ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 16:06
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  **โชคดีนะเนี่ยที่..รากหญ้าไม่มี CNN ดู** 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
**โชคดีนะเนี่ยที่..รากหญ้าไม่มี CNN ดู**  (อ่าน 1852 ครั้ง)
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« เมื่อ: 26-01-2007, 08:16 »

การพ่นพิษในรายการสัมภาษณ์กับCNN ของทักสิงค์ แสดงให้เห็นธาตุแท้ของทรราชผู้นี้ชัดเจนขึ้น ภาษิตที่ว่า.. ไม่มีสัจจะในหมู่โจร นำมาใช้เปรียบเทียบได้กับทรชนคนนี้  คำพูดใดๆ ของทักสิงค์ที่พยายามพูดผ่านกระบอกเสียงว่า.."รู้จักแพ้"  "เลิกเล่นการเมืองแล้ว"  "คมช.ไม่ต้องห่วง"  "ไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ"  ล้วนแต่เป็นคำพูดตลบตแลงของคนสองหน้า  ซึ่งกระทำมาตลอดชีวิตการเมืองของเขาตั้งแต่สมัยอยู่พรรคพลังธรรม

ถ้าจะยุติบทบาทจริง คงไม่ต้องว่าจ้างล็อบบี้ยีสต์มะกันให้ประชาสัมพันธ์ตนเองในเวทีโลกเช่นนี้หรอก  ค่าจ้างเหนาะๆ ก็ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญ  เงินใคร?  ก็เงินที่ควรจะถูกอายัดไว้ในระหว่างสอบสวนแต่คมช.ใจดีปล่อยให้ใช้ได้ตามอำเภอใจนั่นแหละ

น่าเสียดายที่ออกทีวีทั้งที ไปไม่ถึงรากหญ้าทั้ง 14 ล้านเสียงอย่างที่ต้องการ  เพราะคนไทยที่มีปัญญาดู CNN มีอยู่แค่ไม่กี่หมื่นคน  ถึงมีปัญญาดู รากหญ้าก็คงดูไม่รู้เรื่อง(ไม่ได้ดูถูก แต่พูดความจริง)  เพราะถ้ามีปัญญาดู CNN และฟังรู้เรื่อง..ก็คงไม่ตกหลุมพรางที่ทักสิงค์หลอกล่อเอาไว้ตั้งแต่ทีแรกแล้ว

เมื่อดูไม่รู้เรื่องก็เลยต้องฟังคำแปลจากล่ามที่เป็นแกนนำมวลชนของไทยรักไทย  ซึ่งก็จะบรรยายสรรพคุณของทักสิงค์ไปในทางที่ผิดเช่นเคย ทำนองว่า ยิ่งใหญ่..สมเกียรติ..ดังไปทั่วโลก..สั่งสอนคมช.และรัฐบาลจนแต้ม..

รากหญ้าก็ผงกศีรษะ..เออๆ ..แน่จริงๆ..  เยี่ยมยอด..  ฟังไปยิ้มไปอดภาคภูมิใจไม่ได้ ทั้งๆ ที่คำแปลมันเป็นอีกด้าน..ภาษาอังกฤษอ่อนปวกเปียก..หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ  สิ่งเหล่านี้รากหญ้ารู้จากล่ามด้วยหรือไม่?

เป็นรากหญ้าของภูมิปัญญาก็อย่างนี้แหละ  เขาจูงไปทางไหนก็คล้อยตามไปหมด

ผมถึงได้บอกไงว่า..โชคดีแล้วครับที่ไม่มี CNN ดู ..ไม่งั้นโดนหลอกอีกตามเคย
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #1 เมื่อ: 26-01-2007, 08:44 »

พฤติกรรมของชนชั้นกลางในกทมฯนี่ไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ....ชอบไปดูถูกชาวบ้านรากหญ้าเค้าว่าโง่ไม่มีสมอง ดั่งเช่นกรณีการโจมตีรากหญ้าว่าถูกจ้างวานถูกหลอกให้สนับสนุนทักษิณ แล้วพยายามทำเสียงดังเพื่อสถาปนา 'ความคิดเห็นทางการเมืองของตัวเอง' ยิ่งใหญ่และสำคัญกว่าของรากหญ้า แต่ในขณะเดียวกันกลับโยนข้อหา 'เผด็จการรัฐสภา' ให้กับผู้นำประเทศที่คนส่วนใหญ่เลือกเข้าไปและแสดงความสวามิภักดิ์ต่อการรัฐประหารอย่างไม่รู้สึกรู้สา เป็นต้น


พฤติกรรมที่ขัดแย้งดังกล่าวล้วนแล้วแต่เกิดจากรากเหง้าแห่งความมีอคติ ความไม่มีเหตุผล และ ความเห็นแก่ตัวเป็นที่ตั้งทั้งสิ้นเปรียบได้ดั่งคำที่ว่า มิจฉาทิฐิ ที่ท้ายสุดแล้วก็จะก่อ NPL และมลพิษทางปัญญาต่อสังคมไทยอย่างไม่รู้จบ


กรุณาสำเหนียกกระบวนการคิด กระบวนวิสัยทัศน์ และกระบวนการจัดชั้นคุณธรรมใหม่เถิดครับ...พูดกี่ทีก็ถูกทุกทีว่า คนไทยสมัยนี้ไม่ได้ดีกว่าพม่าแถมต่ำชั้นกว่าเขมรซะอีก!!


บันทึกการเข้า
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 26-01-2007, 09:15 »

...................................

...พูดกี่ทีก็ถูกทุกทีว่า คนไทยสมัยนี้ไม่ได้ดีกว่าพม่าแถมต่ำชั้นกว่าเขมรซะอีก!!


..กล่าวหาคนอื่นว่าดูถูกรากหญ้า 
แต่ 'อิเหนาจ๊ะ' เองก็ดูถูกคนทั้งประเทศเข้าเต็มๆ เหมียนกันนะนั่น



บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 26-01-2007, 09:20 »

...................................

...พูดกี่ทีก็ถูกทุกทีว่า คนไทยสมัยนี้ไม่ได้ดีกว่าพม่าแถมต่ำชั้นกว่าเขมรซะอีก!!


..กล่าวหาคนอื่นว่าดูถูกรากหญ้า 
แต่ 'อิเหนาจ๊ะ' เองก็ดูถูกคนทั้งประเทศเข้าเต็มๆ เหมียนกันนะนั่น





พกวนายว่า ขี้ข้าพลอย ก็งี้แหล่ะครับ ทำอะไรมักเข้าทำนอง ขว้างงูไม่พ้นคอ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #4 เมื่อ: 26-01-2007, 10:54 »

พูดถึง'โชคดี'.......
ต้องบอกว่า คมช.และ รัฐบาลนี้ โชคดีที่ไม่มี NGO นักวิชาการ ผู้นำทางความคิด ต่อต้าน คมช.และ รัฐบาลนี้มากนัก....
มิฉนั้น คนไทยกลุ่มนี้ จะ'เคลื่อนไหว'กับรากหญ้า อีกด้านหนึ่ง ที่จะ'สงวนจุดต่าง แสวงจุดร่วม'กับ เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกและบริวาร......


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #5 เมื่อ: 26-01-2007, 10:58 »

...................................

...พูดกี่ทีก็ถูกทุกทีว่า คนไทยสมัยนี้ไม่ได้ดีกว่าพม่าแถมต่ำชั้นกว่าเขมรซะอีก!!


..กล่าวหาคนอื่นว่าดูถูกรากหญ้า 
แต่ 'อิเหนาจ๊ะ' เองก็ดูถูกคนทั้งประเทศเข้าเต็มๆ เหมียนกันนะนั่น






รบกวนแยกแยะระหว่าง fact vs. opinion หน่อยซิคร้าบบบบ

fact = ทั้งไทยและพม่าต่างถูกปกครองโดยเผด็จการทหาร ขณะที่เขมรมีนายกฯมาจากการเลือกตั้ง
opinion = "ถึงมีปัญญาดู รากหญ้าก็คงดูไม่รู้เรื่อง(ไม่ได้ดูถูก แต่พูดความจริง)....."
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 26-01-2007, 11:33 »

รบกวนแยกแยะระหว่าง fact vs. opinion หน่อยซิคร้าบบบบ

fact = ทั้งไทยและพม่าต่างถูกปกครองโดยเผด็จการทหาร ขณะที่เขมรมีนายกฯมาจากการเลือกตั้ง
opinion = "ถึงมีปัญญาดู รากหญ้าก็คงดูไม่รู้เรื่อง(ไม่ได้ดูถูก แต่พูดความจริง)....."


และ fact = พ่อจะ-ไร-อ๊ะ ที่อ้างว่ามาจากประชาชน เอาเงินของประเทศไปปล่อยกู้รัฐบาลเผด็จการทหารพม่า เพื่อมาจัดซื้อสินค้าของบริษัทพ่อจะ-ไร-อ๊ะ แต่เอากระทรวงการคลังไทยไปค้ำประกัน

ไอ้หน้าด้าน
บันทึกการเข้า

*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #7 เมื่อ: 26-01-2007, 11:40 »

พฤติกรรมของชนชั้นกลางในกทมฯนี่ไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ....ชอบไปดูถูกชาวบ้านรากหญ้าเค้าว่าโง่ไม่มีสมอง ดั่งเช่นกรณีการโจมตีรากหญ้าว่าถูกจ้างวานถูกหลอกให้สนับสนุนทักษิณ แล้วพยายามทำเสียงดังเพื่อสถาปนา 'ความคิดเห็นทางการเมืองของตัวเอง' ยิ่งใหญ่และสำคัญกว่าของรากหญ้า แต่ในขณะเดียวกันกลับโยนข้อหา 'เผด็จการรัฐสภา' ให้กับผู้นำประเทศที่คนส่วนใหญ่เลือกเข้าไปและแสดงความสวามิภักดิ์ต่อการรัฐประหารอย่างไม่รู้สึกรู้สา เป็นต้น

รากหญ้าถูกจ้างวานถูกหลอกให้สนับสนุนทักษิณ?

แล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะ  หรือ พวกเขาเดินทางกันมาเองด้วยความสมัครใจ ไม่คิดค่าเหนื่อย?


พฤติกรรมที่ขัดแย้งดังกล่าวล้วนแล้วแต่เกิดจากรากเหง้าแห่งความมีอคติ ความไม่มีเหตุผล และ ความเห็นแก่ตัวเป็นที่ตั้งทั้งสิ้นเปรียบได้ดั่งคำที่ว่า มิจฉาทิฐิ ที่ท้ายสุดแล้วก็จะก่อ NPL และมลพิษทางปัญญาต่อสังคมไทยอย่างไม่รู้จบ

อดติ์?

หรือ..เรื่องจริงที่คุณจ๊ะยอมรับไม่ได้ มันเจ็บกระดูกดำกันแน่ครับ?
 


กรุณาสำเหนียกกระบวนการคิด กระบวนวิสัยทัศน์ และกระบวนการจัดชั้นคุณธรรมใหม่เถิดครับ...พูดกี่ทีก็ถูกทุกทีว่า คนไทยสมัยนี้ไม่ได้ดีกว่าพม่าแถมต่ำชั้นกว่าเขมรซะอีก!!


จริงๆ เวลานี้เป็นพม่าหรือเขมร ดีกว่าเป็นขี้ข้าสิงโปร์นะ หรือจ๊ะว่าไง


opinion = "ถึงมีปัญญาดู รากหญ้าก็คงดูไม่รู้เรื่อง(ไม่ได้ดูถูก แต่พูดความจริง)....."

นี่มันfact ชัดๆ ไม่ใช่opinion  หรือ คุณจ๊ะไม่รู้จักรากหญ้าตัวจริงๆ  

เลิกหลอกตัวเองเถิดครับว่า รากหญ้า คือ เสียงสวรรค์  คือ ประชามติของปวงชนชาวไทย  

และหันมายอมรับความจริงว่า  คนที่ดูถูกภูมิปัญญาของชาวรากหญ้าก็คือ คนที่ให้เงินชาวรากหญ้าแทนการใช้สติปัญญา

รากหญ้าอย่างไรก็คือรากฐานของทุกระบอบการปกครองครับ  การเป็นรากฐานก็สามารถพัฒนาตนเองขึ้นมาเป็นยอดฐานได้ หากรู้จักคิดและใช้สติปัญญาไปในทางที่เจริญขึ้น วันหนึ่งก็ขึ้นมาเป็นชนชั้นปกครองได้

อย่าคิดว่า รากหญ้ามีทั้งพลังกาย และพลังสติปัญญาจะบริหารจัดการประเทศได้เอง  ไม่เช่นนั้น นายทักสิงค์คงเอา ลุงคำตา เป็นรมต.มหาดไทย และป้าสอิ้ง เป็นรมต.วัฒนธรรมไปแล้ว

บนพื้นฐานของสังคม มันมีความแตกต่างที่ไม่เท่าเทียมกันทั้งมาตรฐานความคิดและโอกาสในการใช้สติปัญญา  คนกว่า 70% เป็นเกษตรกร แต่ต้องให้คนในส่วน 30% เป็นคนกำกับดูแลและบริหารประเทศ

ในองค์กรใหญ่ๆ มีผู้บริหารจัดการไม่ถึง 100 คน แต่มีพนักงานระดับรากฐานกว่า 1000 คน  จะให้มีความเท่าเทียมกันได้อย่างไร  ถ้าเท่าเทียมกันหมด  องค์กรก็ไม่มีทางเดินหน้า มีแต่ถอยหลัง

ทุกระดับของสังคม  มียอดเขา และมีตีนเขาทั้งนั้น  ไม่ว่าสังคมไทย หรือ อเมริกา   รากหญ้าไทยดู CNN ไม่รู้เรื่อง นี่คือ fact ขณะเดียวกัน รากหญ้าอเมริกัน ก็ดู ช่อง9 อสมท.ไม่รู้เรื่องเช่นกัน  

อย่าคิดมากเลยนายอะไรจ๊ะ  ยอมรับความจริงดีกว่า แม้มันจะเจ็บปวด  ไม่มีใครอคติกับรากหญ้าได้หรอกครับ ถ้าการกระทำของรากหญ้าไม่ประณามตัวเองออกมา



พูดถึง'โชคดี'.......
ต้องบอกว่า คมช.และ รัฐบาลนี้ โชคดีที่ไม่มี NGO นักวิชาการ ผู้นำทางความคิด ต่อต้าน คมช.และ รัฐบาลนี้มากนัก....
มิฉนั้น คนไทยกลุ่มนี้ จะ'เคลื่อนไหว'กับรากหญ้า อีกด้านหนึ่ง ที่จะ'สงวนจุดต่าง แสวงจุดร่วม'กับ เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกและบริวาร......



ในสายตาและสติปัญญาของคุณอะไรจ๊ะและในห้องราชดำเนินเกือบทั้งหมดกลับคิดว่า..คนอย่างชนาพัทธ์..หมอเหวง และนายสุดชาย คือ เอ็นจีโอ และผู้นำทางปัญญาของสังคมไทย  ขณะที่ คนอย่างหมอประเวศ  เป็นแค่ "อดีตผู้นำทางปัญญา" ไปแล้ว ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #8 เมื่อ: 26-01-2007, 13:18 »

สรุปความคิดเห็นของคุณ*bonny ก็คือ รากหญ้าที่เป็นชนชั้นกว่า 80% ในประเทศนี้ไม่มีคุณสมบัติพอเพียงที่จะเลือกผู้นำของตัวเองใช่ไหมเอ่ย? ถ้างั้น...กรุณาเขียนลงไปในรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ให้ชัดเลยซิครับว่า คนไทยประเภทไหนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้แทน


กรุณาตอบด้วยน๊ะครับคุณ*bonny
บันทึกการเข้า
ภัทร
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 581


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 26-01-2007, 14:01 »

ใครบ๊อกว่ารากหญ้าบ่มี cnn ไว้ชม รากหญ้าไฮเทคก็แยะไปนะหลาน แบบปู่นีไง รากหญ้าไฮเทค
บันทึกการเข้า

พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น

http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdf

แค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #10 เมื่อ: 26-01-2007, 19:03 »

ใครบ๊อกว่ารากหญ้าบ่มี cnn ไว้ชม รากหญ้าไฮเทคก็แยะไปนะหลาน แบบปู่นีไง รากหญ้าไฮเทค

ภัทรพยยามทำตัวเองให้ตลกและเป็นมิตร (แต่ไร้ปัญญา)
บันทึกการเข้า
นิรนาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 554



« ตอบ #11 เมื่อ: 26-01-2007, 19:41 »

ใครบอกไม่ได้ดู ดูกันจนตาแฉะตากหาก*bonny

เพราะพลันทันใดที่สิ้นคำสัมภาษณ์ผ่านจอโทรทัศน์ 3 วันให้หลัง สำนักงาน ส.ส.ไทยรักไทยทั่วประเทศได้รับกล่องพัสดุจากทางไปรษณีย์กันถ้วนหน้า

กล่องพัสดุที่ว่าข้างในมีแผ่น CVD 300 แผ่น พร้อมจดหมายน้อยบอกให้แจกจ่ายต่อให้หัวคะแนนให้ถ้วนทั่วทุกตัวคน เพื่อเอาไปเปิดต่อให้ชาวประชาได้ดูกันอย่างทั่วถึง

หะแรก..ก็พากันงุนงงสงสัย VCD อะไรหว่า ยัดเข้าเครื่องเล่นก็ถึงบางอ้อ เป็นบันทึกการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อ CNN แม้จะพูดเป็นภาษาประกิต แต่ชาวบ้านชาวช่องก็รู้เรื่องได้ไม่ยาก เพราะทุกช๊อตมีคำแปลภาษาไทยชัดแจ๋วตัวเกือบเท่าหม้อแกง หัวหงอกหัวดำอ่านกันได้สบาย

ฝ่ายความมั่นคงตามยึดได้บางส่วน ๆ หลุดรอดไปจนถึงมือหัวคะแนน กลายเป็น "VCD ใต้ดิน" เปิดกันสนั่นบ้านหัวคะแนน เอวัง...
บันทึกการเข้า

"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ  จันดำ
ถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
      นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน
“บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา”
(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 26-01-2007, 20:23 »

คุณ bonny อย่าดูถูกรากหญ้าในสมัยทักษิณนะครับ
เห็นมีบางกลุ่มอ่านหนังสือพิมพ์อังกฤษแล้ว (อย่างเช่นไอ้ม็อบมอเตอร์ไซต์รับจ้างเป็นต้น) 
บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #13 เมื่อ: 26-01-2007, 20:31 »

สรุปความคิดเห็นของคุณ*bonny ก็คือ รากหญ้าที่เป็นชนชั้นกว่า 80% ในประเทศนี้ไม่มีคุณสมบัติพอเพียงที่จะเลือกผู้นำของตัวเองใช่ไหมเอ่ย? ถ้างั้น...กรุณาเขียนลงไปในรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ให้ชัดเลยซิครับว่า คนไทยประเภทไหนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้แทน


กรุณาตอบด้วยน๊ะครับคุณ*bonny


แสดงความคิดเห็นอย่างนี้....
วันนี้ ต้องยกย่องให้คุณอะไรจ๊ะ เป็น 'ศรีธนชัย 2550'...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
*bonny
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,459



« ตอบ #14 เมื่อ: 27-01-2007, 07:48 »

สรุปความคิดเห็นของคุณ*bonny ก็คือ รากหญ้าที่เป็นชนชั้นกว่า 80% ในประเทศนี้ไม่มีคุณสมบัติพอเพียงที่จะเลือกผู้นำของตัวเองใช่ไหมเอ่ย? ถ้างั้น...กรุณาเขียนลงไปในรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ให้ชัดเลยซิครับว่า คนไทยประเภทไหนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้แทน


กรุณาตอบด้วยน๊ะครับคุณ*bonny


แสดงความคิดเห็นอย่างนี้....
วันนี้ ต้องยกย่องให้คุณอะไรจ๊ะ เป็น 'ศรีธนชัย 2550'...........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




ก็เพราะสรุปแบบตื้นๆ แบบนี้แหละ ถึงสมเป็นอะไรจ๊ะ..ผู้ภักดี

ผมไม่ได้บอกว่า รากหญ้าไม่มีคุณสมบัติเลือกนายกสักหน่อย  ไม่เกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติเลย  ไม่มี CNN ดู หรือ ดูแล้วไม่รู้เรื่องก็มีคุณสมบัติที่จะเลือกตั้งนายก  แต่..ไม่อาจขึ้นชั้นมาเป็นชนชั้นปกครองได้  หาก..ไม่พัฒนาความคิดและสติปัญญาให้เจริญขึ้นไป

นักการเมืองทุกประเทศ ไม่ว่า บุช หรือ แบลร์   บิล หรือ ฮิลลารี่  ต้องมีรากฐานที่ครอบครัวสร้างมาให้และตนเองพัฒนาศักยภาพขึ้นมาทั้งนั้น จึงสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศหรือชนชั้นปกครองได้  โดยประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งรากหญ้าของเขาเป็นคนเลือก

รากหญ้าเหล่านั้นมีคุณสมบัติในฐานผู้เลือก  ไม่ใช่ผู้ถูกเลือก  เข้าใจไว้ด้วยนะนายจ๊ะ

ส่วนรากหญ้าถ้าไม่พัฒนาความคิดและสติปัญญาตัวเอง ชาตินี้ก็คงเป็นผู้เลือกตลอดชาติ  และถ้ารับตังค์เขามาเพื่อให้เลือกใครด้วย ก็ไม่ใช่รากหญ้าด้วย แต่พัฒนาไปเป็น "วัชพืช" แล้ว

...............................................................................

คุณนิรนาม..

ผมก็นึกแล้วว่า ต้องทำกันเป็นขบวนการแปรรูปอย่างแน่นอน เพราะลงทุนล็อบบี้ไปหลายล้านคงไม่ปล่อยให้หมดไปกับเวลาออกอากาศไม่กี่นาทีหรอก

ขนาดมีคำแปลและอัดเป็นแผ่นออกมาได้ทันควันเช่นนี้  ต้องพึ่งพา..น้ำเลี้ยงที่ตระเตรียมไว้ล่วงหน้าจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
บันทึกการเข้า

ประเทศชาติมีภัย  เสรีไทยร่วมกอบกู้
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #15 เมื่อ: 27-01-2007, 12:47 »

สัมพันธ์ลึก "ทักษิณ - CNN"! ป้อนงาน 200 ล้านไม่มีสัญญา 
 
โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 27 มกราคม 2550 08:39 น.
 
 
       เปิดสัมพันธ์ลึก "ทักษิณ - CNN" ในยุคที่เรืองอำนาจเคยใช้งบหลวงจ้าง CNNโฆษณาโครงการบัตร "อีลิทการ์ด"โดยไม่ต้องมีสัญญา หลังถูกตรวจสอบยอมลดจาก 200 ล้านบาทเหลือเพียง 149 ล้าน ด้านพรรคปชป.ส่ง "แม่เลี้ยงติ๊ก" เข้าร้องคตส.สอบพฤติกรรมฉาวด่วน ระบุ CNN เป็นกระบอกเสียงโจมตี รัฐบาล-คมช.ครั้งนี้ ถือเป็น "เพื่อนช่วยเพื่อน"หรือบุญคุณต้องตอบแทน!
       
       เชื่อว่าหลายๆคนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาโดยตลอด คงจะนึกสงสัยอยู่รำไรว่าทำไม!? พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จึงมีอิทธิพลมากพอในการเลือกใช้สื่อระดับโลกอย่าง CNN เป็นเวทีเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง และกดดันรัฐบาลไทยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนในที่สุดผลพวงจากการเดินเกมรุกรัฐบาล ตลอดจนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)ไม่เพียงแต่สร้างปัญหาภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังลุกลามกระทบไปถึงความสัมพันธ์ในทางการทูตระหว่างไทยและสิงคโปร์จากที่ได้ดำเนินมาอย่างยาวนาน...
       
       การเปิดเกมรุกกลับคมช.และรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยอาศัยสื่อระดับโลกเป็นเครื่องมือในครั้งนี้ต้องถือว่าเป็นการตอบโต้ที่ได้ผลทันตาเห็น เนื่องจากทั้งคมช.และรัฐบาลต่างตกเป็นฝ่ายตั้งรับอย่างเห็นได้ชัด แม้ล่าสุดรัฐบาลจะใช้ไม้แข็งตอบโต้รัฐบาลสิงคโปร์ จนกลายเป็นปัญหาระหว่างรัฐบาลสองประเทศไปแล้วก็ตาม จนปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเดินหน้า เดินสายใช้สื่อระดับโลกโจมตี และดิสเครดิตรัฐบาลและคมช.อย่างต่อเนื่อง ...
       
        เปิดสัมพันธ์ลึก " ทักษิณ - CNN"
       
       การใช้สำนักข่าวชื่อดังระดับโลกอย่าง CNN ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ในการเป็นเวทีเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีรัฐบาลไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นโดยทั่วไปแล้วย่อมเกิดขึ้นได้ เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ถือเป็นแหล่งรวมของสำนักข่าวจากทั่วทุกมุมโลกอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อ "อดีตนายกฯพลัดถิ่น" ของไทย ที่หลุดจากอำนาจไปด้วย "เหตุยึดอำนาจ"ไปเยือน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ความเคลื่อนไหวของเขาจะอยู่ในความสนใจของสื่อ จนถูกนำเสนอต่อสายตาชาวโลกออกมาในที่สุด
       
       อย่างไรก็ตามการเลือกสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นมาเป็นเครื่องมือของพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อขายข่าวครั้งนี้ ไม่อาจใช้หลักการ "ข่าว"หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์มาวิเคราะห์ถึงปรากฏการณ์ได้เพียงมุมเดียว เพราะในข้อเท็จจริงแล้วการที่ซีเอ็นเอ็นเลือกสัมภาษณ์พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ไม่ควรมองข้ามไปอย่างยิ่ง เนื่องจากแม้ตัวพ.ต.ท.ทักษิณ จะว่าจ้าง 2 บริษัทประชาสัมพันธ์ยักษ์ใหญ่ คือ บริษัท บาร์เบอร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ส จำกัด(บีจีอาร์) และบริษัท เอเดลแมน ออฟ นิวยอร์ค ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้พ.ต.ท.
       ทักษิณ ได้กลับประเทศไทยโดยอาศัยช่องทางต่างๆรวมทั้งการผ่าน สื่อระดับโลกอยู่แล้วก็ตาม แต่ยังพบว่าในข้อเท็จจริงแล้วความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท. ทักษิณ กับ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น มีความแนบแน่นกันมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วง "ทักษิณ1"เมื่อ4 ปีที่ผ่านมา
       
       การเริ่มต้นความสัมพันธ์ของอดีตนายกฯผู้นี้กับสำนักข่าวดังเริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีการอนุมัติโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ หรือ Thailand Privilege Card หรือที่รู้จักกันในนาม "อีลิทการ์ด"ซึ่งเสนอโครงการโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และมีมติคณะรัฐมนตรีออกมาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 เรื่องที่ 36
       
         "อีลิทการ์ด"จุดเชื่อมโยง
       
       โครงการดังกล่าวนี้โด่งดังเป็นพลุแตกเนื่องจากมีการตั้งเป้ายอดขายบัตรสมาชิกไว้ในจำนวนที่ค่อนข้างสูง โดยมีเป้าหมายการจัดจำหน่ายบัตรใบละ 1 ล้านบาท ให้ได้ 1 ล้านใบภายใน 5 ปีคิดเป็นรายได้ที่จะเข้าประเทศทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้านล้านบาทเป็นขั้นต่ำ เน้นกลุ่มเป้าหมายจากนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวในกลุ่ม Hi-end มีกำลังซื้อสูงจากประเทศต่างๆทั่วโลก
       
       ในการนี้ได้มีการจัดตั้งบริษัท Thailand Privilege Card จำกัด (TPC) ขึ้นเพื่อรองรับการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยขณะนั้นจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่รักษาการประธานบริหารบริษัท โครงการดังกล่าวนี้ได้มีการเสนอสิทธิประโยชน์มากมายและที่ถูกเน้นย้ำอยู่เสมอก็คือการมีสิทธิ์เล่นกอล์ฟฟรี 18 หลุม ใช้บริการนวดแผนไทยจากสปาคุณภาพ 1.30 ชั่วโมงพร้อมบริการตรวจสุขภาพฟรีจากโรงพยาบาลมาตรฐานและส่วนลดพิเศษจากบริการต่างๆทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ร้านอาหาร แต่สิ่งที่ดึงดูดใจสมาชิกของบัตรอีลิทการ์ดกลับอยู่ที่การให้สิทธิประโยชน์ด้านอสังหาริมทรัพย์แก่ชาวต่างชาติ
       
       แต่จนแล้วจนรอดโครงการนี้ก็ไม่สามารถที่จะขายบัตรสมาชิกได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ที่สำคัญการดำเนินโครงการตามโครงการต่างๆสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติด้วยการขาดทุนสะสมมาจนถึงวันนี้เป็นเงินสูงถึง 1,000 ล้านบาท
       
      จ้าง CNN แต่ไร้สัญญา !
       
       การจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดนั้น มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ถือหุ้น 100% โดยครม.ได้อนุมัติงบประมาณที่ผ่านมาจำนวน 500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณด้านการโฆษณาและการตลาดจำนวน 250 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงบในส่วนของการจัดตั้งบริษัท บุคลากรและพัฒนาการบริการทั้งหมด ซึ่งในส่วนของงบโฆษณานั้นที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์กับบริษัท แซสโซ จำกัดไปแล้วมูลค่า 110 ล้านบาท
       
       สำหรับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับซีเอ็นเอ็นนั้น เกิดขึ้นในสมัย จุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นรักษาการประธานกรรมการบริษัท เนื่องจากตัวแทนบริษัท ไทย เรฟพรีเซ็นเทชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนขายโฆษณาของบริษัท ซีเอ็นเอ็น ได้ส่งบิลเรียกเก็บค่าโฆษณาบัตรไทยแลนด์อีลิท การ์ดมายังบริษัท คิดเป็นเงินจำนวน 200 ล้านบาท โดยที่ไม่มีสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแต่ประการใด แต่ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องในขณะนั้นได้ให้เหตุผลในการว่าจ้างโดยไม่มีสัญญาเนื่องจากเป็นช่วงเร่งด่วน แต่ไม่ได้เกิดจากการทุจริต หากใช้การจัดซื้อจัดจ้างตามขั้นตอนจะทำให้เกิดความล่าช้า
       ทั้งนี้กรณีดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นปัญหาและถูกนำไปพิจารณาในคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนฯ ในเวลานั้น โดยคณะกรรมาธิการฯได้เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง

       
       อดีตกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ ยุครัฐบาลทักษิณ ระบุกับ "ผู้จัดการรายสัปดาห์"ว่ากรณีดังกล่าวนี้ได้มีการตรวจสอบมาแล้วระดับหนึ่ง นับจากที่มีการวางบิลค่าโฆษณาจากซีเอ็นเอ็นกับบริษัทไทยพริวิเลจ จำกัด และเรียกจุฑามาศ ศิริวรรณ เข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2547
       
        "ในตอนนั้นเป็นข่าวโด่งดังมากทำให้เราได้ทราบพฤติกรรมต่างๆที่อดีตนายกรัฐมนตรีที่มีโครงการต่างๆผุดขึ้นมากมายและแต่ละโครงการใช้งบประมาณแผ่นดินทั้งสิ้น ที่สำคัญเรายังได้เห็นถึงพฤติกรรมที่อดีตนายกฯใช้เงินแผ่นดินเพื่อสร้างเครดิตให้กับตัวเองและสามารถใช้เครดิตนั้นมาได้จนถึงวันนี้"
       
        ควักเงินรัฐจ่ายค่าโฆษณา 149 ล้านบาท
       
       แหล่งข่าวอธิบายต่อไปว่า ในการดำเนินงานของบริษัทไทยแลนด์พริวิเลจ นั้นได้มีการวางแผนด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆมากมายและหนึ่งในโครงการนั้นก็คือการจ้างเครือข่ายของซีเอ็นเอ็นโฆษณาโครงการด้วยงบประมาณถึง 200 ล้านบาท ซึ่งการจ้างซีเอ็นเอ็นนั้นบริษัทฯไทยพริวิเลจได้ซื้อโฆษณาผ่านบริษัทไทยเรฟพรีเซ็นเทชั่น จำกัด ซึ่งเป็นเอเจนซี่ตรงจากซีเอ็นเอ็น
       
       สำหรับบริษัท ไทย เรฟพรีเซ็นเทชั่น จำกัด ( THAI REPRESENTATION ) เป็นตัวแทนขายโฆษณาของเครือข่ายทีวีดังระดับโลกไทม์อิ้งและซีเอ็นเอ็น มีดร. แอนโทนี เซอร์มา เป็นกรรมการผู้จัดการ ได้ส่งบิลเรียกเก็บเงินค่าโฆษณาบัตรไทยแลนด์ อีลิท มายังบริษัทคิดเป็นจำนวนเงินร่วม 200 ล้านบาท โดยไม่มีสัญญาในการจัดซื้อจัดจ้างแต่ประการใด
       
       "เรื่องนี้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากเพราะในราวเดือนกรกฎาคม 2547 ซีเอ็นได้วางบิลมาเก็บค่าโฆษณาจากบริษัทไทยพริวิเลจ จำนวน 200 ล้านบาท ขณะที่มีการตรวจสอบจากคณะกรรมาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไม่พบว่ามีสัญญาการว่างจ้างดังกล่าว"
       
       แหล่งข่าว อธิบายต่อว่า ช่วงนั้นคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการเชิญบุคคลต่างๆเข้ามาชี้แจงโดยเฉพาะอดีตผู้ว่าการ ททท.แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้จนในที่สุดคณะกรรมาธิการชุดนั้นก็หมดวาระลง จากนั้นเรื่องที่กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่นี้ก็เงียบหายไปด้วย
       
        "มาทราบอีกทีก็เมื่อมีการสั่งจ่ายเงินค่าโฆษณาให้กับซีเอ็นเอ็นแล้วจำนวน 149 ล้านบาทคือซีเอ็นเอ็นเขารู้ว่าไม่ได้ทำสัญญาไว้ก็เลยลดราคาจาก 200 ล้านมาเป็น 149 ล้านบาท คุณคิดดูว่าคนที่มีอำนาจสั่งจ่ายเงินขนาดนั้นได้จะเป็นใคร"แหล่งข่าวกล่าว
       
        อย่างไรก็ดี แหล่งข่าว ได้วิเคราะห์ว่า จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันดีระหว่างทักษิณ ชินวัตรและซีเอ็นเอ็นจึงได้เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนั้น
       เมื่อมาจิกซอร์ระหว่างตัวอดีตนายกฯทักษิณกับซีเอ็นเอ็นเข้าด้วยกันก็จะเห็นการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีได้ และทำให้สังคมสามารถตอบข้อสงสัยได้ว่าทำไม "ทักษิณ ชินวัตร" ถึงสามารถใช้สื่อยักษ์ใหญ่อย่างซีเอ็นเอ็น เป็นเวทีเคลื่อนไหวตอบโต้รัฐบาลไทยซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร และทำไมต้องเลือกใช้ประเทศสิงคโปร์เป็นฐานในการเคลื่อนไหว

       
       "การเปิดโอกาสให้คุณทักษิณได้มีโอกาสได้ออกข่าวผ่านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นนั้นจึงเป็นการได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย คือตัวคุณทักษิณ ได้ออกสื่อระดับโลกตอบโต้คมช. ขณะที่ซีเอ็นเอ็นเอง ก็ยินดีที่จะให้ช่องทางเผยแพร่ข่าวอยู่แล้ว เพราะเคยทำงานกันมาก่อนเคยให้ประโยชน์กันมาก่อน "
       
      แหล่งข่าวระบุและชี้ว่าดังนั้นการที่ซีเอ็นเอ็น เลือกที่จะสัมภาษณ์พ.ต.ท.ทักษิณ เผยแพร่ทั่วโลกเช่นนี้จึงไม่ใช่เพียงแต่ต้องการนำเสนอข่าวของบุคคลพิเศษเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนเรื่องของ เพื่อนช่วยเพื่อน เพียงแต่ครั้งนี้หากต้องมีการจ่ายเงินเพื่อแลกกับนาทีทองของช่องซีเอ็นเอ็น อาจเป็นเงิน "ส่วนตัว"ของอดีตนายกฯทักษิณ เอง
 
 
http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9500000009512
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: