ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 12:42
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  \*!*/ เศรษฐกิจกำลังพังย่อยยับ คนกำลังจะตกงาน ต่อไปชาวบ้านจะมีกินมั้ย \*!*/ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
\*!*/ เศรษฐกิจกำลังพังย่อยยับ คนกำลังจะตกงาน ต่อไปชาวบ้านจะมีกินมั้ย \*!*/  (อ่าน 1509 ครั้ง)
ภัทร
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 581


เว็บไซต์
« เมื่อ: 12-01-2007, 18:46 »

เศรษฐกิจก็กำลังพังทลายไปเรื่อยๆ ล่าสุดก็

ญี่ปุ่นชะลอแผนลงทุนในไทยระยะ5ปี

Bangkokbiznews 12 มกราคม 2550 15:46 น.

นายทัตซึ จิ บันโน ประธานหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (JCC) เปิดเผยภายหลังประชุมหารือร่วมกับ นายโยอิชิ คาโต ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(เจโทร) และนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เกี่ยวกับปัญหาและสถานการณ์ต่างๆที่มีผลต่อการลงทุนในไทย วานนี้(12 ม.ค.) ว่า นักลงทุนญี่ปุ่นเตรียมชะลอหรือยกเลิกการลงทุนตามแผนระยะยาว ที่จะกำหนดขยายลงทุนใหม่ใน 5 ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้นอย่างต่อเนื่องในไทยนับ ตั้งแต่มีการยึดอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549 จนถึงเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ หลายจุด และ การออกมาตรการของรัฐบาล

โดยเฉพาะมาตรการป้องกันเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น ที่ต้องกันสำรอง 30%ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นในไทย โดยเหตุระเบิดมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นมากที่สุด เนื่องจากมีผลต่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินโดยตรงของประชาชนคนไทยและตัวนักลงทุนญี่ปุ่นเอง ทั้งนี้การลงทุนระยะสั้นและระยะกลางภายใน 3 ปี ยังไม่กระทบ นักลงทุนญี่ปุ่นคงเดินหน้าลงทุนต่อไป เนื่องจากได้กำหนดแผนที่จะลงทุนที่ชัดเจนไปแล้ว


ส่วนนักลงทุนญี่ปุ่นรายใหม่ ที่ยังไม่เคยเข้ามาลงทุนในไทย คงตัดสินใจชะลอการลงทุนออกไปก่อน เพื่อประเมินทิศทางและสถานการณ์ในการลงทุน เนื่องจากยังกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเหตุการณ์ระเบิด ที่ขณะนี้จะยังไม่มีเหตุระเบิดซ้ำอีกก็ตาม

source : http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5041908/P5041908.html

************

นี่ก็เป็นแผนเศรษฐกิจพอเพียง ใช่มั้ยครับ !?
บันทึกการเข้า

พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น

http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdf

แค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
ภัทร
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 581


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 12-01-2007, 22:48 »

ธปท. แจ้งเงินทุนสำรอของชาติ ลดลง

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5041617/P5041617.html
บันทึกการเข้า

พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น

http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdf

แค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
ภัทร
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 581


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 12-01-2007, 22:50 »

............ วันนี้เห็นคนที่คลองถม บ่นกันใหญ่ว่าขายของไม่ค่อยดี

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5042748/P5042748.html
บันทึกการเข้า

พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น

http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdf

แค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #3 เมื่อ: 13-01-2007, 00:24 »

PANTIP PANTIP PANTIP อ่านอยู่บอร์ดเดียวหรือไงจ๊ะ รีบหลามาปะไว้ถึงนี่
ใหนๆมาแล้ว อย่าลืมอ่านนี่นะ
 http://forum.serithai.net/index.php?topic=10000.0
แลกกันไง
 
บันทึกการเข้า
somwang
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 138


« ตอบ #4 เมื่อ: 13-01-2007, 02:12 »

............ วันนี้เห็นคนที่คลองถม บ่นกันใหญ่ว่าขายของไม่ค่อยดี

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5042748/P5042748.html

เปลี่ยนชื่อเหอะ
บันทึกการเข้า

ตราบใดที่คนไทยยังมีพิธีจับปอบ ขูดต้นไม้ขอหวย หรือ กราบไหว้เจลลดไข้ ตราบนั้นคนไทยก็ยังได้ทักษิณเป็นนายกฯ
ภัทร
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 581


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 18-01-2007, 15:28 »

แทรกแซงเงินจนหน้ามืด ธปท.ขาดทุนบักโกรก 3 แสนล้าน ธาริษาบอกเป็นวงเงินที่น้อยมาก
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5058460/P5058460.html


เตรียมตัวกันไว้ให้ดีดีนะครับ เค้าลางอะไรมันเริ่มออกมาเรื่อยๆแล้ว จากการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพและไม่มีความรับผิดชอบ สถานการณ์การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เหมือนกับตอนนั้นไม่มีผิด เตรียมตัว รับสถานการณ์กันไว้นะครับ ช่วงนี้อย่าเป็นหนี้ดีที่สุด เพราะว่าช่วงที่เกิดวิกฤตตอนปี 40 นั้นแย่มากๆ ไม่อยากเห็นใครต้องลำบากแบบนั้น นี่ขนาดผิดพลาดขนาดนี้ คนที่รับผิดชอบยังไม่รู้สึกตัวอะไรเลยน้า

อย่าโยนความผิดไปให้ใครอีกละงานนี้  Wink

************************

แปลกนะ เงินทุกสำรองเยอะขนาดนั้น ใครเป็นคนหามาให้ใช้เรอะ ^_^

'ธปท.' ขาดทุนบักโกรก 3 แสนล้าน [18 ม.ค. 50 - 04:45]
http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=33844

ธปท.ยอมรับเศรษฐกิจปี 50 วูบ [18 ม.ค. 50 - 04:42]
http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=33842
บันทึกการเข้า

พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น

http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdf

แค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
555555555555
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 309



« ตอบ #6 เมื่อ: 18-01-2007, 15:55 »

แทรกแซงเงินจนหน้ามืด ธปท.ขาดทุนบักโกรก 3 แสนล้าน ธาริษาบอกเป็นวงเงินที่น้อยมาก
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5058460/P5058460.html


เตรียมตัวกันไว้ให้ดีดีนะครับ เค้าลางอะไรมันเริ่มออกมาเรื่อยๆแล้ว จากการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพและไม่มีความรับผิดชอบ สถานการณ์การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เหมือนกับตอนนั้นไม่มีผิด เตรียมตัว รับสถานการณ์กันไว้นะครับ ช่วงนี้อย่าเป็นหนี้ดีที่สุด เพราะว่าช่วงที่เกิดวิกฤตตอนปี 40 นั้นแย่มากๆ ไม่อยากเห็นใครต้องลำบากแบบนั้น นี่ขนาดผิดพลาดขนาดนี้ คนที่รับผิดชอบยังไม่รู้สึกตัวอะไรเลยน้า

อย่าโยนความผิดไปให้ใครอีกละงานนี้  Wink

************************

แปลกนะ เงินทุกสำรองเยอะขนาดนั้น ใครเป็นคนหามาให้ใช้เรอะ ^_^

'ธปท.' ขาดทุนบักโกรก 3 แสนล้าน [18 ม.ค. 50 - 04:45]
http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=33844

ธปท.ยอมรับเศรษฐกิจปี 50 วูบ [18 ม.ค. 50 - 04:42]
http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=33842

อยากบอกไอ้ควายตัวนี้จริงๆว่า นี่ยังไม่หมดไตรมาสแรกเลยนะไอ้เวร มึงจะมาเห่าหาห่าอะไรตอนนี้วะ ไหนลองวิเคราะห์มาให้ฟังหน่อยสิว่าทำไม ต่างชาติจึงต้องการชะลอการลงทุน หรือ เกิดการลดลงของความเชื่อมั่นในการลงทุน ลองอธิบายมาสิวะ เห็นเห่าอยู่ได้รำคาญโว้ย แล้วมันเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงตรงไหนว่ามาไอ้เวร  แล้วลองยกตัวอย่างแนวทางแก้ไขหน่อยสิ ไอ้บ้า ทนไม่ไหวว่ะกับพวกที่ไม่รู้เรื่องอะไรแต่หวังจะดิสเครดิตอย่างเดียวเนี่ย ไปหลอกควายไป ชิ๊วๆ ที่นี่ไม่มีควายให้หลอกโว้ย ไอ้เกรียน
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #7 เมื่อ: 18-01-2007, 19:09 »

ตอนนี้ลิ่วล้อทุยรักทุยดิ้นพล่านนนน ออกอาการตามหัวหน้าฝูง  Mr. Green....วันนี้สกู๊ปหน้า 1 ไทยรัฐหันมาเปิดประเด็นความหลอกลวงอีกหนึ่งนโยบายของทุยรักทุย

==============================================================================================

เรียนฟรี..12 ปี มีจริงซะที่ใหน? [18 ม.ค. 50 - 18:30]
 
“เมื่อก่อนไม่มีนโยบายเรียนฟรี ค่าเทอมลูกถูกเก็บครั้งเดียวจบ พอรัฐบาลมีนโยบายเรียนฟรี 12 ปี แต่ฟรีไม่จริง หลอกลวง ไม่รู้ว่าฟรีอะไร”
“เก็บจุกจิก แถมบังคับให้ซื้อทั้งหนังสือ สมุดจากโรงเรียน ค่าเรียนเสริม ครูมัดมือชก ไม่เรียนก็ไม่ได้ เราคนทำนาหาเช้ากินค่ำ ไม่มีความรู้ พอที่จะสอนลูกได้ ต้องกู้เงิน 2 หมื่นบาท เพื่อให้ลูกได้เรียนหนังสือ”

คำบอกเล่าของผู้ปกครองคนหนึ่งจากจังหวัดพะเยา สะท้อนความเจ็บปวดของคนเดินดินกินข้าวแกง มีลูกอยู่ในวัยเรียน ที่รอความหวัง ความจริงใจจากผู้มีอำนาจวาสนาได้เป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมือง หันมาสนใจแก้ปัญหาเสียที

นี่คือปัญหาที่ชาวบ้านทั้งระดับรากหญ้าและรากแก้วมองว่า น่าจะได้รับการขจัดปัดเป่าเร่งด่วน ยิ่งกว่านโยบายอัญเชิญมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

นี่คืออีกหนึ่งผลงานอมตะที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ฝากไว้กับแผ่นดิน

เรียนฟรี 12 ปี ไม่เป็นจริง...แถมยังทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากกว่า

ไม่ใช่คำกล่าวหาเลื่อนลอยไร้หลักฐาน หากแต่เป็นรายงานข้อเท็จจริงที่ได้จากงานวิจัยเรื่อง “ผลกระทบของค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาต่อการศึกษาต่อของเยาวชนไทย” โดย ดร.วิโรจน์ ณ ระนอง และทีมงานจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)

โดยการสนับสนุนของมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

นับตั้งแต่มีการเริ่มใช้นโยบายเรียนฟรี 12 ปี มาตั้งแต่ปี 2546 โดยหลักการแล้วนโยบายนี้ น่าจะมีส่วนช่วยให้คนไทยเสียค่าใช้จ่ายเรื่องการศึกษาน้อยลง

แต่ผลลัพธ์...กลับตรงข้าม

คนไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาเพิ่มมากขึ้น

เห็นได้จากการนำข้อมูลการสำรวจเด็กและเยาวชน ปี 2545 มาเปรียบเทียบกับผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมครัวเรือน ปี 2547 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ

เพื่อดูว่าก่อนมีนโยบายเรียนฟรี 12 ปี กับหลังมีนโยบายนั้นคนไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาต่อคนต่อปีเท่าไร

ปรากฏว่า ปี 2545 ก่อนมีนโยบายเรียนฟรี ค่าใช้จ่ายด้านค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเรียนพิเศษและค่าใช้จ่าย ของเด็กระดับ ม.ต้น ของโรงเรียนรัฐบาล จะอยู่ที่ 1,916 บาท ต่อคนต่อปี

ค่าใช้จ่าย ม.ต้นของโรงเรียนเอกชน อยู่ที่ 7,992 บาทต่อคนต่อปี

แต่หลังจากมีนโยบายเรียนฟรี ปี 2547 ค่าใช้จ่ายของเด็ก ม.ต้น โรงเรียนรัฐบาลเพิ่มขึ้นมาเป็น 2,580 บาท...เพิ่มขึ้น 34.7%

ส่วนค่าใช้จ่ายของเด็ก ม.ต้น โรงเรียนเอกชน เพิ่มขึ้นมาเป็น 10,695 บาท...เพิ่มขึ้น 33.8%

และถ้ามองโดยภาพรวม ค่าใช้จ่ายการเรียน 3 ระดับ ม.ต้น, ม.ปลาย และ ปวช. ก็พบว่า หลังมีนโยบายเรียนฟรี ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนเอกชนหรือโรงเรียนของรัฐ เด็กต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น

และที่ไม่น่าเชื่อนั่นก็คือ นโยบายเรียนฟรี ทำให้ครอบครัวที่มีเด็กเรียนในโรงเรียนของรัฐ ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ในอัตราที่สูงกว่าโรงเรียนของเอกชนถึงเท่าตัว!


ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย ม.ต้น, ม.ปลาย และ ปวช. ของโรงเรียนรัฐในปี 45 อยู่ที่ 3,061 บาทต่อคนต่อปี...ปี 2547 ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาเป็น 3,569 บาท

เพิ่มขึ้นมา 16.6%

ส่วนโรงเรียนเอกชน ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสืออุปกรณ์การเรียนเฉลี่ยทั้ง 3 ระดับ เมื่อปี 45 อยู่ที่ 10,379 บาทต่อคนต่อปี...ปี 47 เพิ่มขึ้นเป็น 11,160 บาท

หรือเพิ่มขึ้นมา 7.5%

เหตุผลที่นโยบายเรียนฟรี ได้ผลลัพธ์แบบกลับตาลปัตรเช่นนี้ ดร.วิโรจน์ ชี้ว่ามาจากปัญหาการจัดสรรงบประมาณลงไปไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของโรงเรียน

“จะว่าไปแล้วนโยบายเรียนฟรี 12 ปี มีปัญหาไม่ต่างจากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ที่มีปัญหาเรื่องการจัดสรรงบประมาณลงไปไม่เพียงพอ

แต่ปัญหา 30 บาท จะดีกว่าในแง่ผู้อยู่ในแวดวงการรักษาพยาบาล มีการประชุมหารือเรียกร้อง ให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณให้เพียงพอกับความเป็นจริงมาโดยตลอด

ส่วนนโยบายเรียนฟรี 12 ปี ผู้ที่อยู่ในแวดวงการศึกษากลับไม่ได้ มีการเจรจาเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด”

สาเหตุที่ผู้อยู่ในแวดวงการศึกษา ไม่ได้สนใจแก้ปัญหาให้นโยบายเรียนฟรี ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับคนไทยจริง คณะผู้วิจัยพบว่า...มีการนำพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตีความแบบศรีธนญชัย

เพื่อให้โรงเรียนสามารถหารายได้อื่นๆ นอกเหนือจากงบประมาณอุดหนุนปกติจากรัฐบาลมาใช้ได้

เนื่องจากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ในหมวด 8 เรื่อง ทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา ในมาตรา 58 ได้บัญญัติไว้ว่า...

ให้มีการระดมทรัพยากรและการลงทุนด้านงบประมาณ การเงิน และทรัพย์สินทั้งจากรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชนเอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ สถาบันสังคมอื่น และต่างประเทศมาใช้จัดการศึกษา ดังนี้

(1) ให้รัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา โดยอาจจัดเก็บภาษีเพื่อการศึกษาได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

(2) ให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น ระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา โดยเป็นผู้จัดและมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา บริจาคทรัพย์สิน และทรัพยากรอื่นให้แก่สถานศึกษา และมีส่วนร่วมรับภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษาตามความเหมาะสมและความจำเป็น

ทั้งนี้ ให้รัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งเสริมและให้แรงจูงใจในการระดมทรัพยากรดังกล่าว โดยการสนับสนุน การอุดหนุนและใช้มาตรการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีตามความเหมาะสม และความจำเป็น ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

“ถ้ามองจากเป้าหมายของการให้เด็กได้เรียนฟรี เจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาฉบับนี้ ความหมายของการให้มีการระดมทรัพยากรจากที่อื่นๆได้ ก็น่าจะระดมมาเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ที่โรงเรียนมีสิทธิได้รับการช่วยเหลือ หรือขอรับบริจาคจากชุมชน องค์กรอื่นๆได้

แต่ปรากฏว่า กระทรวงศึกษาธิการกลับตีความคำว่า ระดมทรัพยากรไปในทำนอง ให้โรงเรียนสามารถออกกฎระเบียบให้เก็บเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าเล่าเรียนได้”

ผลจากการตีความแบบศรีธนญชัยของกระทรวงศึกษาธิการ งานวิจัยของ ดร.วิโรจน์ พบว่า เป็นตัวการที่ทำให้นโยบายเรียนฟรี 12 ปี มีการ “ระดมทรัพยากร” หรือหาเงินรายได้พิเศษ เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจุกจิกจิปาถะจากทางผู้ปกครองมากขึ้น...

มากกว่าก่อนมีนโยบาย...เรียนฟรี

มีการเรียกเก็บเพิ่มกันตั้งแต่ ค่าเครื่องแต่งกาย, ค่าชุดพละ, ค่าหนังสือ, ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าสมุดตราโรงเรียน, กระเป๋าตราโรงเรียน, ค่าบำรุงโรงเรียน, ค่าอาหาร, ค่าห้องคอมพิวเตอร์, ค่าคอมพิวเตอร์, ค่าอินเตอร์เน็ต, ค่าสระว่ายน้ำ

โรงเรียนบางแห่งยังมีการเก็บค่าทำความสะอาดห้องน้ำ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเรียนพิเศษที่จ้างครูพิเศษมาสอนในเวลาปกติ

เลยเป็นคำตอบ...ทำไมนโยบายเรียนฟรี ถึงเป็นเรื่องหลอกลวง

กระนั้นก็ตาม ที่ผ่านมา งบประมาณไม่เพียงพอ...แต่ปีนี้ รัฐบาลใหม่สไตล์ ขิงแก่ ได้เพิ่มงบประมาณให้กับกระทรวงศึกษาธิการมากเป็นพิเศษ เพิ่มขึ้นมา 5 หมื่นกว่าล้าน เป็น 2.8 แสนล้านบาท...ได้มากกว่าทุกกระทรวง

หวังว่า งบประมาณที่เพิ่มขึ้น จะได้ถูกจัดสรรให้นโยบายเรียนฟรี 12 ปีได้เป็นจริง...ไม่ใช่ปล่อยให้โรงเรียนหากิน “ระดมทรัพยากร” แบบศรีธนญชัยเหมือนที่ผ่านมา.

http://thairath.co.th/news.php?section=hotnews02&content=33772
 
 
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #8 เมื่อ: 18-01-2007, 19:19 »

โถ น่าสงสาร อยากให้ประเทศพินาศถึงขนาดนั้นเชียวหรือ ไม่สำเร็จหรอกค่ะ

การผลักดันแรงงานกลับสู่ชนบท เป็นแนวทางหนึ่งของการอยู่รอดในอนาคต ขณะนี้ระบบทุนนิยมกำลังถึงวาระสุดท้าย มันเหมือนการถล่มของปราสาททราย ที่จะรุนแรงและรวดเร็ว หากเราไม่ตั้งรับไว้ นั่นแหละเราจะพินาศ

คนไทยหรือคนชาติไหนๆในโลก กินอาหารค่ะ ไม่ได้กินทุน  ขาดคนมาลงทุน ไม่อดตายค่ะ ขาดอาหารสิคะ อดตาย

ประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ หากไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม หรือในอดีตก็ไม่เคยมี เราอยู่กันได้อย่างอิ่มหนำสำราญ แต่เมื่อมีการลงทุน มลภาวะก็ทำลายสิ่งแวดล้อม จนเราเองนั่นแหละจะไม่มีกิน

ญี่ปุ่น ฝรั่ง ไม่มาลงทุน นั่งหมายถึงประเทศของเราจะพ้นจากแอกของนายทุน และนักลงทุนหน้าโง่ที่ผลัดเปลี่ยนกันมาบริหารประเทศ  เรื่องอย่างนี้ กระบือเหลี่ยมมันไม่เข้าใจ การผลังดันแรงงานเข้าระบบอุตสาหกรรม คือการทำลายอนาคตการอยู่รอดของคนเหล่านั้น ส่งเขาไปเป็นแรงงานทาส รอวันเวลาที่นายจ้างจะพิจารณาว่า ชักจะแก่ไปแล้ว ไล่มันออกไปอดตาย  นั่นแหละ อนาคตของผู้ใช้แรงงาน

ไม่มีโรงงาน ไม่มีการลงทุน ผู้ใช้แรงงานกลับสู่ชนบท เป็นผู้ผลิตอาหาร สิ่งที่สำคัญที่สุดของโลก อายุมากเท่าไหร่ ก็มีกิน ไม่อดตาย ไม่มีใครไล่ออก

เว้นแต่ให้ไอ้เหลี่ยมกลับมา อนาคต เราต้องสั่งข้าวเป็นสินค้าเข้า แล้วก็อดตาย 
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #9 เมื่อ: 18-01-2007, 19:45 »

ถ้าคุณภัทรอยากจะแจกลิ้งกรุณาไปตั้งกระทู้ใหม่แล้วใส่ลิ้งค์เข้าไปซัก2-3 พัน เลย อย่าเอาเรื่องที่มันไม่เกี่ยวกับกระทู้ไปใส่ไว้ในกระทู้คนอื่น มันทุเรศมาก ๆ ผมเห็นหลายกระทู้แล้ว ถ้ามีคนไปทำอย่างนี้ที่ราชดำเนิน ผมว่าโดนแบนไปแล้ว ขอให้ WM กรุณาดูแลด้วยครับ

http://forum.serithai.net/index.php?topic=10772.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2007, 19:51 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 18-01-2007, 22:39 »

ถ้าคุณภัทรอยากจะแจกลิ้งกรุณาไปตั้งกระทู้ใหม่แล้วใส่ลิ้งค์เข้าไปซัก2-3 พัน เลย อย่าเอาเรื่องที่มันไม่เกี่ยวกับกระทู้ไปใส่ไว้ในกระทู้คนอื่น มันทุเรศมาก ๆ ผมเห็นหลายกระทู้แล้ว ถ้ามีคนไปทำอย่างนี้ที่ราชดำเนิน ผมว่าโดนแบนไปแล้ว ขอให้ WM กรุณาดูแลด้วยครับ

http://forum.serithai.net/index.php?topic=10772.0

ที่สำคัญ ผมไม่มี Login ของ 1000 ทิพย์ เลยเข้าไม่ได้

อ่านไม่ได้ว่ะ 555
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
WATERMAN
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 161


« ตอบ #11 เมื่อ: 18-01-2007, 23:24 »

ก็เข้าแต่พันทึบ ให้ลิ่วล้อแม้วหลอกอยู่ได้ มันถึงได้ ปญอ. หัดออกนอกกะลามาเปิดหูเปิดตาซะบ้าง เผื่อจะฉลาดขึ้นมาบ้างนะภัทร
บันทึกการเข้า
A-NOY
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 546


« ตอบ #12 เมื่อ: 19-01-2007, 09:03 »

 
บันทึกการเข้า

A-NOY
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #13 เมื่อ: 19-01-2007, 10:01 »

แสดงให้เห็นชัดใสกิ๊งว่าฝ่าย PT ล้วนแล้วแต่นำสิ่งดีๆและสร้างสรรค์มาเผยแพร่ด้วยปัญญาล้วนๆ ในขณะที่ฝ่าย AT เอาแต่ความรู้สึกส่วนตัวด่าหยาบโลนเพื่อความสะใจตัวเองล้วนๆ

หนึ่งคำถามที่ทุกคนต้องตอบให้ได้ก็คือ ณ เวลานี้มีข่าวดีอะไรบ้างสำหรับคนไทย!?!
บันทึกการเข้า
ภัทร
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 581


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 21-01-2007, 14:12 »

got it
บันทึกการเข้า

พวกเราต้องได้รู้ความจริงความเป็นไปทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่แค่จากสื่อเพียงด้านเดียวเท่านั้น

http://www.geocities.com/morrowind2545/Politics/Map.pdf

แค่ขอให้ลองอ่านดู แต่อย่าพึ่งเชื่อ ให้พิจารณาด้วยตนเองก่อน แล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย จากนั้นถ้ารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ช่วยๆกันน้ำไฟล์ map.pdf นี้ เผยแพร่ไปเรื่อยๆเพื่อให้เพื่อนๆทุกท่านได้อ่านกันอย่างทั่วถึง ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: