****
คุณสมคิด ไม่คิดคัดค้านนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา หรือคัดค้านแล้วไม่เป็นผล ประเด็นนี้น่าคิด
ถ้าไม่คัดค้าน ทำไมถึงทำงานไม่เข้าขากับอดีตท่านนายกล่ะ และช่วงหลังทำท่าจะลาออกด้วยซ้ำ-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แนวคิด "เศรษฐกิจพอเพียง
หัวใจแห่งการสร้างชาติ" ของสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในครั้งนี้ กำลังถูกจับตามองว่า นายสมคิดเคยอยู่ในรัฐบาลที่สนับสนุนนโยบายประชานิยมมาตลอด ทำไมกลับตัวได้รวดเร็วขนาดนี้ โครงการกองทุนหมู่บ้าน โครงการกองทุนเอสเอ็มแอล หรือโครงการสารพัดประชานิยมต่างๆ ฯลฯ นั้น ทำไม "สมคิด" ไม่ติติง คัดค้าน ทั้งๆ ที่มันสวนทางกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเห็นได้ชัด
"รัฐบาลทักษิณประกาศโครงการต่างๆ ออกมา ทำไมไม่คัดค้านหรือแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างจริงจังให้สังคมได้เห็น ทำไมไม่ติติงการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกให้กับประเทศพม่าเพื่อพัฒนาเรื่องโทรคมนาคม ทำไมไม่นำเรื่องเขตการค้าเสรีเข้าสภาผู้แทนราษฎร ทำไมปล่อยให้นำ ปตท.และ กฟผ.เข้าตลาดหุ้นโดยมิชอบ" เป็นเสียงท้วงติงจากนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคชาติ พร้อมตั้งข้อสังเกตอีกว่า
ยังมีอีกหลายโครงการที่นายสมคิดไม่ได้คัดค้านว่ามันไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง เช่นเรื่อง อีลิทการ์ด หรือแม้กระทั่งแนวคิดซื้อสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล การพัฒนาเกาะกูด เกาะช้าง รวมถึงโครงการใช้งบประมาณแบบบูรณาการที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งนายสมคิดจะปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่รู้ไม่เห็นในโครงการเหล่านั้น
อย่าลืมว่าตลอด 5 ปีของรัฐบาลทักษิณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คือขุนพลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่มีทั้งการออกไปโรดโชว์ในต่างประเทศเพื่อเชิญชวนนักลงทุนและนักท่องเที่ยว การแสดงปาฐกถา การบรรยายพิเศษต่างๆ เพื่อสนับสนุนแนวคิดทฤษฎีทักษิโณมิกส์ของรัฐบาลขณะนั้น โดยไม่ใส่ใจที่จะนำแนวคิดหรือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้แต่อย่างใด ทั้งๆ ที่มีโอกาส
ณ วันนี้ หลายฝ่ายกำลังเฝ้าจับตามองการเคลื่อนไหวของ "สมคิด" ว่ามีเป้าหมายอยู่ที่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 หรือไม่ และสังคมกำลังสับสนว่าเขาได้สลัดคราบทิ้ง "ทักษิโณมิกส์" ออกไปจนสะอาดหมดจดหรือยัง และหากจะลงสู่สนามการเมือง ก็จงเตรียมพร้อมที่จะถูกตรวจสอบได้ตลอดเวลา
หรือว่า "สมคิด" พร้อมชิงเก้าอี้นายกฯคนที่ 25 แล้ว?
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act04160250&day=2007/02/16§ionid=0130---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
** โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน การแต่งตั้งคุณสมคิด
ครั้งนี้ไม่ธรรมดาหรอก เพียงแค่ต้อง บวก ลบ คูณ
หาร เท่านั้นเอง แล้วถามตัวเราดูว่า ถ้าเราเป็นนายก ณ วินาทีนี้
เราจะตัดสินใจ เรื่องนี้อย่างไรที่ให้ทันเกมการเมือง-------------------------------------------------------------------------------
บันทึกหน้า 4 ประกายไฟ
16 กุมภาพันธ์ 2550 กองบรรณาธิการ
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด ตั้งปุจฉากันไปทั่วว่า มางัย? ไปงัย? สำหรับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้เป็น
ประธานคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ มีหน้าที่สร้างความสัมพันธ์ทางด้าน
เศรษฐกิจกับนานาประเทศ ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวนโยบายเศรษฐกิจไทย
ซึ่งยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีอำนาจเรียกข้าราชการและภาคเอกชนมาชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงได้ด้วย นายกฯ สุรยุทธ์
เซ็นคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 14 กุมภาฯ ก่อนที่ นายสมคิด จะไปปาฐกถาเรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง : หัวใจแห่งการสร้างชาติ"
ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุกิจ ศศินทร์ เช้าวันที่ 15 กุมภาฯ จึงไม่ใช่ความบังเอิญ หรือเป็นเรื่องที่นายสมคิดสมัครใจมาช่วย
รัฐบาลอย่างที่นายกฯ สุรยุทธ์ชี้แจง แต่ที่มาและที่จะไปของ สมคิด ครั้งนี้ ย่อมมีนัยทางการเมืองน่าจับตา...๐
สำหรับ สมคิด เขาคืออดีตรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็น ขุนพลเศรษฐกิจ ของ ระบอบ
ทักษิโณมิกส์ ช่วงปลายรัฐบาลทักษิณที่ถูกประชาชนเดินขบวนขับไล่ เขาเป็น 1 ใน 6 รัฐมนตรีที่สุมหัวกันในร้านอารหารอิตาเลียน
ย่านหลังสวน แล้วลงความเห็นเสนอให้ ทักษิณเว้นวรรคทางการเมือง และดันก้นให้ สมคิด รับตำแหน่งนายกฯ แทน แต่ ทักษิณ
ไม่ยอม หลังการรัฐประหาร 19 กันยาฯ สมคิด เก็บตัวเงียบบอกว่าจะให้เวลากับครอบครัวและอาจไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือ
ต่อมามีข่าวว่าได้รับปากกับ สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยม หรือ กลุ่มมัชฌิมา จะมานั่งหัวหน้าพรรคการเมืองที่จะร่วมกัน
ตั้งขึ้นมาใหม่ แม้ สมคิด ยังไม่ยอมรับต่อสาธารณะตรงๆ แต่ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ กับ วีระชัย วีระเมธีกุล คนสนิท ก็เข้าไปช่วย
ร่างนโยบายให้กับ กลุ่มมัชฌิมา แล้ว สำหรับ วีระชัย นั้นเป็น "เขยซีพี" อดีต ผู้ช่วยรัฐมนตรี (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ใน
รัฐบาลทักษิณ ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ และที่น่าสนใจก่อนหน้านี้ สมคิด
ไปกินข้าวที่ท่าพระอาทิตย์ คืนดีกับ สนธิ ลิ้มทองกุล เพื่อนเก่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...๐
งานนี้กลุ่มคนที่มีส่วนในการ ดิวการเมือง ครั้งนี้ คงต้องบอกว่า "วินวิน" ทุกฝ่ายสมประโยชน์ 1.สลายขั้วในพรรคไทยรักไทยให้
เกิดความชัดเจนทางการเมืองขึ้น อดีต ส.ส.ที่ยังลังเลก็จะได้ตัดสินใจทิ้งพรรคสะดวกใจ รัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
(คมช.) ก็โล่งใจที่ไทยรักไทยใกล้ล่มสลาย 2.สมคิดมีเวทีให้เล่น โดยเฉพาะการใช้ตำแหน่งดังกล่าวเดินสายชี้แจงพบปะกับสื่อมวลชน
และนักธุรกิจต่างประเทศ ปูทางสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนจะเป็น นอมินี หรือ สืบทอดอำนาจ ให้ใครเดี๋ยว
ก็ได้รู้ 3.รัฐบาลได้มือดีช่วยกอบกู้ภาพลักษณ์ด้านเศรษฐกิจที่ติดลบในสายตาต่างชาติว่าใช้นโยบายปิดประเทศ-ถอยหลังเข้าคลอง
แต่ยังมีคนในรัฐบาลที่ไม่แฮปปี้ คือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ และ รมว.คลัง "คู่ปรับ" ของ สนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อถูกนัก
ข่าวถามถึงกับทำสีหน้างงๆ ว่า "สมคิดไหน" เมื่อรู้ว่าเป็น สมคิด เพื่อนเก่า สนธิ ลิ้มทองกุล ถึงกับตกใจยังกับถูกผีหลอก! (ฮ่า!)
หลังจากเข้าพบนายกฯ สุรยุทธ์ คุณชายอุ๋ย ประกาศชัดว่า นายสมคิดจะไม่มีการมาร่วมวางแผนด้านการค้าระหว่างประเทศกับตนเอง ...๐
แต่เอาเหอะ! ใครจะได้ จะเสีย แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่น่าจะได้อะไรสักเท่าไหร่ เพราะชนชั้นนำในสังคมไทยเพียงไม่มีกลุ่ม แย่งเค้ก-แบ่งมรดก
กันอยู่อย่างนี้มานานแล้ว หลังการรัฐประหารที่อ้างว่าเกิดจากนักการเมืองเลวๆ บางคน แต่ขณะนี้ก็มีแต่นักการเมืองหน้าเดิมๆ วนเวียน
ย้ายคอก-ผสมพันธุ์ กันอยู่ไม่กี่คน ถึงจะมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นมาก็ไม่ต่างจาก เหล้าเก่าในขวดใหม่ เพราะไม่มีนโยบายหรืออุดมการณ์
ทางการเมืองใหม่ ถูกต้องแล้วที่ สุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ออกมากระทุ้งว่า ทำให้เกิดความ
สับสนสองทาง ทั้งคนในรัฐบาลด้วยกันเอง และผู้คนในสังคม โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ประกาศแนวทาง "เศรษฐกิจพอเพียง"
แต่ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ได้สร้างระบอบเศรษฐกิจที่เรียกว่า "ทักษิโณมิกส์" เน้นแนวทาง "ทุนนิยมเข้มข้นสุดขั้ว" และเปิดเสรีทุกด้าน
ทั้งแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การทำเอฟทีเอ และนโยบาย "ประชานิยม" จนเปิดทางให้กลุ่มทุนผูกขาดภายใต้การนำของตระกูลชินวัตร เข้ามา
ยึดกุมระบบเศรษฐกิจของประเทศ จนเกิดความไม่เป็นธรรมหรือเกิดความฉ้อฉลในระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งนายสมคิด
คงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล...ดังนั้น นายกฯ อย่าทำตัวเป็นรัฐบาล 2 หน้า ถ้าไม่สามารถสร้าง
ความกระจ่างได้ก็เลิกพูดถึงคำว่าธรรมาภิบาลเสียที...๐
นั่นนะสิ สมคิดเป็น 1 ใน 63 คน ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตกล้ายาง ที่ คตส.กำลังตรวจสอบชี้มูลความผิด แล้วอย่างนี้จะพูดเรื่อง คุณธรรม-
จริยธรรม-ธรรมาธิบาล ให้เมื่อยปากไปทำใม???...๐
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=16/Feb/2550&news_id=138051&cat_id=500