การประหารชีวิตซัตดัม และสมุนอย่างเฉียบพลัน และเด็ดขาดของรัฐบาลอิรักเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นความต้องการที่จะยุติปัญหาที่จะลุกลามไม่รู้จบที่เกิดจากการยังคงตัวตนของซัตดัมและสมุนคู่ใจอยู่
ถามว่า ยุติธรรมดีไหม?
ตอบได้ยาก และคำตอบก็คงต้องถกเถียงกันไปอีกชาติหนึ่งเลยทีเดียว จะว่ายุติธรรม เพราะเปิดโอกาสให้มีการต่อสู้กันในชั้นศาลแล้วก็ได้ จะว่า ไม่ยุติธรรม เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่เกิดจากการชักใยของสหรัฐ และผู้พิพากษาก็มิได้แต่งตั้งขึ้นมาอย่างชอบธรรมนัก
ถามต่อว่า..ซัตดัมบงการให้เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ชาวชีอ่ะห์จำนวน 148 คน..จริงหรือไม่?
แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วนับสิบปี และหลักฐานก็เบาบางเหลือเกิน เพราะเป็นแค่ปากคำของพยานที่รอดชีวิตเสียเป็นส่วนใหญ่ ..
ซัตดัมก็มิได้ยืนสั่งการให้เห็นโทนโท่สักหน่อย แต่ก็เป็นรู้ๆ กันอยู่ว่า ถ้าไม่มีจอมบงการสั่งการ การสังหารหมู่จำนวนมากเช่นนี้ (ความจริงนี่แค่คดีเดียว ยังมีอีกหลายคดี รวมแล้วนับหมื่นคน) คงเกิดขึ้นไม่ได้หรอกครับ กอปรกับพฤติกรรมของซัตดัมในรอบหลายสิบปีที่ชาวโลกรู้จักก็ไม่ค่อยเข้าข้างซัตดัมสักเท่าไร เพราะแม้แต่ลูกเขยที่แปรพักตร์ยังไม่ละเว้น
ความจริงถ้าจะฆ่าซัตดัมให้ตาย เป็นเรื่องขี้ประติ๋วไม่ต้องมาเสียเวลาไต่สวนให้เห็นแววตาและลีลาในจอทีวีจนชาวโลกและชาวสุหนี่มีความคาดหวังกันเล็กๆ ว่า ผู้นำอิรัก อาจรอดชีวิตและกลับมากู้ซากประเทศได้อีกครั้ง
ตอนที่จับตัวได้ ซัตดัมอยู่ในหลุมหลบภัยใต้ดิน ตอนนั้นทหารอเมริกันหย่อนระเบิดลงไปในหลุมตูมเดียวก็ไม่น่าจะเหลือแล้ว ในสมรภูมิสู้รบ ตายในสนามรบมันอ้างได้ทุกสภาวะการณ์ เพราะซัตดัมก็มีปืนพกอยู่ในหลุมหลบภัยนั้นด้วย รวมทั้งหนวดเครารุงรังจนจำแทบไม่ได้ การยิงให้ตายโดยอ้างว่า ไม่รู้ว่าเป็นซัตดัมและมีการต่อสู้ขัดขืน คงไม่มีใครติดใจนักหรอก
แต่การนำตัวมากักขัง ให้เขาได้แสดงอารมณ์ ได้แสดงลีลาวาทีแบบตัวเป็นๆ มาตั้งปี ก่อนจะนำไปแขวนคอ มันทารุณจิตใจของผู้ที่สนับสนุนซัตดัมและชาวโลกที่ขวัญอ่อนปวกเปียกเป็นอย่างยิ่ง
ถ้ารัฐบาลอิรักบ้าจี้ตามกระแสชาวโลก และชาวอิรักบางส่วน ให้แสดงประชามติว่า สมควรประหารชีวิตหรือไม่ ชาตินี้ก็ไม่มีวันได้เห็นการแขวนคอหรอกครับ แต่ที่จะตายกันอีกเป็นเบือ ก็คือ สองฝ่ายที่ทะเลาะกันเองต่างหากว่า ซัตดัมควรได้รับโทษตายหรือไม่
ขนาดซัตดัมอยู่ในคุกนะครับนั่น..เคลื่อนไหวอยู่ในห้องแคบๆ ไม่มีโทรศัพท์ ข้างนอกยังวุ่นวานกันไม่รู้จบ
แล้วทักษิณอยู่ข้างนอกประเทศ มีเงินมีทองใช้เหลือเฟือ มีโทรศัพท์มือถือ มีอภิสิทธิ์ทางการฑูต มีอิสระเสรีในโลกกว้างทั้งใบ ยกเว้นแค่พื้นที่รูปขวานของประเทศไทยเท่านั้นที่เขาเข้ามาไม่ได้ จะไปห้ามให้เขาไม่พูด ไม่แสดงบทบาททางการเมือง ไม่เคลื่อนไหวใดๆ อันเป็นคุณประโยชน์แก่ตัวเองให้พ้นจากความผิด
คงเป็นไปไม่ได้หรอกครับปากก็บอกว่า ยอมแพ้แล้ว ถอดใจแล้ว เลิกแล้ว แต่เดินทางไปแต่ละที่ เข้าถึงตัวระดับผู้นำประเทศนั้นๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งยังให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์CNN ซึ่งแพร่ภาพไปทั่วโลก
อีกหน่อยก็อาจไปให้สัมภาษณ์แบบเดียวกัที่ BBC สำนักข่าวซินหัว และนิตยสารไทม์ได้เช่นกัน
แล้วในยุติบทบาททางไหน? อย่างไรมิทราบ?
คมช.และรัฐบาลหน่อมแน้มก็ตาปริบๆ ไปเรื่อยๆ มีอำนาจ มีเขี้ยวเล็บ แต่ใช้ไม่เป็น เหมือนสิงโต ที่อ้าปากออกมาเห็นเหล็กดัดฟันสีชมพู เล็บเท้าทั้งสี่ทาสีแดงแปร๊ด ขนบนหัวถักเปียหางยาวไว้อย่างเรียบร้อย
ดูยังไงๆ ก็น่ารักครับ ไม่ดุหรอก อยากบอกพวกท่านเหลือเกินว่า อย่าได้สร้างภาพคนดีจนเกินเลยไปดีกว่าครับ แม้จะได้รัฐธรรมนูฯไฉไลอย่างไร พวกท่านก็เป็นคนทำลายประชาธิปไตยมากับมือ
แต่งตั้งรัฐบาลและคณะสสร.โดยใช้อำนาจทางการทหารทั้งสิ้นไม่มีคนยกย่องท่านอย่างแท้จริงหรอกครับ เหมือนเสื้อผ้าที่ท่านตัดจนขาดออกเป็นวิ่นๆ เสร็จแล้วท่านก็ชุนและปะด้วยมือของท่านเอง แล้วบอกให้ทุกคนลืมเรื่องที่ท่านตัดเสื้อขาดเสีย ให้มองดูเสื้อผ้าที่ท่านเย็บขึ้นมาใหม่ก็พอ แม้จะมีรอยปุปะทั้งตัวก็อย่าไปสนใจ
กลับมาเรื่อง..การประหารชีวิต อีกที
เช่นเดียวกับซัตดัม ถามว่า ทักษิณมีสิทธิ์โดนลงโทษถึงตายหรือไม่?
ตอบได้ว่า..มีครับ ถ้าขุดเรื่องบงการสั่งฆ่าผู้บริสุทธิ์(จำนวนหนึ่ง) ในสงครามปราบปรามยาเสพติดมาเป็นข้ออ้าง
กรณีซัตดัมยังตายเพราะ 148 ศพ แต่ของทักษิณนี่อาจถึงหลัก 1000 ศพ แถมหลักฐานก็ยังใหม่ๆ เอี่ยมอ่องกว่าซะด้วย
เพียงแต่..ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะต้องโดนจบชีวิตไปด้วย ตอนนี้ดันเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ..นี่สิปัญหาหนักที่จะต้องคิดให้จงหนัก
ถ้าถามผมว่า..คมช.กล้าไหม?
ตอบได้เลยว่า ไม่กล้า เพราะถ้ากล้าคงทำเรื่องง่ายกว่านี้ไปนานแล้ว โดยการปลดออกจากตำแหน่งตั้งแต่ทีแรก
แต่ถ้าถาม*bonny ว่า ถ้าคุณเป็นคมช.ล่ะ..กล้าไหม?ผมตอบง่ายๆ เลยครับว่า
เตรียมนิมนต์หลวงพ่อมาสวดได้เลยเฮ้ย..!! ผมโหดร้ายเพียงนั้นเชียวหรือ?
ผมมีเหตุผลดังนี้ครับ..(ขอสวมวิญญาณคมช.หน่อย)
1) ยังไงๆ ผมก็ไม่มีทางเป็นคนดีในสายตาของทุกคนในประเทศและทั่วโลกได้อยู่แล้ว แม้จะทำดีเพียงไร มีใจรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์เพียงไร ผมก็เลวทรามต่ำช้าที่สุดในสายตาของคลื่นใต้น้ำอยู่วันยังค่ำ
พูดง่ายๆ ว่า
ชาตินี้ทั้งชาติ ผมไม่มีวันเป็นนักประชาธิปไตยได้อีกแล้ว2) ตัดหญ้าไม่ถอนรากถอนโคน ก็เป็นอย่างที่ปรากฏนี่แหละ ทำไปทำมา สถานการณ์กลับสับสนไปเรื่อยๆ จนคุมไว้ไม่อยู่ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ทั้งข่าวลือ ข่าวจริง ระบิดจริง ระเบิดปลอม ทั้งหลายทั้งปวงล้วนมาจากการตัดหญ้าไม่ถอนรากของผมทั้งสิ้น
แม้แต่นายกเองยังบอกให้ประชาชนทำใจได้เลย ..ยังต้องเจอแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ขนาดนายกยังพูดแบบนี้ ตัวใครตัวมันเถอะครับ
3) บ้านเมืองนี้ต้องการคนดี บริสุทธิ์ผุดผ่องเข้ามาบริหารประเทศจริงหรือ? ต้องกลับไปคิดให้จงหนักนะครับ คำก็ คนดี..คำก็ มีคุณธรรม คำก็ มีจริยธรรม ขอให้ท่านทั้งหลายนิมนต์หลวงพ่อปัญญามาเป็นนายกดีกว่าครับ และให้ครม.มาจากสายของพระในศาสนาทุกนิกายดีกว่าครับ
ผมถามง่ายๆ ว่า ..คนเลวมันอยากเข้าวัดทุกคนหรือเปล่า? อย่าลืมว่า ประเทศไทย คนเข้าวัดมีน้อยกว่าคนไม่เข้าวัดปฏิบัติธรรมนะครับ
ถามง่ายๆ อีกว่า..ถ้าในในชั้นเรียนมีเด็ก 60 คน ทุกคนเป็นเด็กดีหมดหรือเปล่า? ก็เปล่าแน่นอน ยังไงๆ ก็ต้องมีเด็กเกเรอย่างแน่นอน แม้จะไม่ถึง 10 คน แต่เชื่อไหมครับว่า สามารถทำให้นักเรียนอีก 50 กว่าคนที่เหลือปั่นป่วน ไมเป็นอันกินอันเรียนได้ นี่คือ อิทธิพลของคนเลว ที่ยังไงก็มีความรุนแรงกว่าการทำความดีของเด็กดี แล้วผมเป็นครู มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการควบคุมความประพฤตินักเรียนทั้งหมด ผมออกกฎให้ เด็กเกเรพกปืนพกมีดมาโรงเรียนได้ แต่ห้ามไม่ให้ใช้นะ ถ้าใช้..ครูจะลงโทษด้วยการให้ไปยืนกางแขนหน้าเสาธงหนึ่งชั่วโมง..อิ อิ..
มันกลัวตายละ
อาวุธของเด็กเกเรในที่นี้ ก็คือ เงินจำนวนมหาศาลที่ปล่อยให้พกพากันได้อย่างสบายใจนั่นเอง จับได้เมื่อไรก็ปฏิเสธไปเรื่อย ไม่ใช่ของผมๆ
ระเบียบง่ายๆ ก็ริบมันไว้ที่กองอำนวยการซะก็สิ้นเรื่อง ดูซิว่า จะแผลงฤทธิ์ออกไหม? แต่ไม่ทำ
4) การตั้งธงว่า จะประหารอาจไม่จำเป็นต้องประหารก็ได้
เพราะหากโทษหนักๆ อย่างนี้ถูกหยิบขึ้นมาตั้งไว้เป็นโจทย์ รับรองว่า คลื่นใต้น้ำสงบลงในทันที ตัวทักษิณเองก็คงคิดแล้วคิดอีก ถ้าตนเองตายไป ลูกเมียกลายเป็นม่ายกลายเป็นกำพร้าไปหมด คุ้มที่จะเสี่ยงหรือไม่?
ถ้ามีการพิจารณาคดีเรื่องบงการสังหารกันเมื่อไร ผมรับรองว่า ไม่ว่าตัวจะอยู่ประเทศไหน? มีเงินมากเท่าไร ก็ไม่มีวันนอนหลับสนิท ต้องสะดุ้งตื่นและฝันร้ายเป็นระยะไป
แต่ความผิดที่ไม่อาจลบล้างได้นั้น ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ผิดก็ว่าผิด ถ้าต้องประหารชีวิตก็ต้องไม่กลัวว่า จะนองเลือด นองน้ำตา
นายทักษิณเองก็เคยประกาศก้องต่อหน้าสาธารณชนแล้วไม่ใช่หรือว่า..
"ไม่เคยกลัวตาย คนเราเกิดหนเดียว ตายหนเดียว" เชื่อว่า ทุกคนคงจำได้ (แต่ทักษิณอาจจำไม่ได้แล้ว อิ อิ
)
......................................................
หมายเหตุ..
1..ผมไม่ได้อยากประหารนายทักษิณ แนวคิดเรื่องโทษประหารเป็นแค่แนวคิดว่า ต้องมีการลงโทษรุนแรง แต่จะสถานไหนเป็นเรื่องของคมช.และคณะทำงานจะไปคิดกัน
แต่ถ้าคมช.ต้องการสยบคลื่นใต้น้ำ และการเคลื่อนไหวในทางการเมืองอื่นๆ ของนายทักษิณ ต้องไม่ใช่วิธี.. ซื้อถังขยะขาวใส ปล่อยให้มีการด่าองคมนตรี ด่าคมช.และรัฐบาลทุกวันผ่านเว็บบอร์ดสาธารณะ เอากำลังทหารทุกหน่วยไปไล่จับ ตามดมกลิ่นควันระเบิด และควันไฟอย่างเช่นทุกวันนี้
อย่าไปสมานฉันท์ เพราะเขาไม่ได้ต้องการสมานฉันท์กับพวกท่านหรอก
วิธีเดียวที่จะจัดการกับปัญหาคือ
แทนที่จะปล่อยให้ประชาชนทั้งประเทศตกอยู่ในความหวาดผวา ก็ผลัก ความหวาดผวาให้กลับไปสู่ผู้ที่กระทำการ แนวคิดง่ายๆ แค่นี้เองครับ
2..ถ้าทำก็ต้องให้มัน..สั้น..กระชับ..จบลงอย่างรวดเร็วที่สุดเหมือนกระพริบตา อย่าไปตั้งคำถามให้สังคมตอบ เสร็จแล้วแยกย้ายกันไปทำบุญ กรวดน้ำซะ