พล.อ.ธรรมรักษ์เตือนเหตุบึ้มกรุง อย่าตัดประเด็นไฟใต้ทิ้ง
5 มกราคม 2550 08:04 น.
"ธรรมรักษ์"เตือนเหตุบึ้มกรุงอย่าตัดประเด็นไฟใต้ทิ้ง เผยข่าวกรองเคยแจ้ง "ยุทธการฮารีรายอห์"ก่อนถูกยึดอำนาจ หวั่นผู้ก่อเหตุเหิมคาร์บอมส์ เชื่อการเมืองไม่น่าทำกันถึงตาย ประณามใครทำเลวบัดซบ หนุนฟื้นศอ.บต. บอกอึดอัดรัฐบาลทักษิณสั่งยุบ
พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้วิเคราะห์สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศไทยภายหลังเหตุระเบิด 8 จุดในพื้นที่ กทม.เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายว่า เท่าที่ดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วคิดว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่ก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะก่อนที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะถูกยึดอำนาจ ตนในฐานะที่ดูแลข่าวกรองมาโดยตลอดได้รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้จะขึ้นมาก่อเหตุในพื้นที่ กทม.
ทั้งนี้ข่าวกรองยังได้ระบุว่าจะมีการก่อเหตุที่ชุนชนโดยเฉพาะจุดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเปลี่ยนวิธีการจุดระเบิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือมาเป็นใช้นาฬิกาตั้งเวลาแทน ภายใต้ยุทธการ "บุญฮารีรายอห์" ซึ่งตรงกับวันอีดอีดิ้ลอัดฮาห์ของชาวมุสลิม
"เมื่อเกิดเหตุผมยังสะดุ้ง เพราะมันตรงกับการข่าวกรองที่แจ้งมาก่อนหน้านี้ การกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายอำนาจรัฐและแสดงศักยภาพไปยังต่างประเทศ ให้เห็นว่าประเทศไทยมีการต่อสู้ที่รุนแรงเกิดขึ้น ผมเชื่อว่าถ้าเป็นเรื่องการเมือง นักการเมืองคงไม่ทำกันถึงตาย ไม่มีมนุษย์ที่ไหนเขาทำกัน การเมืองถ้าทำกันถึงขนาดนี้ก็บัดซบ เลวมาก และไม่ว่าใครจะทำก็ตาม หากกระทำกับประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็ต้องประณาม ซึ่งเวลานี้ทุกคนก็ร่วมประณามกันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่ากลัวมากในเวลานี้มันอาจทำรุนแรงถึงขั้นคาร์บอมส์" อดีต รมว.กลาโหม กล่าว
พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวอีกว่า แต่การที่รัฐบาลออกมาสรุปว่าเป็นกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองนั้น คิดว่าเขาอาจจะมีหลักฐานข้อมูลอะไรเข้ามาก็ได้ ซึ่งตนออกมาจากตรงนั้นแล้วเลยไม่รู้ข้อมูลในส่วนนี้ ตนไม่อยากให้รัฐบาลและคมช.ตัดประเด็นในเรื่องของภาคใต้ออกไป เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันตรงกับการข่าวที่ได้มาก่อนหน้านี้มาก
ทั้งนี้ตนคิดว่าสถานการณ์บ้านเมืองมีความปั่นป่วนมาก ส่งผลให้เศรษฐกิจเสียหาย ถ้าบ้านเมืองเรายังมีความขัดแย้งในชาติมันก็จะเป็นปัญหาอย่างนี้ต่อไป
เวลานี้ตนไม่อยากออกมาพูดอะไรมาก ไม่อยากทำตัวขัดแย้งกับใคร ขออยู่เฉย ๆ แต่ถ้าช่วยอะไรได้ก็จะช่วย นี่คือจิตวิญญาณนักต่อสู้ที่ตนยึดถือมาตลอด อดีต รมว.กลาโหม กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของรัฐบาลเวลานี้ที่รื้อฟื้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)และกองกำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.43) กลับมานั้น ตนมองว่าเป็นนโยบายที่ถูกต้องแล้ว เพราะเป็นการเปิดสะพานกลับมาใช้เหมือนเดิม ทำให้มวลชนเดินข้ามมาหาภาครัฐได้
ซึ่งก่อนหน้านี้ที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ล้มหน่วยงานทั้งสองนี้ไป ก็พยายามทักท้วงแล้ว เพราะมันเป็นการตัดสะพานข้ามระหว่างภาครัฐกับประชาชนในเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งตอนนั้นก็อึดอัดมาก http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=145117
คงมีคนคิดถึงหลายคน