อ่าผมว่าคุณพี่ฝนดาวตกน่าจะเชี่ยวกว่าผมนะครับ ก็คาดเดาอนาคตไม่ถูกนะครับ ตามทฤษฎีมันควรจะสยองขวัญ เพราะเราไปบล๊อกด้วยมาตรการเพื่อทำให้พวกเก็งกำไรเลิกสนใจเงินบาท คนที่อยู่ในประเทศอยู่แล้วก็ไม่กล้าถอนบาทออกไป จะทำให้ชะลอการแข็งค่าเงินบาทในประเทศ แต่ขณะเดียวกันอุปทานของเงินบาทนอกประเทศเหือดแห้งไป เมื่อสินค้ามีน้อยก็ทำให้ราคาเงินบาทแข็งขึ้นกว่าราคาเงินบาทในประเทศ ซึ่งเวลานี้เงินบาทล้นระบบมาก มันก็จะมีคนที่พยายามหาช่องทางพยายามลักลอบเอาเงินบาทออกไปขายข้างนอก ซึ่งเวลานี้มีแค่ไอ้เหลี่ยม ไอ้อ๋วยกับพวกเศรษฐีนี่แหละที่ทำได้ และต้องทำเป็นขบวนการด้วย
ทว่า อุปทานของเงินบาทในระบบที่เมืองนอกมันแห้งไปแล้ว ดังนั้นแม้ค่าเงินบาทนอกประเทศจะพุ่งไปถึงเท่าไร แต่มันไม่มีขายให้คนอยากเก็งมันไปซื้อหามาได้ แล้วมันจะไปหาจากไหนได้ ดังนั้นการทำกำไรจากส่วนต่างน่าจะยากนะครับ ยกเว้นว่า ย้ำอีกที ยกเว้นว่า มีฝรั่งหัวดำนี่แหละที่ทำกันเอง ก็คือการลากขึ้นไปเชือด ตรงช่องโหว่หากมีคนเจอแล้วและทำกำไรจากส่วนต่างได้สำเร็จ นี่คือความเสี่ยงเท่ากับเงินบาทส่วนหนึ่งกระจายไปอยู่ในมือโจรรอทุบอีกรอบ สมมติถ้ามีการผ่อนคลายมาตรการแล้ว มันแข็งขึ้น ผู้ส่งออกตาย เศรษฐกิจไทยซึ่งพึ่งพาต่างประเทศมากๆก็พัง ส่วนอีกพวกคือต่างชาติที่มาลงทุนก็หนีไปหมด ก็จะมีโจรที่รออยู่แล้วเทขายเงินบาทออกมา เงินบาทมันก็ต้องร่วงกราวรูดลงมาในที่สุด ผมไม่ทราบว่า "ผู้นำธรรมะ" ไปการันตีไอ้อ๋วยด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือมี something กันแน่??
แต่ขณะเดียวกัน มีคนเสนอให้ลดดอกเบี้ยเยอะๆ เพื่อให้สเปรดระหว่างดอกเบี้ยไทยและดอกเบี้ยนอกลดลง และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไปด้วย ผมคิดว่าเราก็จะไปเผชิญความเสี่ยงในอีกด้าน เพราะที่ผ่านมาไอ้เหลี่ยมก็ส่งเสริมกู้กินใช้จนภูมิคุ้มกันคนไทยกระจุยหมดแล้ว การลดต้นทุนทางการเงินลดลง อาจเกิดการกู้กินใช้ระห่ำอีกรอบหนึ่งได้ และก็ไม่รู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้จะหยุดเงินบาทไม่ให้แข็งค่าขึ้นได้หรือเปล่า เพราะอเมริกาก็จงใจทิ้งให้ค่าเงินตัวเองร่วงไปเรื่อยๆ
ผมว่า
สถานการณ์การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ได้ดำเนินมาถึงจุดที่เหมือนกับว่า มีแต่คนอยากจะเอาตัวรอด ตัดช่องน้อยแต่พอตัวกันหมดแล้วครับ ดูได้ชัดจาก
กรณีสนามบินสุวรรณภูมิ (มันเป็นกระจกสะท้อน) คือ ในเดอะเนชั่นบอกตั้งแต่ปีใหม่ว่า มันเป็น no man's land ไปแล้ว คนที่มีโอกาสมากกว่า มีเส้นมีสาย อำนาจใหม่และเก่า ต่างคนก็ต่างตักตวงกันไป แต่ถึงเวลาหาคนรับผิดชอบไม่ได้ ทุกคนผละหนีไปหมด ในขณะที่คนธรรมดาอีกกลุ่มหนึ่งไม่ว่าจะคนในเมืองหรือรากแก้ว ยังคงเพลิดเพลินหลงมัวเมาในวัตถุ อบายมุข เหมือนเดิม โดยที่รัฐบาลที่มีผู้นำที่มีภาพธรรมะ ก็ไม่ได้ไปทำอะไรเพื่อจะหยุดยั้งมัน
ลักษณะคล้ายกรุงศรีอยุธยาใกล้แตก ถ้าจะ diversify ต้องทำตั้งแต่สถานการณ์มันนิ่งอยู่เมื่อ 6-7 ปีก่อน ขณะที่ช่องทางยังเปิดสำหรับคนทั่วไป ขณะนี้จะเชียร์ไอ้เหลี่ยมหรือด่าไอ้เหลี่ยม แต่ถ้าไม่มีปัญญาเอาตัวรอด สถานการณ์ก็คือๆกันแหละครับ
สำหรับท่านที่สนใจ ไปหาซื้อจาก ซีเอ็ด ศูนย์หนังสือจุฬาฯ อมรินทร์ ดอกหญ้า ดวงกมล ได้ ไม่รู้ว่าหมดไปหรือยัง