มีอะไรบ้างที่รัฐบาลทันโจร?3 มกราคม 2550 กองบรรณาธิการ
ครับ..ผมเผ่นไปตั้งหลักอยู่ชายแดนปราจีนบุรีโน่น ตั้งแต่วานซืนคืนที่ ๓๑ ธันวา.นั่นแล้ว เลยอดได้ยิน "เสียงระเบิด" แถวๆ คลองเตยไม่ใกล้-ไม่ไกลจาก "ไทยโพสต์"
ไปอย่างน่าเสียดาย!
ก็นับว่าเป็นปีใหม่ที่มีบรรยากาศสร้าง "อารมณ์ร่วม" ในด้าน ทุกข์-ทน-หม่น-เศร้า ให้กับคนไทยได้ถ้วนหน้าชะงัดนะครับ
ความจริง ผมน่าจะมีความสุขกับการได้นอนกลางดินอาบจันทร์ข้างขึ้นคืน ๑๓ ค่ำกะเขาบ้าง แต่เพราะโลกยุคใหม่ที่มี "โทรศัพท์มือถือ" เป็นปัจจัยที่ ๕ นี่แหละ
ทำให้ผมต้องอาบทุกข์กลางแสงจันทร์!
คืนส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ของคนกรุงเทพฯ ใครจะคิดว่าต้องกลายเป็น "กรุงเทพฯ คืนร้าง" หลัง "ระเบิด" ระงมกรุง!?
ผมนอนฟังเหตุการณ์ที่กรุงเทพฯ ทางโทรศัพท์ คนโน้นโทร.มาที คนนี้โทร.มาที ผมโทร.ไปเองบ้าง สรุปแล้ว หลับตาเห็นภาพได้ชัดเจนกว่าตัวเองอยู่ร่วมเหตุการณ์ในกรุงซะอีก
เป็นใคร-ใครก็ต้อง "คิดมาก" ครับ
ยังไม่ต้องคิดว่า "ยำยำนี้..ใครก่อ?" สิ่งแรกที่เกิดขึ้นเป็น "ความรู้สึก-นึก-คิด" ของชาวบ้านทั่วไป คือ
ขาดความเชื่อถือในรัฐบาล
ขาดความมั่นใจในทหาร-ตำรวจ ความมั่นใจที่ขาดนั้น มันถูกแปรสภาพเป็นความ "หวั่นกลัว" ต่อผู้คุกคามอันซ่อนอยู่ในเงามืดซึ่งยังไม่รู้ว่าใคร?
ยิ่งไม่รู้ว่า "ใครคือตัวภัย?" ที่รัฐบาลคณะปฏิวัติเองก็ยังไม่รู้ นั่นยิ่งทำให้ประชาชนหวั่นไหวเป็นทวีคูณ
เพราะในเมื่อยังไม่รู้มิสเตอร์ X คือใคร? ก็แสดงว่า มันจะมาซุกระเบิดที่ไหน-เมื่อไหร่ มันก็ทำได้ตามความพอใจของมัน
เมืองไทยวันนี้ ใกล้เข้าไปทุกทีแล้วที่ประชาชนก้าวเท้าออกจากประตูบ้าน จะต้อง "สั่งเสีย" ร่ำลากันทุกครั้ง
เพราะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาได้เห็นหน้ากันตอนเย็นอีกหรือไม่?
ระวังนะครับ ด้วยอำนาจหน้าที่ของคนเป็นผู้นำรัฐบาล อย่าปล่อยเหตุการณ์ให้ประชาชนเกิดความรู้สึกถึงขั้นว่า
ไม่มีตำรวจ-ไม่มีทหาร และ ไม่มีรัฐบาลนี้
แล้วมันต่างกันตรงไหนกับการมี?
ประชาชนมีหน้าที่"จ่ายภาษี"จ้างรัฐบาลเป็นยามประเทศ
แต่ดูเหมือนว่า ยามทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควรนะครับ ถ้าประชาชนผู้เป็นนายจ้างจะตำหนิบ้างก็ไม่น่าขึ้งโกรธ และถ้าจะร้องขอความเห็นใจจากประชาชนในกรณีนี้
ผมว่า..เร่งคลี่คลายปัญหา รายงานให้ประชาชนได้ทราบว่ามิสเตอร์ X คือใครที่แท้จริง นั่นอาจจะมีความเห็นใจให้บ้าง
อย่าลืมว่าท่านมากันเอง คมช.ก็ดี รัฐบาล คมช.ก็ดี ท่านมารับภารกิจบริหารประเทศชาติ ด้วยการ
"ยึดเอามา"
ไม่ใช่ "ประชาชน" เรียกให้มา!?
ถึงจะยึดมาท่ามกลาง "ความเป็นใจ" จากประชาชนก็ตาม แต่ประชาชนไม่ได้หวังให้ท่านปฏิวัติแบบทำสังฆทาน "ปล่อยนก-ปล่อยปลา" เอาบุญเฉพาะตัว
ปล่อยกระทั่ง "พ.ต.ท.ทักษิณ" อันเป็นตัวการของปัญหา!!
จนถึงเวลานี้แล้วก็ยังไม่มีข้อหาใดๆ ให้เป็นเรื่องเป็นราวว่า "ทักษิณบริหารผิดกฎหมายข้อไหน ถึงต้องไปปฏิวัติเขา?"
๔ ข้อหาที่ว่าๆ กันนั้น ถึงวันนี้มันกลายเป็น "ข้อครหา" ที่มีต่อ คมช.และรัฐบาล คมช.ไปแล้ว เพราะท่านพูดเหมือนผายลมให้สุนัขดม
อย่าลืม..การปฏิรูป หรือการปฏิวัตินั้น แสดงว่า ท่าน-โดยทหารต้องมั่นใจในความสามารถที่เหนือกว่า ในศักยภาพแห่งการอภิบาลสันติสุขให้ชาติ-ประชาชนได้ดีกว่า
ฉะนั้น ต้องทำให้เห็นถึงความเหนือกว่า และความดีกว่าให้ได้
ไม่เช่นนั้น จะพูดไม่ได้ว่า "รัฐบาลนี้ดีกว่ารัฐบาลทักษิณ"
เมื่อพูดถึงประเด็นประชาชนไม่มั่นใจรัฐบาลไปแล้ว ก็มองกันต่อไปว่า..ใคร พวกไหนมันยำยำ ทำกับบ้านเมืองเช่นนี้? ก็ได้ยินพูดกันไปต่างๆ นานา พูดจากการสันนิษฐานด้วย นึกเอาเอง-เข้าใจเอาเอง เท่าที่ผมฟังๆ ก็พอสรุปได้ ดังนี้
-กลุ่มการเมืองที่สูญเสียประโยชน์
-กล่ม "คนมีสี" ที่สูญเสียประโยชน์
-กลุ่มการเมืองเก่า
-กลุ่มก่อการร้ายภาคใต้
-กลุ่มคลื่นใต้น้ำ
-กลุ่มอำนาจปัจจุบันสร้างสถานการณ์
-กลุ่มเสี้ยมให้แต่ละฝ่ายระแวงกันเอง
-กลุ่มก่อการใหม่หวังทำลายเครดิตรัฐบาล
-กลุ่มสร้างเงื่อนไขเพื่อปฏิวัติซ้อนปฏิวัติ
เยอะแยะครับ คาร์บ๊องยังเกิดได้ ทำไมระเบิดเด็กๆ แค่นี้จะทำให้เกิดไม่ได้ แต่ทั้งหลายทั้งปวง ผมสรุปรวมทั้งหมดลงเป็น ๑ คือ ที่เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่นนี้ เพราะ
"รัฐบาลทหาร..ไม่แข็ง"
ไม่แข็งเพราะ "ปฎิวัติ" แล้วไม่ปฏิบัติให้ครบตามสูตรปฏิวัติ ผลร้ายจึงวกกลับเข้าตัวเอง ขณะนี้กลุ่มอำนาจด้วยกันก็มองหน้ากันไม่ติด ต่างฝ่ายต่างระแวงกัน ต่างฝ่ายต่างสาดสายตาหยามเย้ย-ถากถางกัน
และพวกเดียวกันเองก็ "แอบสะใจ"
"กลุ่มการเมือง" ข้างนอกนั่นน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก เพราะพวกนี้มันแค่อีแร้ง อีแร้งมันเคยกล้าจิกตีสัตว์เป็นที่ไหนล่ะ ถ้าเหยื่อยังแข็งแรง มันไม่กล้าโฉบลงมาหรอก
ตอนนี้มันคงเห็นรัฐบาล คมช.ร่อแร่-ใกล้ตาย เลยโฉบบินฉวัดเฉวียนกันยกใหญ่!
ก็เห็นมั้ยล่ะ พอคืนวันที่ ๓๑ ธันวา.ตูม..ตูม..ตูม
วันที่ ๑ วันที่ ๒ มกรา.ก็ยังมี ตูม..ตูม..แถมด้วยแผนก่อกวน-ป่วนไปทั้งเมืองต่อเนื่อง
อีแร้งลงหมับเลย!
ทั้งหัวหน้าอีแร้ง และสาวกอีแร้ง ลงจิก "หยั่งอาการ" กันคนละหนุบคนละหนับ
ดูซี..ลูกพี่เองอยู่ถึงปักกิ่ง เก็บอาการอยู่ซะที่ไหนล่ะ คงเข้าใจว่านี่คือ "นาทีทอง" ฉวยจังหวะร่างจดหมายเป็นแถลงการณ์ถึงประชาชนคนไทยผ่าน "แร้งรับใช้" อ่านแล้วก็เห็นขี้-เห็นไส้คาอยู่ในปาก
พูดยังกะว่าตอนตัวเองเป็นรัฐบาลบริหารปัญหาเหล่านี้ได้ดีกว่ารัฐบาล คมช.?
คนมันหน้าด้านเสียอย่าง มันจะพูด มันจะทำอะไร "หน้าตาย" ทำได้ทั้งนั้น ขนาดควักขี้ที่เขลอะเต็มตัวเองไปป้ายคนอื่นเขาต่อหน้า-ต่อตาแท้ๆ
มันก็ยังหน้าด้านพูดอวดตัวเองว่า "ข้าสะอาด" แต่ คมช.เปื้อนขี้! ผมคงไม่หยิบยกข้อความใดๆ ใน "จดหมายฉวยโอกาส" นั้นมาขยายความเป็นการเสริมสร้างความชอบธรรมให้กับใคร และไม่อยากให้เข้า แผน "การตลาด" ที่เขาคาดหวัง
คมช.ยึดอำนาจมาตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมา จนถึงวันนี้ภาพลักษณ์ "รัฐบาลทักษิณ" ก็ยังคงต่ำเท่าเดิม
แต่ คมช.ก็ดี รัฐบาล คมช.ก็ดี ท่านควรทราบว่า
มาตรฐานของท่าน สูงใกล้ระดับ "รัฐบาลทักษิณ" แล้ว!
งบโน่น-งบนี่เพื่อใช้จ่ายในการปฏิวัติ ประชาชนก็จ่ายผ่านงบประมาณพิเศษ แล้วนี่..งบตั้งกองกำลังพิเศษอีกตั้ง ๕๐๐ กว่าล้าน ประชาชนก็ให้
หน่วยงานเดิมก็มีครบ
หน่วยงานใหม่ก็ตั้งก่ายเกินกันขึ้นอีก
แต่ทั้งเก่า-ทั้งใหม่ มีระเบิดตูม..ตูม..ขึ้นมา เหรอหรากันไปหมด ได้แต่ร้องว่าประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย
เอางบมาคืนประชาชนซะด้วยเป็นไง เพราะถึงอย่างไร ขึ้นต้น-ลงท้าย มันก็มาสุมไว้ที่ "ประชาชน" นี่แหละ
ใครจะวางแผนใคร ไม่ใช่เรื่องต้องมาโอดโอยขอความเห็นใจประชาชน เป็นหน้าที่รัฐบาลต้อง "ทำความจริงให้ประจักษ์" ไม่ใช่เอาแต่เงิน-เอาแต่งบ แต่ไม่เอางานกันเลย เอะอะก็ขอความเห็นใจ-ขอความเข้าใจจากประชาชน แล้วที่ประชาชนตายเซ่น "ความไม่มีน้ำยาของรัฐบาล" อยู่ทุกวันนี้ล่ะ..จะให้ไปขอความเห็นใจจากใคร..หือ?
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=3/Jan/2550&news_id=135667&cat_id=200