พี่ครับ....
ครูจูหลิง ปงกันมูล หรือครูจุ้ย ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ไกลถึงจังหวัดเชียงราย แต่เพราะความเชื่อว่า เราเป็นคนดี ไม่ทำร้ายใคร มั่นใจว่าคงไม่มีใครมาทำร้าย ทำให้เธอตัดสินใจไปเป็นครู ไปเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ไปเป็นแสงเทียนน้อยๆ ให้กับเด็กๆ ที่นราธิวาส ..... เสียชีวิตแล้วนะครับ
ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่พวกพี่ๆ รุมทำร้ายกัน อย่างทารุณ อย่างไร้เมตตา อย่างไร้มนุษยธรรมนั่นแหละครับ พี่ๆรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ...สาสมใจ...ดีใจ...เสียใจ...หดหู่ใจ....เศร้าโศก...เกลียดชังตัวเอง หรือการกระทำของตัวเอง..
ใครหรืออะไร .... ทำให้พี่ๆคิดกันได้ว่า การรุมทำร้ายคนที่อ่อนแอกว่า คนที่เสียสละ ความสุขส่วนตัว คนที่เชื่อใจคนอื่นอย่างสนิทใจ คนที่เชื่อว่าเราไม่ทำร้ายใคร คงไม่มีใครทำร้ายเราอย่างเต็มหัวใจ ได้ลงคอ .... ได้อย่างไม่สะทกสะท้าน...ครับพี่
ผมอยากถามพี่ว่า....วินาทีที่พี่ๆลงไม้ลงมือ ทำร้ายครูจุ้ย....หัวใจของพี่.....ความรู้สึกของพี่เป็นอย่างไร .... แล้ววินาทีที่พี่ๆ รู้ว่าครูจุ้ยบาดเจ็บสาหัส...จนถึงวินาที ที่เธอสิ้นลมหายใจ .... หัวใจของพวกพี่ๆ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ....
ผมไม่รู้ว่าจะต้องมีอีกกี่หยดเลือด ต้องมีอีกกี่หยาดน้ำตา ต้องมีอีกกี่ชีวิต อีกกี่ศพ พี่ๆถึงจะหยุด ... ถึงจะพอ .... ถึงจะเลิกใช้ความรุนแรง...ถึงจะเลิกทำร้ายผู้บริสุทธิ์....และต้องมีอีกกี่เหตุการณ์ .... ที่จะทำให้พี่ๆกล้าหาญพอ .... ที่จะออกมาแสดงตัว...
ความกล้าหาญของพี่ๆ วัดกันที่ไหนครับ ....ตรงที่กล้าทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้
ตรงที่แอบไปวางระเบิด .... แต่ที่แน่ๆ ความกล้าหาญของพวกพี่ๆ ไม่ใช่การกล้าที่จะออกมารับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำขึ้นแน่ๆ
ผมเชื่ออย่างเต็มหัวใจเลยครับว่า พี่ๆต้องไม่ใช่คนนราธิวาส ไม่ใช่คนใต้และไม่ใช่คนไทย...ผมขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆนะครับ ผมจะได้เกลียดพี่ๆได้เต็มหัวใจ
ผมไม่ได้เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นเพื่อยั่วยุ ...เพื่อเหยียบย่ำ...ซ้ำเติม..เพื่อถากถางอะไรหรอกนะครับ ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นด้วยความเสียใจ ... เพื่อระลึกถึงความดีของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ... และถ้าจะเป็นไปได้...ก็เพื่อถามหาความยุติธรรมให้กับ...ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีน้ำใจ มีความรัก มีความกล้าหาญ....และมีหัวใจอันแสนบริสุทธิ์...คนหนึ่งเท่านั้นเองละครับ