สำหรับเมืองไทยแล้ว การรีไซเกิลวัสดุและขยะถือเป็นเรื่องหมูๆ
มีร้านรับซื้อของเก่า เศษโลหะ เศษกระดาษ ขวด พลาสติก ฯลฯ
ทำกันมานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ทางร้านจะทำการคัดแยกระเภท
ถ้าเป็นเศษโลหะ ก็จะคัดแยกโลหะชนิดเดียวกันไว้ด้วยกัน เช่น
เศษเหล็กแยกกองไว้ เศษอลูมิเนียมแยกกองไว้ เศษทองแดงแยกกองไว้
เมื่อได้จำนวนมากพอ ก็จะนำไปขายยังโรงหลอมโลหะตามประเภท
เข่นเดียวกัน การแยกประเภทกระดาษเพื่อขายโรงงานกระดาษนำไปย่อยใหม่
แล้วนำเยื่อกระดาษเก่าไปผสมกับเยื่อไม้ใหม่ที่มีเส้นใยที่ยาวและเหนียวกว่า
พลาสติกและแก้ว โรงงานจะนำไปบดแล้วผสมกับของใหม่ก่อนทำการหลอม
น้ำมันเครื่องที่ถ่ายทิ้งออกมาจากเครื่องยนต์และน้ำมันพืชใช้แล้ว ก็นำไปขายได้
เขามีกรรมวิธีทำให้น้ำมันเครื่องเก่าสะอาดขึ้นเพื่อนำไปใช้หยอดเครื่องจักร
และน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว ก็ถูกนำไปใช้ทำเป็นน้ำมันไบโอดีเซล
นอกจากนั้น กากเปลือกและใยพืชเช่น แกลบ ซังข้าวโพด ถูกนำไปทำเป็นฟืนต้มไอน้ำบอยเลอร์
เพื่อขับดันเครื่องจักร .. ขี้เถ้าจากถ่านหินลิกไนท์ถูกนำไปผสมทำเป็นอิฐมวลเบา ฯลฯ
จะเห็นได้ว่า ของเสียและของเหลือใช้เกือบจะทุกชนิด ส่วนใหญ่สามารถนำไปรีไซเคิลได้
ยกเว้นสารกัมมันตภาพรังสี ที่พวกซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่าไม่รู้จัก
ดันไปรื้อเครื่องฉายรังสีที่ถูกโขมยมาขาย จนถูกสารโคบอลท์ 60 ทำลายอวัยวะตายไปหลายคน
...
นอกจากเศษว้สดุของเหลือใช้แล้ว เศษซากจากสิ่งมีชีวิตบาง ก็สามารถที่จะนำไปแปรรูปได้
เช่น กระดูกสัตว์ใหญ่ เคยได้ยินว่า นำไปสกัดฟอสฟอรัส
เปลือกปูเปลือกกุ้ง นำไปสกัดสารไคโตซาน
เท่าที่นึกได้ตอนนี้ มีอยู่อย่างหนึ่งที่ยังไม่มีใครนำไปรีไซเคิล คือ
ชุดขั้นใน และ ถุงยาง ...