ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 05:21
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ..มีคำเตือน ..โปรดระวัง !!!!.. 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
..มีคำเตือน ..โปรดระวัง !!!!..  (อ่าน 2250 ครั้ง)
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« เมื่อ: 23-02-2007, 21:03 »


 

..ถึงเวลาแล้วล่ะค่ะที่....

..เราทุกคน  ต้องมีความสามัคคีมากขึ้น  มีอะไรผิดปกติก็รีบบอกเจ้าหน้าที่ทันที
ต้องร่วมแรงร่วมใจกันอย่างจริงจัง  มิใช่มานั่งแบ่งพรรค  แบ่งพวก
มานึกถึงแต่อำนาจผลประโยชน์ทางการเมือง...ส่วนตน.... 

 ...คิดแต่เรื่อง คลื่นใต้น้ำ  คลื่นบนบก พวกเค้า....พวกเรา 
จนความปลอดภัยในชีวิตในวันๆหนึ่ง  แทบจะไม่หลงเหลือ
อยู่แล้ว ....


...กล้องวงจรปิด  เครื่องตรวจ ฯ... เพิ่มให้มากขึ้นทุกหัวระแหง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารทุกฝ่าย  เอาจริงเอาจังให้มากกว่านี้ได้มั๊ยคะ





..............................................................................


สถานทูต'ออสซี่-อังกฤษ'เตือนภัยบึ้มกทม.
 
23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 19:20:00
 
สถานทูตออสเตรเลียเตือนอาจเกิดเหตุระเบิดโจมตีในกทม. แนะพลเมืองระวังห้างฯ-ขนส่งมวลชน ด้าน"โฆษกรัฐบาล"ขอให้ประชาชนระวัง 23-27 ก.พ.นี้

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ออกคำเตือนด้านการเดินทาง ไว้บนเวบไซต์ของสถานทูต ระบุว่าชาวออสเตรเลียในไทยควรระมัดระวังเป็นพิเศษในวันศุกร์ (23 กพ.) หลังจากได้รับรายงานว่าอาจมีการวางระเบิดสถานที่ชุมชนในกรุงเทพฯ อย่างห้างสรรพสินค้าหรือขนส่งมวลชน

"เราแนะนำให้ท่านระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีภัยคุกคามการโจมตีก่อการร้ายสูง รายงานระบุว่าอาจมีการวางระเบิดสถานที่ชุมชนอย่างห้างสรรพสินค้า และสถานีรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดินในกรุงเทพฯ ในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2550" สถานทูตออสเตรเลียระบุ

อย่างไรก็ตาม คำแนะนำการเดินทางในเวบไซต์ของสถานทูตอังกฤษและสหรัฐ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง


สถานฑูตอังกฤษเตือนระเบิดกรุง


อังกฤษประกาศเตือนภัยก่อการร้ายในกทม. อ้างเพิ่มความวิตกหลังทราบข้อมูลจากทางการไทย แต่ไม่ปักใจว่าจะเกิดเหตุระเบิดในวันนี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สถานทูตอังกฤษได้ประกาศแก้ไขคำแนะนำนักท่องเที่ยวให้ระวังการเดินทางมายังกรุงเทพฯ และพื้นที่ภาคใต้ หลังสถานทูตออสเตรเลียได้ประกาศเตือนภัยไปก่อนหน้านี้ ขณะสถานทูตสหรัฐยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำแนะนำในการเดินทางเข้ามายัง 2 พื้นที่ดังกล่าว

นายเอียน พราวด์ รองโฆษกสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เผยว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลเฉพาะเจาะจงที่บ่งชี้ว่าจะมีการโจมตีเกิดขึ้นในวันนี้ (23 กพ.) แต่การที่สถานทูตมีความกังวลเพิ่มขึ้น สืบเนื่องมาจากการประกาศของรัฐบาลไทยว่ามีการระดมกำลังรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

"เราไม่ได้ระบุว่าวันศุกร์ (23 กพ.) เป็นวันที่อาจเกิดเหตุโจมตีแน่นอน แต่ยังคงมีความเป็นไปได้ที่อาจเกิดการโจมตีขึ้นเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต" นายพราวด์กล่าว

ด้านนายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การออกประกาศเตือนนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคนออสเตรเลีย โดยคำนึงถึงประสบการณ์ที่ไม่ดี จากเหตุการณ์ก่อการร้ายในอดีต เช่น การระเบิดที่บาหลี ที่มีคนออสซี่ เสียชีวิตจำนวนมาก โดยหวังว่าคำออกประกาศเตือนจะสอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริง และออสเตรเลียจะปรับให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ความเป็นจริง โดยเฉพาะเมื่อไทยได้แสดงความชัดเจน เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย และป้องกันเหตุร้ายอย่างรัดกุมแล้ว

'ยงยุทธ'เตือนปชช.ระวังช่วง 23-27 ก.พ.

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พลโทประยุทธ์ จันโอชา แม่ทัพภาคที่1 ระบุว่าขอให้ประชาชนระวังการก่อเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่23-27ก.พ.นี้ว่า เป็นรายงานข่าวของฝ่ายความมั่นคงที่ขอให้ประชาชนระวังตัวในช่วงที่สถานการณ์ประเทศไม่ปกติ

หากพบกับสิ่งที่ผิดสังเกตก็ขอให้แจ้งเตือนไปยังคอลเซนเตอร์ 1111 ได้ทันที ทั้งนี้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีกำชับในการประชุมกอ.รมน.ว่าขอให้ทหาร-ตำรวจ-พลเรือนร่วมมือกันดูแลและรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเข้มงวดแล้ว และตอนนี้ก็มีทหารกระจายตัวไปอยู่ในพื้นที่ต่างๆทั่ว กทม.แล้วเพื่อป้องกันเหตุร้าย

เมื่อถามว่า สถานการณ์ต่างๆยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติ เริ่มตั้งแต่เหตุวางเพลิงในภาคต่างๆ และการวางระเบิด กทม.9จุดในวันที่31ธ.ค.2549 ซึ่งนายกฯและหน่วยงานความมั่นคงบอกว่าเป็นเรื่องการเมืองและเป็นภัยรูปแบบใหม่ แต่รัฐบาลยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ อาจทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการดูแลรักษาความปลอดภัย

รอ.นพ.ยงยุ ทธ กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือประชาชนในทุกด้านในการแจ้งเบาะแส ส่วนความคืบหน้าทางการสืบสวนคดีต่างๆนั้น ตอนนี้ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.กำลังดำเนินการอยู่ ขอเวลาสักนิด เพราะกำลังเริ่มต้นสืบสวนสอบสวนคดีใหม่ทั้งหมด
 

 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/23/WW10_WW10_news.php?newsid=56075
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007, 21:28 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 23-02-2007, 21:15 »

รับทราบค่ะ ตายแล้ววว พรุ่งนี้มีนัดแถวห้างดังซะด้วย สงสัยต้องเปลี่ยนไปกินส้มตำข้างถนนดีกว่า 
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 23-02-2007, 21:26 »

  ...

...ช่วยกันคิดวิธีปราบโจรก่อการร้ายหน่อยเหอะค่ะ...
แค้นใจจริงๆ ...ทำไมเราจัดการปราบมันอย่าง
จริงจังไม่ได้ซักที .. ??.........


ตอนนี้เป้นประเด็นร้อนในคมชัดลึกเลยนะ....


********************************


เตือนรับมือ สงครามกลางเมือง เผยคนร้ายเตรียมป่วนกรุงอีก 
อดีต ผอ.ศอ.บต.เตือนรัฐรับมือสงครามกลางเมือง หลังแนวร่วมแฝงตัวพร้อมเคลื่อนไหวจำนวนมาก หวังเรียกองค์กรต่างชาติแทรกแซง หน่วยข่าวเตือน 10 คนร้ายเข้า กทม.ป่วน 23 ก.พ.-3 มี.ค. กรมทางหลวงเร่งถางป่าริมถนนในสามจว.ใต้ข้างละ 4-5 เมตร สกัดโจรใต้ซุ่มยิงวางระเบิด ได้ภาพสเก็ตช์มือบึ้มยะลาแล้ว 10 ราย

หลังกลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุรุนแรงพร้อมกันหลายจุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดมีคำเตือนจากอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่าให้ระวังแผนก่อสงครามกลางเมืองที่อาจเกิดขึ้นได้เพื่อหวังให้องค์กรต่างชาติเข้ามาแทรกแซง

เตือนรับมือแผนก่อสงครามกลางเมือง

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายนิพนธ์ บุญภัทรโร อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่าสถานการณ์ความไม่สงบขณะนี้มีทีท่ารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนหนึ่งมาจากเครือข่ายหรือแนวร่วมที่อยู่ในวัยหรือสภาพสมบูรณ์ หลังผ่านการบ่มเพาะปลูกฝังอุดมกาณ์แบ่งแยกดินแดนชนิดสุดลิ่มในช่วง 5-10 ปี ก่อนหน้านี้ และที่สำคัญวันนี้กลุ่มคนเหล่านี้กระจัดกระจายเต็มพื้นที่ และกบดานในจุดที่รัฐคาดไม่ถึง โดยเฉพาะสถานศึกษา

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้แนวร่วมซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่แฝงตัวอยู่ในสถานศึกษาหลายระดับชั้นทั่วพื้นที่ภาคใต้ มีมากกว่าหนึ่งหมื่นคนและพร้อมสำหรับเคลื่อนไหว สำหรับวิธีการสร้างเครือข่ายของขบวนการเหล่านี้จะไม่ใช้การบังคับ แต่จะใช้รูปแบบการลอยแพหรือโดดเดี่ยวผู้ที่ไม่ยอมเข้าร่วมอุดมการณ์ จากนั้นแกนนำจะใช้ศาสนาที่ถูกบิดเบือนเป็นตัวนำทางเพื่อตีกรอบความคิดเรื่องรัฐปัตตานี และนำไปสู่การเข้าร่วมอุดมการณ์โดยปริยาย ซึ่งนับวันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

อดีต ผอ.ศอ.บต.กล่าวต่อว่า ศอ.บต.อยู่ในฐานะที่ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะหลังจากหายจากพื้นที่ชายแดนภาคใต้ไป 5 ปี เครือข่ายการทำงานทั้งสายข่าวหรือกลุ่มแนวร่วมในการทำงาน ซึ่งเป็นเหมือนแขนขาของหน่วยงานนี้ถูกตัดทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว การสร้างคนรุ่นใหม่เพื่อทำงานจำเป็นต้องใช้เวลาอีกระยะ

"วันนี้ ศอ.บต.แบกรับความกดดันจากความคาดหวังของประชาชนอย่างมากในการแก้ไขปัญหา แต่เมื่อพิจารณาความเป็นจริงแล้ว หน่วยงานแห่งนี้ไม่ต่างไปจากชายหนุ่มที่เปลือยกายล่อนจ้อน เพราะวันนี้งบก็ยังไม่มี กฎหมายที่รองรับอำนาจของ ศอ.บต.ก็ยังไม่ชัดเจน ฉะนั้นสังคมต้องเข้าใจเหตุผลขององค์กรแห่งนี้ในวันที่สถานการณ์ความไม่สงบเปลี่ยนโฉมไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง" อดีต ผอ.ศอ.บต.กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ก่อความไม่สงบกำลังเปิดสงครามสัญลักษณ์ด้วยการพุ่งเป้าทำลายวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตในชุมชนเมือง ซึ่งโอกาสเกิดสงครามกลางเมืองมีสูง เพราะวันนี้แนวร่วมของเขาแฝงตัวและเคลื่อนไหวในเขตเมืองทั้งสิ้น ส่วนพื้นที่รอบนอกถือเป็นฐานกำลังที่คอยสนับสนุนปฏิบัติการควบคุมมวลชน ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นโอกาสเกิดขึ้นยังมีค่อนข้างน้อย เนื่องจากปัจจัยเอื้อในการสร้างสถานการณ์ยังจำกัดเมื่อเทียบกับในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

"วันนี้รัฐแทบจะแยกปลากับน้ำไม่ได้แล้ว เพราะประชาชนหรือคนร้ายกำลังกลายเป็นเนื้อเดียวกัน สงครามจรยุทธ์ในเมืองของฝ่ายตรงข้ามได้ผลแทบทุกครั้งในระยะหลังซึ่งนั่นถือเป็นสัญญาณอันตรายหากเขาพร้อมเมื่อไรโอกาสที่เราจะตกอยู่ในสถานการณ์เพลี่ยงพล้ำมีสูง" นายนิพนธ์ กล่าว

อดีต ผอ.ศอ.บต.กล่าวอีกว่า เป้าหมายต่อไปของผู้ก่อความไม่สงบคือการเพิ่มระดับความรุนแรงในการก่อสงครามสัญลักษณ์เพื่อนำไปสู่สงครามศาสนาโดยมีคนต่างเชื้อชาติศาสนาเป็นตัวกระตุ้นให้อุณหภูมิสถานการณ์เพิ่มขึ้น ซึ่งหากเมื่อใดที่คนไทยพุทธหรือคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่อดทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ แล้วตัดสินใจจับอาวุธลุกขึ้นสู้เพราะเขาไม่มีทางไปและรัฐปกป้องชีวิตไม่ได้ เมื่อนั้นการเดินเข้าสู่เป้าหมายสำคัญของฝ่ายตรงข้ามก็จะสำเร็จ เพราะหมายถึงการส่งสัญญาณไปยังองค์กรต่างประเทศให้เข้ามาแทรกแซงด้วยข้ออ้างรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมปัญหาชายแดนภาคใต้ได้อีกต่อไป

หน่วยข่าวเผยเฝ้าระวังป่วนถึง3มี.ค.

พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาภาคใต้ว่าได้มอบให้กองทัพภาค 4 ดำเนินการแล้ว ซึ่งเรามีการติดต่อกันตลอดเวลา และเชื่อว่ากำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้จะเข้าใจ การเป็นทหารเขาบอกว่าเวลารบ เรามีที่หมายหลักกับที่หมายรอง ฉะนั้นก็ได้แบ่งที่หมายกันแล้ว ว่าใครจะตีที่หมายหลักหรือรอง ฉะนั้นทหารทุกคนเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนที่มีข่าวระบุว่ามีการสนับสนุนเงินจากตะวันออกกลางในการก่อเหตุ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปเชื่อ และอยากให้ดูปัญหาภายใน

แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงเปิดเผยว่า สายข่าวในสามจังหวัดชายแดนใต้ รายงานมาว่าขณะนี้กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มนักการเมืองให้มาก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ให้เกิดเหตุเหมือนกับวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ประมาณ 10 คน พร้อมเชื้อปะทุระเบิด หนักประมาณ 50 กโลกรัม โดยมีเป้าหมายป่วนกรุงเทพฯ ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์-3 มีนาคม นี้ ซึ่งหน่วยงานข่าวได้แจ้งข่าวไปยังส่วนราชการในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแล้ว

ขณะที่นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลและกรุงเทพมหานครเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามที่มีความกังวลว่าจะมีการก่อเหตุร้ายว่า กระทรวงมหาดไทยไม่ได้รับการแจ้งเตือน แต่การข่าวที่ตรงกันหลายฝ่าย เจ้าหน้าที่ก็ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ไม่เฉพาะแต่กรุงเทพฯ เท่านั้น จังหวัดต่างๆ ก็ต้องตื่นตัวไม่ประมาท แต่ไม่เชื่อว่ากลุ่มที่ขู่ว่าจะเข้ามาก่อเหตุจะลุกลามมาจากกลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้ ไม่อยากให้ด่วนสรุปและกังวลจนเกินไป

โฆษกทบ.ยันโจรใต้เมินเข้ากรุง

พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) กล่าวว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เป็นเรื่องของการแบ่งแยกดินแดนที่มั่นใจว่าความรุนแรงจะไม่ขยายวงกว้างไปยังกรุงเทพฯ เนื่องจากผิดเป้าหมายของกลุ่มที่ตั้งธงไว้ในการแยกเป็นรัฐอิสระ อีกทั้งสวนทางกับแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันคือ พยายามสร้างกระแสข่าวป่วนเฉพาะในพื้นที่ชายแดนใต้เพื่อให้สังคมมุสลิมโลกเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาภายในประเทศ

โฆษกกองทัพบก กล่าวว่าขณะนี้มีความพยายามสกัดกั้นการพัฒนาในพื้นที่ทุกทิศทางไม่ว่าจะเป็นการศึกษาและเศรษฐกิจรวมถึงปฏิบัติการขับไล่ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การก่อเหตุเผาและลอบวางระเบิดย่านเศรษฐกิจสำคัญ รวมถึงการปลุกกระแสสร้างความแตกแยกในชุมชนควบคู่การก่อเหตุใหญ่เพื่อสร้างความสับสนแบบวันต่อวัน ซึ่งเป็นแผนการที่แยบยลมาก เช่น ทันทีที่คนร้ายก่อเหตุยิงคนไทยพุทธ จากนั้น 1 วันจะมีการยิงหรือลอบเผาบ้านคนไทยมุสลิมทันทีเพื่อพยายามสร้างความสับสนว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ตอบโต้ ทำให้ประชาชนเกิดความระแวงสงสัยเพื่อแยกประชาชนออกจากเจ้าหน้าที่

"วัตถุประสงค์ของคนร้ายในวันนี้ คือ ต้องการแยกประชาชนให้ออกห่างจากเจ้าหน้าที่ไว้ให้มากที่สุด เนื่องจากหากวันใดที่ประชาชนหันมาร่วมมือรัฐเท่ากับเสียมวลชนและปฏิบัติการได้ลำบากขึ้น ทำให้ประชาชนกลายเป็นกุญแจสำคัญ หรือ "ทูต" ที่นำไปสู่ความสำเร็จของทั้งสองฝ่าย ดังนั้นใครสามารถควบคุมมวลชนได้คือผู้ชนะ" พ.อ.อัคร กล่าว

นอภ.พื้นที่เสี่ยงสั่งจับตาแนวร่วมแฝงตัว

กรณีที่ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยข้อมูลของกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นแนวร่วมว่ามีจำนวนกว่า 1 หมื่นคนเข้ามาแฝงตัวเพื่อก่อเหตุความรุนแรงในเมืองนั้น นายประสิทธิ์ ธีระพันธ์ นายอำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี กล่าวว่าได้กำชับไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านและประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเพื่อร่วมกันตรวจสอบจำนวนกลุ่มวัยรุ่นที่หายตัวออกไปจากหมู่บ้าน เพราะขณะนี้การเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวค่อนข้างไม่เป็นอิสระ เนื่องจากถูกติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง

"การตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมของบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นเครือข่าย และผู้ต้องหาคดีความมั่นคงได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ก็ยังมีความพยายามเคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม ในรายที่พบเบาะแสหรือได้รับรายงานข่าวการเคลื่อนไหวจากผู้นำท้องถิ่นก็ได้จัดชุดติดตามเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างกระชั้นชิด" นายประสิทธิ์ กล่าว

นายบุญไทย กาฬศิริ นายอำเภอรามัน จ.ยะลา กล่าวว่าได้มีการประชุมและประเมินสถานการณ์ร่วมกับกองกำลังทหาร ตำรวจ ชุดคุ้มครองหมู่บ้าน อาสาสมัคร ตลอดจนผู้นำศาสนาและโต๊ะอิหม่ามในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แนวทางปฏิบัติสอดคล้องกับแผนรักษาความปลอดภัย และส่วนที่มีการกำชับเป็นกรณีพิเศษคือการจับตาสังเกตพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นและบุคคลต้องสงสัยทั้งที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่และบุคคลต่างถิ่นเพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวในการก่อเหตุความรุนแรง

ส่วนจำนวนของกลุ่มแนวร่วมที่แฝงตัวอยู่ในพื้นที่ นายอำเภอรามันยอมรับว่ามีอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งอาศัยปะปนกับกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ 5 ตำบลของ อ.รามัน ซึ่งพยายามเคลื่อนไหวเพื่อก่อเหตุความไม่สงบตามคำสั่งของหัวหน้ากลุ่มขบวนการที่กบดานนอกพื้นที่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จัดกำลังเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลดังกล่าวแล้ว ซึ่งยอมรับว่าฝ่ายตรงข้ามรู้เท่าทัน

นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายที่ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมระดับปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเดินทางออกนอกพื้นที่ของกลุ่มดังกล่าวในการก่อเหตุความรุนแรงตามจังหวัดต่างๆ แต่เบื้องต้นยังไม่มีเบาะแสการเดินทางออกนอกพื้นที่ในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด

สั่งถางหญ้าไหล่ทางป้องกันวางระเบิด

กรณีคนร้ายซุ่มยิงรถท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ประธานมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครชายแดนในพระบรมราชินูปถัมภ์ ล่าสุด นายโอฬาร วาสุถิตย์ ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงที่ 15 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม กล่าวว่าได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการถางหญ้าบริเวณไหล่ทาง ริมถนนทางหลวงที่อยู่ในพื้นที่สามจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง ได้แก่ จ.ยะลา พื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ยะหา อ.ธารโต เป็นต้น ส่วนที่ จ.นราธิวาส พื้นที่ อ.เจาะไอร้อง อ.สุไหงปาดี อ.บาเจาะ ที่ จ.ปัตตานี พื้นที่ อ.กะพ้อ อ.สายบุรี อ.ปะนาเระ เป็นต้น เพื่อป้องกันคนร้ายขุดเจาะถนนเพื่อวางระเบิดและซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ โดยการถางหญ้าจะให้ห่างจากไหล่ถนนประมาณ 4-5 เมตร แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์แต่ก็ทำให้คนร้ายทำงานได้ยาก

นายโอฬาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนร้ายมีการขุดเจาะถนนเพื่อวางระเบิดใน อ.บันนังสตา ประมาณ 4 ครั้ง โดยคนร้ายจะใช้วิธีการเจาะจากไหล่ทางที่มีป่ารก เจาะเข้าหาจุดศูนย์กลางประมาณ 4-5 เมตร ใช้เวลาขุดประมาณ 2-3 วัน แล้วนำดินไปทิ้งในที่อื่น ซึ่งถือว่าทำได้แนบเนียนมากจนเจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบพิรุธ และการตรวจสอบถนนสายหลักก็มีความเสี่ยงมาก เนื่องจากที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเสียชีวิตไปแล้ว 8 คน บาดเจ็บ 20 คน

วันเดียวกัน ชาวบ้านแจ้งตำรวจ สภ.อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่าพบชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ แล้ววางถุงสีแดงในกอหญ้าคาใกล้รางรถไฟตรงข้ามร้านขายก๋วยเตี๋ยว ถนนทรายทอง 1 ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบโดยใช้รถหุ่นยนต์ติดตั้งปืนแรงดันน้ำเข้ายิงทำลาย พบเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยรีโมทรถยนต์ น้ำหนัก 5 กิโลกรัม มีเศษเหล็กเส้นตัด เชื้อปะทุ ถ่านไฟฉาย ปุ๋ยยูเรีย น้ำมันโซลาร์ แผงวงจรรีโมทจึงเก็บไว้ตรวจสอบต่อไป

ได้ภาพสเก็ตช์บึ้มยะลาแล้ว 10 ราย

ความคืบหน้าการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกันหลายจุดที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่เตรียมเสนอขอออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 2 คน เป็นคนใน ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งมีหลักฐานจากภาพทีวีวงจรปิด ที่ร้านมายเวย์ คาราโอเกะ ถนนรวมมิตร ว่าเป็นผู้นำระเบิดเข้าไปวางในร้าน ขณะเดียวกันได้ภาพสเก็ตช์คนร้ายจากปากคำพยานอีก 6 รายที่เข้ามาก่อเหตุวางระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลา และภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัยอีก 4 คน จากเหตุลอบวางระเบิดร้านคาราโอเกะ ที่ อ.เบตง

แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ยะลา กล่าวว่าระเบิดที่คนร้ายนำมาใช้เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยนาฬิกาดิจิทัลทั้งหมด ส่วนเหตุระเบิด พ.ต.ประสาน นาคทั่ง ทหารพราน 41 เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรลรถยนต์ เช่นเดียวกับระเบิดที่เก็บกู้ไว้ได้ที่ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาตลาดเก่า ก็เป็นชนิดที่จุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรลเช่นกัน ซึ่งรีโมทคอนโทรลยี่ห้อดังกล่าวไม่พบมีจำหน่ายในประเทศไทย จึงเชื่อว่านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
 
http://www.komchadluek.net/2007/02/23/a001_93561.php?news_id=93561


..........................................................................................................


วันนี้(23ก.พ.)หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุว่า มีบุคคลลึกลับขู่วางระเบิดที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เจ้าหน้าที่ได้นำสุนัขตำรวจดมกลิ่นเข้าทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมกับตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยรอบๆ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อย่างเข้มงวด
       
       ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ปรากฎว่าไม่มีวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด พร้อมวอนให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณนั้นช่วยกันสอดส่องดูแลด้วย

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000022511
       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007, 21:44 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 23-02-2007, 21:46 »

ผมขอออกตัวว่าไม่รู้เรื่อง แต่ว่าผมอยากจะวิงวอนอย่างนี้ดีกว่าครับ ก่อนจะมีการถกประเด็นไฟใต้ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม คนไทยน่าจะลองไปหาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ

- ประวัติของปัตตานี
- ประวัติของชาวมุสลิมตามภาคต่างๆของไทย เช่น ทางดอยแม่สะลองที่มาจากยูนนาน อยุธยา หนองจอก มีนบุรี อะไรทำนองนั้น จะได้ไม่เหมารวม
- สงครามเก้าทัพ ตั้งแต่สมัยยุคกรุงศรีอยุธยาครั้งกระโน้น
- เหตุการณ์บ้านเมืองยุคจอมพล ป.
- เหตุการณ์บ้านเมืองยุคพล.อ.เปรม แล้วก็พวกกลยุทธในการแก้ไขปัญหา เช่น นโยบาย 66/23 แล้วความเป็นมาของศอ.บต. และพตท.43 ประมาณนั้น
- การแก้ไขปัญหาของแคนาดาต่อมณฑลเคเบก, จีนแก้ปัญหาซินเจียงยังไง, สหราชอาณาจักรกับไอร์แลนด์เหนือ, อินโดแก้ปัญหาอาเจะห์ยังไง
- ลำดับเหตุการณ์ทางใต้ในยุคของทักษิณ


ไม่ค่อยสบายใจเวลามีคนวิจารณ์ทั้งในและนอกไซเบอร์สเปซว่า "ทำไมมันไม่พูดไทย" "เป็นคนไทยหรือเปล่า" "ฆ่าให้หมด" "ศาสนานี้เลวหมด" ฯลฯ แล้วก็ปลุกระดมกันไปเรื่อยๆ ตูมทีก็โมโหทีปลุกระดมกันที อะไรทำนองนี้ คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากนะ ดังนั้นถ้าวิพากย์วิจารณ์ไปแบบเดากันเองรายวัน จนเกิดเป็นกระแส มันจะเกิดเป็นโทษมากกว่า และกลายเป็นอุปสรรคต่อคนที่เขาแก้ปัญหากันอยู่
บันทึกการเข้า

รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 23-02-2007, 22:02 »

ผมขอออกตัวว่าไม่รู้เรื่อง แต่ว่าผมอยากจะวิงวอนอย่างนี้ดีกว่าครับ ก่อนจะมีการถกประเด็นไฟใต้ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม คนไทยน่าจะลองไปหาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ

- ประวัติของปัตตานี
- ประวัติของชาวมุสลิมตามภาคต่างๆของไทย เช่น ทางดอยแม่สะลองที่มาจากยูนนาน อยุธยา หนองจอก มีนบุรี อะไรทำนองนั้น จะได้ไม่เหมารวม
- สงครามเก้าทัพ ตั้งแต่สมัยยุคกรุงศรีอยุธยาครั้งกระโน้น
- เหตุการณ์บ้านเมืองยุคจอมพล ป.
- เหตุการณ์บ้านเมืองยุคพล.อ.เปรม แล้วก็พวกกลยุทธในการแก้ไขปัญหา เช่น นโยบาย 66/23 แล้วความเป็นมาของศอ.บต. และพตท.43 ประมาณนั้น
- การแก้ไขปัญหาของแคนาดาต่อมณฑลเคเบก, จีนแก้ปัญหาซินเจียงยังไง, สหราชอาณาจักรกับไอร์แลนด์เหนือ, อินโดแก้ปัญหาอาเจะห์ยังไง
- ลำดับเหตุการณ์ทางใต้ในยุคของทักษิณ


ไม่ค่อยสบายใจเวลามีคนวิจารณ์ทั้งในและนอกไซเบอร์สเปซว่า "ทำไมมันไม่พูดไทย" "เป็นคนไทยหรือเปล่า" "ฆ่าให้หมด" "ศาสนานี้เลวหมด" ฯลฯ แล้วก็ปลุกระดมกันไปเรื่อยๆ ตูมทีก็โมโหทีปลุกระดมกันที อะไรทำนองนี้ คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากนะ ดังนั้นถ้าวิพากย์วิจารณ์ไปแบบเดากันเองรายวัน จนเกิดเป็นกระแส มันจะเกิดเป็นโทษมากกว่า และกลายเป็นอุปสรรคต่อคนที่เขาแก้ปัญหากันอยู่



....เข้าใจ..นะคะสำหรับคำแนะนำ... การคุยเรื่องปัญหาทางใต้เป็นดาบสองคม
ก็จริงอยู่...แต่ถ้าไม่หยิบยกมาคุยเลย  ก็จะจุกอกตายแล้ว...


..ขอออกตัวสักนิดนะคะว่า ...เคยอยู่ถิ่นนั้นมาก่อนเป้นสิบๆปี  คุ้นดี รู้ดี
ว่าปัญหาตอนนี้ ...มันรุมเร้ากันหลายองค์ประกอบ...

** พวกประเภทอยากแยกดินแดนตรงๆ  ก็มี

** พวกนักการเมืองที่หวังผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝงเข้ามาก็มี

** ต่างประเทศที่เข้ามาร่วมสนับสนุนก็มี

** พวกคิดแบ่งแยกดินแดน ที่อยู่ในคราบของร่างทรงอื่นๆๆก็มีมาก



...เมื่อหลายมวลรวมมารวมตัวกันเข้า  ก็ยากที่จะแยกโจรออกจากประชาชนบริสุทธิ์ได้
เพราะพฤติกรรมของโจรพวกนี้  ตอนนี้ใช้วิธีปฏิบัติการแบบส่งต่อ ..ใช้วัยรุ่นที่
ย้อมวัยรุ่นให้ขาดสติแล้วให้ปฏิบัติการ  ทำเสร็จก็เข้ามารวมตัวกับไทยมุง  ทำเป็น
ประชาชนคนทั่วไป  ทำเป็นคนบริสุทธิ์ทั่วๆไป  มามุงดูด้วย  นี่ล่ะที่เจ้าหน้าที่เค้ากำลังปวดหัว
ที่แยกยากระหว่าง  โจรกับคนดี  นั่นประเด็นหนึ่ง  อีกอย่างหนึ่ง  พอรู้ว่าใครทำ  จับตัวได้
พวกมันใช้กฎหมู่  อำนาจเถื่อน  บังคับบีบเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัว......ตรงนี้ล่ะบางครั้งก็
ปล่อยตัวจริงนั่นล่ะ  ให้มาทำซ้ำอีก  บ่างครั้งก็ต้องปล่อยตัวเพราะหลักฐานไม่พอ


มัยเลยกลายเป็นวงจรอุบาทย์  ไม่รู้จักจบจักสิ้นไงคะ


**  ทีนี้ ถามว่า  ถ้าจะประกาศ เคอร์ฟิว  ห้ามวัยรุ่นเที่ยวมั่วสุม
เที่ยวขับรถซิ่งตอนกลางคืนเสียล่ะ  รัฐมีสิทธิ์ทำมิใช่หรือ
ทำไม่ไม่รีบทำเสียล่ะ  .....


 ..อีกอันหนึ่ง  มาตรการการตรวจวัตถุระเบิด  ให้มันคุมเข้ม
มากกว่านี้ได้มั๊ยล่ะ  ตรวจทุกคนแม้ว่าใส่ชุดหิญาบก็ตรวจ
ตอนนี้  ทำไมรัฐบาลมัวห่วงแต่เสียภาพพจน์  มัวห่วงแต่
เรื่องเศรษฐกิจ  แล้วไอ้ที่คนจะตายจนหมดประเทศเคยห่วง
บ้างมั๊ย
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #5 เมื่อ: 23-02-2007, 22:24 »

ปัญหาภาคใต้หากจะแก้จริงๆมันก็แก้ได้แต่พวกชนชั้นปกครองแมงเสือกทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เรื่องง่ายๆก็เลยยาก การที่จะค้นหาสาเหตุที่ภาคใต้ลุกลามใหญ่โตไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าของเจ้าหน้าที่รัฐเลยแต่ถามว่าเมื่อค้นเจอสาเหตุแล้วกล้าลงมือจัดการหรือเปล่าตรงนี้ต่างหากที่สำคัญ อะไรที่เป็นตัวจุดชนวนให้เหตุบานปลายเราก็ต้องย้อนไปแก้เหตุตรงนั้นทีละจุด เอาง่ายๆเลย

1. ลากคอตำรวจชุดอุ้มฆ่า 30 กว่าตัวไปยิงทิ้งซะไม่จำเป็นต้องนำขึ้นศาล (ละทิ้งหลักการเอาชาติไว้ก่อน)
2. จัดการตำรวจชุดอุ้มทนายสมชายให้เรียบร้อย ยิงทิ้ง ไม่ต้องนำขึ้นศาล (ละทิ้งหลักการเอาชาติไว้ก่อน)
3. กรณีตากใบต้องมีคนรับผิดชอบโดยเฉพาะแม่ทัพที่สั่งการในขณะนั้น
4. ปล่อยอุสตาดที่ถูกตำรวจอุ้มมาขังไว้คืนเขาไป
5. นำชาวไทยมุสลิมกลับมาจากมาเล

เอาแค่ 5 ข้อนี้ก็พอแล้วทั้ง 5 ข้อนี้ต้องทำไปพร้อมๆกับปฏิบัติการรบในพื้นที่ แต่ถามหน่อยเถอะมีใครหน้าไหนในชนชั้นปกครองมันกล้าทำบ้าง หาก 5 ข้อนี้ยังไม่ได้ทำเลยก็อย่าหวังว่าภาคใต้จะสงบ ส่วนใครที่บอกว่าต้องตอบโต้ฆ่ามันนะถามหน่อยเถอะไทยมุสลิมตั้ง 1.8 ล้านคนเชียวนะมึงฆ่าไหวเรอะ
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 23-02-2007, 22:29 »

กระทู้แบบนี้เคยตอบไปเยอะแล้วครับ ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ถูกทาง
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 23-02-2007, 22:34 »

 ส่วนใครที่บอกว่าต้องตอบโต้ฆ่ามันนะถามหน่อยเถอะไทยมุสลิมตั้ง 1.8 ล้าน
คนเชียวนะมึงฆ่าไหวเรอะ


************************************************************

....ไม่ต้องถึงขั้นฆ่าให้ตายหรอกค่ะ ...

แค่เอาจริง..ในการปราบ จับได้มั่นใจว่าถูกตัวไม่ต้องปล่อย
และที่สำคัญ  ไม่มีความจำเป็นเลยที่จะไปเอาใจคนมุสลิมมาก
ไม่ต้องเอาใจมุสลิมมากนักหรอก  เพราะมิว่าจะเอาเงินล้าน
ไปกองไว้หน้าบ้านเค้า  เค้าก็ไม่กลับใจอยากเป็นคนไทย
หรอก  คนพวกนี้ฝังเข้าไปในกระแสเลือดแล้วว่า ไม่เป็นคนไทย
แน่ ...ยังไงๆๆๆก็ไม่เป็น  เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่คิดเป็นคนไทย

ก็ต้องหามาตรการ  ออกกฎระเบียบที่คุมเข้มให้เค้าอยู่ในเมือง
ไทยแบบไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน  และตัวเค้าเองก็ต้องปฏิบัติ
ตามกฎระเบียบประเพณีวัมนธรรมของคนไทยบ้างเช่น

.. พูดภาษากลาง

.. แต่งกายชุดที่เป็นสากล ในสถานที่ราชการ

.. พูดภาษาไทยได้ เขียนภาษาไทยได้

..  ต้องเรียนหนังสือ ตามหลักสูตรการเรียนการสอนแบบคนไทย

.. ถ้าทำผิด ก็ต้องได้รับโทษเฉกเช่นคนไทยอื่นๆ ...
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #8 เมื่อ: 23-02-2007, 22:45 »

ส่วนใครที่บอกว่าต้องตอบโต้ฆ่ามันนะถามหน่อยเถอะไทยมุสลิมตั้ง 1.8 ล้าน
คนเชียวนะมึงฆ่าไหวเรอะ


************************************************************

....ไม่ต้องถึงขั้นฆ่าให้ตายหรอกค่ะ ...

แค่เอาจริง..ในการปราบ จับได้มั่นใจว่าถูกตัวไม่ต้องปล่อย
และที่สำคัญ  ไม่มีความจำเป็นเลยที่จะไปเอาใจคนมุสลิมมาก
ไม่ต้องเอาใจมุสลิมมากนักหรอก  เพราะมิว่าจะเอาเงินล้าน
ไปกองไว้หน้าบ้านเค้า  เค้าก็ไม่กลับใจอยากเป็นคนไทย
หรอก  คนพวกนี้ฝังเข้าไปในกระแสเลือดแล้วว่า ไม่เป็นคนไทย
แน่ ...ยังไงๆๆๆก็ไม่เป็น  เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่คิดเป็นคนไทย

ก็ต้องหามาตรการ  ออกกฎระเบียบที่คุมเข้มให้เค้าอยู่ในเมือง
ไทยแบบไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน  และตัวเค้าเองก็ต้องปฏิบัติ
ตามกฎระเบียบประเพณีวัมนธรรมของคนไทยบ้างเช่น

.. พูดภาษากลาง

.. แต่งกายชุดที่เป็นสากล ในสถานที่ราชการ

.. พูดภาษาไทยได้ เขียนภาษาไทยได้

..  ต้องเรียนหนังสือ ตามหลักสูตรการเรียนการสอนแบบคนไทย

.. ถ้าทำผิด ก็ต้องได้รับโทษเฉกเช่นคนไทยอื่นๆ ...

ถ้าทำแบบที่คุณว่ามายิ่งบานปลายฆ่าไปกันใหญ่เลยล่ะครับคุณเอ้ยแสดงว่าคุณไม่เข้าใจวัฒนธรรมของชาวไทยมุสลิมเลย คนมุสลิมเขาหวงแหนศาสนาวัฒนธรรมของเขายิ่งกว่าชีวิตไอ้ลูกไม้ตื้นๆที่คิดจะกลืนวัฒนธรรมของเขานะคุณลืมไปได้เลยครับ เอาแค่ 5 ข้อที่ผมยกขึ้นมานะกล้าทำเปล่าถ้าทำได้มันก็ไม่มีอะไรที่จะเป็นแรงจูงใจให้พวกเขาตอบโต้ทางการ แต่เป็นเพราะไอ้ชนชั้นปกครองแมงทำหูทวนลมไอ้พวกนี้มันรู้ว่าต้นเหตุที่ภาคใต้บานปลายเพราะอะไรแต่มันไม่กล้าจัดการ หาก 5 ข้อยังไม่ถูกแก้เพราะฉะนั้นก็กินลูกระเบิดของนักรบมุสลิมต่อไปละกัน
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 23-02-2007, 22:57 »

ถ้าทำแบบที่คุณว่ามายิ่งบานปลายฆ่าไปกันใหญ่เลยล่ะครับคุณเอ้ยแสดงว่าคุณไม่เข้าใจวัฒนธรรมของชาวไทยมุสลิมเลย คนมุสลิมเขาหวงแหนศาสนาวัฒนธรรมของเขายิ่งกว่าชีวิตไอ้ลูกไม้ตื้นๆที่คิดจะกลืนวัฒนธรรมของเขานะคุณลืมไปได้เลยครับ

*************************************************

...แล้วทุกวันนี้  ที่ไปเอาใจเค้า  ไม่บานปลายเหรอคะ
ไม่ได้คิดกลืนวัฒนธรรมเค้าหรอกนะ  เพียงแค่
ให้เค้าอยู่ในกรอบของความเป็นคนไทยอย่างพอควร
เท่านั้นเอง

..ปัจจุบันนี้  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขต
ปัตตานี..แทบจะกลายเป็นมหาวิทยาลัยอิสลามไปแล้วนะ
  คุณลองเข้าไปดูสิแต่งชุดหิญาบ เกือบทั่วมหาวิทยาลัย

และเพราะชุดหิญาบที่มันรุ่มร่าม  และมีจุดซ่อนเร้นมาก
ไม่คิดบ้างเหรอ  ว่า.... โจรนั่นแหละเอาสตรีมุสลิมบังหน้า
ในการก่อการ  ไม่สังเกตเหรอคะ  เวลาประท้วง ก่อมอบ
เมื่อไหร่  จะมีสตรีประท้วงตลอดเวลา  ตอนนี้เค้าใช้นโยบาย
เอาสตรีบังหน้าไปเสียแล้ว 

.. เรื่องภาษาก็เช่นกัน  ถ้าเรามีกรอบของความเป็นไทย
บังคับให้เค้าใช้บ้าง  เค้าไม่กล้าถึงขนาดนี้หรอกค่ะ


...ถ้ายอมตามที่คุณว่า ....เชื่อมั๊ย ว่าจะต้องยอมๆๆๆ
อีกหลายร้อยข้อทีเดียว ...และยอมแบบที่เค้าเรียกว่า
หงายไพ่ทีเดียวล่ะ  เพราะเค้าไม่รู้จักคำว่าพอหรอก....


ได้คืบเอาศอก....ได้ศอกเอาวา ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007, 23:00 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #10 เมื่อ: 23-02-2007, 23:13 »

..ปัจจุบันนี้  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขต
ปัตตานี..แทบจะกลายเป็นมหาวิทยาลัยอิสลามไปแล้วนะ
  คุณลองเข้าไปดูสิแต่งชุดหิญาบ เกือบทั่วมหาวิทยาลัย


คุณลองเทียบดูกับมหาลัยอื่นสิครับ มหาลัยในกรุงเทพบางมหาลัยเขาให้อิสระในการแต่งตัวกับนักศึกษาด้วยซ้ำนะครับ แตกต่างกันตรงไหน


.. เรื่องภาษาก็เช่นกัน  ถ้าเรามีกรอบของความเป็นไทย
บังคับให้เค้าใช้บ้าง  เค้าไม่กล้าถึงขนาดนี้หรอกค่ะ


ภาษาราชการในตอนนี้ก็ยังใช้ภาษาไทยอยู่นะครับ ส่วนภาษาท้องถิ่นแม้กระทั่งในหลวงเองยังสนับสนุนให้รักษาไว้เลย


...ถ้ายอมตามที่คุณว่า ....เชื่อมั๊ย ว่าจะต้องยอมๆๆๆ
อีกหลายร้อยข้อทีเดียว ...และยอมแบบที่เค้าเรียกว่า
หงายไพ่ทีเดียวล่ะ  เพราะเค้าไม่รู้จักคำว่าพอหรอก....

ทั้ง 5 ข้อที่ผมว่ามาไม่เรียกว่ายอมครับ แต่มันคือการย้อนกลับไปแก้ปัญหาให้ตรงจุดต่างหาก ถ้าคุณไม่แก้ให้ตรงจุดแล้วปัญหามันจะจบได้ไง

ตราบใดที่ทั้ง 5 ข้อที่จริงแล้วมีมากกว่านั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข ก็กินลูกระเบิดของไทยมุสลิมต่อไปละกัน
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 23-02-2007, 23:19 »

...แล้วทุกวันนี้  ที่ไปเอาใจเค้า  ไม่บานปลายเหรอคะ
ไม่ได้คิดกลืนวัฒนธรรมเค้าหรอกนะ  เพียงแค่
ให้เค้าอยู่ในกรอบของความเป็นคนไทยอย่างพอควร
เท่านั้นเอง
แล้วในความคิดของคุณรวงข้าวฯ คุณคิดว่า "ความเป็นไทย" คืออะไรล่ะครับ?  ความเป็นไทยคือ ต้องตามอย่างกรุงเทพฯ? ต้องเป็นพุทธ? หรือคุณคิดว่า วัฒนธรรมเชียงใหม่หรืออีสานคือความเป็นไทยเพราะเขาเป็นพุทธและคล้ายภาคกลาง?


..ปัจจุบันนี้  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขต
ปัตตานี..แทบจะกลายเป็นมหาวิทยาลัยอิสลามไปแล้วนะ
  คุณลองเข้าไปดูสิแต่งชุดหิญาบ เกือบทั่วมหาวิทยาลัย
ทัศนคติแบบนี้แหละครับ คือ สาเหตุใหญ่ของปัญหาเลย การแต่งกายสวมผ้าคลุมหิญาบไม่ได้ผิดกฎหมายนี่ครับ  แถวประเวศ หนองจอก มีนบุรี หรือแม้แต่ชาวจีนยูนนานที่เป็นชนชาติหุย ที่เป็นส่วนหนึ่งของจีนคณะชาติทางเหนือ เขาใส่หิญาบกันมาเป็นความเชื่อศาสนาของเขา แบบนี้เขาผิดหรือครับ?  ยิ่งไปทำแบบนี้ยิ่งจะกลายขยายวงลุกเป็นไฟทั้งประเทศ จากแค่ปัญหาเฉพาะท้องที่ กลายเป็นปัญหาศาสนา ไปกันใหญ่ ถ้างี้ชาวพุทธที่ใส่สายเดี่ยวกันทั่วกรุงล่ะ?


และเพราะชุดหิญาบที่มันรุ่มร่าม  และมีจุดซ่อนเร้นมาก
ไม่คิดบ้างเหรอ  ว่า.... โจรนั่นแหละเอาสตรีมุสลิมบังหน้า
ในการก่อการ  ไม่สังเกตเหรอคะ  เวลาประท้วง ก่อมอบ
เมื่อไหร่  จะมีสตรีประท้วงตลอดเวลา  ตอนนี้เค้าใช้นโยบาย
เอาสตรีบังหน้าไปเสียแล้ว 
แบบนี้ก็ยิ่งฆ่ากันแรงไปใหญ่แบบที่คุณ skidato บอกนั่นแหละ

.. เรื่องภาษาก็เช่นกัน  ถ้าเรามีกรอบของความเป็นไทย
บังคับให้เค้าใช้บ้าง  เค้าไม่กล้าถึงขนาดนี้หรอกค่ะ
ก็บอกแล้วครับ "ความเป็นไทย" คืออะไร??  ถ้าความเป็นไทยคือภาษากรุงเทพฯ แล้วภาษาเหน่อสุพรรณฯ เหน่อระยอง เหน่อเมืองเพชร ไม่ใช่ไทยหรือ? เอาอะไรมากำหนดว่า นั่นไทยแท้ นั่นไม่ใช่ไทยแท้ แล้วงี้คนอีสานบางคนที่เขาพูดแต่ภาษาลาว เขาไม่ใช่คนไทยหรือ? อย่าลืมนะว่า วัฒนธรรมอีสานที่แท้จริงคือวัฒนธรรมลาว ล้านนาเชียงใหม่ นั่นก็คือลาวแขนงหนึ่ง สมัยโบราณเขาเรียกล้านนาว่า ลาวเฉียง  ก่อนที่จะมีการปฏิรูปการปกครองใหม่ภาคเหนือตอนบนจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสยาม



...ถ้ายอมตามที่คุณว่า ....เชื่อมั๊ย ว่าจะต้องยอมๆๆๆ
อีกหลายร้อยข้อทีเดียว ...และยอมแบบที่เค้าเรียกว่า
หงายไพ่ทีเดียวล่ะ  เพราะเค้าไม่รู้จักคำว่าพอหรอก....

ได้คืบเอาศอก....ได้ศอกเอาวา ...
นี่คือความคิดของ จอมพล ป. และทักษิณ ไงครับ มันถึงทำให้เรื่องขยายลุกลามมาถึงตอนนี้


เนี่ยผมถึงบอกว่า ให้ไปศึกษาเรื่องราวของสงครามเก้าทัพ และลองไปอ่านเรื่องราวของมณฑล Quebec ของแคนาดา และมณฑลซินเจียง ของจีน (ขนาดเขาเป็นเผด็จการคอมมิวนิสต์นะคุณ เขายังไม่คิดอะไรแบบว่า ให้เลิกใส่หิญาบ ต้องแต่งกายแบบชาวจีนฮั่น) การอยู่ทางใต้นานเป็น 10 ปีไม่ได้หมายความว่าจะทะลุปรุโปร่งนะครับ ผมถึงบอกว่า อะไรที่เกี่ยวกับมิติทางวัฒนธรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ

ในฐานะที่ผมเป็นคนเชื้อสายจีน คนรุ่นพ่อผมเป็นต้นมาพูดไทยได้  ด้วยการถูกบังคับเข้าระบบโรงเรียนมาตรฐาน มันมีคนจีนที่ไม่พอใจมากๆเลยนะ ไม่งั้นรุ่นก่อนๆก็ยังพูดจีนกันอยู่ แต่ที่เรายอมเพราะว่า ประวัติศาสตร์ของชาวจีนในประเทศไทย เป็นเรื่องราวของการที่ชาวจีนเข้ามาพึ่งพาคนไทย อยู่อาศัยในแผ่นดินไทย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007, 23:38 โดย 龘 » บันทึกการเข้า

รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 23-02-2007, 23:23 »

 


...แล้วห้า ข้อที่ว่า ...มันไปเกี่ยวเนื่อง
กับการสงบศึกป่วนใต้ได้ไง  ยังนึกภาพ
ไม่ออกนะ...
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 23-02-2007, 23:29 »


...แล้วห้า ข้อที่ว่า ...มันไปเกี่ยวเนื่อง
กับการสงบศึกป่วนใต้ได้ไง  ยังนึกภาพ
ไม่ออกนะ...

ถ้ามีญาติพี่น้องคุณถูกอุ้มหายไป แต่ไม่มีการสืบสวน เป็นตายยังไงก็ไม่รู้ คุณนิ่งเฉยได้เหรอ? นี่เป็นพันๆคนนะคุณครับ  วิดิโอตากใบน่ะคุณเคยเห็นหรือเปล่าครับ (อ.เจิมศักดิ์เอามาเปิดให้ดูที่ ASTV)

การที่คุณจะจัดการกับเงื่อนไขการก่อความรุนแรงได้ คุณจะต้องจัดการเคลียร์ตัวเองก่อน พิสูจน์ให้เห็นว่า คุณเองสร้างความยุติธรรมได้ ก่อนที่จะไปพูดกับคนอื่นเรื่องความยุติธรรม (ก็เหมือนนายสมคิด มาพูดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พูดจนตายก็ไม่มีใครเชื่อครับ เพราะ "กรรม" ที่นายสมคิดกระทำมาตลอด มันค้านกับที่สิ่งที่สมคิดบอก และสมคิดก็ยังไม่ได้ทำอะไรที่พิสูจน์ให้เห็นว่า นำเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติแล้ว นอกจากคำพูดแค่ 45 นาที ..... อันนี้แค่ยกตัวอย่างนะครับ ไม่ได้ฟื้นประเด็นมาถกต่อ)

เวลานี้ที่อเมริกามันตกเป็นเป้าผู้ก่อการร้าย  คุณคิดว่า เป็นเพราะอยู่ดีๆชาวมุสลิมเกิดมาก็เกลียดชังอเมริกาโดยอัตโนมัติหรือ?? เป็นเพราะชาวมุสลิมเกลียดชังประชาธิปไตยและเสรีภาพแบบที่นายบุชมันพล่ามหรือ??  ของงี้มันมีที่มาที่ไปอยู่แล้ว คุณต้องเข้าใจที่มาที่ไปมันก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007, 23:31 โดย 龘 » บันทึกการเข้า

รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 23-02-2007, 23:35 »

แล้วในความคิดของคุณรวงข้าวฯ คุณคิดว่า "ความเป็นไทย" คืออะไรล่ะครับ?
................................................................................................

..  ความเป็นไทย ...ก็คือ การรักผืนแผ่นดินไทย  รักเพื่อนคนไทยด้วยกัน
ไม่ทำความเดือดร้อนให้เพื่อนคนไทยด้วยกันสิคะ.....ไม่คิดฆ่าแกง
เพื่อนคนไทยด้วยกัน  การที่จะนับถือศาสนาอะไร  แต่งกายชุดอะไร
พูดภาษาอะไรก็ไม่ผิดหรอก  ถ้ายังคำนึงถึงความกตัญญูของแผ่นดินไทย
ที่คุ้มกลาหัว  ไม่ฆ่าแกงคนไทยด้วยกัน .....แต่ โจรก่อการร้าย
เค้าคิดเช่นนี้หรือเปล่า .....การแต่งกาย  ภาษา ...ฯลฯ...ที่เค้า
ปฏิบัติจนเกินความพอดี  ไม่มีส่วนเลยเหรอ ...ต่อจิตใจที่เค้าคิดคดทรยศต่อชาติไทย
หรือ  ทุกอย่างเค้าเลวเองด้วยใจดิบๆๆๆงั้นเหรอ ....





..ตามที่คุณยกตัวอย่างมา คุณพูดถูก ...มิได้แปลกอะไรหรอก ถ้าใส่ชุดหิญาบ
เพราะ เป็นชุดตามวัฒนธรรม ศาสนาของมุสลิม  ใส่แล้วไม่ได้ไปคิดฆ่าแกงใคร
หรือมิได้เอาชุดหิญาบมาอำพรางการปฏิบัติการฆ่าคนบริสุทธิ์  ก็ไม่ผิดหรอก
  แต่จากที่รับรู้และฟังจากที่เค้าจับผู้ก่อการร้ายบางคนได้  เค้าใช้การแต่งกาย
ของศ่าสนาของเค้านะคะ  อำพรางซ่อนเร้นวัตถุระเบิด  บางคนก็อาศัยสะโหร่ง
นี่ล่ะ  บางคนก็อาศัยสตรีนี่ล่ะ  เป็นตัวเริ่มก่อการ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007, 23:38 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 23-02-2007, 23:44 »

ถ้ามีญาติพี่น้องคุณถูกอุ้มหายไป แต่ไม่มีการสืบสวน เป็นตายยังไงก็ไม่รู้ คุณนิ่งเฉยได้เหรอ? นี่เป็นพันๆคนนะคุณครับ  วิดิโอตากใบน่ะคุณเคยเห็นหรือเปล่าครับ (อ.เจิมศักดิ์เอามาเปิดให้ดูที่ ASTV)
..................................................................

...ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ ...ถามหน่อยคุณรู้เรื่อง บัญชีดำ  ที่ ศอบต.  เค้ามีไว้มั๊ย ?...
ในบัญชีดำ  เค้ารู้ทั้งนั้นว่าใครเป็นใคร  แต่ทำอะไรไม่ได้ก็เพราะ  พวกนักวิชาการ
นักสิทธมนุยชนที่ไม่รู้ข้เท็จจริงทั้งหลายนี่ล่ะ ....

อีกประการหนึ่ง  เรื่องตากใบ ....พวกนักวิชาการ  พวกนักสิทธิมนุษยชนนั่นล่ะ
ตัวดีนักล่ะ ...รู้มั๊ยว่า  ก่อนที่จะมีคนเป็นคนตายเกิดขึ้นหน่ะ  มันมีที่มาอย่างไร


อยู่ดีๆ  ใครเค้าจะไปขนไปพาชายฉกรรเหล่านั้น  พาขึ้นรถอัดทับกันเช่นนั้น
ถ้าคนเหล่านั้นไม่ไปก่อมอบ  อยู่ในบ้าน  ใครเค้าจะพาไป ...คนพวกนั้นไปทำอะไร
ที่ก่อกวนบ้านเมืองมีใครรับทราบ และทำไมต้องปลอบประโลมคนป่วนเมือง
เจ้าหน้าที่ของรัฐ  ก็มีสิทธิเหนื่อย  มีสิทธิร้อน   มีสิทธิหนาว   มีสิทธิมีอารมณ์ นะคะคุณ....เค้า
ต้องอดทน  กับพวกป่วนเมืองนี้ขนาดไหน  ทำไมคุณไม่เห็นใจเค้าบ้างล่ะ

...ทำกับคนจำนวนมาก ....โอกาสพลาดมี  แต่ถามหน่อยเค้าตั้งใจมั๊ย
เค้าตั้งใจให้เกิดการตายมั๊ย .....


.......................................................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007, 23:48 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #16 เมื่อ: 23-02-2007, 23:46 »


...แล้วห้า ข้อที่ว่า ...มันไปเกี่ยวเนื่อง
กับการสงบศึกป่วนใต้ได้ไง  ยังนึกภาพ
ไม่ออกนะ...

ถ้ามีญาติพี่น้องคุณถูกอุ้มหายไป แต่ไม่มีการสืบสวน เป็นตายยังไงก็ไม่รู้ คุณนิ่งเฉยได้เหรอ? นี่เป็นพันๆคนนะคุณครับ  วิดิโอตากใบน่ะคุณเคยเห็นหรือเปล่าครับ (อ.เจิมศักดิ์เอามาเปิดให้ดูที่ ASTV)

การที่คุณจะจัดการกับเงื่อนไขการก่อความรุนแรงได้ คุณจะต้องจัดการเคลียร์ตัวเองก่อน พิสูจน์ให้เห็นว่า คุณเองสร้างความยุติธรรมได้ ก่อนที่จะไปพูดกับคนอื่นเรื่องความยุติธรรม (ก็เหมือนนายสมคิด มาพูดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พูดจนตายก็ไม่มีใครเชื่อครับ เพราะ "กรรม" ที่นายสมคิดกระทำมาตลอด มันค้านกับที่สิ่งที่สมคิดบอก และสมคิดก็ยังไม่ได้ทำอะไรที่พิสูจน์ให้เห็นว่า นำเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติแล้ว นอกจากคำพูดแค่ 45 นาที ..... อันนี้แค่ยกตัวอย่างนะครับ ไม่ได้ฟื้นประเด็นมาถกต่อ)

เวลานี้ที่อเมริกามันตกเป็นเป้าผู้ก่อการร้าย  คุณคิดว่า เป็นเพราะอยู่ดีๆชาวมุสลิมเกิดมาก็เกลียดชังอเมริกาโดยอัตโนมัติหรือ?? เป็นเพราะชาวมุสลิมเกลียดชังประชาธิปไตยและเสรีภาพแบบที่นายบุชมันพล่ามหรือ??  ของงี้มันมีที่มาที่ไปอยู่แล้ว คุณต้องเข้าใจที่มาที่ไปมันก่อน


ชัดเจนครับ เห็นด้วย 100%
ปกติคนไทยมุสลิมถ้าไม่มีใครไปรังแกเขาก่อนเขาก็ไม่ตอบโต้รุนแรงหรอกครับ ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป
เอาแค่ 5 ข้อนี้พวกชนชั้นปกครองมันไม่กล้าทำไงครับเลยต้องแดกลูกระเบิดแทนข้าวอยู่ทุกวันนี้

บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 23-02-2007, 23:50 »

..  ความเป็นไทย ...ก็คือ การรักผืนแผ่นดินไทย  รักเพื่อนคนไทยด้วยกัน
ไม่ทำความเดือดร้อนให้เพื่อนคนไทยด้วยกันสิคะ.....ไม่คิดฆ่าแกง
เพื่อนคนไทยด้วยกัน  การที่จะนับถือศาสนาอะไร  แต่งกายชุดอะไร
พูดภาษาอะไรก็ไม่ผิดหรอก  ถ้ายังคำนึงถึงความกตัญญูของแผ่นดินไทย
ที่คุ้มกลาหัว  ไม่ฆ่าแกงคนไทยด้วยกัน .....แต่ โจรก่อการร้าย
เค้าคิดเช่นนี้หรือเปล่า .....การแต่งกาย  ภาษา ...ฯลฯ...ที่เค้า
ปฏิบัติจนเกินความพอดี  ไม่มีส่วนเลยเหรอ ...ต่อจิตใจที่เค้าคิดคดทรยศต่อชาติไทย
หรือ  ทุกอย่างเค้าเลวเองด้วยใจดิบๆๆๆงั้นเหรอ ....
ก็ตอนแรกๆคุณยังบอกว่า ให้พูดภาษากลาง แต่งกายสากลนิยม(ซึ่งจริงๆแล้วก็คือฝรั่งเลยนะ)   บอกแล้วครับว่า โปรดไปศึกษาประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพก่อน แล้วก็ประวัติศาสตร์ยุคลัทธิชาตินิยมจอมพล ป.





..ตามที่คุณยกตัวอย่างมา คุณพูดถูก ...มิได้แปลกอะไรหรอก ถ้าใส่ชุดหิญาบ
เพราะ เป็นชุดตามวัฒนธรรม ศาสนาของมุสลิม  ใส่แล้วไม่ได้ไปคิดฆ่าแกงใคร
หรือมิได้เอาชุดหิญาบมาอำพรางการปฏิบัติการฆ่าคนบริสุทธิ์  ก็ไม่ผิดหรอก
  แต่จากที่รับรู้และฟังจากที่เค้าจับผู้ก่อการร้ายบางคนได้  เค้าใช้การแต่งกาย
ของศ่าสนาของเค้านะคะ  อำพรางซ่อนเร้นวัตถุระเบิด  บางคนก็อาศัยสะโหร่ง
นี่ล่ะ  บางคนก็อาศัยสตรีนี่ล่ะ  เป็นตัวเริ่มก่อการ
ถ้าเข้าใจแบบนี้ ก็แก้ปัญหาไม่ตรงจุด  ก็อย่างที่คุณ skidato แกบอก กินลูกระเบิดต่อไปครับ

เนี่ยผมถึงบอกไว้ก่อนไงว่า ถ้ามาถกประเด็นอ่อนไหวกันแบบ real time ไม่ได้พิจารณาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความเป็นมา วิวัฒนาการแต่ละยุคแต่ละสมัย แล้วก็มาจับประเด็นกันแค่ชุดหิญาบ ระเบิดวันโน้นวันนี้ ... มันยิ่งจะกลายเป็นอุปสรรคต่อคนที่การแก้ปัญหา แล้วจะทำให้ปัญหาลุกลามขยายวงไปเป็นเรื่องอื่น อย่าลืมนะว่ากระดานสนทนาแบบนี้เป็นสาธารณะ ใครก็เข้ามาดูได้ ไม่จำกัดความเชื่อ

ผมไม่ค่อยสบายใจกับกระทู้นี้เลย แล้วแต่วิจารณญาณของผู้ดูแลที่เข้ามาเห็นแล้วกัน (แก้ข้อความ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007, 23:55 โดย 龘 » บันทึกการเข้า

รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 23-02-2007, 23:55 »

ชัดเจนครับ เห็นด้วย 100%
ปกติคนไทยมุสลิมถ้าไม่มีใครไปรังแกเขาก่อนเขาก็ไม่ตอบโต้รุนแรงหรอกครับ ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป
เอาแค่ 5 ข้อนี้พวกชนชั้นปกครองมันไม่กล้าทำไงครับเลยต้องแดกลูกระเบิดแทนข้าวอยู่ทุกวันนี้


.........................................................................................................................

...ขอคัดค้านประโยคที่ว่า ..".ปกติคนไทยมุสลิมถ้าไม่มีใครไปรังแกเขาก่อน
เขาก็ไม่ตอบโต้รุนแรง "


..ประเด็นนี้ขอเถียงเลย ...คนพวกนี้ถูกฝังในสายเลือด ถูกฝังค่านิยมตั้งแต่อยู่ในท้อง
ให้แยกดินแดน  มิได้มีใครไปรังแกเค้าหรอก ...เค้าคิดว่า  ควรเป็นของเค้า เค้าก้จะเอาให้ได้
เท่านั้นเอง ...

 ก็ลองไปอ่านประวัติศาสตร์ ปัตตานี ดู ....ก็รู้
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #19 เมื่อ: 24-02-2007, 00:16 »

อย่าลบนะครับท่าน ADMIN เอาไว้แบบนี้แหละครับเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน

ชัดเจนครับ เห็นด้วย 100%
ปกติคนไทยมุสลิมถ้าไม่มีใครไปรังแกเขาก่อนเขาก็ไม่ตอบโต้รุนแรงหรอกครับ ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป
เอาแค่ 5 ข้อนี้พวกชนชั้นปกครองมันไม่กล้าทำไงครับเลยต้องแดกลูกระเบิดแทนข้าวอยู่ทุกวันนี้


.........................................................................................................................

...ขอคัดค้านประโยคที่ว่า ..".ปกติคนไทยมุสลิมถ้าไม่มีใครไปรังแกเขาก่อน
เขาก็ไม่ตอบโต้รุนแรง "


..ประเด็นนี้ขอเถียงเลย ...คนพวกนี้ถูกฝังในสายเลือด ถูกฝังค่านิยมตั้งแต่อยู่ในท้อง
ให้แยกดินแดน  มิได้มีใครไปรังแกเค้าหรอก ...เค้าคิดว่า  ควรเป็นของเค้า เค้าก้จะเอาให้ได้
เท่านั้นเอง ...

 ก็ลองไปอ่านประวัติศาสตร์ ปัตตานี ดู ....ก็รู้

แสดงว่าข้อมูลที่คุณรวงข้าวได้มาผิดแล้วครับขี้เกียจไปค้นหามาให้ 
งั้นเราลองเอาวิธีการของคุณรวงข้าวมาทดลองใช้ดูนะ ถ้าคุณจะฆ่าพวกเขาผมถามว่าคุณรู้หรือยังว่าศัตรูคือใคร อย่าลืมไทยมุสลิม 1.8 ล้านคนเชียวนะครับ
ถ้าคุณฆ่าผิดคนแม้แต่คนเดียวจากคนเดียวมันจะลามไปเรื่อยๆเหมือนกับกรณีที่คนไทยโดนยัดเยียดข้อหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิส และเมื่อคุณไปฆ่าเขามากๆถึงตอนนั้นโลกมุสลิมเขาไม่ยอมอยู่เฉยแน่ๆครับเขาจะแห่มารุมกินโต๊ะไทยเราแน่นอนคุณรวงข้าวครับไทยประเทศเดียวสู้กับโลกมุสลิมไหวหรอขนาดลาวประเทศเล็กๆยังรบแพ้เลย

เอาแค่ 5 ข้อที่ผมว่ากล้าๆทำให้ได้ก่อนเถอะ ถ้าชนชั้นปกครองยังทำเฉยก็ไม่น่าแปลกที่จะต้องแดกลูกระเบิดต่อไป
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #20 เมื่อ: 24-02-2007, 00:18 »

อือ อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกสลดนิด ๆ

จขกท. ก็คนใต้ ไม่ใช่เหรอครับ

รู้สึกยังไง เมื่อถูกคนไทย(กรุงเทพฯ)พูดเชิงดูหมิ่นว่า พวกทำพรื้อ มันหัวหมอ ไม่ยอมคน รักพวกพ้องภาคเดียวกันไม่ลืมหูลืมตา

ก็น่าจะความรู้สึกเดียวกัน กับ เมื่อคนภาคอีสาน อย่างผม
ได้ยินคนไทย(กรุงเทพฯ) พูดดูหมิ่น พวกแต่งตัวเชย ๆ ว่า แม่งแต่งตัวโคตรลาว โคตรเสี่ยว เลย

แล้วนี่อะไรกัน ได้ที ไปเหยียดคนอื่น ที่สามารถ "เหยียด" ได้ ต่อเลยใช่ไหม . . .

พวกแขกมันพวกหัวรุนแรง . . .
- ไอ้เจ๊ก
- ไอ้แกว
- ไอ้ฝรั่ง
- ไอ้นิโกร เอ๊ย

มนุษย์ รักษาสถานภาพอยู่ได้ด้วยการ "เหยียด" layer ที่เราคิดว่า "ต่ำกว่า" เรา ใช่ไหมครับ
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #21 เมื่อ: 24-02-2007, 00:32 »

อือ อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกสลดนิด ๆ

จขกท. ก็คนใต้ ไม่ใช่เหรอครับ

รู้สึกยังไง เมื่อถูกคนไทย(กรุงเทพฯ)พูดเชิงดูหมิ่นว่า พวกทำพรื้อ มันหัวหมอ ไม่ยอมคน รักพวกพ้องภาคเดียวกันไม่ลืมหูลืมตา

ก็น่าจะความรู้สึกเดียวกัน กับ เมื่อคนภาคอีสาน อย่างผม
ได้ยินคนไทย(กรุงเทพฯ) พูดดูหมิ่น พวกแต่งตัวเชย ๆ ว่า แม่งแต่งตัวโคตรลาว โคตรเสี่ยว เลย

แล้วนี่อะไรกัน ได้ที ไปเหยียดคนอื่น ที่สามารถ "เหยียด" ได้ ต่อเลยใช่ไหม . . .

พวกแขกมันพวกหัวรุนแรง . . .
- ไอ้เจ๊ก
- ไอ้แกว
- ไอ้ฝรั่ง
- ไอ้นิโกร เอ๊ย

มนุษย์ รักษาสถานภาพอยู่ได้ด้วยการ "เหยียด" layer ที่เราคิดว่า "ต่ำกว่า" เรา ใช่ไหมครับ


ฝรั่งเรียกว่า "Racism - Racitism" ครับ
ถือเป็น "อาชญากรทางสังคม" ที่ประชาชนในสังคมใด ๆ ก็ตาม สามารถปฎิเสธการให้เข้าไปอยู่อาศัยในสังคมของพวกเขา
บันทึกการเข้า

รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 24-02-2007, 09:29 »

อือ อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกสลดนิด ๆ

จขกท. ก็คนใต้ ไม่ใช่เหรอครับ

รู้สึกยังไง เมื่อถูกคนไทย(กรุงเทพฯ)พูดเชิงดูหมิ่นว่า พวกทำพรื้อ มันหัวหมอ ไม่ยอมคน รักพวกพ้องภาคเดียวกันไม่ลืมหูลืมตา
..........................................................................................


 " พวกทำพรื้อ มันหัวหมอ ไม่ยอมคน รักพวกพ้องภาคเดียวกันไม่ลืมหูลืมตา "


...ขอแสดงความคิดเห็นตามความเข้าใจ  ตามข้อเท็จจริงที่เคยรับรู้มาในประโยคข้างบนนี้หน่อยนะคะ
ว่า ....คนภาคใต้ตอนบน  ตั้งแต่ประจวบลงไป .จนถึงจังหวัดสงขลา  กับคนใต้มุสลิม ( **บางพวก
บางกลุ่ม **
  ขอเน้นย้ำว่าบางกลุ่มที่ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับความเป็นคนใต้  แต่เป็นเรื่องของ


ฝรั่งเรียกว่า "Racism - Racitism" ครับ
ถือเป็น "อาชญากรทางสังคม" ที่ประชาชนในสังคมใด ๆ ก็ตาม สามารถปฎิเสธการให้เข้าไปอยู่อาศัยในสังคมของพวกเขา


ดังเช่นคุณ qazwsx   กล่าวมา....  คนพวกนี้ไม่ได้มีความเป็นคนใต้ไม่ได้มีความเป็นคนไทยหรอก
แต่มีความเชื่อมั่นศรัทธาอย่างแรงกล้าตามลัทธิค่านิยมของเค้าเพื่อแยกดินแดน  แล้วใช้ศาสนามา
บิดเบือน  มุสลิมที่ถูกต้อง  ที่ดีจริงยังมีอีกมาก  พวกนั้นเค้ารักประเทศไทย  เค้ารักความถูกต้อง
รักความชอบธรรม  รักความเป็นมนุษย์ชาติ  เค้าไม่คิดทำให้ใครเดือดร้อนหนอก


..ทีนี้ถามว่า  ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่รู้มั๊ย...ว่าใครเป็นโจร  ใครเป็นคนดี  ส่วนหนึ่งเท่าที่
ได้เคยคุย  ได้เคยสัมผัสเรื่องนี้มา  รู้ว่าเค้ารู้พอสมควร  เค้ามีข้อมูล  เค้ามีบัญชีดำ  รู้ว่าใครเป็นใคร
แต่ทุกวันนี้  ที่ยังทำอะไรไม่ได้ก็ติดตรงที่พวกไม่รู้จริง  นักสิทธิมนุษยชนนั่นล่ะ  ที่รู้ไม่จริง
แล้วเข้ามาขวางลำ ...ทำให้ทำอะไรยากมากพอควร...


พูดโดยสรุปคือ   ความคิดยังไม่เป็นเอกภาพ ....แถมยังมีพวกที่หวังผลประโยชน์
ทางการเมืองเข้ามานุแยง  แหย่ก่อกวนวิพากษ์  ให้เสียเรื่องอีก .....
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 24-02-2007, 09:41 »

ผมถึงบอกไว้ก่อนไงว่า ถ้ามาถกประเด็นอ่อนไหวกันแบบ real time ไม่ได้พิจารณาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความเป็นมา วิวัฒนาการแต่ละยุคแต่ละสมัย แล้วก็มาจับประเด็นกันแค่ชุดหิญาบ ระเบิดวันโน้นวันนี้ ... มันยิ่งจะกลายเป็นอุปสรรคต่อคนที่การแก้ปัญหา แล้วจะทำให้ปัญหาลุกลามขยายวงไปเป็นเรื่องอื่น อย่าลืมนะว่ากระดานสนทนาแบบนี้เป็นสาธารณะ ใครก็เข้ามาดูได้ ไม่จำกัดความเชื่อ

ผมไม่ค่อยสบายใจกับกระทู้นี้เลย แล้วแต่วิจารณญาณของผู้ดูแลที่เข้ามาเห็นแล้วกัน (แก้ข้อความ)



.......................................................................................................................

...  กระทู้นี้  ประเด็นอ่อนไหวจริง  แต่เป็นเรื่องที่ควรนำมาถกมาแสดงความคิดเห็น
อย่างยิ่ง ...บางครั้งรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน  ยังรู้ปัญหาตรงนี้ยังไม่
แท้จริง  อยู่แต่ในกทม ...พอลงไปก็รับแต่รายงานที่ดีๆ ...

...รายงานที่ไม่ดี  รายงานที่ล้วงลึก ที่อาจจะไปกระทบกับคนทำงาน
ที่มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น  หรือทำงาน
เสี่ยงมากขึ้น  เค้าก็หลบๆๆเสีย  ไม่รายงาน  ประเด็นนี้เข้าใจนะคะ
ว่าชีวิตใคร  ใครๆก็รัก  ใครก็เอาตัวรอด  เรื่องนี้เข้าใจ  แต่
ติดใจอยู่นิดตรงที่ว่า ....

...ทำไมไม่ใช่  เทคโนโลยี  กฎระเบียบเข้าจับอย่างจริงจัง
ภาพพจน์ของประเทศหน่ะตั้งวางไว้บ้างไม่ได้เหรอ  เอาชีวิต
ของคนบริสุทธิ์ ก่อนได้มั๊ย  ท่านพลเอกหาญ  ท่านพลเอกกิตติ
เคยให้คำเสนอแนะเรื่องนี้หลายครั้ง  ว่าใช้สมานฉันท์อย่างเดียว
ไม่ได้  ต้องใช้มาตรการเด็ดขาดควบคู่ไปด้วย
  มีใครเคย
ให้ความสำคัญกับข้อเสนอแนะของท่านบ้าง ....คิดแต่สมานฉันท์


***ไปสมานฉันท์ทำไม 
 กับคนที่เค้าไม่เคยคิดสมานฉันท์กับเรา
และไม่มีทางที่เค้าจะสมานฉันท์  ลูกเล็กเด็กแดง
  คนบริสุทธิ์ตายไปแค่ไหนเค้าไม่กระเทือนหรอก
  ยิ่งออกข่าวเค้ายิ่งได้ใจเพราะเป้าหมายของเค้าคือ
 ....ให้คนดีๆๆ....ออกจากพื้นที่ให้
หมด  เพื่อตัวเองจะได้ครอบครอง .....

ขณะนี้ .....รัฐบาลหลงทางแน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2007, 09:43 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 24-02-2007, 10:29 »

 วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10577

วิกฤตการแก้ปัญหา สถานการณ์ใต้

คอลัมน์ เดินหน้าชน

โดนย จุฬาลักษณ์ ภู่เกิด



ปัญหาการก่อเหตุรุนแรงในภาคใต้ที่เกิดขึ้นล่าสุดช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา ซึ่งขยายขอบเขตมายังจังหวัดสงขลาอย่างชัดเจนเพราะเป็นปฏิบัติการในจังหวะเดียวกันอย่างมีการจัดตั้ง ถึงกับทำให้ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก ต้องออกมายอมรับว่า "เดี๋ยวนี้เป็นลักษณะที่ค่อนข้างไปในทางการก่อการร้าย เมื่อก่อนไม่เต็มรูปแบบ แต่ปัจจุบันค่อนข้างเต็มรูปแบบ"

เป็นอีกครั้งที่ขบวนการก่อการร้ายจงใจสำแดงศักยภาพให้เห็นๆ ในช่วงเทศกาล ซึ่งแม้ทางการจะได้ "กลิ่น" และแจ้งเตือนให้ทุกฝ่ายระมัดระวัง แต่ถึงที่สุดก็ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำยับเยินกว่าที่ผ่านๆ มา เพราะมีการก่อเหตุรุนแรงถึง 51 จุดใน 4 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 6 รายและบาดเจ็บถึงกว่า 60 คน

ทั้งยังมีปฏิบัติการอุกอาจต่อเนื่องในวันถัดมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย หนึ่งในนั้นเป็นนายพันตรี ผบ.ร้อย กรมทหารพรานที่ 41 จ.ยะลา และบาดเจ็บอีก 20 คน ซึ่งหนึ่งในผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นเด็กชายอายุเพียง 7 ขวบ ตามด้วยการลอบเผาโรงงานยางแผ่นรมควันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ที่ จ.ยะลา เสียหายกว่า 400 ล้านบาท และล่าสุดคือการซุ่มยิงรถนำขบวนของท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ที่เดินทางไปมอบสิ่งของเป็นกำลังใจให้ทหาร ตำรวจ ในนามประธานมูลนิธิบำรุงขวัญตำรวจ ทหาร อาสาสมัครรักษาดินแดนในพระบรมราชูปถัมภ์

เหมือนจงใจย้ำให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพในการดูแลชีวิตทรัพย์สินประชาชนของภาครัฐ!

แต่ปรากฏว่าหลังจากเกิดเหตุ ปฏิกิริยาจากผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงกลับทำให้รู้สึกสับสน สิ้นหวัง

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่เคยออกปากประเมิน ศอ.บต.และ กอ.รมน.ว่า "สอบตก" ในการรับมือปัญหาที่เกิดขึ้น ยังคงพยายามอธิบายเชิงแบ่งรับแบ่งสู้ในทุกเรื่อง "ที่ไม่สามารถป้องกันได้ คงเป็นเรื่องการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ข้อมูลที่ได้มาในช่วงต้นๆ อาจเป็นข้อมูลกว้างๆ ไม่ชัดเจน" พร้อมการันตีว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะ ผบ.ทบ.และผู้อำนวยการ กอ.รมน.ให้ความสำคัญกับปัญหานี้ แต่อาจจะไม่ได้พูด

แต่พอถึงบทต้องพูด พล.อ.สนธิก็มีคำชี้แจงแค่ว่า "เขาก่อเหตุทุกวันนี้เพื่อผลทางยุทธวิธี เพื่อให้เกิดปัญหาความไม่มั่นคงภายในประเทศและต้องการให้สถานการณ์นี้กระจายออกไปนอกประเทศ นี่คือความตั้งใจที่เขาพยายามทำ"

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงได้ออกมายอมรับกลายๆ ว่าขอบเขตการก่อการร้ายจากนี้มีแนวโน้มจะลามเข้าสู่แหล่งชุมชนในเมืองหลวง ทั้งเตือนให้ระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะมาฆบูชาและสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง

ซึ่งเท่ากับเป็นการตอกย้ำความหวาดผวาให้ประชาชนต่อเนื่องจากเหตุระเบิดในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา แต่กลับไม่สามารถสร้างหลักประกันในความปลอดภัยอะไรได้เลย เหมือนเตือนให้รู้ แล้วก็ "ตัวใครตัวมัน"

กลายเป็นว่ารัฐบาลทหารที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ กลับไม่อาจจัดการกับปัญหาที่บ่อนทำลาย "ความมั่นคง" ให้ชาวบ้านอุ่นใจได้อย่างที่ควรจะเป็น หากแต่ปล่อยให้ลุกลามเหมือนมะเร็งร้ายกำลังแพร่กระจายไปทั่วตัวรอกลืนกินชีวิต

และที่น่าตลกคือ ในสถานการณ์วิกฤตขนาดนี้


 แทนที่จะเร่งให้ร่าง พ.ร.บ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือ ศอ.บต.ผ่านออกมาเป็นกฎหมายเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการได้ทันเหตุการณ์ หลังจากยืดเยื้อมานานตั้งแต่ประกาศตั้ง ศอ.บต.ใหม่ๆ แต่นายกฯสุรยุทธ์ก็ยังเล่นบทผู้รักษาระเบียบกติกาอย่างใจเย็น ยืนยันให้เสนอผ่านขั้นตอนการพิจารณาของ สนช. 3 วาระรวด แทนที่จะใช้มติ ครม.ประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาเพื่อให้มีผลทันทีตามที่ สนช.หวังดีเสนอ ซึ่งที่สุดแล้วก็ไม่รู้ว่าเรื่องจะถูกยื้อไปตามขั้นตอน "รูทีน" อีกนานแค่ไหน กว่าจะได้ใช้เป็นกฎหมาย



ทำให้นึกเห็นใจนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต.ขึ้นมาทันทีที่ต้องแบกความคาดหวังและรับหน้าเสื่ออยู่ในพื้นที่อย่างค่อนข้างโดดเดี่ยว ขาดมือไม้และงบประมาณที่ต้องรอให้เป็นไปตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.นี้ จนไม่รู้ว่ากว่าที่ร่าง พ.ร.บ.นี้ผ่านออกมาบังคับใช้ จะสายเกินไปหรือเปล่า

เพราะถ้าการแก้ปัญหายังไร้ทิศทาง ขาดผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนแล้วเหตุรุนแรงรายวันยังเกิดหนักหน่วงขึ้น ใครบ้างจะกล้าลงไปช่วยงาน แม้จะมีเบี้ยหวัดและความดีความชอบ "พิเศษ" จูงใจแค่ไหนก็ตาม

พอมองรวมๆ ไปที่ปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่กำลังถดถอยไปสู่ความไร้เสถียรภาพมากขึ้นทุกที หันไปทางไหนก็เลยได้ยินแต่เสียงรำพึงรำพันถึงความเหนื่อยหน่าย อ่อนใจ

ช่วงนี้ใครเซ็งๆ อยากเปลี่ยนบรรยากาศ เตรียมตัวไปเชียร์ "ศึกยอดมวยรักเมืองไทย สานใจไทยสู่ใจใต้" ไอเดีย "ป๋าเปรม" วันที่ 8 มีนาคมนี้ แก้เซ็งไปพลางๆ ก่อนก็แล้วกัน

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act04240250&day=2007/02/24&sectionid=0130

**************************************************************


หนามยอกหนามบ่ง แนวทางดับไฟใต้


นอกจากนี้คงต้องทำความเข้าใจว่า การดำเนินการตามกฎหมายกับโจรก่อการร้ายโดยที่ไม่ใช่จับแพะหรือปราบแบบเหวี่ยงแหถือเป็นอำนาจอันชอบธรรมของรัฐโดยไม่ถือว่าเป็นการสร้างเงื่อนไขตกหลุมพรางโจร มิฉะนั้นประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่รัฐก็คงต้องตกเป็นเหยื่อถูกฆ่าอยู่ฝ่ายเดียวซ้ำซาก

 และไหนๆ ทางการก็ใช้ทุกวิธีดับไฟใต้แล้วแต่ก็ยังล้มเหลว

จึงอยากเสนอแผนหนามยอกเอาหนามบ่ง
นั่นคือเมื่อโจรรบนอกแบบ ทางการก็ต้องใช้วิธีรบนอกแบบตอบโต้ เมื่อโจร
ใช้การรบแบบจรยุทธ์ ทางการก็ต้องใช้การหน่วยรบจรยุทธ์สู้ และเมื่อโจร
แอบลอบกัดที่มืด ทางการก็ต้องจัดตั้งหน่วยใต้ดินเพื่อจัดการกับเป้าหมาย
ให้ได้อย่างแม่นยำ แต่ข้อสำคัญก็คือต้องกำหนดเป้าให้ชัดเพราะถ้ากำหนด
เป้าพลาดมีหวังบานปลายแน่



http://www.naewna.com/gotocolumn.asp?ID=51
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2007, 11:05 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 24-02-2007, 11:24 »

"หยุดการตาย เพื่อบัดพลี การสมานฉันท์ที่หลงทาง" 

โดยพลเอกหาญ ลีนานนท์ จากหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันพฤหสัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2550

เหตุการณ์รุนแรงในภาคใต้ ถ้าฝ่ายเราคือ กองกำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร ยังงงๆ และมึนๆ อยู่ ไม่รู้ว่าจะแก้ทางโจรอย่างไร อยากจะชี้ให้เห็นว่าโจรทำอะไรให้เกิดการสูญเสียแก่ฝ่ายเรา และเราก็มีวิธีแก้ไขได้มิต้องใช้ศาสตร์หรือกลยุทธ์ที่ลึกล้ำประการใดดังนี้

1. โจรติดอาวุธปืนสั้นหรือปืนพก อาวุธสงครามเอ็ม 16 หรืออาก้า เอ็ม 79 หรือเอ็ม 203 (เป็นปืนยาวมี 2 ลำกล้อง สคือลำกล้องบนเป็นเอ็ม 16 ลำกล้องล่างเป็นเอ็ม 79 หรือเครื่องยิงลูกระเบิด)

โจรเคลื่อนย้ายไปตามถนนด้วยรถจักรยานยนต์ ซ้อนท้ายเป็นหลัก โจรสามารถครองถนนทุกสายทั้งในเมือง นอกเมือง และถนนในสวนยาง จึงมีขีดความสามารถที่จะประกอบการก่อการร้ายได้หลายอย่าง เป็นต้นว่า เลือกฆ่าเหยื่อได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านน้ำชา นั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน หรือในสวนยาง สวนผลไม้ของตน เอาระเบิดไปวางไว้ ณ จุดที่จะสังหารเหยื่อทั้งระเบิดจริง และระเบิดปลอม เพื่อสร้างบรรยากาศที่หวาดกลัวและสับสนให้เกิดขึ้น เป็นการบ่อนทำลายการปกครองของรัฐ ว่าชนชั้นปกครองไม่สามารถคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ถูกปกครองได้

ตั้งแต่กลางปี 2549 เป็นต้นมา โจรใต้พัฒนาการใช้อาวุธ รถจักรยานยนต์ซ้อนท้าย (คนซ้อนท้ายเป็นมือปืน)มากขึ้น พร้อมทั้งความแม่นยำในการยิง โจรได้ปรับปรุงทีมจักรยานยนต์ล่าเหยื่อเพิ่มเป็น 2-3 คันต่อชุด (4-6คน) ทำให้มีอำนาจการยิงมากขึ้น ยิ่งกว่านั้นเป็นครั้งคราวที่โจรใช้รถกระบะ ถ้ามั่นใจในความปลอดภัย (รถกระบะไม่คล่องตัวเหมือนรถจักรยานยนต์) ทำให้อำนาจการยิงของโจรมีมากขึ้นหลายเท่า เมื่อใช้รถกระบะมือปืนบนรถจะใช้เอ็ม 16 สองถึงสามคน โจรจะเร่งเครื่องเทียบเหยื่อ แล้วสับไก เหยื่อถูกคมกระสุนร่างพรุนทุกราย

2. การ รปภ. ครู หรือข้าราชการท้องถิ่นที่ต้องเข้าไปทำงานในเมืองหรือนอกเมืองนั้น พูดง่ายๆ ก็คือ กำลัง รปภ. ฝ่ายเรา (ตำรวจหรือทหาร) แต่งตัวไปให้โจรฆ่า เพราะเครื่องแบบและยานพาหนะไม่เหมือนชาวบ้าน (รถฮัมวี่, รถเกราะตำรวจ) โจรไม่ต้องหาข่าวที่ไหน

**ทำไมผู้บังคับบัญชาของทหารและตำรวจ จึงไม่ใช้สมองคิดหาทางดำเนินการที่แยบยลทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชาไว้ ถ้าเป็นผู้นำหน่วยที่ฉลาดก็อาจพลิกแพลงการปฏิบัติ โดยใช้ชุดแต่งเครื่องแบบไปรับครูเพื่อล่อให้โจรซุ่มโจมตีตามแผน แต่ขณะเดียวกันก็อาจปล่อยชุดปฏิบัติการนอกถนนอีกชุดหนึ่งเคลื่อนที่ด้วยเท้านอกทาง เข้าสู่เป้าหมายก่อนสว่าง ชุดปฏิบัติการพิเศษนี้ต้องปฏิบัติตัวให้กลมกลืนไปกับชาวบ้านไม่สวมเครื่องแบบ ถ้าทำแบบนี้ต้องได้ตัวโจรที่ซุ่มกดระเบิดนอกถนนไป 50-100 เมตร (ได้ตัวเป็นๆ)



ข้อสังเกต เฉพาะปัญหาที่กล่าวมาแล้ว ใคร่สรุปไว้ตรงนี้ก่อนคือ ขณะนี้โจรมีเสรีในการเคลื่อนย้ายกำลังที่ใช้ประกอบอาชญากรรม ไม่ว่าจะไปถยิง ซุ่มยิง หรือซุ่มโจมตีด้วยกับระเบิด วางเพลิง(เผา) โจรครองถนนทุกสายทั้งในเมือง นอกเมือง หรือในสวนยาง และทำอยู่ทุกวัน แต่ทำไมกำลังฝ่ายเราไม่เคยตรวจจับ อาวุธและวัตถุอันตรายต่างๆ ที่โจรพกพาไปได้เลย สถานการณ์ปัจจุบันโจรพกอาวุธปืน เอ็ม16 หรืออาก้า ไปกับตัวอย่างย่ามใจ โดยมิได้หวั่นเกรงว่าจะถูกฝ่ายเราจับได้ โจรมีคลังแสงเถื่อนในหมู่บ้าน (แดง) จากการติดตามการใช้อาวุธและวัตถุระเบิดตามข่างเปิดในหนังสือพิมพ์ เมื่อรวมกับอาวุธที่โจรบยึดไปจากฝ่ายเราเป็นกอบเป็นกำ เมื่อวันปล้นค่ายทหารพัฒนาที่ 4 ที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทั้งเอ็ม 16 และ 11 มม.รวม 412 กระบอกและกระสุนอีก 2,000 นัด นอกจากนี้โจรยังมีปืนอาก้าอีกจำนวนหนึ่งที่โจรลำเลียงมาจากต่างประเทศทั้งทางบกและทางทะเล เมื่อรวมกับปืนลูกซองที่โจรยึดไปจาก ชรบ.หลายจุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา


สรุปแล้วโจรมีอาวุธสงครามประมาณ 1,500 กระบอกและปืนลูกซองอีกประมาณ 150-200 กระบอก อาวุธเหล่านี้กระจายไปอยู่ตามหมู่บ้านแดงต่างๆ ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทั้งอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัสดุทำระเบิดแสวงเครื่องต่างๆ เหล่านี้ จะฝังไว้ในรัศมี 200-300 เมตรรอบๆ หมู่บ้านแดง หรือซุกไว้ตามพงหญ้าใกล้บ้านเพื่อหยิบใช้ได้ง่าย จึงสามารถพูดได้ว่าโจรมีอาวุธ กระสุน และระเบิดแสวงเครื่องมากมาย โจรสามารถผลิตระเบิดแสวงเครื่องทำลายล้างแรงสูงได้ถึง 30 กิโลกรัม เพราะโจรมีผู้เชี่ยวชาญทางวัตถุระเบิดนอกจากครูฝึกต่างประเทศแล้ว โจรยังมีคนรือเสาะที่ได้ไปเรียนการผลิตวัตถุระเบิดแสวงเครื่องจากอินโดนีเชีย กลับมาอยู่ที่ อ.รือเสาะแล้วชื่อ"อินโดพาเมล" ในระหว่างศึกษาเป็นผู้หนึ่งที่ได้ร่วมวางแผนการทำลาย โรงแรมแมรีออท ที่เกาะบาหลี เมื่อ 12 ตุลาคม 2546 ทำให้คนต่างชาติตายหลายร้อยคน เป็นที่สังเกตได้ว่า การใช้ระเบิดแสวงเครื่องของโจรในระยะหลังๆ นี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ภัยในภาคใต้ที่คุกคามต่อฝ่ายเราทำให้ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ครุ ชาวบ้าน ทั้งพุทธ มุสลิม และพระเณร แม้แต่ผู้นำทางศาสนา(อิสลาม)ก็ต้องประสบการสูญเสียถึงแก่ชีวิตและบาดเจ็บเป็นรายวัน ยอดเสียชีวิตเกือบท่วมเลข 2,000 แล้ว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่รัฐบาลควรจะต้องมาสังคายนาแนวทางการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะแนวทางที่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้นั้นไม่มีประสิทธิภาพ และไม่ประสบความสำเร็จใดๆ ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วจนถึงปัจจุบัน
แล้วจะปล่อยให้สถานการณ์ตายรายวัน ดำรงอยู่ผลาญชีวิตคนใต้การปกครองของรัฐบาลนี้เป็นอยู่เช่นนี้เรื่อยๆ ไปเพื่อรอผลที่จะเกิดจากความสมานฉันท์อย่างนั้นหรือ จะรอไปอีกสักกี่ปี จะต้องตจายเพิ่มสักอีกเท่าไร เป็นคำถามที่หดหู่ใจเพราะรู้ว่าไม่มีคำตอบ

แต่สำหรับผู้เขียนนั้นมีคำตอบและได้แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน รัฐสภาไปแล้วเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2550 ตามที่ปรากฎอยู่ในหน้าหนังสือพิพม์หลายฉบับสในวันที่ 19 มกราคม 2550
ไม่ทราบว่าพี่น้องทหารหาญในกองทัพภาคที่ 4 คิดอะไรอยู่ในใจ อย่าลืมว่าควรมีสติและความรอบคอบ ขอให้ทบทวนภารกิจของทหาร(กองทัพ) กำลังทหารนั้นมีหน้าที่ทางการรบ และการพัฒนาประเทศ(รธน.ทุกฉบับเขียนไว้ การพัฒนาประเทศคืองานการเมือง) เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ และศาสนา
การสมานฉันท์นั้นเป็นยุทธศาสตร์การเมือง แต่การปฏิบัติการทางทหารทางยุทธวิธี ด้วยกลยุทธ์ที่ถูกต้อง จะทำให้โจรหยุดการฆ่าและการทำลายทีก่อให้เกิดการสูญเสียได้ทันทีในเวลาอันสั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติมิใช่หรือ อย่าลืมว่าความสำเร็จทางยุทธวิธีในตอนต้นนั้นย่อมนำไปสู่ความสำเร็จทางยุทธศาสตร์ในตอนท้ายในที่สุด

จึงใคร่ฝากข้อคิดท้ายบทความนี้ว่า อย่าให้แนวทางยุทธศาสตร์สมานฉันท์เป็นโซ่ตรวนที่ล่ามมือเท้าของกองกำลัง พตท.ของรัฐบาลให้หยุดนิ่งไม่กล้าปฏิบัติการทางทหารใดๆ การเมืองและการทหารนั้น เพื่อความสำเร็จของภารกิจที่เร่งด่วนที่เผชิญหน้าอยู่ทักวันนี้คือ ยุติการฆ่ารายวันให้จงได้

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่กำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) จะต้องรีบปฏิบัติการเชิงรุกทางการเมือง และการทหารทางยุทธวิธี เพื่อยุติการสูญเสียแก่ชีวิตของพี่น้องไทยทุกหมู่เหล่ามิให้เป็น "บัดพลีแก่การสมานฉันท์ที่หลงทางมาตลอด"

พลเอกหาญ ลีนานนท์
 
 
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #26 เมื่อ: 24-02-2007, 11:26 »

แล้วคุณรวงข้าวไม่นึกสงสัยหรอครับว่าทำไมพวกเขาถึงได้ฆ่าแบบไม่เลือกหน้าไม่ยอมหยุดแบบนั้นน้ำตาและความเจ็บปวดทางใจ ใช่สิ่งนี้หรอไม่คือสิ่งที่พวกเขาต้องการ ความคิดในการแบ่งแยกดินแดนนั้นมีแน่นอนไม่เถียงแต่ส่วนน้อยมากครับและพวกเขาไม่มีศักยภาพเพียงพอที่ประกาศแยกตัวหรอก เวลาคุณเห็นครู พระ ทหาร ตำรวจ ประชาชนโดนฆ่าคุณรวงข้าวรู้สึกเศร้าใจใช่มั้ยครับ แล้วในมุมกลับกันญาติพี่น้องไทยมุสลิมที่โดนรังแกพวกเขาก็รู้สึกไม่แตกต่างกันเลย ผมทำนายไว้เลยครับพวกเขาคงจะฆ่าไปเรื่อยๆแบบนี้แหละตราบใดที่ต้นตอของปัญหายังไม่ถูกแก้ ในสถานการณ์ตอนนี้อย่าว่าแต่คุณหญิงวิระยา ชวกุลเลยต่อให้คนสำคัญในวังลงไปใน 3 จังหวัดภาคใต้ก็อาจจะโดนสังหารเหมือนกัน คนเราถ้าไม่โกรธแค้นกันมากเขาคงไม่ทำถึงขนาดนี้หรอก การที่เขาแบบนี้แสดงว่าคงคับแค้นใจมาก
คุณลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดูบ้างแล้วจะเข้าใจ

5 ข้อที่ผมอ้างมาหากชนชั้นปกครองมันกล้าลงมือทำ แรงจูงใจในการก่อการมันก็จะหายไปมวลชนก็จะกลับมาอยู่เคียงข้างรัฐเอง
ชนชั้นปกครองไอ้พวกเวรนี่มันรู้ครับว่าปัญหาที่3 จว ใต้บานปลายทุกวันนี้มาจากอะไรแต่มันรู้แล้วไม่กล้าลงมือแก้เพราะฉะนั้นก็แดกลูกระเบิดของมุสลิมต่อไป


 
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 24-02-2007, 13:01 »

แล้วในมุมกลับกันญาติพี่น้องไทยมุสลิมที่โดนรังแกพวกเขาก็รู้สึกไม่แตกต่างกันเลย ผมทำนายไว้เลยครับพวกเขาคงจะฆ่าไปเรื่อยๆแบบนี้แหละตราบใดที่ต้นตอของปัญหายังไม่ถูกแก้

................................................................................

.............**  ถ้ามั่นใจว่า  มุสลิมถูกรังแกก่อนจึง
มีเหตุการณ์ป่วนใต้  ช่วยหาข้อมูล  ข้อเท็จจริงนี้ให้ดูทีเหอะ
ทุกอย่างมีที่มาที่ไป  ใช่  แต่มั่นใจนะว่ามุสลิมไม่ได้ถูกรังแก
ก่อน....


...อยากรู้เหมือนกันว่า  ใครทำร้ายใครก่อน
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
tom
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 156



« ตอบ #28 เมื่อ: 24-02-2007, 13:56 »

ไม่อยากแหย่เท้าเข้ามายุ่งเลย สาบาน

คนที่ถูกล้อมยิง ยังกับเป็นหมา ในมัสยิดกรือเซะ ยังไม่มีคนรับผิดชอบเลย
คนที่ถูกโยนขึ้นรถเหมือนเป็ดไก่ตอนตากใบ จนขาดใจตาย ก็ไม่มีใครว่าอะไร
มุสลิม ที่เคร่งครัดศาสนา ถูกตำรวจ ลากไปยิงทิ้ง เพราะ แค่สงสัยว่า เป็นคนร้าย เป็นพันๆ คนนะครับ
ไม่ต้องพูดถึง ทนายสมชาย ที่คน 65 ล้านคนทั้งประเทศไทยรู้เต็มอก ว่าตำรวจเอาไปฆ่า

แล้วก็มีหมาบ้า วันๆ ออกมาพล่ามมมมมม " ฆ่ามันนนนนนนนนน ฆ่ามันให้หมด.....ฆ่าาาาาาาาาาาาาาา"

จากเดิม ผู้ก่อการ ทำเพราะเกิดจากควา่มคับแค้น....ตอนนี้ พัฒนารูปแบบจนถึงขั้นใหนแล้ว.....เพราะอะไรครับ





บันทึกการเข้า
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #29 เมื่อ: 24-02-2007, 14:10 »

แล้วในมุมกลับกันญาติพี่น้องไทยมุสลิมที่โดนรังแกพวกเขาก็รู้สึกไม่แตกต่างกันเลย ผมทำนายไว้เลยครับพวกเขาคงจะฆ่าไปเรื่อยๆแบบนี้แหละตราบใดที่ต้นตอของปัญหายังไม่ถูกแก้

................................................................................

.............**  ถ้ามั่นใจว่า  มุสลิมถูกรังแกก่อนจึง
มีเหตุการณ์ป่วนใต้  ช่วยหาข้อมูล  ข้อเท็จจริงนี้ให้ดูทีเหอะ
ทุกอย่างมีที่มาที่ไป  ใช่  แต่มั่นใจนะว่ามุสลิมไม่ได้ถูกรังแก
ก่อน....


...อยากรู้เหมือนกันว่า  ใครทำร้ายใครก่อน


ถ้าคุณรวงข้าวศึกษาความเป็นมาของจังหวัดปัตตานีก็น่าจะรู้นะครับว่าใครเริ่มก่อน
แต่ผมจะไม่ย้อนไปถึงขั้นนั้นเอาแค่ 10 ปีให้หลังมานี่ก็พอ ทำไมก่อนหน้านั้นไทยพุทธกับไทยมุสลิมถึงอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
แล้ว 5 ปีหลังมานี่ทำไมการก่อเหตุถึงรุนแรงแบบเพิ่มทวีคูณฆ่าแบบไม่เลือกหน้าก็เพราะ 5 ข้อที่ผมยกมานั่นไงเป็นตัวเร่งจุดชนวน แนวคิดแบ่งแยกดินแดนมีแน่แต่ 100 คนจะมีไม่ถึง10คนที่มีแนวคิดแบบนี้
ซึ่งไอ้ 10 คนที่ว่านี้ก็ไม่มีศักยภาพพอที่จะก่อเหตุได้แบบทุกวันนี้หรอกเพราะมวลชนไม่หนุนหลัง
ทุกวันนี้ศัตรูมันไม่เคยเปิดเผยตัวเลยว่าคือใคร สัญลักษณ์ เป้าหมาย มันก็ไม่เปิดเผย มีผู้ร้ายแบ่งแยกดินแดนที่ไหนในโลกนี้เขาทำแบบนี้คุณรวงข้าวลองทบทวนคิดดีๆซิ
หยุดพูดเรื่องการตอบโต้ด้วยการฆ่าซะ หากเอ่ยชื่อเรื่องการฆ่าแล้วชาวไทยพุทธขี้ขลาดตาขาวไม่ได้ครึ่งขี้ตีนของมุสลิมหรอก
ผมยังยืนว่า 5 ข้อที่ยกนั้นหากชนชั้นปกครองมันยังทำเฉยไม่แก้ไขก็สมควรแล้วล่ะที่จะโดนลูกระเบิดของมุสลิมต่อไป





ไม่อยากแหย่เท้าเข้ามายุ่งเลย สาบาน

คนที่ถูกล้อมยิง ยังกับเป็นหมา ในมัสยิดกรือเซะ ยังไม่มีคนรับผิดชอบเลย
คนที่ถูกโยนขึ้นรถเหมือนเป็ดไก่ตอนตากใบ จนขาดใจตาย ก็ไม่มีใครว่าอะไร
มุสลิม ที่เคร่งครัดศาสนา ถูกตำรวจ ลากไปยิงทิ้ง เพราะ แค่สงสัยว่า เป็นคนร้าย เป็นพันๆ คนนะครับ
ไม่ต้องพูดถึง ทนายสมชาย ที่คน 65 ล้านคนทั้งประเทศไทยรู้เต็มอก ว่าตำรวจเอาไปฆ่า

แล้วก็มีหมาบ้า วันๆ ออกมาพล่ามมมมมม " ฆ่ามันนนนนนนนนน ฆ่ามันให้หมด.....ฆ่าาาาาาาาาาาาาาา"

จากเดิม ผู้ก่อการ ทำเพราะเกิดจากควา่มคับแค้น....ตอนนี้ พัฒนารูปแบบจนถึงขั้นใหนแล้ว.....เพราะอะไรครับ


ใช่ครับถ้าเราไม่ย้อนไปแก้ที่ต้นเหตุแล้วไฟใต้มันจะดับได้ไง ครู พระ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่ถูกฆ่าอยู่ตอนนี้มันแค่ปลายเหตุเท่านั้นส่วนตัวต้นเหตุตอนนี้ยังอยู่ดีกินดีสบายใจเฉิบแถมได้เลื่อนยศตำแหน่งกันมากมาย นี่หรือคือการแก้ปัญหาของไอ้พวกเวรชนชั้นปกครอง จงแดกลูกระเบิดต่อไปนะสมควรแล้ว
บันทึกการเข้า
katindork
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369


« ตอบ #30 เมื่อ: 24-02-2007, 15:00 »

ผมไม่มีข้อมูล อะไรที่จะมานั่งวิเคราะห์กันครับ

แล้วก็เหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่ ยังงงว่า  พวกแบ่งแยกดินแดนเป็นใคร  เห็นบอกมีแนวร่วมเป็นหมื่นแต่ทำอะไรไม่ได้


แต่รูปธรรมที่ออกเป็นข่าวออกมาคือ   ฆ่ากันทุกวัน  ระเบิดทุกวัน  ยิงกันทุกวัน  บั่นคอพระ  แม้กระทั่งคนขายไอติม

ตอนนี้  คนไม่รู้  ยังเข้าใจว่า ระเบิดมันอยู่ใกล้ตัวถึงในกรุงเทพแล้ว

 Sad Sad Sad Sad


คุณ skidato 
คุณอาจกล่าวได้ว่า  การกดขี่ข่มเหงได้เกิดขึ้นจนกลายเป็นสัญญลักษณ์ของการทวงคืนไปแล้ว  ตลอดจนเอาไปผูกกับการแบ่งแยกดินแดน




แต่ผมว่าคุณลืมไปว่า  เด็กหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในผู้ก่อการเขาโดนรังแกหรือถูกปลูกฝังในเรื่องแบ่งแยกดินแดนกันแน่ Undecided Undecided


แต่ที่แน่ๆ  เด็กหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่พวกแบ่งแยกดินแดน ตลอดจนคนที่อยู่ภาคอื่น  เขาก็รู้สึกว่าเขาโดนข่มเหงโดนเอาดินแดนไปเช่นกัน  ใครมันจะไปอ่านประวัติศาสตร์เท่าที่คุณว่ามาครับ



เด็กที่เป็นญาติ  เพื่อนพ้องลูกหลานของผู้วายชนน์ ใน3 จังหวัดนั้น  เขาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง  เพราะผู้ก่อการได้ฝังเมล็ดพันธุ์ืแห่งความแค้นเหมือนกัน

การกล่าวอ้างจำนวนคน 1.8 ล้านใน 3 จังหวัดนั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง  หากเทียบกับคนอีกหลายสิบล้านที่มีความคิดตรงข้าม






การวิเคราะห์ความไม่ยุติธรรมของผู้ก่อการในแง่คุณ skidato  มันเพียงพอหรือครับ  กับชีวิตที่ตายเป็นใบไม้ร่วงกับคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

มันไม่ทันหรอกครับ      กับชีวิตที่ตายเป็นผักปลาทุกวัน



การวิเคราะห์ถึงสาเหตุต้องควบคู่กับยุทธวิธีนะครับ 
ไม่ใช่ใช้เวลาบนหลุมศพที่พอกพูนขึ้นทุกวัน
 Crying or Very sad Crying or Very sad Crying or Very sad Crying or Very sad





หากวันนี้  ผู้ก่อการได้ตกผลึกความคิด  ที่คิดว่าการฆ่าคือความชอบธรรม   โดยไม่สนใจสาเหตุแล้ว


ในอนาคต  ลูกหลานหนุ่มสาวของคนไทยทั้งหลายเ้กิดตกผลึกความคิดในทางตรงข้ามบ้าง  แล้วฆ่า
คุณ skidato คงไปแปลงความคิดเขายากครับ




ปัญหานี้ด่วนที่สุดไม่ใช่มานั่งเพ้อถึงเรื่องความอยุติธรรมเสียแล้วครับ  เพราะการฆ่ากลายเป็นสัญญลักษณ์แห่งความยุติธรรมไปเสียแล้ว




รัฐบาลช้ามากครับ  ในการหยุดการฆ่า 
ไม่ว่าในเชิงลึกเชิงตื้น  จะติดขัดอะไรก็ตาม

แต่ผู้ก่อการเหล่านั้นได้หว่านโปรยเมล็ดพันธุ์ความเคียดแค้นลงในหัวใจคนไทยไปเสียแล้วเคียงคู่กับหลุมศพ

ดูง่ายๆแค่ในสังคม ไซเบอร์นี้ก็พอ
บันทึกการเข้า
katindork
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369


« ตอบ #31 เมื่อ: 24-02-2007, 15:11 »

ต้องขอออกตัวนิดนะครับ  สำหรับ คุณ skidato และคุณ  หูจิ่นเทา(ไม่รู้จะเรียกยังไงดี)  สำหรับความคิดของทั้งสองที่ผมเอามายำรวมกันแล้วตอบรวมๆ  สมองผมช้านะครับ

 Idea Idea Idea Idea
แค่กรณีของผม  ก็มีความนัยว่า  สังคมคนไทยทั่วไป ไม่ได้วิเคราะห์มากเหมือนคุณทั้ง สอง 
แล้วถ้า   ตกผลึกความคิด   แบบที่ผมว่าละก็เป็นเรื่องน่าเป็นห่วงมากครับ   เพราะทั้งสองฝ่ายคิดว่า  ไม่ได้ทั้งคู่
บันทึกการเข้า
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #32 เมื่อ: 24-02-2007, 15:24 »

อ้างถึง
แต่รูปธรรมที่ออกเป็นข่าวออกมาคือ   ฆ่ากันทุกวัน  ระเบิดทุกวัน  ยิงกันทุกวัน  บั่นคอพระ  แม้กระทั่งคนขายไอติม
ก็นั่นไงครับมันก็จะย้อนไปหา 5 ข้อที่ผมยกมา ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้
คุณไม่คิดบ้างหรือว่า ทำไมพวกเขาต้องฆ่า ก็เพราะ 5 ข้อที่ผมยกมานั่นแหละครับเป็นตัวเร่งชนวน



อ้างถึง
คุณอาจกล่าวได้ว่า  การกดขี่ข่มเหงได้เกิดขึ้นจนกลายเป็นสัญญลักษณ์ของการทวงคืนไปแล้ว  ตลอดจนเอาไปผูกกับการแบ่งแยกดินแดน




แต่ผมว่าคุณลืมไปว่า  เด็กหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในผู้ก่อการเขาโดนรังแกหรือถูกปลูกฝังในเรื่องแบ่งแยกดินแดนกันแน่ 


แต่ที่แน่ๆ  เด็กหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่พวกแบ่งแยกดินแดน ตลอดจนคนที่อยู่ภาคอื่น  เขาก็รู้สึกว่าเขาโดนข่มเหงโดนเอาดินแดนไปเช่นกัน  ใครมันจะไปอ่านประวัติศาสตร์เท่าที่คุณว่ามาครับ

นี่แสดงว่าคุณก็ไม่เข้าใจหลักการของมุสลิมอีกแล้ว คนพุทธโดนข่มเหงรังแกพุทธองสอนให้ใช้หลักเมตตา แต่ของอิสลามไม่ใช่แบบนั้นหลักการของอิสลามเปิดโอกาสให้ตอบโต้คนที่มาข่มเหงรังแกเขาได้แต่เพื่อป้องกันตัวเอง หนำซ้ำยังถือว่าเป็นความชอบธรรมด้วยซ้ำหากมุสลิมโดนรังแกแล้วสามารถตอบโต้เพื่อป้องกันตัวเองได้ ตรงนี้แหละที่ไอ้พวกผู้ก่อการที่มีจำนวนน้อยมันสามารถเจาะเข้ามาได้



อ้างถึง
การกล่าวอ้างจำนวนคน 1.8 ล้านใน 3 จังหวัดนั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง  หากเทียบกับคนอีกหลายสิบล้านที่มีความคิดตรงข้าม
ตรงนี้คุณก็ไม่เข้าใจอีก ตัวเลข 1.8 ล้านนะผมยกมาถามว่าถ้าคุณจะตอบโต้พวกเขาคุณฆ่าไหวหรอคนตั้ง 1.8 ล้านคน ใครเป็นศัตรูคุณยังดูไม่ออกเลย


ปัญหาภาคใต้ไม่จบง่ายๆหรอกครับตราบใดที่ชนชั้นปกครองมันยังทำหูหนวกตาบอดไม่ลงมือจัดการตัวก่อปัญหา

บันทึกการเข้า
katindork
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369


« ตอบ #33 เมื่อ: 24-02-2007, 15:50 »

ผมเข้าใจ ที่คุณ skidato  ว่ามาครับ

แต่ปัญหาใหญ่ที่ผมมองคือ    คนส่วนใหญ่ไม่ได้มาอยู่ในมุมเดียวกับคุณ skidato  นั่นแหละครับ

เรื่อง 1.8 ล้าน   ผมก็ดูไม่ออกครับใครเป็นใคร       มุสลิมที่โดนฆ่าก็มีเยอะ   แต่ภาพที่มันออกไปสู่สังคมคนไทยโดยทั่วไปนี่  คุณskidato  จะไปอธิบายได้ทั่วหรือครับ


 Sad Sad

ผมไม่อยากให้เอาเรื่องจำนวนมาพูด   เพราะทักษิณมันก็เคยอ้าง 19 ล้านครับ 
คนที่ไม่ชั่งใจมันคล้อยตามครับ  แบ่งกันเห็นๆ Frown


ควรออกมาแบ่งในเรื่องคนทั่วไปกับคนก่อการมากกว่า

 Sad Sad Sad Sad
เรื่องศาสนาเมื่อคนทำตามไม่ได้   ผมคิดว่าไม่ต่างกันหรอกครับ 
ไม่ว่าพุทธไม่ว่าอิสลาม   

คนไทยพุทธสมัยนี้มีสักกี่คนที่เคารพพุทธนอกจากเอาเปลือกกระพี้ออกมา   เช่นเดียวกับมุสลิมที่เอาเปลือกและกระพี้ออกมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการฆ่า


เขาถึงพยายามรณรงค์ให้แยกเรื่องศาสนาออกนะครับ   แต่ความจริงที่ออกสู่สังคม   มีเรื่องของครูสอนศาสนากับโรงเรียนสอนศาสนา  มาเกี่ยวข้อง  สังคนมุสลิมถึงได้หนักใจอยู่ใช่ไหมครับ

ในด้านเดียวกันหากคนไทยทั่วไปก่อการกลับ   คนอื่นก็ต้องมองว่าพุทธไปกระทำเหมือนกัน

ผมจึงมองว่า  การวิเคราะห์โดยนั่งอยู่บนหลุมศพทุกวัน   มันไม่ทันครับ




รัฐบาลต้องใจแข็งที่จะเอาอะไรมาเป็นหลักในการระงับการฆ่าครับ   


เพราะคนอีกมุมเขารออยู่ด้วยความกระวนกระวาย
บันทึกการเข้า
skidato
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 348



« ตอบ #34 เมื่อ: 24-02-2007, 16:11 »

อ้างถึง
เรื่องศาสนาเมื่อคนทำตามไม่ได้   ผมคิดว่าไม่ต่างกันหรอกครับ 
ไม่ว่าพุทธไม่ว่าอิสลาม   

คนไทยพุทธสมัยนี้มีสักกี่คนที่เคารพพุทธนอกจากเอาเปลือกกระพี้ออกมา   เช่นเดียวกับมุสลิมที่เอาเปลือกและกระพี้ออกมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการฆ่า


เขาถึงพยายามรณรงค์ให้แยกเรื่องศาสนาออกนะครับ   แต่ความจริงที่ออกสู่สังคม   มีเรื่องของครูสอนศาสนากับโรงเรียนสอนศาสนา  มาเกี่ยวข้อง  สังคนมุสลิมถึงได้หนักใจอยู่ใช่ไหมครับ

ถ้าคุณไปแยกเรื่องศาสนาออกนี่ยิ่งฆ่ากันไปใหญ่เลยละครับ เพราะหลักการของอิสลามกับพุทธมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ของพุทธอาจจะแยกเป็นฝ่ายศาสนจักรกับราชอาณาจักรไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ของอิสลามไม่ใช่แบบนั้นครับหลักการของอิสลามมันรวมอยู่ด้วยกันเลยทั้งศาสนาและการปกครองแยกไม่ได้
คุณไปแยกก็เหมือนกับไปเปลี่ยนแปลงคำสอนของเขานั่นยิ่งเท่ากับเติมเชื้อลงไปอย่างดีเลยละครับ

เอาแค่ไปทำตาม 5 ข้อที่ผมยกมาให้ได้แค่นั้นพอครับ เดี๋ยวพวกที่ก่อการอยู่ตอนนี้มันก็จะกลับไปบ้านของมันเองแหละ
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #35 เมื่อ: 24-02-2007, 16:50 »

ถ้าคุณไปแยกเรื่องศาสนาออกนี่ยิ่งฆ่ากันไปใหญ่เลยละครับ เพราะหลักการของอิสลามกับพุทธมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ของพุทธอาจจะแยกเป็นฝ่ายศาสนจักรกับราชอาณาจักรไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ของอิสลามไม่ใช่แบบนั้นครับหลักการของอิสลามมันรวมอยู่ด้วยกันเลยทั้งศาสนาและการปกครองแยกไม่ได้
คุณไปแยกก็เหมือนกับไปเปลี่ยนแปลงคำสอนของเขานั่นยิ่งเท่ากับเติมเชื้อลงไปอย่างดีเลยละครับ

เอาแค่ไปทำตาม 5 ข้อที่ผมยกมาให้ได้แค่นั้นพอครับ เดี๋ยวพวกที่ก่อการอยู่ตอนนี้มันก็จะกลับไปบ้านของมันเองแหละ


จริง
บันทึกการเข้า

cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #36 เมื่อ: 24-02-2007, 20:23 »

ถ้าคุณไปแยกเรื่องศาสนาออกนี่ยิ่งฆ่ากันไปใหญ่เลยละครับ เพราะหลักการของอิสลามกับพุทธมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ของพุทธอาจจะแยกเป็นฝ่ายศาสนจักรกับราชอาณาจักรไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ของอิสลามไม่ใช่แบบนั้นครับหลักการของอิสลามมันรวมอยู่ด้วยกันเลยทั้งศาสนาและการปกครองแยกไม่ได้
คุณไปแยกก็เหมือนกับไปเปลี่ยนแปลงคำสอนของเขานั่นยิ่งเท่ากับเติมเชื้อลงไปอย่างดีเลยละครับ

เอาแค่ไปทำตาม 5 ข้อที่ผมยกมาให้ได้แค่นั้นพอครับ เดี๋ยวพวกที่ก่อการอยู่ตอนนี้มันก็จะกลับไปบ้านของมันเองแหละ


จริง

จริงที่สุด
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 24-02-2007, 20:27 »

ถ้าคุณไปแยกเรื่องศาสนาออกนี่ยิ่งฆ่ากันไปใหญ่เลยละครับ เพราะหลักการของอิสลามกับพุทธมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ของพุทธอาจจะแยกเป็นฝ่ายศาสนจักรกับราชอาณาจักรไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ของอิสลามไม่ใช่แบบนั้นครับหลักการของอิสลามมันรวมอยู่ด้วยกันเลยทั้งศาสนาและการปกครองแยกไม่ได้
คุณไปแยกก็เหมือนกับไปเปลี่ยนแปลงคำสอนของเขานั่นยิ่งเท่ากับเติมเชื้อลงไปอย่างดีเลยละครับ

เอาแค่ไปทำตาม 5 ข้อที่ผมยกมาให้ได้แค่นั้นพอครับ เดี๋ยวพวกที่ก่อการอยู่ตอนนี้มันก็จะกลับไปบ้านของมันเองแหละ


จริง

จริงที่สุด

จริงกว่า
บันทึกการเข้า

cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #38 เมื่อ: 24-02-2007, 20:31 »

ถ้าคุณไปแยกเรื่องศาสนาออกนี่ยิ่งฆ่ากันไปใหญ่เลยละครับ เพราะหลักการของอิสลามกับพุทธมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ของพุทธอาจจะแยกเป็นฝ่ายศาสนจักรกับราชอาณาจักรไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ของอิสลามไม่ใช่แบบนั้นครับหลักการของอิสลามมันรวมอยู่ด้วยกันเลยทั้งศาสนาและการปกครองแยกไม่ได้
คุณไปแยกก็เหมือนกับไปเปลี่ยนแปลงคำสอนของเขานั่นยิ่งเท่ากับเติมเชื้อลงไปอย่างดีเลยละครับ

เอาแค่ไปทำตาม 5 ข้อที่ผมยกมาให้ได้แค่นั้นพอครับ เดี๋ยวพวกที่ก่อการอยู่ตอนนี้มันก็จะกลับไปบ้านของมันเองแหละ


จริง

จริงที่สุด

จริงกว่า

จริงยิ่งกว่าจริง

จะโดนยึดล็อกอินทั้งสองคนก็เพราะ ฟลัดกระทู้จริง นี่ละมั้ง
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 24-02-2007, 20:34 »

ถ้าคุณไปแยกเรื่องศาสนาออกนี่ยิ่งฆ่ากันไปใหญ่เลยละครับ เพราะหลักการของอิสลามกับพุทธมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ของพุทธอาจจะแยกเป็นฝ่ายศาสนจักรกับราชอาณาจักรไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ของอิสลามไม่ใช่แบบนั้นครับหลักการของอิสลามมันรวมอยู่ด้วยกันเลยทั้งศาสนาและการปกครองแยกไม่ได้
คุณไปแยกก็เหมือนกับไปเปลี่ยนแปลงคำสอนของเขานั่นยิ่งเท่ากับเติมเชื้อลงไปอย่างดีเลยละครับ

เอาแค่ไปทำตาม 5 ข้อที่ผมยกมาให้ได้แค่นั้นพอครับ เดี๋ยวพวกที่ก่อการอยู่ตอนนี้มันก็จะกลับไปบ้านของมันเองแหละ


จริง

จริงที่สุด

จริงกว่า

จริงยิ่งกว่าจริง

จะโดนยึดล็อกอินทั้งสองคนก็เพราะ ฟลัดกระทู้จริง นี่ละมั้ง

จริง...โคตรจะ[size=100pt]จริง[/size]

ม็อดเล่นด้วย (แอดมินริดกุนเล่นตรูมั้ยฟระ  )
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #40 เมื่อ: 24-02-2007, 22:46 »

ถ้าคุณไปแยกเรื่องศาสนาออกนี่ยิ่งฆ่ากันไปใหญ่เลยละครับ เพราะหลักการของอิสลามกับพุทธมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ของพุทธอาจจะแยกเป็นฝ่ายศาสนจักรกับราชอาณาจักรไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ของอิสลามไม่ใช่แบบนั้นครับหลักการของอิสลามมันรวมอยู่ด้วยกันเลยทั้งศาสนาและการปกครองแยกไม่ได้
คุณไปแยกก็เหมือนกับไปเปลี่ยนแปลงคำสอนของเขานั่นยิ่งเท่ากับเติมเชื้อลงไปอย่างดีเลยละครับ

เอาแค่ไปทำตาม 5 ข้อที่ผมยกมาให้ได้แค่นั้นพอครับ เดี๋ยวพวกที่ก่อการอยู่ตอนนี้มันก็จะกลับไปบ้านของมันเองแหละ


จริง

จริงที่สุด

จริงกว่า

จริงยิ่งกว่าจริง

จะโดนยึดล็อกอินทั้งสองคนก็เพราะ ฟลัดกระทู้จริง นี่ละมั้ง

จริง...โคตรจะ[size=100pt]จริง[/size]

ม็อดเล่นด้วย (แอดมินริดกุนเล่นตรูมั้ยฟระ  )
supperจริง
พี่ริดคุงอย่ายึดล็อกอินนะ ... แบบว่าไม่มีที่ไปแล้ว 
บันทึกการเข้า
katindork
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 369


« ตอบ #41 เมื่อ: 25-02-2007, 13:11 »

5555  เอิ๊ก

ความจริงว่าจะเข้ามาอธิบายว่า   โดยทั่วไปพยายามมีคนรณรงค์ให้แยกเรื่องศาสนาออกจากเหตุการณ์วุ่นวายในภาคใต้  เพื่อไม่ให้มีข้อหมางใจกัน



แต่เห็นแค่นี้ก็บายใจแล้ว

จุ๊ๆๆ 
จริงครับ
บันทึกการเข้า
Iona
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 271


« ตอบ #42 เมื่อ: 25-02-2007, 15:48 »

อีกข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคใต้ ของเนชั่นสุดสัปดาห์

นี่คือคำประกาศ 'ขบวนการแบ่งแยกดินแดนตัวจริง'

เริ่มชี้แจงแถลงไขถึงวัตถุประสงค์ในการต่อสู้ ต่อต้าน รวมถึงปฏิเสธการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมต่างๆ  ว่าไม่ใช่ของกลุ่มตน แต่เป็นของกลุ่มมือที่สามที่ต้องการสร้างสถานการณ์วุ่นวาย

 หมายถึงมีอีกกลุ่มร่วมวงป่วนใต้และใช้วิธีรุนแรง***มโหดและทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้เกิดเหตุร้ายรายวันเท่านั้น โดยไม่เปิดเผยเจตนารมณ์ที่แท้จริงของตนเอง วันนี้ข่าวลือที่พูดคุยกันในหมู่บ้าน คือ ประเด็น ขบวนการแบ่งแยกดินแดนตัวจริง กับ ตัวปลอม จึงต้องมีการประกาศจุดยืนในการต่อสู้และคำประกาศนั้น คือ...

 หนึ่ง - นับแต่นี้ไปการปฏิบัติการของตัวจริง จะไม่มีการทำร้ายบุคคลแต่จะกระทำต่อคู่สงครามเท่านั้น เช่น ทหาร ตำรวจ ด้วยระเบิด และหากมีปฏิบัติการณ์ใดที่เกี่ยวกับการลอบยิงลอบฆ่าบุคคลธรรมดารายวันนั้น ถือว่าเป็นของตัวปลอม

 สอง - การเจรจาใดๆ หากจะเกิดขึ้นจากบรรดานักค้าไฟใต้ที่ฉวยโอกาส ที่ไม่รู้ใครเป็นใคร หัวอยู่ไหนหางอยู่ไหน เดินเข้าออกทั้งทางไทยและทางมาเลย์ สวมรอยเป็นขบวนการฯ เพื่อเจรจา ก็จะมีปฏิบัติการสั่งสอนให้เสียหน้า ให้เห็นโฉมตัวปลอมกันชัดๆ

 สาม - นับแต่นี้ ขบวนการฯ ประกาศปิดประตูเจรจาทุกสายทุกฝ่ายทั้งมาเลย์และไทย เพื่อสลัดให้หลุดพ้นไปจากขบวนการฯเจรจาหาเงิน

 สี่ - การเคลื่อนไหวต่อไปของขบวนการฯตัวจริงจะต้องเป็นที่ยอมรับอย่างจริงจังจากมวลชนเสียก่อน แผนบันไดกี่ขั้นกี่ตอนนั้นจะต้องสุกงอม และเป็นไปตามขั้นตอนจริงๆ ไม่ใช่กระโดดข้ามไปข้ามมาอย่างที่ผ่านมา

 ห้า - ขบวนการฯ จะปรับเปลี่ยนบางอย่าง ซึ่งจะเรียกว่าช่วง 'ปลูกแซม' และ 'คัดแยก' เพื่อให้บุคลากรขององค์กรสามารถเป็นที่ไว้วางใจและเชื่อถือของประชาชน และเปลี่ยนถ่ายอำนาจทางสังคมโดยธรรมชาติก่อนการเปลี่ยนแปลงด้วยกำลัง นั่นหมายถึงฝ่ายขบวนการฯจะต้องช่วงชิงกลุ่มปัญญาชนหรือฝ่ายก้าวหน้าในหมู่บ้านให้กลับมาอยู่กับตนเสียก่อน

http://www.nationweekend.com/2007/02/23/NO10_104_news.php?newsid=237

ความเห็นส่วนตัวก็เชื่อว่า กลุ่มก็ลอบยิงวางระเบิดและทำร้ายแบบสุ่ม ไม่มีความชัดเจนเรื่องแบ่งแยกดินแดนหรือศาสนา ดูเหมือนสร้างกระแสการเมืองมากกว่า
เพราะ ถ้าเป็นกลุ่มเพื่ออุดมการ์ใดอุดมการ์หนึ่งเค้ามักจะมีหลักการและหลักเกณฑ์ ชัดเจนว่า ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เพื่ออะไร ต้องการให้เกิดสิ่งใดขึ้นจากการกระทำครั้งนั้น ทำไปแล้วผลที่สะท้อนกลับมาตรงกับวัถตุประสงค์หรือไม่
ส่วนกลุ่มหาเงินจากองค์กรเพื่ออุดมการ์ใดอุดมการ์หนึ่ง เค้าก็จะต้องปฏิบัติการให้ตรงกับความต้องการของ อุดมการณ์นั้นๆจึงจะได้รับผลตอบแทน
บันทึกการเข้า

เงินงบประมาณของประเทศที่นำไปใช้จ่ายต่างๆ มาจาก การจัดเก็บภาษีที่เราประชาชนคนไทยทุกคนต้องจ่ายกันอยู่แล้วทั้งจากภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อม(vet 7) (ขอย้ำว่าทุกคนเพราะเมื่อเราได้ซื้อสินค้าใดๆ สินค้านั้นยอมมีต้นทุนมาจากการเสียภาษีแล้ว) หรือจากการจัดเก็บจากทรัพย์สินส่วนรวมของคนไทยทุกคนที่เกิดบนแผ่นดินที่บรรพบุรุษของเราปกป้องรักษา ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดิน แผ่นน้ำ ใต้แผ่นดิน ใต้แผ่นน้ำ ท้องฟ้า อวกาศ

เงินงบประมาณของประเทศ ไม่ได้มาจากเงินของคนใดคนหนึ่งหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่มีใครสมควรอย่างยิ่งที่จะแอบอ้างว่าเงินนี้เป็นของตนนำมาแจกจ่าย การแอบอ้างนั้น เป็นการกระทำที่ไร้จริยธรรม และไม่ยุติธรรมต่อความรู้ของทุกๆคนในประเทศที่ต้องเสียภาษี

อย่าโทษหรือด่าว่า คนที่เค้าไม่มีโอกาศเข้าถึงข่าวสารข้อมูล ปัญหาจะแก้ได้คือ ทำอย่างไรให้เค้าเหล่านั้น ได้เข้าถึงข่าวสารข้อมูล

หลอกคนไทยตลอดไป คิดว่าหลอกได้หรือ? รัฐบาลของทักษิณ

เป็นเรื่องแปลก...สิ่งที่คนโกงกลัวที่สุดคือ ....ไม่ได้มีชีวิตเพื่อใช้เงินที่โกงมา? ประวัติศาสตร์โลกมีให้เห็น
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #43 เมื่อ: 25-02-2007, 17:16 »

ปัญหาคือทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมเป็นเหยื่อทั้งคู่
หากทางการไทยรู้ตัวว่าใครเป็นใคร ใครบงการ ใครลงมือทำ ใครอยู่เบื้องหลัง ป่านนี้เขาก็น่าจะจัดการไปเรียบร้อยแล้วครับ
ปัญหาคือ ทางการไทยไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร ใครบงการ ใครลงมือทำ ใครอยู่เบื้องหลัง
ไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือไม่ หากทางการไทยรู้ตัว ก็น่าจะจัดการตามกฏหมายได้อยู่แล้ว ไม่ต้องลงไปตั้งทีมไล่ยิงหรอกครับ ปัญหาคือไม่รู้ว่าใครมากกว่า
แล้วที่มันน่าประหลาดใจมากไปกว่านั้นก็คือ ทำไมทางการไทยถึงไม่รู้ตัวเลย เป็นไปได้ยังไง
แล้วพวกคุณไม่สงสัยกันบ้างเลยเหรอ
 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: