ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 15:33
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ประชาธิปไตยคือหัวใจของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2] 3
ประชาธิปไตยคือหัวใจของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  (อ่าน 8341 ครั้ง)
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #50 เมื่อ: 26-02-2007, 08:48 »

ถามชอบแถ
คำว่าชนชั้นพอเพียง
มีอยู่ในเว็บไซต์กาญจนาภิเษกตรงไหน
ช่วยหามาให้ดูหน่อย
เห็นขยันหาข้อมูล มีหลักฐานอ้างอิงดี

คำว่า ความเห็นส่วนตัว รู้จักมั้ย ต้องถามหา link ความเห็นส่วนตัวด้วยเหรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ไม่ทราบ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #51 เมื่อ: 26-02-2007, 09:08 »

มีคำอธิบาย สั้น ๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอไว้ก่อนหรือหลังพระราชดำรัส ปี 41 ผมจำไม่ได้แล้ว....แต่เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินประมาณอย่างนี้ครับ " ให้ทำแต่พออยู่พอกินทำตามกำลัง เหลือแล้วจึงขาย "

ถ้าคุณชอบแถตีความว่าการยืนอยู่บนขาของตัวเอง หมายถึง การไม่คบค้าผู้ใด .......ผมว่ามันคนละความหมายกับผมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2007, 09:13 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #52 เมื่อ: 26-02-2007, 09:15 »

มีคำอธิบาย สั้น ๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอไว้ก่อนหรือหลังพระราชดำรัส ปี 41 ผมจำไม่ได้แล้ว....แต่เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินประมาณอย่างนี้ครับ " ให้ทำแต่พออยู่พอกินทำตามกำลัง เหลือแล้วจึงขาย "

ถ้าคุณชอบแถตีความว่าการยืนอยู่บนขาของตัวเอง หมายถึง การไม่คบค้าผู้ใด .......ผมว่ามันคนละความหมายกับผมครับ


อย่ามาคิดแทนกันแบบนี้ การยืนบนขาตัวเองควรทำ 1 ใน 4 คบค้าผู้อื่น 3 ใน 4

การทำเศรษฐกิจพอเพียงควรทำ 25% หมายถึงถ้าทุกคนทำก็ทำ 25% ของการกระทำ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #53 เมื่อ: 26-02-2007, 09:27 »

คุณ 55555 ลองดูเชิงอรรถข้อ 5 ว่าเข้าข่าย “ยัดเยียด” หรือยัง?

อ่านแล้วครับ.....ตรงไหนครับที่คุณ snow ตีความว่าเป็นการ "ยัดเยียด"

มีคำอธิบาย สั้น ๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอไว้ก่อนหรือหลังพระราชดำรัส ปี 41 ผมจำไม่ได้แล้ว....แต่เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินประมาณอย่างนี้ครับ " ให้ทำแต่พออยู่พอกินทำตามกำลัง เหลือแล้วจึงขาย "

ถ้าคุณชอบแถตีความว่าการยืนอยู่บนขาของตัวเอง หมายถึง การไม่คบค้าผู้ใด .......ผมว่ามันคนละความหมายกับผมครับ


อย่ามาคิดแทนกันแบบนี้ การยืนบนขาตัวเองควรทำ 1 ใน 4 คบค้าผู้อื่น 3 ใน 4

การทำเศรษฐกิจพอเพียงควรทำ 25% หมายถึงถ้าทุกคนทำก็ทำ 25% ของการกระทำ

นั่นล่ะครับ ผมคิดถูก....คุณชอบแถตีความ 75 % ของเศรษฐกิจพอเพียง คือการที่ต้องคบค้าผู้อื่น .....จริง ๆ
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #54 เมื่อ: 26-02-2007, 09:34 »

มีคำอธิบาย สั้น ๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอไว้ก่อนหรือหลังพระราชดำรัส ปี 41 ผมจำไม่ได้แล้ว....แต่เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินประมาณอย่างนี้ครับ " ให้ทำแต่พออยู่พอกินทำตามกำลัง เหลือแล้วจึงขาย "

ถ้าคุณชอบแถตีความว่าการยืนอยู่บนขาของตัวเอง หมายถึง การไม่คบค้าผู้ใด .......ผมว่ามันคนละความหมายกับผมครับ


อย่ามาคิดแทนกันแบบนี้ การยืนบนขาตัวเองควรทำ 1 ใน 4 คบค้าผู้อื่น 3 ใน 4

การทำเศรษฐกิจพอเพียงควรทำ 25% หมายถึงถ้าทุกคนทำก็ทำ 25% ของการกระทำ

นั่นล่ะครับ ผมคิดถูก....คุณชอบแถตีความ 75 % ของเศรษฐกิจพอเพียง คือการที่ต้องคบค้าผู้อื่น .....จริง ๆ

ไม่เห็นต้องตีความตรงไหน พระราชดำรัสก็มีเนื้อหาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไปเข้าใจเอาเองว่า เศรษฐกิจพอเพียง คือทั้งหมด

ทั้งพึ่งตนเองและคบค้าผู้อื่น จริงๆ แล้วคือ 25% ที่พึ่งพาตนเอง 75% เรียกว่า เศรษฐกิจการค้า ที่ให้ปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง

ทุกคนหมายถึงให้แต่ละคนปฏิบัติ 25% ของการกระทำ ไม่ใช่ให้ทุกคนปฏิบัติ 100% แบบที่พยายามยัดเยียดกันอยู่ ถ้าคิดว่า

รัฐบาลหรือทหารไม่ได้คิดแบบนี้ ยังไม่เคยเห็นตัวเลข 25% หรืออัตราส่วนใดๆ ออกมากับเอกสารเผยแพร่ของราชการ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #55 เมื่อ: 26-02-2007, 09:39 »

มีคำอธิบาย สั้น ๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอไว้ก่อนหรือหลังพระราชดำรัส ปี 41 ผมจำไม่ได้แล้ว....แต่เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินประมาณอย่างนี้ครับ " ให้ทำแต่พออยู่พอกินทำตามกำลัง เหลือแล้วจึงขาย "

เค้ามายืนยันอีกครั้ง ครับ คำว่า 100 % ความหมายของผมอยู่ที่ตัวสีแดงครับ......ตัวสีเขียวคือส่วนที่เกิน 100 %
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #56 เมื่อ: 26-02-2007, 09:43 »

มีคำอธิบาย สั้น ๆ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอไว้ก่อนหรือหลังพระราชดำรัส ปี 41 ผมจำไม่ได้แล้ว....แต่เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินประมาณอย่างนี้ครับ " ให้ทำแต่พออยู่พอกินทำตามกำลัง เหลือแล้วจึงขาย "

เค้ามายืนยันอีกครั้ง ครับ คำว่า 100 % ความหมายของผมอยู่ที่ตัวสีแดงครับ......ตัวสีเขียวคือส่วนที่เกิน 100 %

เข้าใจไม่ตรงกันหรอก คงไม่กล้าไปวิจารณ์พระราชดำรัส แต่ที่ยกมา(ขี้เกียจแปะแล้ว) 75% ของเศรษฐกิจพอเพียง คือ เข้าใจผิด
ต้องเป็น 75% ของการกระทำ 25% ของการกระทำ คือ เศรษฐกิจพอเพียง ลองอ่านพระราชดำรัสปี 2540 และ 2541 อีกรอบสิ
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #57 เมื่อ: 26-02-2007, 09:44 »

เออ มันแถได้จนเหงือกปลิ้นจริงๆ

อ้างถึง
ไม่เห็นต้องตีความตรงไหน พระราชดำรัสก็มีเนื้อหาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไปเข้าใจเอาเองว่า เศรษฐกิจพอเพียง คือทั้งหมด

ทั้งพึ่งตนเองและคบค้าผู้อื่น จริงๆ แล้วคือ 25% ที่พึ่งพาตนเอง 75% เรียกว่า เศรษฐกิจการค้า ที่ให้ปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง

ทุกคนหมายถึงให้แต่ละคนปฏิบัติ 25% ของการกระทำ ไม่ใช่ให้ทุกคนปฏิบัติ 100% แบบที่พยายามยัดเยียดกันอยู่ ถ้าคิดว่า

รัฐบาลหรือทหารไม่ได้คิดแบบนี้ ยังไม่เคยเห็นตัวเลข 25% หรืออัตราส่วนใดๆ ออกมากับเอกสารเผยแพร่ของราชการ

นายจาตุรนทร์ พึ่งออกมาพยายามชี้แจงว่า นโยบายของไทยรักไทยในอดีต ก็ใช้แนวเศรษฐกิจพอเพียง แต่มันก็หา ตัวเลข 25% หรืออัตราส่วนใดๆ ออกมากับเอกสารเผยแพร่ของไทยรักไทย มาแสดงไม่ได้  

อ้างถึง
อย่างนี้ท่านนักเศรษฐกิจต่างๆ ก็มาบอกว่าล้าสมัย. จริง อาจจะล้าสมัย คนอื่นเขาต้องมี การเศรษฐกิจ ที่ต้องมี การแลกเปลี่ยน เรียกว่า เป็นเศรษฐกิจการค้า ไม่ใช่เศรษฐกิจ ความพอเพียง เลยรู้สึกว่า ไม่หรูหรา.

โค้วตมาให้ดู และต้องบอกด้วยความเหนื่อยหน่ายว่า ชอบแถ2 นี่โง่จริงๆ เอ ที่จริงอาจจะไม่โง่หรอก แต่ว่าพยายามบิดเบือนพระราชดำรัส ตามแนวนโยบายที่นายมันสั่งมา ก็แค่นั้นแหละ
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #58 เมื่อ: 26-02-2007, 09:49 »

อ้างถึง
... อย่าให้สงสัยไปกว่านี้เลยครับว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นจะสามารถนำไปปฏิบัติ
ได้ (หรือเกิดได้ในบรรยากาศ) เฉพาะในระบอบที่เรียกกันว่าระบอบปฏิรูปการปกครอง
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(ซึ่งเป็นระบอบที่ได้มาจากการรัฐประหาร)
เท่านั้น ?

อ้างถึง
ต้องไม่ลืมว่า หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการ
ถอยหลังถึงสมัยหิน

สองความเห็นนี่ โง่งั่งและบิดเบือนพอๆกันค่ะ

ด่าพระราชดำรัสแรงขนาดนี้เคารพพระเจ้าอยู่หัวหรือเปล่า เห็นชอบว่าคนอื่นเหยงๆ ไม่พูดอะไรซักหน่อยเหรอ
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #59 เมื่อ: 26-02-2007, 09:58 »

พูดได้สิคะ เพราะนี่คือการตัดตอนมาบิดเบือน ก็ได้ด่านายชอบแถ2ในเรื่องบิดเบือนไปแล้วไงคะ

พยายามเข้าค่ะ การพยายามทำลายราชบัลลังก์ของคุณ จะส่งผลกับคุณอย่างแน่นอน แถเข้าไปเรื่อยๆค่ะ เวลาของคุณใกล้จะหมดแล้ว 
บันทึกการเข้า
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #60 เมื่อ: 26-02-2007, 10:18 »

 

ประชาธิปไตย เป็นหัวใจของทุกเศรษฐกิจครับ

ทั้งพอเพียง ไม่พอเพียง  ทั้งเล่นหวย เล่นพนัน  โกงชาวบ้าน

 

คิดโดยใช้สมองดีๆนะครับ  ขนาดกึ่งๆ ประชาธิปไตยอย่างตอนนี้ ยังบังคับคนให้พอเพียงไม่ได้เลย
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
Yodyood
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 528



« ตอบ #61 เมื่อ: 26-02-2007, 10:33 »

ท่าทางคุณจะพูดกลับกันแล้วครับ
เศรษฐกิจพอเพียงต่างหากครับที่เป็นหัวใจของประชาธิปไตย(ความจริงใช้ได้กับทุกระบบการปกครอง)

ลองคุณมีประชาธิปไตยที่ประชาชนไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักประมาณตัว เนี่ยประเทศมันจะอยู่ได้ไหมครับ?
บันทึกการเข้า

~ You will never know the truth if you dare not to face it. ~
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #62 เมื่อ: 26-02-2007, 11:00 »

พูดได้สิคะ เพราะนี่คือการตัดตอนมาบิดเบือน ก็ได้ด่านายชอบแถ2ในเรื่องบิดเบือนไปแล้วไงคะ
พยายามเข้าค่ะ การพยายามทำลายราชบัลลังก์ของคุณ จะส่งผลกับคุณอย่างแน่นอน แถเข้าไปเรื่อยๆค่ะ เวลาของคุณใกล้จะหมดแล้ว 

ถามจริงเหอะ เอกสารที่ไหนจะอธิบายเศรษฐกิจพอเพียงได้ละเอียดกว่าพระราชดำรัส ที่คิดกันว่าเข้าใจหลัก
เศรษฐกิจพอเพียง จริงๆ แล้วเข้าใจผิดกันใช่มั้ย ไม่เคยอ่านพระราชดำรัสในสองปีนี้ใช่มั้ย เห็นแต่เอกสารที่
บอกว่า สามห่วงสองเงื่อนไข กับ อีกพวกที่จินตนาการคำว่าพอเพียงเอาเอง พอเห็นของจริงเลยไม่รู้ว่าความ
หมายที่แท้จริงเป็นแบบนี้ เผลอด่าพระราชดำรัสเข้าให้ แล้วแก้เกี้ยวด้วยการบอกว่าตัดตอนบิดเบือน ยกมา
ขนาดนี้บิดเบือนตรงไหนไม่ทราบ แน่จริงก็เถียงมาเลยว่า ที่ยกมาไม่จริง ทำเศรษฐกิจพอเพียง 100% ไม่ได้
เป็นเรื่องไม่จริง เอาเลย อย่าเป็นแต่ด่า จ๋อยแล้วก็หัดยอมรับซะมั่งนะอย่าตะแบงเลย งั้นขอท้าทายคนที่นี่เลย
ถ้าใครกล้าจริงให้เถียงว่า ตรงที่ยกมานี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก หรือว่าผิดหรือว่าบิดเบือน
- เศรษฐกิจพอเพียงไม่สามารถทำได้ 100% ไม่งั้นเป็นพวกสมัยหิน เพราะไม่ต้องพึ่งคนอื่น
  ไม่ทีทางที่จะไม่พึ่งคนอื่นได้ จึงไม่สามารถทำเศรษฐกิจพอเพียงได้ 100% หรือแม้แต่ 50%
  ก็ยังทำไม่ได้
- สำหรับปัจจุบันให้ทำแค่ 25% ของการกระทำก็พอแล้ว ที่เหลือก็จะเสี่ยงหรือพึ่งพาคนอื่นก็
  ตามสะดวก เพราะมันต้องเป็นอย่างงั้น อยู่ด้วยตนเองทั้งหมดไม่ได้
- สามห่วงสองเงื่อนไขคือความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงตามเอกสารเผยแพร่
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #63 เมื่อ: 26-02-2007, 11:00 »

ท่าทางคุณจะพูดกลับกันแล้วครับ
เศรษฐกิจพอเพียงต่างหากครับที่เป็นหัวใจของประชาธิปไตย(ความจริงใช้ได้กับทุกระบบการปกครอง)

ลองคุณมีประชาธิปไตยที่ประชาชนไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักประมาณตัว เนี่ยประเทศมันจะอยู่ได้ไหมครับ?

เห็นด้วยครับ
หลักการ "ทางสายกลาง ( รวมถึง "รู้พอเพียง" คือไม่ถีงกับขัดสน ในขณะที่ไม่ปล่อยตนให้เมามัวไปกับสิ่งอันฟุ่มเฟือยเกินกำลัง )"  เป็นหลักในการดำเนินชีวิตของ "ทุกระบบ"

การรู้จักพอเพียง - ไม่โลภ ไม่จมปลักอยู่กับตัณหา ( ไม่รู้จักหยุดไม่รู้จักพอ ) เป็น "หลักธรรม"
ซึ่งมีแต่ "มนุษย์" ผู้เจริญเท่านั้น  สามารถยึดถือน้อมนำมาเป็นแนวทางดำเนินชีวิต และดำรงสังคม ( ของมนุษย์ ) ต่อไปได้

ในขณะที่ "ประชาธิปไตย" เป็นพัฒนาการทาง "สิทธิ" อันปรับขึ้นมาจาก "ความต้องการของสัตว์"
...เป็นสิทธิที่จะดำรงตนเองอย่างมีอิสระเสรีภาพ   สามารถกำหนดชะตาชีวิตตนเองได้ ( เช่น  จะทำตัวโง่ ๆ แล้วรอการสงเคราะห์จากผู้อื่น   หรือจะดิ้นรนต่อสู้เพื่อสร้างฐานะให้เข้มแข็ง  ก็ได้ )  ในสังคมที่ยอมรับกันและกัน
...ซึ่งไม่ได้ยืนยันว่า "ถูกต้อง - ดีแล้ว" หรือ "สามารถเป็นอยู่ได้เช่นนั้นตลอดไปอย่างไม่มีปัญหา"
ดังตัวอย่างง่าย ๆ ก็คือ  ช่วงเวลาที่พรรคนาซีเรืองอำนาจในประเทศเยอรมัน
พรรคนาซี เป็นพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นมาจากชาวเยอรมันในขณะนั้น
ผู้นำที่ชื่ออดอล์ฟ  ฮิตเลอร์ได้รับฉันทานุมัติทุกด้าน  ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองทางเทคโนโลยี่ขั้นสูงสุด ( เยอรมันเป็นประเทศแรกที่มีการกระจายคลื่นโทรทัศน์ ) และเศรษฐกิจแข็งแกร่งสูงสุด
...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ที่ประเทศเพิ่งแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 มาหมาด ๆ

.....
....

แล้วเป็นไง ?
ทุกวันนี้  คนรุ่นลูกรุ่นหลา่นของเยอรมัน "ไม่เคยมอบฉันทานุมัติ" ให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งอีกเลย
...ประเทศเยอรมันปกครองโดยรัฐบาลผสมมาโดยตลอด  และมีหลาย ๆ ครั้งที่ประเทศอยู่ภายนใต้กฎอัยการศึก - อยู่ภายใต้รัฐบาลชั่วคราว โดยมีนายกรัฐมนตรีรักษาการณ์
แต่แล้ว
...ประเทศเยอรมันก็ยัง "ฟื้นกลับ" ขึ้นมาแข็งแกร่งที่สุดในสหภาพยุโรป ได้อีกนั่นล่ะ !!

เยอรมันเป็นเ่ช่นนี้เพราะ "ประชาธิปไตย" จริง ๆ หรือ ?
"ประชาธิปไตย" นี้ช่างเปรียบเสมือนยาวิเศษที่เนรมิตได้ทุกอย่าง
แม้แต่
"สำนึกรับผิดชอบ  สำนึกตอบแทนคุณแผ่นดิน  สำนึกอยู่ร่วมกันอย่างสุขสงบ"
ของผู้คนในสังคมนั้น ๆ
...จริงหรือ ??



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2007, 11:14 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #64 เมื่อ: 26-02-2007, 11:07 »


ในกระทู้นี้มีใครด่าพระราชดำรัส ?
เห็นมีแต่พวก Pro Tugsin ทั้งนั้นที่เหยียดหยามแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ต่ำทรามลง ( พยายามดิสเครดิต )
พอโดนไล่เบี้ยเข้า  ก็ยกโน่นยกนี่มาอ้างข้าง ๆ คู ๆ
เพื่อทำให้ดูเหมือนตัวเอง "รู้มากกว่า"
เพื่อที่จะได้ "สรุปว่าทักษิโนมิคส์อยู่เหนือกว่า - ครอบคลุมมากกว่า"


สันดานเหมือนนายมัน
บันทึกการเข้า

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #65 เมื่อ: 26-02-2007, 11:10 »

^
^
บ้าบอสติแตกไปแล้ว ทักษิโณมิคส์ในกระทู้นี้อยู่ตรงไหนหว่า ที่ว่าบิดเบือนยังไงก็บอกไม่ได้
อ้างไปเรื่อย จริงๆ แล้วไม่รู้อะไรเลย ในสมองมีแต่เรื่องด่าแม่ชาวบ้าน
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #66 เมื่อ: 26-02-2007, 11:20 »


มันแถไม่ออกแล้วพี่น้อง
พอโดน "ดักทาง"
ไอ้พวก "ว่าไปตามหลักฐาน" มันหาทางเลียนายหน้าเหลี่ยมของมันไม่เจอแล้ว

 



บันทึกการเข้า

snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #67 เมื่อ: 26-02-2007, 12:49 »

คุณ 55555 ลองดูเชิงอรรถข้อ 5 ว่าเข้าข่าย “ยัดเยียด” หรือยัง?

อ่านแล้วครับ.....ตรงไหนครับที่คุณ snow ตีความว่าเป็นการ "ยัดเยียด"

เชิงอรรถขยายความ:

5. ดูตัวอย่างจากคำสัมภาษณ์ของ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ว่า “สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ) จะสอดแทรกหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงเข้าสู่ในการอบรมทุก
ประเภท
เพื่อให้ครูทุกคนได้มีโอกาสทราบและเข้าใจในหลักเศรษฐกิจพอเพียง และทุก
หน่วยงาน
ในสังกัด สพฐ.ก็จะช่วยกันทำแผนว่าจะน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไป
สู่การปฏิบัติได้ อย่างไร และจะผลักดันให้ทุกโรงเรียนจัดกิจกรรมคุณธรรมนำความรู้ โดย
มีเกณฑ์กว้างๆ ว่าต้องมีการปลูกฝังคุณธรรมแทรกในการเรียนการสอน เป็นการปฎิบัติ
ร่วมกันระหว่างนักเรียนและครู กรรมการสถานศึกษา โดยจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งปี

โดย สพฐ. คาดหวังว่าจะพัฒนาโรงเรียนประมาณ 10% หรือประมาณ 3,000 โรงเรียน
เพื่อเป็นต้นแบบจากนั้นจะค่อยๆ ขยายผลให้ไปสู่โรงเรียนทั่วประเทศ ประมาณการว่า
ภายใน 3 ปีจะทำได้ครบทุกแห่งทั่วประเทศ ภายใต้นโยบายคุณธรรมนำความรู้ สพฐ.
จะให้เงินทุกสถานศึกษานำไปฟื้นฟูกิจกรรมลูกเสืออย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ลูกเสือจะ
น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฎิบัติ รวมทั้งการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ การทำ
ความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเน้นว่าจะทำอย่างไรจะมีผู้บังคับบัญชา
ลูกเสือได้คุณภาพตามเกณฑ์ ที่กรรมการลูกเสือกำหนดในทุกสถานศึกษา รวมถึงจะมี
การประกวดดนตรีและละครคุณธรรม เชิญชวนให้นำคุณธรรมแทรกไปในดนตรีและละคร

“การปลูกฝังคุณธรรม การทำคุณงามความดี จะสร้างภูมิต้านทานไม่ให้เด็กที่มีปัญหา
ออกนอกลู่นอกทาง นอกจากนี้จะร่วมฟื้นฟูเรื่องระบบดูแลนักเรียน จะต่อยอดเรื่องระบบ
ดูแลนักเรียนโดยการพัฒนาให้มียุวชนแนะแนวเกิดขึ้นในทุกโรงเรียนที่มีช่วงชั้นที่ 3 และ
4 เหล่านี้จะเป็นเรื่องใหญ่ๆที่จะทำในปีนี้ภายใต้หัวข้อคุณธรรมนำความรู้” (‘หมอเกษม’
เผยฝรั่งเขียนโจมตี ศก.พอเพียง เทียบทักษิโณมิกส์เพราะมีคนจ้าง” ผู้จัดการออนไลน์
31 มกราคม 2550 17:23 น.)


ตรงคำว่า “ทุก” ค่ะ
อาจมองว่าเป็นความเสมอภาคได้ หากไม่มี "สอดแทรก" "ผลักดัน"
แต่ อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ไม่เรียกว่า ยัดเยียด ใช้คำว่า บังคับ กดขี่


ผมเห็นว่า การเสนอเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง คือตัวอย่างของการ
ใช้อำนาจรัฐบังคับทางอุดมการณ์
นี่คือการกดขี่ทางความคิดอย่างสุดๆ
(นึกถึงติดคุก 15 ปี)
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #68 เมื่อ: 26-02-2007, 13:01 »

อ้าวลืมใส่ link

http://www.sameskybooks.org/webboard/show.php?Category=sameskybooks&No=2343

ลองตามไปดูที่เขาแลกเปลี่ยน คคห. ทางวิชาการ

ไม่มีหยาบคายลามกสกปรกให้รกลูกตา
แล้วสำคัญผิดว่าเถียงชนะ ทั้งๆ ที่แสดงแต่
ความต่ำทรามทั้งวาจาและใจในที่สาธารณะ
อย่างไร้สติ ไม่ต้องพูดถึงปัญญาว่าเป็นอย่างไร
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #69 เมื่อ: 26-02-2007, 13:56 »

อ้าวลืมใส่ link

http://www.sameskybooks.org/webboard/show.php?Category=sameskybooks&No=2343

ลองตามไปดูที่เขาแลกเปลี่ยน คคห. ทางวิชาการ

ไม่มีหยาบคายลามกสกปรกให้รกลูกตา
แล้วสำคัญผิดว่าเถียงชนะ ทั้งๆ ที่แสดงแต่
ความต่ำทรามทั้งวาจาและใจในที่สาธารณะ
อย่างไร้สติ ไม่ต้องพูดถึงปัญญาว่าเป็นอย่างไร

คุณฉลาดนักนิ?
บันทึกการเข้า
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #70 เมื่อ: 26-02-2007, 14:04 »

อ้าวลืมใส่ link

http://www.sameskybooks.org/webboard/show.php?Category=sameskybooks&No=2343

ลองตามไปดูที่เขาแลกเปลี่ยน คคห. ทางวิชาการ

ไม่มีหยาบคายลามกสกปรกให้รกลูกตา
แล้วสำคัญผิดว่าเถียงชนะ ทั้งๆ ที่แสดงแต่
ความต่ำทรามทั้งวาจาและใจในที่สาธารณะ
อย่างไร้สติ ไม่ต้องพูดถึงปัญญาว่าเป็นอย่างไร

คุณฉลาดนักนิ?

ปล่อยเค้าละเมอเพ้อพกกับพวกฟ้าเดียวกันไปเถอะ

ผมเลิกคบกับพวกซ้ายจัดไม่เอาสถาบันในนั้นแล้วล่ะ

ความคิดสุดโต่งโคตร ฟังทีต้องมองซ้ายเหลียวขวา

ป.ล.พูมทำ เวดชะยะชัย มาจ่ายตังค์หน่อยเร้วววว.....
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #71 เมื่อ: 26-02-2007, 14:55 »

ถามชอบแถ
คำว่าชนชั้นพอเพียง
มีอยู่ในเว็บไซต์กาญจนาภิเษกตรงไหน
ช่วยหามาให้ดูหน่อย
เห็นขยันหาข้อมูล มีหลักฐานอ้างอิงดี

คำว่า ความเห็นส่วนตัว รู้จักมั้ย ต้องถามหา link ความเห็นส่วนตัวด้วยเหรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ไม่ทราบ

ก็เห็นกระทู้นี้มีหลักการเหลือเกิน
เลยสงสัยว่ากระทู้เก่าที่จริงแล้วมีหลักการ หรือหลักกูกันแน่

แต่ม้าแถตีสองหน้าได้ใจดีนะ
กระทู้นี้ออกมาปกป้องกลัวแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงจะถูกบิดเบือน

กลับไปดูกระทู้เก่าแหมบๆ ความเห็นส่วนตัวม้าแถบอกว่า
พวกชนชั้นพอเพียง คือพวกนั่งกินนอนกิน วันๆ ทำตัวเป็นเหลือบสังคม

แหม.. ช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน
หรือจะบอกว่าอ่านกระทู้ชนชั้นพอเพียงแล้วจะเข้าใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้

จะรอขำ 


ปล. มีไดอะแกรมชนชั้นพอเพียงมั้ยเนี่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2007, 14:57 โดย Cherub Rock » บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #72 เมื่อ: 26-02-2007, 15:07 »

คนโกหกพกลม พูดเรื่องเดียวกันแต่ละครั้งไม่เหมือนกันซักครั้งนั่นแหล่ะ
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #73 เมื่อ: 26-02-2007, 15:32 »

ก็เห็นกระทู้นี้มีหลักการเหลือเกิน
เลยสงสัยว่ากระทู้เก่าที่จริงแล้วมีหลักการ หรือหลักกูกันแน่

แต่ม้าแถตีสองหน้าได้ใจดีนะ
กระทู้นี้ออกมาปกป้องกลัวแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงจะถูกบิดเบือน

กลับไปดูกระทู้เก่าแหมบๆ ความเห็นส่วนตัวม้าแถบอกว่า
พวกชนชั้นพอเพียง คือพวกนั่งกินนอนกิน วันๆ ทำตัวเป็นเหลือบสังคม

แหม.. ช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน
หรือจะบอกว่าอ่านกระทู้ชนชั้นพอเพียงแล้วจะเข้าใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้

จะรอขำ 

ปล. มีไดอะแกรมชนชั้นพอเพียงมั้ยเนี่ย

กู้กระทู้คืนมาก่อน แล้วจะตอบให้ ไม่เห็นกระทู้ ตอบไม่ถูกอ่ะ 
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #74 เมื่อ: 26-02-2007, 15:35 »

คิดว่าทุกทั่นได้รับข้อมูลเศรษฐกิจพอเพียงจาก http://www.sufficiencyeconomy.org/detail.swf กันแน่เล้ย
หนังสือนี้ก็นำมาจากพระราชดำรัสแต่ก็ไม่ทั้งหมด จะศึกษาให้ละเอียดก็ต้องไปอ่านพระราชดำรัสให้หมด แล้ว
จะได้เข้าใจ เรื่องที่ว่าทำ 100% ไม่ได้ก็อยู่ที่หน้า 17 ของหนังสือนี้

หนังสือเล่มนี้จัดทำมาสมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง ซึ่งใช้เศรษฐกิจพอเพียง
ในนโยบายเศรษฐกิจ โดยอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่เพิ่งผ่านไป รัฐบาลประชาธิปไตย
ก็ไม่ได้บังคับให้ประชาชนว่าต้องปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงกี่ % ในหนังสือก็ไม่ได้ลงไว้ คงกลัวว่าประชาชนจะสับ
สน เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะให้ประชาชนปฏิบัติในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

แต่พอมาถึงรัฐบาลเผด็จการทหารนี้ กลับอ้างนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการบังคับ แต่ไม่มีปัญญาอธิบายให้
ละเอียดได้ เพราะตัวเองก็ไม่เข้าใจ ต้องให้ด๊อกเตอร์สมคิดมาอธิบาย แต่ก็โดนพวกพันธมิตรที่ไม่ต้องการให้ประ
ชาชนเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงอย่างถูกต้องไล่ไปเสียก่อน บังคับให้ใช้เศรษฐกิจพอเพียงทั้งประเทศ ซึ่งตามหนัง
สือแล้วเป็นไปไม่ได้ ที่ทุกคนจะปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง 100% แถมยังทำให้สับสนกับเศรษฐกิจการค้าอีกด้วย

สรุปได้ว่า รัฐบาลที่แล้วโดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการทำเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้ความรู้ประชาชนแบบไม่
เป็นการบังคับ และมีโครงการภาครัฐต่างๆ สนับสนุน อีกทั้งมีบรรจุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับ
ที่เก้า http://www.nesdb.go.th/Portals/0/news/plan/p9/intro2.doc ที่เพิ่งผ่านไป ประชาชนก็จะปฏิบัติได้
ตามอัตราส่วน 1 ใน 4 เองตามธรรมชาติ ส่วนรัฐบาลนี้เพ้อฝันเกินจริง กะจะให้ทำ 100% ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ก็จะยัด
เยียดให้ได้
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #75 เมื่อ: 26-02-2007, 16:13 »

คิดว่าทุกทั่นได้รับข้อมูลเศรษฐกิจพอเพียงจาก http://www.sufficiencyeconomy.org/detail.swf กันแน่เล้ย
หนังสือนี้ก็นำมาจากพระราชดำรัสแต่ก็ไม่ทั้งหมด จะศึกษาให้ละเอียดก็ต้องไปอ่านพระราชดำรัสให้หมด แล้ว
จะได้เข้าใจ เรื่องที่ว่าทำ 100% ไม่ได้ก็อยู่ที่หน้า 17 ของหนังสือนี้

หนังสือเล่มนี้จัดทำมาสมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง ซึ่งใช้เศรษฐกิจพอเพียง
ในนโยบายเศรษฐกิจ โดยอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่เพิ่งผ่านไป รัฐบาลประชาธิปไตย
ก็ไม่ได้บังคับให้ประชาชนว่าต้องปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงกี่ % ในหนังสือก็ไม่ได้ลงไว้ คงกลัวว่าประชาชนจะสับ
สน เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะให้ประชาชนปฏิบัติในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

แต่พอมาถึงรัฐบาลเผด็จการทหารนี้ กลับอ้างนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการบังคับ แต่ไม่มีปัญญาอธิบายให้
ละเอียดได้ เพราะตัวเองก็ไม่เข้าใจ ต้องให้ด๊อกเตอร์สมคิดมาอธิบาย แต่ก็โดนพวกพันธมิตรที่ไม่ต้องการให้ประ
ชาชนเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงอย่างถูกต้องไล่ไปเสียก่อน บังคับให้ใช้เศรษฐกิจพอเพียงทั้งประเทศ ซึ่งตามหนัง
สือแล้วเป็นไปไม่ได้ ที่ทุกคนจะปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง 100% แถมยังทำให้สับสนกับเศรษฐกิจการค้าอีกด้วย

สรุปได้ว่า รัฐบาลที่แล้วโดย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการทำเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้ความรู้ประชาชนแบบไม่
เป็นการบังคับ และมีโครงการภาครัฐต่างๆ สนับสนุน อีกทั้งมีบรรจุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับ
ที่เก้า http://www.nesdb.go.th/Portals/0/news/plan/p9/intro2.doc ที่เพิ่งผ่านไป ประชาชนก็จะปฏิบัติได้
ตามอัตราส่วน 1 ใน 4 เองตามธรรมชาติ ส่วนรัฐบาลนี้เพ้อฝันเกินจริง กะจะให้ทำ 100% ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ก็จะยัด
เยียดให้ได้

กร๊ากก...
สุดท้ายก็ตวัดลิ้นเลียเหลี่ยม

ใครจะเชื่อมัน
หักใจลืมมันซะเถอะ ไม่ได้กลับมาผุดมาเกิดหรอก 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #76 เมื่อ: 26-02-2007, 16:20 »

อ้างถึง
... อย่าให้สงสัยไปกว่านี้เลยครับว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นจะสามารถนำไปปฏิบัติ
ได้ (หรือเกิดได้ในบรรยากาศ) เฉพาะในระบอบที่เรียกกันว่าระบอบปฏิรูปการปกครอง
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(ซึ่งเป็นระบอบที่ได้มาจากการรัฐประหาร)
เท่านั้น ?

อ้างถึง
ต้องไม่ลืมว่า หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการ
ถอยหลังถึงสมัยหิน

สองความเห็นนี่ โง่งั่งและบิดเบือนพอๆกันค่ะ

ด่าพระราชดำรัสแรงขนาดนี้เคารพพระเจ้าอยู่หัวหรือเปล่า เห็นชอบว่าคนอื่นเหยงๆ ไม่พูดอะไรซักหน่อยเหรอ


ไอ้นี่โง่ไม่เลิก เอ้า ชอบแถ2 มาตอบคำถามหน่อยซิ

ที่กล่าวมาไม่ได้โจมตีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่คนที่บริหารประเทศปัจจุบันและผู้อยู่เบื้องหลัง
ก็ไม่ได้เข้าใจปรัชญานี้เหมือนกัน กลับนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยวิธียัดเยียดเกิน
กว่าจะสามารถใช้ได้จริง ต้องไม่ลืมว่า หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการ
ถอยหลังถึงสมัยหิน


นี่คือสิ่งที่ชอบแถ2 โพสเอาไว้ เป็นที่มาของคำตอบที่ใส่ไว้ให้ดูข้างบน และคำใส่ร้ายของชอบแถ2

ตรงไหนคือพระราชดำรัส  ชอบแถ2 ตอบมาหน่อย


ที่กล่าวมาไม่ได้โจมตีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่คนที่บริหารประเทศปัจจุบันและผู้อยู่เบื้องหลัง
ก็ไม่ได้เข้าใจปรัชญานี้เหมือนกัน กลับนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยวิธียัดเยียดเกิน
กว่าจะสามารถใช้ได้จริง ต้องไม่ลืมว่า หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการ
ถอยหลังถึงสมัยหิน


ตรงไหนคือพระราชดำรัส ตอบมา กล้าๆหน่อยนะ   


อ้อ เวบมาสเตอร์ขา ช่วยล็อกเฉพาะคำตอบของชอบแถ2 อันที่หนูลิ้งค์มาด้วยนะคะ เดี๋ยวมันแก้คำตอบเพื่อเอาตัวรอด  ยิ่งชอบๆแถอยู่   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2007, 16:23 โดย พรรณชมพู » บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #77 เมื่อ: 26-02-2007, 16:33 »

ต้องพูดเข้าในเรื่องเลย เพราะหนักใจว่า แม้แต่คนที่เป็นดอกเตอร์ก็ไม่เข้าใจ. อาจจะพูดไม่ชัด แต่เมื่อกลับไปดูที่เขียนจากที่พูด ก็ชัดแล้วว่าควรจะปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงไม่ต้องทั้งหมด เพียงครึ่งหนึ่งก็ใช้ได้ แม้จะเป็นเศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอ. หมายความว่าวิธีปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ไม่ต้องทำทั้งหมด และขอเติมว่าถ้าทำทั้งหมดก็จะทำไม่ได้. ถ้าครอบครัวหนึ่ง หรือแม้หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการถอยหลังถึงสมัยหิน สมัยคนอยู่ในอุโมงค์หรือในถ้ำ ซึ่งไม่ต้องอาศัยหมู่อื่น เพราะว่าหมู่อื่นก็เป็นศัตรูทั้งนั้น ตีกัน ไม่ใช่ร่วมมือกัน จึงต้องทำเศรษฐกิจพอเพียง. แต่ละคนต้องหาที่อยู่ ก็หาอุโมงค์หาถ้ำ. ต้องหาอาหาร คือไปเด็ดผลไม้หรือใบไม้ตามที่มี หรือไปใช้อาวุธที่ได้สร้างได้ประดิษฐ์เอง ไปล่าสัตว์. กลุ่มที่อยู่ในอุโมงค์ในถ้ำนั้น ก็มีเศรษฐกิจพอเพียง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์. ก็ปฏิบัติได้.

กี่รอบแล้วก็ไม่รู้ในกระทู้นี้ หัดอ่านซะมั่งเหอะนะ

จ๋อย อะดิ 
บันทึกการเข้า
คนภูตะนาว ฯ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70


สื่อสารงานถ้อยร้อยเรียง เป็นปากเป็นเสียงประชาชน


เว็บไซต์
« ตอบ #78 เมื่อ: 26-02-2007, 16:38 »

คนมันโง่
มันก็ต้องโง่นะครับ
มันไม่มีสมองที่จะไปหาความชัดเจนจากความจริงอะไรได้ดอก
แค่ความหมายของความพอเพียงมันยังไม่เข้าใจ

แล้วชีวิตมันจะเข้าใจอะไรดีๆได้

น่าทุเรศแท้

 



ย้ำอีกครั้งครับ 
บันทึกการเข้า

ไม่ซ้าย ไม่ขวา ปาก ห ม า ไปเรื่อย ประสา  โต้ง ตะนาวศรี


" ลำนำเถื่อน จาก เรือน ถ่ อ ย ''  โดย ลานเทวา แห่ง ภูตะนาว ฯ

 
ลานเทวา
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #79 เมื่อ: 26-02-2007, 17:10 »


....
อันนี้ขอพูดต่อจากที่เขียน หรือที่พูดเมื่อปีที่แล้ว ว่าจะเป็นประโยชน์อย่างไรต่อไป ซึ่งก็แย้มเอาไว้แล้ว แต่เศรษฐกิจพอเพียงนั้น เขาตีความว่าเป็นเศรษฐกิจชุมชน คือหมายความว่า ให้พอเพียงในหมู่บ้าน หรือในท้องที่ ให้สามารถที่จะมีพอกิน มันเริ่มด้วยพอกิน พอมีพอกิน อันนี้ พอมีพอกินได้พูดมาหลายปี สิบกว่าปีมาแล้ว ให้พอมีพอกิน แต่ว่าพอมีพอกิน มันเป็นเริ่มต้นของเศรษฐกิจ เมื่อปีที่แล้วบอกว่าถ้าพอมีพอกิน เซลฟิเชนซี่ คือ พอมีพอกินของตัวเองนั้น เป็นเศรษฐกิจสมัยหิน มันไม่ใช่ว่าเป็นเศรษฐกิจพอเพียง เป็นเศรษฐกิจสมัยหิน สมัยหินนั้น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน แต่ว่าค่อยๆ พัฒนาขึ้นมา ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนกัน มีการช่วยระหว่างหมู่บ้าน หรือระหว่างอำเภอ จังหวัด ประเทศ ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยน มีการไม่พอเพียงกัน ถึงบอกว่า ถ้ามีเศรษฐกิจพอเพียง เพียงเศษ ๑ ส่วน ๔ ก็จะพอแล้ว จะใช้ได้ เพราะว่าถ้ามีเศรษฐกิจพอเพียง เพียงเศษ ๑ ส่วน ๔ สมมุติว่าเดี๋ยวนี้ไฟดับ ถ้าไม่มีเศรษฐกิจพอเพียง ไฟดับ ไฟหลวง ไฟฟ้าหลวง หรือไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขาดับหมด พังหมด จะทำอย่างไร ที่ๆ ต้องใช้ไฟฟ้าก็ต้องแย่ไป บางคนที่ต่างประเทศ เวลาไฟดับ เขาฆ่าตัวตาย แต่ของเราไฟดับ เราเคยชิน เราไม่เป็นไร ไฟดับ ถ้ามีความจำเป็น เศรษฐกิจพอเพียงแบบไม่เต็มที่ เรามีเครื่องปั่นไฟ ก็ใช้ปั่นไฟ หรือถ้าขั้นโบราณกว่า มืดก็จุดเทียน มีทางที่ให้แก้ปัญหาเสมอ งั้นเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ก็มีเป็นขั้นๆ แต่ว่าต้องดูว่าเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ที่จะมาบอกว่า ให้พอเพียงเฉพาะตัวเองร้อยเปอร์เซนต์ เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ จะต้องมีการแลกเปลี่ยน ต้องมีการช่วยกัน
ถ้ามีการช่วยกันแลกเปลี่ยน ก็ไม่ใช่พอเพียงแล้ว
....

http://kanchanapisek.or.th/speeches/1999/1223.th.html

ถ้าจะหาว่าตัดตอนมาบิดเบือนส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ คือตรง 25% และ 100% ทำไม่ได้นั้น ก็ขอให้อ่านพระราชดำรัสของปี 2542 ด้วย
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #80 เมื่อ: 26-02-2007, 17:47 »

ต้องพูดเข้าในเรื่องเลย เพราะหนักใจว่า แม้แต่คนที่เป็นดอกเตอร์ก็ไม่เข้าใจ. อาจจะพูดไม่ชัด แต่เมื่อกลับไปดูที่เขียนจากที่พูด ก็ชัดแล้วว่าควรจะปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงไม่ต้องทั้งหมด เพียงครึ่งหนึ่งก็ใช้ได้ แม้จะเป็นเศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอ. หมายความว่าวิธีปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ไม่ต้องทำทั้งหมด และขอเติมว่าถ้าทำทั้งหมดก็จะทำไม่ได้. ถ้าครอบครัวหนึ่ง หรือแม้หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการถอยหลังถึงสมัยหิน สมัยคนอยู่ในอุโมงค์หรือในถ้ำ ซึ่งไม่ต้องอาศัยหมู่อื่น เพราะว่าหมู่อื่นก็เป็นศัตรูทั้งนั้น ตีกัน ไม่ใช่ร่วมมือกัน จึงต้องทำเศรษฐกิจพอเพียง. แต่ละคนต้องหาที่อยู่ ก็หาอุโมงค์หาถ้ำ. ต้องหาอาหาร คือไปเด็ดผลไม้หรือใบไม้ตามที่มี หรือไปใช้อาวุธที่ได้สร้างได้ประดิษฐ์เอง ไปล่าสัตว์. กลุ่มที่อยู่ในอุโมงค์ในถ้ำนั้น ก็มีเศรษฐกิจพอเพียง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์. ก็ปฏิบัติได้.

กี่รอบแล้วก็ไม่รู้ในกระทู้นี้ หัดอ่านซะมั่งเหอะนะ

ชอบแถ อย่าทำหน้าตัวเมีย ตอบคำถาม ตอบไม่ได้ใช่ไหม 

จ๋อย อะดิ 
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #81 เมื่อ: 26-02-2007, 17:49 »


....
อันนี้ขอพูดต่อจากที่เขียน หรือที่พูดเมื่อปีที่แล้ว ว่าจะเป็นประโยชน์อย่างไรต่อไป ซึ่งก็แย้มเอาไว้แล้ว แต่เศรษฐกิจพอเพียงนั้น เขาตีความว่าเป็นเศรษฐกิจชุมชน คือหมายความว่า ให้พอเพียงในหมู่บ้าน หรือในท้องที่ ให้สามารถที่จะมีพอกิน มันเริ่มด้วยพอกิน พอมีพอกิน อันนี้ พอมีพอกินได้พูดมาหลายปี สิบกว่าปีมาแล้ว ให้พอมีพอกิน แต่ว่าพอมีพอกิน มันเป็นเริ่มต้นของเศรษฐกิจ เมื่อปีที่แล้วบอกว่าถ้าพอมีพอกิน เซลฟิเชนซี่ คือ พอมีพอกินของตัวเองนั้น เป็นเศรษฐกิจสมัยหิน มันไม่ใช่ว่าเป็นเศรษฐกิจพอเพียง เป็นเศรษฐกิจสมัยหิน สมัยหินนั้น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน แต่ว่าค่อยๆ พัฒนาขึ้นมา ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนกัน มีการช่วยระหว่างหมู่บ้าน หรือระหว่างอำเภอ จังหวัด ประเทศ ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยน มีการไม่พอเพียงกัน ถึงบอกว่า ถ้ามีเศรษฐกิจพอเพียง เพียงเศษ ๑ ส่วน ๔ ก็จะพอแล้ว จะใช้ได้ เพราะว่าถ้ามีเศรษฐกิจพอเพียง เพียงเศษ ๑ ส่วน ๔ สมมุติว่าเดี๋ยวนี้ไฟดับ ถ้าไม่มีเศรษฐกิจพอเพียง ไฟดับ ไฟหลวง ไฟฟ้าหลวง หรือไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขาดับหมด พังหมด จะทำอย่างไร ที่ๆ ต้องใช้ไฟฟ้าก็ต้องแย่ไป บางคนที่ต่างประเทศ เวลาไฟดับ เขาฆ่าตัวตาย แต่ของเราไฟดับ เราเคยชิน เราไม่เป็นไร ไฟดับ ถ้ามีความจำเป็น เศรษฐกิจพอเพียงแบบไม่เต็มที่ เรามีเครื่องปั่นไฟ ก็ใช้ปั่นไฟ หรือถ้าขั้นโบราณกว่า มืดก็จุดเทียน มีทางที่ให้แก้ปัญหาเสมอ งั้นเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ก็มีเป็นขั้นๆ แต่ว่าต้องดูว่าเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ที่จะมาบอกว่า ให้พอเพียงเฉพาะตัวเองร้อยเปอร์เซนต์ เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ จะต้องมีการแลกเปลี่ยน ต้องมีการช่วยกัน
ถ้ามีการช่วยกันแลกเปลี่ยน ก็ไม่ใช่พอเพียงแล้ว
....

http://kanchanapisek.or.th/speeches/1999/1223.th.html

ถ้าจะหาว่าตัดตอนมาบิดเบือนส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ คือตรง 25% และ 100% ทำไม่ได้นั้น ก็ขอให้อ่านพระราชดำรัสของปี 2542 ด้วย
เรื่องอื่นๆผมว่าพูดคุยกันมามากพอแล้ว และหลายๆคนคงเข้าใจแล้ว
ประเด็นของกระทู้นี้อยู่ที่ี่ตัวแดงๆ สรุปก็คือคุณแถจับความมาไม่หมด
และผมว่าคุณแถ แถมามากเกินกว่าจะบอกว่าไม่ตั้งใจแล้ว
การนำพระราชดำรัสมาโจมตีทำให้เสื่อมเสียแบบนี้
ผมถือว่าเป็นเรื่องที่เลวทราม สมควรได้รับการประนามครับ
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #82 เมื่อ: 26-02-2007, 17:56 »

^
^
อ่านพระราชดำรัสให้หมดทั้งสามปีแล้วจะรู้ว่าใครบิดเบือนใครเข้าใจผิด การเน้นตัวแดงแบบนั้นคิดว่าเข้าใจถูกแล้วเหรอ
ทำไมไม่เน้นให้หมดประโยคล่ะ ใครเป็นคนเลวทรามที่น่าประนามกันแน่ อ่านก็ไม่หมดคิดเอาเอง ตีความเอาเอง

ถามคุณพรรณชมพูว่าไม่รู้หรือว่าที่ยกมาคือพระราชดำรัส ที่คุณเผลอไปด่าเพราะคุณไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่แท้จริง
คือตรงที่ขีดเส้นใต้นั่นแหละ คือตรงที่นำมาจากพระราชดำรัส แล้วยังจะมาต่อความยาวอะไรอีก เพี้ยนหรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2007, 18:03 โดย ชอบเเถ » บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #83 เมื่อ: 26-02-2007, 18:06 »

ต้องพูดเข้าในเรื่องเลย เพราะหนักใจว่า แม้แต่คนที่เป็นดอกเตอร์ก็ไม่เข้าใจ. อาจจะพูดไม่ชัด แต่เมื่อกลับไปดูที่เขียนจากที่พูด ก็ชัดแล้วว่าควรจะปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงไม่ต้องทั้งหมด เพียงครึ่งหนึ่งก็ใช้ได้ แม้จะเป็นเศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอ. หมายความว่าวิธีปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ไม่ต้องทำทั้งหมด และขอเติมว่าถ้าทำทั้งหมดก็จะทำไม่ได้. ถ้าครอบครัวหนึ่ง หรือแม้หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการถอยหลังถึงสมัยหิน สมัยคนอยู่ในอุโมงค์หรือในถ้ำ ซึ่งไม่ต้องอาศัยหมู่อื่น เพราะว่าหมู่อื่นก็เป็นศัตรูทั้งนั้น ตีกัน ไม่ใช่ร่วมมือกัน จึงต้องทำเศรษฐกิจพอเพียง. แต่ละคนต้องหาที่อยู่ ก็หาอุโมงค์หาถ้ำ. ต้องหาอาหาร คือไปเด็ดผลไม้หรือใบไม้ตามที่มี หรือไปใช้อาวุธที่ได้สร้างได้ประดิษฐ์เอง ไปล่าสัตว์. กลุ่มที่อยู่ในอุโมงค์ในถ้ำนั้น ก็มีเศรษฐกิจพอเพียง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์. ก็ปฏิบัติได้.

กี่รอบแล้วก็ไม่รู้ในกระทู้นี้ หัดอ่านซะมั่งเหอะนะ

ชอบแถ อย่าทำหน้าตัวเมีย ตอบคำถาม ตอบไม่ได้ใช่ไหม 

จ๋อย อะดิ 

^
^
อ่านพระราชดำรัสให้หมดทั้งสามปีแล้วจะรู้ว่าใครบิดเบือนใครเข้าใจผิด การเน้นตัวแดงแบบนั้นคิดว่าเข้าใจถูกแล้วเหรอ
ทำไมไม่เน้นให้หมดประโยคล่ะ ใครเป็นคนเลวทรามที่น่าประนามกันแน่ อ่านก็ไม่หมดคิดเอาเอง ตีความเอาเอง

ถามคุณพรรณชมพูว่าไม่รู้หรือว่าที่ยกมาคือพระราชดำรัส ที่คุณเผลอไปด่าเพราะคุณไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่แท้จริง
คือตรงที่ขีดเส้นใต้นั่นแหละ คือตรงที่นำมาจากพระราชดำรัส แล้วยังจะมาต่อความยาวอะไรอีก เพี้ยนหรือเปล่า

น่าอนาถชอบแถ ไม่กล้าตอบคำถาม บังอาจยกคำตอบในกระทู้ของตนเอง ว่าเป็นพระราชดำรัส เหิมเกริมใหญ่แล้ว
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #84 เมื่อ: 26-02-2007, 18:08 »

ไปดูความเห็นที่ 28 นะ นั่นคือพระราชดำรัสฉบับเต็ม ในความเห็นก็นำมาจากพระราชดำรัสนั่นแหละ
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #85 เมื่อ: 26-02-2007, 18:13 »

ที่กล่าวมาไม่ได้โจมตีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แต่คนที่บริหารประเทศปัจจุบันและผู้อยู่เบื้องหลัง
ก็ไม่ได้เข้าใจปรัชญานี้เหมือนกัน กลับนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง โดยวิธียัดเยียดเกิน
กว่าจะสามารถใช้ได้จริง ต้องไม่ลืมว่า หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการ
ถอยหลังถึงสมัยหิน


ยกคำตอบของนายชอบแถมาให้ดูอีกหน ไม่ต้องโยกโย้ไปถึงคำตอบอื่นๆ นายชอบแถอ้างว่านี่คือพระราชดำรัสหรือ บังอาจเหิมเกริมขนาดยกคำพูดของตนเองเป็นพระราชดำรัสหรือ

ตอบไม่ได้ก็เงียบๆไปซะ อายเค้า
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #86 เมื่อ: 26-02-2007, 18:17 »

เลิกตะแบงไร้สาระซะทีเถอะ พลาดเพราะไม่เข้าใจไม่เคยอ่านก็ยอมรับซะ ตรงที่เป็นสีน้ำเงินนั่นคือพระราชดำรัส

ที่โดน quote ว่า

อ้างถึง
อ้างถึง
ต้องไม่ลืมว่า หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการ
ถอยหลังถึงสมัยหิน


สองความเห็นนี่ โง่งั่งและบิดเบือนพอๆกันค่ะ


บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #87 เมื่อ: 26-02-2007, 18:20 »

ไม่กล้า quote ความเห็นที่ 88 มาหรือไง ผิดก็ยอมรับผิดเหอะ พวกจงรักภักดีแต่ปากไม่เคยศึกษาเลย
ว่าเนื้อแท้ของเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร มาถึงด่าได้ก็ด่าไว้ก่อน
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #88 เมื่อ: 26-02-2007, 18:24 »

นานๆจะได้เจอคนหน้าด้านขนาดนี้
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #89 เมื่อ: 26-02-2007, 18:28 »

นานๆจะได้เจอคนหน้าด้านขนาดนี้

คำถามชัดๆ ไม่กล้าตอบ หน้าตัวเมียจริงๆ นายชอบแถ2 เอากระโปรงไหม พอมีเหลือ

คำตอบทั้งคำตอบ เป็นของนายชอบแถ ถึงจะมีถ้อยคำบางคำเหมือนพระราชดำรัสเพราะเหิมเกริมตัดต่อมา เมื่อถูกวิจารณ์ก็อ้างว่าเป็พระราชดำรัส

นี่แน่ะ จะสอนให้ การยกพระราชดำรัสมาประกอบ ต้องแยกแยะไว้และอ้างถึง ไม่ใช่ใส่คำคล้ายคลึงเข้าไปในคำพูดของตนเอง แล้วเที่ยวกล่าวหาว่าผู้ที่วิจารณ์คำพูดของตน ว่าเป็นวิจารณ์พระราชดำรัส หามุขใหม่นะ อย่าโงนัก
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2007, 18:31 โดย พรรณชมพู » บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #90 เมื่อ: 26-02-2007, 18:31 »

ต้องพูดเข้าในเรื่องเลย เพราะหนักใจว่า แม้แต่คนที่เป็นดอกเตอร์ก็ไม่เข้าใจ. อาจจะพูดไม่ชัด แต่เมื่อกลับไปดูที่เขียนจากที่พูด ก็ชัดแล้วว่าควรจะปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงไม่ต้องทั้งหมด เพียงครึ่งหนึ่งก็ใช้ได้ แม้จะเป็นเศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอ. หมายความว่าวิธีปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ไม่ต้องทำทั้งหมด และขอเติมว่าถ้าทำทั้งหมดก็จะทำไม่ได้. ถ้าครอบครัวหนึ่ง หรือแม้หมู่บ้านหนึ่งทำเศรษฐกิจพอเพียงร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะเป็นการถอยหลังถึงสมัยหิน สมัยคนอยู่ในอุโมงค์หรือในถ้ำ ซึ่งไม่ต้องอาศัยหมู่อื่น เพราะว่าหมู่อื่นก็เป็นศัตรูทั้งนั้น ตีกัน ไม่ใช่ร่วมมือกัน จึงต้องทำเศรษฐกิจพอเพียง. แต่ละคนต้องหาที่อยู่ ก็หาอุโมงค์หาถ้ำ. ต้องหาอาหาร คือไปเด็ดผลไม้หรือใบไม้ตามที่มี หรือไปใช้อาวุธที่ได้สร้างได้ประดิษฐ์เอง ไปล่าสัตว์. กลุ่มที่อยู่ในอุโมงค์ในถ้ำนั้น ก็มีเศรษฐกิจพอเพียง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์. ก็ปฏิบัติได้.

กี่รอบแล้วก็ไม่รู้ในกระทู้นี้ หัดอ่านซะมั่งเหอะนะ

ชอบแถ อย่าทำหน้าตัวเมีย ตอบคำถาม ตอบไม่ได้ใช่ไหม 

จ๋อย อะดิ 

^
^
อ่านพระราชดำรัสให้หมดทั้งสามปีแล้วจะรู้ว่าใครบิดเบือนใครเข้าใจผิด การเน้นตัวแดงแบบนั้นคิดว่าเข้าใจถูกแล้วเหรอ
ทำไมไม่เน้นให้หมดประโยคล่ะ ใครเป็นคนเลวทรามที่น่าประนามกันแน่ อ่านก็ไม่หมดคิดเอาเอง ตีความเอาเอง

ถามคุณพรรณชมพูว่าไม่รู้หรือว่าที่ยกมาคือพระราชดำรัส ที่คุณเผลอไปด่าเพราะคุณไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่แท้จริง
คือตรงที่ขีดเส้นใต้นั่นแหละ คือตรงที่นำมาจากพระราชดำรัส แล้วยังจะมาต่อความยาวอะไรอีก เพี้ยนหรือเปล่า

น่าอนาถชอบแถ ไม่กล้าตอบคำถาม บังอาจยกคำตอบในกระทู้ของตนเอง ว่าเป็นพระราชดำรัส เหิมเกริมใหญ่แล้ว

ตรงสีน้ำเงินคือพระราชดำรัสนำมาจากฉบับเต็ม post ไว้ที่ความเห็นที่ 28 ชัดมั้ย ตอบไปหลายรอบแล้ว
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #91 เมื่อ: 26-02-2007, 18:35 »

นานๆจะได้เจอคนหน้าด้านขนาดนี้

คำถามชัดๆ ไม่กล้าตอบ หน้าตัวเมียจริงๆ นายชอบแถ2 เอากระโปรงไหม พอมีเหลือ

คำตอบทั้งคำตอบ เป็นของนายชอบแถ ถึงจะมีถ้อยคำบางคำเหมือนพระราชดำรัสเพราะเหิมเกริมตัดต่อมา เมื่อถูกวิจารณ์ก็อ้างว่าเป็พระราชดำรัส

นี่แน่ะ จะสอนให้ การยกพระราชดำรัสมาประกอบ ต้องแยกแยะไว้และอ้างถึง ไม่ใช่ใส่คำคล้ายคลึงเข้าไปในคำพูดของตนเอง แล้วเที่ยวกล่าวหาว่าผู้ที่วิจารณ์คำพูดของตน ว่าเป็นวิจารณ์พระราชดำรัส หามุขใหม่นะ อย่าโงนัก
 

เออ หัดอ่านให้หมดสิ กำลังเขียนอยู่ ว่าไงล่ะ แล้วรู้หรือยังว่าฉันด่าแกน่ะ จะโยกโย้ไปถึงพระราชดำรัสอีกไหม

 
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #92 เมื่อ: 26-02-2007, 18:41 »

โธ่ พลาดแล้วรีบกลับไปแก้ใหญ่เชียวนะ สมกะที่ cameronDZ ด่าจริงๆ

ไม่รู้เรื่องอะไรเล้ย มา quote ตรงพระราชดำรัสไปด่าแหลกซะด้าย อยาก

ตะแบงก็เชิญตามสบาย มันหลายความเห็นจนชัดเจนไปหมดแล้ว เหอ เหอ
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #93 เมื่อ: 26-02-2007, 18:43 »

ปัญหามาจากกลุ่ม 3-5 ยกระดับกันมากเกินไป ทำให้รัฐบาลเดิมดูดี จึงต้องใส่ข้อหาที่ทำให้ดูแย่ ประกอบกับ
ในหลวงทรงพระราชทานหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตแบบไม่ประมาท กลับกลาย
ถูกใช้เป็นนโยบายรัฐบาล ทั้งที่ยากจะกำหนดขอบเขตชัดเจนในทางปฏิบัติได้
เป็นคำสอนซึ่งผู้ใช้ควรจะรู้ตัวด้วย
เกณฑ์ความพอเพียงของตัวเอง(อาจไม่เท่าคนอื่น) ความคลุมเครือนี้เองจึงทำให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกล่าว
หารัฐบาลที่แล้ว เพราะพอเพียงระบุไม่ได้ว่าเท่าไหร่ กู้ก็ยังพอเพียง แต่ถ้ามีผลงานอะไรเสียหายขึ้นมาก็ใช้โทษ
ได้เลยว่างานนั้นทำขึ้นมาแบบไม่พอเพียง ถ้างานที่ทำเกินตัวแต่ประสบผลสำเร็จอย่างพืชสวนโลกกลับเงียบหาย
ซึ่งการใช้แนวทางในการดำรงชีวิตที่ดีผิดวัตถุประสงค์แบบนี้ จะก่อให้เกิดสงครามระหว่างชนชั้นได้ เหมือนใช้ข้อ
อ้างความพอเพียงเพื่อทำให้กลุ่ม 1-2 ดูดี แต่มาตัดโอกาสก้าวหน้าของกลุ่ม 3-5 ที่รัฐบาลที่แล้วยื่นให้

คิดว่าทุกทั่นได้รับข้อมูลเศรษฐกิจพอเพียงจาก http://www.sufficiencyeconomy.org/detail.swf กันแน่เล้ย
หนังสือนี้ก็นำมาจากพระราชดำรัสแต่ก็ไม่ทั้งหมด จะศึกษาให้ละเอียดก็ต้องไปอ่านพระราชดำรัสให้หมด แล้ว
จะได้เข้าใจ เรื่องที่ว่าทำ 100% ไม่ได้ก็อยู่ที่หน้า 17 ของหนังสือนี้

หนังสือเล่มนี้จัดทำมาสมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง ซึ่งใช้เศรษฐกิจพอเพียง
ในนโยบายเศรษฐกิจ โดยอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่เพิ่งผ่านไป
รัฐบาลประชาธิปไตย
ก็ไม่ได้บังคับให้ประชาชนว่าต้องปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียงกี่ % ในหนังสือก็ไม่ได้ลงไว้ คงกลัวว่าประชาชนจะสับ
สน เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะให้ประชาชนปฏิบัติในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

ม้าแถลองดูตรงสีแดงนะ ตกลงคุณคิดยังไงกับเศรษฐกิจพอเพียงกันแน่
ถ้ายังสับสนอยู่ก็อย่าพล่ามมาก ทำฟอร์มเป็นผู้รู้หลอกตะแบงไปวันๆ

มันจะยิ่งทำให้เกิดความสับสน

โอ้โนๆๆๆ อย่างนี้มันม่ายดีๆๆ
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #94 เมื่อ: 26-02-2007, 18:44 »

โธ่ พลาดแล้วรีบกลับไปแก้ใหญ่เชียวนะ สมกะที่ cameronDZ ด่าจริงๆ

ไม่รู้เรื่องอะไรเล้ย มา quote ตรงพระราชดำรัสไปด่าแหลกซะด้าย อยาก

ตะแบงก็เชิญตามสบาย มันหลายความเห็นจนชัดเจนไปหมดแล้ว เหอ เหอ

อ้าว ไอ้หอก
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #95 เมื่อ: 26-02-2007, 19:22 »

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2007, 19:31 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #96 เมื่อ: 26-02-2007, 19:41 »

การบรรยายพิเศษ
เรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง"
โดย “เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา (ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล)”
วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2549 เวลา 13.30 น.
ณ ห้องประชุม 1 สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

http://www.nesac.go.th/NESAC_LIVE/suff_eco/


ศีลธรรมไม่ได้มีเพียง "เบ็ญจศีล - เบ็ญจธรรม" เท่านั้น
ไม่ได้มีเพียงศีลวัตรของสงฆ์
ไม่ได้มีเพียงพุทธบริษัท
ไม่ได้มีเพียงการบวช พระ หรือแม่ชี
ฯลฯ

ถ้ายกเอาเพียง "บางส่วนบางตอน" มาขยาย "แทนภาพรวมทั้งหมด"
เช่นนี้ "ยิ่งผิด"


หากอ่านแล้ว
ถ้าใครบอกว่า ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล อธิบายผิด - บิดเบือนพระราชดำรัส
ก็ขอให้แจ้งไว้ ณ กระทู้นี้ ด้วย
บันทึกการเข้า

55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #97 เมื่อ: 26-02-2007, 19:42 »

คุณ 55555 ลองดูเชิงอรรถข้อ 5 ว่าเข้าข่าย “ยัดเยียด” หรือยัง?

อ่านแล้วครับ.....ตรงไหนครับที่คุณ snow ตีความว่าเป็นการ "ยัดเยียด"

เชิงอรรถขยายความ:

5. ดูตัวอย่างจากคำสัมภาษณ์ของ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะ
กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ว่า “สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ) จะสอดแทรกหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงเข้าสู่ในการอบรมทุก
ประเภท
เพื่อให้ครูทุกคนได้มีโอกาสทราบและเข้าใจในหลักเศรษฐกิจพอเพียง และทุก
หน่วยงาน
ในสังกัด สพฐ.ก็จะช่วยกันทำแผนว่าจะน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไป
สู่การปฏิบัติได้ อย่างไร และจะผลักดันให้ทุกโรงเรียนจัดกิจกรรมคุณธรรมนำความรู้โดย
มีเกณฑ์กว้างๆ ว่าต้องมีการปลูกฝังคุณธรรมแทรกในการเรียนการสอน
เป็นการปฎิบัติ
ร่วมกันระหว่างนักเรียนและครู กรรมการสถานศึกษา โดยจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งปี

โดย สพฐ. คาดหวังว่าจะพัฒนาโรงเรียนประมาณ 10% หรือประมาณ 3,000 โรงเรียน
เพื่อเป็นต้นแบบจากนั้นจะค่อยๆ ขยายผลให้ไปสู่โรงเรียนทั่วประเทศ
ประมาณการว่า
ภายใน 3 ปี
จะทำได้ครบทุกแห่งทั่วประเทศ ภายใต้นโยบายคุณธรรมนำความรู้ สพฐ.
จะให้เงินทุกสถานศึกษานำไปฟื้นฟูกิจกรรมลูกเสืออย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ลูกเสือจะ
น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การปฎิบัติ รวมทั้งการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ การทำ
ความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเน้นว่าจะทำอย่างไรจะมีผู้บังคับบัญชา
ลูกเสือได้คุณภาพตามเกณฑ์ ที่กรรมการลูกเสือกำหนดในทุกสถานศึกษา รวมถึงจะมี
การประกวดดนตรีและละครคุณธรรม เชิญชวนให้นำคุณธรรมแทรกไปในดนตรีและละคร

“การปลูกฝังคุณธรรม การทำคุณงามความดี จะสร้างภูมิต้านทานไม่ให้เด็กที่มีปัญหา
ออกนอกลู่นอกทาง นอกจากนี้จะร่วมฟื้นฟูเรื่องระบบดูแลนักเรียน จะต่อยอดเรื่องระบบ
ดูแลนักเรียนโดยการพัฒนาให้มียุวชนแนะแนวเกิดขึ้นในทุกโรงเรียนที่มีช่วงชั้นที่ 3 และ
4 เหล่านี้จะเป็นเรื่องใหญ่ๆที่จะทำในปีนี้ภายใต้หัวข้อคุณธรรมนำความรู้” (‘หมอเกษม’
เผยฝรั่งเขียนโจมตี ศก.พอเพียง เทียบทักษิโณมิกส์เพราะมีคนจ้าง” ผู้จัดการออนไลน์
31 มกราคม 2550 17:23 น.)


ตรงคำว่า “ทุก” ค่ะ
อาจมองว่าเป็นความเสมอภาคได้ หากไม่มี "สอดแทรก" "ผลักดัน"
แต่ อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ไม่เรียกว่า ยัดเยียด ใช้คำว่า บังคับ กดขี่


ผมเห็นว่า การเสนอเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง คือตัวอย่างของการ
ใช้อำนาจรัฐบังคับทางอุดมการณ์
นี่คือการกดขี่ทางความคิดอย่างสุดๆ
(นึกถึงติดคุก 15 ปี)[/
[/size]u][/size]

อ๋อ .......ตรงนี้หรือครับ.........ผมก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เอง ว่าผมโดน โรงเรียน ยัดเยียด ให้เรียน หน้าที่ศีลธรรม หน้าที่พลเมือง กดขี่ข่มเหงให้ผมหัดรู้จักการอ่านภาษาไทย บังคับให้ผมหัดบวกเลข ฯลฯ.........

นอกจากนี้ ผมก็เพิ่งรู้ว่า ครูบาอาจารย์ที่เคยสั่งเคยสอน พยายามยัดเยียด คุณงามความดี ให้ผม .........กดขี่ข่มเหง ให้ผมรู้จักการทำความดี ..........


ไม่เข้าใจเจง ๆ.........ตีความไปได้ยังไง

 



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2007, 19:47 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #98 เมื่อ: 26-02-2007, 19:46 »

คำตอบ ของคุณ 55555
สมบูรณ์ ชัดเจน ที่สุดครับ
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #99 เมื่อ: 26-02-2007, 19:48 »

ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง

http://www.sufficiencyeconomy.org/show.php?Id=6


"ช้างนะ...ตัวมันเป็นเหมือนถุงห้อย ๆ ผิวย่น ๆ หยุ่น ๆ   ภายในถุงห้อย ๆ นั้นดูเหมือนจะมีก้อน ๆ อะไรอยู่ 2 อัน"
 
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3
    กระโดดไป: