ไหว้เทวดา ไหว้พระพรหม ผิดหลักพุทธศาสนาหรือไม่มงคล 38
ปูชา จะ ปูชนียานัง เมื่อพิจารณาตามคุณงามความดีเห็นว่าเหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรที่เราจะกราบไหว้
อย่าง
สหัมบดีพรหม ถ้าไม่มีท่านนี่พวก เราอาจจะ
ไม่ได้รับรสพุทธธรรมของพระพุทธเจ้าก็เป็นได้
การบูชานั้นมี 2 อย่างคือ
อามิสบูชา การบูชาด้วยอามิสคือ สิ่งของเครื่องล่อใจ มีเงินทอง ดอกไม้ ของหอม เป็นต้น
ปฏิบัติบูชา การบูชาด้วยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีการเข้าถึงไตรสรณคมน์
รักษาศีล ๕ ศีล ๘ ศีลอุโบสถ เจริญสมถะและวิปัสสนา การศึกษาพระธรรมวินัย เป็นต้นจะเห็นว่าชาวพุทธเราถนัดกันมากกับอามิสบูชา ส่วนปฏิบัติบูชานี่ชอบอ้างกันว่าไม่มีเวลา
แนะนำให้
ศึกษาตาม Link ที่ให้ไว้ก็จะเป็น
อานิสงส์ยิ่ง มาถึงตอนสำคัญย้อนกลับไปสมัยก่อนพุทธกาล ปราชญ์โบราณ เชื่อกันว่าเทวดานี้ สร้างโลก(พระพรหม)
และเป็นผู้ดลบันดาล เรื่องราวต่างๆให้เกิดขึ้น ปราชญ์เหล่านั้นจึงสร้างรูปแบบความสัมพันธ์
กับเทวดาขึ้นเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ ขอความช่วยเหลือเทวดา เวลามีทุกข์
เช่น การสวดมนต์อ้อนวอน บวงสรวง สังเวย บูชายัญ
เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ทรงเผยแผ่พุทธธรรม ก็ได้สอนให้เลิกวิธีเหล่านี้เสีย
เพราะอะไร
การสวดมนต์อ้อนวอนนี่ ถ้าพูดภาษาบ้านๆก็คือพูดเอาใจเทวดา หวังผลประโยชน์ นั่นเอง
การบนบาน ศาลกล่าว บูชายัญ พูดง่ายๆนี่ คือการติดสินบนเทวดา ผลร้ายตกลงกับตัวมนุษย์เอง ต้องคอยหวังพึ่งลำแข้งผู้อื่นอยู่ตลอด เกียจคร้านการงาน
ละทิ้งหน้าที่ หวังเลขเด็ด ขัดถูขัดถู กันทั้งวัน ที่ไหนว่าศักดิ์สิทธิ์เหมารถแห่กันไป
ยิ่งมีฤทธิ์มากยิ่งงมงายมาก มองไม่เห็นเทวดาดีๆมีคุณธรรม แต่ฤทธิ์น้อยกว่า
อย่างพระแม่คงคา ทิ้งขยะกันลงไปให้ท่าน น้ำเสียจากโรงงานก็ทิ้งให้ท่าน
เทพารักษ์ เจ้าป่าเจ้าเขา ท่านคอยปกปักษ์รักษาผืนป่าให้เรา ดันไปพังบ้านท่านซะนี่