ลองให้ผู้ต่อต้านหลี่เสียนหลงขอพบรองนายกฯ ไทย ที่นี่และด่านายกฯ สิงคโปร์ผ่านCNNบ้าง....19 มกราคม 2550 น.
ลองวาดภาพดูว่า ถ้ารองนายกฯ ไทยคนใดคนหนึ่งให้ผู้นำฝ่ายค้านของสิงคโปร์ ที่เป็นศัตรูร้ายกาจกับนายกฯ หลี่เสียนหลง มาพบ 'อย่างไม่เป็นทางการ' และวันรุ่งขึ้นให้สัมภาษณ์ CNN กับหนังสือพิมพ์ The Asian Wall Street ถล่มคนตระกูลลีที่คุมทั้งรัฐบาล ทั้งสภา ทั้งเทมาเส็ก อย่างเสียๆ หายๆ
อะไรจะเกิดขึ้นที่เกาะสิงคโปร์?ไฟก็ลุกไหม้ไปทั้งเกาะ อารมณ์ท่านผู้นำคงจะเดือดพล่าน และผู้นำสิงคโปร์ คงจะบอกว่า รัฐบาลไทยทำอย่างนี้หรือปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ย่อมไม่ใช่พฤติกรรมของประเทศที่เป็นมิตรมายาวนานแน่นอน
ต้องไม่ลืมว่า รัฐบาลสิงคโปร์ไม่เคยเห็นการปฏิวัติในประเทศอื่นเป็นเรื่องที่เลวร้ายหรือที่ตนไม่เห็นด้วย
และสิงคโปร์ไม่เคยวิจารณ์ว่า ประเทศไหนเป็น 'เผด็จการ' เพราะตัวเองต้องคอยตอบคำถามคนอื่นเสมอว่า ทำไมพรรคกิจประชาของท่านผู้นำ จึงไม่ยอมให้ฝ่ายค้านได้โงหัวขึ้นมาบ้างเลยดังนั้น การที่ทักษิณ ชินวัตร ไป 'ขอพบ' รองนายกฯ สิงคโปร์ เอส.ชัยกุมาร โดยอ้างว่าเป็น 'เพื่อนเก่า' ที่พบกันในเชิง 'สังคม' หรือ 'เป็นส่วนตัว' นั้น จึงเท่ากับเป็นการ 'ตบหน้า' นายกฯ สุรยุทธ์ จุลานนท์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นิตย์ พิบูลสงคราม ของไทยอย่างยิ่ง
เพราะวันเดียวกันกับที่มีข่าวว่า ทักษิณบินเข้าสิงคโปร์ (อย่างจงใจเป็นข่าว ไม่ได้ไปในฐานะนักท่องเที่ยวธรรมดา) นั้น นายกฯ ไทยกับนายกฯ สิงคโปร์ (หลี่เสียนหลง) ต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่กับผู้นำอาเซียนอีก 8 ประเทศที่เซบู ของฟิลิปปินส์
ขณะที่หลี่เสียนหลง เล่นบทยิ้มแย้มกับสุรยุทธ์ ที่เซบู เอส.จายากุมาร เล่นบทยิ้มแย้มกับทักษิณ ที่เกาะสิงคโปร์ไปพร้อมๆ กัน
คู่แรกพบกัน 'อย่างเป็นทางการ' ขณะที่อีกคู่หนึ่งพบกัน 'อย่างไม่เป็นทางการ'...โดยที่หลี่เสียนหลงกับรองนายกฯ ของตัวเอง ไม่สนใจว่าผู้นำไทย และคนไทยจะคิดอย่างไรกระนั้นหรือ?ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมจึงมีคนวิพากษ์ว่า สิงคโปร์ไม่เคยมีความจริงใจกับเพื่อน อะไรก็ตาม ที่ตนได้ประโยชน์ ก็จะทำอย่างนั้น นิสัยอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะร่ำรวยมั่งคั่ง หรือต้องพึ่งพาความจริงใจของเพื่อนคนอื่นอย่างไรก็ตาม
ลองวาดภาพว่า นักการเมืองไฟแรงที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของรัฐบาลสิงคโปร์ อย่าง 'สวีซุ่นฉวน' (Chee Soon Juan) เลขาธิการพรรค Singapore Democratic Party (SDP) (ซึ่งเคยถูกจับติดคุก เพราะปราศรัยในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตล่วงหน้า และข้อหาขายหนังสือที่เขาแต่งเองกลางถนนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต) มาขอพบกับรองนายกฯ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล 'เป็นการส่วนตัว' แต่ออกข่าวโครมคราม
หรือหาก J.B.Jeyaretnam (ส.ส.ฝ่ายค้านคนแรกในฐานะหัวหน้าพรรค Workers'Party of Singapore และถูกผู้นำพรรครัฐบาลฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาท จนทุกวันนี้ ยังเป็นบุคคลล้มละลาย) มาเมืองไทย เพื่อขอพบผู้นำไทยคนใดคนหนึ่ง ลองวาดภาพว่า ผู้ยืนอยู่คนละข้างกับนายกฯ หลี่เสียนหลงของสิงคโปร์ อย่างเช่น Chee Soon Juan หรือ J.B.Jeyaretnam ทำอย่างที่ทักษิณทำที่สิงคโปร์ คือพอไปพบรองนายกฯ ของประเทศไทยเสร็จ ก็ให้สัมภาษณ์สื่อตะวันตก (ที่สิงคโปร์ปกติจะไม่ยอมให้แสดงความเห็นทางลบต่อตัวเองเลย) อัดผู้นำที่บ้านของตัวเองอย่างเสียๆ หายๆ คุณคิดหรือว่ารัฐบาลสิงคโปร์ ตั้งแต่ท่านผู้เฒ่าลีกวนยิว ถึงลูกชายนายกฯ หลี่เสียนหลง จะยอมรับว่านี่เป็น 'เรื่องปกติ' ระหว่างเพื่อน?และความแตกต่างของผู้ต่อต้านรัฐบาลสิงคโปร์ สองท่านนี้กับทักษิณ (ผู้ต่อต้านรัฐบาลไทยวันนี้) นั้น มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงประการหนึ่ง
นั่นคือ ผู้ต่อต้านรัฐบาลสิงคโปร์ไม่เคยถูกกล่าวหาเรื่องโกงกินบ้านเมือง ขณะที่ทักษิณกำลังถูกสอบสวนโดยคณะกรรมการหลายชุดเกี่ยวกับเรื่องฉ้อฉลระดับสูง ขณะที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีผู้นำสิงคโปร์ที่ประกาศจุดยืนต่อต้านคอร์รัปชันอย่างชัดแจ้งในบ้านของตน ไม่เคยแสดงความรังเกียจต่อผู้นำของประเทศ ที่กำลังถูกสอบสวนเรื่องอื้อฉาวระดับชาติของไทยมากมายหลายเรื่องเลยกระนั้นหรือ?
http://www.bangkokbiznews.com/viewOpinionNews.jsp?newsid=148831 บทความของคุณ'กาแฟดำ' ประจาน นิสัย พฤติกรรมของผู้นำประเทศสิงคโปร์ อย่างนายลี กวนยู ลูกชาย และบริวารอย่างล่อนจ้อน.......
ประเพณี วัฒนธรรม การฑูต การสมานมิตรไมตรีระหว่างประเทศ เห็นแก่ได้ อ่อนด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับผู้นำประเทศญี่ปุ่นอย่างหน้ามือและหลังเท้า.....มีแต่คนรักเหลี่ยม ลี สิงกะโปโตก เท่านั้นที่ชื่นชมพฤติกรรมของผู้นำฯ สิงกะโปโตก เพราะนิสัยคล้ายคลึงกับ "นายผู้ชาย"......