ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
11-01-2025, 06:44
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เปิดห้องเศรษฐกิจเน่าเพิ่มดีไม๊ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เปิดห้องเศรษฐกิจเน่าเพิ่มดีไม๊  (อ่าน 2604 ครั้ง)
sofar...sogood
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 278


=ไอ้ลิ่วล้อสิงกาโปโตก..มันจะตกนรกกะลาหัวไม่เจียม=


« เมื่อ: 06-02-2007, 18:07 »

เอาให้มันโพสต์กันรายวัน ขังอยู่ในห้องเดียวไปเลย

บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 06-02-2007, 20:22 »

ดีค่ะ หนูก้อมีเศรษฐกิจเน่าอยู่สามสี่กระทู้ ยินดีถูกขังค่ะ 
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #2 เมื่อ: 06-02-2007, 21:01 »

เศรษฐกิจเน่า เศรษฐีเครียดหนี้บาน สังหารลูกเมียดับ ก่อนยิงตัวตายตาม วันที่ 06 ก.พ. 2550

วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 7 นาฬิกาเศษ มีรายงานแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตาย ภายในบ้านเลขที่ 90/23 -107 ซ.พัฒนาการ 40 ถ.พัฒนาการ แขวงเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คลองตัน รุดเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นคฤหาสน์หรู 2 หลังติดกัน ภายในมีรถยนต์ยุโรปราคาแพงจอดอยู่ราว 10 คัน เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ที่ห้องนอนชั้น 2 พบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือน.ส.ณัฐนันท์ สุรวุฒิพงษ์ อายุ 17 ปี ส่วนที่ห้องนอนชั้น 3 ซึ่งมี 2 ห้องโดยห้องแรกพบผู้เสียชีวิต 3 ศพ ได้แก่ นายบุญชัย นางเพ็ญพิมล และด.ช.พาณิช อายุ 6 ปี ส่วนอีกห้องพบศพ น.ส.นัฐมา สุรวุฒิพงษ์ อายุ 15 ปี ทุกศพเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. โดยอาวุธปืนดังกล่าวตกอยู่ระหว่างศพของนายบุญชัย และด.ช.พาณิช ทั้งนี้ ยังพบจดหมายลาตาย 2 ฉบับ โดยแผ่นแรก นายบุญชัยเป็นผู้เขียน ซึ่งบรรยายถึงพระคุณพ่อแม่ และขอโทษที่ไม่ได้ตอบแทนพระคุณ ส่วนฉบับที่ 2 เป็นการเล่าว่ามีมาเฟียคอยมาตามทวงหนี้ตลอดเวลา

จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า นายบุญชัย เป็นหนี้จำนวนมหาศาล ซึ่งนอกจากจะไปกู้แบงก์แล้วยังมีหนี้นอกระบบอีกด้วย จึงทำให้เครียดหนักและตัดสินใจสังหารคนในครอบครัว ก่อนที่จะยิงตัวตายตาม อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในประเด็นนี้เพียงสาเหตุเดียว
http://www.matichon.co.th/breaking-news/breaking-news.php?nid=MjAwNzAyMDYtMTMxODA4

บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #3 เมื่อ: 06-02-2007, 21:01 »

เศรษฐกิจเน่า ค่าเงินบาทยังคาใจผู้ส่งออก ธปท.แอ่นอกยอมรับผู้ ประกอบการพังครืน! [6 ก.พ. 50 - 04:38]
http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=35959
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #4 เมื่อ: 06-02-2007, 21:02 »

เศรษฐกิจเน่า หวั่นเอสเอ็มอีแบกภาระฟอร์เวิร์ดอ่วม ชี้ค่าบาทพลิกกลับไปอ่อนยาก

นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สิ่งที่กังวลอยู่ในขณะนี้คือ เรื่องของค่าเงินบาท ที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เนื่องจากมีต้นทุนในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (ฟอร์เวิร์ด) มากขึ้น

"การทำฟอร์เวิร์ดมีต้นทุน เปรียบเสมือนอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่รู้ว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะรับภาระไหวหรือไม่ แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องปรับตัวไปในทิศทางนั้น ต้องทำฟอร์เวิร์ด ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการเก็งกำไร แต่ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง แต่จะให้เงินบาทกลับไปอ่อนเหมือนเดิมคงไม่ได้" นายธวัชชัยกล่าว

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงหลังจากที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงครบทุกประเภทแล้ว โดยในระยะสั้นอาจจะค่อยๆ ปรับลดลง แต่สำหรับในระยะยาวนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะพิจารณาปรับลดลงมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยยังขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของธนาคารแต่ละแห่งด้วย เพราะการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะต้องมีสัดส่วนที่เท่ากับการลดลงของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

"ธนาคารพาณิชย์ต้องการให้ดอกเบี้ยลดลงอยู่แล้ว แต่มันขึ้นอยู่กับต้นทุน ถ้าสามารถรับได้ก็ปรับลดลงได้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้ารายใหญ่ เพราะผลตอบแทนของการลงทุนตามปกติอยู่ในระดับที่มากกว่า 10% แต่ที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงก็คือลูกค้ารายย่อยหรือบุคคลที่มีเงินเดือนประจำ เพราะการผ่อนบ้าน ผ่อนรถหากดอกเบี้ยขึ้นแค่เล็กน้อยก็เพิ่มภาระแล้ว ส่วนการขยายสินเชื่อในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมานั้นค่อนข้างเงียบ" นายอภิศักดิ์กล่าว

ก่อนหน้านี้นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะเกิดขึ้นภายในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยคาดว่าจะสามารถลดลงได้ประมาณ 0.5% ในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับสัญญาณจากธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01eco04060250&day=2007/02/06&sectionid=0103
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #5 เมื่อ: 06-02-2007, 21:02 »

เศรษฐกิจเน่า หอการค้าสำรวจชี้ผู้ชาย16%วางแผนมีเพศสัมพันธ์

หอการค้า เผยผลสำรวจร้อยละ50.7 ไม่คิดมีเพศสัมพันธ์วันวาเลนไทน์ มีเพียงร้อยละ11 เท่านั้นที่วางแผนมีSEXขณะยอดใช้จ่ายสะพัดเกือบ 2,000 ล้านบาท

นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะทำงานจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,222 คนทั่วประเทศทุกกลุ่มอายุ ว่า จะมีการใช้จ่ายถึง 1,876 ล้านบาท คิดเป็นต่อหัว 651 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากปีที่แล้ว โดยดอกไม้เป็นสินค้ายอดนิยมที่กลุ่มตัวอย่างคาดว่าจะซื้อคิดเป็นร้อยละ 33 รองลงมาคือช็อกโกแลต และตุ๊กตา ส่วนกิจกรรมวันวาเลนไทน์ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 34 ระบุว่าจะอยู่บ้าน รองลงมาคือทานข้าวร้อยละ 23 ดูหนังร้อยละ 20 และเดินห้างร้อยละ 10

นอกจากนี้ กลุ่มวัยรุ่นให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 86 ของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนวัยทำงานมีเพียงร้อยละ 11 และคู่สมรสให้ความสำคัญน้อยมากเพียงร้อยละ 3 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะมองว่าวันวาเลนไทน์ปีนี้จะคึกคัก แต่มีบางกลุ่มยังกัวลเหตุการณ์ระเบิดและราคาสินค้าที่แพงกว่าปกติ นอกจากนี้ ร้อยละ 63 เสนอแนะให้เพศหญิงระวังตัวในวันวาเลนไทน์ เพราะเห็นว่าผู้ชายร้อยละ 16 วางแผนจะมีเพศสัมพันธ์ในวันนี้ และร้อยละ 26 แนะนำให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด.
http://www.innnews.co.th/Biz.php?nid=20421
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #6 เมื่อ: 06-02-2007, 21:20 »

ระวัง เทศกาลวาเลนไทน์

ช่วงเทศกาล ตั้งแต่ เย็นวันที่ 14-เช้ามืดวันที่ 15
-หลีกเลี่ยงการสังสรร ตามสถานที่ชุมนุมชน ชื่อดัง
-งดเมาสุรา เข้าผับบาร์ เลยเที่ยงคืนของวันที่ 14
-งดเข้าโรงหนังหรู ไมว่าเบาะเดี่ยว เบาะคู่ ที่มาตรการความปลอดภัยย่อหย่อน ชั่วคราว
-ถ้าช๊อปปิ้ง ตามห้างย่านสุขุมวิท นานา รัชดา สยามสแควร์ พัฒนพงษ์ ให้กลับเร็วกว่าปรกติ
-เข้าพักตามโรงแรม อย่ากินเหล้า หรือเสพย์สิ่งเสพติดจนเมามายไม่ได้สติ หากฉุกเฉินจะหนีไม่ทัน
-กำชับ บุตรหลานเพื่อนฝูงคนรู้จัก อย่ารับฝากของ ถือของจากคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก
-งดเว้นการไปเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวปาร์ตี้ ที่มีชาวต่างชาติ รวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
-ใช้ความระมัดระวังเมื่อใช้บริการ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน หรือ ยืนตามป้ายรถเมล์
-ให้สังเกตสิ่งผิดปรกติ ถ้าพบให้แจ้งตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ห้ามเข้าไปสำรวจตรวจสอบเอง
-พกไฟฉายติดตัว เท่าที่จะสามารถพกไปได้

อ่านต่อแล้วช่วยส่งต่อด้วย
ให้ระลึกไว้ว่า

"ตระหนักแต่อย่าตระหนก"
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 06-02-2007, 21:24 »

 


...ความเน่าเกิดจากคนแกล้งเสแสร้งใส่ความเน่าลงไป
หรือเศรษฐกิจมันเน่าเอง  ตอบหน่อย  ?...
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 06-02-2007, 21:42 »

กระทู้เริ่มเน่าสมชื่อแล้ว
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


sofar...sogood
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 278


=ไอ้ลิ่วล้อสิงกาโปโตก..มันจะตกนรกกะลาหัวไม่เจียม=


« ตอบ #9 เมื่อ: 06-02-2007, 22:42 »

 

อุตส่าห์ประชด..มันมาใหญ่เลยอ่ะ
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #10 เมื่อ: 06-02-2007, 23:08 »

เศรษฐกิจเน่า .. ประธานธนาคารโลกใส่ถุงเท้าขาด

 
World Bank President Paul Wolfowitz may be dedicated to freeing the world from poverty

but he seems unable to afford a new pair of socks.

http://news.bbc.co.uk/2/hi/americas/6316765.stm




http://www.dvorak.org/blog/?p=9478

 
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #11 เมื่อ: 06-02-2007, 23:22 »

เศรษฐกิจเน่า สื่อใหญ่ไม่รับ .. แม้วโผล่ หัวสื่อพม่า

Quote of the Day

“My new party will be called the ‘Enjoy Life Party’…

playing golf, traveling, relaxing, meeting friends.”

—Thaksin Shinawatra, former Thai PM

http://www.irrawaddy.org/

 
 
 
 


บันทึกการเข้า
TheBluECaT
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 824


"แมวน้อยสีน้ำเงิน..."


« ตอบ #12 เมื่อ: 06-02-2007, 23:30 »

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มเน่า...

ก่อให้สโมสรฟุตบอลอังกฤษเริ่มมีปัญหาการเงินภายใน  ทำให้ถูกเศรษฐีชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาเทค์โอเวอร์
เริ่มจากเชลซี แมนยูฯ  และบัดนี้ลิเวอร์พูล (หลังภายที่โดนเศรษฐีชาวไทยหลอกจะเอาเงินหวยไปซื้อหุ้นเพียงแค่หวังจะกลบข่าวไม่ดีของตนเอง)  ก็ถูกเศรษฐีชาวมะกัน 2 ท่าน เทค์โอเวอร์ไปเป็นที่(เรียบร้อยโรงเรียนอเมริกาแล้ว...)


2 นักธุรกิจมะกันทุ่มเงินมหาศาลเทคโอเวอร์ ‘ลิเวอร์พูล’
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 กุมภาพันธ์ 2550 22:10 น.

จอร์จ ยิลเล็ตต์ และทอมมี่ ฮิกส์ สองนักธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาชาวอเมริกัน ตัดสินใจร่วมกันทุ่มเงิน 174 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,180 บาท) เข้าเทคโอเวอร์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรลูกหนังชั้นนำแห่งศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
 
       เมื่อวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ ตามวัน-เวลาท้องถิ่นในอังกฤษ จอร์จ ยิลเล็ตต์ ควงคู่ ทอมมี่ ฮิกส์ ออกแถลงการณ์ในเรื่องเทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล โดยทั้งสองยอมซื้อหุ้น “หงส์แดง” ในราคาหุ้นละ 5 พันปอนด์ (ราว 3.5 แสนบาท) เมื่อรวมกับการชดใช้หนี้สินให้แก่สโมสร เท่ากับว่าในการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ 2 เศรษฐีชาวอเมริกันทุ่มเงินไปทั้งสิ้น 219 ล้านปอนด์ (ประมาณ 15,330 ล้านบาท)
       
       สำหรับ ฮิกส์ เป็นเจ้าของทีม เท็กซัส เรนเจอร์ส ทีมในเมเจอร์ลีก เบสบอล (MLB) และก็เป็นเจ้าของ ดัลลัส สตาร์ส เฟรนไชส์ชั้นนำแห่งลีกฮ็อกกี้น้ำแข็ง (NHL) ในสหรัฐฯ ด้านของ ยิลเล็ตต์ เป็นเจ้าของทีม มอนทรีออล แคนาเดียนส์ ในลีก NHL เช่นกัน
       
       หลังจากประสบความสำเร็จในการเทคโอเวอร์ ลิเวอร์พูล ทั้งสองออกมากล่าว “ ตระกูลฮิกส์ และตระกูลยิลเล็ตต์ รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับการสืบทอดมรดกและประเพณีของสโมสรแห่งนี้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมลูกหนังที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ มีแฟนฟุตบอลที่ลุ่มหลงในทีม เราจึงรู้สึกยินดีเป็นที่สุดที่ได้สานต่อความยิ่งใหญ่กับพวกเขา ”
       
       ลิเวอร์พูล แชมป์ยุโรป (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) ประจำปี 2005 กำลังต้องการเงินสนับสนุนทีมในช่วง 2 ปีจากนี้เพื่อผลักดันให้พวกเขากลับคืนสู่เกียรติยศสูงสุดอีกครั้ง รวมไปถึงการสร้างสนามแห่งใหม่แทน “แอนฟิลด์” เดิม
       
       “หงส์แดง” ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ชิป เก็บไปแล้ว 50 คะแนนจากการลงสนาม 26 นัด ส่วนทีมจ่าฝูงได้แก่ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เก็บไป 63 คะแนน อันดับ 2 “สิงห์บลูส์” เชลซี ซึ่งเป็นแชมป์เก่ามีอยู่ 57 คะแนนจากการลงสนามเท่ากัน
       
       ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล แชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมีการพูดคุยถึงเรื่องการเทคโอเวอร์สโมสรกับ กลุ่ม ดูไบ อินเตอร์เนชั่นแนล แคปปิตอล หรือ DIC แต่ทางกลุ่มอาหรับตัดสินใจถอนขอเสนอไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจาก “หงส์แดง” โยกโย้ขอเวลาพิจารณาข้อเสนอของทางยิลเล็ตต์ ด้วย
       
       ในเรื่องของสนามแห่งใหม่ เมื่อปีก่อนตอนแรกทั้ง ลิเวอร์พูล และ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ทีมอริร่วมเมืองวางแผนที่จะสร้างสนามเหย้าแห่งใหม่ร่วมกัน อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้ว บรรดาผู้ถือหุ้นของสโมสร รวมถึง เดวิด มัวร์ ประธานทีมลิเวอร์พูล ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้
       
       ด้านของ ยิลเล็ตต์ และฮิกส์ เอ่ยปากเมื่อวันอังคารว่าไม่เคยพูดถึงเรื่องการสร้างสนามแห่งใหม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขามีเจตจำนงสร้างสนามแห่งใหม่ซึ่งสามารถจุผู้ชมได้ 60,000 ที่นั่ง ตามที่สโมสรได้รับอนุญาตให้ดำเนินการวางแผนสร้างแล้ว
       
       ส่วน ริค แพร์รี่ ประธานบริหาร (ซีอีโอ) ลิเวอร์พูล เผยผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ลิเวอร์พูล (www.liverpoolfc.tv) “ นี่ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของสโมสร ตอนนี้เราได้หุ้นส่วนที่เหมาะสมสำหรับการเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ตอนนี้ทุกอย่างจบลงด้วยดี และก็เชื่อว่าเจ้าของทีมรายใหม่จะสามารถนำพาสโมสรไปสู่ความสำเร็จและเจริญมั่งคั่งต่อไป ”
       
       สองเจ้าของทีมรายใหม่ยังระบุในแถลงการณ์ ให้คำมั่นที่จะจัดงบประมาณใช้จ่ายประจำปีในเรื่องการหาผู้เล่นมาเสริมแกร่งให้กับทีม รวมทั้งจะยังคงให้คณะกรรมการบริหารของสโมสร และทีมงานผู้จัดการชุดเดิมทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่า “หงส์แดง” จะได้รับเงินงบประมาณเสริมทีมมากน้อยเพียงใด
       
       ทางด้านของ มัวร์ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นประธานสโมสรกิตติมศักดิ์ตลอดชีพของ ลิเวอร์พูล  กล่าวเป็นการปิดท้าย “ ผมเชื่อว่านี่คือ ก้าวย่างที่ยอดเยี่ยมของทีม บรรดาผู้ถือหุ้นสโมสร และแฟนๆ ”
       
       การเทคโอเวอร์สโมสร ลิเวอร์พูล ในครั้งนี้เสมือนกับครั้งที่ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียน ทุ่มเงินมหาศาลครอบครอง เชลซี สโมสรดังแห่งกรุงลอนดอน เมื่อปี 2003 ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ถูกเทคโอเวอร์โดย มัลคอล์ม เกลเซอร์ มหาเศรษฐีชาวมะกัน เจ้าของทีม แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส ในลีกอเมริกัน ฟุตบอล (NFL) เมื่อปี 2005


       

http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9500000015023

------------------------------------------------------

ร่วมด้วยช่วยเน่าครับ...  
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2007, 23:34 โดย TheBluECaT » บันทึกการเข้า

"ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์  ยามบุญหลงหงส์เป็นกาน่าฉงน...
ยามบุญมาหมูหมากลายเป็นคน  ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์"
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #13 เมื่อ: 06-02-2007, 23:56 »

เอามาฝากชอบแถ เค็กอุนจิ

ช่วยเน่าด้วยอีกคนง่ะ


* un_happy_bday.jpg (74.41 KB, 800x600 - ดู 221 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
jrr.
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #14 เมื่อ: 07-02-2007, 00:16 »

มันเน่ามาตั้งหลายปีแล้ว....ปุ๊ดโธ่ !!!

ขนาดคนเป็นอดีตนายกฯ....ยังต้องขอเงินเมียใช้เลย เวร !!!
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #15 เมื่อ: 07-02-2007, 03:41 »

ทำไมมันไม่ขอเงินเมียมาซื้อลิเวอร์พูลเองฟระ
ดันจะเอาเงินภาษีไปซื้อ
สันขวานจริงๆ 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #16 เมื่อ: 07-02-2007, 08:37 »

เน่าสนิท๑๐๐%
เห็นจะๆ

 
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 07-02-2007, 09:21 »

ผมเพิ่มให้อีกหลายกระทู้นะเอ้า  


• เศรษฐกิจเน่า ฮาวคัมร้องจ๊าก รายได้หด คตส.เช็คบิล
• เศรษฐกิจเน่า คิงส์พาวเวอร์เจอแจ็กพ็อต คาดถูกรื้อพื้นที่ส่วนเกิน
• เศรษฐกิจเน่า ผุดโครงการรถไฟฟ้า 5 เส้นทางตัดหน้าทักษิณ
• เศรษฐกิจเน่า ไมโครซอฟต์เปิดร้านพันทิปสู้ซอฟต์แวร์ผี
• เศรษฐกิจเน่า เทมาเส็กเตรียมทิ้งหุ้น-ลอยแพไอทีวีหนีหนี้แสนล้าน
• เศรษฐกิจเน่า มัลลิกาพเนจรไป 105 ซ้อมแผนหนีตายก่อนตกงาน
• เศรษฐกิจเน่า ชาวบ้านหลงทางเหลี่ยมเดินไม่ถูก อนุมัติ 5 พันล้านอยู่ดีมีสุขพึ่งตนเอง
• เศรษฐกิจเน่า ชาวโคนมเจอฤทธิ์เอฟทีเอแลกดาวเทียม สุรยุทธ์รับกรรมให้แค่ 1.25 บ./กก.

ฯลฯ

บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #18 เมื่อ: 07-02-2007, 14:10 »

เศรษฐกิจเน่า รัฐบาลอินโดนีเซียหลงเชื่อพวกกองเชียร์หลงหอ


ตามที่พวกกองเชียร์พรรคหลงหอโจมตีการทำงานป้องกันน้ำท่วมเขตเศรษฐกิจ

โดยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ด้วยวิธีการผันน้ำให้ไปพักที่ทุ่งมะขามหย่อง

และพื้นที่นาไร่ของเกษตรกรรอบนอกเขตเศรษฐกิจ

รัฐบาลอินโดนีเซีย หลงเชื่อนายแถ กลัวว่าถ้าปล่อยให้น้ำท่วมรอบนอกเมือง

จะทำให้ลิงอุรังอุตัง อันเป็นทรัพยากรของชาติ ต้องอดตาย จึงปปล่อยให้น้ำท่วมขัง

กรุงจาร์กาต้า เมืองหลวง  ให้ประชาชน 340000 คนต้องรับเคราะห์กรรมแทนลิง

...................................................................

เตรียมคำขอโทษลิงไว้หรือยังครับท่าน

http://forum.serithai.net/index.php?topic=9663.0



 

...
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #19 เมื่อ: 07-02-2007, 14:15 »

Jakarta flood displaces 340,000



http://news.yahoo.com/s/nm/20070205/wl_nm/indonesia_floods_dc_7

 




http://news.bbc.co.uk/1/hi/world/asia-pacific/1791623.stm




...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2007, 14:49 โดย สมชายสายชม » บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #20 เมื่อ: 07-02-2007, 14:20 »

Jakarta flood displaces 340,000
Mon Feb 5, 2007 4:15 AM GMT


http://today.reuters.co.uk/news/articlenews.aspx?type=worldNews&storyID=2007-02-05T041550Z_01_JAK117949_RTRUKOC_0_UK-INDONESIA-FLOODS.xml&pageNumber=1&imageid=&cap=&sz=&WTModLoc=NewsArt-C1-ArticlePage1




Residents have breakfast along a street, two days fleeing from their flooded houses in east Jakarta February 4, 2007. Floods in the Indonesian capital have killed at least nine people and made nearly 200,000 people homeless, with the deluge of muddy brown water up to 4 metres (13 feet) deep in some areas of Jakarta, officials said on Sunday. REUTERS/Enny Nuraheni 





An aerial view of a flooded residential area in east Jakarta February 4, 2007. Floods in the Indonesian capital have killed at least nine people and made nearly 200,000 people homeless, with the deluge of muddy brown water up to 4 metres (13 feet) deep in some areas of Jakarta, officials said on Sunday. REUTERS/Supri




Residents sit in front of shops after fleeing from their flooded houses in east Jakarta February 4, 2007. At least five people have been killed in severe floods in Indonesia's capital and surrounding areas with more than 100,000 people left homeless after days of torrential rain, a disaster official said on Saturday.REUTERS/Enny Nuraheni

 

...
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #21 เมื่อ: 07-02-2007, 14:31 »

เศรษฐกิจเน่า รัฐบาลอินโดนีเซียเกรงการผันน้ำท่วมทุ่ง

อาจจะขยายความแตกแยกระหว่างกลุ่มคนในประเทศ



ปัญญหาน้ำท่วมกรุงจาร์กาต้า เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่รัฐบาลอินโดนีเซียคงจะไม่อยาก

ที่จะแก้ไข เพราะการผันน้ำออก อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้คนที่อยู่นอกกรุง

ภาพน้ำท่วมเมื่อปี ค.ศ.๒๐๐๒ Jakarta: Flood

January 2002 in the Mangga Besar neighborhood







เพื่อความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และเพื่อสมัครสมานสามัคคีให้กระจายทั่วถึงกัน

จึงต้องให้เมืองหลวงรับน้ำเท่าเทียมกับพื้นที่อื่นๆ ตามคำแนะนำของคุณกาลามชน

http://forum.serithai.net/index.php?topic=9991.0



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2007, 14:40 โดย สมชายสายชม » บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #22 เมื่อ: 07-02-2007, 16:56 »

เศรษฐกิจเน่า
"ประเวศ"อัด"ทักษิณ"ไร้สำนึกเคลื่อนไหวการเมือง

นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองในต่างประเทศ โดยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กับสื่อต่างประเทศ แสดงว่ายังไม่มีความสำนึกว่าตัวเองทำผิด เพราะคนที่สำนึกผิดจะต้องถ่อมตัว เงียบสงบ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สำนึกผิด ยังทำตามนิสัยเดิม ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. อย่าตอบโต้คำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะจะแสดงให้เห็นถึงความหวั่นไหว และถือเป็นการให้ความสำคัญกับอดีตนายกรัฐมนตรี ควรใช้วิธีอื่นแทน เช่น เชิญทูตต่างประเทศมาชี้แจง หรือชี้แจงกับสื่อมวลชนต่างประเทศ หรือทำข้อมูลเป็นสมุดปกขาวแจกจ่ายให้ผู้สนใจ ถือว่าเป็นหลักฐานที่ใช้แทนคำพูดได้ดี


นพ.ประเวศ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีควรมีที่ปรึกษาเหมือนกับสมัยที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกคอยติดตามความเคลื่อนไหวทุกเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง รายงานป้อนข้อมูลนายกรัฐมนตรีเช้า-เย็น นายกรัฐมนตรีจะต้องรู้ ต้องพูดถูก จะพูดผิดไม่ได้



นอกจากนี้ นพ.ประเวศ ยังเสนอรัฐบาลตั้งอัยการพิเศษเพื่อสอบสวนความผิดในคดีต่าง ๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเร่งด่วน เพราะหากใช้กลไกการสอบสวนปกติต้องใช้เวลานานเกินไป และควรกันข้าราชการที่ให้ข้อมูลไว้เป็นพยาน ไม่เอาโทษผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้เลือกเอาผิดระดับใหญ่ตำแหน่งสูง
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #23 เมื่อ: 07-02-2007, 17:06 »

เศรษฐกิจเน่า
"ประเวศ"อัด"ทักษิณ"ไร้สำนึกเคลื่อนไหวการเมือง

นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองในต่างประเทศ โดยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กับสื่อต่างประเทศ แสดงว่ายังไม่มีความสำนึกว่าตัวเองทำผิด เพราะคนที่สำนึกผิดจะต้องถ่อมตัว เงียบสงบ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้สำนึกผิด ยังทำตามนิสัยเดิม ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. อย่าตอบโต้คำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะจะแสดงให้เห็นถึงความหวั่นไหว และถือเป็นการให้ความสำคัญกับอดีตนายกรัฐมนตรี ควรใช้วิธีอื่นแทน เช่น เชิญทูตต่างประเทศมาชี้แจง หรือชี้แจงกับสื่อมวลชนต่างประเทศ หรือทำข้อมูลเป็นสมุดปกขาวแจกจ่ายให้ผู้สนใจ ถือว่าเป็นหลักฐานที่ใช้แทนคำพูดได้ดี


นพ.ประเวศ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีควรมีที่ปรึกษาเหมือนกับสมัยที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกคอยติดตามความเคลื่อนไหวทุกเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง รายงานป้อนข้อมูลนายกรัฐมนตรีเช้า-เย็น นายกรัฐมนตรีจะต้องรู้ ต้องพูดถูก จะพูดผิดไม่ได้



นอกจากนี้ นพ.ประเวศ ยังเสนอรัฐบาลตั้งอัยการพิเศษเพื่อสอบสวนความผิดในคดีต่าง ๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเร่งด่วน เพราะหากใช้กลไกการสอบสวนปกติต้องใช้เวลานานเกินไป และควรกันข้าราชการที่ให้ข้อมูลไว้เป็นพยาน ไม่เอาโทษผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้เลือกเอาผิดระดับใหญ่ตำแหน่งสูง



และแล้วหน้าที่ของผู้ที่เป็นราษฎรอาวุโสก็คือ การเลียเผด็จการทหารทุกอณูขุมขน......ทำปายด้ายยเวศเอ๋ย!!
บันทึกการเข้า
TheBluECaT
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 824


"แมวน้อยสีน้ำเงิน..."


« ตอบ #24 เมื่อ: 07-02-2007, 18:53 »

และแล้วหน้าที่ของผู้ที่เป็นราษฎรอาวุโสก็คือ การเลียเผด็จการทหารทุกอณูขุมขน......ทำปายด้ายยเวศเอ๋ย!!

แล้วจะให้เค้าไปแย่งเลียเท้าเหม็นๆของไอ้แม้วทุกอณูขุมขนเหมือนพี่จ๊ะหรอกครับ...

ผมว่าเค้าคงทำไม่ได้หรอก.. เพราะมันน่าสะอิดสะเอียนจะตาย


เห็นพี่จ๊ะ เลียอยู่ทุกวันนี้  ผมยังสะอิดสะเอียนไปด้วยเลยครับ... 
บันทึกการเข้า

"ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์  ยามบุญหลงหงส์เป็นกาน่าฉงน...
ยามบุญมาหมูหมากลายเป็นคน  ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์"
หน้า: [1]
    กระโดดไป: