โพลล์ไอซีที รบ. วูบ ไทยโพสต์ 14 กุมภาพันธ์ 2550รัฐบาลคุณธรรมหมกผลสำรวจคะแนนนิยม ปิดไม่ให้เป็นข่าว
หลังพบโพลล์ที่ให้กระทรวงไอซีทีไปถามชาวบ้านมีเสียงยี้อื้อซ่า.... สำหรับการประชุม ครม. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ มีประเด็นที่น่าสนใจ แหล่งข่าวในที่
ประชุม ครม. เปิดเผยว่า ในที่ประชุม คมช. นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว. กระทรวง
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้รายงานผลสำรวจความคิดเห็นของ
ประชาชนที่มีต่อการบริหารงานของรัฐบาล พ.ศ. 2550 (เมื่อบริหารงานครบ 4 เดือน)
ต่อที่ประชุม ครม. เป็นวาระทราบจร อย่างไรก็ตาม
เรื่องดังกล่าวไม่มีการนำมาแถลง
ข่าวต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด กระทรวงไอซีทีรายงานว่า ได้มอบหมายให้สำนักสถิติแห่งชาติจัดทำโครงการสำรวจ
ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานของรัฐบาล พ.ศ. 2550 (เมื่อบริหาร
งานครบ 4 เดือน) โดยสอบถามประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ทั่วประเทศ มีจำนวน
ตัวอย่างทั้งสิ้น 6,880 คน ระหว่างวันที่ 25-28 มกราคม 2550 และได้จัดทำสรุปผล
สำรวจ ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
1. ความพึงพอใจของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่ทั่ว
ประเทศมี
ความพึ่งพอใจโดยรวมประมาณ 2.57 (คะแนนระดับความพึงพอใจมาก = 4
ปานกลาง = 3 น้อย = 2 ไม่พึงพอใจ = 1)
สำหรับความพึงพอใจต่อการบริหารงานในด้านต่างๆ
ประชาชนพึงพอใจ ด้านสาธารณสุขสูงสุด 2.84
รองลงมา ด้านการกีฬา 2.79
ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 2.74
ด้านการท่องเที่ยว 2.73
ด้านการคมนาคม 2.70
ด้านการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น 2.63
ด้านการประชาสัมพันธ์และการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน 2.63
และด้านการต่างประเทศ 2.62
ส่วนการบริหารงานในด้านอื่นๆ มีคะแนนอยู่ระหว่าง 2.14-2.52 คะแนน
2. นโยบายรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชมมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
การปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น 40.2 เปอร์เซ็นต์
การแก้ปัญหาสาธารณสุข 34.8 เปอร์เซ็นต์
การปราบปรามยาเสพติด 16.5 เปอร์เซ็นต์
การส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา 14.4 เปอร์เซ็นต์
และ
การสร้างความสามัคคีของคนในชาติ 12.4 เปอร์เซ็นต์3. ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ประชาชนโดยรวมเห็นว่า สภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ยังคงเหมือนเดิม 51.3 เปอร์เซ็นต์
เห็นว่าดีขึ้น 11.1 เปอร์เซ็นต์
เห็นว่าแย่ลง 33.1 เปอร์เซ็นต์
และไม่แน่ใจ 4.5 เปอร์เซ็นต์
ส่วนความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ผู้ที่คาดหวังว่าจะสูงขึ้นมีถึง 28.6 เปอร์เซ็นต์
เห็นว่าเหมือนเดิมมีอยู่ 36.5 เปอร์เซ็นต์
เห็นว่าแย่ลงมีเพียง 11.9 เปอร์เซ็นต์
และไม่แน่ใจ 23.0 เปอร์เซ็นต์
4. ความเห็นเกี่ยวกับสภาวะทางสังคมในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
มีประชาชน 51.7 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าเหมือนเดิม
ที่เห็นว่าแย่ลง มีสูงถึง 34.3 เปอร์เซ็นต์
ส่วนที่เห็นว่าดีขึ้น มีเพียง 10.2 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังมีความคาดหวังว่าสภาวะทางสังคมในอีก 6 เดือนข้างหน้า
จะดีขึ้นสูงถึง 26.4 เปอร์เซ็นต์
เห็นว่าเหมือนเดิมลดลงเป็น 38.0 เปอร์เซ็นต์
และเห็นว่าแย่ลงลดลงเหลือ 12.9 เปอร์เซ็นต์
5. ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไข คือ
การรักษาความสงบภายในประเทศ 35.2 เปอร์เซ็นต์
รองลงมา ปัญหาหนี้สิน/ความยากจน 24.9 เปอร์เซ็นต์
ปัญหาค่าครองชีพ 22.9 เปอร์เซ็นต์
ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 19.3 เปอร์เซ็นต์
จัดหางาน/ส่งเสริมอาชีพ 18.2 เปอร์เซ็นต์
ปราบปรามยาเสพติด/ลดความรุนแรงในสังคม 17.3 เปอร์เซ็นต์
ควบคุมราคาพืชผลทางการเกษตร 15.2 เปอร์เซ็นต์
ปราบปรามยาเสพติด 13.1 เปอร์เซ็นต์
แก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่น 8.2 เปอร์เซ็นต์
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=14/Feb/2550&news_id=137958&cat_id=501ก็ไม่เห็นแย่ (ไปกว่าเดิม) สักเท่าไหร่ จะปิดไปทำไมกัน?