ขิงแก่ แนะนำ “ทฤษฎีเศรษฐกิจแบบถอยหลัง” ลงคลอง..55

[ดาบฟ้าฟื้น]

ในแวดวงธุรกิจยามนี้ ไม่ว่านักธุรกิจไทยหรือนักธุรกิจต่างชาติ ต่างก็บ่นกันเป็นหมีกินผึ้งกับ 2 มาตรการของรัฐบาลขิงแก่ที่ออกมาในช่วงนี้ นั่นคือ มาตรการกันเงินสำรองเงินกู้จากต่างประเทศร้อยละ 30 และร่างกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

ในประเด็นหลังผมไม่ติดใจเท่าไร เพราะเป็นการบังคับให้นักลงทุนต่างชาติเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เข้ามาลงทุนในธุรกิจอะไรบ้างในบ้านเรา ไม่ใช่ทำตัวเป็น “คุณแอบ” ใช้คนไทยถือหุ้นบังหน้า แต่การออกเสียงกลับเป็นของคนต่างชาติ

แต่ประเด็นที่ผมคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก ไถ่ถามผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการเงินและการลงทุน ทุกคนก็ส่ายหัว ไม่รู้ว่า “แบงก์ชาติคิดออกมาได้ยังไง” ก็คือ มาตรการกีดกันเงินทุนไหลเข้า โดยบังคับให้กันเงินสำรองไว้ร้อยละ 30 เพื่อป้องกันเงินทุนเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น ทำให้ค่าเงินบาทแข็งเกินไป

คนที่คิดเรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยาก และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในวงกว้างทั้งตลาดเงินและตลาดทุนอย่างนี้ ต้องยกให้เป็น “อัจฉริยะ” แห่ง “ทฤษฎีเศรษฐกิจแบบถอยหลัง” แถมยังคิดวิธีถอยหลังใน “อัตราเร่ง” เสียด้วย

[พรรณชมพู]

แบ็งค์ชาติ สะกัดการถล่มค่าเงินบาท โดยกลุ่มทุนสกปรก ที่เคยร่ำรวยจากการกระทำเช่นนี้ จนถึงมีเงินไปตั้งพรรค ทุยรักทุย นั่นไงคะ

เมื่อครั้งพรรคแมลงสาป เปิดเสรีทางการเงิน แล้วรัฐบาลจิ๋วแม้ว เข้ามาบริหารประเทศต่อจากนั้น จิ๋วหรือแม้ว ทำโง่บ้าเซ่อ ปล่อยให้มีการโจมตีค่าเงินบาท แล้วก็รวยกันสะดือปลิ้น แถมด่าพรรคแมลงสาปที่เปิดเสรีทางการเงิน ว่าเป็นต้นเหตุของหายนะ

วันนี้แบ็งค์ชาติ เขาไม่เปิดเสรีแล้ว เขาควบคุม ลิ่วล้อเหลี่ยม ก็ด่าอีกนั่นแหละ เพราะนายมันเสียท่า ปล้นชาติไม่ได้อีก

อย่าไปติดใจสงสัยอะไรเลยค่ะ เขาเล่นเก่งกว่าคุณเยอะ นั่งดูไปเหอะ ฮิตเล่อร์บอกว่า โง่แล้วอยู่เฉยๆ ดีกว่าขยันค่ะ