ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-04-2024, 17:12
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ CNN และ TIME เป็น'เครื่องมือ'ทักษิณจริงหรือไม่? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ CNN และ TIME เป็น'เครื่องมือ'ทักษิณจริงหรือไม่?  (อ่าน 1724 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 10-02-2007, 11:48 »

เปิดใจนักข่าวต่างชาติ.. "เครื่องมือ"ทักษิณจริงหรือ?

รายการสยามเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 5 วานนี้ (9 ก.พ.) "เทพชัย หย่อง" 1 ในผู้ดำเนินรายการ ได้สัมภาษณ์ "โจนาธาน เฮด" นักข่าวประจำบีบีซี และโฆษกสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย พร้อมด้วย "กรุณา บัวศรี" กรรมการสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ประจำประเทศไทย เพื่อไขข้อข้องใจในข้อกล่าวหา ที่ระบุว่า สื่อต่างประเทศถูกใช้เป็นเครื่องมือ ถูกหลอกใช้หรือถูกซื้อ ใช้อิทธิพลผ่านทางบริษัทล็อบบี้ยิสต์ เพื่อชี้นำประเด็นคำถามที่ใช้สัมภาษณ์ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี
*คนไทยกำลังสนใจสื่อต่างชาติอย่างมาก เพราะรายงานข่าวเรื่องทักษิณ หลายคนเชื่อว่า สื่อเหล่านี้ถูกว่าจ้างให้รายงานข่าวเรื่องที่ทักษิณต้องการ

โจนาธาน : เป็นการกล่าวหาที่รุนแรง สร้างความเสื่อมเสียให้กับนักข่าวต่างชาติทุกคนที่ทำงานในไทย ถ้ามีหลักฐาน ผมก็อยากเห็น คนที่กล่าวหาว่าสื่อต่างชาติรับเงินเพื่อช่วยทักษิณควรแสดงหลักฐาน จากประสบการณ์ทั้งหมดที่มี ในการทำงานกับสื่อต่างชาติทั้งที่นี่และที่อื่น ผมไม่เคยได้ยินว่า สื่อต่างชาติรายใหญ่รับเงิน ผมตกใจมากที่ข้อกล่าวหานี้ยังมีอยู่จนถึงวันนี้

* คิดอย่างไรกับการที่สื่อต่างชาติถูกมองว่า เห็นอกเห็นใจทักษิณ

โจนาธาน : เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ เพราะสมัยที่ทักษิณอยู่ในตำแหน่ง เราหลายคนก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีมากๆ กับเขา อย่างผมเองก็โดนรัฐบาลวิจารณ์ว่า เป็นศัตรูกับทักษิณ เราถามเขาเรื่องนโยบายอยู่บ่อยๆ มันเป็นงานของเรา ขณะที่งานของรัฐบาลคือการดำเนินนโยบาย ส่วนงานของสื่อคือการตั้งคำถาม

ตอนนี้ไทยมีรัฐบาลใหม่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่สื่อต่างชาติจะถามว่า รัฐบาลจะทำอะไรบ้าง และเป็นธรรมดาที่เราจะสัมภาษณ์ทักษิณ ซึ่งเป็นบุคคลในข่าว เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ผู้คนรู้จักดี เขาลงจากตำแหน่ง เพราะถูกรัฐประหาร ทุกคนก็อยากฟังทัศนะของเขา

* มีการกล่าวหาว่า บริษัทล็อบบี้ยิสต์ พยายามทำให้สื่อต่างชาติหันมาสนใจทักษิณ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ไหม เช่น การให้สื่อได้คุยกับทักษิณ และนำไปตีพิมพ์บนปกไทม์

โจนาธาน :  เป็นเรื่องปกติ เราติดต่อกับบริษัทใหญ่ๆ คนดัง รวมทั้งนักการเมืองเป็นประจำ คนเหล่านี้ ใช้บริษัทประชาสัมพันธ์ หรือล็อบบี้ยิสต์เป็นคนกลาง ทักษิณก็มีเงินว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์

ส่วนนักข่าวที่อยากสัมภาษณ์ ก็ต้องติดต่อผ่านบริษัทเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม นักข่าวก็มีอิสระ ที่จะถามทุกคำถามที่ต้องการ พวกเขาอาจจะพยายามควบคุมบรรยากาศช่วงการสัมภาษณ์  ซึ่งส่วนมากเป็นนักข่าวที่มีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ว่าควรทำอย่างไร

* ล็อบบี้ยิสต์เหล่านี้มีอิทธิพลต่อเนื้อหาการสัมภาษณ์หรือไม่

โจนาธาน :  มี พวกเขาสามารถกำหนดหัวข้อได้ แต่นักการเมืองเอเชียก็ทำแบบนี้กันอยู่แล้ว พวกเขาสามารถกำหนดเวลาของการสัมภาษณ์ได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอีก ตอนทักษิณเป็นนายกฯ ก็กำหนดเวลา ผมไม่คิดว่าการใช้บริษัทล็อบบี้ยิสต์จะไปมีอิทธิพลอะไร กับลักษณะการสัมภาษณ์และการรายงานข่าวเรื่องทักษิณ

*รู้สึกอย่างไรที่มีการกล่าวหาว่า นักข่าวต่างชาติถูกว่าจ้างให้สัมภาษณ์ทักษิณ และให้ความสำคัญกับทักษิณ

กรุณา : ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีความเข้าใจแบบนี้เกิดขึ้นได้   เพราะสิ่งที่นักข่าวต่างชาติทำเป็นเรื่องธรรมดา ตัวอย่างเช่น การสัมภาษณ์ทักษิณ ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในความสนใจ ก็รู้สึกผิดหวังกับข้อกล่าวหานี้ และไม่เชื่ออย่างยิ่งว่านักข่าวต่างชาติถูกทักษิณซื้อ

จากประสบการณ์ของตัวเองสามารถพูดได้ว่า นักข่าวทุกคนตั้งใจทำข่าว และไม่เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะที่นักข่าวถูกชักชวนไปสัมภาษณ์แล้วรับเงิน

*มีข้อสังเกตเกี่ยวกับประเด็นของคำถามที่ถามทักษิณ คุณไม่ได้ทำงานให้ซีเอ็นเอ็นหรือไทม์ก็จริง แต่ถ้าดูคำถามที่นำมาถาม คิดว่าควรถามคำถามที่หนักกว่าไหม

โจนาธาน : ในการสัมภาษณ์ทุกครั้ง เราสามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่า บางคำถามควรหนักกว่านี้ มักมีคนที่ไม่พอใจคำถาม ที่นำมาถามเสมอ สื่อแต่ละสำนัก สัมภาษณ์ในแบบของพวกเขา เพื่อพยายามค้นเอาสิ่งที่ทักษิณเชื่อออกมา ประเด็นที่ผมจะพูดคือ สื่อต่างชาติรายงานข่าว เพื่อผู้ชมต่างชาติที่ไม่รู้เรื่องราวของประเทศไทยมากนัก การสัมภาษณ์จึงต้องมุ่งเน้นในเรื่องทั่วไป 

แต่หากต้องการตรึงทักษิณไว้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของสื่อไทย ที่จะต้องสัมภาษณ์เขาด้วยตัวเอง เราอยากเห็นสื่อไทยเป็นคนถามคำถามเอง ด้วยคำถามหนักๆ เต็มไปด้วยรายละเอียด เมื่อเราได้เห็นแบบนั้น เราก็จะได้เห็นทักษิณถูกซักในแบบที่คนไทยจำนวนมากอยากจะเห็น

* รู้สึกอย่างไรที่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยโดนทักษิณวิพากษ์วิจารณ์ว่า ถามคำถามโง่ๆ ชอบรายงานข่าวรัฐบาลในเชิงลบ แต่ตอนนี้กลับถูกคมช. มองว่าเป็นเครื่องมือของทักษิณ

กรุณา : ทำให้นักข่าวหลายคนรู้สึกงง อย่างโจนาธานก็เคยโดนว่า ถามคำถามโง่ๆ ตอนเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เขาถามว่า ไม่พร้อมแล้วเปิดทำไม และตอนนี้กลับโดนข้อหาเข้าข้างทักษิณ อย่างที่ยืนยันมาตลอด เป็นหน้าที่ของผู้สื่อข่าวที่จะถามคำถามแบบนี้ ไม่ว่าผู้ที่อยู่ในอำนาจจะเป็นใคร

* ไม่แค่คมช.เท่านั้น บรรดานักวิชาการที่น่าจะเข้าใจกลไก และการทำงานของนักข่าวต่างประเทศ อาทิเช่น อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และ อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล ก็ออกมาพูดให้คนเชื่อว่า สื่อต่างประเทศถูกทักษิณซื้อผ่านทางล็อบบี้ยิสต์

กรุณา : อาจารย์และนักวิชาการยังไม่เข้าใจจริงในเรื่องวิธีการทำงาน และมาตรฐานการทำงานของนักข่าวต่างประเทศ สิ่งที่ทำได้คือการพยายามอธิบาย ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ตัวเองก็พยายามอธิบายกับเพื่อนๆ นักข่าว แต่ก็ยังมีความไม่เข้าใจกันอยู่ ซึ่งหากมีการนั่งพูดคุยกัน น่าจะเข้าใจกันมากขึ้น

* คิดว่าเขาจะเชื่อไหม

กรุณา : คิดว่าน่าจะมีคนเชื่อ   แต่อาจจะมีบางส่วนก็ต้องยอมรับว่าเข้าข้างทักษิณพอสมควร พูดอย่างนี้อาจมีคนมองว่า เราเข้าข้างทักษิณ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ แต่ถึงที่สุดแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำ จะเป็นทักษิณหรือใครก็ตาม สิ่งที่เราทำก็คือ ถามว่าวันนี้คุณทำอะไรอยู่ และเราก็กำลังทำงานของเราเท่านั้นเอง

* ผมเข้าใจว่า ทักษิณเป็นบุคคลที่สื่อสนใจ แต่คุณคิดว่าอีกนานแค่ไหน ที่เขาจะยังเป็นข่าวพาดหัวของสื่อต่างชาติ

โจนาธาน : อาจจะไม่นาน เพราะเขาไม่อยู่ในอำนาจแล้ว มีข้อจำกัดมากมายในสิ่งที่เขาทำได้ นอกจากการเดินทางรอบโลก เขาไม่ให้สัมภาษณ์ในทันทีหลังเกิดรัฐประหาร เมื่อบอกว่าจะให้สัมภาษณ์ สื่อก็ย่อมอยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไร ผมคาดว่าสื่อจะเลิกสนใจเขาในเวลาอันรวดเร็ว เพราะตอนนี้มาถึงจุดที่ เขาไม่มีอะไรให้พูดมากนัก และไม่มีบทบาทอะไรให้เล่นแล้ว

*ทำอย่างไรให้คนไทยเข้าใจบทบาทของสื่อต่างประเทศ

กรุณา : ก็ต้องอาศัยสื่อมวลชนไทยช่วย อย่างเช่น รายการนี้ ก่อนมาก็มีการคุยว่า เราควรต้องชี้แจง ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ เพราะสิ่งที่เราถูกมองเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส สำหรับผู้ประกอบอาชีพสื่อมวลชน เพราะข้อกล่าวหาเรื่องการรับเงิน ไบแอส เป็นข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างรุนแรง

** หมายเหตุ : สโมสรนักข่าวต่างชาติประจำประเทศไทย ประกอบด้วย นักข่าวต่างประเทศประมาณ 50-60 คน ทำงานให้แก่สื่อต่างชาติหลายแขนง ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์

 http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/10/news_22771015.php?news_id=22771015




กระทู้นี้ นำการแสดงความคิดเห็นของนักข่าวสองคนที่เกี่ยวข้องเป็น'สื่อต่างชาติ'ในประเทศไทย
พวกเขาจะสามารถพูดในนาม'สื่อต่างชาติ'ทั้งหมดได้หรือไม่ Question

ถ้าพวกเขาสามารถพูดในนาม'สื่อต่างชาติ' ทั้งหมด หรือส่วนใหญ่
การรายงานข่าว หรือ การสัมภาษณ์ของ CNN และ TIME ที่ผ่านมาเร็ว ๆนี้
เป็นอย่างที่เขา สองคน หรือไม่ Question

เนื่องจากคุณเทพชัย ไม่ได้ถามตรง ๆว่า พฤติกรรมของ CNN TIME ที่ผ่านมาเร็วๆ นี้
และพวกเขาไม่ได้อ้างถึงในการตอบคำถามด้วย....
Exclamation
 
 
ผมได้เน้นด้วยการขีดเส้นใต้ เพื่อให้พิจารณาว่า ถ้าตอบตรงไปตรงมา
จะได้คำตอบอย่างไร เช่น....
 
 
โจนาธาน :  เป็นเรื่องปกติ เราติดต่อกับบริษัทใหญ่ๆ คนดัง รวมทั้งนักการเมืองเป็นประจำ คนเหล่านี้ ใช้บริษัทประชาสัมพันธ์ หรือล็อบบี้ยิสต์เป็นคนกลาง ทักษิณก็มีเงินว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์

ส่วนนักข่าวที่อยากสัมภาษณ์ ก็ต้องติดต่อผ่านบริษัทเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม นักข่าวก็มีอิสระ ที่จะถามทุกคำถามที่ต้องการ พวกเขาอาจจะพยายามควบคุมบรรยากาศช่วงการสัมภาษณ์  ซึ่งส่วนมากเป็นนักข่าวที่มีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ว่าควรทำอย่างไร

* ล็อบบี้ยิสต์เหล่านี้มีอิทธิพลต่อเนื้อหาการสัมภาษณ์หรือไม่ Question

โจนาธาน :  มี พวกเขาสามารถกำหนดหัวข้อได้ แต่นักการเมืองเอเชียก็ทำแบบนี้กันอยู่แล้ว พวกเขาสามารถกำหนดเวลาของการสัมภาษณ์ได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอีก ตอนทักษิณเป็นนายกฯ ก็กำหนดเวลา ผมไม่คิดว่าการใช้บริษัทล็อบบี้ยิสต์จะไปมีอิทธิพลอะไร กับลักษณะการสัมภาษณ์และการรายงานข่าวเรื่องทักษิณ

โจนาธาน : ในการสัมภาษณ์ทุกครั้ง เราสามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่า บางคำถามควรหนักกว่านี้ มักมีคนที่ไม่พอใจคำถาม ที่นำมาถามเสมอ สื่อแต่ละสำนัก สัมภาษณ์ในแบบของพวกเขา เพื่อพยายามค้นเอาสิ่งที่ทักษิณเชื่อออกมา..............

ประเด็นที่ผมจะพูดคือสื่อต่างชาติรายงานข่าว เพื่อผู้ชมต่างชาติที่ไม่รู้เรื่องราวของประเทศไทยมากนัก การสัมภาษณ์จึงต้องมุ่งเน้นในเรื่องทั่วไป 


'สื่อต่างชาติ' คิดอย่างนี้กระมั่ง บริษัทลอบบี้ยิสต์และบริษัทโฆษณาชวนเชื่อ จึงจับ'แนว'ได้ ให้ นักข่าว CNN และ TIME รายงานข่าวตามที่ทักษิณพูด ไม่ต้อง'เจาะลึก' ก็ได้ผลแล้ว.........

นักข่าว CNN และ TIME ไม่มี'ถามหนักกว่า' หรือ สอบยันว่าข้อมูลนั้นมี'มูลความจริง'มากน้อยเพียงใด....

ดังนั้นบริษัทลอบบี้ยิสต์และบริษัทรับโฆษณาชวนเชื่อที่'รู้ใส้' ใช้นักข่าวต่างชาติให้เป็น'ประโยชน์'....



คุณเชื่อคำตอบที่หลีกเลี่ยง อ้างอิงตามนี้หรือไม่....... Question


ปล.  นักการตลาดไทยใช้'เนื้อที่ประชาสัมพันธ์'ให้เป็นประโยชน์ และ สร้างความเชื่อถือ ความไว้วางใจ และยอมรับจากผู้อ่าน ผู้บริโภค ได้อย่างไร ย่อมเป็นที่'เข้าใจ'กัน..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #1 เมื่อ: 10-02-2007, 11:54 »


เก็บไว้นะครับ
โดยเฉพาะต้นฉบับวิดีโอ
แล้วสักวันหนึ่งฝรั่งจะตายเพราะปากตัวเอง
บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #2 เมื่อ: 10-02-2007, 12:00 »

กาแฟดำ

ขอให้เปิดเผยเอกสารทักษิณจ้างนพดล...เป็นโฆษก ทนาย หรือล็อบบี้ยิสต์?
 
10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 01:00:00
 
ผมได้แต่นั่งหัวเราะงอหายเมื่อคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นทนายส่วนตัวของทักษิณ ชินวัตร ออกมาสอนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษให้กับคนไทยทั้งประเทศว่าด้วย

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :     adjective clause กับ adjective phrase ที่เกี่ยวกับเอกสารที่บริษัททนายความมะกันส่งให้กับสภาคองเกรส

คุณนพดล ปัทมะ บอกว่า ที่เอกสารนั้นระบุว่าทักษิณเป็น "the freely-elected prime minister of Thailand, was depos" ในสำเนาเอกสารที่คุณกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ นำออกมาเปิดเผยกับคนไทยนั้นแสดงว่าเป็น past simple tense เป็นกริยา แสดงว่าเหตุการณ์เป็นอดีตไปแล้ว

"ดังนั้น จึงชัดเจนว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำ ไม่ใช่การไม่ยอมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือมีเจตนาจะเป็นกบฏตามที่มีการกล่าวอ้าง" ทนายความของทักษิณ คนนี้บอกกับนักข่าว

สำเนาเอกสารที่คุณนพดลบอกว่า ขอมาจากรายงานที่บริษัท เบเกอร์ บ๊อทส์ แจ้งต่อวุฒิสภาของสหรัฐ ก็ระบุว่าทักษิณคือ

"The freely-elected Prime Minister of Thailand, was deposed in military coup on 9/19/2006..."

ประเด็นก็มีอยู่ง่ายๆ สั้นๆ ว่า สำเนาที่คุณกอร์ปศักดิ์ ได้มาจากแหล่งข่าวของท่านนั้นถ่ายไม่ครบถ้วน แต่ก็ได้เนื้อหาชัดเจนว่าทักษิณจ้างฝรั่งมาทำงานให้ตัวเองเพื่อหาทางให้กลับประเทศไทย โดยพยายามจะเน้นว่าตัวเขาเองเคยได้รับเลือกตั้งมา

ที่อ้างว่า "freely-elected" นั้น เป็นความเห็นของทักษิณ และฝรั่งล็อบบี้ยิสต์เอง คนไทยจำนวนไม่น้อยอาจจะแย้งว่ายังมีข้อสงสัยว่าการเลือกตั้งมัน "free" และ "fair" หรือเปล่า

แต่จะว่าไปแล้ว ประเด็นที่คุณนพดลออกมาสอนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ และพยายามจะเลี่ยงบาลีว่าบริษัทฝรั่งนี้เป็นสำนักทนายความ ไม่ใช่ล็อบบี้ยิสต์ ก็เป็นเรื่องไร้สาระเต็มที  

ข้อแรกที่ชัดเจนก็คือว่า ทักษิณ ใช้เงินจ้างฝรั่งที่มีสายสัมพันธ์อย่างลุ่มลึกกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช (ไม่ว่าจะอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ชื่อเจมส์ เบเกอร์ ที่ 3  หรือเจมส์ เบเกอร์ ที่ 4 ที่เป็นลูกชายก็ตาม) เพื่อจะให้เขาต่อสู้และวิ่งเต้นให้ผู้มีอำนาจในวอชิงตันช่วยเขาให้กลับประเทศไทยให้ได้

ไม่เชื่อก็กลับไปอ่านคำอธิบายภายใต้หัวข้อที่ 12 ที่ว่า "Specific lobbying issues area..." อีกครั้งหนึ่ง

ถ้าคุณนพดล บอกว่าทักษิณไม่ได้จ้างล็อบบี้ยิสต์  แต่จ้างทนายความต่างหาก  ก็เท่ากับเป็นการตะแบงเอาสีข้างเข้าถูอีกเช่นกัน

เพราะเขาใช้คำว่า "lobbying issues" ในเอกสารทางการหรือไม่?

 ถ้าจะหลอกคนไทยว่าทนายกับล็อบบี้ยิสต์เป็นคนละเรื่องกัน  ก็ควรจะทำอะไรที่แนบเนียนกว่านี้ เพราะวันนี้คนไทยไม่ได้งี่เง่าเต่าตุ่นที่จะหลอกต้มให้หลงประเด็นตามที่ทักษิณและพวกต้องการได้อีกต่อไปแล้วครับ

คุณนพดล หลุดออกมาเป็นครั้งแรกว่า ทักษิณกลัวว่าจะถูกฟ้องในศาลอาญาระหว่างประเทศ  ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจ้างทนายความต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายนานาชาติและการเมืองระหว่างประเทศ

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ ทักษิณพูดเสมอว่าไม่เคยกลัวเรื่องใครจะฟ้องตัวเองในศาลระหว่างประเทศกรณีฆ่าตัดตอนและละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่อาจจะเป็นประเด็นใหญ่ที่ทักษิณจะต้องใช้ส่วนที่เหลือของชีวิตต่อสู้อย่างทุรนทุรายก็ได้

ทนายความของทักษิณบอกว่าที่จ้างบริษัท เบเกอร์ บ๊อทส์ (Baker Botts) ครั้งนี้ ก็เป็นบริษัทกลุ่มเดียวกับบริษัทบาร์เบอร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ส "แต่ไม่ใช่การจ้างเพื่อมาล็อบบี้สู้กับคมช.และรัฐบาลไทย..."

ถ้าไม่ใช่จ้างมาสร้างปัญหากับ คมช. และรัฐบาลไทย ทำไมล็อบบี้ฝรั่งจึงเน้นในคำรายงานต่อสภาคองเกรส ว่า นี่เป็นงาน "lobbying issues" และเกี่ยวกับการที่ทักษิณ ที่เป็น "freely-elected prime minister" ที่ถูก "deposed” ในการปฏิวัติวันที่ 19 กันยายน?

ฟังทนายทักษิณแก้ต่างแต่ละประเด็นแล้วก็เกิดข้อสงสัยใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญเอามากๆ

ถ้าทักษิณจ้างทนายฝรั่งเป็นล็อบบี้ยิสต์ต้องแจ้งสภาคองเกรสเพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ก็ควรที่คุณนพดลที่อ้างมาตลอดว่าเป็นทนายส่วนตัวของทักษิณจะแจ้งกับสาธารณชนไทยว่ามีจดหมายแต่งตั้งจากทักษิณเมื่อไร  และว่าจ้างกันด้วยเงื่อนไขอะไร...เช่น จ่ายเงินค่าตอบแทนเป็นครั้งเป็นคราวหรือเป็นเดือน  และมีภารกิจหรือ "job description" ว่าอย่างไร

เพราะมาถึงวันนี้  ก็ยังไม่มีคำยืนยันจากทักษิณว่าคุณนพดลเป็น "โฆษก" หรือ "ทนายความ" หรือ "ล็อบบี้ยิสต์" ของทักษิณกันแน่?

ทนายความและล็อบบี้ยิสต์มะกันเขายังต้องเปิดเผยรายละเอียดของการว่าจ้างเพื่อประชาชนคนอเมริกันเขาจะได้รู้ว่าใครกำลังทำอะไรอยู่กับระบบการเมืองของเขา ดังนั้น จึงสมควรอย่างยิ่งที่คนไทยจะมีสิทธิรู้ว่า

ทักษิณจ้างนพดลจริงหรือเปล่า?

จ้างในฐานะอะไร?

จ่ายเงินตอบแทนกันอย่างไร?

และจะรู้ได้อย่างไรว่าทุกคำพูดของคุณนพดลนั้น เป็นการพูดแทนทักษิณจริง ๆ ?

เจ้าตัวพูดเลอะเทอะเอง? หรือคนถ่ายทอดมาอีกทีพูดให้เลอะเทอะยิ่งขึ้น? ขอหลักฐานชัดๆ มาพิสูจน์กันหน่อย


(เข้ามาใน blog ส่วนตัวของผมที่ www.oknation.net/blog/black เพื่อร่วมกันแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์บ้านเมืองวันนี้ครับ)
 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/10/WW12_1238_news.php?newsid=3838
 
 
คุณ'กาแฟดำ'ใช้ภาษาไทยได้ดีกว่าผม จึง'เปิดโปง' การเลี่ยงบาลี และ ตะแบง
อ้างศักดิ์ศรี อ้างแนวทางปฎิบัติปกติ ได้ดีกว่าผม......


อ่านแล้ว เปรียบเทียบคำให้สัมภาษณ์ คำตอบของ'สื่อต่างชาติ'ข้างบนเอาเองครับ.....



ปล.ผมเคยตั้งกระทู้ถามทำนองนี้ว่า 'นพดล'เป็น'ทนายหน้าหอ' แก้ต่างให้ทักษิณ เป็นทางการจริงหรือ   Question

และที่ให้สัมภาษณ์ไปนั้น เป็น'ข้อมูล'จากทักษิณทั้งหมด จริงหรือ  Question



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #3 เมื่อ: 10-02-2007, 12:07 »

แน่ใจหรือว่าพร้อมจะเผชิญคำถามตรงๆของสื่อไทย?
 กาแฟดำ

6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 00:00:00
 
 
พอรู้ว่าซีเอ็นเอ็น คงไม่สัมภาษณ์ครั้งที่สอง และนิตยสารไทม์คงไม่ขอความเห็นเขาอีก ทักษิณ ชินวัตร จึง "กลับมาหากิน" กับสื่อในไทย ด้วยการให้ "เข้าชื่อ" ขอสัมภาษณ์เขา

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : เป็นตลกร้ายมากที่ทักษิณคิดว่าจะ "กวักมือเรียก" สื่อไทยมาเมื่อไรก็ได้ ทั้งๆ ที่เพิ่งบอกไทม์ไปว่าสื่อไทยบิดเบือนสิ่งที่เขาพูดมาตลอด

ทักษิณ ยังคิดว่าจะสั่งการสื่อไทยให้ซ้ายหันขวาหันอย่างที่เขาเคยพยายามจะทำเมื่อยังข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนไทยกระนั้นหรือ?


สื่อไทยซาบซึ้งไม่ลืมเลือนกับวิธีการกำกับ ควบคุม คุกคาม และกลั่นแกล้งคนข่าวไทยไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ตลอดเวลา 5 ปีที่ทักษิณมีอำนาจในแผ่นดิน...ทักษิณยังกล้าคิดหรือว่าจะสามารถ "หลอกใช้" สื่อไทยที่เป็นมืออาชีพให้เป็นประโยชน์กับลีลาท่าทีทางการเมืองของตัวเองได้อีก?

ทักษิณยังคิดหรือว่า สื่อไทยนั้นงี่เง่า และ "หิวข่าว" ถึงกับจะวิ่งลนลานไปหา เพื่อสัมภาษณ์เขาหลังจากที่เขาได้สร้างความปั่นป่วนให้กับประเทศชาติขนาดนี้?


แน่นอนว่า ทักษิณอาจจะสามารถใช้เงินและวิธีการใต้ดิน และล็อบบี้ยิสต์ทั้งฝรั่ง และไทย เพื่อจะทำให้ตัวเอง "เป็นข่าว" ทางด้านบวกกับตัวเอง แต่นั่นคือ "สื่อเทียม" ที่ทำเพราะได้ประโยชน์เป็นการส่วนตัวจากทักษิณ และพรรคพวก มิได้มีความน่าเชื่อถือในแง่ของการสะท้อนถึง "ความเป็นไปที่แท้จริง" ของบ้านเมืองแต่ประการใด

ประชาชนคนไทยไม่ได้โง่ และงมงายด้วยฤทธิ์ของประชานิยม และเงินทองที่ทักษิณ ควักจากกระเป๋าของผู้เสียภาษีมาสร้างภาพให้กับตัวเองอีกต่อไป

คนไทยวันนี้แยกออกว่าอะไรคือ "ข่าว" และอะไรคือ "โฆษณาชวนเชื่อ"

หากทักษิณ กล้าจะตอบคำถามตรงไปตรงมือของสื่อไทยที่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง ก็ไม่จำเป็นจะต้องให้คนข่าวไทย "เข้าชื่อ" เหมือนเด็กนักเรียนที่อยู่ในโอวาทเรียงแถวกันมา "ทำข่าว" อย่างที่เขาต้องการ เพราะสื่อไทยจะเป็นคนขอนัดไปเอง

ปัญหาใหญ่อยู่ที่ว่า สิ่งที่ทักษิณจะพูดให้สัมภาษณ์กับสื่อไทยนั้น "ไม่มีอะไรใหม่กว่าที่พร่ำเพ้อ" มาตลอด

เช่น บอกว่าจะเลิกเล่นการเมือง แต่ก็ตระเวนพูดเรื่องการเมือง และตัวเองอยู่ทุกวัน

เช่น กำลังถูกสอบเรื่องคอร์รัปชันร้ายแรงมากมายหลายเรื่อง แต่ก็กลับไม่ยอมตอบคำถามเรื่องโกงกินบ้านเมือง

เช่น เคยบอกว่า ตัวเองส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงตอนเป็นนายกฯ แต่วันนี้ ไปบอกสื่อต่างชาติว่า ทุนนิยมแบบของตัวเองนั้นเหนือกว่าเศรษฐกิจพอเพียง


ทักษิณ แน่ใจแล้วหรือว่าจะยอมให้สื่อไทยซักถามกันแต่ละประเด็นอย่างเจาะลึกและว่ากันในเบื้องลึกจริง?

ผมว่าจริงๆ แล้ว ทักษิณเป็นคนปอดแหก...เจอคำถามที่เจาะถึงแก่นจริงๆ ขี้เกียจจะหนีเข้ารกเข้าป่าไป

แต่ใครอย่าได้หลงกลคนเป็นโรคจิตเป็นอันขาด

เพราะเอาเข้าจริงๆ แกเป็นคนขี้เหงา เจ้าคิดเจ้าแค้น วันไหนไม่เป็นข่าว ก็สติแตก...คนที่ยอมใช้เงินซื้อให้ตัวเองเป็นพาดหัวในหนังสือพิมพ์ทุกวันนั้น ต้องมีความผิดปกติทางจิตใจอย่างไม่ต้องสงสัย

ทักษิณ แน่ใจแล้วหรือว่า พร้อมจะเจอกับคำถามตรงๆ ของสื่อไทยวันนี้?

เพราะคำถามนักข่าวฝรั่งนั้นไม่มีอะไรที่คาดไม่ถึงอยู่แล้ว เป็นรูปแบบการถามที่ล็อบบี้ยิสต์ที่รับเงินทักษิณ สามารถกะเก็งล่วงหน้าได้

แต่คำถามของคนข่าวไทยที่ไม่รับเงินทักษิณนั้นจะลุ่มลึก แหลมคม และไม่อาจจะเตี๊ยมกันล่วงหน้าได้นะครับ


เรื่องที่คนไทยควรทำวันนี้จึงไม่ใช่สนใจว่าทักษิณ จะให้สัมภาษณ์ใครพรุ่งนี้ แต่ต้องให้รัฐบาลสุรยุทธ์ และคมช. รีบเร่งฝีเท้าปราบคนโกง และเดินหน้าปฏิรูปการเมืองเพื่ออนาคตของประเทศอย่างเข้มข้นและอย่าได้มีภาพลักษณ์ "หน่อมแน้ม" เป็นอันขาด
 

 http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/06/WW12_1238_news.php?newsid=2824




ทักษิณ แน่ใจแล้วหรือว่า พร้อมจะเจอกับคำถามตรงๆ ของสื่อไทยวันนี้?

เพราะคำถามนักข่าวฝรั่งนั้นไม่มีอะไรที่คาดไม่ถึงอยู่แล้ว เป็นรูปแบบการถามที่ล็อบบี้ยิสต์ที่รับเงินทักษิณ สามารถกะเก็งล่วงหน้าได้

แต่คำถามของคนข่าวไทยที่ไม่รับเงินทักษิณนั้นจะลุ่มลึก แหลมคม และไม่อาจจะเตี๊ยมกันล่วงหน้าได้นะครับ



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #4 เมื่อ: 10-02-2007, 12:56 »

นักข่าวฝรั่งแปลกใจ ที่มีการกล่าวหานักข่าวฝรั่งว่ารับเงินแลกกับการเสนอข่าว เขาคิดว่ามาตรฐานของนักข่าวฝรั่ง ดีเลิศจนไม่มีการรับผลประโยชน์แลกกับการเสนอข่าว เพื่อให้ประโยชน์กับผู้เสนอข่าว

นักข่าวฝรั่งเป็นเทวดาจุติมาเกิดหรือ มีใครบ้างในโลกนี้สามารถรับรองความประพฤติของผู้อื่นได้  ความประพฤติของตนนั้นยังไม่สามารถดูแลให้ถูกต้องได้ตลอดเวลา แล้วไปรับรองคนอื่นได้อย่างไร

นักข่าวฝรั่งไม่กินหรือ ไม่โลภหรือ ไม่อยากหรือ

สันตปาปายังไม่กล้ารับรองความประพฤติของคาร์ดินัลเลย กลับกันก็เช่นกัน

นี่เป็นการแสดงความเห็นที่ไร้สาระ และมีสาระหากจะเอามาพิจารณาว่า นักข่าวฝรั่งโง่ๆอย่างนี้ยังมี นักข่าวฝรั่งรับเงิน ทำไมจะไม่มี???? 
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #5 เมื่อ: 10-02-2007, 12:59 »

โพลล์ชี้'ทักษิณ'จ้อผ่านสื่อเทศป้องผลประโยชน์ต้วเอง
 
10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 08:00:00
 
โพลล์ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ เผยคนกรุงกว่า58% เชื่อ"ทักษิณ"พูดผ่านสื่อต่างชาติเพื่อป้องผลประโยชน์ส่วนตัว กว่า67% อยากให้หยุดจ้อ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :  ธุรกิจบัณฑิตย์โพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สำรวจความคิดเห็นประชาชนในเขต กทม. จำนวน 1,256 คน “คิดอย่างไรกับการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ระหว่างวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์

พบว่าคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.3 เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศเพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนตัว ร้อยละ19.1 เห็นว่าเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางการเมือง ร้อยละ 18.3 เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และร้อยละ 4.3 มีเหตุผลอื่น ๆ เช่น ต้องการรักษาสถานภาพตนเอง ด้านการชี้แจงข้อเท็จจริง ลดเครดิตรัฐบาลชุดปัจจุบัน

นอกจากนี้คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 67.8 มีความเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ควรทำต่อไป เพราะคิดว่าจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแย่ลง เสียภาพลักษณ์ของตนเอง และควรยุติบทบาททางการเมือง อีกร้อยละ 32.2 เห็นว่าควรทำต่อไป


โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลยังไม่มีหลักฐานการกระทำผิดแน่ชัด เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล และจะได้ทราบข้อเท็จจริง เมื่อสอบถามถึงความตั้งใจในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน เปรียบเทียบกับชุดที่ผ่านมานั้น ร้อยละ 40.4 เห็นว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันตั้งใจมากกว่า ร้อยละ 30.8 ตั้งใจพอ ๆ กัน และร้อยละ 28.8 เห็นว่าเป็นรัฐบาลชุดที่ผ่านมา
 

 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/10/WW10_WW10_news.php?newsid=3848
   
 
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #6 เมื่อ: 10-02-2007, 15:32 »

ประเด็นในเชิงธุรกิจในแง่นักสื่อสารมวลชนบอกว่า คุณทักษิณขายได้เพราะเป็นที่สนใจจากคนทั่วโลกกรณีการถูกยึดอำนาจจากทหารทั้งๆที่เป็นนายกฯคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ปชช.คนไทยลงคะแนนเลือกมากที่สุด  ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง ประเทศอเมริกา และ อังกฤษถือเป็นผู้นำแห่งโลกทุนนิยมเปรียบเสมือนพระเอก ในขณะที่ระบอบการปกครองอื่นๆเช่น มุสลิม คอมมิวนิสต์ และ เผด็จการนิยมล้วนถูกจัดให้เป็นฝ่ายผู้ร้าย


เมื่อรัฐบาลทุนนิยมทักษิณถูกฝ่ายผู้ร้ายเผด็จการทหารยึดอำนาจ จึงเป็นเรื่องปรกติที่สมาชิกและผู้นำฝ่ายพระเอกจักต้อง take action รุมกินโต๊ะฝ่ายผู้ร้ายหลากหลายรูปแบบอย่างที่เห็น ดังนั้น การคงสภาพผู้ร้ายในสายตาทุนนิยมสำหรับประเทศไทยแล้ว...ถือเป็นความซวยที่ปชช.ส่วนมากไม่ได้มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด


ให้จับตาในระยะอันใกล้นี้....กระบวนการเสรีไทยภาค 2 อาจเกิดขึ้นแสดงจุดยืนปฎิเสธพันธกรรมใดๆที่รัฐบาลเผด็จการได้กระทำในช่วง3-4เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีแน้วโน้มว่าเรื่องนี้จะถูกนำไปเล่นในเวทีตปท.!!
บันทึกการเข้า
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #7 เมื่อ: 10-02-2007, 15:47 »



เราร๊ากกก อาแม๊ว...เราร๊ากอาแม๊ว....อาแม๊ว ซู๊..ซู๊..


 
บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #8 เมื่อ: 10-02-2007, 16:59 »

ก่อนหน้านี้ การซื้อพื้นที่ข่าว สื่อต่างชาติ จะเป็นที่'รู้กัน'ในวงแคบ
โดยนักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ นักโฆษณา ต่างชาติที่เข้ามาดำเนินธุรกิจของเขา
ในประเทศไทย แล้วเผย'เคล็ดลับ'ให้คนไทยที่ร่วมทีมงานที่ต้องทำงานร่วมกัน.....


ดร.เสรี  ดร.สมเกียรติ  ดร.เจิมศักดิ์  คุณสุทธิชัย ฯลฯ จึงเข้าใจดี
และพูดได้โดยไม่กลัวจะถูกฟ้องร้อง.......

ใครจะให้สัมภาษณ์'แก้เขิน'หรือ 'แก้ขวย' ก็ตามใจเถอะ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #9 เมื่อ: 10-02-2007, 17:32 »

สื่อไทยมาตรฐานเหนือกว่าสื่อฝรั่งนะเนี่ย เงินซื้อไม่ได้ เสียอย่างเดียวชอบทำข่าวมั่ว

แค่ชื่อนามสกุลของ 'กรุณา บัวคำศรี' ยังไปลงเป็น 'กรุณา บัวศรี' เจ้าของชื่อคงภูมิใจจนเซ็งเป็ด
ในความเป็นมาตรฐานเหนือสากลของสื่อไทยจริงๆ
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #10 เมื่อ: 15-02-2007, 00:18 »

คำถามที่นักข่าวต่างชาติละเว้นไม่ถามคือ " บุคคลระดับผู้นำประเทศถ้ามีความพร้อมอกพร้อมใจเสียภาษีอากรเหมือนชาวบ้านทั่วไป ทำไมต้องไปเปิดบัญชีบนเกาะฟอกเงิน นอกประเทศตัวเอง"

และเป็นคำถามที่ฝ่ายค้านตั้งใจจะให้ท่านตอบในสภา แต่คุณทักษิณใช้อำนาจฝ่ายบริหารล้มกระบวนการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ ตามกลไกประชาธิปไตย ด้วยการชิงยุบสภา ฆ่าตัดตอนสถาบันประชาธิปไตย โดยสมอ้างว่าต้องการคืนอำนาจให้ประชาชน


ประเด็นการยักย้ายถ่ายเทหุ้นผ่านบัญชีลูกหลานบนเกาะฟอกเงิน เป็นประเด็นสำคัญที่บรรดานักข่าวต่างชาติทั้งหลายพร้อมใจกันปิดปากไม่กล้า ถามท่านทักษิณ  อาจจะเพราะเขลาหรือขาดการทำการบ้านหรือมีการตกลงกันล่วงหน้ากับล็อบบี้ ยิสต์ก็ตามที 

  แต่ทำให้คนไทยจำนวนมากเกิดความคาใจในข้ออ้างความเป็นมืออาชีพของพวกเขา (world-class media)เพราะเรื่องถ่ายเทหุ้นนี้มีการเปิดโปงอย่างโจ๋งครึ่มในสื่อไทย ขนาดมีคนเดินขบวนขับไล่กันอย่างครึกโครมมาแล้ว

ข้อความของคุณสมชัย สุวรรณบรรณ อดีตหัวหน้าแผนกบีบีซีภาคภาษาไทย


พวกเขายังอวดอ้าง'ความเป็นมืออาชีพของพวกเขา(world-class media) ที่ไม่ขายตัว ขายพื้นที่ ไม่ขายเวลา.........................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #11 เมื่อ: 15-02-2007, 00:22 »

สื่อไทยมาตรฐานเหนือกว่าสื่อฝรั่งนะเนี่ย เงินซื้อไม่ได้ เสียอย่างเดียวชอบทำข่าวมั่ว

แค่ชื่อนามสกุลของ 'กรุณา บัวคำศรี' ยังไปลงเป็น 'กรุณา บัวศรี' เจ้าของชื่อคงภูมิใจจนเซ็งเป็ด
ในความเป็นมาตรฐานเหนือสากลของสื่อไทยจริงๆ


คุณชอบแถ2 ไม่ปฎิเสธว่า 'สื่อฝรั่ง เงินซื้อได้' .........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #12 เมื่อ: 15-02-2007, 00:49 »

"ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ..." แต่มะกันไม่แน่
 
13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 01:00:00
 
ทูตมะกัน ประจำกรุงเทพฯ ราล์ฟ บอยส์ บอกว่า ทักษิณ ชินวัตร ว่าจ้างบริษัทของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เจมส์ เบเกอร์ ที่ชื่อ Baker Botts LLP. ที่กรุงวอชิงตัน ไม่ใช่เรื่องแปลก


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :     และไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการกำหนดนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ แต่ประการใด

อีกทั้งไม่แปลกใช่ไหมที่ทักษิณ เรียกตัวเองว่า "freely-elected prime minister" แทนที่จะเป็น "former prime minister" ของประเทศไทย?

เมื่อเป็นเช่นนั้นก็เป็นหน้าที่ของ "วอร์รูม" ข่าวสารหรือคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ยามวิกฤติเชิงรุก ที่นายกฯ สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพิ่งตั้งขึ้นมา ที่จะต้องแจ้งให้บริษัทของ คุณเจมส์ เบเกอร์ ได้รู้ว่าทักษิณ กำลังเป็นเป้าของการสอบสวนเรื่องฉ้อฉล และอื้อฉาวอะไรบ้างในประเทศ

เขาเป็น "ล็อบบี้ยิสต์" ที่จดทะเบียนกับวุฒิสภาตามกฎระเบียบของเขา ซึ่งแปลว่า เขาจะต้องมีความเปิดเผย และโปร่งใส...

ทักษิณ ใช้เงินเท่าไหร่จ้างเขา เขาต้องเปิดเผยด้วย เพราะทักษิณ และครอบครัวกำลังถูกสอบสวนหลายข้อหาที่เกี่ยวโยงกับภาษีของประชาชนคนไทย ดังนั้น ทุกบาททุกสตางค์ที่ทักษิณ และครอบครัวเอาไปใช้จะต้องเข้าข่ายต้องสงสัย


คนมีอาชีพ lobbyists ที่อเมริกา จะต้องมีจริยธรรมที่เขาเรียกว่า ethics ด้วย นั่นคือจะไปรับจ้างทำอะไรให้คนที่ใช้อำนาจทางการเมืองทำเรื่องอื้อฉาวที่เจ้าของประเทศเขากำลังเรียกร้องทวงคืน และอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาแผ่นดิน มีความผิดร้ายแรงย่อมจะผิดกติกาของเขาเช่นกัน

ในฐานะที่เจมส์ เบเกอร์ เคยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของอดีตประธานาธิบดี จอร์จ บุช (ผู้พ่อ) ก็จะต้องรู้ว่า การทำงานเป็นล็อบบี้ยิสต์จะต้องอยู่ในกรอบของความถูกต้องชอบธรรมโดยเฉพาะลูกค้าของตัวเอง จะต้องไม่ใช่คนที่ถูกประชาชนของประเทศนั้นๆ กล่าวหาว่าฉ้อราษฎร์บังหลวงและเกี่ยวพันกับเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง


จะเป็นเบเกอร์ที่ 3 ผู้พ่อหรือเบเกอร์ที่ 4 ผู้ลูกก็ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมากมายนักในบริบทการเมืองเช่นนี้

ดังนั้น "วอร์รูม" ของรัฐบาลจะต้องส่งจดหมายอย่างเป็นทางการไปถึงนายเบเกอร์ และผู้บริหารของบริษัท Baker & Botts เพื่อแจ้งให้เขารู้ว่าทักษิณ กำลังถูกสอบสวนในข้อหาร้ายแรงอะไรบ้าง

 ระบุลงไปเลยว่า เขากำลังล็อบบี้ให้คนคนเดียว เพื่อสร้างความวุ่นวายให้กับคนไทยทั้งประเทศ และคำว่า "freely-elected prime minister" ที่เขียนไว้ในเอกสารทางการของเขานั้นเป็นประเด็นที่จำเป็นต้องถกแถลงกันอย่างกว้างขวางว่ามัน "freely-elected" แค่ไหน?


ระบุลงไปเลยว่า คำนี้ยัง "debatable" ในสังคมไทยและสังคมโลกอยู่

แต่ถ้าอ่านเอกสารที่บริษัทล็อบบี้ยิสต์นี้เขียนถึง "ประเด็นของการล็อบบี้" (lobbying issues) แล้ว จะเห็นว่าทักษิณ อาจจะถูกฝรั่งหลอกเสียเงินอีกแล้ว 

เพราะเขาไม่ได้รับปากว่าจะทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันอย่างที่ทักษิณคิดว่าตัวเองจะได้เลยแม้แต่น้อย

เพียงแต่บอกว่าจะ "ติดตาม" หรือ monitor ข่าวสารว่าด้วยนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อรัฐบาลไทย หรือ "ท่าทีของรัฐบาล (สหรัฐฯ) ต่อการที่ทักษิณพยายามจะกลับประเทศไทย..." (The firm will monitor the evolution of US policies towards the interim government in Thailand or the Administration's position regarding attempts by Dr Thaksin to return to Thailand...)

และเขียนต่อไว้อย่างคลุมเครือว่า

"...and may subsequently undertake contacts as necessary to ensure that such policies remain consistent with those currently in place."

แปลได้ความว่า "และอาจจะทำการติดต่อตามที่จำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่านโยบายดังกล่าวนี้ จะสอดคล้องกับที่เป็นอยู่ขณะนี้..."

เป็นภาษากฎหมายของทนายและเหล่าที่บรรดาที่ปรึกษาที่เขียนเอาไว้กว้างๆ พอที่จะทำให้ไม่จำเป็นต้องทำงานประสบผลสำเร็จตามที่ลูกค้าต้องการเลยแม้แต่น้อย

ทักษิณ ถูกฝรั่งต้มได้ง่ายๆ เพราะนึกว่าฝรั่งเป็นเทวดาหรือเปล่า?

ภารกิจหลักของล็อบบี้ยิสต์บริษัทนี้ตามข้อตกลงกับทักษิณ ที่ปรากฏในเอกสารทางการก็ไม่รู้ว่าคืออะไรกันแน่ เพราะเขาเขียนไว้ว่า "Develop and implement a strategic approach to the various international and political issues that confront Dr Thaksin as a result of the coup of September 19..."

หรือแปลว่า "พัฒนาและดำเนินการให้มีแนวทางยุทธศาสตร์ต่อประเด็นระหว่างประเทศและการเมืองที่ดร.ทักษิณ เผชิญอยู่หลังการปฏิวัติวันที่ 19 กันยายน..."

ภาษาที่ใช้ฟังดูขึงขังแต่อ่านให้ดีจะรู้ว่าไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันพอที่จะทำให้ทักษิณได้ประโยชน์อะไรจากการว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์มะกันนี้เลย...นอกจากจะทำให้บริษัทของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศมะกันคนนี้มีลูกค้าและเพิ่มรายได้ให้เขา

ถามรัฐบาลจีน จะรู้ว่าไต้หวันทุ่มเงินมหาศาลจ้างล็อบบี้ยิสต์มะกันที่วอชิงตันเพื่อทำเรื่อง "ยุทธศาสตร์ทางการเมือง" เพื่อวิ่งเต้นในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เหมือนกัน

ลงท้ายก็อยู่ที่เนื้อหาและสาระของความเป็นจริง...ล็อบบี้ยิสต์มะกันรวยกันเป็นทิวแถว เพราะการหลงเชื่อว่าพวกเขามี "เส้นสาย" และ "อิทธิพล" ที่จะเปลี่ยนขาวเป็นดำได้

ลงท้ายทักษิณ ที่นึกว่าตัวเองเก่งกาจเหนือมนุษย์ก็ถูกล็อบบี้ยิสต์ มะกันหลอกส่งบิลคิดค่า "ที่ปรึกษา" แพงๆ เท่านั้นเอง

(เข้าไปที่ blog ส่วนตัวของผมที่ www.oknation.net/blog/black เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องร้อนๆ ทุกประเด็นได้)
 

 http://www.bangkokbiznews.com/2007/02/13/WW12_1238_news.php?newsid=4164
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2007, 00:51 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #13 เมื่อ: 15-02-2007, 01:03 »

ผมก็จำไดว่าเคยมีหน่วยงานราชการแห่งนึง ทำรูปไอ้เหลี่ยมขี่ม้าเหมือนพระเจ้าตากออกมาเผยแพร่หนนึงนานมาแล้ว ดูแล้วหยะแหยงมากครับ พอมีคนท้วงเข้าก็เงียบไป   Foot in mouth Mr. Green Foot in mouth

ไอ้ชั่วนี่มันสำคัญตัวเองผิดมาตั้งแต่คิดจะเล่นการเมืองแล้วครับ   
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #14 เมื่อ: 15-02-2007, 10:30 »

ประเด็นเรื่องนักข่าวต่างชาติ ไม่ต้องให้อดีตหัวหน้าแผนกบีบีซีภาคภาษาไทยคอมเมนท์หรอก
คนดูบ้านๆ อย่างเราดูยังสงสัย ว่าสื่อพวกนี้วันๆ มันเอาแต่นั่งกินเบียร์อยู่แถวพัฒน์พงษ์หรือไง
...ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง

 


ผลสะท้อนความคิดเห็นของคนไทยที่ได้ได้อ่าน ได้ฟัง ได้รับรู้การสัมภาษณ์ และการเผยแพร่ข่าว'เตี๋ยม'การให้สัมภาษณ์ของ เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก กับผู้สื่อข่าวต่างด้าวในต่างประเทศว่า สื่อฯต่างด้าว ก็ขายพื้นที่ ขายเวลา และขายศักดิ์ศรีได้ด้วยนั้น.....

ทำให้คนไทยจำนวนหนึ่งลดความเชื่อถือ เชื่อมั่นต่อการเสนอข่าวของสื่อฯต่างด้าวระดับโลก(world class media)เพิ่มขึ้น......

ก่อนหน้านี้คนไทยที่คุ้นเคยกับ'สื่อสารมวลชน'ต่างชาติ ย่อมรู้กันว่าพวกเขาเลือกข้าง เลือกเสนอข่าวอยู่แล้ว คนไทยพวกนี้จะไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับพฤติกรรมของ CNN หรือ TIME เป็นต้น มีพฤติกรรมอย่างที่เห็น....

ถึงวันนี้สื่อฯที่ร่วมมือกับเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ทำลายชื่อเสียงของราชอาณาจักรไทย จะต้อง'ประเมิน'ว่า พวกเขา'เสียมากกว่าได้' พลาดท่าถูกเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกหลอก.....

'พร่า'ความเชื่อถือ ความศรัทธาในวิชาชีพสื่อฯต่างชาติไปอีกจากหมู่คนไทยที่ได้อ่าน ได้ฟัง ได้รับรู้เรื่องนี้เท่าใด..... Question




บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: