ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
23-11-2024, 19:44
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ร้อยรักษ์กวีวรรณ  |  มาลัยกลอนกานต์/หลวงปู่ฝากไว้ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
มาลัยกลอนกานต์/หลวงปู่ฝากไว้  (อ่าน 16011 ครั้ง)
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« เมื่อ: 13-01-2007, 15:48 »

ธรรมะปฏิสันถาร

เมื่อวันที่  ๑๘  ธันวาคม  พุทธศักราช  ๒๕๒๒  พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  เสด็จเยี่ยมหลวงปู่เป็นการส่วนพระองค์
เมื่อทั้งสองพระองค์ทรงถามถึงสุขภาพอนามัยและการอยู่สำราญแห่งอิริยาบถของหลวงปู่
ตลอดถึงทรงสนทนาธรรมกับหลวงปู่  พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ทรงมีพระราชปุจฉาว่า

"หลวงปู่  การละกิเลสนั้น  ควรละกิเลสอะไรก่อน" ฯ

"กิเลสทั้งหมดเกิดรวมอยู่ที่จิต  ให้เพ่งมองดูที่จิต  อันไหนเกิดก่อน  ให้ละอันนั้นก่อน"

หน้า ๑
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:28 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #1 เมื่อ: 13-01-2007, 16:22 »

หลวงปู่ไม่ฝืนสังขาร

ทุกครั้งที่ล้นเกล้าฯ  ทั้งสองพระองค์เสด็จเยี่ยมหลวงปู่  หลังจากเสร็จพระราชกรณียกิจในการเยี่ยมแล้ว
เมื่อจะเสด็จกลับ  ทรงมีพระดำรัสคำสุดท้ายว่า  " อาราธนาหลวงปู่ดำรงขันธ์อยู่เกินร้อยปี
เพื่อเป็นที่เคารพนับถือของปวงชนทั่วไป  หลวงปู่รับได้ไหม" ฯ

ทั้ง ๆ ที่พระราชดำรัสนี้เป็นสัมมาวจีกรรม  ทรงประทานพรแก่หลวงปู่โดยพระราชอัธยาศัย
หลวงปู่ก็ไม่กล้ารับ  และไม่อาจฝืนสังขาร  จึงถวายพระพรว่า

"อาตมาภาพรับไม่ได้หรอก  แล้วแต่สังขารเขาจะเป็นไปของเขาเอง"

หน้า ๒


 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:29 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #2 เมื่อ: 13-01-2007, 20:15 »

ปรารภธรรมะเรื่องอริยสัจสี่

พระเถระฝ่ายกัมมัฏฐานเข้าถวายสักการะหลวงปู่ในวันเข้าพรรษาปี  ๒๔๙๙
หลังฟังโอวาทและข้อธรรมะอันลึกซึ้งข้ออื่น ๆ แล้ว
หลวงปู่สรุปใจความอริยสัจสี่ให้ฟังว่า

" จิตที่ส่งออกไปนอก............เป็นสมุทัย

ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก.......เป็นทุกข์

จิตเห็นจิต........................เป็นมรรค

ผลอันเกิดจากจิตเห้นจิต................เป็นนิโรธ "


หลวงปู่ฝากไว้  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์)  หน้า  ๓

สิ่งที่อยู่เหนือคำพูด

อุบาสกผู้คงแก่เรียนคนหนึ่ง   สนทนากับหลวงปู่ว่า
"กระผมเชื่อว่า  แม้ในปัจจุบันพระผู้ปฏิบัติถึงขั้นได้บรรลุมรรคผลนิพพานก็คงมีอยู่ไม่น้อย
เหตุใดท่านเหล่านั้นจึงไม่แสดงตนให้ปรากฏ  เพื่อให้ผู้สนใจปฏิบัติทราบว่า
ท่านได้บรรลุถึงคุณธรรม  นั้น ๆ แล้ว   เขาจะได้มีกำลังใจและมีความหวัง
เพื่อเป็นพลังเร่งความเพียรในทางปฏิบัติให้เต็มที่" ฯ

หลวงปู่กล่าวว่า

"ผู้ที่เขาตรัสรู้แล้ว   เขาไม่พูดว่าเขารู้แล้วซึ่งอะไร เพราะสิ่งนั้นมันอยู่เหนือคำพูดทั้งหมด"

หน้า  ๔

หลวงปู่เตือนพระผู้ประมาท

ภิกษุผู้อยู่ด้วยความประมาท  คอยนับจำนวนศีลของตนแต่ในตำรา
คือ มีความพอใจภูมิใจกับจำนวนศีลที่มีอยู่ในคัมภีร์ว่าตนนั้น มีศีลถึง  ๒๒๗ ฯ

"ส่วนที่ตั้งใจปฏิบัติให้ได้นั้น จะมีสักกี่ข้อ"

หน้า ๕

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2007, 20:59 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #3 เมื่อ: 13-01-2007, 23:37 »

จริง  แต่ไม่จริง

ผู้ปฏิบัติกรรมฐาน  ทำสมาธิภาวนา   เมื่อปรากฏผลออกมาในแบบต่าง ๆ
ย่อมเกิดความสงสัยขึ้นเป็นธรรมดา  เช่น  เห็นนิมิตในรูปแบบที่ไม่ตรงกันบ้าง
ปรากฏในอวัยวะร่างกายของตนเองบ้าง  ส่วนมากมากราบเรียนหลวงปู่เพื่อให้ช่วยแก้ไข
หรือแนะอุบายปฏิบัติต่อไปอีก  มีจำนวนมากที่ถามว่า  ภาวนาแล้วก็เห็นนรก  สวรรค์ 
วิมานเทวดา   หรือไม่ก็เป็นองค์พุทธรูปปรากฏอยู่ในตัวเรา  สิ่งที่เห็นเหล่านี้เป็นจริงหรือ ฯ

หลวงปู่บอกว่า  "ที่เห็นนั้น  เขาเห็นจริง  แต่สิ่งที่ถูกเห็น  ไม่จริง "


" หลวงปู่ฝากไว้ " (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์)  หน้า  ๖

แนะวิธีละนิมิต

ถามหลวงปู่ต่อมาอีกว่า  นิมิตทั้งหลายแหล่  หลวงปู่บอกว่า  ยังเป็นของภายนอกทั้งหมด
จะเอามาทำอะไรยังไม่ได้  ถ้าติดอยู่ในนิมิตก็แค่นั้น  ไม่ก้าวต่อไปอีก
จะเป็นด้วยเหตุทีกระผมอยู่ในนิมิตนี้มานานหรืออย่างไร  จึงหลีกไม่พ้น
นั่งภาวนาทีไร  พอจิตจัรวมสงบก็เข้าถึงภาวะนั้นทันที
หลวงปู่โปรดได้แนะวิธีละนิมิตด้วยว่า ทำอย่างไรจึงจะได้ผล ฯ

หลวงปู่พูดว่า

"เออ นิมิตบางอย่างมันก็สนุกดี  น่าเพลิดเพลินอยู่หรอก 
แต่ถ้าติดอยู่แค่นั้น มันก็เสียเวลาเปล่า  วิธีละง่าย ๆ ก็คือ
อย่าไปดูสิ่งที่ถูกเห็นเหล่านั้น  ให้ดูผู้เห็น  แล้วสิ่งที่อยากเห็น  ก็จะหายไปเอง"

หน้า  ๗

เป็นของภายนอก

เมื่อวันที่ ๑๐  ธันวาคม  ๒๕๒๔  หลวงปู่อยู่ในงานประจำปีวัดธรรมมงคล  สุขุมวิท  กรุงเทพฯ
มีแม่ชีพราหมณ์หลายคน  จากวิทยาลัยครู  พากันเข้าไปถาม ทำนองรายงานผล
การปฏิบัติวิปัสสนาให้หลวงปู่ฟังว่า  เขานั่งวิปัสสนาจนจิตสงบแล้ว
เห็นองค์พระพุทธรูปอยู่ในหัวใจของเขา  บางคนว่า  ได้เห็นสวรรค์วิมานของตัวเองบ้าง
บางคนว่าเห็นพระจุฬามณีเจดีย์สถานบ้าง  พร้อมทั้งภูมิใจว่า
เขาวาสนาดี  ทำวิปัสสนาได้สำเร็จ ฯ

หลวงปู่อธิบายว่า

"สิ่งที่ปรากฏเห็นทั้งหมดนั้น  ยังเป็นของภายนอกทั้งสิ้น  จะนำเอามาเป็นสาระที่พึ่งอะไรยังไม่ได้หรอก"

หน้า ๘

หยุดเพื่อรู้

เมื่อเดือนมีนาคม  ๒๕๐๗  มีพระสงฆ์หลายรูป  ทั้งฝ่ายปริยัติและฝ่ายปฏิบัติ
ได้เข้ากราบหลวงปู่เพื่อรับโอวาทและรับฟังการแนะนำแนวทางธรรม
ที่จะพากันออกเผยแพร่ธรรมทูตครั้งแรก
หลวงปู่แนะวิธีอธิบายธรรมะขั้นปรมัตถ์  ทั้งเพื่อสอนผู้อื่นและเพื่อปฏิบัติตนเอง
ให้เข้าถึงสัจจธรรมนั้นด้วย  ลงท้ายกลวงปู่ได้กล่าวปรัชญาธรรมไว้ให้คิดด้วยว่า

"คิดเท่าไร ๆ  ก็ไม่รู้     ต่อเมื่อหยุดคิดจึงได้รู้    แต่ต้องอาศัยความคิดนั่นแหละ  จึงได้รู้ "


" หลวงปู่ฝากไว้ " (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์)  หน้า  ๙
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2007, 21:17 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #4 เมื่อ: 14-01-2007, 15:31 »

มีแต่ไม่แล้ว

ปี  ๒๕๒๒  หลวงปู่ไปพักผ่อน  และเยี่ยมพระอาจารย์สมชายที่วัดเขาสุกิม จังหวัดจันทบุรี
ขณะเดียวกันก็มีพระเถระอาวุโสรูปหนึ่งจากรุงเทพฯ คือ พระธรรมวราลังการ  วัดบุปผาราม
เจ้าคณะภาคทางภาคใต้ไปอยู่ฝึกกัมมัฏฐานเมื่อวัยชราแล้ว 
เพราะมีอายุอ่อนกว่าหลวงปู่เพียงปีเดียว ฯ
เมื่อท่านทราบว่าหลวงปู่เป็นพระฝ่ายกัมมัฏฐานอยู่แล้ว 
ท่านจึงสนใจ และศึกษาถามถึงผลการปฏิบัติ
ทำนองสนทนาธรรมกันเป็นเวลานาน และกล่าวถึงภาระของท่านว่า 
มัวแต่ศึกษาบริหารงานการคณะสงฆ์
มาตลอดวัยชรา  แล้วก็สนทนาข้อกัมมัฏฐานกับหลวงปู่เป็นเวลานาน  ลงท้ายถามหลวงปู่สั้น ๆ ว่า

ท่านยังมีโกรธอยู่ไหม ฯ

หลวงปู่ตอบเร็วว่า  " มี แต่ไมเอา่แล้ว "


" หลวงปู่ฝากไว้ " (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์)  หน้า  ๑๙


รู้ให้พร้อม

ระหว่างที่หลวงปู่อยู่รักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นั้น
มีผู้ไปกราบนมัสการและฟังธรรมเป็นจำนวนมาก
คุณบำรุงศักดิ์  กองสุข  เป็นผู้หนึ่งที่สนใจในการปฏิบัติสมาธิภาวนา
นัยว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสนอง  กตปุญโญ  แห่งวัดสังฆทาน
จังหวัดนนทบุรี  ซึ่งเป็นวัดปฏิบัติที่เคร่งครัดฝ่ายธุดงค์กัมมัฏฐาน
ในยุคปัจจุบัน  ได้ปรารภการปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่  ถึงเรื่องการละกิเลสว่า

"หลวงปู่ครับ  ทำอย่างไรจึงจะตัดความโกรธให้ขาดได้"ฯ

หลวงปู่ตอบว่า  "ไม่มีใครตัดให้ขาดได้หรอก  มีแต่รู้ทัน  เมื่อรู้ทันมันก็ดับไปเอง"



หลวงปู่ฝากไว้  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า  ๒๐


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:33 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #5 เมื่อ: 14-01-2007, 16:08 »

อยากเรียนเก่ง

หนูได้ฟังคุณตาสรศักดิ์  กองสุข  แนะนำว่า  ถ้าใครต้องการเรียนเก่งและฉลาด 
ต้องหัดนั่งภาวนา  ทำสมาธิให้จสงบเสียก่อน
หนูอยากจะเรียนเก่งเรียนฉลาดอย่างเขา  จึงพยายามนั่งภาวนา ทำใจให้สงบ
แต่ใจมันไม่ยอมสงบสักที  บางทีก็ยิ่งทวีความฟุ้งซ่านมากขึ้นก็มี
เมื่อใจไม่สงบเช่นนี้ทำอย่างไรจึงจะเรียนเก่งเจ้าค่ะ ฯ

หลวงปู่ว่า

"เรียนอะไร  ก็ให้มันรู้อันนั้น  เดี๋ยวก็เก่งเองแหละ 
ที่ใจไม่สงบ ก็ให้รู้ว่า  มันไม่สงบ  เพราะอยากสงบ  มันจึงไม่สงบ
ขอให้พยายามภาวนาเรื่อย ๆ ไปเถอะ  สักวันหนึ่งก็จะได้สงบตามต้องการ "


" หลวงปู่ฝากไว้ " (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์)  หน้า  ๖๗
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:28 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #6 เมื่อ: 15-01-2007, 18:34 »

อุทานธรรม

หลวงปู่กล่าวธรรมกถาต่อมาอีกว่า สมบัติพัสถานทั้งหลายมันมีประจำอยู่ในโลกนี้มาแล้วอย่างสมบูรณ์
ผู้ที่ขาดปัญญาและไร้ความสามารถ ก็ไม่อาจจะแสวงหาเพื่อยึดครองสมบัติเหล่านั้นได้
ย่อมครองตนอยู่ด้วยความฝืดเคืองและลำบากขันธ์  ส่วผู้ที่มีปัญญามีความสามารถ
ย่อมแสวงหาทรัพย์สมบัติของโลกไว้ได้อย่างมากมาย  อำนวยความสะดวกสบายแก่ตนได้ทุกกรณี ฯ

ส่วนพระอริยเจ้าทั้งหลายท่านพยายามดำเนินตนเพื่อออกจากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
ไปสู่ภาวะแห่งความไม่มีอะไรเลย  เพราะว่า

"ในทางโลก มี  สิ่งที่ มี  ส่วนในทางธรรม  มี  ิส่งที่  ไม่มี"


อุทานธรรมต่อมา

เมื่อแยกพันธะแห่งความเกี่ยวเนื่องจิตกับสรรพสิ่งทั้งปวงได้แล้ว
จิตก็หมดพันธะกับเรื่องโลก รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส จะดีหรือเลว
มันขึ้นอยู่กับจิตที่ออกไปปรุงแต่งทั้งหมด  แะลจิตที่ขาดปัญญาย่อมเข้าใจผิด
เมื่อเข้าใจผิด ก็หลงอยู่ภายใต้อำนาจของเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย
ทั้งทางกายและทางใจ  อันโทษทัณฑ์ทางกายอาจมีคนอื่นช่วยปลดเปลื้องได้บ้าง
ส่วนโทษทางใจมีกิเลสตัรหาเป็นเครื่องรึงรัดไว้นั้น ต้องรู้จักปลดปล่อยตนด้วยตนเอง ฯ

"พระอริยเจ้าทั้งหลายท่านพ้นแล้วจากโทษทั้งสองทาง ความทุกข์จึงครอบงำไม่ได้"

" หลวงปู่ฝากไว้ " (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์)  หน้า  ๑๔,๑๕
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2008, 08:50 โดย ภูดิน » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #7 เมื่อ: 18-01-2007, 10:14 »

 อุทานธรรมข้อต่อมา

เมื่อบุคคลปลงผม หนวด เคราออกหมดแล้วและได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์เรียบร้อยแล้ว
ก็นับว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความภิกษุได้  แต่ยังเป็นได้แต่เพียงภายนอกเท่านั้น
ต่อเมื่อเขาสามารถปลงสิ่งที่รกรุงรังทางใจ อันได้แก่อารมณ์ตกต่ำทางใจได้แล้ว
ก็ชื่อว่าเป็นภิกษุในภายในได้ ฯ

ศรีษะที่ปลงผมหมดแล้ว สัตว์เลื้อยคลานเล็กน้อย เช่น เหา ย่อมอาศัยอยู่ไม่ได้ฉันใด
จิตที่พ้นอารมณ์ ขาดจากการปรุงแต่งแล้ว ทุกจ์ก็อาศัยอยู่ไม่ได้ฉันนั้น ผู้มีปกติเป็นอยู่อย่างนี้
ควรเรียกเอาว่า  ภิกษุแท้

หน้า ๑๖
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-10-2008, 21:04 โดย ภูดิน » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #8 เมื่อ: 18-01-2007, 11:58 »

อยู่ ก็อยู่ให้เหนือ

ผู้ที่เข้านมัสการหลวงปู่ทุกคนและทุกครั้ง  มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 
แม้หลวงปู่จะมีอายุใกล้ร้อยปีแล้วก็จริง   แต่ดูผิวพรรณยังผ่องใส  และสุขภาพ
อนามัยแข็งแรงดี  แม้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดท่านตลอดมาก็ยากที่จะได้เห็นท่านแสดงอาการหมองคล้ำ 
หรืออิดโรย  หรือหน้านิ่วคิ้วขมวดออกมาให้เห็น  ท่านมีปรกติ
สงบเย็นเบิกบานอยู่เสมอ  มีอาพาธน้อย  มีอารมณ์ดี  ไม่ตื่นเต้นตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ไม่เผลอคล้อยตามคำสรรเสริญหรือคำตำหนิติเตียน ฯ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง  ท่ามกลางพระเถระฝ่ายวิปัสสนา  สนทนาธรรมเรื่องการปฏิบัติกับหลวงปู่ 
ถึงปรกติจิตที่อยู่เหนือความทกุข์โดยลักษณาการอย่างไร ฯ

หลวงปู่ว่า

"การไม่กังวล  การไม่ยึดถือ  นั่นแหละคือวิหารธรรมของนักปฏิบัติ"


" หลวงปู่ฝากไว้ " (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์)  หน้า  ๔๓
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2007, 21:03 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #9 เมื่อ: 23-01-2007, 21:54 »

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2007, 12:34 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #10 เมื่อ: 06-02-2007, 21:09 »

โลกกับธรรม

วันที่ ๑๒  มีนาคม  ๒๕๒๒  หลวงปู่ไปพักผ่อนวิเวกอยู่ที่วัดถ้าศรีแก้ว  ภูพาน  สกลนคร
เป็นเวลา  ๑๐  กว่าวัน  ค่ำวันสุดท้าย  ที่หลวงปู่จะเดินทางกลับ
ท่านอาจารย์สุวัจ  พร้อมพระเณรในวัดเข้าไปกราบหลวงปู่เพื่อการอำลาให้หลวงปู่ ฯ

ท่านกล่าวว่า  พักผ่อนอยู่ที่นี่สบายดี  อากาศก็ดี  ภาวนาที่สบาย  นึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ
เมื่อสมัยเที่ยวธุดงค์  แล้วหลวงปู่ก็กล่าวธรรโมวาทมีความตอนหนึ่งว่า

" สิ่งใดที่สามารถรู้ได้  สิ่งนั้นเป็นของโลก  สิ่งใดไม่มีอะไรจะรู้ได้  สิ่งนั้นคือ ธรรม
โลกมีของคู่อยู่เป็นนิจ  แต่ธรรมเป็นของสิ่งเดียวรวด"


หลวงปู่สอนไว้  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชวุฒาจารย์)หน้า ๗๒

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:32 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #11 เมื่อ: 10-02-2007, 00:45 »

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:32 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #12 เมื่อ: 04-03-2007, 13:23 »

แบบมโนสาเร่ก็เคยตอบ

ปัญหาโลกแตก ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่  ทั้งคนปัญญาดีและปัญญาอ่อน
นำมาถกเถียงกันอย่างไม่เกิดประโยชน์และตกลงกันไม่ได้สักทีว่า
ไก่กับไข่อย่างไหนเกิดก่อนกัน  ซึ่งส่วนมากเป็นการถามตอบเพื่อเถียงกันเล่น
แล้วจบลงไม่ได้  ก็ยังมีผู้นำไปถามโดยคิดว่าหลวงปู่คงไม่ตอบปัญหาแบบนี้
ในที่สุดก็ได้ฟังคำตอบของหลวงปู่อย่างไม่เหมือนใครเลย  คือ วันหนึ่งพระเบิ้ม
เข้าไปปฏิบัตินวดเท้าถวายท่านแล้วถามว่า  หลวงปู่ ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนฯ

หลวงปู่บอกว่า

"เกิดพร้อมกันนั่นแหละ"

จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า ๗๖
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:34 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #13 เมื่อ: 11-03-2007, 14:40 »

ประหยัดคำพูด

คณะปฏิบัติธรรมจากจังหวัดบุรีรัมย์หลายท่าน  มีร้อยตำรวจเอกบุญชัย  สุคนธมัต  อัยการจังหวัด
เป็นหัวหน้า  มากราบหลวงปู่เพื่อฟังข้อปฏิบัติธรรมเนียมและเรียนถามถึงวิธีปฏิบัติยิ่ง ๆ ขึ้นไป 
ซึ่งส่วนมากก็เคยปฏิบัติกับครูบาอาจารย์แต่ละองค์มาแล้ว  และแสดงแนวทางปฏิบัติไม่ค่อยจะตรงกัน
เป็นเหตุให้เกิดความสงสัยยิ่งขึ้น  จึงขอกราบเรียนหลวงปู่ โปรดช่วยแนะแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง
และทำได้ง่ายที่สุด  เพราะหาเวลาปฏิบัติธรรมได้ยาก  หากได้วิธีที่ง่าย ๆ แล้วก็จะเป็นการถูกต้องอย่างยิ่ง ฯ

หลวงปู้บอกว่า

"ให้ดูจิต ที่จิต"

หลวงปู่ฝากไว้  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า  ๒๒

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:35 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #14 เมื่อ: 23-04-2007, 04:43 »

ทั้งหมดอยู่ที่ความประพฤติ

ตลอดชีวิตของหลวงปู่  ท่านไม่เคยยอมรับกับการถือฤกษ์งามยามดีอะไรเลย
แม้จะถูกถามหรือถูกขอให้บอกเพียงว่า จะบวชวันไหน จะสึกวันไหน  หรือวันเดือนปีไหนดี
หรือเสียอย่างไร  หลวงปู่ก็ไม่เคยเผลอเออออด้วย  มักจะพูดว่า 
วันไหนเดือนไหน ก็ดีทั้งนั้นแหละ 
คือ ถ้ามีผู้ขอเช่นนั้น  ท่านมักให้เขาหาเอาเอง  หรือมักบอกว่า
วันไหนก็ได้  ถ้าสะดวกดีแล้ว เป็นฤกษ์ดีทั้งหมด

หลวงปู่สรุปลงว่า

ทุกอย่างรวมอยุ่ที่ความประพฤติ  คือ ฤกษ์ดี  ฤกษ์ร้าย  โชคดี  โชคร้าย 
เรื่องเคราะห์ กรรม  บาป  บุญ  อะไรทั้งหมดนี้
ล้วนออกไปจากความประพฤติของมนุษย์ทั้งสิ้น


จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า ๙๘

***********************************
ผู้ไม่มีโทษทางวาจา

เมื่อวันที่ ๒๑  กุมภาพันธ์  ๒๕๒๖  หลวงปู่กำลังอาพาธหนัก  พักรักษาอยู่ที่ห้องพระราชทาน
ตึกจงกลนี  วัฒนวงศ์  โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  หลวงปู่สาม  อกิญฺจโน  เดินทางไปเยี่ยมหลวงปู่ถึงห้องพยาบาลฯ

ขณะนั้นหลวงปู่กำลังนอนพักผ่อนอยู่  เมื่อหลวงปู่สามขยับไปนั่งใกล้ชิดแล้วก็ยกมือไหว้ 
หลวงปู่ดูลย์ก็ยกมือรับไหว้   แล้วต่างองค์ก็นั่งอยู่เฉยตลอดระยะเวลานาน 
เมื่อสมควรแก่เวลาอย่างยิ่งแล้ว  หลวงปู่สามประนมมืออีกครั้งหนึ่ง
พร้อมกับจำนรรจาว่า "กระผมกลับก่อน" 
หลวงปู่ดูลย์ว่า "อือ"  ตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมง  ได้ยินเพียงแค่นี้เอง ฯ

เมื่อหลวงปู่สามกลับไปแล้ว  อดที่จะถามไม่ได้ว่า 
หลวงปู่สาม  อุตสาห์มานั่งตั้งนาน 
ทำไมหลวงปู่จึงไม่สนทนาพูดอะไรกับท่านบ้างฯ

หลวงปู่ตอบว่า

"ธุระมันหมดแล้ว  จึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไร"


จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า ๓๗

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:35 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #15 เมื่อ: 20-05-2007, 22:49 »

เรื่องกิน

กระผมได้ปฏิบัติทางจิตมานาน  ก็พอมีความสงบอยู่บ้าง
แต่มีปัญหาทางอาหารเมื่อบริโภคเนื้อสัตว์  คือ
เพียงแต่เห็นก็นึกเวทนาไปถึงเจ้าของเนื้อนั้นว่า
เขาต้องสูญเสียชีวิตเพื่อเราผู้บริโภคแท้ ๆ
คล้ายกับว่า เราผู้บริโภคจะขาดเมตตาไปมาก 
เมื่อเกิดความกังวลใจเช่นนี้  ก็ทำความสงบใจให้ยาก ฯ

หลวงปู่ว่า

"ภิกษุจะบริโภคปัจจัยสี่ต้องพิจารณาเสียก่อน   เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า 
การกินเนื้อสัตว์  คล้ายเป็นการเบียดเบียน และขาดเมตตาต่อสัตว์
ก็ให้งดเว้นการฉันเนื้อเสีย   พากันฉันอาหารเจต่อไป "


จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า  ๖๑
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:36 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #16 เมื่อ: 27-05-2007, 12:30 »

รู้จากการเรียนกับรู้จากการปฏิบัติ

ศีล  สมาธิ  ปัญญา   วิมุติ   ที่กระผมจำจากตำราและฟังครูสอนนั้น
จะตรงกับเนื้อหาตามที่หลวงปู่เข้าใจหรือ ฯ

หลวงปู่อธิบายว่า

ศีล คือ  ปรกติจิตที่อยู่อย่างปราศจากโทษ   เป็นจิตที่มีเกราะกำบังป้องกันการกระทำชั่วทุกอย่าง
สมาธิ  ผลสืบเนื่องมาจากการรักษาศีล  คือ  จิตที่มีความมั่นคง  มีความสงบเป็นพลังที่จะส่งต่อไปอีก
ปัญญา  ผู้รู้  คือ จิตที่ว่าง  เบาสบาย  รู้แจ้งแทงตลอดตามความเป็นจริงอย่างไร ฯ
วิมุติ  คือ  จิตที่เข้าถึงความว่าง
จากความว่าง  คือ ละความสบาย  เหลือแต่ความไม่มี  ไม่เป็น  ไม่มีความคิดเหลืออยู่เลย

จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า  ๕๙

************************************

เดินทางลัดที่ปลอดภัยที่สุด

เมื่อวันที่  ๒๐  มีนาคม  ๒๕๒๖  ก่อนที่หลวงปู่จะกลับจากโรงพยาบาลจุฬาฯ 
ได้ชักชวนกันทำบุญถวายสังฆทาน 
เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่บรรพชนที่สร้างโรงพยาบาลฯ ที่ล่วงลับไปแล้ว ฯ

เมื่อพิธีถวายสังฆทานผ่านไปแล้ว  มีนายแพทย์และนางพยาบาล  จำนวนหนึ่ง
เข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่  แสดงความดีใจที่หลวงปู่หายจากอาพาธครั้งนี้
พร้อมทั้งกล่าวปิยวาจาว่า  หลวงปู่มีสุขภาพอนามัยแข็งแรงดี
หน้าตาสดใสเหมือนกับไม่ได้ผ่านการอาพาธมา 
คงจะเป็นผลจากที่หลวงปู่มีภาวนาสมาธิจิตดี

พวกกระผมมีเวลาน้อยหาโอกาสเพียรภาวนาสมาธิได้ยาก
มีวิธีใดบ้างที่จะปฏิบัติได้ง่าย ๆ หรือโดยย่อที่สุด ฯ

หลวงปู่ตอบว่า

มีเวลาเมื่อไร  ให้ปฏิบัติเมื่อนั้น   การฝึกจิต  การพิจารณาจิตเป็นวิธีลัดที่สุด

จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า ๙๗

****************************
กล่าวเตือน

บางครั้งหลวงปู่แทบจะรำคาญกับพวกที่ปฏิบิติเพียงไม่กี่มากน้อย  ก็มาถามแบบเร่งผลให้ทันตาเห็น ฯ

ท่านกล่าวเตือนว่า

"การปฏิบัติ  ให้มุ่งปฏิบัติเพื่อสำรวม   เพื่อความละ   เพื่อคลายยินดี   เพื่อความดับทุกข์
ไม่ใช่เพื่อเห็นสวรรค์วิมาน  หรือแม้นิพพาน ก็ไม่ต้องไปตั้งเป้าหมาย  เพื่อจะเห็นทั้งนั้น
ให้ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ  ไม่ต้องอยากเห็นอะไร   เพราะนิพพานมันเป็นของว่าง  ไม่มีตัวตน
หาที่ตั้งไม่มี   หาที่เปรียบไม่ได้  ปฏิบัติไปจึงจะรู้เอง"


จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า  ๘๐

************************************

ผลคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน

แรม ๒  ค่ำ  เดือน ๑๑  เป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ซึ่งพอดีกับวันออกพรรษาแล้วได้ ๒ วัน ของทุกปี
สานุศิษย์ทั้งฝ่ายปริยัติและฝ่ายปฏิบัติก็นิยมเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่เพื่อศึกษาและไต่ถามข้อวัตรปฏิบัติ 
หรือรายงานผลของการปฏิบัติมาตลอดพรรษา ซึ่งเป็นกิจที่ศิษย์ของหลวงปู่กระทำอยู่เช่นนี้ตลอดมา ฯ

หลังจากฟังหลวงปู่แนะนำข้อวัตรปฏิบัตรอย่างพิสดารแล้ว  หลวงปู่จบลงด้วยคำว่า

การศึกษาธรรม  ด้วยการอ่านการฟัง  สิ่งที่ได้ก็คือ  สัญญา (ความจำได้)
การศึกษาธรรมด้วยการลงมือปฏิบัติ   สิ่งที่เป็นผลของการปฏิบัติ คือ  ภูมิธรรม



จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า  ๗๐
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:37 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #17 เมื่อ: 02-06-2007, 23:37 »

ว่าง

ในสมัยต่อมา  หลวงพ่อเบธ  พร้อมด้วยพระสหธรรมิกอีกสองรูป
และคฤหัสถ์หลายคนด้วย  เข้านมัสการหลวงปู่ ฯ

หลังจากหลวงปู่ได้แนะนำข้อปฏิบัติแก่ผู้ที่เข้ามาใหม่แล้ว
หลวงพ่อเบธถามถึงข้อปฏิบัติที่หลวงปู่แนะนำเมื่อคราวที่แล้ว ว่า

การปล่อยวางอารมณ์นั้น  ทำได้เพียงชั่วครั้งคราว หรือชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น
ไม่อาจให้อยู่ได้เป็นเวลานาน ฯ

หลวงปู่ ว่า

แม้ที่ว่าปล่อยวางอารมณ์ได้ชั่วขณะหนึ่งนั้น  ถ้าสังเกตจิตไม่ดี
หรือสติไม่สมบูรณ์เต็มที่แล้ว  ก็อาจเป็นได้ว่า 
ละจากอารมณ์หยาบไปอยู่กับอารมณ์ละเอียดก็ได้
จึงต้องหยุดความคิดทั้งปวงเสีย 
แล้วปล่อยจิตให้ตั้งอยู่บนความไม่มีอะไรเลย


จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า ๕๗

*******************************************************

สนทนาต่อมา

ครั้นเมื่อพระเถระทั้ง ๒ รูป  ได้ฟังคำพูดของหลวงปู่ว่า
หลวงปู่ท่านอยู่กับ "รู้"  ต่างองค์ก็นิ่งสงบชั่วระยะหนึ่ง
แล้วก็เรียนถามหลวงปู่ต่อไปว่า  อาการที่ว่าอยู่กับรู้มีลักษณะเป็นอย่างไร ฯ

หลวงปู่ตอบอธิบายว่า

"รู้ (อัญญา)  เป็นปรกติจิตที่  ว่าง  สว่าง  บริสุทธิ์  หยุดการปรุงแต่ง

หยุดการแสวงหา  หยุดกิริยาของจิต  ไม่มีอะไรเลย  ไม่ถืออะไรสักอย่าง"


จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า ๙๗
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:37 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #18 เมื่อ: 10-06-2007, 20:34 »

ไม่เคยเห็นหวั่นไหวอะไรในเหตุการณ์อะไร

เวลา ๔  ทุ่ม ผ่านไปแล้ว  เห็นหลวงปู้ยังนั่งพักผ่อนอยู่ตามสบาย
จึงเข้าไปกราบเรียนว่า  หลวงปู่ครับ  หลวงปู่ขาวมรณภาพเสีแล้ว
หลวงปู่ก็แทนที่จะถามว่า  ด้วยเหตุใด  เมื่อไร  ก็ไม่ถาม
กลับพูดต่อไปเลยว่า

"เออ ท่านอาจารย์ขาว  ก็หมดภาระการแบกหามสังขารเสียที  พบกันเมื่อ  ๔  ปี ที่ผ่านมา
เห็นลำบากสังขาร  ต้องให้คนอื่นช่วยเหลืออยู่เสมอ  เราไม่มีวิบากของสังขาร
เรื่องวิบากของสังขารนี้  แม้จะเป็นพระอริยเจ้าชั้นไหนก็ต้องต่อสู้
จนกว่าจะขาดจากกันได้  ไม่เกี่ยวข้องกันอีก  แต่ตามปกติของสภาวะจิตนั้น
มันก็ยังอยู่กับสิ่งเหล่านี้เอง  เพียงแต่จิตที่ฝึกดีแล้ว  ไมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
ย่อมละและระงับได้เร็วไม่กังวล  ไม่ยึดถือ  หมดภาระเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านั้น  มันก็แค่นั้นเอง"

จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า ๙๗
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:38 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #19 เมื่อ: 24-06-2007, 21:44 »

ปัจฉิมพจน์ของหลวงปู่

เมื่อหลวงปู่ฟังพระสวดมหาสติปัฏฐานจบลงแล้ว   สักครู่หนึ่งต่อมา
ท่านกล่าวปรารภถึงลักษณาการที่พระพุทธเจ้าเข้าสู่ปรินิพพาน
ตั้งแต่เริ่มต้นมาจนตลอด  ซึ่งจะขอจับเอาใจความตอนท้ายไว้ในที่นี้ว่า

"พระพุทธเจ้า  พระองค์ไม่ได้เข้าสู่นิพพานในฌานสมาบัติอะไรที่ไหนหรอก
เมื่อพระองค์ออกจากจตุตถญานแล้ว 

จิตขันธ์ หรือ นามขันธ์ ก็ดับพร้อม  ไม่มีอะไรเหลือ  นั่นคือ  พระองค์ดับเวทนาขันธ์
ในภาวะจิตตื่น  หรือวิถีจิตอันปรกติของมนุษย์  ครบพร้อมทั้งสติและสัมปชัญญะ
ไม่ถูกภาวะอื่นใดมาครอบงำอำพรางให้หลงใหลใด ๆ ทั้งสิ้น
เป็นภาวะแห่งตนเองอย่างบริบูรณ์  ภาวะอันนั้นจะเรียกว่ามหาสุญญตา
หรือจักรวาฬเดิม  หรือเรียกว่า พระนิพพาน  อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
เราปฏิบัติมาก็เพื่อเข้าถึงภาวะอันนั้นเอง

วจีสังขารคือวาจาของหลวงปู่ ก็สิ้นสุดลงเพียงแค่นี้

จากหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  (หลวงปู่ดูลย์  อตุโล  พระราชาวุฒาจารย์ ) หน้า ๙๗
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 09:39 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #20 เมื่อ: 26-06-2007, 10:18 »

เธองดงามธรรมจิตคิดสอนสั่ง       
ด้วยมุ่งหวังเด็กไทยได้อ่านเขียน
เธอมุ่งมั่นปรารถนาด้วยความเพียร       
ให้ได้เรียนรู้ธรรมสร้างปัญญา

ด้วยความรักที่ครูมีให้เจ้า           
จะขอเฝ้าดูอยู่ทุกทิศา
แม้ชีพดับลับไปไร้วิญญา           
จะรักษาพวกเจ้าให้พ้นภัย

ขออำนาจอันยิ่งใหญ่องค์พระพุทธ         
เทียนธรรมจุดส่องสว่างไสว
คารวะแด่ครูด้วยอาลัย             
นำธงชัยศรัทธาครูทรงธรรม

ขอร่วมไว้อาลัยแด่วีรชนคนกล้าคุณครู จูหลิง

9/1/50
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2007, 12:36 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #21 เมื่อ: 03-07-2007, 21:36 »

~~ดิน~~น้ำ~~ลม~~ไฟ~~

ดินน้ำลมไฟธาตุ...................รวมเป็นชาติภพแปรเปลี่ยน
ติดข้องเหมือนกงเกวียน..........หมุนวนเวียนเรียนรู้กรรม

ดิน..รวมเป็นหนึ่งก้อน.............คือคำสอนให้เห็นธรรม
ความดีที่จดจำ.......................หนึ่งมือกำร่างแหลกไป

น้ำ..ใสไหลเซาะหิน................กิเลสกินสิ้นเนื้อใน
บุญทำกรรมแต่งไว้.................เบ่งบานใจใฝ่ปัญญา

ลม..โชยโรยใบร่วง................เหมือนหลุดบ่วงห่วงชีวา
ชีพลับดับมายา......................ตามมรรคาท้าลิขิต

ไฟเทียนธรรมสว่าง................แจ้งกระจ่างว่างจากคิด
ปัญญารู้ชอบผิด......................ส่องชีวิตจิตสงบ

21/01/50                                       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2007, 12:35 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #22 เมื่อ: 09-08-2007, 21:23 »

ร้อย...รักษ์...กวี...วรรณ

ร้อย...กวีสีสันพรรณพฤกษา............................สมสง่าค่าควรสวนอักษร
เพื่อสืบสานโคลงฉันท์และกาพย์กลอน............คำอวยพรอ่อนหวานผ่านอารมณ์

รักษ์...กวีมีมาแต่โบราณ.................................ได้ขับขานสานใจให้งามสม
บทร้อยกรองพ้องเสียงเคียงอารมณ์..................ถ้อยคำคมบ่มซึ้งถึงความดี

กวี...ครูบูชาภาษากานท์...................................หวังสืบสานพจนาสง่าศรี
ลูกหลานไทยได้ตามรอยครูกวี..........................ร่วมเปรมปรีดิ์ดำรงเอกลักษณ์ไทย

วรรณ...กรรมทำให้ใจแน่นหนัก............................งดงามนักอักษราพาสดใส
บทกวีคือวัฒนธรรมไทย..................................เรียงร้อยในบรรณภพนอบนบเอย

18/01/50 


ฝัน~~~อักษร

ร้อย...อักษรกลอนกานท์ชำนาญเขียน...........ฝัน...ว่าเพียรฝึกฝนมิผกผิน
ระเริงรื่นกล่อมอารมณ์สมดังจินต์....................หอมกรุ่นดินกลิ่นปุบผามาร้อยเรียง

รักษ์...กาพย์กลอนโคลงฉันท์ภาษาไทย.......ฝัน...ฝากไว้ได้ขับร้องทำนองเสียง
เพื่อกล่าวถ้อยร้อยความตามสำเนียง..............มิเป็นเพียงนักเลงกลอนนอนเศร้าใจ

กวี...ครูตามรอยร้อยอักษร..........................ฝัน...พักผ่อนหย่อนกายวันสดใส
จะทุกข์สุขคละเคล้าเศร้าเท่าใด....................ครูพาไปให้เสนาะไพเราะจัง

วรรณ...ศิลป์เลิศล้ำนำสุขี...........................ฝัน...ชีวีสงบพบมนต์ขลัง
ปณิธานกล้าแกร่งเป็นกำลัง   .......................คือพลังร้อยมาลัยอักษรงาม

18/01/50




~~~~มาลัยอักษร~~~~

มอบมาลัยดอกแก้วแว่วสำเนียง...................มาร้อยเรียงเพียงหวังดั่งใจฝัน
ช่อเข็มแดงแฝงชมพูเคียงคู่กัน....................แต้มสีสันพันอักษรรักกลอนกานท์

ถ้อยวจีหอมละมุนอบอุ่นใจ........................คำสวยใสได้ประดับแล้วขับขาน   
ผู้ใดมาชมชื่นรื่นสำราญ.............................ฤดีกานต์สานฝันพรรณนา


มาลัยดอกมะลิพิสุทธิ์ใส.............................ร้อยดวงใจในคำธรรมภาษา   
ด้วยดอกบัวตัวข้าขอบูชา............................พสุธาฟ้าทั่วภพนบนอบคุณ

วันคืนผ่านกานต์กวีที่ใจรัก..........................พอผ่อนพักหักใจได้เกื้อหนุน   
บทร้อยกรองคล้องจิตคิดการุณย์..................คงเป็นบุญสุนทรจดอันงดงาม (31/01/50)

   
มาลัยดอกจำปีสีเหลืองนวล.........................กลิ่นเย้ายวนชวนเชิญเกินใจห้าม
หอมจำปาพาสุขทุกโมงยาม........................หลงใหลความตามรอยครูกวิน   

อักษรฝันพันใจให้ลึกซึ้ง.............................ยังตราตรึงพึงใจกวีศิลป์
ข้ามขอบฟ้ามาถนอมกล่อมยุพิน...................ร้อยชีวินถวิลรสบทกลอนไทย      

      
ร้อยมาลัยดอกพิกุลกรุ่นกำจาย.....................สู่จุดหมายลายสือคือคำไข
กุหลาบหนามแหลมคมอบรมใจ....................มุ่งมั่นไว้ใฝ่จำถ้อยคำกวี

ฉันทลักษณ์ประจักษ์แจ้งแต่งเพราะ...............เสียงเสนาะเหมาะความตามวิถี
แต่งบ่อยเข้าเกลาขัดถนัดดี.........................มาลัยนี้สีสวยด้วยกลอนกานท์



 

ร้อย.......ภาษาเสนาะต้อง......พากเพียร
รักษ์.......อักษรจดเรียน.........หมั่นอ้าง
กวี.........อ่านวนเวียน...........จำหมด
วรรณ......ส่งเสริมใจสร้าง.......จึ่งไหว้ครูกลอน   08/02/50

ประนมกรนบไหว้........................บรมกวี
ยี่สิบหกสุนทรศรี........................ครบแล้ว
ผู้น้อยฝึกความดี........................เยี่ยงถ้อย
โคลงกาพย์กลอนครูแก้ว..............ดั่งพจน์ วรกวินทร์

ประนมกรอ่อนน้อมค้อมเศียรไหว้...........ด้วยหัวใจในรักอักษรศรี
ตามรอยครูรู้ซึ้งถึงกวี..........................ถ้อยวจีดีงามตามสุนทร

ยี่สิบหกมิถุนามาบรรจบ.......................ขอเคารพนบนอบตอบอักษร
เพื่อสืบสานกานท์ไทยในสาคร.............คือร้อยรสบทกลอนพรจากครู
๒๖  มิ.ย  ๕๐ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2007, 21:31 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #23 เมื่อ: 23-09-2007, 02:57 »



ทะเล...หมอก

อรุณรุ่งมุ่งเห่ทะเลหมอก........................เป็นระลอกหยอกเย้าเคล้าแดดสาย      
น้ำค้างพรมห่มรักมาทักทาย....................พลิ้วพระพายคลายโศกวิโยคใจ

ยืนท่ามกลางหว่างลำนำธรรมชาติ.............ทรงอำนาจหวาดหวั่นจิตสั่นไหว
สงบนิ่งสิ่งสรรพระงับไป.........................สู่ภายในให้เย็นเห็นสัจธรรม

สว่างว่างวางแล้วแน่วแน่นัก....................สองบ่าหนักพักไว้ไม่ถลำ
แล้วนั่งนึกตรึกตรองกรองถ้อยคำ...............อย่าจดจำซ้ำรอยจงปล่อยวาง

หมอกจางหายคลายคืนชุ่มชื่นใจ...............แดดโลมไล้ไออุ่นกรุ่นน้ำค้าง
ลมกระซิบผิวแผ่วแล้วเลือนราง.................ขอบฟ้ากว้างทางยาวต้องก้าวเดิน

ทะเลหมอกหยอกเย้าเพียงเงากล..............ขอกุศลดลให้ได้สรรเสริญ
จงสมหวังดั่งใจใฝ่เจริญ..........................แล้วดำเนินเพลินสุขทุกยามเอย

ก.พ ๕๐


***********



ทะเล....อิสระ

หฤทัยใฝ่เสรีมีความฝัน...................ความมุ่งมั่นฟันฝ่าหาความหมาย
แม้ฝันนั้นจะสิ้นหวังพังทลาย..............ก็ไม่หน่ายคลายฝันวันเป็นไท

อิสระจะกำหนดบทชีวิต...................ในดวงจิตคิดดูรู้เงื่อนไข
บนเส้นทางย่างก้าวยาวเท่าใด...........ยังคงไว้ไขว้คว้าหาเสรี

อิสระ หฤทัยใจหลุดพ้น...................คือฝึกฝนจนสงบพบวิถี
นำจิตใจใฝ่หาค่าความดี...................ปัญญามีชี้ชัดขัดเกลาตน

อิสระละวางว่างยึดถือ.....................หยุดสองมือยื้อย้ำทำสับสน
หยุดวจีดีชั่วที่ตัวตน.......................หัวใจคนปนเปื้อนเถื่อนวาที

อิสระกระจ่างแจ้งแสงธรรมส่อง..........งามผุดผ่องผองค่าสง่าศรี
กล่อมฤทัยใจงามตามความดี............มอบชีวีที่เหลือเพื่อ...

ก.พ-พ.ค ๕๐ 




ทะเล~~~อักษรเงา
 
(๑) ทะเลเงา...เหงาเหงา...ภูเขาสูง...................เห็นเมฆฝูงยูงทองก้องเวหา
 ลอยเป็นหมู่กู่ดารละลานตา..............................สกุณาลาลับกลับรังรวง   (ดาร – ภาษาเก่า  เสียงดัง)

(๒) ทะเลเงา...เศร้าเศร้า...เจ้าขวัญหาย..............พริ้วพระพายปลายภููลอยสู่สรวง
 อบอุ่นใจในจิตแนบชิดทรวง............................จิตลุล่วงบ่วงกรรมหมั่นทำดี

(๓) ทะเลเงา...เขลาเขลา...เจ้าเฝ้าฝัน................กล่อมคืนวันผันผ่านกาลดิถี
ร้อยอักษรอ่อนละมุนอุ่นฤดี...............................ภาษาศรีดีงามนัยความคม

(๔) ทะเลเงา...เคล้าคลอ...พะนอรัก...................ลายสลักปักจิตคิดขื่นขม
แม้โลภโกรธหลงใหลในอารมณ์.........................อย่าระทมตรมตรอมถนอมใจ

(๕) ทะเลเงา...เย้าหยอก....มิชอกช้ำ................เพียงถ้อยคำน้ำมิตรคิดไฉน
คือร้อยรสบทเพลงบรรเลงไป............................คำสรรค์ไว้ในภาษาน่าชมเชย

ก.พ--เม.ย  ๕๐ 




ทะเล....อักษรเงา (๒)

(๖) โอ้..ทะเล...หลงเงา...เจ้าเลือนราง..............จนรุ่งสางสร่างแล้วแก้วขวัญเอ๋ย
ฝันอักษรร่อนเร่เห่เหมือนเคย.............................อย่าละเลยเผยพจน์รสจำนรรจ์

(๗) แล้วลอยล่องท่องธารผ่านนที.......................อักษรสีสดใสในลายฝัน
ทะเลเงา...เช้าสายคลายคืนวัน...........................นวลแสงจันทร์พรรณนาด้วยมาลิน

(๘) เพียงสานฝันกลั่นพจน์บทกลอนกานท์............สร้างตำนานขานขับสดับศิลป์
มาเรียงร้อยถ้อยคำพร่ำยลยิน..............................ยังถวิ่ลกลิ่นพฤกษาจำจากจร

(๙) พลิ้วพลิ้วแผ่วแว่วสำเนียงเสียงลำนำ์...........จรุงล้ำทำนองดั่งต้องศร
เพราะใจรักนักหนาพาอาวรณ์.............................จึ่งร่ายกลอนอ่อนหวานสำราญตา
   
(๑๐) อ้า...อ่าองค์อนงค์นารถวาดฝัน....................คำรำพันมั่นมาดปรารถนา
ขอเป็นสุขทุกวารผ่านนิทรา...............................คงสักคราพาฝันชั้นกวี

ก.พ-พ.ค ๕๐ 



ทะเล.....รอยใจ

(๑)เจ้าลอยล่องท่องนภาเวหาเหิน.......................เจ้าเพลิดเพลินเดินชมสมใจหมาย
เจ้ากู่ร้องก้องฟ้าท้าพระพาย................................เจ้าทักทายสายธารผ่านลำนำ

(๒)เจ้าหลบฝันวันชื่นรื่นสนาน............................เจ้าสราญผ่านพจน์บทคมขำ
เจ้าเรียงร้อยถ้อยสรรหมื่นพันคำ..........................เจ้าดื่มด่ำพร่ำกวีที่รอยใจ

 (๓)เจ้าพักพิงอิงปลายสายรุ้งงาม.......................เจ้าเดินตามความดีพิสุทธิ์ใส
เจ้าเอื้อนเอ่ยเปรยเปรียบเทียบฝันใฝ่....................เจ้าคว้าไว้ใยรักที่ถักทอ

(๔)เจ้าผ่านพ้นค้นความมาตามจินต์.....................เจ้าหอมดินกลิ่นพฤษก์ระลึกขอ
เจ้าร้อยเรียงเคียงคู่มิรู้ท้อ.................................เจ้าแต้มต่อพ้อเมฆเสกทำนอง

(๕)เจ้าร่อนเร่เห่กล่อมหอมอักษร........................ยามเหนื่อยอ่อนผ่อนพักหนักสมอง
 ฤๅยิ้มแย้มแต้มแต่งบนแสงทอง.........................หอมเรืองรองส่องงามอร่ามตา

แต่งช่วงสงกรานต์ ๖-๑๗  เม.ย  ๕๐  ริมทะเลบ้านน้า (ฮวงอี๊)




ทะเล....รอยใจ(๒)

(๖)เจ้าหลงใหลในกวีจึงมีฝัน........................เจ้ากล่อมขวัญวันคืนรื่นหรรษา
เจ้าเขียนกลอนสอนใจใส่วิญญา...................เจ้ารู้ค่าว่าเพลงบรรเลงกานท์

(๗)เจ้าก่อทรายร่ายเริง ณ เพิงพัก.................เจ้าจำหลักอักขระมนสาร
เจ้าค้นธรรมกรรมผูกเพียงปลูกทาน................เจ้าขออธิษฐาน ณ รอยใจ

(๘)เจ้าฝากลมพรมพร่ำรินน้ำคำ...................เจ้าหอมธรรมจำจิตนิมิตไข
เจ้าเห็นทางต่างคนปะปนไป........................เจ้ายิ้มไว้ให้เพื่อนเตือนไมตรี

(๙)เจ้ารู้ร้อนย้อนหนาวคราวฝนพรำ..............เจ้าชื่นฉ่ำน้ำมิตรคิดสุขี
เจ้าโบกมือคือรหัสสวัสดี.............................เจ้าดารณีสีสดดูงดงาม

(๑๐)เจ้าบรรจงลงเลขเสกมนต์ขลัง................เป็นพลังรินรดพจน์สนาม
สวนอักษรกลอนกานต์บานทุกยาม.................ทั่วเขตคามหนามคมข่มใจเอย   (เม.ย-พ.ค  ๕๐)

ตอนสงกรานต์เขีย รอยใจ  ไว้เกือบสามสิบบท แต่ซ้ำ ๆ กัน
ต้องเกลาไปเกลามา ได้ เพิ่มอีก ๕ บท อิอิ   




หมอกธรรม

๑.หมอกอรุณรุ่งสางกลางขุนเขา................แสงเรืองรองส่องเงาลำเนาผา
หอมดอกดินกลิ่นพิสุทธิ์ดุจพนา..............งามบุปผาลาวัลย์จำนรรจ์กลอน

๒.ประดิษฐ์ถ้อยร้อยความตามวจี................เก็จมณีนี้สลักปักสิงขร
ประดับไว้ในเมฆเสกอัมพร.....................หมู่อมรร่อนเรียงเคียงเทวินทร์

๓.หยดน้ำค้างพร่างพรมห่มแมกไม้..............ธารน้ำใสไหลเซาะเกาะผาหิน
ฟังเสียงไผ่ไล่เพลงบรรเลงพิณ...............หมู่เมฆินรินฝนหล่นพฤกษ์ไพร

๔.นั่งบรรจงลงรักอักขระ...........................วจนะกล่อมขวัญฝันสดใส
เจ้าแย้มยิ้มอิ่มแก้มแต้มหัวใจ..................สว่างในใยพจน์รสพระธรรม

๕.ดื่มด่ำซึ้งตรึงจิตพินิจรอบ.......................มโนนอบน้อมมาล้วนน่าขำ
เกิดแก่ตายกายลับดับกระทำ..................วจีกรรมนำพาสง่าองค์

๖.ยังคงฝันฝันไปในโลกกว้าง....................ทุกเส้นทางย่างไปไม่ลุ่มหลง
เพราะมีฝันวันนี้มีจำนงค์.........................ไม่พะวงสงสัยในความดี

๗.ฝันแต่สิ่งดีงามความกุศล......................ก่อเป็นผลดลบุญอุดหนุนศรี
เจตนาค่าควรล้วนตนมี...........................คือใจนี้ที่สงบจบสุธา

๘.อบอุ่นใจในดินกลิ่นหอมหวล..................งามอบอวลชวนฝันวันหรรษา
ร้อยดาวเดือนเพื่อนกลอนก่อนนิทรา.........อักษราพาเพลินจำเริญใจ

๙.จับอักษรอ่อนละมุนอบอุ่นธรรม...............ล้วนถ้อยคำย้ำทางสว่างไสว
ลายสลักปักเรียงเสียงฤทัย.....................ดำรงไว้ให้เพียรเขียนใจงาม

๑๐.ธรรมชาติวาดแต่งฤแสร้งสรร................จงสู่ฝันฝันไว้ไม่เกรงขาม
ขณะจิตคิดชอบระบอบตาม....................จึ่งทุกยามความดีชี้กรรมกาย

๑๑.คือหยดหนึ่งซึ้งใจในน้ำจิต......................แนบสนิทติดตรึงซึ่งธรรมหมาย
โลดแล่นไปในทางอย่างเดียวดาย.............เหลือเพียงตายวายวอดกอดเนินดิน

๒๒ ก.ย. ๕๐




~~~ไหว้พระธาตุ~~~
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2008, 12:55 โดย ภูดิน » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #24 เมื่อ: 25-09-2007, 16:43 »



ทะเล~~~เลือด

ทะเลเลือดเดือดพล่านผ่านวิถี...............บ้านเมืองมีผีห่าซาตานสิง
มารุมทึ้งดึงแยกแตกความจริง..............สรรพสิ่งยิ่งใหญ่แค่ใจตน

ละเลงเลือดเชือดกรีดรีดหัวใจ..............แล่แหวะไส้ให้ดูทุกขุมขน      
กระชากเนื้อเถือหนังฝังทุกคน..............ทุรชนปล้นชาติอนาถใจ

ประดาบเลือดเหมือดสลบกลบธานี.........อสุรีทรยศต้องชดใช้
สับหมื่นชิ้นดิ้นร่านประจานไป...............อีแร้งกาหมาไนได้จิกตี

ชะโลมเลือดเหือดแห้งแรงหมดกาย.......มิตรสหายวางวายตายเป็นผี
จะจงภักดิ์รักษาปฐพี.........................หวังชีพพลีไว้ในแผ่นดินทอง

ตะวันดับทะเลเลือดเดือดแรง...............จันทร์อาบแสงแกร่งกร้าวก้าวผยอง
ขอท้ารบจบพิภพเพื่อปกป้อง................ให้เลือดนองผองชนคนเห็นคน

ก.ค  ๔๘   





 ทะเล~~~เลือด (๒)

(๑) น้ำตานองผองชนระคนเลือด...................แผ่นดินเดือดเหือดรักและศักดิ์ศรี
 เหยียบย่ำดินถิ่นมารดาแห่งธานี....................มันย่ำยีตีใจไทยทั้งปวง

(๒) ฆ่า...คนไทยในถิ่นแผ่นดินทอง...............หวังครอบครองจ้องจับดับเมืองหลวง
ทำลายล้างสร้างบาปและจาบจ้วง..................ด้วยความลวงถ่วงกรรมนำทางมา

(๓) ฆ่า...ทหารร่างแหลกแยกดินแดน.............ฝังรอยแค้นแน่นหนักดั่งยักษา
มันอุดหนุนจุนเจือเอื้อเงินตรา........................แล้วเข่นฆ่าป่าเถื่อนเกลื่อนธรณี

(๔) ฆ่า...พระธรรมล้ำอนันต์บั่นกุศล................ทำร้ายคนธรรมาน่าบัดสี
ทำลายชาติศาสนาพวกกาลี..........................อเวจีชี้ชัดพวกสัตว์เดน

(๕) ฆ่า...ชาวใต้ให้ศีลจนสิ้นซาก....................พ่อแม่พรากจากสุขทุกข์แสนเข็ญ
แม่ลูกเมียเสียพี่น้องร้องรำเค็ญ.......................ล้วนถูกเห็นเป็นไปเรื่องไกลตัว

(๖) ฆ่า...ล้างครูผู้สอนสั่นคลอนจิต..................ความเชื่อผิดคิดไว้ยัดใส่หัว
มองเห็นแล้วแววตาที่น่ากลัว...........................และโฉดชั่วมัวมิดมืดบอดใจ

(๗) ตะวันดับอับแสงแรงเลือดเดือด..................ซากศพเหือดแห้งกลิ่นสิ้นคำไข
ร้องระงมถมทุกข์รุกชาวไทย............................แผ่นดินไร้ใจคนอับจนฤๅ

(๘) น้ำตาเลือดเหือดหมดทุกหยดย้ำ................หยามกระหน่ำซ้ำอกนรกหรือ
ดินแดนทองร้องร่ำพร่ำระบือ............................เพียงแย่งยื้อถืออำนาจชาติพังภินท์

(๙) แม้ต้องสู้อยู่ไปไร้ทิศทาง..........................แม้คนร้างห่างเรือนเบือนทรัพย์สิน
จักต้องสู้คู่ขวานสานแผ่นดิน............................ขับให้สิ้นถิ่นไทยคนใจทราม

(๑๐) คือคนไทยใจแกร่งแรงศรัทธา..................คือคนกล้าท้าสู้คู่สยาม
คือคนธรรมนำหลักปักเขตคาม.........................คือคนภักดิ์รักนาม “ประเทศไทย” 


๕-๑๗  พ.ค. ๕๐

กราบเคารพทุกศพที่ตกเป็นเหยื่ออำนาจอธรรม
ขอพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองชาติไทย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2008, 21:58 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #25 เมื่อ: 25-09-2007, 16:53 »


ธูปเทียนบัวจ่งตั้ง..............................บูชา
ก้มกราบผืนพสุธา.............................จิตน้อม
พิสุทธิ์ดั่งมณีรัตนา............................สูงส่ง
สามสิ่งนำมาพร้อม............................จบแล้วอธิษฐาน

จะประณตพระคงคา...........................ณวิสาขวันเพ็ญ
สหชาติประกาศเป็น...........................อธิกาลมหาชน

หฤทัยละโกรธบาป...........................มทลาภบ่ร้อนรน
ปณิธานจะนำพล..............................ลุพระธรรมสงบใจ     กมลฉันท์ ๑๒ 





บารมีพระบาทผู้................................ทรงธรรม
หยุดก่อการณ์กระทำ..........................เหตุร้าย
พระดำรัสดุจน้ำ.................................พรมพร่าง
เหล่าพสกนิกรแยกย้าย.......................ต่างน้อมใส่เศียร

อภิวาทพระจอมภพ...........................ธสยบระงับเหตุ
ปิยะองค์พระนเรศวร์.........................วจนารถประสาทเตือน

อริจะพินาศสิ้น.................................ธรณินทร์จะลั่นเลื่อน
ชลสายจะกลบเกลื่อน........................ทุรชนจะแหลกลาญ

ปรมินทร์พระทรงธรรม.......................อติกรรมพระภูบาล
ทศพิธ ธ บันดาล.............................นิรเหตุและเภทภัย

นครินทร์ ณ บัดดล...........................ชนะตนพิชิตชัย
สหการประชาไทย............................ก็ลุพ้นมหันตราย  กมลฉันท์ ๑๒ 
๒๙  พ.ค.  ๕๐ 


ขอบันทึกความรู้สึก ก่อนจะมีคำตัดสินคดียุบพรรคการเมือง  วันที่  ๓๐  พ.ค  ๕๐
ขอบ้านเมืองสงบด้วย  บารมีพระมากพ้น  รำพัน   




ทะเล...อักษรใจ

(๑)ทะเลอักษรหล่นท้อง.............นที
เสียงเสนาะดุจดนตรี..................ห่มฟ้า
ทำนองขับขานวจี.....................สดชื่น
ดังทั่วพื้นแผ่นหล้า....................สงบแล้วใจนาง

(๒)อักษรคลื่นซัดสาดคล้าย.......ลำนำ
ดังสนั่นจำนรรจ์คำ....................กู่ก้อง
ไพเราะบทคมขำ.....................ใจกล่อม
ทอถักฝันขับร้อง......................อย่าร้างแรมใจ

(๓)อักษรกระซิบแผ่วพริ้ว..........ดาวเดือน
หอมรื่นชื่นตาเตือน..................กรุ่นแก้ว
มองดูหมู่เมฆเลือน..................ลาจาก
ฝันไขว่คว้าไว้แล้ว..................บ่มรักเรือนใจ 

(๔)อักษรซบชายหาดล้อม.......สาคร
คลายขุ่นครุ่นอาวรณ์...............เพื่อนพ้อง
เรียงจังหวะกาพย์กลอน...........เริงร่า
พรมร่ำรสคำคล้อง.................สร่างเศร้ารมย์ใจ 

(๕)เรือชีวิตลอยท่องฟ้า.........เดียวดาย
 เก็บเกี่ยวดาวเรียงราย...........ส่งถ้อย
 อักษรสักลวดลาย................เพลินสุข
 อบอุ่นละมุนร้อย..................เปี่ยมล้นใจนวล   

๑๑  พ.ค. ๕๐





ทะเล~~~อักษรใจ (๒)

อักษรโปรยจากฟ้า..............................ราวเท
พริ้วแผ่วสู่ท้องทะเล.............................ม่านน้ำ
ลมทรายหาดคลื่นเห่............................สงบนิ่ง
เพียงสื่อสารฝากย้ำ.............................ต่อถ้อยร้อยฝัน

ลมรื่น ณ คืนฝัน...................................จะประพันธ์ทะเลใจ
เริงร่าบ่อ่อนไหว....................................มนะรักสลักกานท์

อักษรสดับถ้อย....................................พิศะร้อยอลังการ
เชิงศิลป์สิบันดาล...............................จิตะซึ้งจะตรึงทรวง

เพลิดเพลินและยินยล...........................จรดลสวรรค์สรวง
วาดจินต์นภาห้วง..................................อภินันท์ลลิตกลอน

วรรณภพวิจิตรลาย................................ปริยายประไพพร
แช่มชื่นมิร้าวรอน..................................สติตั้งประจงเรียน

งดงามฤยิ้มเย้ย....................................บ่มิเคยจะหยุดเขียน
เรือฝันนะวนเวียน...................................นิรมลก็ถักทอ

ค่ำเช้าประดับพจน์................................พิเคราะห์รสมิรีรอ
ฉันท์โคลงประลองต่อ...........................มธุวากย์ตระการตา

คลื่นเห่คละหาดทราย...........................ระบำร่ายระเริงร่า
สายฝนประปรายมา...............................ศศิส่องวะวับวาม

ริมหาด ณ คืนเพ็ญ..............................วิธุเด่นนภางาม
ปัญญาสว่างตาม................................ก็สงบ ณ ดวงมาน   

อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑   
พฤกษภาคม ๕๐


เพื่อให้ตรงกับมโนทัศน์ (concept) คือ ทะเลอักษร 
หมายถึง  อักษร(บทกวี)มากมาย ดุจท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล  ให้ตรงกับต้นฉบับ 



เรือชีวิต....เรือฝัน

เรือชีวิตลอยล่องท้า.................แรงลม
บ่หวั่นคลื่นซัดจม....................โหดร้าย
คงสดชื่นรื่นรมย์......................ฟันฝ่า
ขอสู่ฟากฝันคล้าย...................ท่องโลกในจินต์

เรือชีวิตมีเพื่อนพ้อง...............เต็มนภา
สูงสุดเกินสายตา....................หม่นเศร้า
ปุยเมฆห่มเดือนลา.................ดาวดับ
ขอกล่อมใจค่ำเช้า.................แต่งไว้โคลงฉันท์

เรือชีวิตลอยสู่เส้น..................ทางไกล
แม้แล่นกลางพงไพร...............บ่ท้อ
ลอยลมท่องเที่ยวไป..............พาสุข
ขอกลั่นหอมกลอนล้อ.............แอบยิ้มเพลินใจ

เรือชีวิตโลดแล่นร้้อย.............กลกานท์
เพียงผูกเขียนจดจาร..............เสกสร้าง
หวังได้สืบตำนาน.................กลอนกาพย์
ขออย่าได้ลาร้าง..................ห่างรักษ์กวีวรรณ




ทะล...อักษรครวญ

(๑)เรืองรองทิวา...รวิจะลับ.............ก็ประทับ...ทะเลครวญ
เวหานภา...วิธุก็นวล.....................ดุจะส่อง...วนาไพร

(๒)หลงใหลกวี...มธุรพจน์.............โชติรส...จำหลักใจ
กล่อมขวัญระรื่น...หทยใส..............ปริบูรณ์...มนัสสาร

(๓)วิญญากมล...ศิริจำนรรจ์............วิยะสรรค์...มโนกานต์
รู้ธรรมประจักษ์....อุระสราญ............ปฎิบัติ...ประพฤติคุณ

(๔)ทุกข์สุขระลึก...ศุภนิมิต............วิธิคิด...ประเปี่ยมบุญ
ดวงจิตสะอาด...และสมดุลย์...........อุปมา...ประภัสสร

(๕)ลอยล่องมหรร...ณพนที...........ตรณี...ละลิ่วจร
ความฝันจรูญุ...ดุจะอมร................สุริยัน...อำไพงาม

(๖)แสงเรื่อตะวัน....กษณะยล.........วิจิชล...ระรื่นตาม
ลมพริ้วผะแผ่ว....อุทกะวาม............รุจิเรข...ชลาลัย

(๗)ยึดมั่นสิปล่อย....สละละตน.......มุจะพ้น...บ่สงสัย
ความจริงฤหลอก....จิตะลุนัย.........ลหุใจ...สบายกาย

(๘)สิ่งใดกระทบ....มนะสะเทือน......ก็จะเลือน...สิเคลื่อนคลาย
รู้ตัวมิโกรธ...สติจะหมาย................คุรุถอน...อภัยทาน

(๙)เพียงคิดจะฝาก....รตนฉันท์.......สิรำพัน...บ่อาจหาญ
ร้อยเรียงผดุง....สหิตกานท์............อภิรมณ์...ประเลงกลอน

(๑๐)สุนทรวจี...ณหฤทัย...............พิศมัย...นิรันดร
กล่อมขวัญประเทือง...กิรติพร.........พสุธา...สุคนธ์ไกล  วสันตดิลกฉันท์  ๑๔

๑๐ ก.ค  ๕๐ 




ดินหอม

ดิน..รวมเป็นหนึ่งก้อน...............คือบทสอนให้เห็นธรรม
ความดีที่จดจำ........................หนึ่งมือกำร่างแหลกไป

(๑)ดินหอมเปรียบกระดูกเถ้า...................กำมือ
บ่งบอกความหมายคือ...........................หลุดซาก
วันคืนผ่านแม้ชื่อ..................................ลืมเอ่ย
เหลือแต่ดีมีมาก..................................กล่าวอ้างตัวตน

(๒)ดินถูกลอยสู่ห้วง..............................มหรรณพ
สรรพสิ่งหยุดนิ่งสงบ..............................บ่ต้าน
จิตแน่วแน่ดุจประสบ..............................ความว่าง
ชั่วขณะหนึ่งถึงสะท้าน...........................จบสิ้นอาลัย
 
(๓)ดินเถ้าเหมือนบอกไว้........................ความดี
จงสั่งสมให้มี......................................จิตรู้
มองโลกอย่างพระศรี.............................หนักแน่น
จักมุ่งสู่มรรคผู้....................................หลุดพ้นบ่วงกรรม

 (๔)ดินหนึ่งมือหยุดยั้ง.........................ตัวตน
มองเพ่งตรงใจคน...............................เท่านี้
เห็นเพียงร่างแหลกป่น.........................เตือนสติ
ชีพดับกรรมจักชี้................................จึ่งต้องสร้างกุศล

(๕)ดินหากวางปล่อยแล้ว.....................ทุกสิ่ง
ใจเชื่อแต่ความจริง.............................ถูกต้อง   
ความรู้อย่าทอดทิ้ง.............................สุจริต
คบเพื่อนล้วนเกี่ยวข้อง.........................หมู่มิตรจิตงาม

(๖)ดินหากรู้ปฏิบัติแล้ว........................เข้าใจ
เพียรฝึกฝนย่อมได้.............................พิสุทธิ์แท้
หลงโลภโกรธทิ้งไป...........................ตัดขาด
ยึดมั่นถือตนแก้.................................อย่าให้ใจเผลอ

(๗)ดินหมายวิเวกปลีกเร้น....................สับสน
แม้อยู่กลางฝูงชน..............................นิ่งไว้
สมาธิเท่าทันเล่ห์กล...........................ตัวกิเลส
ปัญญาเกิดจงพินิจได้.........................สุขทุกข์เสมอกัน

(๘)ดินบ่มใจผ่องแผ้ว..........................รู้ธรรม
ใครเหยียดหยามบ่จำ..........................เจ็บเศร้า
จริงเท็จสัจจ์บ่งกรรม..........................เห็นอยู่
ใครก่อทุกข์รุกเร้า..............................จักต้องย้อนคืน

(๙)ดินรักษ์ศีลผูกไว้............................เป็นบุญ
และหมั่นสร้างกุศลคุณ..........................สุขล้ำ
หวังปลูกจิตการุณ...............................พูนเพิ่ม
คงอิ่มใจดุจย้ำ...................................ผ่านภพจบสวรรค์

(๑๐)ดินเอ๋ยเมื่อล่วงรู้............................ธรรมชาติ
คอยหมั่นคิดจิตสะอาด...........................ดั่งแก้ว
ระลึกอยู่เสมอถึงฆาต............................ทุกขณะ
กรรมส่งให้หอมแล้ว.............................กลิ่นฟุ้งความดี

 คนเกิดมาเป็นดิน  และตายก็เป็นดิน  หอมด้วยความดีที่ได้สร้างสมไว้  ทุกคนล้วนเป็น ดินหอม

(เริ่มแต่งปี ๔๗-๔๘-๔๙  แต่งไปแก้ไป เสร็จ  เดือนมิถุนายน  ปี ๕๐ ) 




กราบเถ้าพ่อแม่

สุขสันต์วันตรุษจีน



ทะเล....อักษรหอม

เหนือภูผาหมอกเมฆ.....................งามตา
อวลกลิ่นดินบุปผา.......................ชุ่มชื้น
ความดีดุจพฤกษา........................หอมกรุ่น
ยึดมั่นหมั่นกุศลฟื้น.......................จิตน้อมบุญทาน

(๑)เมฆหมอกกระจายระกะนภา........วิจิตราทะเลหอม
ภูผาตระหง่านสิขรน้อม..................อภิวาทมเหศวร

(๒)สดชื่นพระพายวจนะสรรค์..........จะรำพันกวีครวญ
ทิวทัศน์วนากุสุมะมวล..................อุระเย็นสบายใจ

(๓)โบยบินระรื่นภมระยล................สุวคนธ์ตรลบไกล
สดชื่นสราญมธุระใส......................สกุณาละลานตา

(๔)เงาไม้กระเพื่อมสลิลผิว.............ระบำพริ้วสโรชา
ลมโบกกระซิบกุมุทะธา-.................รณะพิศอโนดาษ

(๖)แสงสูรย์คตาคิริระรอง................ขณะมองวิหคชาติ
ยินเสียงสนั่นอสนิปาต....................ชลสายวรุณโถม

(๗)คลื่นแรงมหันต์อุทธิคลั่ง............กระหน่ำดั่งชเลโลม
นาวาสะเทือนทะลุโพยม.................ภยถึงสะพรึงกลัว

(๘)ชีวิตประคองวิจลหวั่น...............มนสั่นและมืดมัว
ครั้นลมสงบสุรีย์สลัว.....................รชนีสว่างเรือง

(๙)คืนค่ำนภิสศศก็เต้น..................และจะเห็นวิมานเมือง
วาดจินต์ประสมดุริยะเนือง..............เสนาะเสียงสวรรค์ดล

(๑๐)สุขทุกข์ประจักษ์ดุลยภาพ........จิตทาบประมาณตน
มุ่งหมายจะหวังพิริยผล...................ก็เพราะรักกวีกานท์   วสันตดิลกฉันท์  ๑๔

๑  ก.ค  ๕๐ 


ลานต้นไทรใหญ่พฤกษ์..............บังเงา
ตะวันสาดแสงแผดเผา...............ร่มไม้
เหล่าพ้องเพื่อนวัยเยาว์..............ชวนเล่น
อะไรเอ่ยสวมเพื่อให้..................ดับร้อนทอนแสง

ยามเมฆดำเกลื่อนฟ้า................มืดมัว
แสงแปลบปลาบน่ากลัว............แผดก้อง
พลันฝนหล่นจนหัว...................เปียกชุ่ม
รีบหยิบขึ้นมาป้อง....................ม่านฟ้าเมืองแมน

แดดร้อนจนเหงื่อชื้น..................ท่วมกาย
แสงส่องทอดแนวคล้าย..............อบอ้าว
ใช้พักผ่อนนอนสบาย.................ยามเหนื่อย
แรงโบกจักโน้มน้าว...................ชื่นน้ำเย็นใจ

หยิบมาสวมหมวกนี้..................เร็วพลัน
ฝนหล่นกางร่มกัน.....................หลบใต้
ร้อนนักจักสุขสันต์.....................พัดโบก
ตอบหมดแล้วขอให้...................เพื่อนพ้องร้องเพลง

ปริศนาทายอะไรเอ่ยเหล้น............ยามเย็น
ยามแดดรอนมองเห็น..................หมู่มิตร
บ้างทำท่าแอบเป็น....................หลบซ่อน
เหมือนอยากรู้คู่คิด......................ห่วงบ้างไหมเอย

ต้นไทรใหญ่ใบหนาพบหน้ากัน....................แสนสุขสันต์วันเก่ามาเล่าขาน
ต่างบรรเลงเพลงเล่นเต้นสำราญ..................สุขสนานลานไทรไม่ลืมเลือน

๑ ส.ค. ๕๐




เที่ยวแม่กลองร้องเพลงครื้นเครงกัน....................ดังสนั่นลั่นแล้วเจื้อยแจ้วเสียง
ลงเรือพายบ่ายคล้อยร้อยสำเนียง......................แจวเรือเรียงเคียงไปในสายธาร

ลมพัดเอื่อยเฉื่อยฉิวละลิ่วล่อง..........................ตะโกนก้องพร้องเพรียกเรียกผสาน
จนเย็นย่ำค่ำลงตรงหน้าลาน.............................หุงข้าวสารหวานหอมมาล้อมวง

บ้านริมน้ำยังอยู่คู่สาคร...................................ต้นสะท้อนขอนไม้ใกล้กาหลง
หอมเปลญวนอวลกลิ่นดอกประยงค์...................เป็นพุ่มพงดงใจได้ฝันเพลิน

สนุกกันฟันฝ่าพนาวน.....................................เที่ยวดั้นด้นค้นไปดั่งใจเหิน
ขอกุศลดลให้ได้จำเริญ..................................ชีพดำเนินเดินสุขทุกโมงยาม


๒๕ ก.ย. ๕๐

   bye, thank you  for  all  of  you   
ps. go to  aboard  on  this  summer  not  now, bye   

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2008, 12:58 โดย ภูดิน » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #26 เมื่อ: 09-10-2007, 13:53 »



(๑)โลดแล่นละลิ่วนครอินทร์...................อสุรินทร์จะรอนราญ
ธารสรวงสิเขตเทวภิบาล....................นรชน น ล่วงล้ำ

(๒)นบนอบพระองค์ศิระภิวาท.................ปทบาท ธ ทรงธรรม
ก่อบุญจะหวังอุตมกรรม.....................อนุกูลลุเมืองแมน

(๓)จึ่งท่องสวรรค์ปรมภพ.......................ผิประสบนิรันดร์แดน
ดำรงประพุทธ์กุศลแน่น.....................จิตะสบพระองค์อินทร์

(๔)เทวาสดับหสเยาะยิ้ม........................ก็กระหยิ่มวจีดิน
เพียงคิดประดิษฐ์ปิยกวิน...................นฤมลพินิจความ

(๕)สรรค์จินต์ประทิ่นประณุททุกข์............ฉมรุกข์วนางาม
สายชลตะวันรชนิยาม.......................ระบำร่ายสุธาหอม

๙ ต.ค. ๕๐ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2007, 09:07 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #27 เมื่อ: 23-10-2007, 11:08 »



(๑)สวนดอกไม้ใบแดงแต้มแต่งขาว................หอมระรื่นชื่นจาวหนาวแล้วหนอ
รอยยิ้มแย้มแซมพจน์บทพนอ........................ดนตรีคลอล้อลมห่มวนา

(๒)สุดสายตาพาเพลินเดินชมสวน..................รักอบอวลยวนใจในพฤกษา
เขียนลำนำคำหวานสราญตา.........................อัปสราพากล่อมถนอมดิน

(๓)จึ่งร้อยกรองครองขวัญฝันกวี....................ภาสุรีคลี่นวลหวนถวิล
สว่างพื้นชื่นบานม่านเมฆินทร์........................นครินทร์พิณพาทย์ระนาดไกล

(๔)เงียบสงัดหัดปลงตรงวนา.......................มาลัยอักษราพาสดใส
เป็นเพียงดินถิ่นรักสลักใจ.............................พจนัยใยถักจักกลอนกานท์

(๕)เทวาดลมนต์เรขเสกอักขระ......................วจนะประดับไพรได้สืบสาน
มนุษย์ดีที่บุญสุนทรการ...............................สิ้นลมปราณกาลล่วงพ้นบ่วงกรรม

(๖)สุจริตคิดชอบกอร์ปกุศล..........................มรรคผลดลจิตคิดคมขำ
หมั่นระลึกนึกรู้คู่คุณธรรม..............................สติจำคำร้อยถ้อยบวร

(๗)ก้มกราบลงตรงดินถิ่นสวรรค์.....................บังคมคัลพจนัตประภัสสร
มุ่งหทัยนัยนาคุณากร....................................ธราธรนบนอบน้อมวจี

(๙)เป็นเพียงดินถิ่นรักสวนอักษร....................รักกาพย์กลอนอ่อนหวานสราญศรี
รักขีดเขียนเพียรจดพจน์กวี...........................รักความดีมีกรรมย้ำใจกาย

(๑๐)หอมพฤษาป่าไพรเรไรร้อง.....................หรีดหริ่งก้องพร้องเพรียกเรียกสหาย
ลมรำเพยเชยชื่นรื่นสบาย..............................งามเพริศพรายรายล้อมห้อมนที

น้อมเศียรมหาราช......................ปิยะบาทพระจอมภพ
ประณมมโนจบ..........................พระคุณพ้นล้นแผ่นดิน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะฯ
ข้าพระพุทธเจ้า 

๒๓ ต.ค. ๕๐
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 13:05 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #28 เมื่อ: 28-10-2007, 01:37 »



ดอกหญ้าสีสวยนี้ จะขึ้นเต็มทุ่งนา หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วสัก 2-3 อาทิตย์
ชาวบ้านเรียก "ดอกขี้ควาย"


ดอกไม้เหลืองเรืองงามอร่ามตา..............ทุ่งชาวนาหญ้าทองยามส่องแสง
ชูช่อดอกหยอกล้อพ้อลมแรง.................พัดไกวแกว่งแข่งตะวันฝันเบิกบาน

สายแดดนวลสรวลเสเห่สบาย.................ดอกขี้ควายร่ายรำเพลงคำหวาน
รอยแย้มยิ้มอิ่มใจให้สราญ.....................ทิวาผ่านม่านดำย้ำนภา

เดือนสกาววาววับลับไศล......................ดอกหญ้าไหวใบรื่นชื่นหรรษา
ดาวกระพริบวิบแววแพรวธารา................งามจับตานาข้าวคราวร้างดิน

ครั้นอรุณอุ่นแสงแห่งสีทอง...................ทุ่งลำยองมองเพลินทั่วเนินหิน
พอตะวันผันไปในเมฆินทร์.....................ธรณินทร์ยินเสียงสำเนียงไพร

ดั่งกงเกวียนเวียนวนบนมรรคา................หอมวนาหญ้าควายความหมายไข
ธรรมชาติวาดแต่งสำแดงใจ...................บุญกุศลมั่นไว้ใฝ่กรรมดี

๒๗  ต.ค. ๕๐


บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #29 เมื่อ: 05-12-2007, 22:36 »


ทศพิธราชธรรม

ก้มกราบพระองค์ศิรภิวาท
ณ พระบาท ธ ภูมินทร์
ด้วยเดชพระคุณอตินรินทร์
กรุณาและเมตตา

ทรงศีลพิสุทธิ์จริยธรรม
สติล้ำประเสริฐ์หล้า
ทรงทานพระทัยปรมบา
รมิบุญอนันต์ผล

ทรงให้พระทรัพย์และบริจาค
บ่มิยาก ฤ ทุกข์ทน
ทรงสัจจ์ประพฤติกิรติยล
สุจริตกุศลงาม

ทรงอ่อนละมุนจิตะละไม
ลหุใจพยายาม
ทรงเพียรเสด็จอิทุรคาม
อุปถัมภ์ประชาไทย

ทรงนิ่งสงบอกุธะจิต
นิรมิตขจัดภัย
ทรงช่วยพสกนิกรให้
สุขกายลุทั่วแคว้น

ทรงมั่นมโนหทยเดช
ทุรเหตุปลาตแดน
ทรงตั้งพระองค์อมรแมน
ยุติธรรม บำเพ็ญพร

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

ราชธรรม ๑๐ ประการ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงบำเพ็ญมาโดยสม่ำเสมอ ได้แก่ ทาน ศีล บริจาค
ความซื่อตรง ความอ่อนโยน ความเพียร ความไม่โกรธ ความไม่เบียดเบียน ความอดทน และความเที่ยงธรรม
ราชธรรม ๑๐ ประการนี้เรียกว่า "ทศพิธราชธรรม"

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ 
ข้าพระพุทธเจ้า 

วันพ่อแห่งชาติ  ๕๐ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2007, 13:06 โดย ภูดินหอม » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #30 เมื่อ: 20-01-2008, 20:22 »




น้ำตาราษฎร์ท่วมท้น...............แผ่นดินไทยเอย
น้ำจากใจไหลริน....................ทั่วหล้า
น้ำแห้งเหือดหมดสิ้น...............พื้นแผ่นพสุธา
น้ำพร่างพรมฟากฟ้า................เปี่ยมล้นอาลัย

ขอน้อมระลึกพระกรุณา...................กลยาพระภูมินทร์
ขอกราบพระองค์พระรตนินท์...........ธสว่างสถิตย์แดน

ขอไหว้พระศรีกิรตินาม...................จิตงามลุทั่วแคว้น
ขอตั้งมโนจริยแทน.......................คุณถิ่นสุธาไท

ขอเทพอมร ณ ทิวสรวง..................วรข่วงประดับไว้
ขอทรงประทับปรมใจ.....................นครินทร์ พระมาตา

ขอธรรมประเสริฐผลกุศล................จยบุญและรักษา
ขอวิญญ์เสด็จสวรคา......................และเสวยนิรันดร

ขอส่งพระศพสุคติภพ.....................ศิรจบประนมกร
ขอข้าพระบาทปฐวิธร.....................อภิวาทพระเทวินทร์

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
๒ มกราคม ๒๕๕๑
๑๙.๓๙ นาฬิกา
บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #31 เมื่อ: 20-01-2008, 20:27 »




ใจพิศลิขิตวจนงาม.......................ก็อร่ามละลานตา
ใจผ่องผะแผ้วก็รจนา....................มธุพจน์มนัสจินต์

ใจยิ้มยะแย้มหสนรื่น....................จิตชื่นกระหยิ่มดิน
ใจรู้ประจักษ์คุณกวินทร์................ปิยถ้อยประจงเขียน

ใจรักสงบสถิรธรรม.....................ศุภกรรมประพฤติเพียร
ใจว่างละวางสติระเมียร...............จยบุญกุศลพูน

ใจน้อมระลึกพระปิตุเรศ................สิริเกศทวีคูณ
ใจดีอภัยก็บริบูรณ์......................ผลทิพย์สวรรค์สรวง

ใจแกร่งประหารทุรอธรรม..............มนกรรมขจัดลวง
ใจตื่นพินิจจริยบ่วง.....................ลุนิรันดร์พระนิพพาน

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
๑ มกราคม  ๒๕๕๑  เก้าโมงเช้า  สิบนาที</blockquote>

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2008, 13:16 โดย ภูดิน » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #32 เมื่อ: 18-07-2008, 00:42 »



เพ็ญเดือนแปดค่ำแล้ว...........บูชา
ตั้งสตินบธรรมา....................จิตน้อม
อริยสัจมัชฌิมา.....................รู้ตื่น   
สงบสมาธิพร้อม.....................กอบกู้   ชาติไทย

ประเทศไทยถิ่นนี้...................ศักดิ์สิทธิ์
ปกปักด้วยทศพิธ....................แห่งราช
บรรพบุรุษเนรมิต...................ดาบฟ้า
ชนจ่งใช้พิฆาต......................อริร้าย   ดับสูญ

(๑)แผ่นดินประเทศไทย...........สิร่ำไห้เพราะทุกข์ทน
น้ำตามหาชน............................อุระเลือดก็หลั่งริน

(๒)ยิ่งนานก็ยิ่งร้าว...................ปะทุกร้าวลุธานินทร์
ชาวเมืองจะทวงสิน.....................อภิสิทธิ์ทะเลทอง

(๓)ต่างชาติจะต่อตี..................ปฐพีจะครอบครอง
รุมทึ้งและรุมจ้อง.....................มรดก ณ ดินแดน

(๔)คนชั่วทุศีลสัตย์..................จะประหัตพระเมืองแมน
ขายชาติและขายแคว้น.............ก็จะขายเพราะใจทราม

(๕)ปราสาทพระวีหาร...............สระสนานระบือนาม
นำมาขยายความ.......................ขรกรรมเพราะเมามัว

(๖)เห็นแก่ประโยชน์ตน..........ทุรชนประณามตัว
บาปกรรมมิเกรงกลัว...............วิยะสัตว์นรกภัย

(๗)สิ้นคิดก็สิ้นชาติ.................ลุอำนาจอนาถใจ
สิ้นสูญประชาไทย..................ก็เพราะคนระบอบแมว

(๘)สีเหลืองและเลือดแดง.......พลแกร่งตลอดแนว
ธงไทยสะบัดแล้ว....................อภิวัฒน์ตุลาการ

(๙)น้อมเศียรพระจอมภพ........สิริจบพระภูบาล
ขอเทพ ธ บันดาล.....................นิรทุกข์ประเปี่ยมบุญ

อินทรวิเชียรฉันท์   
๑๗   ก.ค. ๕๑


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2008, 18:35 โดย ภูดิน » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #33 เมื่อ: 21-08-2008, 10:03 »

นักรบใด   ใจมั่น   พลันเริงร่า......................ถ้วนทหาร   ปรารถนา   เป็นเช่นเขา
สู้สุดฤทธิ์  ในกิจ   ทั้งหนักเบา....................ยอมรับเอา   ด้วยมโน   อันโอฬาร์

เป็นเกลอกับ   ทุกข์กล้า   แสนสาหัส............อันตราย    สารพัด   ไม่หน่ายหน้า
ถึงขามจิต       โลหิตซับ  กับสุธา................ใจเย็นได้  ไม่ว้า    หวั่นพวง

แลเห็นความ  ลำเค็ญ เป็นประโยชน์..............อันช่วงโชติ   ชวลิต   น่าพิศวง
ตั้งจิตไว้  ไม่พรั่น   ด้วยมั่นคง......................และอาจอง   ทะนงรัก   แห่งศักดิ์ตน

ไม่ยอมลด   กายใจ   ให้ต่ำต้อย..................เพื่อจะคอย   ตวงตัก   แม้สักหน
ซึ่งยศศักดิ์   อัครฐาน  ศฤงคารตน................หมายเทิดผล   คือความดี   ที่ศรัทธา

กฎอันใด   แม้วางไว้  ในยามสงบ.................ปองเคารพ   ชูเชิด   ให้เจิดจ้า
ดำเนินตาม   ที่เห็นชัด  ในหัทยา..................ว่าเป็นภา-ระเลิศ    ประเสริฐจริง

วิลเลียม  เวิร์ดส์เวอร์ธ

บนพระราชานิพนธ์แปลเรื่อง  นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ


ขอน้อมเคารพนักรบไทยทุกสาขาอาชีพที่ต่อสู้กับอำนาจอธรรมในแผ่นดิน
ธรรมะย่อมชนะอธรรม

 

กลุ่มบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน  ทรัพย์สินเงินทองเพื่อตนเอง  และ
นักเลือกตั้งระบอบแม้วจักต้องพินาศย่อยยับทั้งตนเองและวงศ์ตระกูล


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2008, 10:05 โดย ภูดิน » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
ภูดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 232


Where the mind is freedom


« ตอบ #34 เมื่อ: 01-10-2008, 08:15 »



ขอแผ่นดิน

(๑)น้ำตาเลือดเหือดแห้งแล้งถิ่นไทย.....................เหตุไฉนใจคนอับจนนัก
ประโยชน์ตนปล้นซื้อถือยศศักดิ์............................มันตวงตักมักง่ายนายชูชก

 (๒)แล้วหัวใจไทยทั้งชาติก็พังภินท์......................น้ำตารินสิ้นสะอื้นกลืนในอก
แผ่นดินร้องก้องฟ้าท้านรก..................................นักเลือกตั้งคางคกมันขึ้นวอ

(๓)มันเหยียบย่ำซ้ำซากพวกลากตั้ง.......................มันมานั่งสั่งเปรตเศษเหลือขอ
มันฉ้อฉลปล้นชาติ ทาสสอพลอ............................คดในข้องอกระดูกมูกมากมาย

(๔)แต่ความดีที่ประจักษ์รักชาติไทย......................ด้วยหัวใจในศาสน์กษัตริย์หมาย
ด้วยชีวิตจิตพร้อมนอบน้อมกาย.............................เราคนไทยหญิงชาย “ ขอแผ่นดิน”

(๕)ขอคนไทยในแหลมทองครองศีลธรรม.................ขอคนไทยใฝ่กรรมนิจศิล
ขอคนไทย รู้-ตื่น-เป็นอาจิณ.................................ขอให้ดินถิ่นอมรคือเมืองแมน

(๖)แล้วปวงชนคนกล้าก็ท้าทาย...........................ใจและกายรู้ตื่นเป็นหมื่นแสน
ต่างมุ่งมาต่อสู้กู้ดินแดน......................................เพื่อตอบแทน แทนคุณแผ่นดินฟ้า

(๗)ประชาราษฎร์ คืออำนาจ ประกาศก้อง................ตามครรลอง ของชาติ ศาสนา
ตามวิถีแห่งธรรมกษัตรา.....................................คือ รหัสสัมมามรรคาใจ

(๘)อรุณรุ่งพรุ่งนี้มีความหวัง................................เป็นพลังตั้งมั่นอันสดใส
“ความพอเพียง” รากฐานอธิปไตย.........................การเมืองใหม่ ให้ประชา-อภิวัตน์

(๙) แผ่นดินฟ้า จะประกาศ อำนาจธรรม..................กุศลกรรมย้ำรอยองค์กษัตริย์
ประชาชนฝนใจให้ประภัสส์.................................คือซื่อสัตย์สุจริตเป็นธรรมดา

๑ ตุลาคม ๒๕๕๑

การเมืองใหม่ เพื่อแผ่นดินใหม่ ชาวถิ่นศิวิไลซ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-10-2008, 11:00 โดย ภูดิน » บันทึกการเข้า

The silkworm  weaves  its  cocoon  and  stays  inside, therefore  it is  imprisoned;
the  spider  weaves  its  web  and  stays  outsides, therefore  it  is  free. (chinese proverb)

ตัวไหมชักใยไหม  แล้วอยู่ในรังไข่  จึงถูกจองจำ
แมงมุมชักใยแล้วอยู่ภายนอก  จึงเป็นอิสระ
(กรุณา กุศลาสัย ..."คำคมบ่มชีวิต")
หน้า: [1]
    กระโดดไป: