ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
26-04-2024, 15:10
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  3 อจ.นิติฯ ยื่นร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
3 อจ.นิติฯ ยื่นร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ  (อ่าน 1062 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 27-04-2006, 00:15 »

3 อาจารย์นิติ มธ. ยื่นหนังสือผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ส่งเรื่องให้ศาล รธน. วินิจฉัยเลือกตั้ง 2 เม.ย.เป็นโมฆะ ระบุ 4 เหตุใหญ่ กำหนดวันเลือกตั้งกระชั้นชิด - คูหาลงคะแนน - จ้างพรรคเล็กลงสมัคร - ลักษณะการประชุมของ กกต.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้(26 เม.ย.) อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ประกอบด้วยนายบรรเจิด สิงคะเนติ นายจุมพล แดงสกุล และนายไพโรจน์ กัมพูสิริ ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา เพื่อขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการดำเนินการเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 หลายประการ จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาพิจารณาใช้อำนาจตามบทบัญญัติมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ. 2542 เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยเพิกถอนการดำเนินการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. และการเลือกตั้งครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ตลอดจนครั้งอื่นๆ ที่ได้ดำเนินการสืบเนื่องกันมาทั้งหมด กับทั้งให้ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาเพิกถอนการออกประกาศ การวินิจฉัยชี้ขาด คำสั่งและการดำเนินการใดๆ ของกกต.ที่ได้มีขึ้นโดยเกี่ยวข้องหรือสืบเนื่องจากการเลือกตั้งดังกล่าวเสียทั้งสิ้น

หนังสือระบุด้วยว่า เหตุของการดำเนินการอันมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกกต. อันพึงจะต้องนำเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดมีอยู่โดยสรุปดังต่อไปนี้ 1.  กกต.ได้ให้ความเห็นในเรื่องการกำหนดระยะเวลาเตรียมจัดการเลือกตั้งอันนำไปสู่การประกาศกำหนดวันเลือกตั้งใน พ.ร.ฏ.ยุบสภาผู้แทนราษฎรโดยไม่เหมาะสมและไม่เที่ยงธรรม เนื่องจากกกต.ได้ให้ความเห็นต่อรัฐบาลแต่เพียงว่า จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายในระยะเวลา 31 วัน นับแต่วันที่ยุบสภาผู้แทนราษฎรเป็นต้นไป จนเป็นผลให้รัฐบาลได้กราบบังคมทูลเสนอร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้กำหนดระยะเวลาการเลือกตั้งไว้ในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งห่างจากวันยุบสภาเพียง 35 วันเท่านั้น ทั้งๆ ที่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 116 ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้งไว้ให้ดำเนินการภายใน 60 วัน นับแต่วันยุบสภา ซึ่งแสดงเจตนารมณ์ในการให้มีระยะเวลาที่พอเพียงสำหรับการจัดการเลือกตั้งโดยไม่มีการกำหนดล่วงหน้ามาก่อน

ดังนั้นการให้ความเห็นในการกำหนดวันเลือกตั้งดังกล่าว แม้ว่าอยู่ภายในกรอบบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 116 แต่เป็นการดำเนินการที่ไม่เที่ยงธรรม เอื้อประโยชน์แก่พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจยุบสภา และทำให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านและพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่และต่างไม่มีส่วนร่วมรับรู้กับการเตรียมการและการตัดสินใจดังกล่าวเสียเปรียบ อันเป็นการขัดกับหลักการเรื่องความเป็นกลางในทางการเมืองของกกต.ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 136 และขัดกับหลักการในเรื่องการควบคุมและดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้ง ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมตามมาตรา 144  ของรัฐธรรมนูญ

2.การจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ของ กกต. ได้กำหนดให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้ใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งในคูหาลงคะแนน ซึ่งได้จัดตั้งไว้ในลักษณะที่ผู้เลือกตั้งจะต้องหันหน้าเข้าคูหาลงคะแนน และหันหลังให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งและประชาชนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งคนอื่นๆ กับทั้งบุคคลภายนอกที่มาสังเกตการณ์การเลือกตั้งหน้าหน่วย ทำให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ผู้เลือกตั้งคนอื่นและบุคคลภายนอกสามารถสังเกตเห็นได้ว่า ผู้เลือกตั้งได้ใช้สิทธิเลือกตั้งหมายเลขใดในบัตรเลือกตั้ง อันเป็นการละเมิดหลักการในเรื่องการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซึ่งจะต้องดำเนินการโดยใช้วิธีการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 104 วรรคสาม อย่างชัดแจ้ง

3.ได้มีข้อเท็จจริงปรากฏจากสอบสวนของคณะอนุกรรมการสอบสวนที่กกต. สั่งตั้งขึ้นว่า ได้มีพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่ส่งผู้สมัครในทุกเขตทั่วประเทศ ว่าจ้างให้ผู้สมัครจากพรรคการเมืองขนาดเล็กหลายพรรคส่งผู้สมัครเข้าแข่งขันในการเลือกตั้งตามที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่กำหนด เพื่อป้องกันมิให้เกิดกรณีมีผู้สมัครรับเลือกตั้งเพียงคนเดียวในหลายเขตเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้กกต. ได้มีมติให้ร้องขอต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรคการเมืองขนาดเล็กที่รับจ้างดำเนินการส่งผู้สมัครให้ตามที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่กำหนด และดำเนินคดีอาญากับหัวหน้าพรรคการเมืองขนาดเล็กและเจ้าหน้าที่ของ กกต. ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวมาแล้ว

พฤติการณ์ดังกล่าวนอกจากจะเป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาแล้ว ยังเป็นการละเมิดหลักการของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 108 ที่กำหนดว่า พรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้เพียงคนเดียวในเขตเลือกตั้งหนึ่งๆ อีกด้วย เพราะกรณีดังกล่าว หมายความว่า พรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้เป็น ผู้ตัดสินใจ กำหนดและดำเนินการให้มีผู้สมัครสองคน (แม้คนหนึ่งจะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่น) ลงสมัครในเขตเลือกตั้งเขตเดียวกันนั่นเอง

4.ในการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งในครั้งนี้ กกต. ได้มีมติ สั่งการออกประกาศ และออกคำสั่งในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง การสืบสวนสอบสวนเพื่อวินิจฉัยข้อปัญหาโต้แย้งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตลอดจนการพิจารณาประกาศและรับรองผลการเลือกตั้งไปโดยไม่ได้มีการประชุมปรึกษาหารือ หรือมิได้มีการปรึกษาหารือกันโดยมีกรรมการการเลือกตั้งครบถ้วนตามจำนวนที่มีอยู่ และในการพิจารณาให้ความเห็นชอบให้กำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย. กับการพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งก็มิได้มีการประชุมปรึกษาหารือ หรือมิได้มีการปรึกษาหารือกันโดยกรรมการการเลือกตั้งครบถ้วนตามจำนวนที่มีอยู่

อีกทั้งในการพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ก็มิได้ดำเนินการโดยกกต. ทั้งหมดโดยมติเอกฉันท์ตามหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต. พ.ศ. 2541 มาตรา 10 ประกอบกับบทบัญญัติมาตรา 145(6) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540  และขัดแย้งกับลักษณะของการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรกลุ่มตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 136 กำหนดลักษณะขององค์การที่ดำเนินการในเรื่องการเลือกตั้งเช่นนี้ไว้อย่างชัดแจ้ง

"โดยเหตุและข้อเท็จจริงในเรื่องความไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรม การละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ประกอบกับการดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่ล่วงละเมิดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญโดยชัดแจ้ง ดังที่ได้กล่าวไว้ ข้าพเจ้าจึงมีความเห็นว่าการจัดการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ มิใช่การเลือกตั้งอย่างแท้จริงอันหมายความรวมถึงการคัดเลือกผู้แทนของประชาชนมาแสดงเจตนารมณ์แทนทั้งประเทศมาลงคะแนนเสียงเพื่อรับรองพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ดังที่เป็นอยู่นี้เป็นเพียงการลงประชามติต่อพรรคการเมืองพรรคเดียวที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเท่านั้น และย่อมมิใช่การเลือกตั้งที่แท้จริงตาม
ความหมายของการปกครองแบบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาตามที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ

โดยเหตุดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาใช้ดุลพินิจ พิจารณาวินิจฉัยให้ส่งเรื่องการกระทำของกกต. ดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจิฉัยชี้ขาดว่า การดำเนินการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 เม.ย. และการเลือกตั้งครั้งต่อๆ มาที่จัดขึ้นสืบเนื่องจากครั้งดังกล่าว และการกระทำที่เป็นผลสืบเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งดังกล่าว เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเพิกถอนการดำเนินการเลือกตั้ง การประกาศผลการเลือกตั้ง และประกาศหรือการวินิจฉัยอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เพื่อจะได้จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ที่สุจริตและเที่ยงธรรมขึ้นเพื่อให้เป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชนในการเลือกผู้แทนราษฎรเพื่อมาประกอบคณะรัฐมนตรีเข้าบริหารประเทศโดยถูกต้องเป็นธรรม ตามหลักการที่แท้จริงของการปกครองแบบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขต่อไป ทั้งนี้ โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติมาตรา 17  ของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา พ.ศ. 2542 ประกอบกับบทบัญญัติมาตรา 198  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540"

สำหรับรายละเอียด หลักฐานเกี่ยวข้องกับการดำเนินการที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในกรณีต่างๆ ที่ได้ระบุไว้ในคำร้องนี้ ข้าพเจ้าจะได้ดำเนินการชี้แจงนำสืบเสนอโดยละเอียดต่อศาลรัฐธรรมนูญซึ่งจะเป็นผู้ไต่สวนคำร้องและวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการกระทำดังกล่าวในชั้นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

อนึ่งในเรื่องที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการรับวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาในเรื่องที่ข้าพเจ้าได้เสนอให้วินิจฉัยในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นกรณีเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจหน้าที่ของกกต.อันเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ และอาจไม่อยู่ในขอบข่ายของการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่นตามมาตรา 16 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ. 2542 นั้น ข้าพเจ้าขอเรียนว่าคำร้องที่ยื่นในครั้งนี้ มิได้มีความประสงค์ที่จะให้ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาพิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อจะเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ข้าพเจ้า หากแต่เป็นการขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาเสนอปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการกระทำของกกต.และบรรดาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งในเรื่องทำนองเดียวกันนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาเคยใช้ดุลพินิจดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจของกกต.เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาแล้วในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 24/2543 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเห็นพ้องด้วยกับที่ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาได้เสนอให้วินิจฉัยว่าการดำเนินการของกกต.เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาก่อนหน้านี้แล้ว 

http://www.matichon.co.th/matichon/
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 27-04-2006, 00:27 »

รายงาน : 6คดีฟ้องกกต. รอศาลปกครองชี้ขาด

26 เมษายน 2549 20:02 น.
สรุป 6 คดี ฟ้องกกต.นับตั้งแต่มีการเลือกตั้ง รอการพิจารณาของศาลปกครอง

สถานการณ์การเมืองที่อึมครึมมานานเกือบปี กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญอีกครั้ง โดยประธานศาลฎีกา ศาลปกครองสูงสุดสุดและศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดหารือกันในวันศุกร์ที่ 28 เมษายนนี้ นัยว่าเพื่อสรุปร่วมกันและเสนอแนะให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)พิจารณาแนวทางเพื่อแก้ปัญหาทางตันทางการเมือง

            อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันนั้น กกต.และพรรคไทยรักไทย รวมทั้งพรรคเล็กพรรคน้อย ต่างเดินหน้าเพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งรอบที่ 3 ใน 14 เขตเลือกตั้ง โดยแกนนำของพรรคไทยรักไทยมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะได้ส.ส.เขตครบ 400 คนแน่

            ดังนั้น จึงต้องจับตาการประชุมของสามประมุขศาล และท่าทีของกกต.ต่อการจัดการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 29 เมษายนนี้

            แต่ที่น่าสนใจคือ ศาลปกครองสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประชาชนให้ความเชื่อมั่นอย่างสูง หลังจากที่องค์กรอิสระหลายแห่งสิ้น "ศรัทธา" โดยประเด็นที่น่าสนใจคือ คดีที่มีประชาชนกลุ่มต่างๆฟ้องร้องกกต. โดยยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนั่นเอง

            จากปัญหาการเมืองที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีคดีฟ้องกกต.กับศาลปกครองรวม 6 คดี โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน มีดังนี้

1.หมายเลขดำที่ 588/2549

สรุปคำฟ้อง ผู้ฟ้องคดี / ผู้ถูกฟ้องคดี

            - นายนิมิตร์ เทียนอุดม                         ผู้ฟ้องคดี

            - คณะกรรมการการเลือกตั้ง               ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 1 กับพวก 2 คน

          ฟ้องว่า คณะกรรมการการฯมีมติให้ใช้ตรายางประทับในบัตรเลือกตังแทนการทำเครื่องหมายกากบาท โดยไม่มีการแก้ไขประกาศ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องตามกฎหมาย

สรุปคำขอ

          - ให้เพิกถอนมติที่กำหนดให้ใช้ตรายางประทับแทนการทำเครื่องหมายกากบาทในบัตรเลือกตั้ง

วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา

          - ให้ระงับการใช้ตราประทับในบัตรเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายน 2549 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

 

การเคลื่อนไหวของสำนวน

          ผลวิธีการชั่วคราว

          - ศาลมีคำสั่งให้กำหนดมาตรการ หรือวิธีการ คุ้มครอง เพื่อบรรเทาทุกข์โดยห้ามให้ประชาสัมพันธ์เฉพาะการใช้ตรายาง

            - ผู้ถูกฟ้องคดีอุทธรณ์คำสั่ง

            - ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตาม ศาลปกครองชั้นต้น  (อ่าน 7 เม.ย.49)

            ผลของคดี

          - ระหว่างผู้ถูกฟ้งคดีจัดทำคำให้การแก้คำฟ้อง

2.หมายเลขดำที่ 601/2549

สรุปคำฟ้อง ผู้ฟ้องคดี / ผู้ถูกฟ้องคดี

          - นายสุริยะใส กตะศิลา                      ผู้ฟ้องคดี

            - คณะกรรมการการเลืกตั้ง                  ผู้ถูกฟ้องคดี

            ฟ้องว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ละเลยล่าช้าในการทำเป็นการสอบสวนชี้มูลความผิด กรณีผู้ฟ้องคดีได้ร้องเรียน พ.ต.ท.ทักษิณฯ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

สรุปคำขอ

          - ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีดำเนินการสอบสวนชี้มูลความผิดตามที่วันเลือกตั้ง คือวันที่ 2 เม.ย.49

วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา

          - ขอให้ศาลปกครองกลางดำเนินการไต่สวนฉุกเฉิน โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีดำเนินการสอบสวนวินิจฉัยโดยเร็ว

การเคลื่อนไหวของสำนวน

          ผลวิธีการชั่วคราว

            - ศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราว

          ผลของคดี

          - ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีจัดทำคำให้การแก้คำฟ้อง

3. หมายเลขดำที่ 602/2549

สรุปคำฟ้อง ผู้ฟ้องคดี / ผู้ถูกฟ้องคดี

          -  นายนิมิตร์  เทียมอุดม                                  ผู้ฟ้องคดี

            - สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง           ผู้ถูกฟ้องคดี

            ฟ้องว่า สำนักงานคณะกรรมการฯ ได้ประชาสัมพันธ์การใช้ตรายางกากบาทในบัตรเลือกตั้ง และได้ยกเลิกการจัดเตรียมปากกาในคูหาเลือกตั้งเป็นการกระทบสิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำให้เกิดความสับสน     

สรุปคำขอ

          - ขอให้ห้ามมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีประชาสัมพันธ์การใช้ตรายางในบัตรเลือกตั้ง

วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา

          - ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา

การเคลื่อนไหวของสำนวน

          ผลวิธีการชั่วคราว             -------

          ผลของคดี                        -------   

 

4.หมายเลขดำที่ 620/2549

สรุปคำฟ้อง ผู้ฟ้องคดี / ผู้ถูกฟ้องคดี

          - นายแพทย์ประมวล  วีรุตมเสน                      ผู้ฟ้องคดีที่ 1 รวม 10 คน     

            - คณะกรรมการการเลือกตั้ง                           ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 รวม 3 คน       

            ฟ้องว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดการเลือกตั้งโดยจัดคูหาให้บุคคลภายนอกล่วงรู้ผลการลงคะแนนของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 104 และจัดทำบัตรเลือกตั้งให้เกิดความสับสนแก่ผู้ให้สิทธิเลือกตั้ง

สรุปคำขอ

          - ให้เพิกถอนกฎ ระเบียบ คำสั่ง รวมทั้งการกระทำใด ๆซึ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งเมื่อวันที่2 เม.ย. 49 ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 104 และให้เพิกถอนการจัดการเลือกตั้งในวันดังกล่าว

วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา

          - - ให้ระงับการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับการนับคะแนนเลือกตั้งการรายงานผลการเลือกตั้งการรับรอง และการประกาศผลการเลือกตั้งไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง

การเคลื่อนไหวของสำนวน

          ผลวิธีการชั่วคราว             ------------

          ผลของคดี                        ------------

5. หมายเลขดำที่ 638/2549

สรุปคำฟ้อง ผู้ฟ้องคดี / ผู้ถูกฟ้องคดี

          - พันโทแพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธุศรี                                ผู้ฟ้องคดี

            - คณะกรรมการการเลือกตั้ง                                                   ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กับพวก2 คน

          ฟ้องว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งออกข้อกำหนดห้ามผู้สมัคร สว.แนะนำตัวทางจดหมายอิเล็กทรอนิค และการปิดหรือแสดงแผ่นป้ายในสถานที่เอกชน, ไม่ดำเนินการจัดหาสถานที่และจัดสรรเวลาการออกอากาศเพื่อแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งฯ

สรุปคำขอ

          - ให้เพิกถอนข้อกำหนดคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการแนะนำตัวของผู้สมัครรับเลือกตั้ง

            - ให้เพิกถอนประกาศกำหนดสถานที่สำหรับปิดแผ่นประกาศหรือแผ่นป้ายแนะนำตัวของกทม.ในส่วนที่เกี่ยวกับการห้ามปิดประกาศในที่สาธารณะ

วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา

          - ขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาแก่ผู้ฟ้องคดี

การเคลื่อนไหวของสำนวน

          ผลวิธีการชั่วคราว    *** จำหน่ายคดี ออกจากสารบบความ  ผู้ฟ้องคดีขอถอนฟ้อง ***

          ผลของคดี              *** จำหน่ายคดี ออกจากสารบบความ  ผู้ฟ้องคดีขอถอนฟ้อง ***

6. หมายเลขดำที่ 643/2549

สรุปคำฟ้อง ผู้ฟ้องคดี / ผู้ถูกฟ้องคดี

          - นายถาวร  เสนเนียม           ผู้ฟ้องคดี

            - คณะกรรมการการเลือกตั้ง    ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน

          ฟ้องว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ออกประกาศ เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ฯ ใน 15 จังหวัด 38 เขตเลือกตั้ง ลงวันที่ 5 เม.ย. 49 โดยกำหนดให้มีการเริ่มสมัครไม่เกิน 5 วัน นับจากวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งให้มีการเลือกตั้งใหม่ และกำหนดวันรับสมัครไม่น้อยกว่าสองวัน การกระทำดังกล่าวไม่ได้ออกพระราชกฤษฎีการองรับ เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย

สรุปคำขอ

          - ให้เพิกถอนมติและประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งดังกล่าว

วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา

          - ให้ระงับการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว

การเคลื่อนไหวของสำนวน

          ผลวิธีการชั่วคราว   

          -  ศาลไต่สวนวันที่ 10 เม.ย. 49

          ผลของคดี             

 

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียง 6 คดที่ค้างมาตั้งแต่มีการจัดเลือกตั้ง โดยสิ้นสุด ณ วันที่ 11 เมษายน แต่จากนี้ไปจะเพิ่มอีกกี่คดี ต้องติดตาม

http://www.bangkokbiznews.com/2006/04/26/w001_98565.php?news_id=98565
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 27-04-2006, 01:26 »

มาถึงขั้นนี้ก็รอแต่ความเที่ยงธรรมจากศาลเท่านั้นที่จะกอบกู้วิกฤติของประเทศชาติ

ผมเห็นทีวีหลายช่อง นำเทปพระราชดำรัสมาออกอากาศหลาย ๆ ครั้งในวันนี้

น่าจะเป็นการให้ประชาชนได้เข้าใจข้อกฎหมาย หลักการประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น

ก็หวังกันไปครับว่าทุกอย่างจะเข้าสู่ระบบของมันเอง

พรรคร่วมฝ่ายค้านก็ออกมายอมรับว่า หากมีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ก้พร้อมที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งแล้ว

บรรยากาศน่าจะดีขึ้นครับ
บันทึกการเข้า

จูล่ง_j
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,901



« ตอบ #3 เมื่อ: 27-04-2006, 02:22 »

ลุ้นเหมือนกันครับ ให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ผมไม่อยากได้รัฐบาลลากตั้ง
เรื่อง การหันคูหา กับ เรื่องจ้างพรรคเล็ก นี่น่าเกลียดมาก
บันทึกการเข้า

abhichartt
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 79


ความคิดเห็นส่วนบุคคล*


« ตอบ #4 เมื่อ: 27-04-2006, 10:06 »

มีระบบการตรวจสอบแบบนี้ค่อยวางใจได้หน่อย
ถ้าระบบดีต่อให้ใครมาทำผิดก็เอาผิดกะมันได้
ขอให้ระบบตรวจสอบกลับมาโดยเร็วทีเถิด สว.ทั้งหลายๆ
บันทึกการเข้า

● politics is all around ●
cha_srt
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 276



« ตอบ #5 เมื่อ: 27-04-2006, 11:35 »

เลือกตั้งใหม่ กกต. ชุดเดิม เฮ้ออออออออ Shocked
บันทึกการเข้า
Henry Tood
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 112



« ตอบ #6 เมื่อ: 27-04-2006, 13:28 »

เลือกตั้งใหม่ กกต. ชุดเดิม เฮ้ออออออออ Shocked

ถึงจะท้อ แต่อย่าถอย ครับ.......

มีโอกาส มากทีเดียวที่ การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2เมษา จะเป็นโมฆะครับ......

ยังไงก็ต้อง สู้กันต่อไปครับ กับไอ้ 4ตัวคณะกรรมการโกงเลือกตั้ง........
บันทึกการเข้า

รักเธอประเทศไทย...
หน้า: [1]
    กระโดดไป: