หวั่นเกิดโศกนาฏกรรม เหตุเจอรอยร้าวรันเวย์ เชื่อมาจากการก่อสร้าง ไม่ใช่มาจากการใช้งาน
Sunday, 21 January 2007
อนุฯกมธ.ตรวจสอบการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิลุยสอบปัญหาสนามบิน พบรอยร้าวกลางรันเวย์-แท็กซี่เวย์จริง ชี้เกิดจากการก่อสร้าง
ไม่ใช่การใช้งาน เหตุเพิ่งเปิดใช้จริงไม่นาน จี้แก้ไขด่วน หวั่นเกิดโศกนาฎกรรม
วันที่ 21 ม.ค. 2550 เวลา 10.00 น. นายประพันธ์ คูณมี ประธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบสัญญาการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิและสัญญาที่เกี่ยวข้อง ของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้นำคณะตรวจสอบพื้นผิวทางวิ่ง (รันเวย์) ทางขับ (แท็กซี่เวย์) และบริเวณภายในอาคารผู้โดยสารในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยมีตัวแทนเจ้าหน้าที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ที่ดูแลสนามบินดังกล่าวมาตอบข้อซักถามของคณะอนุกรรมาธิการฯ จากนั้นได้นำชมสถานที่จริง
สำหรับการซักถามรายละเอียดปัญหารอยแตกร้าวบริเวณแท็กซี่เวย์และรันเวย์นั้น ตัวแทนจาก ทอท.ไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่า รอยร้าวและรอยแตกร่อนที่เกิดขึ้นนั้นมีพื้นที่เท่าไหร่ โดยอ้างว่ายังไม่ได้มีการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดเพื่อหาสาเหตุ มีเพียงการซ่อมแซมเมื่อได้รับแจ้งว่าเกิดรอยร้าวหรือแตกร่อนเท่านั้น ทั้งที่ข้อมูลของสนช.ที่ได้เคยตรวจสอบพื้นที่
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2549 พบว่ามีพื้นที่แตกร้าว 71,000 ตารางเมตร ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณพื้นผิวแท็กซี่เวย์และรันเวย์ อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากทอท.เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ทอท.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาความเสียหายพื้นที่แอร์ ฟิลด์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วโดยมีนายภาสกร สุวรรณกนิษฐ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ วิเคราะห์สาเหตุการชำรุดพื้นผิวแท็กซี่เวย์ รันเวย์ และลานจอดอากาศยานของสนามบินแห่งนี้แล้วรวบรวมข้อมูลเสนอให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (กอญ.) ของทอท.ต่อไป เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป
แต่น่าสังเกตว่าไม่มีการกำหนดกรอบเวลาการตรวจสอบหาสาเหตุของปัญหารอยแตกร้าวในแท็กซี่เวย์และรันเวย์ อีกทั้งการประกันภัยสนามบินก็มีอายุเพียง 2 ปี ซึ่งจะหมดอายุในช่วงปลายปี 2551 โดยทอท.ยังไม่มีการเจรจากับบริษัทประกันภัย เพื่อขอต่ออายุการประกันภัย ซึ่งถ้าไม่มีการต่ออายุประกัน จะทำให้ทอท.ต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือความเสียหายภายในสนามบิน
จากการตรวจสอบวันนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯได้พบความผิดปกติหลายจุดบริเวณพื้นผิวแท็กซี่เวย์และรันเวย์มีรอยร้าว พื้นผิวถนนแตกร่อน อาทิ
บริเวณหัวมุมรันเวย์ที่เป็นจุดที่เครื่องบินจะขึ้นสู่อากาศ หรือ เทค-ออฟ นั้น ปรากฏว่ามีรอยร้าวและจุดแสดงการยุบตัวเป็นแอ่ง ที่คาดว่าเกิดการรองรับหรือ ถูกกดทับจากน้ำหนักของเครื่องบิน สำหรับภายในอาคารผู้โดยสาร ก็พบว่าพื้นที่บริเวณชั้นล่างกว้างเพียง 9 เมตร และพื้นที่ยังถูกบีบจากการตั้งเคาน์เตอร์หรือบูธของร้านค้าและจุดรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารต่างๆ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวจะต้องกว้าง 18 เมตร โดยต้องเพิ่มพื้นที่อีก 9 เมตร ตามมาตรฐาน
นอกจากนี้ นายสมเจตน์ ทินพงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้นำแบบแปลนการก่อสร้างพื้นที่ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศมาโชว์ต่อผู้สื่อข่าว พร้อมกับกล่าวว่า พื้นที่ร้านค้าที่บริษัท คิง พาวเวอร์ จำกัด ได้รับสัมปทาน ซึ่งตั้งอยู่กลางทางเดินนั้น
เดิมถูกกำหนดให้มีการติดตั้งบันไดเลื่อน เพื่อความสะดวกต่อการเดินไปยังช่องประตูขึ้นเครื่อง แต่ได้มีการแก้แบบ โดยแบบแปลนนี้ระบุชัดว่า มีคำสั่งให้ลบส่วนที่เป็นบันไดเลื่อนทิ้งไป แล้วเพิ่มพื้นที่ร้านค้าแทน ซึ่งแสดงถึงการเอื้อประโยชน์ต่อบริษัท คิง พาวเวอร์ และต้องการทำให้สนามบินแห่งนี้เป็นเหมือนห้างสรรพสินค้า ไม่ใช่ใช้งานเป็นท่าอากาศยานที่แท้จริง อีกทั้งเกิดรอยแตกร้าวหลายจุดใกล้ๆกันในพื้นที่ส่วนของบริษัท คิง พาวเวอร์ ซึ่งคาดว่าเกิดจากปัญหาเรื่องโครงสร้างตัวสนามบิน ไม่ใช่มาจากปัญหาของกระเบื้องได้รับแรงกระแทก
ภายหลังการตรวจสอบดังกล่าว นายประพันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบปัญหาในสนามบินสุวรรณภูมิ ได้พบปัญหาเกิดขึ้นในหลายกรณี โดยเฉพาะปัญหาเรื่องรันเวย์ และแท็กซี่เวย์ ที่มีปัญหาแตกร้าวขึ้นมาอีก ปัญหาเรื่องโครงสร้างอาคารผู้โดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่ของบริษัท คิง เพาว์เวอร์ ปัญหาเรื่องความสะอาดของตัวอาคารไม่ว่าจะเป็นกระจก และตัวโครงสร้างเหล็กที่เราสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าอยู่แล้ว ทั้งนี้ปัญหาการแตกร้าวของบริเวณรันเวย์และแท็กซี่เวย์ ถือว่าวิกฤติ และอาจกำลังลุกลามต่อไปใกล้หลักแสนตารางเมตรได้ ถ้าไม่มีการหาสาเหตุและแก้ไขโดยเร็ว ซึ่งจากการบรรยายสรุปของเจ้าหน้าที่ ทอท. ทำให้ทราบว่าปัญหารอยร้าวนี้ เกิดขึ้นหลังเปิดใช้สนามบินไปเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น โดยอ้างว่ามาจากช่วงการก่อสร้าง ไม่ได้เกิดมาจากปัญหาของการใช้งาน
เราทราบกันดีแล้วว่าสนามบินสุวรรณภูมิยังไม่ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานองค์กรการบินระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) และถ้าปัญหานี้ปรากฏแล้วได้ลุกลามออกไป อาจจะส่งผลกระทบต่อการเปิดใช้สนามบินแห่งนี้ และจะเป็นการนำมาซึ่งความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศชาติ ที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องความปลอดภัยต่อชีวิตของผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบิน เพราะในอดีต ปัญหารันเวย์แตกร้าวในสนามบินต่างประเทศ ทำให้เศษปูนหินที่แตกถูกเครื่องบินดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ ส่งผลให้เครื่องบินลำนั้นระเบิดและตก ทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิตจำนวนมากประธานคณะอนุกรรมาธิการฯกล่าวนายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาต่างๆที่คณะอนุกรรมาธิการฯพบทั้งหมด เราจะเร่งสรุปปัญหาเพื่อเสนอต่อรัฐบาลได้รับทราบ เพราะจำเป็นจะต้องมีผู้ที่ออกรับผิดชอบ และชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการฯจะเสนอแนะไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการเคลมประกันค่าเสียหายในส่วนต่างๆที่มีปัญหา เพราะหากไม่มีการดำเนินการในส่วนนี้แล้ว อาจจะทำให้มีการโยนความผิดชอบกันไปมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ออกแบบ ผู้ก่อสร้าง ทั้งนี้การสรุปผลตรวจสอบนั้น คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 2-3 สัปดาห์อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 ม.ค.นี้ คณะอนุกรรมาธิการฯจะเชิญตัวแทนจากกลุ่มกิจการร่วมค้าไอทีโอ และคณะทำงานแก้ปัญหาความเสียหายพื้นที่แอร์ ฟิลด์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาให้ข้อมูลด้วย
http://thaiinsider.info/portal/content/view/1910/20/ 
อาการหนัก สุวรรณภูมิ
