|
คนในวงการ
|
 |
« เมื่อ: 01-01-2007, 02:31 » |
|
จากเหตุระเบิดทั่วกรุงเทพฯ ทำให้เกิดการสันนิฐานกันไปต่าง ๆ นานา เช่นฝ่ายคนรักทักษิณ ก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มตน ไม่ใช่คลื่นใต้น้ำ ลงมือแน่นอน ต้องเป็นฝ่ายทหารลงมือทำเนื่องจากฝ่ายทหารมีความพร้อมทั้งด้านกำลังคนและอาวุธ โดยมีแรงจูงใจเพื่อที่จะได้รวบอำนาจ หรือกลบเรื่องอื่น ๆ ที่ประดังประเดรัฐบาล ฯลฯ ฝ่ายคนเกลียดทักษิณก็ฟันธงกันยกใหญ่ว่าต้องเป็นฝีมือของพวกคนรักทักษิณแน่นอน ต้องมีท่อน้ำเลี้ยงส่งเงินมาให้ ลือกันว่าเป็นเงินหลักร้อยล้านจากผู้หญิงคนหนึ่ง โดยมีแรงจูงใจคือเพื่อดีสเครดิตรัฐบาล เพื่อที่ทักษิณจะได้กลับประเทศไทย ต่างฝ่ายต่างสาดโคลนใส่กันอุตลุต โดยที่ฝ่ายตำรวจก็ไปโน่นเลยพวกก่อการร้ายภาคใต้
เมื่อเรามาวิเคราะห์โดยละเอียด จะพบว่าเรื่องระเบิดครั้งนี้แปลกประหลาด ดังที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้
1. ใครได้ประโยชน์จากการระเบิดทั่วกรุงเทพฯ
ทักษิณ? ลำพังทุกวันนี้จะกลับประเทศยังยากเลย ถ้าทักษิณวางระเบิด ทักษิณคงจะได้กลับบ้านอยู่หรอก แล้วบรรดาลิ่วล้อหละ ลิ่วล้อทักษิณทุกวันนี้กระดิกตัวแทบไม่ได้ และส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง ถ้าคนพวกนี้จ้างมือปืนไปยิงใครตาย ผมว่ายังจะน่าเชื่อถือกว่าความเชื่อที่ว่าคนพวกนี้จ้างมือระเบิดมาวางระเบิดกรุงเทพฯ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ คนลงมือต้องมีฝีมือ และต้อง***มโหดมากพอ ถึงแม้ว่านักการเมืองจะชั่วจะโกง แต่จะหาที่สันดานอำมหิตขนาดที่กล้าสั่งลงมือแบบนี้ได้น้อยคน แม้กระทั่งยุทธ ตู้เย็น หรือยี้ห้อย หรือแม้กระทั่งคอมฯ เก่าอย่างไอ้อ้วนภูมิธรรม ผมก็ไม่เชื่อว่าจะอำมหิตได้ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าระเบิดที่วางจะเป็นระเบิดลูกเล็ก ๆ ที่ไม่หวังผลต่อชีวิต แต่ก็หลีกเลี่ยงการมีคนตายไม่ได้ เพราะหากระเบิดใกล้ ๆ ก็ตายเหมือนกัน ส่วนที่พูดกันว่า วางระเบิดเพื่อดีสเครดิตรัฐบาล ก็เหตุผลอ่อนเกินไปที่จะลงมือด้วยความอำมหิตแบบนี้ เพราะถ้าคิดจะดีสเครดิตรัฐบาล วางลูกเดียวก็พอแล้ว แค่ลูกเดียวรัฐบาลก็อ้วกแตกอ้วกแตนแล้ว
คมช.? ถ้าคมช. วางเองหละ เพื่อกลบเรื่องอื้อฉาว เรื่องบ้านนายก เรื่องเมียสองคน ฯลฯ เหตุผลนี้อ่อนเสียจนเรียกได้ว่าปัญญาอ่อน เพราะว่าการกลบเรื่องอื้อฉาว ด้วยเรื่องที่อื้อฉาวกว่า คงจะมีแต่คนปัญญาอ่อนเท่านั้นที่จะคิดได้ ถ้าคมช. จะเบี่ยงเบนกระแสสังคมจริง ก็แค่จับใครสักคนเช่นจับลูกชายทักษิณ แค่นี้ก็ได้พาดหัวกรอบเช้าทุกฉบับแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องอาบน้ำเน่าเพื่อชำระล้างคราบไคลหรอก
งั้นใครวางหละ? ต้องอ่านข้อสองครับ จะได้แนวทาง
2. ใครได้ประโยชน์จากการระเบิดทั่วกรุงเทพฯ
คนที่ได้ประโยชน์ที่แท้จริงจากเรื่องนี้ คือคนที่ต้องการให้ฝ่าย AT และฝ่าย PT ซัดกันนัวเนีย และผมเชื่อว่าคน ๆ นี้ไม่ต้องการให้ทักษิณกลับไทย และต้องการโค่น คมช. และรัฐบาลไปพร้อม ๆ กัน มีการคาดเดากันในวงการคนทำงานด้านนี้หลายสำนักว่า มีความพยายามจะปลุกม็อบเพื่อโค่นล้มรัฐบาลทหารให้ได้ โดยเกือบทุกสำนักได้รับข่าวปล่อยตรงกันว่า คอมฯ เก่า และลิ่วล้อ กำลังอัดฉีดเงินเข้าระบบ เพื่อสร้างมวลชน แต่ที่น่าสงสัยก็คือ เรื่องลับแบบนี้ ทำไมถึงได้เข้าหูคนอื่นได้ง่าย ๆ เรียกได้ว่ารู้กันไปทั่วเลย กรณีนี้จึงน่าจะเป็นเรื่องของใครบางคนที่เจตนาปล่อยข่าว เอาขี้ป้ายหัวพวกลิ้วล้อคนใกล้ชิดทักษิณ ในขณะเดียวกันข่าวปฏิวัติซ้อนก็ลือกันกระหึ่ม ข่าวแบบนี้ต้องมีต้นตอของข่าวปล่อยแน่นอน
AT ก็ไม่ใช่ PT ก็ไม่ใช่ งั้นใครหละ? ลองอ่านข้อสามดูสิครับ น่าจะพบคำตอบ
3. ใครได้ประโยชน์จากการระเบิดทั่วกรุงเทพฯ
ใครสักคนหนึ่งครับ ที่ต้องการเป็นฮีโร่ ต้องการเป็นผู้ที่จะมาแทนที่ ทักษิณ และ คมช. ใครคนนั้นต้องมีภาพเป็นคนดี ใครคนนั้นต้องมาจากระบอบประชาธิปไตย ใครคนนั้นต้องอำมหิตพอที่จะทำร้ายคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ใครคนนั้นต้องมีสายสัมพันธ์กับทหารหรือตำรวจ หรืออดีตทหารหรืออดีตตำรวจ เพราะฝีมือการวางระเบิด ไม่ใช่ฝีมือระดับมือสมัครเล่น จะเป็นใครนั้นเดากันดูเอาเองนะครับ ว่าใครมีคุณสมบัติตรงกับที่ผมเล่ามามั่ง
จะเป็นไปได้มั้ย ว่าเป็นฝีมือผู้ก่อการร้ายภาคใต้ ลงมือวางระเบิดในกรุงเทพฯ เพื่อขยายผลทางด้านการเมือง
เป็นไปได้ครับ แต่น้อยมาก เพราะพวกก่อการร้ายที่ภาคใต้ วางระเบิดทุกครั้ง หวังผลให้มีคนตายกันเยอะ ๆ อย่างน้อยต้องที่ละเจ็ดแปดศพ และจะวางจดหมายแสดงความรับผิดชอบเอาไว้ใกล้ ๆ จุดที่ระเบิดเสมอ แต่ระเบิดในกรุงเทพ ถูกวางโดยคนที่กลัวว่ามันจะระเบิดแรงไป จงใจใช้ดินระเบิด จำนวนน้อย วางในที่ ที่น่าจะไม่มีคนยืนใกล้ ดูจากเจตนาก็ชัดเจนดี คือวางระเบิดเพื่อสร้างข่าว ไม่ได้วางเพื่อสังหารใคร ระเบิดครั้งนี้น่าจะเป็นระเบิดการเมืองครับ
ใครกันนะ ที่ต้องการให้เกิดระเบิดในกรุงเทพฯ ? และเค้าจะได้อะไร? คิดกันต่อเองนะครับ
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2007, 02:38 โดย คนในวงการ »
|
บันทึกการเข้า
|
"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin - |
|
|
|
เก็ดถวา
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 01-01-2007, 02:36 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 Avada Kedavra!!!!!!! |
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 01-01-2007, 02:39 » |
|
วิเคราะห์ได้ดี แต่คิดว่าน่าจะมีอะไรลึกๆมากกว่านั้น
ที่สำคัญ สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นมือที่สามได้เลย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 01-01-2007, 02:43 » |
|
เอ รู้สึกว่าวันนี้สาวกเหลี่ยมดูจะกะดี้กะด้าดีอกดีใจมีความสุขเป็นพิเศษแฮะ ไม่ทราบว่ามีเบื้องหลังเปล่านา  quote author=ThaiTruth link=topic=10404.msg147392#msg147392 date=1167577415] ไม่เคยเห็น คนมีจิตใจฝักใฝ่ประชาธิปไตย กระดี๊กระด๊ากับการวางระเบิดป่วนประเทศตัวเอง แถมทำให้คนบริสุทธิ์ล้มตาย
น่าจะเป็น "สัตว์นรก" ที่สวมหน้ากากประชาธิปไตยมากกว่าที่ดีใจ ในที่สุดก็หน้ากากก็หลุดระหว่างกระดี๊กระด๊าแหละครับ
ขอให้คนชั่วเหล่านี้ฉิบหายเร็วๆครับคุณ"คนในวงการ"..... มีคนส่งสัญญาณให้คนรักทักษิณ สาวกฯ หวอรูม และ ลูกจ้างบริษัทเทียมรักเทียม กระดี๊กระด๊ากับการวางระเบิดป่วนกรุงเทพฯ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า  |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2007, 02:46 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 01-01-2007, 02:57 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Yodyood
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 01-01-2007, 03:20 » |
|
ยังเดาผู้บงการไม่ออกเหมือนกันครับเพราะเป็นไปได้หลายพวก หลายเหตุผล  แต่คิดว่าพวกโจรใต้คงไม่บ้าขนาดขุดหลุมฝังตัวเองหรอกครับ น่าจะเป็นพวกอื่น |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
~ You will never know the truth if you dare not to face it. ~
|
|
|
|
1ktip
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 01-01-2007, 03:52 » |
|
เป็นระเบิดที่ชวนให้ปวดหัวกันไปทั้งกรุงเทพฯ ตามสี่แยกและจุดสำคัญในกรุงเทพมีกล้องวงจรปิดสำหรับการจราจรติดตั้งไว้
น่าจะพอสืบหาเบาะแสได้นะครับ ยิ่งวางกลางกรุง ผู้คนพลุกพล่านขนาดนี้ ต้องมีคนเห็นผู้ต้องสงสัยกันบ้างล่ะน่า
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
1ktip
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 01-01-2007, 05:16 » |
|
อ้าวได้ข่าวว่ากล้องวงจรปิดหลายตัว เสียอย่างกระทันหันช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมง มันชักจะยังไงๆ อยู่นะเนี่ย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 01-01-2007, 11:09 » |
|
อันนี้ผมก็แว่วๆมาเหมือนกันนา แบบว่าน่าคิดนะ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 “People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ . |
|
|
|
นิรนาม
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 01-01-2007, 11:30 » |
|
มันมีอะไรบางอย่างแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าตรวจสอบข่าวสารจากสื่อ จะเห็นว่า "ทีมข่าวการเมือง" นสพ.ไทยโพสต์ วิเคราะห์ไว้ในบทความเรื่อง จับตาคลื่นใต้น้ำในกองทัพ ป้อนข้อมูล 'อำนาจเก่า' กับ เกมเสี่ยง 'ล้มกระดาน' ภาค2 ฉบับ 31 ธันวาคม 2549 ได้อย่างน่าติดตาม เราลองอ่านดูกันนะครับ.. ------------------------------------- และแล้ว the old soldiers never die. ที่เดินตามรอย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ถึงสองคน ก็ต้องโดน "บูมเมอแรง" หมุนกลับมาหาตัวเข้าจังเบ้อเร่อ ทั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ พล.อ.เปรมการันตีว่า "ดีที่สุด" ก็ต้องเจอกับประเด็นร้อน ในการเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เขายายเที่ยง ที่นอกจากจะถูกตรวจสอบทางกฎหมายแล้ว ยังถูกตั้งคำถามเรื่องความเหมาะสม คุณธรรม จริยธรรมของ "ผู้นำ" และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก็โดน "กลุ่มพิราบขาว" มาเปิดประเด็นเรื่องการจดทะเบียนสมรสซ้อน ซึ่งหากเป็นจริงก็ต้องถูกพิจารณาโทษตามกฎหมาย แต่ที่เสียหายคือความน่าเชื่อถือ ในฐานะที่เป็นนายทหารระดับสูงในกองทัพที่ได้รับการยอมรับเรื่องภาพลักษณ์ เมื่อเทียบดูระยะเวลา และประเด็นร้อนที่รุกคืบมาตามลำดับนั้น ปุถุชนธรรมดาย่อมมองออกว่ามีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อตีตรง "กล่องดวงใจ" ทั้งนายกรัฐมนตรีและประธาน คมช.ที่ถือว่ามีอำนาจสูงสุดในขณะนี้ ก็ทำให้เห็นถึงจุดประสงค์ในการสร้างความสะเทือนให้เกิดขึ้นอย่างรุนแรง แม้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข รองประธาน คมช. จะมองว่าทั้งหมดเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่เกี่ยวข้องกับ คมช.ทั้งคณะ แต่ต้องยอมรับว่าผลกระทบกระเทือนที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลต่อ คมช.อยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ น่าสนใจว่า ประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมา "ดิสเครดิต" พล.อ.สุรยุทธ์ และ พล.อ.สนธิ นั้นถือว่าเป็น "มุม" ที่น่าจะรู้กันใน "วงใน" จริงๆ เพราะจะว่าไปแม้ทั้งคู่จะเป็นผู้บังคับบัญชาในรั้ว "ป่าหวาย" ที่อาจจะถือว่าเป็น "เมืองปิด" ก็จริง แต่ก็เป็นนายทหารที่ถูกจับตามองมานาน โดยเฉพาะ พล.อ.สุรยุทธ์นั้น ใครๆ ก็รู้ว่าเป็น "เด็กสร้าง" ของ พล.อ.เปรม มาตั้งแต่ไปทำงานเป็นฝ่ายเสนาธิการ อันเป็นธรรมดาที่ต้องมีทั้ง "คนรัก" และ "คนเกลียด" เพราะเส้นทางที่เดินมาในแต่ละตำแหน่ง ทำให้ใครต่อใครหลายคนพลาดหวังและเสียประโยชน์ จึงไม่แปลกที่ "ประเด็น" เรื่องที่ดิน ต.เขายายเที่ยง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จะถูกลากยาวมาจากเรื่อง "โบกี้รถไฟ" ซึ่งออกมาจากคนของ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งทั้ง "บิ๊กจิ๋ว" และ พล.อ.สุรยุทธ์ ต่างก็รู้ว่าตัวเองนั้นถือ "ไพ่" อยู่คนละใบ เมื่อครั้งที่กองทัพบกไทยต้องไปสร้าง "รัฐกันชน" ในเขตเขมรแดง ที่สถานการณ์ในครั้งนั้นมีเรื่องราวและข้อมูลที่กลายเป็นปมขัดแย้งมาถึงปัจจุบัน
ไม่นับรวมเครือข่ายทหารที่เคยได้รับ "อานิสงส์" จาก "ระบอบทักษิณ" มาในระยะ 4 ปี ที่ย่อมรู้ข้อมูลของ พล.อ.สุรยุทธ์ และ พล.อ.สนธิ
จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะโยนให้คนภายนอกกองทัพเล่นเกม "dark side" แทน โดยที่ตัวเองไม่ต้องลงแรงมากนัก และ "วิชามาร" เช่นนี้คงไม่ต้องเดาให้ยากว่าเป็นฝีมือของ "ไอ้ห้อย ไอ้โหน" ตนใดและอย่าลืมว่าในต้นปีใหม่ เลยไปถึงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม การจัดทัพจากการโยกย้ายนายทหารกลางปีกำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งโผครั้งนี้จะทำให้เห็นว่าทิศทางในกองทัพยุค คมช.ครองอำนาจจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร
แน่นอนว่ากลุ่มที่เคยเติบโตมาจาก "ระบอบทักษิณ" และยังทรงอิทธิพลในกองทัพ ต้องดิ้นสุดตัวเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกเขี่ยทิ้งเส้นทาง ในขณะที่ คมช.เองต้อง "ขุดรากถอนโคน" สร้างฐานอำนาจใหม่ขึ้นมาทดแทน เพราะต้องยอมรับว่าบางเหล่าทัพนายทหารรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกดันขึ้นมาโตตัดหน้าเพื่อจ่อคิวขึ้นเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพในปีนี้ แซงหน้ารุ่นพี่หลายๆ คน จนทำให้หลายคนต้องเกษียณไปก่อนหรือเกษียณพร้อมกัน ทำให้บางเหล่าทัพคนที่เหมาะสมก็ขยับขึ้นมาไม่ทัน ทำให้กองทัพประสบปัญหาในตัวเลือก เช่นเดียวกับในระดับรองๆ ลงไป ก็ยังมีทหารอีกหลายคนที่อยู่ในฟากของ พ.ต.ท.ทักษิณ และยังไม่เป็นเนื้อเดียวกับคณะผู้ก่อการยึดอำนาจ ไม่นับรวม "มือที่มองไม่เห็น" ที่ออกไปร่วมป่วน และ "รับงาน" ในการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในหลายจุด หลายสถานการณ์ ในช่วงปลายปี 49 ที่มีแนวโน้มว่าจะยิ่งถี่และหนักหน่วงขึ้นในปี 2550
ทั้งหมดนั้นถือเป็นเกมที่เกิดขึ้นก่อนปีใหม่ เพื่อเป็นการ "ชิมลาง" ก่อนที่จะเข้าสู่การต่อสู้ในสนามจริงที่จะเกิดขึ้นในต้นปี 2550 ที่มีทั้งเงื่อนไขความมั่นคงภายนอกกองทัพ และความมั่นคงภายในกองทัพ ในการให้รัฐบาลและ คมช.ได้พิสูจน์ "ฝีมือ" ในการแก้เกมที่คิวต่อไปคงหนีไม่พ้น "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ซึ่งถือเป็นหัวและเป้าหมายหลักของกลุ่มที่ศรัทธาและเสียประโยชน์จาก "ระบอบทักษิณ" จะจ้อง "ดิสเครดิต" ในโอกาสต่อไป ในขณะที่ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เกิดขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะเป็นจริง คือการสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดขึ้นสังคมไทย โดยการสื่อสารกับคนในสังคมผ่านสถานีโทรทัศน์ที่ตั้งขึ้นที่ประเทศจีน โดยยิงผ่านดาวเทียมเช่นเดียวกับเอเอสทีวี โดยใครที่มีจานรับสัญญาณหรือติดเคเบิลก็สามารถที่จะรับสัญญาณได้ และหากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับเป็นการ "เปิดเกม" สู้ที่แหลมคม เพื่อตอกย้ำในการ "มีอยู่" เพื่อไม่ให้สายใยแห่ง "ระบอบทักษิณ" ขาดสะบั้นลงด้วยน้ำมือของ คมช. เกมปลายปีนี้ที่เริ่มเข้มข้นมาอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อ "ความมั่นคงภายใน" ปีหน้าเป็นอย่างมาก จึงสุ่มเสี่ยงเป็นอย่างยิ่งในการที่จะเกิดการ "ล้มกระดาน" ครั้งใหม่ ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดก่อน หรือหลังการเผชิญหน้าของแรงปะทะของสองฝ่ายเท่านั้นเอง. http://www.thaipost.net/index.asp?bk=sunday&post_date=31/Dec/2549&news_id=135639&cat_id=110200"ไทยโพสต์" วิเคราะห์ไว้และหนังสือพิมพ์ถูกนำออกวางจำหน่ายใน กทม.เช้าวันที่ 31 ธันวาคม พอตกเย็นระเบิดโผล่เกลื่อนทั้ง กทม.
แบบนี้หมายความว่าอย่างไร ?? |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 "คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ จันดำถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน
บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา |
|
|
|
Sweet Chin Music
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 01-01-2007, 11:53 » |
|
นายหวาน หนอ
อิอิ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
คนไทยคนหนึ่ง
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 01-01-2007, 12:10 » |
|
ถ้าออกมายอมรับว่าเป็นคนทำซิเรื่องแปลก จากวิธีคิดเรื่องทนายสมชาย เรื่องตัดตอนค้ายาบ้า แล้ว เรื่องนี้ตัดสินใจได้สบายเพราะคิดว่าใช้ระเบิดแรงดันต่ำอำนาจในการทำลายไม่สูงมากคงจะไม่มีคนตาย อำนาจเก่าต้องดิ้นเพราะเล่นจะทุบหม้อข้าวกัน เพราะคิดว่าถ้าทำสำเร้จอาจจะกลับมารุ่งเหมือนเดิม
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 01-01-2007, 12:18 » |
|
คอยดูว่าตำรวจ โดยเฉพาะผู้บัญชาตำรวจนครบาล
จะกระตือรือล้นเหมือนกรณี"คาร์บ๊องบอมบ์" หรือไม่.......
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
คนไทยคนหนึ่ง
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 01-01-2007, 12:30 » |
|
พอจะจำกันได้หรือเปล่า รัฐบาลที่แล้วมีคนเรียกว่าอะไร "รัฐตำ ร...." เผาโรงเรียนไปเป็นสิบยังมีหน้าออกมาบอกว่าต้นเหตุจากไฟช๊อต จนคนทั้งประเทศไม่เชื่อถึงกลับลำว่าวางเพลิง แต่ก็หาผู้ต้องหาไม่ได้ขนาดมีพยานเห็นเหตุการณ์ จะดูว่างานนี้คงจะจับมือใครมาดมไม่ได้อีกเหมือนเดิมหรือเปล่า
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 01-01-2007, 13:10 » |
|
ประเด็นตีป่วนให้ คมช กับ สาวกไอ้เหลี่ยม ตีกัน ให้ คมช รุกฆาต อันนี้ มีน้ำหนักมากเลยครับ
แต่การเชื่อมโยงให้ตาแก่ฟั่นเฟือนขี่ม้าขาวมาช่วยชาติ อันนี้ผมดูไม่ออกครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 01-01-2007, 13:24 » |
|
ท่านนายก กำลังออกมาแถลงข่าวแล้วค่ะ (12.25 น.)
บอกว่าคนทำคือผู้ที่สูญเสียประโยชน์ทางการเมืองทั้งหมด
ต้องการสร้างเหตุการณ์ให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ
และไม่ต้องการให้พี่น้องประชาชนมีความสุข
ทั้งยืนยันว่า ความเป็นไปได้น้อยมาก ที่จะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ภาคใต้
แล้วก็กล่าวประนามคนก่อเหตุอย่างรุนแรง
(หน้าตาท่านนายกดูโกรธมากทีเดียว ปกติจะเห็นท่านอารมณ์นิ่งๆ)
จากนั้น.. ก็ขอบคุณหน่วยงานเอกชนที่ให้ความร่วมมือหลายด้าน
โดยเฉพาะการยกเลิกกิจกรรมเคาท์ดาวน์ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ท่านยังแถมท้ายเปรียบเทียบด้วยว่า ไม่เหมือนคนบางกลุ่ม ที่ไม่สนใจความเดือนร้อน
แถมยังพึงพอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้วย
เอ๊ะ.. ท่านจะรู้ไหมนะว่า แถวๆ นี้ก็มีเยอะนะคะ ไอ้พวกเนี้ย...
ปล. เนื้อหาไม่เกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิด แต่หนูไม่รู้จะไปอยู่กระทู้ไหน เยอะไปหมด
ขออภัยคุณลุงเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ ที่มาอาศัยพื้นที่กระทู้ แหะๆ  ท่านยังแถมท้ายเปรียบเทียบด้วยว่า ไม่เหมือนคนบางกลุ่ม ที่ไม่สนใจความเดือนร้อน
แถมยังพึงพอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้วย
เอ๊ะ.. ท่านจะรู้ไหมนะว่า แถวๆ นี้ก็มีเยอะนะคะ ไอ้พวกเนี้ย. ถ้าคุณเก็ดถวาเปิดเผยให้ท่านนายกฯสุรยุทธ์ทราบว่า คนพวกนี้ คือ คนรักทักษิณ สาวกฯ หวอรูม และ ลูกจ้างบริษัทเทียมรักเทียมจำกัด....
ท่านนายกฯ สุรยุทธ์ จะไม่แปลกใจเลย เพราะสัน-ดานพวกนี้เหมือน"นายผู้ชาย" ยินดีในความเสียหาย ความทุกข์ร้อนของคนอื่น ๆ โดยเฉพาะคนที่พวกเขาเกลียด..... |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 01-01-2007, 13:52 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
จูล่ง_j
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 01-01-2007, 14:29 » |
|
นี่ก็หนึ่งในผู้ต้องสงสัย  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
tom
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 01-01-2007, 14:37 » |
|
นอกจากเหตุระเบิดแล้ว เงินบาทวันนี้ อยู่ 33.904 บาทต่อ 1 ยูเอสดอลลาร์ แบบนี้มันมีอะไรผิดปรกติแล้วครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
(ก้อนหิน) ละเมอ
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 01-01-2007, 14:38 » |
|
นอกจากเหตุระเบิดแล้ว เงินบาทวันนี้ อยู่ 33.904 บาทต่อ 1 ยูเอสดอลลาร์ แบบนี้มันมีอะไรผิดปรกติแล้วครับ
ความจริง เมือเกิดเหตุระเบิด เงินบาทน่าจะตก แต่ทำไมมันขึ้น หรือว่าจะโดนโจมตีอีกระลอก |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
tom
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 01-01-2007, 14:39 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
นู๋เจ๋ง
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 01-01-2007, 14:41 » |
|
ต้องไปถามจิ๋ว.....แล้วล่ะ !!
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
|
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 01-01-2007, 14:58 » |
|
การวิเคราะห์ล่าสุดจาก คุณชวน หลีกภัย ครับวันนี้ (1 ม.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายจุดในกทม.หลังพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองว่า กลุ่มอำนาจเก่าย่อมมีอยู่เหมือนกับกลุ่มใต้ดิน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เคยมีอำนาจ ซึ่งต้องไม่ลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีอำนาจอยู่ 5 ปี ซึ่งได้สร้างอาณาจักร และสร้างคนขึ้นมาด้วยกระบวนการที่พูดง่าย ๆ คือใช้ทั้งเงินและอำนาจเป็นเครื่องมือต่อรอง ฉะนั้น คนที่จงรักภักดีและผูกพันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอยู่มากทั้งนักการเมืองและข้าราชการประจำ และคนเหล่านี้ยังอยู่ในอำนาจ ซึ่งรัฐบาลและคมช. ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงอะไร โดยเปลี่ยนเฉพาะไม่กี่คน ดังนั้น สิ่งที่สะสมมา 5 ปี จะล้มด้วยประกาศคณะปฏิรูปในคืนวันที่ 19 ก.ย.ครั้งเดียวนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ตนจึงบอกว่าต้องอธิบายความจริงให้ประชาชนเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดบ้านเมืองวิกฤติขึ้นมา นายชวน กล่าวย้ำว่าหากไม่อธิบาย คนก็ไม่เข้าใจ คนก็ยังผูกพันอยู่ เพราะฉะนั้นอำนาจเก่าเหล่านี้ ยังมีอิทธิพลอยู่มาก ดูรัฐบาลชุดนี้ก็ได้ ว่าเป็นคนของกลุ่มอำนาจเก่าอยู่หลายคน คนเหล่านี้ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับระบอบทักษิณ "ฉะนั้น กลุ่มอำนาจเก่าจึงมีฐานที่เข้มแข็งอยู่ สามารถเผาโรงเรียนได้เรื่อยๆ โดยเจ้าหน้าที่บางคนก็คือคนของอำนาจเก่า คนเหล่านี้ก็ไม่พยายามทำให้เรื่องจริงปรากฎ ก็ต้องปกป้องไว้ก่อน เพราะตัวก็ผูกพันอยู่กับอำนาจเก่า ดังนั้นคำตอบก็คือไฟฟ้าลัดวงจร เพิ่งมายอมรับว่ามีการวางเพลิง อันนี้คือคลื่นใต้น้ำที่มาจากฐานการเมือง เงินไม่เข้าใครออกใคร คนที่เคยได้อยู่เป็นประจำก็ผูกพันเยอะ อันนี้เป็นความจริงในสังคมชนบท สังคมเมือง หรือแม้แต่ส่วนกลางล่าวว่า นอกจากนี้สื่อมวลชนที่มาจากฐานอำนาจเก่าก็ยังอยู่ วิทยุโทรทัศน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ยังมีอำนาจอยู่ " ต่อข้อถามว่า ถ้าเป็นอย่างนี้สังคมไทยจะเข้าสู่วิกฤติการเมืองหรือไม่นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่าบ้านเมืองเสียศูนย์ไปมากในช่วง 5 ปีและบัดนี้ ก็ยังไม่ได้ปรับเข้าที่ ดังนั้น ต้องรอรัฐบาลชุดพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ว่าจะทำอย่างไรในช่วง 1 ปี แต่สิ่งที่ตนได้เสนอคืออยากให้ประชาชนได้รู้ความจริง หากประชาชนรู้ความจริงการจะไปยุยงส่งเสริม หรือคลื่นใต้น้ำจะไปหลอกลวงอย่างไร จะทำได้ยาก แต่ถ้าไม่รู้ความจริงจะสามารถหลอกได้ และสามารถเอาผลประโยชน์ไปแลกเปลี่ยนไม่ได้ ในที่สุดเราจะล้มล้างความชั่วร้ายอันก่อให้เกิดวิกฤติไม่ได้ และศูนย์ของบ้านเมืองก็ยังสูญเสียไป ซึ่งตรงนี้ตนอยากให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ในปัจจุบันได้ตระหนักความจริงในเรื่องเหล่านี้ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000160250
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 01-01-2007, 18:01 » |
|
ถึงจะมีผู้ต้องสงสัยหลายคน แต่ยังไงก็ยังพัวพันกับคนกลุ่มนั้นอยู่ดี คิดยังไงก็แยกไม่ออกจากกันไมได้......
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 01-01-2007, 20:03 » |
|
ผมดูตารางนี้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อตอนบ่าย ...........ผมเข้าใจว่าที่เห็นที่ การซื้อขายกันที่ 33 บาทกว่า เนื่องจากเป็นวันหยุด การทำธุรกรรมน้อย ........ช่วงบ่ายผมเห็น บิด ที่ 33.90 ออฟเฟอร์ 36 กว่านิดหน่อย...ซึ่งถ้าสังเกตุดูให้ดี จะเห็นว่าช่วงห่างระหว่างบิด กับ ออฟเฟอร์ มันมากเกินความเป็นจริง แค่มีใครเคาะขายไม่กี่เหรียญ...เงินบาทก็จะไปอยู่ที่ 33 บาทกว่าแล้วครับ อาจจะเกิดได้เพราะเป็นวันหยุด.....ต้องดูวันที่ธนาคารบ้านเราเปิดทำการครับ ถึงจะเห็นการซื้อขายและราคาที่แท้จริง
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 01-01-2007, 21:02 » |
|
การวิเคราะห์ล่าสุดจาก คุณชวน หลีกภัย ครับวันนี้ (1 ม.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดหลายจุดในกทม.หลังพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองว่า กลุ่มอำนาจเก่าย่อมมีอยู่เหมือนกับกลุ่มใต้ดิน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เคยมีอำนาจ ซึ่งต้องไม่ลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีอำนาจอยู่ 5 ปี ซึ่งได้สร้างอาณาจักร และสร้างคนขึ้นมาด้วยกระบวนการที่พูดง่าย ๆ คือใช้ทั้งเงินและอำนาจเป็นเครื่องมือต่อรอง ฉะนั้น คนที่จงรักภักดีและผูกพันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอยู่มากทั้งนักการเมืองและข้าราชการประจำ และคนเหล่านี้ยังอยู่ในอำนาจ ซึ่งรัฐบาลและคมช. ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงอะไร โดยเปลี่ยนเฉพาะไม่กี่คน ดังนั้น สิ่งที่สะสมมา 5 ปี จะล้มด้วยประกาศคณะปฏิรูปในคืนวันที่ 19 ก.ย.ครั้งเดียวนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ตนจึงบอกว่าต้องอธิบายความจริงให้ประชาชนเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดบ้านเมืองวิกฤติขึ้นมา
นายชวน กล่าวย้ำว่าหากไม่อธิบาย คนก็ไม่เข้าใจ คนก็ยังผูกพันอยู่ เพราะฉะนั้นอำนาจเก่าเหล่านี้ ยังมีอิทธิพลอยู่มาก ดูรัฐบาลชุดนี้ก็ได้ ว่าเป็นคนของกลุ่มอำนาจเก่าอยู่หลายคน คนเหล่านี้ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับระบอบทักษิณ "ฉะนั้น กลุ่มอำนาจเก่าจึงมีฐานที่เข้มแข็งอยู่ สามารถเผาโรงเรียนได้เรื่อยๆ โดยเจ้าหน้าที่บางคนก็คือคนของอำนาจเก่า คนเหล่านี้ก็ไม่พยายามทำให้เรื่องจริงปรากฎ ก็ต้องปกป้องไว้ก่อน เพราะตัวก็ผูกพันอยู่กับอำนาจเก่า ดังนั้นคำตอบก็คือไฟฟ้าลัดวงจร เพิ่งมายอมรับว่ามีการวางเพลิง อันนี้คือคลื่นใต้น้ำที่มาจากฐานการเมือง เงินไม่เข้าใครออกใคร คนที่เคยได้อยู่เป็นประจำก็ผูกพันเยอะ อันนี้เป็นความจริงในสังคมชนบท สังคมเมือง หรือแม้แต่ส่วนกลางล่าวว่า นอกจากนี้สื่อมวลชนที่มาจากฐานอำนาจเก่าก็ยังอยู่ วิทยุโทรทัศน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ยังมีอำนาจอยู่ " ต่อข้อถามว่า ถ้าเป็นอย่างนี้สังคมไทยจะเข้าสู่วิกฤติการเมืองหรือไม่นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่าบ้านเมืองเสียศูนย์ไปมากในช่วง 5 ปีและบัดนี้ ก็ยังไม่ได้ปรับเข้าที่ ดังนั้น ต้องรอรัฐบาลชุดพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ว่าจะทำอย่างไรในช่วง 1 ปี แต่สิ่งที่ตนได้เสนอคืออยากให้ประชาชนได้รู้ความจริง หากประชาชนรู้ความจริงการจะไปยุยงส่งเสริม หรือคลื่นใต้น้ำจะไปหลอกลวงอย่างไร จะทำได้ยาก แต่ถ้าไม่รู้ความจริงจะสามารถหลอกได้ และสามารถเอาผลประโยชน์ไปแลกเปลี่ยนไม่ได้ ในที่สุดเราจะล้มล้างความชั่วร้ายอันก่อให้เกิดวิกฤติไม่ได้ และศูนย์ของบ้านเมืองก็ยังสูญเสียไป ซึ่งตรงนี้ตนอยากให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ในปัจจุบันได้ตระหนักความจริงในเรื่องเหล่านี้ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000160250 นอกจากทักษิณจะอยู่ในฐานะผู้นำฯ มีอำนาจมากกว่า 5 ปีแล้ว
ทักษิณยังโฆษณาให้นักการเมือง และข้าราชการประจำเชื่อว่าจะมีอำนาจต่อเนื่องไปอีก 20 ปี
จึงทำให้พวกเห็นกงจักรเป็นดอกบัว พึ่งพา ยินยอมเป็น"ทาสในเรือนเบี้ย"ต่อไป....
จู่ ๆ คณะทหารทำรัฐประหารทำให้ทักษิณที่อยู่ต่างประเทศ ไม่สามารถกลับเมืองไทย
และกลายเป็น"ผู้ลี้ภัย"ที่ไม่มีหลักแหล่งแน่นอน ที่ยังต้องการปกป้องทรัพย์สมบัติที่ถูก
คุณะกรรมการ คตส. คณะกรรมการ ปปช. ตรวจสอบ เพื่อยึดคืนแผ่นดินและลงโทษ...
ดังนั้นคนรักทักษิณ สาวกฯ หวอรูม และ ลูกจ้างในบริษัทเทียมรักเทียมจำกัด และรากแก้ว
ที่หวังพึ่งพาโครงการประชานิยม โครงการเอื้ออาทรต่าง ๆ ยังอยากจะให้เป็นผู้นำทางการเมืองต่อไป
จึงควรที่ คมช. รัฐบาลนี้ จะเร่งรัดให้คณะกรรมการ คตส. คณะกรรมการ ปปช. และหน่วยงานอื่น ๆ
ตรวจสอบ นำความจริงให้ปรากฏว่า ทักษิณ ครอบครัว และหุ้นส่วนถือหุ้นบริษัทเทียมรักเทียมจำกัด
นั้นฉ้อราษฎร์บังหลวง ทำโครงการทุจริตเชิงนโยบาย ผลประโยชน์ทับซ้อน และเอารัดเอาเปรียบอย่างไร... |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2007, 21:05 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
decison_making
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 01-01-2007, 21:55 » |
|
สงสัยพวกลิ่วล้อจะเห็นเหมือนคดีคาร์บ๊องส์
คิดเองเออเอง ว่ารัฐบาลทำเอง
ไปดูกระทู้ในพันทิพย์แล้วมึน ยิ่งดูผลโหวต ยิ่ง เอิ่มมมม
อะไรจะเห็นกงจักรเป็นดอกบัวขนาดนั้น
ทำไมจะต้องทำเรื่องลำบากให้ตัวเอง บริหารประเทศลำบากด้วย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 01-01-2007, 22:04 » |
|
อ่านที่ที่คุณชวน ท่านว่ามา เหมือนท่านก็พยายามบอกให้ พวกเราใจเย็นๆๆกันนะค่ะ อำนาจตั้งห้าปี กว่าจะถอนรากถอนโคนได้ต้องใช้เวลาค่ะ  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
ตาย่าน
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 01-01-2007, 22:22 » |
|
สำหรับ AT ตัวจริงอย่างผม ยังไงๆงานนี้ก็ต้องให้เครดิตทักษิณเค้า |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
สมชายสายชม
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 01-01-2007, 22:34 » |
|
น่าจะนำตัวจ่ายักษ์มาสอบสวน อาจจะได้เบาะแส
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 01-01-2007, 22:45 » |
|
การเมืองบึ้มกรุง ตรึงกำลังทั่วปท.
คำถามที่ตามมาหลังเกิดเหตุระเบิดทั่วกรุงเมื่อค่ำวันที่ 31 ธันวาคม 2549 คือ ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายถล่มเมืองในครั้งนี้?
คำตอบพุ่งเป้าไปที่บุคคลสองกลุ่ม
หนึ่ง คือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สอง คือกลุ่มผู้สูญเสียอำนาจ
คำตอบจะปรากฏออกมาหลังจากหน่วยพิสูจน์หลักฐานรายงานว่า ระเบิดแสวงเครื่อง เหล่านั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ใดบ้าง มีลักษณะเช่นเดียวกับที่เกิดในชายแดนภาคใต้หรือไม่
รายงานด่วนที่ส่งถึงบิ๊กๆ ทั้งหลายคือ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แยกสะพานควายและตลาดสดคลองเตย เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ใช้นาฬิกาเป็นตัวจุดระเบิดซึ่งมีทั้งตะปู ลูกเหล็ก และตลับลูกปืน
แหล่งข่าวทางการทหาร ระบุว่า ถ้าผลการพิสูจน์หลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานชี้ชัดว่า การวางระเบิดครั้งนี้ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวจุดชนวน ก็มีความเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุมาจากผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้!
แต่ถ้าไม่ใช่ก็น่าจะเป็นการดิสเครดิตทางการเมือง กำลังตรวจสอบว่า ระเบิดที่ใช้มาจากหน่วยงานราชการหรือไม่ สำหรับประเด็นคลื่นใต้น้ำนั้นคงตัดไปได้เลย เพราะกลุ่มที่เคลื่อนไหวไม่ใช่มืออาชีพในการก่อเหตุในลักษณะนี้ แหล่งข่าวทางทหารเปิดเผยกับโพสต์ทูเดย์
แต่กระนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลหน่วยก็ยืนยันว่า ได้รับทราบข่าวว่าจะมีการก่อวินาศกรรมใน กทม. ตั้งแต่ช่วงเที่ยง แม้หลักฐานเบื้องต้นจะชี้ไปที่กลุ่มผู้สูญเสียอำนาจ มิหนำซ้ำ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ก็รายงานไปทั่วโลกทันทีว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคราวนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขณะที่สำนักข่าวบีบีซี ใน กทม.ก็รายงานในทิศทางเดียวกัน
ด้าน นายนพดล ปัทมะ กระบอกเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ออกมาตอบโต้ทันควันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ขอร้องว่าอย่ามากล่าวหากัน
ถามว่าเบาะแสจากกลุ่มก่อกวนในภาคใต้มีไหม? คำตอบคือมีเหมือนกัน เพราะ 3-4 วันก่อนก็มีคำเตือนจากหน่วยข่าวในพื้นที่ว่า จะเกิดเหตุระเบิด และเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เพิ่งจับกุมชาย 8 คน มั่วสุมเสพยาเสพติด มีอาวุธปืนพร้อมคัมภีร์แบ่งแยกดินแดน!
นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็กล่าวว่า ทราบข่าวว่าจะมีการก่อเหตุระเบิด จึงได้มีหนังสือสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศระมัดระวังเหตุไว้ก่อนแล้ว
ผมทราบจากข่าวว่า จะมีการก่อเหตุลักษณะเช่นนี้ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่คิดว่า จะมาเกิดขึ้นที่ กทม. นายพงศ์โพยม กล่าว
ช่วงเกิดเหตุ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี อยู่ที่บ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อยู่บนเครื่องบินเที่ยวนครพนม เข้าสู่ กทม. คนนับล้านกำลังเตรียมตัวออกไปร่วมเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่คลื่นแห่งความรื่นเริงกลับกลายเป็นคลื่นแห่งความตื่นตระหนกในพริบตา เมื่อระเบิดลูกแล้วลูกเล่ากัมปนาทขึ้นทั่ว กทม.
พล.อ.สุรยุทธ์ ยกเลิกแผนไปออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เพื่อชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นว่าเร็วเกินไปที่จะพูดอะไร และในขณะนั้นหลักฐานต่างๆ ก็ยังไม่ชี้ชัดออกมามากนัก แต่ก็ได้แย้มพรายออกมาในขณะที่ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลราชวิถีในช่วงค่ำว่า คนร้ายได้เตรียมการมาก่อน แต่ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ฝีมือใคร ขอดูหลักฐานก่อน
ผมขอเรียนประชาชนว่า เป็นฝีมือผู้ไม่หวังดีต่อประเทศ รัฐบาลจะพยายามติดตามเพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบโดยเร็ว พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
ทันทีที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1 แสนนายทั่วประเทศถูกสั่งการให้เข้าประจำจุดต่างๆ ทันที ตำรวจ ทหาร ชักแถวเข้าไปปะปนในหมู่ชนที่ยังใจกล้ามาชุมนุมในที่สาธารณะ กองกำลังบางส่วนถูกส่งไปอารักขาสถานที่และบ้านพักบุคคลสำคัญๆ ตำรวจและทหารตั้งด่านและควบคุมจุดสำคัญๆ กว่าพันแห่ง ปลัดกระทรวงมหาดไทยเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อเช็กสถานการณ์ทุกจังหวัด
มาตรการการรักษาความสงบภายใน ซึ่งต้องนำด้วยตำรวจดูจะไม่เพียงพอจะรับมือกับคลื่นความตระหนกที่แผ่ซ่านไปทั่วประเทศ ประชาชนจำนวนมากยกเลิกการออกไปฉลองนอกบ้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. สั่งการให้ทหารส่งกำลังเข้าไปเสริมในจุดสำคัญๆ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผช.ผบ.ทบ. กล่าวว่า พล.อ.สนธิ ได้สั่งให้กองทัพภาคที่ 1 เข้าดูแลพื้นที่ กทม. และประสานกับตำรวจในการดูแลพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง เช่น สถานีรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนดิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุระเบิดซ้ำขึ้นอีก
แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการให้ทั่วภาคเหนือเพิ่มระดับความเข้มข้นในการเฝ้าระวังมากขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ระบุว่า ได้สั่งอารักขาจุดสำคัญๆ ใน 19 จังหวัด โดยเฉพาะงานกาชาดที่ จ.นครราชสีมา เป็นการด่วน
ระเบิด กทม.คือ ระเบิดหัวใจประเทศไทย
ศักราชใหม่ 2550 มาพร้อมกับความร้อนแรง แนวรบการเมืองตึงเครียด แนวรับก่อการร้ายร้อนแรง ระบบเศรษฐกิจปั่นป่วน
คนไทยใจระส่ำรับปีหมูเขี้ยวโง้ง!
http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=140224
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
|
eAT
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 01-01-2007, 22:59 » |
|
การวิเคราะห์ของคุณในวงการ ผมค่อนข้างจะชอบนะ แต่อันนี้ ผมว่าช่องว่างเยอะ
อย่างเช่น การฟันธงข้อ 1. ที่ว่า
"ผมว่ายังจะน่าเชื่อถือกว่าความเชื่อที่ว่าคนพวกนี้จ้างมือระเบิดมาวางระเบิดกรุงเทพฯ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ คนลงมือต้องมีฝีมือ และต้อง***มโหดมากพอ ถึงแม้ว่านักการเมืองจะชั่วจะโกง แต่จะหาที่สันดานอำมหิตขนาดที่กล้าสั่งลงมือแบบนี้ได้น้อยคน "
กับ
"จุดที่ระเบิดเสมอ แต่ระเบิดในกรุงเทพ ถูกวางโดยคนที่กลัวว่ามันจะระเบิดแรงไป จงใจใช้ดินระเบิด จำนวนน้อย วางในที่ ที่น่าจะไม่มีคนยืนใกล้"
จะเห็นว่า ขัดแย้งกัน ถ้าถือว่าเป็นระเบิดการเมือง ไม่ต้องการให้มีคนตาย ดังนั้น พวกนักการเมือง
มากมาย ก็สามารถสั่งการได้นะสิ ดังนั้น จีงไม่สามารถตัด นักการเมืองฝั่ง ทรท ได้แม้แต่คนเดียว
เพราะคนโหดๆ (อย่างทักษิณ) หรือไม่โหด อย่าง... นึกไม่ออก ขนาด อีตอ... ยังดีใจ ที่นักบิน
ตายที่สุพรรณ ออกนอกหน้าในทีวีได้เลย
ทักษิณได้ประโยชน์นะครับ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเข้าประเทศได้ทันทีท้นใด แต่หาก รัฐบาลนี้
อยู่ไม่ได้ คมช. ก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน ถ้าออกไปแล้ว การกลับมานี่ก็สดใสแน่นอน แถมยังสามารถ
กับมากลบเรื่องคอรรัปชั่น ที่กำลังโดนอยู่ตอนนี้ ถ้าไม่รีบทำตอนนี้ รอจนเลือกตั้ง ถึงตอนนี้น
ศาลอาจมีคำตัดสินออกมาแล้วก็ได้ จึงต้องเร่งทำตอนนี้
ไม่เพียงแค่นั้น มือเท้ายังอยู่เต็ม อย่าลืมเรื่อง ค่าตัดตอนนับพันศพ การที่การเมืองไม่มั่นคง
ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้กุมอำนาจต่อไป ตำรวจ ก็มีสิทธิจะโดนเล่นงานเรื่องนี้ แต่หากทักษิณ
สามารถกลับมาเป็นใหญ่ได้ เรื่องนี้ ก็ไม่มีทางถูกรื้อฟื้นขึ้นมาแน่
ดังนั้น ตำรวจ จึงมีชนักติดหลัง ยังคงมีผลประโยชน์ร่วมกันกับทักษิณ อย่างที่จะแยกออก
จากกันไม่ได้ ไม่อย่างนั้น ผอ. กองฉลาก คงไม่กลับเข้า ตำรวจ ได้เร็วอย่างนี้หรอก
แล้วก็อย่าลืมว่า พอ.ชวลิต ได้รับดูแล ทรท อยู่ตอนนี้ ก็มีแบ็คอัพ ในกองทัพอยู่ไม่น้อย
เมื่อบวกกับ ตำรวจ และข้าราชการ (ซึ่งโดนเล่นงาน จาก ปชป. คตส. ในฐานะ ผู้สบคบคิด
กัน จะพากันถูกไล่ออก ดีไม่ดี ถูกจับติดคุก เหมือน 3 หนาอีกต่างหาก) แรกหนุน ไม่น้อย
นะครับ ทั้ง ข้าราชการพลเรือน + ตำรวจ + ทหาร (พอ.ชวลิต + เพื่อรรุ่นเดียวกัน)
แถมด้วย ทรัพย์สิน อีกนับหมื่นล้าน
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
p
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 01-01-2007, 23:49 » |
|
ทฤษฎีสมคบคิดเป็นทฤษฎีที่เหมาะที่สุดกับสถานการณ์ในขณะนี้ครับ
ประกอบกับคำกล่าวที่ว่า "กูต้องฆ่ามัน ก่อนที่มันจะฆ่ากู"
ถ้าดูให้ดีจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆว่ามีหลายคนหลายกลุ่มกำลังรอคิวที่จะถูก"เชือด"
เนื่องจากทำกรรมชั่วไว้มากในอดีต
ดังนั้นคนพวกนี้ต้องรวมหัวกัน"ทำอะไรก็ได้" ที่จะทำให้ตัวเอง "มีชีวิตรอด" 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
|
|
|
|
