http://www.komchadluek.net/news/2004/12-27/p1-15896623.htmlจับผิดตัวสาวปินส์ ฉกกระเป๋า 'หญิงอ้อ' ตร.ไล่ล่าหัวหน้าแก๊ง
ตำรวจนครบาล ประชุมเครียดตามงานหาทางคลี่คลายคดี กรณีนางเสือร้ายดอดฉกกระเป๋า "หลุยส์วิตตอง" ของ "คุณหญิงอ้อ" ภริยานายกรัฐมนตรี ในร้านกาแฟห้างดัง กรุงเทพฯ เผยได้ภาพสเก็ตช์คนร้าย พร้อมนำภาพจากโทรทัศน์วงจรปิดจากห้างและรถไฟฟ้าบีทีเอสเอาไปตรวจสอบมั่นใจจับไม่ผิดตัวแน่ เชื่อคนร้ายทำงานเป็นทีม ขณะรายงานล่าสุดแจ้งว่าสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้แล้ว
หลังเกิดเหตุสาวต่างชาติดอดฉกกระเป๋าคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยานายกรัฐมนตรี ในร้านกาแฟ ห้างดิ เอ็มโพเรี่ยม เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม จนตำรวจนครบาลต้องระดมกำลังและสายสืบออกควานหาตัวมาดำเนินคดี แม้ในช่วงเช้าวันที่ 26 ธันวาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะกล่าวด้วยท่าทียิ้มแย้มแจ่มใส ว่า "ถือเป็นการฟาดเคราะห์" ก็ตาม
เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.ปานศิริ ประภาวัต ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรัมพร สุรมณี รอง ผบช.น. ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ กก.สส.น..5 และกองบังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 โดยมี พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุรพงศ์ ศิริภักดี รอง ผบก.สปท. 191 และพ.ต.อ.พิสิฐ โปรยรุ่งโรจน์ ผกก.สตร. เข้าร่วมประชุม
หลังการประชุมเครียดผ่านไป 1 ชั่วโมง พล.ต.ท.ปานศิริ ประภาวัต เปิดเผยว่า เป็นการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทางส่วนตำรวจท้องที่ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.โกสินทร์ เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วน พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. ฝ่ายสืบสวน ให้คอยอำนวยการอยู่ในพื้นที่ ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกภาพสเก็ตช์หญิงสาวชาวฟิลิปปินส์ที่พยานให้การว่า เป็นคนร้ายที่ลงมือได้แล้ว เป็นหญิงอายุประมาณ 20-25 ปี ผิวดำ รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 165 เซนติเมตร พูดภาษาอังกฤษสำเนียงเอเชีย ขณะเกิดเหตุใส่สื้อยืดรัดรูปแขนสั้น กางเกงยีนขายาว ไม่แต่งหน้า และสะพายกระเป๋ายี่ห้อหลุยส์วิตตองขนาดใหญ่สีน้ำตาล
พล.ต.ท.ปานศิริ กล่าวว่า พฤติการณ์คือ หญิงดังกล่าวได้เข้าไปนั่งที่ร้านกาแฟเยื้องกับโต๊ะคุณหญิง ระหว่างเกิดเหตุคุณหญิงได้ลุกไปห้องน้ำและได้วางผ้าคลุมตักปิดกระเป๋าไว้ เมื่อคนร้ายสบโอกาสได้หยิบกระเป๋าของคุณหญิงใส่กระเป๋าหลุยส์ เดินออกไป พร้อมทรัพย์สินในกระเป๋ามีทั้งบัตรเครดิต เครื่องประดับ และเงินสด โดยเฉพาะเงินสดทราบว่ามีจำนวนไม่มากนัก ลักษณะการก่อการคาดว่า เป็นมืออาชีพทำงานกันเป็นทีม ซึ่งทางตำรวจมีเป้าหมายในการทำงานแล้ว พร้อมส่งภาพสเก็ตช์ของคนร้าย ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณดังกล่าว ไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และกองปราบปราม ให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
พล.ต.ท.ปานศิริ กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่ต้องการเข้าไปดูภาพคนร้ายสามารถเปิดอินเทอร์เน็ต
www.thaispypolice.com นอกจากจะให้ตำรวจพื้นที่ดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว ยังให้ กก.ส.บก.น.1 และ กก.สส.บก.น.5 และ 191 ร่วมทำการสืบสวน โดยนำภาพที่ปรากฏในทีวีวงจรปิด ตำรวจจากห้องและสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ไปตรวจสอบโดยละเอียด เฉพาะใน ดิ เอ็มโพเรี่ยมก็มีประตูเข้าออกถึง 9 จุดแล้ว และมั่นใจว่าเป้าหมายเราติดตามไม่พลาดแน่ และจากการสอบถาม พ.ต.อ.ธงชัย วงศ์ศรีวัฒนกุล ผกก.สน.ทองหล่อ ก็ทราบว่าเพิ่งมีคดีลักษณะนี้มีเป็นรายแรก ในรอบ 3 เดือน
ผบช.น. กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่เป็นช่วงเทศกาลแห่งการจับจ่ายในห้างสรรพสินค้าทั่วกรุง ได้กำชับให้สายตรวจ 191 เสริมกำลังตำรวจท้องที่โดยเฉพาะแหล่งชอปปิ้งชื่อดัง และให้ฝ่ายสืบสวนประสานกับหน่วยรักษาความปลอดภัยเพื่อให้มีมาตรการเข้มข้นขึ้น โดยหากเกิดเหตุการณ์ลักทรัพย์ในห้างให้รีบปิดประตูทันทีหลังเกิดเหตุ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชอปปิ้งและถือกระเป๋าของมีค่าติดตัวมากให้วางไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา ซึ่งเราได้เตือนภัยกันมาตั้งแต่สนามบินแล้ว เวลานี้ตำรวจนครบาลได้ทุ่มกำลังถึง 18,000 คนดูแลความปลอดภัยตามศูนย์การค้าและแหล่งท่องเที่ยว
ทางด้าน พ.ต.อ พิสิฐ โปรยรุ่งโรจน์ ผกก.สตร. กล่าวว่า เมื่อคืนหลังทราบเหตุได้ส่งกำลังสายตรวจเข้าไปดูตั้งแต่ห้างดิ เอ็มโพเรี่ยมจนถึงศูนย์การค้าโซโก้ แต่ก็ยังไม่พบวี่แววของคนร้าย นอกจากนี้ยังสั่งให้กำลังสายตรวจเปิดถังขยะทั่วกรุงเทพฯ ดูว่า คนร้ายได้นำกระเป๋าของคุณหญิงไปทิ้งหรือไม่ ซึ่งช่วงนี้ได้สั่งสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้าตรวจตามห้างสรรพสินค้าทุกแห่งเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดซ้ำซ้อนขึ้นอีก