ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-03-2024, 23:18
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  The Coming Collapse of Thailand (ดร.ไสว บุญมา)...ทำนายวิกฤตศ.ก.ปี 51 (ยูเรสโตร) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
The Coming Collapse of Thailand (ดร.ไสว บุญมา)...ทำนายวิกฤตศ.ก.ปี 51 (ยูเรสโตร)  (อ่าน 1756 ครั้ง)
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 13-01-2007, 20:59 »

สู่จุดจบ: The Coming Collapse of Thailand ออกมาตั้งแต่กลางปี 2549
โดย ดร.ไสว บุญมา



บทนำสู่จุดจบ...

ภาค 1 – บทเรียนจากประวัติศาสตร์

1. ความก้าวหน้ากับความล้าหลัง ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังตั้งแต่เริ่มต้น
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่างทางการเกษตร
ปัจจัยที่ทำให้ฝรั่งพัฒนาแซงหน้าจีน
ญี่ปุ่น - ผู้ทำลายการผูกขาดของฝรั่ง
เกาหลี – ผู้พัฒนามาจากกองขี้เถ้า

2. ความล่มสลายกับความอยู่รอด
ความล่มสลายของอาณาจักรมายาและเผ่าอานาซาซี
จากอาณาจักมายาถึงรวันดา
ญี่ปุ่นสมัยโตกุกาวาและความก้าวหน้าซึ่งดูล้าหลังของนิวกินี
โศกนาฏกรรมบนเกาะทะเลใต้

3. ฝรั่งกับการสร้างโลกยุคไร้พรมแดน
ฝรั่งกับการก่อตั้งประเทศใหม่
ฝรั่งกับการสร้างกระแสคลื่น
สงครามโลกครั้งที่ 3 และสงครามเย็นครั้งที่ 1
โลกาภิวัตน์กับมหาอำนาจทั้ง 7

4. ละตินอเมริกากับการพัฒนาตามกระแสหลัก


ภาค 2 – ทางสู่จุดจบของไทย

5. จากมุมมองของความก้าวหน้ากับความล้าหลัง
จากคลื่นลูกที่ 1 ถึงคลื่นลูกที่ 2
การพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวคิดกระแสหลัก

6. การอยู่อย่างผู้ทำลาย
ป่ากับการพัฒนาเศรษฐกิจ
จำนวนคน งานและการบริโภค
สิ่งแวดล้อมในยุคเอาใจนายทุน

7. การอยู่กับผู้มีอำนาจ
การล่าอาณานิคมยุคโลกไร้พรมแดน
การพัฒนากับการค้าขาย
เมืองไทยกับนโยบายตะเกียบ 2 ขา

8. การอยู่อย่างผู้ยึดความร่ำรวยเป็นธรรม
การปันผลของการพัฒนา
มรดกตกทอดของชาวอีสาน
สงครามปราบความยากจน
รัฐมนตรี ความมั่งมีและภาษีมรดก

9. การอยู่อย่างผู้ขาดรากแก้ว
การผลัดใบของสังคมไทยหลังปี 2540
ตะเกียบขาที่ 2 กับกองหนี้
การพัฒนาตามประสากบ

บทสรุป



คำทำนายวิกฤติเศรษฐกิจปี 2551 โดย "ยูเรสโตร" ลงในนสพ.กรุงเทพธุรกิจ ตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2549
"ยูเรสโตร" เป็นใคร อ่านดูประวัติที่นี่

หากพิจารณามุมเล็งของพลูโตจรกับมฤตยูในปี 2550 – 2551 เปรียบเทียบกับมุมอินคอนจั๊งต์ของเนปจูนจรกับมฤตยูในปี 2540 การทำมุมตรั้งต่อไปจะแรงกว่า ทั้งในแง่ที่มุมเล็งแรงกว่ามุมอินคอนจั๊งต์และพลูโตโคจรช้ากว่าเนปจูน

อย่างไรก็ตาม ทั้งมฤตยูจรและเนปจูนจรไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักก่อนเกิดวิกฤตการณ์ในปี 2551 ไม่เหมือนกรณีของปี 2540 มีเพียงเสาร์จรที่ป้วนเปี้ยนและทำมุมท้าทายหรืออินคอนจั๊งต์กับพุธหลายรอบก่อนวิกฤตการณ์ในปี 2551 ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากระยะเวลาก่อนปี 2540 ที่เสาร์โคจรป้วนเปี้ยนและกุมพุธหลายรอบ

สิ่งซึ่งควรระวัง คือ ช่วงระยะเวลาตกต่ำของเศรษฐกิจไทยในอนาคตอาจยาวไม่แพ้ของปี 2540 เพราะนอกจากพลูโตจรจะกุมพฤหัสและเล็งมฤตยูแนบแน่นในปี 2550 – 2551 แล้ว มันยังทำมุมต่อเนื่องกับดาวดวงอื่น ประกอยด้วยมุมกุมเสาร์แนบแน่นในปี 2551-2552 ตามด้วยมุมตั้งฉากแนบแน่นกับพุธในปี 2553 – 2554

นอกจากนี้ มฤตยูจรจะกุมศุกร์แนบแน่นในปี 2552 – 2553 ส่วนเสาร์จรจะมนต์ (stationary) และเล็งศุกร์ในช่วงต้นของปี 2552 ตามด้วยการมนต์และเล็งพุธแนบแน่นตอนปลายปี 2552 - ช่วงต้นของปี 2553 โชคยังดีที่พฤหัสจรจะเข้ากุมมิดเฮเว่น (Midheaven หรือ MC) และย้ายเข้าเรือนชะตาที่ 10 ตั้งแต่ประมาณต้นปี 2552 ซึ่งจะช่วยรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหรือพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำมากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม เสาร์ยังโคจรในเรือนชะตาที่ 5 ไปจนถึงเดือนตุลาคม 2553 จึงคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นได้โดยเร็วไม่ได้

ถึงอย่างไรเสีย รัฐบาลในสมัยนั้นก็ไม่ควรประมาท ควรเตรียมรับสถานการณ์ให้ดี เพราะวิกฤตการณ์เศรษฐกิจมีโอกาสอยู่กับเรานาน หากผู้นำประเทศไม่ใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา หรือการเมืองในตอนนั้นขาดเสถียรภาพ


ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3


แปลว่า คนที่อยู่เมืองนอกไม่มีทางกลับมาให้โดนด่า เรื่องอะไรจะโง่ นั่งดูคนตีกันดีกว่า แถมยังสามารถทำกำไรได้ด้วย ระหว่างนั้นก็ทำการตลาดไปเรื่อยๆ รักษา awareness เอาไว้ไม่ให้คนลืม brand  ปล่อยให้ถึงจุดต่ำสุดก่อน หากความวุ่นวายเกิดเร็วก็จะถึงจุดต่ำสุดเร็วขึ้น แล้วค่อยกลับมา จะมีกระบือถูกหลอกได้อีกว่ากลับมากอบกู้เศรษฐกิจ

ให้ช่วยกันจดจำนะครับว่า มีคนทำนายไว้ล่วงหน้านานมากแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2007, 21:08 โดย タイの真実 » บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #1 เมื่อ: 16-01-2007, 17:18 »

ขอบคุณมากค่ะ เพิ่งจะลองคลิกตามไปอ่านดู รวมทั้งบทความย้อนหลังของผู้เขียน ดร.ไสว บุญมา บ้างแล้ว

http://www.nidambe11.net/ekonomiz/index_sawai.htm

เยี่ยมมากค่ะ 

ขออนุญาตตัดบางตอนที่ ดร.ไสว บุญมาวิพากย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 และพิสูจน์ให้เห็นว่าที่ท่านคาดการณ์ไว้นั้นเป็นจริง

ผมเชื่อว่าพรรคไทยรักไทยจะได้เสียงข้างมากในสภาในสมัยหน้าอย่างแน่นอน แต่หากพรรคขนาดกลางไม่ยุบไปร่วมด้วยอย่างขาดยางอายเหมือนบางพรรคในอดีต พรรคไทยรักไทยคงไม่ได้ที่นั่งถึง 400 แน่ละ หากหลายพรรคยุบไปร่วม โอกาสที่พรรคไทยรักไทยจะได้ 400 ที่นั่งมีอยู่สูง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีอำนาจล้นฟ้าและอาจพาชาติไทยไปสู่ความหายนะในระยะยาว เพราะเท่าที่ผ่านมาคณะผู้นำในรัฐบาลนี้ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีคุณธรรมเหนือกว่า ประธานาธิบดีบุชและคณะ หรือผู้มีอำนาจเผด็จการของไทยในอดีต ฉะนั้นการบ้านสำหรับคนไทย เศรษฐีผู้มีความรักชาติและสมาชิกพรรคการเมืองขนาดกลางจึงเป็นว่า  ถ้าท่านมัวแต่ดูดายหรือมีส่วนทำให้พรรคไทยรักไทยได้ถึง 400 ที่นั่งในสภา วันหนึ่งข้างหน้าท่านอาจเห็นผู้มีอำนาจบางคนปัสสาวะรดชาวไทยในทำนองเดียวกันกับที่ทหารอเมริกันปัสสาวะรดชาวอิรัก และท่านอาจจะมีส่วนพาชาติไทยไปสู่ความหายนะอย่างคาดไม่ถึง

http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2004q2/article2004may14p5.htm

ในช่วงเวลา 4 ปีมานี้ นายกรัฐมนตรีมักมีหนังสือติดมือมาแนะนำให้คนไทยอ่าน แต่ไม่เคยแนะนำหนังสือสำคัญเล่มหนึ่งชื่อ How to Lie with Statistics ซึ่งคงแปลว่า "จะโกหกอย่างไร โดยใช้วิชาสถิติ" เขียนโดย Darrell Huff ถ้าจะให้เดา นายกรัฐมนตรีจะไม่แนะนำหนังสือเล่มนี้ เพราะมันจะทำให้ผู้อ่านรู้ทัน ซึ่งก็คงไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลนัก

http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2004q4/article2004dec24p5.htm


ฯลฯ

    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2007, 17:28 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 23-11-2007, 20:04 »

ขอขุดขึ้นมาให้เอาไปอ่านกันเต็มๆตา สำหรับใครที่ยังโดนสวมเขาให้เชื่อว่า "เลือกตั้งคือทางออก" "คนดีไม่ขายเสียง" น่าตลก

ยิ่งใกล้เวลา สถานการณ์ยิ่งชัด


คาดฟองสบู่ใกล้แตก เศรษฐกิจถดถอยแน่ แนะจับตาเม.ย.ปีหน้า! สงครามมี-น้ำมันพุ่ง

Wednesday, 21 November 2007

“เอกยุทธ” ส่งสัญญาณ “ศก.ถดถอย-ฟองสบู่ใกล้แตก” ทั่วโลกกระทบแน่ แนะรอดูเดือนเม.ย.ปีหน้า หากพี่ใหญ่เมืองลุงแซม เปิดศึกทำสงครามกับอิหร่านจริง คงเดือดร้อนกันหนักแน่ ขณะที่ตลาดหุ้นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน คาดรอบนี้คงหล่นไปเล่นที่ 740-760 จุด

วันที่ 21 พ.ย. 2550 นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานบริหารเครือโอเรียนเต็ล มาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องค่อนข้างสูง ทั้งจากผลกระทบของประเทศจีน และความกังวลของนักลงทุนในอเมริกาและยุโรป ที่ขณะนี้ยอมรับแล้วว่า ผลกระทบจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีกหลายปี ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดคาดใดๆ เพียงแต่ว่าความเสียหายมันมาช้าเกินไปหน่อย แต่ขณะนี้กำลังเข้าสู่เศรษฐกิจตกต่ำ หรือฟองสบู่แตกค่อนข้างแน่ เพราะความเสียหายจากธนาคารหรือกองทุนต่างๆ ที่เข้าไปซื้อซับไพร์ม พวกนี้จะได้รับความเสียหายมาก ปัญหาใหญ่อีกประการคือ เรื่องราคาน้ำมันและความกังวลกับสงครามที่อาจเกิดขึ้น เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่ ประมาณเดือนเม.ย. 2551 อาจมีการรบกันระหว่างอเมริกากับอิหร่าน ขอให้จับตาอย่างใกล้ชิด และหากมีจริง จะทำให้กระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างหนัก

ตลาดหุ้นที่ประเมินจากประสบการณ์ ดูแล้วมาถึงจุดที่ดัชนีค่อนข้างต่ำ จากรอบที่แล้วเคยบอกให้ดูที่ 860 จุดให้เข้าไปซื้อไว้บ้าง ต่อมาจุดที่ 2 คือ 820 จุด แต่ ณ วันนี้มีทีท่าว่าจะรับที่ 800 จุดไม่ได้ เชื่อว่าจากปัจจัยต่างๆ ดัชนีหุ้นก็คงจะลงไปอีก ยกเว้นแต่จะมีข่าวดีจริงๆ ตลาดถึงจะตีกลับมาได้ ขณะนี้ให้มองที่จุด 760 จุด รอบนี้หากลงทะลุ 800 ลงไปเมื่อไหร่ จะลงไปเล่นที่ 740-760 จุด และกลุ่มที่คิดว่าจะซื้อได้ ก็คงเป็นกลุ่มพลังงานอย่างเดียว แต่แนะนำว่าอย่าซื้อขณะหุ้นกำลังขึ้น เพราะโอกาสที่ลงไปเล่นต่ำกว่า 800 จุดมีสูง

“ส่วนหุ้นปันผลชาติหน้า ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงเลย โดยเฉพาะหุ้นนักการเมืองที่เชียร์กันเหลือเกิน ก็ขอแนะนำให้ถือเงินสดดีกว่า หากคิดจะเล่นก็ให้เล่นกลุ่มพลังงานดีกว่า เพราะมีการเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันตลาดโลก แต่หากจะเล่นหุ้นตัวเล็กจริงๆ ก็ควรดูตัวที่ยังไม่วิ่ง”นายเอกยุทธกล่าว

ส่วนกรณีนายปิยสวัสดิ์ ปิยสวัสดิ์ รมว.พลังงาน ออกมาระบุว่า น้ำมันจะขึ้นถึง 200 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.อุตสาหกรรม กลับออกมาบอกว่า เป็นไปไม่ได้ ซึ่งตนอยากเรียนว่า ความเป็นไปได้ของราคาน้ำมันที่จะถึง 200 เหรียญนั้น มีความเป็นไปได้ หากเกิดสงครามก็จะทำให้น้ำมันหายไปจากตลาดโลกส่วนหนึ่ง และให้เตรียมตัวได้เลยว่า เมื่อถึงเวลานั้น ราคาสินค้าจะสูงและเศรษฐกิจจะตกต่ำหนักแน่

“เชื่อว่าผู้ประกอบการก็คงทราบดีว่า เศรษฐกิจขณะนี้แย่อยู่แล้ว ประเมินว่าจีดีพีจะอยู่ที่ 2.8-3.5 แต่ไม่มีทางสูงอย่างที่หน่วยงานรัฐออกมาพูด และกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จริงๆ คือ กลุ่มที่ใกล้ชิดกับศูนย์อำนาจ อาทิ บริษัทส่งออกใหญ่ๆ ที่ได้รับผลประโยชน์จากสิทธิเรื่องภาษี นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการเมืองไทยที่ยังไม่มีแนวโน้มจะดี และได้รับการยอมรับ เพราะหากปัญหาเศรษฐกิจโลกมากระทบ บวกกับการเมืองยังน้ำเน่า ประเทศก็จะตกไปสู่ยุคถดถอยแน่ๆ แม้จะหวังว่าไม่อยากให้เกิด แต่โอกาสมีความเป็นไปได้สูง”นายเอกยุทธกล่าว

http://thaiinsider.info/portal/content/view/4777/21/
บันทึกการเข้า

ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 23-11-2007, 21:46 »

โลกเรามันไม่น่าอยู่ขึ้นทุกวัน คนหากินลำบาก ความพอเพียงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


หน้า: [1]
    กระโดดไป: