ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
26-04-2024, 00:28
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคม = 0 โดมิโนตัวที่สองถัดจาก ITV 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคม = 0 โดมิโนตัวที่สองถัดจาก ITV  (อ่าน 984 ครั้ง)
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« เมื่อ: 24-01-2007, 14:50 »

การประกาศยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีไทยรักไทยเกี่ยวกับภาษีวรรพสามิตโทรคมนาคม และประกาศให้ภาษีโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์พื้นฐานเป็นศูนย์เปอร์เซนต์นั้น ได้รับเสียงกระดี้กระด้าจากพลพรรคไทยรักไทย ซึ่งก็ไม่รู้จะกระดี้กระด้าไปหาอะไร  แถมบางกระทู้ยังล็อกซะแล้ว เลยไปตอกหน้าได้ไม่ถนัด จึงขอมาตั้งกระทู้เฮฮาให้พลพรรครักเหลี่ยม ได้กระอักเลือดกันใหม่อีกซักกระทู้นึง

อันว่าในยุคเหลี่ยมครองเมืองนั้น มีการเล่นกลกับภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคมไว้แบบคอรัปชั่นเชิงนโยบายอย่างแท้จริง  นั่นคือได้มีการเล่นกล อนุญาติให้บริษัทคู่สัญญาโทรคมนาคมกับรัฐ ไปยื่นขอเงินภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคมคืนได้จากต้นสังกัดที่ขอสัมปทานไว้ โดยให้หักออกจากค่าสัมปทานที่ต้องจ่าย  ฟังดูแล้วก็ยอกย้อนซ่อนเงื่อน เพราะหากต้องจ่ายค่าสัมปทาน 5 บาท ภาษีสรรพสามิต 5 บาท หักกลบลบหนี้แล้ว เหลือจ่ายสัมปทาน 0 บาท เพราะอีก 5 บาทจ่ายเป็นภาษีสรรพสามิตไปแล้ว  ส่งผลให้การจ่ายเงินของบริษัทโทรศัพท์มือถือ ลดลงไป 5 บาท  (จำนวนเงินนั้นเป็นตัวอย่างที่นำมาอธิบาย อย่าแถ)

เป็นอันว่าเดิมจ่าย 10 บาท เมื่อมติอัปยศนั้นออกมาก็จ่ายเหลือ 5 บาท เงินเข้าหลวงก็ลดลง บริษัทก็กำไรมากขึ้น  แต่ทำไมมันถึงสลับซับซ้อนแบบนั้น ทำไมไม่ยกเลิกภาษีสรรพสามิตไปซะเลยล่ะ ไม่ต้องหักกันไปหักกันมา

เรื่องก็มีอยู่ว่า หากมีบริษัทโทรศํพท์เจ้าใหม่เข้ามาในตลาด เจ้าใหม่ที่ว่านั้น ก็จะยังคงเสียภาษีสรรพสามิตเท่าเจ้าอื่นๆ แต่เอาไปหักในสัมปทานอะไรไม่ได้ เป็นการเตะตัดขาคู่แข่งไว้ชั่นหนึงก่อน  เพราะหากไปยกเลิกภาษีสรรพสามิตเป็น 0 คู่แข่งก็สบายแฮไป  ชักมองเห็นกลโกงแล้วล่ะสิ

ทีนี้ มันจะได้เปรียบคู่แข้งอย่างไรล่ะ สรุปรวมแล้วยังไงๆก็ต้องจ่าย 5 บาทเหมือนกันนั่นแหละ เป็นค่าภาษีสรรพสามิต แต่ต้องอย่าลืมมองไปว่า คู่สัญญาของรัฐ เมื่อจ่ายสัมปทานแล้ว ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเชื่อมต่อสัญญาน อันเป็นปัญหาของดีแทคและ TOT อยู่ในตอนนี้ไงล่ะ  บริษัทของทักษฺณนั้น เป็นคู่สัญญาของ TOT เมื่อออกมติ ครม.แบบนั้น ค่าสัมปทานก็ไม่ต้องจ่ายหรือลดลง ค่าเชื่อมต่อสัญญานก็ไม่มี ส่งนคู่แข่งต่างๆนั้น ต้องจ่ายค่าเชื่อมต่อสัญญานให้ TOT ขนาด DTAC ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ CAT (กสท.) ยังจะโดนตัดสัญญานหากไม่จ่ายค่าเชื่อมต่อ แต่เหลี่ยม นอนตีพุง คว้ากำไรสบายใจเฉิบ

การยกเลิกมติ ครม. ที่ให้หักภาษีโทรคมนาคมออกจากค่าสัมปทานได้นั้น ส่งผลให้กำไรที่ว่าหายวับไปกับตา อีกทั้งยังอาจจะถูกเรียกเงินย้อนหลังที่เคยหักกันไปมาแล้ว  อีกทั้งคู่แข่งหรือตนเองก็มีต้นทุนในการดำเนินกิจการเท่าๆกัน  แถมด้วยความยุติธรรมอีกเล็กน้อยที่กำลังจะตามมานั่นคือ  เปลี่ยนค่ายไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์โทร เอาเบอร์ที่เราเป็นเจ้าของจดทะเบียนไว้แล้ว ไปใช้ในค่ายใดก็ได้

 

คราวนี้ โดมิโนตัวที่สองก็ง่อนแง่น รอวันตัวแรกคือ ITV ล้มครืน ตัวที่สองก็จะค่อยๆพับเพียบตามไปอย่างสุภาพ  ด้วยคนที่รังเกียจสิงคโปร์จะแห่กันไปย้ายค่าย เมื่อสงครามราคาของโทรศัพท์มือถือระเบิดขึ้นในเวลาอีกไม่นานนี้ เนื่องจากต้นทุนเท่ากันแล้ว ไอ้แม้วสู่ไม่เป็น

 
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #1 เมื่อ: 24-01-2007, 18:27 »

สงสัยว่า ทำไมไอทีวี เส้นใหญ่  เบี้ยวค่าสัมปทานที่ตกลงกับรัฐ

ติดค้างมานานหลายปีถึงสองพันกว่าล้านบาท แต่ยังดำเนินการต่อไปได้

ต่างกับดีแทค ที่โดนทีโอที ตัดสัญญาณทันทีภายใน ๓๐ วัน


มีใครรู้บ้างว่า ทำไมไอทีวีเส้นใหญ่กว่าดีแทค 

หรือว่า สปน.ยังมีเครือข่ายของทักษิณอยู่

...
บันทึกการเข้า
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #2 เมื่อ: 24-01-2007, 22:14 »

ให้กำลังใจ TOT สุดๆ
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
lekapuk
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 279



« ตอบ #3 เมื่อ: 24-01-2007, 23:08 »

มาร่วมยินดีเรื่อง"การประกาศยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีไทยรักไทยเกี่ยวกับภาษีวรรพสามิตโทรคมนาคม และประกาศให้ภาษีโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์พื้นฐานเป็นศูนย์เปอร์เซนต์" ค่ะ

ที่พวกสาวกเหลี่ยมดีใจ สงสัยคิดว่าลูกพี่ได้ผลประโยชน์ ที่แท้กลับเสียผลประโยชน์ซะเอง

สงกะสัยโผยยังไม่ออก แต่มั่วไปก่อนแน่เลย


แล้วก็ขอเชียร์เรื่อง"เปลี่ยนค่ายไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์โทร" อีกเรื่องด้วย เพิ่งไปทำโพลที่เว๊บกสท.

อยากให้เรื่องนี้เข้าครม.เร็วๆจัง

อยากเปลี่ยน ไม่อยากให้เบอร์ของบ.สิงคโปร์
บันทึกการเข้า

เกลียดทักษิณ ใช่ว่าจะชอบประชาธิปัตย์ อย่าเหมารวม ใช้ความคิดก่อนแสดงความคิดเห็นนะจ๊ะ
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 24-01-2007, 23:21 »

รมต ICT คนปัจจุบัน

การทำงานเข้าตากว่า รมต ICT จากทุกรัฐบาลที่ผ่านมา (รวมถึง รมตวิทยาศาสตร์ที่เคยมีมาทั้งหมดด้วย)

 Smile
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
O_envi
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



« ตอบ #5 เมื่อ: 25-01-2007, 12:33 »

สปน. ผมว่าเขาทำเต็มที่แล้วนะมันติดที่อัยการ กับรัฐบาลไม่ใช่เหรอครับ ยื้อจะตั้งอนุญาโตอย่างเดียวเลย
บันทึกการเข้า

The change musts come one by one.It has to start with you
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #6 เมื่อ: 25-01-2007, 19:40 »

อันว่าในยุคเหลี่ยมครองเมืองนั้น มีการเล่นกลกับภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคมไว้แบบคอรัปชั่นเชิงนโยบายอย่างแท้จริง  นั่นคือได้มีการเล่นกล อนุญาติให้บริษัทคู่สัญญาโทรคมนาคมกับรัฐ ไปยื่นขอเงินภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคมคืนได้จากต้นสังกัดที่ขอสัมปทานไว้ โดยให้หักออกจากค่าสัมปทานที่ต้องจ่าย  ฟังดูแล้วก็ยอกย้อนซ่อนเงื่อน เพราะหากต้องจ่ายค่าสัมปทาน 5 บาท ภาษีสรรพสามิต 5 บาท หักกลบลบหนี้แล้ว เหลือจ่ายสัมปทาน 0 บาท เพราะอีก 5 บาทจ่ายเป็นภาษีสรรพสามิตไปแล้ว  ส่งผลให้การจ่ายเงินของบริษัทโทรศัพท์มือถือ ลดลงไป 5 บาท  (จำนวนเงินนั้นเป็นตัวอย่างที่นำมาอธิบาย อย่าแถ)

เป็นอันว่าเดิมจ่าย 10 บาท เมื่อมติอัปยศนั้นออกมาก็จ่ายเหลือ 5 บาท เงินเข้าหลวงก็ลดลง บริษัทก็กำไรมากขึ้น  แต่ทำไมมันถึงสลับซับซ้อนแบบนั้น ทำไมไม่ยกเลิกภาษีสรรพสามิตไปซะเลยล่ะ ไม่ต้องหักกันไปหักกันมา

เรื่องก็มีอยู่ว่า หากมีบริษัทโทรศํพท์เจ้าใหม่เข้ามาในตลาด เจ้าใหม่ที่ว่านั้น ก็จะยังคงเสียภาษีสรรพสามิตเท่าเจ้าอื่นๆ แต่เอาไปหักในสัมปทานอะไรไม่ได้  เป็นการเตะตัดขาคู่แข่งไว้ชั่นหนึงก่อน  เพราะหากไปยกเลิกภาษีสรรพสามิตเป็น 0 คู่แข่งก็สบายแฮไป  ชักมองเห็นกลโกงแล้วล่ะสิ

ทีนี้ มันจะได้เปรียบคู่แข้งอย่างไรล่ะ สรุปรวมแล้วยังไงๆก็ต้องจ่าย 5 บาทเหมือนกันนั่นแหละ เป็นค่าภาษีสรรพสามิต แต่ต้องอย่าลืมมองไปว่า คู่สัญญาของรัฐ เมื่อจ่ายสัมปทานแล้ว ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเชื่อมต่อสัญญาน อันเป็นปัญหาของดีแทคและ TOT อยู่ในตอนนี้ไงล่ะ  บริษัทของทักษฺณนั้น เป็นคู่สัญญาของ TOT เมื่อออกมติ ครม.แบบนั้น ค่าสัมปทานก็ไม่ต้องจ่ายหรือลดลง ค่าเชื่อมต่อสัญญานก็ไม่มี ส่งนคู่แข่งต่างๆนั้น ต้องจ่ายค่าเชื่อมต่อสัญญานให้ TOT ขนาด DTAC ซึ่งเป็นคู่สัญญากับ CAT (กสท.) ยังจะโดนตัดสัญญานหากไม่จ่ายค่าเชื่อมต่อ แต่เหลี่ยม นอนตีพุง คว้ากำไรสบายใจเฉิบ

การยกเลิกมติ ครม. ที่ให้หักภาษีโทรคมนาคมออกจากค่าสัมปทานได้นั้น ส่งผลให้กำไรที่ว่าหายวับไปกับตา อีกทั้งยังอาจจะถูกเรียกเงินย้อนหลังที่เคยหักกันไปมาแล้ว  อีกทั้งคู่แข่งหรือตนเองก็มีต้นทุนในการดำเนินกิจการเท่าๆกัน แถมด้วยความยุติธรรมอีกเล็กน้อยที่กำลังจะตามมานั่นคือ  เปลี่ยนค่ายไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์โทร เอาเบอร์ที่เราเป็นเจ้าของจดทะเบียนไว้แล้ว ไปใช้ในค่ายใดก็ได้

ข้อความโดย: พรรณชมพู



กระทู้นี้ ทำให้"รู้ใส้ รู้นิสัยของคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก อีกเรื่องหนึ่ง

บิดเบือน เบี่ยงเบน ข้อเท็จจริง วิพากษ์วิจารณ์การลดภาษีสรรพสามิต มือถือ
เป็นเรื่องอื่น ๆ อ้างถึงความคิดเห็นว่า มือถือ ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย ไม่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต......

ไม่กล้า ไม่กล่าวถึงอ้างถึง"ทุจริตทางนโยบาย" และ "ผลประโยชน์ทับซ้อน"
ของรัฐบาลเก่า ที่สูญเสียอำนาจปกครองฯ ไปแล้วได้ประพฤติเพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจของครอบครัว..

ที่ปรากฏในกระทู้นี้ของคุณพรรณชมพู.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-01-2007, 19:45 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #7 เมื่อ: 25-01-2007, 19:53 »

สุดท้ายพวกนี้ก็บอกว่าโทรศัพท์มือถือไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย.... 

สุดท้ายกระทู้พรรค์นี้ ก็บอกว่าคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก
เป็นพวกเจ้าเล่ห์ เพทุอุบาย และชอบแถ ไม่ยอมบอกเล่าความจริง ไม่สมหวัง
ไม่ได้รับผลประโยชน์ทับซ้อนจากมติ"ทุจริตทางนโยบาย" จากรัฐบาลเก่า ตามเคย....




บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: