ผลประโยชน์ "พรรคปชป"

[สมาชิกพรรคสุขนิยม]

'อภิสิทธิ์' ดับเครื่องชน 'วิชา' ส.ส.ไร้สังกัดพรรคไม่ดีแน่ [30 ม.ค. 50 - 19:18]

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าววันนี้ (30 ม.ค.) ถึงกรณี นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เสนอว่า ส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรคการเมือง ว่า ประสบการณ์ของการมี ส.ส.ไม่สังกัดพรรค ไม่ได้ช่วยให้มีอะไรดีขึ้นมา เสถียรภาพของรัฐบาลและการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรก็ยังมีปัญหา และไม่ได้ช่วยให้มีความโปร่งใสมากขึ้น นอกจากนี้ การที่ไม่มีพรรคการเมืองกำกับ เป็นการให้อำนาจต่อรองกับตัว ส.ส. แทนที่จะเป็นอำนาจที่ประชาชนคุม ส.ส. ผ่านการลงคะแนนให้พรรคการเมือง ดังนั้น ข้อเสนอนี้ไม่ได้เป็นการช่วยประชาชน แต่เป็นการเพิ่มอำนาจให้ ส.ส. เพื่อไปเจรจาต่อรองกันเอง จึงเห็นว่า ส.ส.ควรต้องสังกัดพรรคการเมือง และยังเห็นด้วยที่จะให้คงกฎการสังกัดพรรคการเมือง 90 วัน ก่อนการเลือกตั้ง เพราะจะช่วยเสริมความเข้มแข็งให้พรรคการเมือง

 

"ขอเสนอว่า ส.ส.ต้องสังกัดพรรค 90 วันให้คงไว้  ถ้า ส.ส.คนใดรู้สึกว่า ทำหน้าที่ไปแล้ว อยู่ภายใต้กรอบพรรคการเมือง แล้วขัดกับอุดมการณ์ หากกล้าที่จะถึงขั้นลาออกจาก ส.ส. ให้เกิดการเลือกตั้งซ่อม  เห็นว่าน่าจะอนุญาตให้คนๆ นั้น ย้ายพรรคได้ทันที เพื่อลงแข่งขันให้ประชาชนตัดสินว่า จะเลือกพรรคหรือคนๆ นั้นหรือไม่ ถือเป็นจุดยืนที่จะให้ประชาชนตัดสินมากกว่า หากปลดตรงนี้ได้ ปัญหาที่หากใครไม่เห็นด้วยกับพรรคและแสดงออกไม่ได้ก็จะหมดไป" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวและว่า ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่า จะกลายเป็นข้ออ้างเพื่อต่อรองพรรคการเมืองหรือไม่ นั้น ตนคิดว่าคงไม่มี ส.ส.คนใดนึกสนุก ต้องการจะเลือกตั้งซ่อมเล่น

 

ด้าน นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ประเทศไทยเริ่มบังคับ ส.ส.ให้สังกัดพรรคการเมือง พร้อมตัดความเป็นอิสระจากอาณัติใดๆ ตั้งแต่ปี 2517 ส่วนตัวไม่ติดใจว่า ส.ส.จะสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ และไม่จำเป็นต้องบังคับให้ ส.ส.สังกัดพรรคการเมือง แต่โดยรูปแบบประชาชนจะนิยมเลือก ส.ส.ที่สังกัดพรรคการเมือง ก็จะทำให้ ส.ส.เลือกที่จะสังกัดพรรคการเมืองโดยปริยาย  จึงคิดว่าควรต้องยกเลิกหลักเกณฑ์การสังกัดพรรคการเมือง 90 วัน ก่อนการเลือกตั้ง เพราะป้องกัน ส.ส.ย้ายพรรคการเมืองไม่ได้ เห็นได้จากปลายสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี ก็มี ส.ส.ลาออก จนเหลือ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร เพียง 456 คนเท่านั้น และมาตรการนี้ยังไม่ได้ป้องกัน หรือแก้ปัญหา ส.ส.ขายตัว เพียงแต่รูปแบบเปลี่ยนไป โดยจากการซื้อ ส.ส.เข้าพรรคการเมือง ไปเป็นซื้อยกมุ้งหรือยกกลุ่มแทน

 

รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวต่อว่า ควรจะมีระบบการควบคุมหรือตรวจสอบการทำหน้าที่ของ ส.ส. ป้องกันการขายตัว โดยจะต้องมีอำนาจฝ่ายตุลาการ ที่อาจจะกำหนดให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้พิจารณาในส่วน
 
 
พอผลประโยชน์ตัวเองจึงต้องออกตัว