แทนที่จะวิเคราะห์แบบเอียงและอคติไปแบบเรื่อยเปื่อย...ลองอ่านบทวิเคราะห์เชิงตรรกะแล้วโต้เถียงทีละข้อทีละประเด็นก็จะงดงามเป็นอย่างยิ่ง
ตามนี้ครับ!!
http://www.thaienews.blogspot.com/"สรุปจุดการวางระเบิดหรือจุดที่มีผู้แจ้งว่ามีวัตถุต้องสงสัย นับตั้งแต่วันที่ 1 จนถึงเมื่อวานนี้ แต่ไม่ปรากฏเป็นข่าว
1. บิ๊กซี ลาดพร้าว (มีข่าวหลายทาง)
2. โลตัส บางกะปิ (ข่าวทางเดียว)
3. เมเจอร์ ปิ่นเกล้า (ข่าวทางเดียว)
4. วอคกิ้งสตรีท พัทยา (ข่าวทางเดียว)
5. ตลาดสด พัทยา (ข่าวทางเดียว)
6. ตึกคอม พัทยา (ข่าวทางเดียว)
7. อ.วารินชำราบ อุบลฯ (มีข่าวหลายทางยืนยัน และมีข่าวว่ามีการจับคนร้ายได้ โดยสายรายงานว่าเป็นทหาร)
จากจำนวนจุดการวางระเบิดดังกล่าว ทำให้เราสามารถเห็นได้ว่า ประเด็นการก่อวินาศกรรมโดยผู้ก่อการร้ายภาคใต้ ด้อยลงไปมาก เนื่องจากกินเนื้อที่กว้างเกินไป เกินความสามารถของกลุ่มก่อการร้ายภาคใต้
พิรุธที่สุดที่ราชดำริ
มีผู้ได้ทำการวิเคราะห์ไว้ว่า ทำไมยังเกิดระเบิดขึ้นที่ถนนราชดำริ หลังจากที่มีการระเบิดล่วงหน้าแล้วที่จุดอื่นๆ ซึ่งทำให้มีการค้นหาระเบิดไปทั่วทั้งบริเวณงานเคาท์ดาวน์แล้ว ทั้งถังขยะ และที่ลับตาต่างๆ มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะหาระเบิดหรือวัตถุต้องสงสัยไม่เจอ โดยเฉพาะจุดที่เกิดระเบิดก็อยู่ที่ตู้โทรศัพท์ซึ่งเป็นจุดเปิด ทำให้สามารถตั้งสมมุติฐานได้ว่า การวางระเบิดที่ถนนราชดำริเป็นการวางโดยคนในพื้นที่นั้น ซึ่งอาจจะเป็นทหารที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถผ่านด่านตรวจต่างๆ กลับเข้ามาวางระเบิดนั่นเอง
ผู้ที่ได้รับประโยชน์ คือผู้วางระเบิด และคนนั้นได้แก่เผด็จการทหาร
กระแสการวิเคราะห์ในทิศทางนี้พบว่ามีอยู่ทั่วไปในเวปไซต์ต่างๆ เช่น ที่ประชาไทโดยเป็นการสรุปว่าคนวางระเบิดเป็นทหารจากรัฐบาลหรือคมช.นี่เอง ซึ่งแตกต่างจากสื่อกระแสหลักที่ถูกควบคุมหรือโดน propagandized ไปแล้วโดยคณะเผด็จการทหาร ทั้งนี้เหตุผลที่ทำให้ประชาชนสรุปในไปในทิศทางนั้นมีดังนี้: -
1. หลังจากการระเบิดไม่กี่ชั่วโมงก็มีการฟันธงทั้งจากสื่อที่ขายวิญญาณ และตัวนายทหารคือ พล.อ.สพรั่ง ซึ่งผิดหลักการสอบสวนที่ดี โดยตัดประเด็นเรื่องภาคใต้ออกไปทันที เป็นการแสดงพิรุธ อีกทั้งไม่ได้ชี้แจงเหตุผลใดๆ รองรับเลย เป็นการกล่าวลอยๆ เหมือนเป็นสคริปต์ที่ถูกเตรียมไว้แล้วล่วงหน้า ในขณะที่วันรุ่งขึ้น สื่ออื่นๆ ก็รับลูกต่อเหมือนกับเป็นความจงใจที่ถูกวางแผนไว้แล้วล่วงหน้าอย่างดี เช่น เนชั่นประสานเสียงบอกให้ทำการยึดทรัพย์ทักษิณทันที ทั้งๆ ที่ยังไม่มีหลักฐานอะไรใดๆ ชี้ไปทั้งสิ้น เหล่านี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติการจิตวิทยามวลชนหรือที่เรียกว่า Propaganda ที่ฝ่ายเผด็จการทหารเป็นผู้กระทำและวางแผน
2. กล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดระเบิด ขัดข้องอย่างไม่ทราบสาเหตุ คนที่ทำเช่นนั้นได้มีเพียงผู้มีอำนาจในปัจจุบันเท่านั้น
3. เป็นแผนการสร้างความกลัวให้เกิดขึ้นเพื่อการครองอำนาจ แผนการอันนี้เป็นแผนเดียวกับที่รัฐบาลอเมริกันใช้ในการชวนเชื่อประชาชนของตนเอง โดยเฉพาะการอาศัยเหตุการณ์ 9/11 สร้างความกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ชนอเมริกัน ผ่านทางสถานีข่าวต่างๆ เพื่อใช้ในการสืบต่ออำนาจ แผนการอันนี้ได้ถูกคณะเผด็จการทหารชุดนี้ใช้อย่างแยบยล โดยต้องการทำให้ประชาชนไทยคิดไปว่าตนเองจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาอำนาจทหารในการปกครองประเทศต่อไป
4. การระเบิดเกิดขึ้นเป็นวงกว้างหลายจุด หลายจังหวัด ทำให้ตัดประเด็นเรื่องภาคใต้ไปได้เกือบหมด เพราะเกินความสามารถของกลุ่มก่อวินาศกรรม ในขณะที่การระเบิดเป็นวงกว้างอย่างนี้ ผู้ที่มีศักยภาพทำได้มีเพียงเผด็จการทหาร
5. สอดคล้องกับการประโคมข่าวเรื่องคลื่นใต้น้ำเผาโรงเรียน ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่ผู้อยู่เบื้องหลังการเผาและถูกจับได้แต่ปิดข่าวไว้ กลับเป็นทหารนอกแถว (อ่านเพิ่ม)
6. มีการจับตัวผู้วางระเบิดได้ในวันที่ 2 ม.ค. ที่ จ.อุบลฯ ซึ่งพบว่าเป็นทหารนอกแถว แต่ถูกทางการปิดข่าวไว้
7. สอดคล้องกับการสร้างกำลังพลหกหมื่นนายที่ทาง คมช.ต้องการอนุมัติ โดยมีกำลังพล 13,625 นายได้ทำการอนุมัติไว้แล้วชุดแรกโดย กอ.รมน. การวางระเบิดครั้งนี้หมากอันหนึ่ง ซึ่งจะสร้างความชอบธรรมดังกล่าว และผลท้ายที่สุดจะทำให้ กอ.รมน.มีอำนาจในการปกครองประเทศล้นฟ้า
8. สอดคล้องกับการตั้งงบประมาณทางทหารจำนวนมาก การวางระเบิดจึงเป็นการสร้างความชอบธรรมในการของบทหารเพื่อไปกอบโกยกินกัน
9. เป็นการกำจัดศัตรูทางการเมืองของคณะเผด็จการทหารในกระสุนนัดเดียว คือการกำจัดทั้งพรรคไทยรักไทย ป้ายสีคุณทักษิณ หรือคลื่นใต้น้ำต่างๆ ถ้ามี แผนการอันนี้ได้มีผู้วิเคราะห์ไว้ว่า คล้ายคลึงกับแทคติกการใส่ร้ายในช่วงปี 2519
10. เกิดการระเบิดที่ถนนราชดำริ ทั้งๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากชุดการระเบิดใหญ่ ซึ่งมีการตรวจตราอย่างเข้มงวดแล้ว รวมทั้งมีการให้การรักษาความปลอดภัยอย่างสูงแล้ว อันเป็นไปได้ว่ามีการวางระเบิดภายหลัง หรือเป็นคนในกันเองวางไว้เพื่อสร้างสถานการณ์
11. มีข่าวรั่วปล่อยออกมาจากญาติผู้ใกล้ชิดนายทหารต่างๆ ว่าให้ระมัดระวังไม่ให้อยู่ในที่ชุมนุมชนในวันที่เกิดเหตุ อันหมายความว่านายทหารต่างๆ ทราบข่าวล่วงหน้า เพราะกลุ่มของตนเป็นผู้ดำเนินการ แต่ข่าวเล็ดรอดออกมาเป็นเพราะนายทหารดังกล่าวห่วงลูกหลานของตนเองที่อาจจะไปเที่ยวเล่นในวันส่งท้ายปีเก่า
12. การวางระเบิดดังกล่าวไม่ได้เป็นผลดีต่อขั้วอำนาจเดิมทั้งสิ้น การเกิดระเบิดทำให้ขั้วอำนาจเดิมเป็นฝ่ายตั้งรับตลอด และแรงจูงใจที่กล่าวว่าต้องการดิสเครดิตขั้วอำนาจปัจจุบัน ดูเหมือนจะน้อยเต็มที เพราะเป็นวิธีที่ไม่มีประสิทธิผล
13. ฝีมือการวางระเบิดดังกล่าวเป็นของผู้เชี่ยวชาญ และคุ้นเคยต่อพื้นที่ดี มีคนไม่กี่กลุ่มที่ทำได้และหนึ่งในนั้นคือ กลุ่มทหารนอกแถว
14. ตำรวจดูเหมือนจะทราบว่าใครอยู่เบื้องหลัง โดยบอกว่า "ให้ไปถาม พล.อ.สุรยุทธ์"
15. สถานการณ์การวางระเบิดดังกล่าวคล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สงขลา ก่อนหน้าการปฏิวัติ 3 วัน โดยการระเบิดที่นั่นเชื่อว่าเป็นการวางระเบิดโดยกลุ่มทหารที่ครองอำนาจอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง เพื่อเป็นการสร้างความวุ่นวาย และสร้างสถานการณ์เพื่อที่ตนเองจะเข้ายึดครองอำนาจ
16. เป็นการเล็งผลที่จะกลบข่าวความไม่เอาไหนในการบริหารงานของคณะเผด็จการทหารชุดปัจจุบัน ทั้งข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการทุจริตต่างๆ รวมถึงข่าวการจดทะเบียนสมรสซ้อนของ พล.อ.สนธิ หรือการบุกรุกที่ป่าสงวนของ พล.อ.สุรยุทธ์
จดหมายของทักษิณถึงคนไทย
เป็นจดหมายอย่างเป็นทางการฉบับแรกจากคุณทักษิณนับตั้งแต่มีการยึดอำนาจ โดยเป็นจดหมายที่เขียนจากมือแล้วส่งแฟกซ์มายังคุณนพดล ทนายความส่วนตัว โดยกล่าวแสดงความบริสุทธิ์ใจ และประนามผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว คุณทักษิณยังเรียกร้องความมีมนุษย์ธรรมจากบรรดาเหล่าเผด็จการชั่วร้าย และสื่อมวลชนจอมปลอม เพื่อความสมานฉันท์และความปรกติสุขของประเทศ ทั้งนี้สามารถอ่านได้ที่
http://docs.google.com/View?docid=d7qgfs4_7frwfzg (เป็นจดหมายฉบับพิมพ์)
ล่าสุดเหตุระเบิดวันนี้
หลังจากการข่มขวัญว่ามีการวางระเบิดที่โรงเรียนเขมาภิรตาราม เมืองนนท์ช่วงเช้าวันนี้ ก็มีการขู่ว่ามีการวางระเบิดที่โรงเรียนกิ่งเพชร ซึ่งทำให้ต้องมีการปิดการเรียนการสอนหนึ่งวัน ส่วนข่าวที่ได้รับแจ้งมาว่ามีการระเบิดที่ห้างแพลตตินั่ม พบว่าข่าวดังกล่าวไม่มีมูล โดยมีผู้ค้าในห้างดังกล่าวแจ้งยืนยันกับสายข่าวว่า ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งสิ้น
สายข่าวได้รายงานเพิ่มเติมเข้ามาโดยได้รับการยืนยันแล้วว่า มีการวางระเบิดที่ย่านเยาวราชด้วย โดยถูกวางไว้ใกล้ๆ วัดเล่งเน่ยยี่ แต่สามารถเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยได้แล้ว โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้สามารถเข้าไปดูภาพภ่ายที่พลเมืองดีถ่ายไว้ได้ที่ห้องหว้ากอ
ขู่ระเบิดเนชั่น เกมส์การเมืองสร้างสถานการณ์เพื่อป้ายสีของแท้
มีรายงานแจ้งเข้ามาว่ามีการขู่วางระเบิดที่ตึกที่ทำการของสำนักข่าวเนชั่น และทันทีที่มีการขู่ สำนักข่าวเนชั่นก็ประสานเสียงออกข่าวป้ายสีให้กับผู้สนับสนุนฝ่ายการเมืองทิศตรงกันข้ามทันที โดยมีการเขียนข่าวว่า
รีเซฟชั่นอาคารเนชั่น แจ้งว่า ได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่ง โดยระบุว่า "ตั้งใจฟังให้ดี ขณะนี้ผมได้วางระเบิดที่อาคารเนชั่นไว้ 3 จุด ผมไม่อยากที่จะทำร้ายคน เพียงแต่ต้องการทำลายข้าวของเท่านั้น ดังนั้นให้เกณฑ์คนออกจากพื้นที่ให้หมด เนื่องจากผมไม่พอใจที่เนชั่นเสนอข่าวโจมตีทักษิณ ทั้งที่ยังตรวจสอบไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของทักษิณหรือไม่ และนำเสนอข่าวใส่ร้ายป้ายสีทักษิณฝ่ายเดียว การนำเสนอข่าวไม่เป็นธรรม โดยผมตั้งเวลา 3 ชั่วโมงให้รีบเกณฑ์คนออก"
ประชาชนที่ทราบข่าวนี้ต่างก็วิจารณ์และมองเกมส์ครั้งนี้ออกทันทีว่า เป็นเกมส์การป้ายสี ประชาชนท่านหนึ่งกล่าวว่า "(เขา)ใช้เนชั่น เป็นสถานที่สร้างเรื่องให้เป็นเรื่องของกลุ่มผู้เสียประโยชน์ทางการเมือง" ในขณะที่ผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองท่านหนึ่งบอกว่า "ฝ่ายทักษิณคนไหนที่มันจะไปโง่บอกวะ ว่าเป็นฝ่ายทักษิณโทรมาขู่" ฝ่ายเวปบอร์ดการเมืองก็มีประชาชนแสดงความสงสัยขึ้นมาทันทีว่า "ดีนะที่นักข่าวเนชั่นไม่เป็นไร แหม่ จัดฉากวางระเบิดพวกเดียวกัน เพื่อโยนความผิดให้ฝ่ายตรงข้ามหรือเปล่าน๊าา ??"
ทั้งนี้เกมส์การเมืองสกปรก ๆ เช่นนี้มักจะถูกใช้เป็นข้ออ้างในการที่จะกำจัดฝ่ายตรงกันข้ามในทางการเมือง โดยดูได้จากประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลายต่อหลายครั้ง และสื่อก็จะเป็นกระบอกเสียงในการทำให้สถานการณ์ต่างๆ เลวร้ายลงเสมอๆ และเชื่อว่าจะมีการประสานเสียงจากบรรดาเผด็จการทหารคนอื่นๆ ออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อโจมตีฝ่ายการเมืองตรงกันข้ามด้วยการกล่าวให้ร้าย ในเร็วๆ นี้
พบวัตถุต้องสงสัยหน้าห้างเกษร ตำรวจเข้าเคลียร์เจอแต่เสื้อผ้า
หลังจากมีการแจ้งเบาะแสให้กับตำรวจ ก็มีการเคลียร์พื้นที่ในบริเวณหน้าห้างเกษร แต่ก็พบว่าวัตถุต้องสงสัยนั้นเป็นเพียงกระเป๋าเสื้อผ้า และมีการเปิดการจราจรตามปรกติ
ตำรวจเข้าเคลียร์วัตถุต้องสงสัยที่ ธ.ทหารไทย แต่พบว่าเป็นกระดาษเปล่า
ช่วงเวลาประมาณห้าโมงเย็นวันนี้มีการเข้าเคลียร์วัตถุต้องสงสัยที่ ธนาคารทหารไทย ย่านถนนวิภาวดี อย่างไรหลังจากมีการยิงปืนแรงดันน้ำก็พบว่าเป็นเพียงกล่องกระดาษ
ข่าวลือระเบิดที่โลตัสหางดง สุดท้ายก็เป็นเพียงข่าวลือ
มีรายงานข่าวลือว่ามีระเบิดเกิดขึ้นที่โลตัส สาขาหางดงที่เชียงใหม่ อย่างไรก็ตามได้มีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาทางอินเตอร์เน็ตกล่าวว่า เป็นเพียงข่าวลือ และตนเองเพิ่งเสร็จจากการไปช๊อปปิ้งที่นั่น และไม่พบสิ่งผิดปรกติใดๆ ทั้งสิ้น
คนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ แถลงการณ์ประนามเหตุก่อความไม่สงบในกรุงเทพฯ
แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านเผด็จการ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจัดการชุมนุมที่สนามหลวงทุกวันเสาร์ และเป็นกลุ่มที่เข้าฟ้องร้องให้สอบที่มาของทรัพย์สินของนายกฯและคู่สมรส ได้ออกแถลงการณ์ประนามผู้ที่อยู่เบื้องหลังการวางระเบิด รวมถึงกลุ่มบุคคลที่โทรศัพท์ข่มขู่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แกนนำยังได้ประนามความไร้สมรรถภาพของรัฐบาลและคมช. ในการป้องปรามเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งๆ ที่รู้ข่าวการก่อการล่วงหน้า ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่เอาไหนในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ทั้งนี้สามารถอ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้
http://docs.google.com/View?docid=d7qgfs4_8fm86j7บิ๊กจิ๋วกล่าวเตือน คมช. "ยิ่งขืนอยู่นานจะยิ่งตาย จะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนกับคนอื่นเขาอีก"
ออกโรงแล้วอย่างน่าประทับใจ บิ๊กจิ๋วให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กล่าวปฏิเสธความเชื่อมโยงกับการก่อวินาศกรรม โดยกล่าวเตือนรุ่นน้องทหารว่า เป็นมือใหม่ ไม่ค่อยมีประสบการณ์ ไม่น่าจะมาหาเรื่องคนอื่นๆ ว่าเป็นคนโน้นคนนี้
พล.อ.ชวลิต ยังได้กล่าวเตือน พล.อ.สพรั่ง ที่ทำทีอวดเก่งอวดรู้ว่า "กลัวว่าเขาจะว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่รู้ สพรั่งบอกว่า มีอะไรเกิดขึ้น รู้หมด" พร้อมกันนั้นยังได้สำทับไปอีกว่า งานข่าวกรองสำคัญ อย่าทำข่าวเละเทะอย่างทุกวันนี้ และยังได้ยกตัวอย่างความผิดพลาดสมัยคุณทักษิณที่เคยพลาดเชื่อข่าวกรองที่ไม่จริงมาแล้วครั้งหนึ่ง
สุดท้ายพูดเป็นนัย บอกให้เอาเทปที่ได้บันทึกเอาไว้ออกมาให้ดู เป็นการแสดงให้เห็นว่า ทางกองทัพหรือ คมช.รู้เห็นเรื่องดังกล่าวตลอดเวลา แต่ปกปิดไว้ ทั้งนี้สามารถอ่านการสัมภาษณ์ชนิดคำต่อคำได้ที่ลิงค์ด้านล่าง
http://docs.google.com/View?docid=d7qgfs4_9gk69wh"