติการแทรกแซงการทำข่าว แต่ถัดมาเพียงไม่กี่วัน นายจิระ ห้องสำเริง บรรณาธิการบริหารได้ลาออก ท่ามกลางเสียงร่ำลือหนาหูว่าถูกบีบออก ฐานเป็นแกนนำในการออกแถลงการณ์ดังกล่าว

ปัญหาความขัดแย้งไม่ลงรอยระหว่างพนักงานฝ่ายข่าวกับผู้บริหาร ทำให้บรรยากาศในไอทีวีช่วงนั้นเป็นไปอย่างอึมครึมยากจะเยียวยา แม้ผลเลือกตั้งขณะนั้นจะชัดเจนว่าพรรคไทยรักไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับชัยชนะถล่มทลายแล้วก็ตาม

แล้วปฏิบัติการ "เช็คบิล" ก็มาถึง วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ผู้บริหารไอทีวี มีคำสั่งปลดพนักงานทั้ง 21 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่ร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านการครอบงำของชินคอร์ป

กลุ่ม 21 กบฏไอทีวีพยายามต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง และเรียกร้องขอคืนสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนไปพร้อมๆ กัน โดยยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ (ครส.) ว่าบริษัทกระทำการอันไม่เป็นธรรม ตามมาตรา 121 ของพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์

วันที่ 1 มิถุนายน 2544 ครส. วินิจฉัยว่าการกระทำของไอทีวีไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกเลิกจ้าง และสั่งให้รับพนักงานทั้ง 21 คนกลับเข้าทำงานเช่นเดิม ทางไอทีวีไม่ยอมและได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแรงงานกลาง ขอให้เพิกถอนคำสั่ง ครส.

วันที่ 26 กันยายน 2545 ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคำสั่งของ ครส. ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง แต่ไอทีวียังไม่หมดความพยายาม ได้ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลแรงงานกลางอีกครั้ง

วันที่ 8 มีนาคม 2548 หลังจากใช้เวลาพิจารณาคดีนานกว่า 2 ปี ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานมีคำพิพากษายืนตามศาลแรงงานกลาง

ถือเป็นการปิดฉากคดีประวัติศาสตร์การต่อสู้ของสื่อมวลชนโทรทัศน์ ที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 4 ปีเต็ม

นายวรินทร์ เทียมจรัส ทนายความฝ่าย 21 กบฏ กล่าวสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดว่า การที่ศาลมีคำพิพากษาเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่าการทำงานของสื่อย่อมได้รับการค ุ้มครอง

นายจ้างไม่มีสิทธิ์ที่จะให้ผู้สื่อข่าวไปทำข่าวเพื่อเชียร์ใครคนใดคนหนึ่งได้อีกแล้ว


หน้า 11
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #18 เมื่อ: 28-02-2007, 17:05 »

ขอโทษนะคะ ดิฉันไม่เคยคิดว่าการตั้ง “สหภาพแรงงาน”
จะไปเกี่ยวกับการปกป้องความเป็น “เสรี” ของไอทีวีตรงไหน
เมื่อไหร่คนเหล่านี้จะเลิกยกหางตัวเองกันซะที
สร้างเรื่องแบบนี้ ทั้งขี้ขลาดและต่ำทราม คิดแต่ผลประโยชน์
ของกลุ่มตนเองเหนือองค์กร พวกนี้ไม่รู้จักการทำงานเป็นทีม
อยากเด่นอยากดัง หัดดู “น้องเจิด” ทีมนกกระเด้งลม
เอาเยี่ยงอย่างกันมั่งนะคะ ทั้งยิงทั้งจ่าย เป็นทีมเวอร์ค
พอไม่ได้ผลประโยชน์ที่ต้องการ กลับมาสร้างความเสียหาย
ให้องค์กร ที่น่าเศร้าที่สุด ในยุคบ้านเมืองเถื่อน
นักเลงครองเมือง อย่างนี้ เห็นไอทีวีบอบช้ำจากการกลั่นแกล้ง
โดยผู้มีอำนาจแต่ปราศจากสมอง โดนครอบงำจากสื่อชั่วช้า
จนคนเลวทนคนเลวไม่ไหวต้องลาออก พวกพนักงานเก่า
เหล่านี้ คงสนุกสนานที่ได้ “สมน้ำหน้า” และเรียกองค์กรเก่า
ของตนเองว่า “ศพสุดท้าย” แต่ขอเตือนด้วยความปรารถนาดี
ดังสุภาษิตโบราณว่า “หุบปากไว้ไม่เจอตรีน” นะคะ
A closed mouth gathers no feet.
บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #19 เมื่อ: 28-02-2007, 17:50 »

ใครไปแกล้ง ITV หล่ะคุณ

ตอนอนุญาโตฯ ตัดสินมา เขาก็บอกแล้วว่าอย่าเพิ่งไำปเปลี่ยน

ก็ไม่เห็นเชื่อใคร เปลี่ยนผังหน้าตาเฉย คงคิดว่าแม้ว คุ้มกะลาหัวไำด้กระมัง

นี่เขาเล่นตามกติกา อย่างที่ชอบนักชอบหนา ไม่ใช่ รึ

แล้วที่อย่างนี้กลับมาร้อง เยี่ยง หมาโดนรุมโทรม

แล้วไอ-อี ที่ร้องคร่ำครวญในนี้ี นั้น ไม่ทราบว่า โดนโทรม กับเขามาด้วยหรืออย่างไร

ุ่้ถึงร้องร่าน เยี่ยงสุนัขตัวเมีย เดือน 12 เช่นนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2007, 17:52 โดย สี่หามสามแห่ » บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #20 เมื่อ: 01-03-2007, 07:05 »

ใครไปแกล้ง ITV หล่ะคุณ

ตอนอนุญาโตฯ ตัดสินมา เขาก็บอกแล้วว่าอย่าเพิ่งไำปเปลี่ยน

ก็ไม่เห็นเชื่อใคร เปลี่ยนผังหน้าตาเฉย คงคิดว่าแม้ว คุ้มกะลาหัวไำด้กระมัง

นี่เขาเล่นตามกติกา อย่างที่ชอบนักชอบหนา ไม่ใช่ รึ

แล้วที่อย่างนี้กลับมาร้อง เยี่ยง หมาโดนรุมโทรม

แล้วไอ-อี ที่ร้องคร่ำครวญในนี้ี นั้น ไม่ทราบว่า โดนโทรม กับเขามาด้วยหรืออย่างไร

ุ่้ถึงร้องร่าน เยี่ยงสุนัขตัวเมีย เดือน 12 เช่นนี้

โอ๊ย มาด่า อิชั้น ได้ไงเนี่ย โกรธนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า Laughing
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: