เผด็จการทหาร คมช. VS เผด็จการรัฐสภา ทักษิณ ใครเป็นอันตรายแก่ประเทศไทยมากกว่ากัน

[ปุถุชน]

ผมกำลังชมรายการ"รู้ทันประเทศไทย"ของ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
เปรียบเทียบพฤติกรรมของทักษิณในสิงคโปร์
การพบปะรองนายกรัฐมนตรีและการให้สัมภาษณ์ CNN คือ...
เหตุการณ์ 9/11 ประเทศไทย.....

ถึงเวลาที่สื่อมวลชนในประเทศไทยจะช่วยเหลือคณะ คมช.
และรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ อธิบายชี้แจงให้สังคมโลกเข้าใจรูปลักษณ์ พฤติกรรม
ฉ้อราษฏร์บังหลวง การละเมิดสิทธิมนุษยชน การฆ่าตัดตอน ฯลฯของทักษิณ
ให้เห็นใส้ เห็นพุงอย่างชัดเจน....

เพื่อให้สังคมโลกรับรู้ว่าทักษิณไม่ได้ศรัทธาระบอบประชาธิปไตย
เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส ซื้อสิทธิ-ขายเสียง.......
เพื่อให้สังคมโลกรับรู้ว่าทักษิณคดโกง คอร์รั่ปชั่น ผลประโยขน์ทับซ้อน
เอารัดเอาเปรียบและละเมิดสิทธิมนุษยชน ฆ่าตัดตอน......

เผด็จการทหาร คมช. VS เผด็จการรัฐสภา ทักษิณ
ใครเป็นอันตรายแก่ประเทศไทยและประชาชนมากกว่ากัน
ใครทำร้ายสังคมและเศรษฐกิจไทยมากกว่ากัน..........


ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง จะต้องเลือก คมช. หรือทักษิณ
มาบริหารประเทศไทย.....
จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวต่อต้านทักษิณ หรือ สนับสนุนทักษิณ.........

[นทร์]

เปรียบเทียบได้เห็นภาพ

"ถึงเวลาที่สื่อมวลชนในประเทศไทย" ตั้งนานแล้วครับ


ผมว่า แต่เอาแค่ยกเครื่องทีมโฆษกรัฐบาลก่อนจะดีกว่า

วันที่สัมภาษณ์นายกช่อง 11

ผมก็สะดุดคำถามครูแคท ช่วงเดียวกับที่ manager เอามาลงเป็นข่าวไป

ครูแคท พูดเหมือนกับไปอ่าน เวบใบบอกที่ไหนมาหนอ....

[55555]

อาวุธเดียว ของทักษิณเวลานี้ คือ ประชาธิปไตย.........ที่น่ากลัวของระบอบทักษิณ คือการเอาประชาธิปไตย ฉาบหน้า แล้วเบื้องหลังทั้งหมด เป็นเผด็จการ มีการคอรัปชั่นมากที่สุดในประวัติศาสต์ ผมเขียนแบบนี้ เดี๋ยวก็มีคนมาขอหลักฐานอีก ....มันน่าเบื่อจริง ๆ .........

ส่วนรัฐบาล คมช.จะมีการคอรัปชั่นหรือปล่าวเรายังไม่รู้ครับ ต้องจับตาดูกันต่อไป แต่ที่แน่ ๆ มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี หรือ เกินกว่านั้นนิดหน่อย แล้วยิ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า เป็น " เผด็จการหน่อมแน้ม " ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนรัฐประหารเท่าไหร่  คงไม่น่าจะมีการคอรัปชั่นกันได้ขนาดที่ ระบอบทักษิณทำไว้..........

กล่าวโดยสรุป " เผด็จการรัฐสภา ทักษิณ เป็นอันตรายมากกว่าหลายเท่าครับ

ผมโค๊ตบางส่วนของบทความ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาให้พิจารณากัน

พ.ต.ท.ทักษิณฯ ไม่คู่ควรกับการเป็นตัวแทนของระบอบประชาธิปไตย   ตลอดระยะเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ และพรรคไทยรักไทยครองอำนาจ  หลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยถูกทำลายมาอย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่าจะเป็น
- การละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน  ตั้งแต่นโยบายฆ่าตัดตอนในการทำสงครามกับยาเสพติด การใช้ความรุนแรงเป็นตัวนำในการขับเคลื่อนนโยบายสามจังหวัดชายแดนภาคใต้  ตลอดจนการข่มขู่ คุกคาม นักเคลื่อนไหวในด้านต่างๆ  เช่น  นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 



โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดวิกฤติทางการเมือง   ได้มีการระดมคนมาใช้ความรุนแรงกับผู้ต่อต้านรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ   ทั้งการทำร้ายร่างกาย  พังเวทีปราศรัย  ปิดล้อมการสัมมนา  ตลอดจนมีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่บ้านประธานองคมนตรี  พรรคประชาธิปัตย์  หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ  และสันติอโศก



- การแทรกแซง  ครอบงำสื่อสารมวลชน ด้วยรูปแบบที่หลากหลายทั้งโดยใช้อำนาจรัฐ  อิทธิพลทางธุรกิจผ่านเครือข่ายรัฐวิสาหกิจ และธุรกิจของครอบครัว  จนองค์กรสื่อมวลชนไร้พรมแดน  ได้ลดอันดับความมีเสรีภาพของสื่อมวลชนของประเทศไทยอย่างฮวบฮาบ



- การเข้าแทรกแซงองค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม  จนทำให้ผู้มีอำนาจกลายเป็นผู้อยู่เหนือกฎหมาย  ตลอดจนมีการใช้กลไกรัฐ  เช่น  ตำรวจ  กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)  ปปง.  เพื่อประโยชน์ทางการเมือง  โดยใช้วิธีการ  เช่น การทุจริตการเลือกตั้ง   การดักฟังโทรศัพท์ เป็นต้น



- การใช้เงินมาทำลายการเมือง  โดยการซื้อ สส. ซื้อเสียง การทุจริต ฯลฯ 

แต่ทั้งหมดนี้กลับกลายเป็นอดีตที่กำลังถูกลืม  โดยเฉพาะในต่างประเทศซึ่งอยู่ห่างไกลความจริงที่กล่าวมาอยู่แล้ว  ก็พร้อมที่จะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ในปัจจุบัน



กลยุทธของพ.ต.ท.ทักษิณฯ และพรรคไทยรักไทย  จึงต้องการสร้างให้ พ.ต.ท.ทักษิณฯ เป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย  โดยอ้างคะแนนเสียงที่ได้รับในการเลือกตั้ง  และการถูกคณะรัฐประหารแย่งชิงอำนาจไป  แม้แต่ในคดียุบพรรคก็มีความพยายามยั่วยุสร้างกระแสว่าตุลาการรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือของเผด็จการ 



http://www.abhisit.org/sapa_hotTopics.php?news_ID=34

[ปุถุชน]

ส่วนรัฐบาล คมช.จะมีการคอรัปชั่นหรือปล่าวเรายังไม่รู้ครับ ต้องจับตาดูกันต่อไป แต่ที่แน่ ๆ มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี หรือ เกินกว่านั้นนิดหน่อย แล้วยิ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า เป็น " เผด็จการหน่อมแน้ม " ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนรัฐประหารเท่าไหร่  คงไม่น่าจะมีการคอรัปชั่นกันได้ขนาดที่ ระบอบทักษิณทำไว้..........



ข้อความโดย: 55555


เวลานี้คนไทยยังไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าคมช.และรัฐบาลนี้ จะมีการคอรั่ปชั่น และจะหลงอำนาจ อยากมีอำนาจต่อหรือปล่าว...ซึ่งเวลาที่คมช.และรัฐบาลนี้ให้สัญญา คือภายในหนึ่งปี ถึง หนึ่งปีครึ่ง จะพิสูจน์ได้....

แต่พวกเราคนไทย รู้ดี และมั่นใจว่าทักษิณ เผด็จการจากการเลือกตั้ง ซื้อเสียง-ขายเสียง นั้นพัวพัน เกี่ยงโยงกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง ผลประโยชน์ทับซ้อน ปกป้องผลประโยชน์ครอบครัวและบริวาร รวมทั้งการฆ่าตัดตอน ในระยะเวลามีอำนาจ 5-6 ปีนี้อย่างแน่นอนแล้ว....

พวกเราสามารถเปรียบเทียบสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การรับรู้ข่าวสารสองฝ่าย ความรู้สึกปลอดภัยจากการคุกคามจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการฆ่าตัดตอน ระหว่างทักษิณ เผด็จการจากการเลือกตั้ง ซื้อเสียง-ขายเสียง และ รัฐบาลพล.สุรยุทธ์ที่แต่งตั้งโดย คณะ คมช........



สาธุชนที่ไม่ได้เป็นคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ไม่ได้เป็นบริวาร ลูกจ้างเทียมรักเทียม ย่อมระบุได้ว่า เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก+รัฐบาลสิงกะโปโตก เป็นอันตรายต่อประเทศไทย สังคมไทย และระบบเศรษฐกิจไทยมากกว่าหลายเท่า....

[ปุถุชน]

กลุ่มรักประชาธิปไตย บางกลุ่ม บางคน ได้เป็น"พันธมิตรที่แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง"กับเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกและคนรักเหลียมฯ ช่วยกันกระพือความชอบธรรมของเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง.....
โดยละทิ้งการพูดถึงการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส มีการซื้อสิทธิ-ขายเสียง การใช้อำนาจข้าราชการสนับสนุน กดดัน บีบคั้น ขัดขวางผู้สมัครฯพรรคอื่น ๆ และการหยิบยื่นผลประโยชน์อื่น ๆในพื้นที่....

[The Last Emperor]

เผด็จการทหารจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Jump to: navigation, ค้นหา
เผด็จการทหาร (รัฐบาลทหาร) คือรูปการปกครองที่อำนาจทางการเมืองอยู่กับกองทัพ


[แก้] ลักษณะและการแบ่งหมวดหมู่
รัฐบาลเผด็จการทหารส่วนมากจัดตั้งหลักจากรัฐประหารซึ่งล้มล้างอำนาจรัฐบาลชุดก่อนหน้า ตัวอย่างที่แตกต่างออกไปคือระบอบการปกครองซัดดัม ฮุสเซนในประเทศอิรักซึ่งเริ่มจากรัฐที่ปกครองโดยรัฐบาลพรรคเดียวโดยพรรคบะอัธ แต่เมื่อเวลาผ่านไปรัฐบาลดังกล่าวเปลี่ยนไปเป็นเผด็จการทหาร (ตามที่ผู้นำสวมเครื่องแบบทหารและกองทัพก็มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในรัฐบาล)

ในอดีต เผด็จการทหารมักจะอ้างความชอบธรรมให้แก่พวกเขาเองว่าเป็นการสร้างความสมานฉันท์แก่ชาติ และช่วยชาติให้พ้นจากภัยคุกคามของ "อุดมการณ์ที่อันตราย" อันเป็นการสร้างการข่มขวัญ ในละตินอเมริกา ภัยคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์และ ทุนนิยม ถูกนำเป็นข้ออ้างในการรัฐประหาร คณะทหารมักจะกล่าวว่าพวกเขาเป็นพวกไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด เป็นคณะที่มีความเป็นกลาง สามารถจัดการกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆได้ และกล่าวว่านักการเมืองที่มาจากประชาชนนั้นคดโกงและไร้ประสิทธิภาพ ลักษณะร่วมประการหนึ่งของรัฐบาลทหาร คือการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

รัฐบาลทหารมักจะไม่เคารพต่อสิทธิมนุษยชน และมักใช้วิธีการปิดปากศัตรูทางการเมือง รัฐบาลทหารมักจะไม่คืนอำนาจจนกว่าจะมีการปฏิวัติโดยประชาชน

ละตินอเมริกา, อัฟริกา และ ตะวันออกกลาง เป็นพื้นที่ที่เป็นเผด็จการทหารบ่อยครั้ง เหตุผลหนึ่งคือทหารมีการประสานงานร่วมกัน และมีโครงสร้างของสถาบันที่เข้มแข็งกว่าสถาบันทางสังคมของประชาชน

ตั้งแต่ทศวรรษที่ 199 เผด็จการทหารเริ่มลดลง เหตุผลหนึ่งมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า เผด็จการทหารไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และรัฐบาลทหารมักไม่ประสบความสำเร็จในการควบคุมประเทศไม่ให้เกิดการต่อต้านได้ นอกจากนี้ การสิ้นสุดสงครามเย็นที่มีผลให้สหภาพโซเวียตสลายตัว ทำให้ทหารไม่สามารถใช้ข้ออ้างเรื่องลัทธิคอมมิวนิสต์ในการอ้างความชอบธรรมของตนเองได้อีกต่อไป


[แก้] กรณีตัวอย่าง
 
รัฐที่อยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการทหารในปัจจุบัน แสดงให้เห็นเป็นสีเขียวมะกอกรายการประเทศข้างล่างอาจจะไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะอาจจะขาดข้อมูลก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2


[แก้] ประเทศที่ปกครองโดยกองทัพในปัจจุบัน
ประเทศลิเบีย - เมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2512 กองทัพทำรัฐประหารและยังอยู่ในอำนาจ
ประเทศมอริเตเนีย — เมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2548 กองทัพทำรัฐประหาร
ประเทศพม่า - กองทัพกุมอำนาจเมื่อพ.ศ. 2495
ประเทศปากีสถาน (ประธานาธิบดีครองอำนาจโดยรัฐประหารในปีพ.ศ. 2542 แต่สถาบันการปกครองของพลเรือนกลับมารับตำแหน่งเดิมอย่างช้าๆ)
ประเทศไทย - กองทัพทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ปัจจุบันจึงอยู่ภายใต้เผด็จการทหาร ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างขั้นตอนเตรียมร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยประมาณเดือนตุลาคม 2550



ส่วนคำว่า 'เผด็จการรัฐสภา' ไม่เป็นที่รู้จักในสาระบบใดๆยกเว้นในเว๊บผู้จัดการเท่านั้น

[ปุถุชน]

คุณอะไรจ๊ะ ต้องอ้าง"วิกิพีเดีย" แล้ว........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"วิกิพีเดีย" เกี่ยวกับเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก และรัฐบาลนี้
แตกต่างกับ"ใบบอก"ของบริษัทเทียมรักเทียมจำกัดอย่างไร

วันนี้คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกและลูกจ้างฯ ต้องอ้างอิง"วิกิพีเดีย" และ "การจัดฉาก"ของบริษัทลอบบี้ลิสต์และบริษัทโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อทำลายความเชื่อถือคณะ คมช.และ รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ และ "เชลียร์" เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก และ รัฐบาลสิงกะโปโตก.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

มีนักวิชาการ ผู้นำทางความคิดเห็น และปัญญาชนคนไหน อ้างอิง"ข้อความ"ตีพิมพ์จาก"ใบบอก"และ"วิกิพีเดีย" เพื่อทำลายชื่อเสียง คมช.และรัฐบาลนี้  รวมทั้งใช้เป็นข้อมูล"เชลียร์"เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก.........

คุณ อะไรจ๊ะ ไม่นำ  disclaimer ของ"วิกิพีเดีย" มาให้อ่านบ้าง..
ผู้อ่านที่ไม่รู้จัก"วิกิพีเดีย" จะได้ตัดสินใจถูกว่า ควรให้ความเชื่อถือ "วิกิพีเดีย" สักกี่สตางค์.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล.  คุณอะไรจ๊ะและคนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก ปฎิเสธผลโพลล์จากสถาบันต่าง ๆ ในประเทศไทยเวลานี้ แต่ยอมรับและอ้างอิง"วิกิพีเดีย" เป็นข้อมูล เป็นข้อเท็จจริงที่อ้างอิง เชื่อถือได้.........

[The Last Emperor]

ฮ่าๆๆๆ....พอดีอัจฉริยะบุคคลอย่าง 'จารย์จ๊ะ' จนปัญญาที่จะไปหารากศัพท์คำว่า 'เผด็จการรัฐสภา' บนผืนโลกนี้มาให้อ่ะครับ...มีแต่มั่วๆจากเว๊บผู้จัดการซึ่งอ่านแล้วหัวเราะกร๊ากเชียวน๊ะเอ๊ะ

[มด 5.11]

กระทู้ปัญญาอ่อน  เข้ามาอ่านขำขำ

[RiDKuN]

ได้ข่าวว่าอะไรจ๊ะเก่งภาษาอังกฤษมากๆ แต่ทำไมไม่รู้ว่าเผด็จการรัฐสภา ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Elective Dictatorship
ขอเชิญอ่านรายละเอียดที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Elective_dictatorship หวังว่าคงไม่ด่าฝรั่งว่าโจมตีทักษิณอีกละ
จะได้รู้สักทีว่า Elect มาแล้วมันกลายเป็น Dictator ได้ยังไง

[The Last Emperor]

ได้ข่าวว่าอะไรจ๊ะเก่งภาษาอังกฤษมากๆ แต่ทำไมไม่รู้ว่าเผด็จการรัฐสภา ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Elective Dictatorship
ขอเชิญอ่านรายละเอียดที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Elective_dictatorship หวังว่าคงไม่ด่าฝรั่งว่าโจมตีทักษิณอีกละ
จะได้รู้สักทีว่า Elect มาแล้วมันกลายเป็น Dictator ได้ยังไง

คุณ อะไรจ๊ะ ไม่นำ  disclaimer ของ"วิกิพีเดีย" มาให้อ่านบ้าง..
ผู้อ่านที่ไม่รู้จัก"วิกิพีเดีย" จะได้ตัดสินใจถูกว่า ควรให้ความเชื่อถือ "วิกิพีเดีย" สักกี่สตางค์.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

ได้ข่าวว่าอะไรจ๊ะเก่งภาษาอังกฤษมากๆ แต่ทำไมไม่รู้ว่าเผด็จการรัฐสภา ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Elective Dictatorship
ขอเชิญอ่านรายละเอียดที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Elective_dictatorship หวังว่าคงไม่ด่าฝรั่งว่าโจมตีทักษิณอีกละ
จะได้รู้สักทีว่า Elect มาแล้วมันกลายเป็น Dictator ได้ยังไง

คุณ อะไรจ๊ะ ไม่นำ  disclaimer ของ"วิกิพีเดีย" มาให้อ่านบ้าง..
ผู้อ่านที่ไม่รู้จัก"วิกิพีเดีย" จะได้ตัดสินใจถูกว่า ควรให้ความเชื่อถือ "วิกิพีเดีย" สักกี่สตางค์.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

คุณอะไรจ๊ะบิดเบือน เบี่ยงเบน จับแพะชนแกะ เก่งมาก........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[อมพระมาพูด]

 

"พวกหนักแผ่นดิน" งัยคับ เป็นอันตรายต่อชาติมั่กๆๆๆๆ ขอบอก

[ปุถุชน]

"พวกหนักแผ่นดิน" งัยคับ เป็นอันตรายต่อชาติมั่กๆๆๆๆ ขอบอก

ผมลงประเด็นที่คุณอะไรจ๊ะ เบี่ยงเบนเสียแล้ว.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

รมว.คมนาคมมั่นใจ'สพรั่ง'ตามเช็ดโครงการทุจริตสุวรรณภูมิ

24 มกราคม 2550 15:34 น.
  "พล.ร.อ.ธีระ "ระบุไม่พอใจผอ.ท่าอากาศยาน และผู้บริหารโดยตรง หลายเรื่องสั่งการไปแล้วไม่ได้รับการแก้ไข มั่นใจ"สพรั่ง" จะเร่งดำเนินการทุจริตหลายโครงการที่เกิดขึ้นในสนามบินสุวรรณภูมิ


พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม ให้ความเห็นถึงการพิจารณาประเมินผลงานของนายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. และนายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ในส่วนของนายโชติศักดิ์ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานกรรมการ ทอท. จะเป็นผู้ประเมินโดยตรง และมีกำหนดครบวาระการประเมินวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนนายสมชัย ได้มอบหมายให้คณะกรรมการ ทอท. ประเมินด้วยเช่นกัน ซึ่งวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) คาดว่าคณะกรรมการ ทอท. จะมีการหารือถึงเรื่องดังกล่าว แต่หากถามถึงการทำงานในช่วงที่ผ่านมาของทั้ง 2 คน ยอมรับว่าโดยส่วนตัวรู้สึกไม่พอใจ และได้ให้โอกาสการทำงานมาพอสมควรแล้ว

"ถามตรง ๆ ก็บอกว่าไม่พอใจ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนถึงขณะนี้ยังมีอีกมาก ผู้ที่ทำหน้าที่บริหารโดยตรงไม่ควรหนีปัญหา และต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และการรายงานที่ผ่านมามีน้อย โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นผู้บริหารโดยตรงต้องเกาะติดสถานการณ์ และรีบหาทางแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา ซึ่งผมควรได้รับความร่วมมือจากคนในหน่วยงาน แต่ตอนนี้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น สั่งอะไรไปแล้วไม่มีอะไรก้าวหน้าในปัญหาที่สั่งให้แก้ไข" พล.ร.อ.ธีระ กล่าว

รมว.คมนาคม กล่าวว่าการแก้ไขปัญหาในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นสำคัญหมด และต้องเร่งแก้ไข ทั้งการให้บริการ ความปลอดภัย และความสะดวกสบายต่าง ๆ แต่ที่เน้นคือความปลอดภัย ต้องมาเป็นอันดับ 1 ส่วนการหารือกับนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม และ พล.อ.สพรั่ง เมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) นอกจากสอบถามถึงสาเหตุของปัญหาทางวิ่ง (รันเวย์) และทางขับ (แท็กซี่เวย์) รวมถึงการแต่งตั้งนายต่อตระกูล ยมนาค กรรมการ ทอท. เป็นประธานคณะกรรมการกลางสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ แต่ พล.อ.สพรั่ง รู้ดีว่าตนต้องการอะไร และจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด

สำหรับกรณีที่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระบุว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีการทุจริตเกิดขึ้นทุกโครงการนั้น พล.ร.อ.ธีระ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ มีการส่งรายงานไปที่คณะกรรมการ ทอท.โดยตรงแล้ว เนื่องจากยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของคณะกรรมการ ทอท. ชุดนี้ด้วย หลังจากนั้นเชื่อว่า พล.อ.สพรั่ง จะดำเนินการตรวจสอบโครงการทุจริตที่เกิดขึ้นต่อไป

รมว.คมนาคม ยอมรับว่า คณะกรรมการ ทอท.ได้มีการรายงานให้ทราบถึงปัญหาในการใช้พื้นที่ของบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่ามีการใช้พื้นที่เกินกว่าที่กำหนดไว้ในสัญญาจริงประมาณ 5,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ในส่วนของร้านค้าปลอดอากร 4,000 ตารางเมตร และพื้นที่บริหารเชิงพาณิชย์ 1,000 ตารางเมตร แต่ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเจรจากับนายโชติศักดิ์ เพื่อยินยอมจ่ายเงินในส่วนที่เกินไปแล้ว แต่โดยส่วนตัวเห็นว่ายังไม่มีความเหมาะสม จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการ ทอท. พิจารณาปรับลดพื้นที่ของ คิง เพาเวอร์ ให้เหลือเท่าในสัญญา และขณะนี้ยังไม่สามารถยกเลิกสัญญาสัมปทานได้ หากจะยกเลิก ทางคณะกรรมการ ทอท. ต้องไปศึกษาข้อกฎหมายให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้องภายหลัง
 
 
 http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=150282
 

เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก เคยยืนยันทันทีที่ลงจากเครื่องบินว่า โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่มีเรื่องราวเกี่ยวกับการทุจริต รวมทั้งโครงการจัดซื้อ CTX9000 ด้วย.........

ในขณะที่พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ว่าจับตรงไหน ตรวจตรงไหน ก็ทุจริตทั้งหมด.....

[ปุถุชน]

ระวัง...ล็อบบี้ยิสต์ต่างชาติช่วยทักษิณกลับไทยไม่ได้ แต่ล้วงตับไทยผ่านทักษิณได้...

24 มกราคม 2550 น.
ไม่ว่าจะเป็นการ 'ว่าจ้าง' หรือ 'ไหว้วาน' ก็ตามที การที่ทักษิณ ชินวัตร ติดต่อให้บริษัท lobbyists ชื่อดัง (ราคาแพง) ของสหรัฐ มาเป็น 'ที่ปรึกษาและวิ่งเต้น' เพื่อสนองเป้าหมายของตนก็คือการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างมิอาจจะปฏิเสธได้

ฉะนั้น ที่ทักษิณประกาศว่า 'enough is enough' ('ผมพอแล้ว') ทางซีเอ็นเอ็นหรือที่เคยบอกผ่านใครต่อใครมาว่า 'จะวางมือทางการเมือง' และจะทำหน้าที่เป็นเพียงพลเมืองไทยธรรมดานั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของ 'กลลวงทางการเมือง' ทั้งสิ้น

ยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นชัดว่า คำพูดและการกระทำของคนคนนี้เป็นคนละเรื่องกันเสมอ

แต่คนไทยต้องแยกให้ถูกระหว่างเรื่องของ 'ลีลา' กับ 'เนื้อหา' เพราะทักษิณยังคิดว่า ตัวเองเป็น 'นักการตลาด' ตัวยง ที่สามารถใช้ลีลาของ salesman มาทำให้เกิด 'กระแสในตลาด' อย่างที่เคยทำสำเร็จมาก่อน

ทั้งๆ ที่ 'เนื้อหา' จริงๆ ของทักษิณนั้น ไม่ได้มีอะไรที่ตลาดต้องการเลยแม้แต่น้อย

การจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ (lobbyists) ของมะกัน ที่ชื่อ BRG หรือบาร์บูร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ แอลแอลซี ของทักษิณ นั้น ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไร เพราะทุกอย่างอยู่ที่ 'เนื้อหา' ไม่ได้อยู่ที่ 'รูปแบบ'

บริษัทล็อบบี้จะเก่งกาจแค่ไหน ก็ได้แต่เพียงการช่วยในการติดต่อและวิ่งเต้นให้ทักษิณไปแสดงบทบาทของตัวเอง ไม่สามารถจะปรับเปลี่ยนหรือบิดเบือนสารัตถะและเนื้อหาที่แท้จริงของปัญหาที่ทักษิณสร้างขึ้นมาเองได้

สถานทูตไทย และตัวเอกอัครราชทูตไทยประจำทุกเมืองหลวงของโลกที่มีอยู่นั่นแหละ คือผู้ต้องทำหน้าที่เป็น lobbyists ให้กับรัฐบาลไทยและต่อกรกับความพยายามที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงที่มาจากกรุงเทพฯ

ไม่ว่าบริษัทล็อบบี้ของฝรั่ง จะมี 'เส้นสาย' เพราะมีอดีตเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมืองมาทำงานให้กับบริษัทล็อบบี้เอกชนเพียงใด หรือจะสามารถช่วยให้ทักษิณไปพบกับสมาชิกสภาคองเกรส หรือเจ้าหน้าที่กระทรวงของมะกันเพียงใด สุดท้ายก็อยู่ที่ว่าใครจะเอาความจริงมาเผยแผ่ให้ประจักษ์ต่อสาธารณชนแห่งโลกให้น่าเชื่อถือกว่ากัน

ทักษิณเสี่ยงกับการถูกฝรั่งหลอกใช้กินเงินหน้าตาเฉย และเสี่ยงที่จะถูกมองว่า 'ชักศึกเข้าบ้านด้วยการทำสงครามข้างนอก' เพราะยิ่งมีการเอาต่างด้าวเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งภายในประเทศ ความอ่อนไหว และจุดอ่อนของคนไทยทั้งประเทศ ก็จะยิ่งถูกต่างด้าวเจาะลึกและแทรกแซงเข้ามาได้

ขอให้ได้รับทราบกันทั่วไปว่า ฝรั่งกลุ่มเดียวกันที่ทำมาหากินเป็น lobbyists ให้กับเอกชนเพื่อทำกำไรมโหฬารนั้น ก็รับเงินจากรัฐบาลบางหน่วยงาน เพื่อเจาะหาความลับของรัฐบาลอื่น ที่กำลังต่อรองเจรจากับประเทศนั้นๆ ด้วย

แปลว่าถ้าเราชักศึกเข้าเรือ ชักเสือเข้าบ้านแล้วไซร้ ก็เท่ากับว่า เราเปิดประตูอ้าซ่าให้ต่างชาติเข้ามาล้วงตับเราในทุกๆ เรื่อง

เช่น หากเขากำลังจะเจรจากับเราเรื่อง FTA หรือมีการต่อรองผลประโยชน์เรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะด้านความมั่นคง ล็อบบี้ยิสต์กลุ่มเดียวกับที่รับจ้างทักษิณ วิ่งเต้นให้เขาต่อสู้ทางการเมืองกับ คมช. อาจจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่สืบหาข้อมูลเกี่ยวกับสายโยงใยและกลไกเบื้องลึกของการทำงานในระบบการเมืองและสังคมของไทยก็ได้ เพราะเพื่อเงินและผลตอบแทนแล้ว ล็อบบี้ยิสต์เหล่านี้อาจสามารถทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น

ฝรั่งล็อบบี้ยิสต์เหล่านี้ไม่สามารถช่วยทักษิณ อะไรได้มากไปกว่าการช่วยเป็นคนติดต่อให้พบคนนั้นคนนี้เท่านั้น  แต่ฝรั่งเหล่านี้แหละที่อาจจะล้วงตับทักษิณ เพื่อให้ได้ความลับของประเทศไทยมาทำร้ายและทำลายผลประโยชน์ของประเทศไทยในด้านอื่นๆ ที่เป็นอันตรายกว่าหลายเท่านัก

เพราะการเผชิญหน้าระหว่างทักษิณกับ คมช. ครั้งนี้ ไม่ใช่การขายสินค้าให้ต่างชาติหรือรณรงค์ไม่ให้กฎหมายฉบับใดในคองเกรสมะกันออกมากระทบต่อผลประโยชน์ของไทยเรา หากแต่เป็นการล้วงลึกเข้าไปถึงทุกๆ ด้าน ของระบอบการปกครองของประเทศไทย ที่มีความละเอียดอ่อนต่ออนาคตของประเทศชาติ

การที่ทักษิณ เอาล็อบบี้ยิสต์ต่างชาติเข้ามาเล่นเกมสร้างอำนาจต่อรองของตนเองกับฐานอำนาจในประเทศ ย่อมหมายความว่า ทักษิณต้องเปิดเผยเรื่องราวภายในประเทศที่เกี่ยวกับหลายสถาบันสำคัญของชาติกับต่างด้าว เพื่อให้เขาช่วยวาง 'กลยุทธ์' เพียงเพื่อจะให้ตัวทักษิณเองได้ชัยชนะทางการเมืองเท่านั้น

เป็นเกมอันตรายที่เอาผลประโยชน์ส่วนตัวเฉพาะหน้ามาเปิดเกมให้ 'นักวิ่งเต้น' ต่างประเทศสามารถล้วงตับความลับในระดับสูงของประเทศไทยอย่างยิ่ง

หวังว่าทักษิณ และลิ่วล้อจะรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ที่อาจจะนำไปสู่การบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติและประชาชนคนไทยทั้งหลาย...เพียงเพราะความหน้ามืดชั่วขณะนี้เท่านั้น
 
 
http://www.bangkokbiznews.com/viewOpinionNews.jsp?newsid=150055
 



 
อ่านแล้ว สรุปเอาเองว่า..........
เผด็จการทหาร คมช. VS เผด็จการรัฐสภา ทักษิณ
ใครเป็นอันตรายแก่ประเทศไทยมากกว่ากัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ระหว่าง"แขก"กับ "สิงกะโปโตก" ตี"สิงกะโปโตก"ก่อน...

ระหว่าง "เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก" กับ "สิงกะโปโตก" ตี "เหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก"ก่อนทันที...
ไม่ต้องคิดมาก.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[สมาชิกพรรคสุขนิยม]

ใครปิดกั้นสื่อมากกว่ากัน อันนี้ สนธิ กินขาด
ใครปิดบังเสรีภาพคนไทยมากกว่ากัน อันนี้สนธิ ก็กินขาด
taxi ตายหาสาเหตุได้ไหม ก็มั่วๆกันไป แต่ลึกๆใครจับแขวนคอ
ทุกวันนี้ใครทำร้ายพุทธศาสนา พระสงฆ์ องค์เจ้ามากกว่ากัน ไปถามสพรั่ง กับบังทิ ดูนะ
ระวัง พระเจ้า"taksin" จะมาเอาคืน

[ภัทร]

ถ้าหลานปุถุชน ใช้ head เสียหน่อย หลานจะมองออกนะลูก


ว่าทักษิน ไปที่ไหน ก็มีแต่คนต้อนรับ
ส่วนพวกเผด็จการเถื่อน ไม่มีที่ไหนเค้าต้อนรับเลย


เพราะอะไรละลูก ฮื.. ปู่ไม่อยากสอนหลานให้มากแล้วนะ ปู่เมื่อยปากแล้วลูกเอ๊ย

[ปุถุชน]

ไม่ตอบโต้สิงคโปร์สิ"แปลก"

โดย นงนุช สิงหเดชะ



เอาอีกแล้วพวกเราชาว "ยิ้มสยาม" บางจำพวก พลันที่รัฐบาลไทยใช้มาตรการแค่ขั้นอ่อนๆ "แสดงความไม่พอใจ" ต่อสิงคโปร์ ก็ตื่นตูมทันทีว่าไม่เกรงกระทบความสัมพันธ์หรือ ประเมินผลกระทบรอบคอบแล้วหรือ บางคนก็คิดว่า "หลงเล่นตามเกมทักษิณ" อีกแล้ว ที่คุณทักษิณสามารถขยายเรื่องนี้ไปสู่ความสนใจนานาชาติ

อันที่จริงการตอบโต้สิงคโปร์ครั้งนี้ เป็นเรื่องสมเหตุผลและสมควรอย่างยิ่ง แม้จะมีผลกระทบแต่เป็นผลกระทบที่ส่งผลดีต่อจุดยืนที่ชัดเจนของไทยว่า "ยอมรับไม่ได้" กับการกระทำของสิงคโปร์ครั้งนี้ เพราะถือว่าสิงคโปร์เสียมารยาททางการทูตอย่างยิ่ง ไม่สนใจต่อความละเอียดอ่อนทางการเมืองของไทย ไม่ยึดถือหลักปฏิบัติทางการทูตที่พึงกระทำ

การตอบโต้สิงคโปร์ ยังจะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนกว่าเดิมไปยังทั่วโลกว่ารัฐบาลไทยมองคุณทักษิณอย่างไร ซึ่งจะทำให้นานาชาติตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าอะไรจะคุ้มกว่าระหว่างเลือกคบกับคุณทักษิณที่ตอนนี้หมดอำนาจหรือต้องการผูกมิตรกับรัฐบาลไทย

แน่นอนในฐานะพลเมืองไทย คุณทักษิณสามารถเดินทางไปไหนได้อย่างอิสระ จะไปกินสเต๊ก หรือไปช็อปปิ้งที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ ตราบใดที่ไม่ได้เจตนาสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองมายังประเทศไทยและไม่มีคนในรัฐบาลของประเทศนั้นไปพบปะคุณทักษิณ หรือรู้เห็นเป็นใจให้คุณทักษิณใช้เป็นสถานที่เคลื่อนไหวทางการเมือง

ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องผลกระทบเกินเหตุ เพราะสิงคโปร์ไม่ได้ "ถือไพ่" เหนือไทย เพราะสิงคโปร์มีขนาดพื้นที่เท่ากระแบะมือเท่ากับเกาะภูเก็ตของไทย ต้องซื้อน้ำจืดจากเพื่อนบ้านไปใช้ ประเทศซึ่งต้องมาอาศัยเช่าฐานทัพในไทย ต้องใช้ไทยเป็นแหล่งทำมาหากินเยอะมาก เป็นประเทศซึ่งเพื่อนรอบบ้านประเทศอื่นๆ ไม่ค่อยรัก มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่เป็นมิตรที่น่ารักและใจดีมาตลอด

  "เขาเป็นสมาชิกอาเซียน เป็นประเทศใกล้ชิดกับเรา เขาทำอย่างนี้กับเราได้อย่างไร ถ้าไทยไม่ตอบโต้สิจะเป็นเรื่องแปลกมาก เพราะเท่ากับยอมให้เขาเยี่ยวรดหัวเรา อย่าไปคิดว่ารัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำคุณทักษิณ เราตอบโต้ช้าไปด้วยซ้ำ" นี่คือคำพูดของผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศที่อยู่ในทีมที่ปรึกษาของนายกฯ

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าโดยหลักของการทูตนั้น หากเป็นประเทศอาเซียนด้วยกันก็ยิ่งต้องระมัดระวังต่อเรื่องละเอียดอ่อนทางการเมืองที่จะกระทบต่อประเทศสมาชิกด้วยกัน สิงคโปร์จะมาอ้างว่าไทยไม่เคยแจ้งข้อหาอะไรต่อคุณทักษิณ ก็เลยให้คุณทักษิณเข้าพบปะบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์นั้น เป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น และที่อ้างว่าเป็นการพบส่วนตัวนั้นก็ยิ่งฟังไม่ขึ้น

หลังการรัฐประหาร ประเทศอาเซียนและทั่วโลกย่อมรับทราบอยู่แล้วว่าคุณทักษิณถูกโค่นอำนาจเพราะสาเหตุ 4 ข้อ ซึ่งทั้งคณะปฏิรูปการปกครอง (คปค.) และรัฐบาลก็ได้แจ้งต่อทูตชาติต่างๆ ในไทยได้ทราบแล้ว ดังนั้น ชาติต่างๆ ย่อมต้องรับรู้ว่าคุณทักษิณเป็นบุคคลที่มีปัญหากับรัฐบาลปัจจุบัน

ขณะเดียวกันสถานทูตของชาติต่างๆ ในไทยอย่างน้อย หากไม่สามารถหาข่าวได้จากช่องทางอื่นเกี่ยวกับคุณทักษิณ ก็สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากสื่อในประเทศไทยได้อยู่แล้ว และมีหน้าที่ต้องรายงานสถานการณ์กลับไปให้เมืองหลวงของตัวเองทราบ ส่วนที่อ้างว่ารัฐบาลไทยไม่เคยแจ้งให้สิงคโปร์ทราบว่าอดีตนายกฯของไทยถูกดำเนินคดีอะไรบ้างนั้น ก็เป็นการ "เล่นลิ้น" ที่ไม่แนบเนียน เพราะสิงคโปร์ย่อมทราบดีว่าขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ชี้มูลความผิดอะไรเกี่ยวกับคุณทักษิณและครอบครัวบ้าง

อีกทั้งสิงคโปร์ย่อมรู้ดีว่าการขายหุ้นชินคอร์ปให้เทมาเส็ก เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณทักษิณถูกประท้วงและขับไล่ อันนำมาสู่การรัฐประหาร

ตอนคุณทักษิณพักอยู่ลอนดอน ทางรัฐมนตรีของอังกฤษรายหนึ่งพูดชัดว่าให้อยู่ได้ แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ เห็นไหมอังกฤษอยู่ไกลจากไทยคนละซีกโลก ยังรับรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเมืองไทย ยังมีมารยาท รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ

ตอนอยู่เมืองจีน ก็ไม่มีคนในรัฐบาลของจีนไปพบกับคุณทักษิณ เพราะจีนมีมารยาทและมีความ "เก๋า" ทางการทูต

แต่ทำไมเมื่อมาสิงคโปร์ นอกจากคนระดับรองนายกรัฐมนตรีจะยอมให้คุณทักษิณเข้าพบแล้ว ยังให้คุณทักษิณใช้สิงคโปร์เป็นสถานที่ให้สัมภาษณ์สื่อระดับโลกอย่างซีเอ็นเอ็นและวอลล์สตรีท เจอร์นัล โจมตีประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์จะอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการที่คุณทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อในสิงคโปร์ไม่ได้ เพราะปกติสิงคโปร์ควบคุมสื่อเข้มงวดมาก เสรีภาพทางความคิดแทบจะเป็นศูนย์[/color]

การให้สัมภาษณ์สื่อนั้นอาจยอมรับได้ว่าเป็นสิทธิส่วนตัวคุณทักษิณ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ "เจตนา" ของสิงคโปร์ต่อเรื่องนี้ต่างหาก ที่ทำให้รัฐบาลไทยยอมรับไม่ได้

กรณีสิงคโปร์ต้อนรับขับสู้คุณทักษิณนั้นย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ อันเนื่องมาจากการที่เทมาเส็กซื้อหุ้นชินคอร์ป ไม่เช่นนั้นจะมีแรงจูงใจถึงกับกล้าเสียมารยาททางการทูตต่อไทยหรือ เป็นไปได้ว่าคุณทักษิณไปให้ความหวังบางอย่างกับสิงคโปร์ว่าตัวเขาเองมีโอกาสสูงที่จะกลับมากุมอำนาจทางการเมือง (เพื่อดูแลกิจการเทมาเส็กในไทย) เป็นไปได้ว่าคุณทักษิณไปบอกสิงคโปร์ว่ากระบวนการยุติธรรมจะไม่สามารถเอาผิดอะไรเขาได้ จึงทำให้สิงคโปร์เห็นว่าคุณทักษิณยังเป็น "ขุมทอง" เป็น "ห่านทองคำ" โดยที่อาจไม่ได้เฉลียวใจว่ายิ่งเวลาผ่านไป "ห่านทองคำ" กำลังจะกลายเป็นเพียงแค่ "ก้อนกรวด"

ยิ้มสยามนั้นดีอยู่ แต่ต้องยิ้มให้ถูกกาละเทศะ ยิ้มให้คนที่ควรยิ้ม และต้องรู้จัก "แยกเขี้ยว" ใส่บางคนมันบ้าง เพราะบางคนยิ่งเราใจดี ไม่แสดงพิษสงเสียบ้าง เขาจะยิ่งเอาเปรียบเราหนักข้อ ยิ่งไม่เกรงใจเรา

หากมองภายนอกอาจดูว่าคุณทักษิณได้เปรียบรัฐบาล ที่สามารถเดินเกมให้เรื่องนี้เข้าไปอยู่ในความสนใจของนานาชาติ แต่อย่าลืมว่าชื่อเสียงของคุณทักษิณที่ผ่านมาในสายตาสื่อต่างชาติที่มีคุณภาพและในประชาคมระหว่างประเทศ ก็ไม่ได้ดีนัก โดยเฉพาะปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนและผลประโยชน์ทับซ้อน

ยิ่งคุณทักษิณเดินเกมนอกประเทศหนักขึ้น "เชือก" ภายในประเทศก็จะยิ่งรัดคอคุณทักษิณแน่นขึ้น

ที่โวยวายกันว่า คมช.กีดกันไม่ให้คุณทักษิณกลับประเทศนั้น น่าจะไปถามพรรคไทยรักไทยว่าแท้จริงแล้วเป็นเพราะคุณทักษิณถูกกีดกันหรือคุณทักษิณ "ไม่กล้ากลับ" กันแน่

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act01250150&day=2007/01/25


ความคิดซ๋อนเร้นภายในใจของเหลี่ยม สิงกะโปโตกและรัฐบาลสิงกะโปโตก เป็นที่คาดเดา หยั่งถึงได้ของสื่อฯ นักวิชาการ ปัญญาชนไทย และคนไทย ที่ไม่ใช่ คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตกครับ ใบสมัครกรีนการ์ดสิงคโปร์ (คลิก) ตามสะดวกครับ ตรวจสอบดูก่อนนะครับว่าคุณสมบัติถึงหรือเปล่า ถ้าถึงก็เอาเลยครับ เป็นกำลังใจให้

คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก และ สิงกะโปโตก ทั้งหลาย
ผมคัดลอก คคห. นี้มาให้แล้ว..............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล. ขอแก้ไขจาก"เจ้าของกระทู้" เป็น "คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก" ทั้งหลาย....

[ปุถุชน]

รัฐบาลสิงคโปร์มีทางเลือกให้คนรัก o[_]o อพยพไปอยู่กับ o[_]o ได้ 4 วิธีครับ

1. เป็นลูกหรือเป็นเมียของ o[_]o ข้อนี้ถือว่าทดสอบใจ o[_]o เลยนะครับว่า ซื่อสัตว์กันขนาดนี้ o[_]o จะรับเป็นลูกหรือเปล่า
2. เป็นพ่อแม่ของ o[_]o คนรัก o[_]o มิบังอาจ
3. เป็น skilled professionals ถ้ามี skill ถึงขั้นจริงสิงคโปร์รับอยู่แล้วครับ และสิงคโปร์ไม่รับพวกสมองมดครับ
4. มีเงินแค่ SGD 1,000,000 ก็ได้แล้วครับ ลองประเมินดูนะครับว่า ต้องโพสต์กี่หมื่นล้านกระทู้กว่าจะเก็บเงินได้ถึง

 เว็บไซต์เกี่ยวกับกรีนการ์ดสิงคโปร์ของรัฐบาลสิงคโปร์
http://app.ica.gov.sg/serv_pr/per_res/app_for_pr.asp

ขอให้คนรัก o[_]o โชคดีได้ไปอยู่กิน ปรนนิบัติ บำเรอ o[_]o กันโดยเร็ววันทุกท่านครับ ด้วยใจจริง

ด้วยความเมตตาของคุณ타이진실 สำหรับคนรักเหลี่ยส ลี สิงกะโปโตก ที่รักสิงกะโปโตก อยากจะไปอยู่กับเผด็จการตระกูล ลี ด้วย..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ภัทร]

แต่ปู่เฝ้าสังเกตุหลานๆมาหลายวันแล้วนะ ไปๆมาๆ อยากจะไปอยู่เองแล้วใช่มั้ยละที่สิงค์โปรนะหลานเอ๊ย


ก็เพราะเห็นแต่หลานปุฯ กับหลานชื่ออะไรก็ไม่รู้ที่เป็นภาษาจีน

หายใจเข้าก็เป็นสิงค์โปร หายใจออกก็เป็นสิงค์โปร ปู่ว่าพักๆเสียบ้างก็ดีน๊ะหลานเอ๊ย เดี๋ยวจะเป็นไข้สิงค์โปรเอา ท่าทางเป็นเอามากนะหลานนะ ปู่เป็นห่วง

[room5]

ฮ่าๆๆๆ....พอดีอัจฉริยะบุคคลอย่าง 'จารย์จ๊ะ' จนปัญญาที่จะไปหารากศัพท์คำว่า 'เผด็จการรัฐสภา' บนผืนโลกนี้มาให้อ่ะครับ...มีแต่มั่วๆจากเว๊บผู้จัดการซึ่งอ่านแล้วหัวเราะกร๊ากเชียวน๊ะเอ๊ะ

โห จ๊ะเป็นอัจฉริยะบุคคล เลยหรอ โห ไม่หลงตัวเองเลยนะ
ใครตั้งให้หนะ เมียที่บ้านหรอ อัจฉริยะ เงินเดือนถึงแสนป่าวครับ
ถึงกระจ๊อกงอกง่อย รับจ้างโพสเลี้ยงครอบครัว?

[room5]

ท่านอัจฉริยะบุคคล Ar-rai-ja บอกอย่างมั่นใจว่า "ส่วนคำว่า 'เผด็จการรัฐสภา' ไม่เป็นที่รู้จักในสาระบบใดๆยกเว้นในเว๊บผู้จัดการเท่านั้น"

ได้ข่าวว่าอะไรจ๊ะเก่งภาษาอังกฤษมากๆ แต่ทำไมไม่รู้ว่าเผด็จการรัฐสภา ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Elective Dictatorship
ขอเชิญอ่านรายละเอียดที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Elective_dictatorship หวังว่าคงไม่ด่าฝรั่งว่าโจมตีทักษิณอีกละ
จะได้รู้สักทีว่า Elect มาแล้วมันกลายเป็น Dictator ได้ยังไง

ขายหน้าว่ะ55555555