**บิ๊กจิ๋วในร่างทรงใหม่..ชาวเสรีไทยต้องเหนื่อยกันอีกหนแล้วล่ะครับ**

[*bonny]

ผมเคยเขียนกระทู้เงื่อนงำการออกมาของบิ๊กจิ๋วไว้ใน..**บิ๊กจิ๋วออกโรงคราวนี้..มีอะไรซุกซ่อนอยู่????** ว่า รับใบสั่งมาจากกลุ่มคนหน้าเหลี่ยม แต่มีหลายท่านยังไม่เชื่อสนิทใจนัก  คราวนี้..อาการหงุดหงิดใส่คมช.ที่ไม่ยอมมาอวยพร แต่ฟาดหางใส่พลเอกสุรยุทธ์ ก็น่าจะทำให้หลายๆ คนที่ไม่เชื่ออาจเปลี่ยนใจมาเชื่อข้อมูลที่ผมวิเคราะห์บ้าง

หากจะกลับมาจริงๆ ล่ะก้อ..

1) มีเงินพอมั้ยที่จะเล่นการเมืองแบบเดิม

ตอบได้เลยว่า ไม่มีหรอกครับ  เงินของท่านหว่านไปจนหมดกระเป๋าเมื่อคราวก่อนเซ้งพรรคความหวังใหม่แล้ว  ตอนนี้ พอมี แต่ไม่พอเลี้ยงโต๊ะจีนให้เหล่าวานร

แต่เรื่องนี้ไม่มีปัญหาครับ  เพราะมีสปอนเซอร์รายใหญ่ให้ท่านทำงานเป็นร่างทรง

2) ตั้งพรรคใหม่หรือเข้าไทยรักไทย

ตอบได้เช่นกันว่า เขารอให้คดียุบพรรคชัดเจนก่อนครับจึงจะเปิดตัว และค่อนข้างแน่ชัดว่า ไทยรักไทยจะต้องถูกยุบแน่นอน ดังนั้น จึงน่าจะเป็น พรรคใหม่ในขวดเก่า

3) ตำแหน่งอะไร

ง่ายๆ เลยครับว่า ไม่ใช่หัวหน้าพรรคแน่นอน  แต่อยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีบทบาทในการเคลื่อนไหว แต่มีบทบาทในการกำหนดแนวทาง

พูดง่ายๆ ว่า สปอนเซอร์ต้องการยืมบารมีของท่านผู้นี้ รวบรวมไพร่พลมิให้กระจัดกระจาย กระเจิดกระเจิงไปสู่พรรคอื่นเท่านั้นเองแหละ  ไม่ได้ต้องการให้ท่านมีบทบาทใด ๆนอกเหนือจากนี้หรอก

4) ราบรื่นไหม หมายถึงกลับมายิ่งใหญ่ได้เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

คงไม่ง่ายนักหรอก  ถ้าสูตรนี้..

จิ๋วร่างทรง + จาตุรนต์หัวหน้าพรรค + ลูกสมุนเก่าๆ

จะได้สส.ประมาณ 50+ แต่ไม่ถึง 100 จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวไม่ได้ และถึงได้เป็นรัฐบาลในพรรคร่วม ก็กระทำการแก้แค้นกลุ่มที่ยึดอำนาจไม่ได้อยู่ดีเพราะอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาบนและสภาร่างหมดไปแล้ว

ความสำเร็จจึงอยู่ที่เงื่อนไข 2 ประการ ดังต่อไปนี้..

--สปอนเซอร์ยอมทุ่มหมดหน้าตักหรือเปล่า?  เพราะหากผ่านร่างทรง อะไรๆ ก็ไม่ชัวร์ 100% โดนชักค่าต๋งอยู่เช่นนี้ เมียสปอนเซอร์อาจถอดใจไปก่อน ขอนอนกอดสมบัติที่เหลือดีกว่า หว่านให้คนอื่นเอาไปทิ้งขยะ  เพราะชื่อของบิ๊กจิ๋วไม่ได้รับประกันคุณภาพอะไร  ครั้นจะพึ่งพาจาตุรนต์และสาวกที่เหลือ  ก็รู้ๆ ฝีมือกันดีอยู่ตั้งแต่สมัยอยู่พรรคเดิมแล้วว่า พวกนี้ไม่ต่างอะไรกับ "จับกัง"
ที่แน่ๆ เหมือนจับปูใส่กระด้ง มีการเรียกร้องไม่สิ้นสุดจากพวกจับกังที่ขอขึ้นค่าแรง จนเกิดความวุ่นวายในพรรค  ในที่สุด เมียสปอนเซอร์ต้องตัดสินใจขั้นสุดท้าย

--ชาวเสรีไทยต้องออกแรงกันอีกครั้ง ขับไล่ขบวนการร่างทรง ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ยังจะสู้กันต่อหรือเปล่า?

[*bonny]

**หมายเหตุปิดท้ายกระทู้..

เดี๋ยวจะหาว่าไม่เป็นกลาง 
ขบวนการร่างทรงจะไม่ใช่มีเฉพาะในกรณีของบิ๊กจิ๋วเท่านั้นนะครับ  ในภายภาคหน้ายังมีนักการเมืองที่อยู่ในขบวนการร่างทรงของคมช.อีกด้วย  ซึ่งเป็นเรื่องปกติบนความคิดที่ไม่ปกติครับ

ที่ว่า ปกติ ก็เพราะ เป็นธรรมชาติของการยึดอำนาจ  ต้องปกป้องตนเองมิให้ถูกล้างแค้น  แม้จะทำด้วยเจตนาดีใดๆ ก็ตามแต่ แต่ถ้าไม่ปกป้องตนเอง ก็จะถูกเช็คบิลในภายหลังได้  การแทรกแซงไม่จำเป็นต้องผ่านพรรคการเมืองเสมอไป แต่เป็นนักการเมืองจำเป็นในคราบของคณะที่ปรึกษาของรัฐบาล หรือ ผู้บัญชาการทหารสามเหล่าทัพ หรือ สมาชิกวุฒิสภาก็ได้  แต่จำเป็นต้องมียันตร์นี้ไว้แน่นอน

ที่ว่า ไม่ปกติ ก็เพราะ เคยลั่นวาจาไว้แล้วว่าจไม่มีการสืบทอดอำนาจไงล่ะ

[eAT]

**หมายเหตุปิดท้ายกระทู้..

เดี๋ยวจะหาว่าไม่เป็นกลาง 
ขบวนการร่างทรงจะไม่ใช่มีเฉพาะในกรณีของบิ๊กจิ๋วเท่านั้นนะครับ  ในภายภาคหน้ายังมีนักการเมืองที่อยู่ในขบวนการร่างทรงของคมช.อีกด้วย  ซึ่งเป็นเรื่องปกติบนความคิดที่ไม่ปกติครับ

ที่ว่า ปกติ ก็เพราะ เป็นธรรมชาติของการยึดอำนาจ  ต้องปกป้องตนเองมิให้ถูกล้างแค้น  แม้จะทำด้วยเจตนาดีใดๆ ก็ตามแต่ แต่ถ้าไม่ปกป้องตนเอง ก็จะถูกเช็คบิลในภายหลังได้  การแทรกแซงไม่จำเป็นต้องผ่านพรรคการเมืองเสมอไป แต่เป็นนักการเมืองจำเป็นในคราบของคณะที่ปรึกษาของรัฐบาล หรือ ผู้บัญชาการทหารสามเหล่าทัพ หรือ สมาชิกวุฒิสภาก็ได้  แต่จำเป็นต้องมียันตร์นี้ไว้แน่นอน

ที่ว่า ไม่ปกติ ก็เพราะ เคยลั่นวาจาไว้แล้วว่าจไม่มีการสืบทอดอำนาจไงล่ะ

ไม่สืบทอดอำนาจไงล่ะ แต่ก็ไม่ได้คืน 5555
ถ้าหากอำนาจนั้น ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง
การบริหารงาน ก็ว่า คงไม่มีปํญหา มีไว้เพื่อ
ป้องกันการเซ็คบิลทีหลัง ก็เป็นที่เข้าใจ
ถ้าแหลมออกมา หาประโยชน์เมื่อไหร่ โดนตาม
เซ็คบิลแน่ๆ

[MacBookPro]

แหม่ จิ๋วทีไหนไม่รู้บอกผมล้างมือในอ่างทองคำแล้ว ไม่กลับมาแล้ว

แล้วนี่กลับมาทำไม

สงสัยอัลไซเมอร์กำเริบ

ต้องให้หมอเพรา นิวาตวงศ์รักษาซะใหม่

[THE THIRD WAY]

ครั้งหนึ่งในวงการการเมืองไทย
ถึงขั้นเสนอให้มีการตรวจสุขภาพจิต
ก็เพราะตานี้แหละ

[Cherub Rock]

อัลไซเมอร์ไม่กลัว

กลัวพวกหน้าด้าน 

[The Last Emperor]

อืมมมม...แสดงว่าต่อไปนี้พรรคไหนเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องถูกปชช.อีกฝ่ายที่ไม่พอใจออกมาเดินขบวนขับไล่รายวันใช่ไหมพี่น้อง? จะได้เตรียมจัดม๊อบไว้แต่เนิ่นๆ...ในเมื่อประเทศเถื่อนๆนี้เค้าอยากจะเล่นนอกกติกากัน ทุกฝ่ายจะได้มีเวลาและสิทธิเท่าเทียมกันเตรียมจ้องโค่นรัฐบาลที่ตัวเองไม่ชอบ


ชัดๆแบบไม่ต้องตีความ!!

[Cherub Rock]

เดินขบวนเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย

แต่ม็อบกุ๊ยกองกำลังอัลธพาล(มือปืนและโจร) ใช้กำลังกระทืบคนอื่นเลือดสาด
ล้อมตึกปิดทางเข้าออก (คนท้องจะไปหาหมอก็ไม่ได้)
เรียกว่าอำนาจเถื่อน

รู้จักแยกแยะหน่อย 

[RiDKuN]

อืมมมม...แสดงว่าต่อไปนี้พรรคไหนเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องถูกปชช.อีกฝ่ายที่ไม่พอใจออกมาเดินขบวนขับไล่รายวันใช่ไหมพี่น้อง? จะได้เตรียมจัดม๊อบไว้แต่เนิ่นๆ...ในเมื่อประเทศเถื่อนๆนี้เค้าอยากจะเล่นนอกกติกากัน ทุกฝ่ายจะได้มีเวลาและสิทธิเท่าเทียมกันเตรียมจ้องโค่นรัฐบาลที่ตัวเองไม่ชอบ


ชัดๆแบบไม่ต้องตีความ!!

คะแนนตอนเรียนหนังสือเกี่ยวกับความสามารถในการอ่านจับใจความของคุณชอบแถนี่ได้กี่คะแนนครับ
แล้วจบจากโรงเรียนหรือมหาลัยไหนหรือ อยากรู้จริงๆ 

[ชอบแถ]

^
ยู้ฮูผมอยู่นี่นะครับ คุณ WM สุดที่รัก อย่าไปเรียกอาจารย์จ๊ะเป็นผมสิ

[The Last Emperor]

เดินขบวนเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย

แต่ม็อบกุ๊ยกองกำลังอัลธพาล(มือปืนและโจร) ใช้กำลังกระทืบคนอื่นเลือดสาด
ล้อมตึกปิดทางเข้าออก (คนท้องจะไปหาหมอก็ไม่ได้)
เรียกว่าอำนาจเถื่อน

รู้จักแยกแยะหน่อย 

ม๊อบที่ปิดล้อมตึกเดอะเนชั่นโดยคาราวานคนจน กับ ม๊อบที่ปิดล้อมอาคารจุลทรัพย์โดยพันธมาร...ต่างกันตรงไหนเอ่ย?

แล้วการที่ตำรวจล๊อคคอคนที่ไปด่านายกฯ...ผิดตรงไหน? ส่วนคนที่หัวแตกก็คือคนๆเดียวกันที่เคยทำร้ายตัวเองจนเลือดไหลในสมัยเมื่อ6-7ปีก่อน ส่วนเด็กดำที่ตะโกนด่านายกฯและทำเป็นบอกว่าเดินผ่านไปแถวนั้นพอดี แท้ที่จริงก็เป็นเด็กในกลุ่ม แรงคิด ที่สนธิให้การสนับสนุน

แยกแยะเป็นไหมครับ!?!

[Cherub Rock]

เดินขบวนเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย

แต่ม็อบกุ๊ยกองกำลังอัลธพาล(มือปืนและโจร) ใช้กำลังกระทืบคนอื่นเลือดสาด
ล้อมตึกปิดทางเข้าออก (คนท้องจะไปหาหมอก็ไม่ได้)
เรียกว่าอำนาจเถื่อน

รู้จักแยกแยะหน่อย 

ม๊อบที่ปิดล้อมตึกเดอะเนชั่นโดยคาราวานคนจน กับ ม๊อบที่ปิดล้อมอาคารจุลทรัพย์โดยพันธมาร...ต่างกันตรงไหนเอ่ย?

แล้วการที่ตำรวจล๊อคคอคนที่ไปด่านายกฯ...ผิดตรงไหน? ส่วนคนที่หัวแตกก็คือคนๆเดียวกันที่เคยทำร้ายตัวเองจนเลือดไหลในสมัยเมื่อ6-7ปีก่อน ส่วนเด็กดำที่ตะโกนด่านายกฯและทำเป็นบอกว่าเดินผ่านไปแถวนั้นพอดี แท้ที่จริงก็เป็นเด็กในกลุ่ม แรงคิด ที่สนธิให้การสนับสนุน

แยกแยะเป็นไหมครับ!?!

อยากรู้ว่าต่างกันยังไงก็ไปค้นดูเอาเอง
ผมไม่มีเวลาสีซอ

เปิดหูเปิดตาซะมั่ง ดูแต่ใบบอกจะรู้อะไร 

[Cherub Rock]

^
ยู้ฮูผมอยู่นี่นะครับ คุณ WM สุดที่รัก อย่าไปเรียกอาจารย์จ๊ะเป็นผมสิ

พูดถึงปุ็บมาปั๊บเลย
ท่าทางคอมมันจะร้องเตือนได้ 

[The Last Emperor]

เดินขบวนเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย

แต่ม็อบกุ๊ยกองกำลังอัลธพาล(มือปืนและโจร) ใช้กำลังกระทืบคนอื่นเลือดสาด
ล้อมตึกปิดทางเข้าออก (คนท้องจะไปหาหมอก็ไม่ได้)
เรียกว่าอำนาจเถื่อน

รู้จักแยกแยะหน่อย 

ม๊อบที่ปิดล้อมตึกเดอะเนชั่นโดยคาราวานคนจน กับ ม๊อบที่ปิดล้อมอาคารจุลทรัพย์โดยพันธมาร...ต่างกันตรงไหนเอ่ย?

แล้วการที่ตำรวจล๊อคคอคนที่ไปด่านายกฯ...ผิดตรงไหน? ส่วนคนที่หัวแตกก็คือคนๆเดียวกันที่เคยทำร้ายตัวเองจนเลือดไหลในสมัยเมื่อ6-7ปีก่อน ส่วนเด็กดำที่ตะโกนด่านายกฯและทำเป็นบอกว่าเดินผ่านไปแถวนั้นพอดี แท้ที่จริงก็เป็นเด็กในกลุ่ม แรงคิด ที่สนธิให้การสนับสนุน

แยกแยะเป็นไหมครับ!?!

อยากรู้ว่าต่างกันยังไงก็ไปค้นดูเอาเอง
ผมไม่มีเวลาสีซอ

เปิดหูเปิดตาซะมั่ง ดูแต่ใบบอกจะรู้อะไร 

ซาหรุป....แก้ตัวไม่ออกเลยโบ้ยแบบนี้เค้าเรียกว่า 'แต๋วแตก' น๊ะฮ้าต๊ะเอ๊งงงงง

[Kittinunn]

เดินขบวนเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย

แต่ม็อบกุ๊ยกองกำลังอัลธพาล(มือปืนและโจร) ใช้กำลังกระทืบคนอื่นเลือดสาด
ล้อมตึกปิดทางเข้าออก (คนท้องจะไปหาหมอก็ไม่ได้)
เรียกว่าอำนาจเถื่อน

รู้จักแยกแยะหน่อย 

ม๊อบที่ปิดล้อมตึกเดอะเนชั่นโดยคาราวานคนจน กับ ม๊อบที่ปิดล้อมอาคารจุลทรัพย์โดยพันธมาร...ต่างกันตรงไหนเอ่ย?

แล้วการที่ตำรวจล๊อคคอคนที่ไปด่านายกฯ...ผิดตรงไหน? ส่วนคนที่หัวแตกก็คือคนๆเดียวกันที่เคยทำร้ายตัวเองจนเลือดไหลในสมัยเมื่อ6-7ปีก่อน ส่วนเด็กดำที่ตะโกนด่านายกฯและทำเป็นบอกว่าเดินผ่านไปแถวนั้นพอดี แท้ที่จริงก็เป็นเด็กในกลุ่ม แรงคิด ที่สนธิให้การสนับสนุน

แยกแยะเป็นไหมครับ!?!

ก๊ากกกกกก.......  

ต้องถามว่า "สนับสนุนอะไรจ๊ะ" ...
เห็นรูปตอนที่ไปเยี่ยมคุณสนธิแล้วลือเป็นตุเป็นตะ ว่าแรงคิดสนธิสนับสนุน
5555555+

[Cherub Rock]

เดินขบวนเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย

แต่ม็อบกุ๊ยกองกำลังอัลธพาล(มือปืนและโจร) ใช้กำลังกระทืบคนอื่นเลือดสาด
ล้อมตึกปิดทางเข้าออก (คนท้องจะไปหาหมอก็ไม่ได้)
เรียกว่าอำนาจเถื่อน

รู้จักแยกแยะหน่อย 

ม๊อบที่ปิดล้อมตึกเดอะเนชั่นโดยคาราวานคนจน กับ ม๊อบที่ปิดล้อมอาคารจุลทรัพย์โดยพันธมาร...ต่างกันตรงไหนเอ่ย?

แล้วการที่ตำรวจล๊อคคอคนที่ไปด่านายกฯ...ผิดตรงไหน? ส่วนคนที่หัวแตกก็คือคนๆเดียวกันที่เคยทำร้ายตัวเองจนเลือดไหลในสมัยเมื่อ6-7ปีก่อน ส่วนเด็กดำที่ตะโกนด่านายกฯและทำเป็นบอกว่าเดินผ่านไปแถวนั้นพอดี แท้ที่จริงก็เป็นเด็กในกลุ่ม แรงคิด ที่สนธิให้การสนับสนุน

แยกแยะเป็นไหมครับ!?!

อยากรู้ว่าต่างกันยังไงก็ไปค้นดูเอาเอง
ผมไม่มีเวลาสีซอ

เปิดหูเปิดตาซะมั่ง ดูแต่ใบบอกจะรู้อะไร 

ซาหรุป....แก้ตัวไม่ออกเลยโบ้ยแบบนี้เค้าเรียกว่า 'แต๋วแตก' น๊ะฮ้าต๊ะเอ๊งงงงง

แถวบ้านผมไม่เรียกแต๋วแตก

เค้าเรียกว่า รำคาญ

แค่นี้ก็ไม่รู้ น่าเบื่อๆ

[*bonny]

"แล้วการที่ตำรวจล๊อคคอคนที่ไปด่านายกฯ...ผิดตรงไหน?" (อะไรจ๊ะ)

ถ้าตำรวจเป็นคนล็อคก็เพราะทำตามหน้าที่และคำสั่ง  แต่ถ้าเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกเกณฑ์มาให้ล็อค  ตรงนี้ผิดทั้งคนล็อคคอ และตำรวจที่ยืนดูครับ 

ส่วนคนที่มาตะโกนจะเป็นแก๊งค์ก๊วนของใคร เคยทำอะไรให้ใครมาก่อน มันไม่ได้เกี่ยวกับการถูกริดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานนี่นา

แยกแยะให้ออกด้วย

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

"ทักษิณ"วางหมาก"จิ๋ว"นอมินี ยืมมือต่อกร"คมช."
 
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชื่อของ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในระยะหลังกลับมามีบทบาทอีกครั้งในวงการเมือง ท่ามกลางบรรยากาศร้อนๆ ระหว่าง ”บิ๊กจิ๋ว” และ ”บิ๊กทหาร”

 โดยเฉพาะล่าสุดที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี อย่างรุนแรง จนทำให้ต้องร่อนจดหมายผ่านสื่อ เพื่อย้ำชัดถึง ”จุดยืน” ตัวเอง

 เคลียร์ด้วยลายมือตัวเองกับกระแสข่าวร้อนที่ปล่อยออกจากปาก "นายทหารคนสนิทควบอดีต ส.ส.ไทยรักไทย" ทำนองว่า “บิ๊กจิ๋ว” สั่งคนไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ ”ขบวนโบกี้รถไฟ” ในบ้านพักที่ จ.นครราชสีมา ของ ”นายกฯ สุรยุทธ์”

 "ถึงแม้ว่าแนวทางการเมืองของข้าพเจ้าและผู้อื่นจะไม่ใช่แนวทางเดียวกันก็ตาม ข้าพเจ้าก็ไม่เคยคิดจะใช้วิธีที่มิใช่วิถีทางของสุภาพบุรุษเป็นอันขาด จึงแจ้งมาเพื่อทราบทั่วกัน"

 ซึ่งในอีกมุมอาจก็มองได้ว่า คำประกาศของ ”บิ๊กจิ๋ว” รอบนี้ ถือเป็นการเปิดตัวออกไปยืนอยู่คนละฝั่งกับฝ่ายรัฐบาลขิงแก่อย่างชัดเจน

 หลังจากก่อนหน้านี้อาจกล่าวได้ว่ามีกระแสต่อเนื่องในระยะหลัง เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในทางการเมืองของ ”บิ๊กจิ๋ว”

 ทั้งในบทบาทในการออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ ”รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์”

 การเรียกร้องให้ ”ทักษิณ” กลับเข้าเมืองไทย

 ตลอดจนการออกมาเปิดประเด็น "ปฏิวัติซ้อน" ด้วยตนเอง

 รวมถึงกระแสข่าวความเคลื่อนไหวในเชิงลึก ในฐานะเป็น "นอมินีขั้วอำนาจเก่า" แอบต่อท่อร้อยสายกับ "ทักษิณ” ยืนคนละข้างกับรัฐบาลและ คมช.

 จนทำให้ "บิ๊กจิ๋ว" ถูกเพ็งเล็งจากฝ่าย คมช.ว่าเป็นหัวหอกในการจ้องล้ม คมช.และรัฐบาล

 ประกอบกับความคลุมเครือที่ขาอีกข้างของ "บิ๊กจิ๋ว" ที่เคยเป็นอดีตหัวหอกในรัฐบาลทักษิณ และเป็นหนึ่งในแม่ทัพใหญ่กุมบังเหียนให้ไทยรักไทย หลังจากอพยพย้ายถิ่นมาจากพรรคความหวังใหม่

 โดยเฉพาะการตั้งข้อสังเกตถึงการเข้ามาผงาดของคนในไทยรักไทย ยุคที่มี "จาตุรนต์ ฉายแสง" เป็นรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

 ไม่นับแกนนำพรรคชุดปัจจุบัน ทั้งในส่วนของ เอกพร รักความสุข รองโฆษกพรรค ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง อรรถสิทธิ์ คันคาย ทรัพยสิทธิ์ กรรมการบริหารพรรค ซึ่งล้วนเป็นอดีต ส.ส.ความหวังใหม่ในสังกัดศิษย์เก่า ”บิ๊กจิ๋ว” ทั้งสิ้น

 ซึ่งเริ่มมีความเคลื่อนไหวจากฝ่ายแกนนำพรรคไทยรักไทย สายความหวังใหม่เก่า ออกมาเสนอให้มีการดึง ”บิ๊กจิ๋ว” กลับมานั่งเก้าอี้ "หัวหน้าพรรคไทยรักไทย" เพื่อกู้วิกฤติพรรค

 ไม่นับปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวรับลูกระหว่าง “บิ๊กจิ๋ว” และซีกไทยรักไทยในก่อนหน้านี้

 สืบเนื่องจากกรณีที่ “จาตุรนต์" พร้อมด้วยแกนนำไทยรักไทยจำนวนหนึ่งตบเท้าเข้าบ้านซอยปิ่นประภาคมของ "บิ๊กจิ๋ว" เพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง 

 รวมถึงขอคำปรึกษาทิศทางการเมือง โดยเฉพาะคดียุบพรรคไทยรักไทย ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาในต้นปีหน้า

 ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ล่อแหลมในคดี "ยุบพรรค" ที่ไทยรักไทยกำลังรอลุ้นชะตากรรม และยังไม่รู้ลูกผีลูกคน

 แต่ที่ต้องห้ามกะพริบตาไม่น้อยไปกว่ากัน ก็เห็นจะเป็นปฏิกิริยาล่าสุดของ "เอกพร รักความสุข" รองโฆษกพรรคไทยรักไทย และอดีตโฆษกพรรคความหวังใหม่ ”ลูกหม้อนายเก่า” ที่ออกมายอมรับชัดถ้อยชัดคำว่า...

 "บิ๊กจิ๋ว" ได้หารือในเรื่องการเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทยแทนจาตุรนต์กับ "ทักษิณ" อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มสูงที่จะเข้ามากุมบังเหียนในพรรคไทยรักไทย

 "จากการเข้าไปเข้ารือกันล่าสุด พล.อ.ชวลิต ได้บอกกับเราว่า มีความเต็มใจที่จะเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรคไทยรักไทย แต่หากจะเข้ามาก็ต้องเข้ามาเป็นทางการ ผ่านที่ประชุมพรรคใหญ่ โดยท่านก็หวังจะเป็นโซ่ข้อกลางระหว่างผู้ใหญ่ในพรรคกับกรรมการบริหารพรรค เพราะท่านเห็นว่าบ้านเมืองขณะนี้ขาดความสมดุลทางการเมือง

 ฝ่ายทหาร คมช.พยายามออกมาตั้งธงยุบไทยรักไทยชัดเจน ทั้งที่พรรคการเมืองมีความสำคัญต่อระบบการเมือง ดังนั้นการเข้ามาของท่านจึงมีเหตุผลในการเข้ามาเพื่อให้พรรคไทยรักไทยยืนอยู่บนเวทีต่อไปได้" นายเอกพร กล่าว

 การเปิดเผยของ "เอกพร" จึงดูเหมือนการยอมรับกลายๆ ว่า ท้ายที่สุดแล้ว "ทักษิณ" ก็ยืมมือ "บิ๊กจิ๋ว" เป็นนอมินี ไม่ว่าพรรคจะถูกยุบหรือไม่ก็ตาม

 เพราะด้วยสถานะของ "บิ๊กจิ๋ว" นั้น อยู่นอกเหนือจากบทลงโทษในข้อหายุบพรรคอย่างสิ้นเชิง

 "บิ๊กจิ๋ว" จึงเป็นหมากสำคัญตัวเดียวของ "ทักษิณ" ทั้งในเรื่องการเดินเกมการเมือง และการตอบโต้เชิงยุทธ์กับฝ่าย คมช.

 แม้ในอีกด้านหนึ่งจะมีความพยายามของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่จะเข้ามากุมบังเหียนพรรคต่อ แต่ก็ไม่อาจต้านทาน เพราะอำนาจต่อรองของ "สุดารัตน์" ในพรรคที่ส่วนใหญ่เป็นอดีตผู้แทนต่างจังหวัดนั้น

 พูดได้ว่าแทบไม่มีใครให้การยอมรับเธอเลยสักคน

 ฉะนั้น เมื่อเปิดแนวรบ "บนกระดาน” ที่เป็นสูตรการรบสไตล์ "บิ๊กจิ๋ว” แล้ว

 ย่อมเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นการเดินหมากเพื่อปูทางให้ "ขั้วอำนาจเก่า" ได้กลับเข้ามาผงาดในการเมืองไทยอีกครั้ง

   

 เกศิณี ใจกาวัง
 
 


http://www.komchadluek.net/

[อมพระมาพูด]

 

บิ๊กจิ๋วทำไมไม่เข็ด ?  หรืออัลไซเมอร์ไปแล้ว หรือ"ค่าความเสี่ยง"ที่เสนอมามันเย้ายวนใจยิ่งนัก !?!

บิ๊กจิ๋วน่าจะคิดตอนที่ทักสินมันไม่เห็นหัวตอนที่ ทรท.รุ่งเรืองนะคับ

[cameronDZ]

เสี่ยแม้ว ให้ จิ๋วดูแลพรรค

สงกะสัย จะเปลี่ยน way ไทยรักไทย เป็นคณะตลกแน่เลย

เล็งการณ์ไกล เจ๋งมาก

พรรคถูกยุบปุ๊บ ก็พาลูกพรรคหากินตามคาเฟ่ได้เลย

[Limmy]

ผมกลับสบายใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะเป็นสิ่งที่ตอกย้ำชัด ๆ ว่าไทยรักไทยจบเห่แน่นอน 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

http://www.komchadluek.net/

[aiwen^mei]

บิ๊กจิ๋วทำไมไม่เข็ด ?  หรืออัลไซเมอร์ไปแล้ว หรือ"ค่าความเสี่ยง"ที่เสนอมามันเย้ายวนใจยิ่งนัก !?!

บิ๊กจิ๋วน่าจะคิดตอนที่ทักสินมันไม่เห็นหัวตอนที่ ทรท.รุ่งเรืองนะคับ

คนใกล้ตัวทั่นบิ๊กจิ๋วรีบส่งมอบสารสกัดจาก ginkgo biloba (แปะก๊วย) ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้ทั่นรับประทานด่วน 

[แอบอ่าน ซุ่มเงียบ]

หึ หึ ระดับ ขงเบ้งแห่งกองทัพบกแล้ว ไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก
ให้ คมช เช็คบิล ทักษิณ ซะ แล้วตัวเองก็เข้ามาชุบมือเปิป โอกาศอย่างนี้ไม่ฉวยเอาไว้ก็โง่ตายเลย
ต่อไปก็วางบทบาทอยู่ตรงกลาง ระหว่าง ทักษิณ กับ คมช

ถึงเวลานี้ แต้มต่อ กลับมาอยู่ในมือ บิ๊กจิ๋ว อีกครั้ง
ทักษิณ ต้องหันกลับมาพึ่งคนที่ตัวเองเคยมองข้ามหัวไป ไม่มีทางเลือกอื่น เรียกว่า หมดพยศ

ภาษิตจีน เขาบอก "ลูกผู้ชายล้างแค้น 10 ปีก็ไม่สาย"

[เก็ดถวา]

เอ.. หนูชักเริ่มงง กระทู้นี้มีทั้งบอกว่าบิ๊กจิ๋วฉลาด

บิ๊กจิ๋วเป็นตัวตลก บิ๊กจิ๋วอัลไซเมอร์ บลาบลาบลา

โอ่ยยย ตกลงยังไงนะคะนี่   

[type]

เพิ่งรุ้กันเหรอว่า จิ๋ว กับ จุ่น ไม่กินเกาเหลากันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

 

[(ก้อนหิน) ละเมอ]

ผมก็สงสัยว่า ชาว WNC และชาวราชดำเนิน จะทำใจได้หรือไม่ ถ้าหากบิ๊กจิ๋วเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย
เพราะหลังจากที่บิ้๊กจิ๋วลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลและแฉทักษิณถึงไส้ถึงพุง ก็โดนพวกๆ เหล่านั้นข้างต้นด่าซะไม่มีชิ้นดี
คิดถึงใจเขาใจเรา
คงเหมือน... เอาสมัครมาเป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยในเว็บบอร์ดมั้งครับ 555 

[type]

http://picdb.thaimisc.com/chiefofstaff/991.jpg

[Cherub Rock]

อย่างนี้นี่เอง

[stromman]

ก็เพราะอัลไซเมอร์น่ะซิครับ  ถึงได้เป็นแบบนี้ไง จิ๋วเอย ไปอยู่บ้านพักคนชราดีก่ามะ จาได้มีเพื่อนรุนๆเดียวกานนนน

[นายเกตุ]

เปลี่ยนจากจิ๋วมาเป็นเฮียชูของผมไม่ดีกว่าหรือ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

สงครามอุดมการณ์ (เก่า)

ถ้ามองความสัมพันธ์อันไม่ค่อยราบรื่นของ "บิ๊กจิ๋ว" กับ "คมช." ในวันนี้ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ปี 2534 ที่มีคณะทหารรุ่น 0143 ในนามคณะ รสช. นำโดย "บิ๊กจ๊อด" "บิ๊กสุ" และ "บิ๊กเต้" ก่อการยึดอำนาจรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย

 ตอนนั้นสื่อมวลชนหลายสำนักต่างวิเคราะห์ว่าเป็นการทำรัฐประหาร เพื่อให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเวลานั้น บิ๊กจิ๋วตั้งพรรคความหวังใหม่แล้ว

 เพราะใครก็รู้ว่า "บิ๊กจ๊อด" เป็นคนรักเพื่อน และอยากให้บิ๊กจิ๋วเป็นนายกฯ แถม "บิ๊กสุ" ก็เป็นน้องรักที่พี่จิ๋วหนุนให้เป็น ผบ.ทบ.

 หลังรัฐประหารใหม่ๆ บิ๊กจิ๋วเก็บตัวเงียบ ไม่แสดงความเห็นใดๆ แต่เวลาผ่านเลยไประยะหนึ่ง คณะทหาร รสช.กลับไม่มีทีท่าว่าจะเปิดทางให้เชิญบิ๊กจิ๋วเป็นนายกฯ ตรงกันข้ามกับส่งคนไปร่วมกับนักการเมืองบางกลุ่มตั้งพรรคสามัคคีธรรม

 จากนั้นความสัมพันธ์ของ พล.อ.ชวลิต กับกลุ่มทหาร รสช.เริ่มเหินห่างหมางเมินกัน และบิ๊กจิ๋วก็วิจารณ์โจมตี รสช.หนักขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะประเด็นการสืบทอดอำนาจหลังเลือกตั้ง

 กระทั่งกลางปี 2535 เมื่อ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ตัดสินใจรับตำแหน่งนายกฯ ขงเบ้งจิ๋วจึงกระโดดขึ้นเวทีปราศรัยไล่บิ๊กสุอย่างเต็มตัว

 ด้วยเหตุการณ์ในอดีต ทำให้หลายคนนึกถึงภาพในปัจจุบัน ที่บิ๊กจิ๋วกำลังตกอยู่ในอาการ "อกหักซ้ำสอง"

 เพราะในเบื้องแรกที่มีการยึดอำนาจ 19 กันยา สื่อหลายสำนักก็ประเมินกันว่า บิ๊กจิ๋วน่าจะอยู่เบื้องหลังฉากการปฏิวัติครั้งนี้ ซึ่งมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เนื่องจากช่วงหลัง บิ๊กจิ๋ววางมือจากที่ปรึกษานายกฯ และลาออกจากตำแหน่งประธานศูนย์ต่อสู้แก้ไขปัญหาความยากจน พร้อมกับปรากฏภาพบิ๊กจิ๋วไปเดินตามหลังป๋าเปรม

 หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาล มีการแต่งตั้งสมาชิกนิติบัญญัติ ปรากฏว่า คนใกล้ชิดบิ๊กจิ๋วไม่ได้ตำแหน่งใดๆ ในคณะรัฐมนตรีและใน สนช. ซึ่งเรื่องนี้ทำให้อดีตนายกฯ คนนี้เสียหน้า เสียความรู้สึก

 จึงกลายเป็นที่มาของ "ระเบิดอารมณ์" วิจารณ์ คมช.เสียเละเทะ ร้อนถึง พล.อ.สนธิ ต้องนำทีม คมช.ไปคารวะถึงบ้านพักซอยปิ่นประภาคม

 ถึงกระนั้นความหวาดระแวงในตัวบิ๊กจิ๋วก็หาได้หมดไป เพราะพลพรรคไทยรักไทย ทั้งระดับแกนนำและลูกพรรค ตบเท้าเข้าซอยปิ่นประภาคมเป็นว่าเล่น

 ทำไปทำมาจะกลายเป็นศูนย์บัญชาการพรรคไทยรักไทยแห่งที่ 2 ไปเสียแล้ว !

 ในที่สุดการเมืองไทยหลังการรัฐประหาร ก็ไม่ต่างจากหนังม้วนเก่า ที่เป็นการต่อสู้แย่งชิงอำนาจของ "กลุ่มอำนาจใหม่" กับ "กลุ่มอำนาจเก่า"

 ปี 2535 กลุ่มทหาร รสช.และพรรคสามัคคีธรรมต้องปักหลักสู้กับกลุ่มยังเติร์กอกหักและพรรคความหวังใหม่ โดยจบลงที่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ

 ปี 2550 กลุ่มทหาร คมช.และรัฐบาลสุรยุทธ์ กำลังเผชิญหน้ากับการท้าทายของกลุ่มผู้สูญเสียประโยชน์ที่แตกต่างไปจากเมื่อครั้งที่คณะทหาร รสช.เจอแรงต้าน หลังจากส่งสัญญาณการสืบทอดอำนาจ

 เพราะเกมอำนาจครั้งนี้มิใช่แค่เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ มีการเลือกตั้ง แต่มันมีเรื่อง "อุดมการณ์" (จารีตนิยม) เป็นเดิมพัน

 ดังนั้นอาการของบิ๊กจิ๋วจึงออกลูกแทงกั๊ก ไม่อัดแบบแรงๆ เหมือนปี 2534 เพราะคนระดับขงเบ้งก็รู้ว่าเป็นการต่อสู้เชิงอุดมการณ์ คล้ายการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์

 เพียงแต่ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชนะลัทธิทุนนิยมสามานย์ ที่บั่นทอนทำลายอุดมการณ์ดั้งเดิมของแผ่นดิน

 การปูพรมอุดมการณ์เก่า จึงเป็นภารกิจหลักของ คมช. ซึ่งงานนี้สำเร็จหรือล้มเหลว ล้วนมีเดิมพันที่สูงมากรออยู่เบื้องหน้า

 เดิมพันที่เสี่ยงสูงเสียจนกระทั่งคนอย่างบิ๊กจิ๋ว ยังต้องคิดหนักและคิดนาน
 



http://www.komchadluek.net/2006/12/column/m009_78326.php?news_id=78326


บทความที่น่าสนใจเอามาฝาก เผื่อใครยังไม่ได้อ่าน

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ข้อยว่าบ่แม่น!

[
 
ข่าวฮือฮาเรื่อง "พ่อใหญ่จิ๋ว" จะพลิ้วไปนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษา หรือหัวหน้า "ค่ายแกงโฮะ" นั้น ได้สร้างบรรยากาศตึงเครียดทันควัน อารมณ์สมานฉันท์ลด

ดีกรีวูบวาบ

 หลายฝ่ายมองว่า เสือเฒ่าย่อมไม่ทิ้งลาย ยิ่ง "พ่อใหญ่จิ๋ว" นั้นแพรวพราว ล้ำลึกสุดหยั่งคาด มิตรและศัตรูเดาทิศทางยาก ถ้าหากใครยืนอยู่ตรงข้ามแล้ว

รับรองว่าชีวิตอยู่ไม่เป็นสุข

 เห็นหัวเราะ โฮ่ ! โฮ่ ! หนังต้นคอ 3 ชั้นสั่นระนาว วิ่งเป็นระลอกคลื่นด้วยแล้ว ความหวานเจี๊ยบฉาบหน้ายาพิษร้ายถึงหัวใจนั่นเลย

 แม้จะเห็นว่า "พ่อใหญ่จิ๋ว" ยังมีไฟแรง เตะปี๊บดัง พลังเหลือเฟือสำหรับสร้างอาการนอนไม่หลับให้ผู้อยู่ฝ่ายตรงข้ามก็ตาม ยังมีคนเชื่อว่าจิตสำนึกเบื้องลึกนั้น

ยังไม่สึกกร่อนเพราะอาถรรพณ์ชั่วร้าย

 ข่าวที่ว่า "พ่อใหญ่จิ๋ว" จะไปช่วยเหลือเอื้ออาทร "ผู้ลี้ภัย" ถึงขั้นยอมทำทุกอย่าง กอบกู้ค่ายแกงโฮะ ยอมนำขบวนป่วน คมช. และรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ คน

ก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นไปได้

 เพราะทั้ง คมช.และรัฐบาล ได้รับการโปรดเกล้าฯ จากในหลวง

 "พ่อใหญ่จิ๋ว" ทำงานเพื่อชาติมาเยอะ เป็นทั้งแม่ทัพทุกระดับ ไต่อันดับจากรัฐมนตรีกลาโหม จนถึงนายกฯ ผู้นำประเทศ

 มีความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ ยอมพลีชีพเพื่อปกป้องราชบัลลังก์ ได้รับพระราชทานเหรียญและเครื่องราชฯ สูงสุดระดับรามาธิบดี และเกียรติยศ

อื่นๆ สารพัด จาระไนไม่หมด

 แล้วคนอย่าง "พ่อใหญ่จิ๋ว" นี่นะเรอะ จะทำอะไรให้ในหลวงทรงไม่สบายพระทัยในช่วงเวลาของปีมหามงคล! 

 ชาวบ้านรากหญ้าเชื่อว่า แม้ "พ่อใหญ่จิ๋ว" จะอยากช่วยเหลือน้องๆ อดีตลูกพรรค นักการเมือง แต่คงจะไม่ยอมเปลืองตัว เสี่ยงกับการเสียคนตอนแก่ ถ้าเข้า

ไปอุ้ม "ผู้ลี้ภัย" ให้หวนคืนสู่อำนาจ

 "พ่อใหญ่จิ๋ว" ได้รับฉายาว่าเป็น "ขงเบ้งกองทัพ" มีหรือจะไม่รู้ว่าใครมีพฤติกรรมโกงบ้านกินเมือง เป็นเครือข่ายครอบครัว จนบ้านเมืองแทบล่มจมเพราะพลัง

การทุจริต คอรัปชั่นหลายรูปแบบ

 คตส. ป.ป.ช.และหน่วยงานอื่นๆ กำลังรายงานผลงานการทุจริต ประพฤติมิชอบ การเลี่ยงภาษี นิติกรรมอำพราง จัดซื้อจัดจ้างแฝงผลประโยชน์ เป็น

ข่าวกรอกหู ถ่างตาชาวบ้านทุกวัน

 จะให้คิดว่า "พ่อใหญ่จิ๋ว" ไม่รับรู้พฤติกรรมชั่วร้ายนี้เรอะ !

 คนอย่าง "พ่อใหญ่จิ๋ว" จะยอมรับเศษเงินสกปรก โกงกินบ้านเมืองมาเป็นเบี้ยเลี้ยง ค่าจ้างให้รับบทหัวขบวนอุ้มคนชั่วร้ายหรือ

 คงไม่หูหนวก ตาบอด แยกแยะความดี ความชั่วไม่ถูกมั้ง ?

 จากนี้ไปจะมีแต่ข่าวการดำเนินคดีการทุจริต คอรัปชั่นกับสมาชิกครอบครัวอภิมหาเศรษฐี และพวกพ้องญาติมิตร ล้วนแต่เป็นสิ่งอัปมงคล ใครคงไม่คิดว่า "พ่อ

ใหญ่จิ๋ว" จะยอมเสียชื่อ

 "พ่อใหญ่จิ๋ว" มีคนนับถือทั้งกองทัพ จะกล้ารับจ๊อบเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติหรือ น่าจะแยกแยะบุญคุณ ความแค้นได้

 ประเด็นสำคัญ "พ่อใหญ่จิ๋ว" ต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมือง ตลอดเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา และตัวเองก็มีส่วนในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ป้องกัน

ไม่ให้ใครนำพาชาติลงเหวของความหายนะด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทำลายหลักศีลธรรม จริยธรรม และธรรมเนียมปฏิบัติ

 "พ่อใหญ่จิ๋ว" ต้องรู้ว่าผู้นำรัฐบาลคนไหนถูกกล่าวหาว่าพูดจาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ต่างกรรม ต่างวาระ แถมยังไม่รู้สึกสำนึก ต้องรู้ว่าใครมีพฤติกรรมยโส

 โอหัง จองหอง พองขน ย่ำยีคนดี อภิบาลคนชั่ว เพียงเพื่อให้เดนคนการเมืองช่วยทำหน้าที่โกงกิน

 "พ่อใหญ่จิ๋ว" คงไม่ลืมมั้ง ว่าตัวเองเคยโดนดูถูก หมิ่นแคลนจากใคร หยามเหยียดอย่างหนัก ไล่ไปแก้ปัญหาภาคไต้ แถมขู่ฟ่อๆ ไม่เห็นแก่ความเป็นผู้อาวุโส

หัวหงอก หัวดำ "ถ้าทำงานไม่สำเร็จ อย่ามาให้เห็นหน้า"

 เหมือนนายจ้างตะคอกใส่ทาสในเรือนเบี้ย ! ทั้งๆ ที่ "พ่อใหญ่จิ๋ว" ยอมลดเกียรติ รับหน้าที่เพียงรองนายกฯ เพื่อช่วยเหลือรัฐบาล มีใครเห็นความดีของ "พ่อ

ใหญ่จิ๋ว" ในประเด็นเหล่านี้ ยอมกระทั่งเซ้งพรรคให้ "ค่ายแกงโฮะ" ใหญ่โตทางลัด ขจัดคู่แข่งการเมือง

 เมื่อเสร็จกิจตามเป้าประสงค์ ก็ทอดทิ้ง "พ่อใหญ่จิ๋ว" ภายหลังยอมไปอ้อนวอนให้มาแก้ปัญหาความยากจน เมื่อรู้ว่าตัวเองจนแต้ม

 "พ่อใหญ่จิ๋ว" เปลืองตัวล่อนจ้อน แทบหมดสภาพซ้ำซาก แล้วจะยอมให้ถูกหลอก หรือให้คนเข้าใจว่าอยากรับจ้างอุ้มลิ่วล้อทรราช ยอมเป็นกัปตันเรือโจรสลัด

ให้พวกกังฉินกินเมืองได้มีโอกาสปล้นสะดม ล้างผลาญประเทศ อีกรอบหรือไง นิ ! อิอิอิ !!!
 
 
/color]


http://www.komchadluek.net/2006/12/column/m004_78781.php?news_id=78781

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ชวลิต ยงใจยุทธกับการเมือง
 
โดย ยอดธง ทับทิวไม้ 28 ธันวาคม 2549 23:43 น.
 
 
 
การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ นักการเมืองคือผู้แสวงหาประโยชน์ด้วยการทำมาหากินทางการเมือง นักการเมืองจะต้องทำทุกอย่างแม้แต่การปล้นสะดม

ที่กระทำกันมาแล้วในระยะเวลา 6 ปีในรัฐบาลชุดที่แล้ว
       
        ความชั่วร้ายและการใช้การเมืองปล้นสะดมประเทศชาติประชาชนในรัฐบาลนั้น ได้ทำอย่างครบครันทุกรูปแบบและได้รับความเชื่อถือจากผู้คนทั้งพวก

สมุน และนักการเมืองชั่วชาติทุกระดับที่มีหน้าที่เอาการเมืองมาทำมาหากิน
       
        ทั้งการเมืองในระบอบประชาธิปไตยและในระบบคอมมิวนิสต์ ความเหมือนกันในทางการเมืองไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนัก ในบรรดาคอมมิวนิสต์ใน

ประเทศต่างๆ ที่ผมรู้จักมักคุ้นทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย คอมมิวนิสต์ไทยที่ทำการจัดตั้งอยู่ภายในประเทศจะแพ้คอมมิวนิสต์ประเทศอื่นๆ ตรงที่ซื่อจน

เกินไป แต่ละคนดูเหมือนการปล้นสะดมจะไม่มีนอกจากหลักการและทฤษฎีชนชั้นของมาร์กซ์และเลนินเป็นหลัก
       
        อย่างไรก็ตาม การเมืองเป็นเรื่องที่น่ากลัวไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่จะมีความชั่วร้ายแรงกล้ายิ่งขึ้น
       
        อย่างที่เราประสบกันมาแล้วในรัฐบาลมหาวิบัติชุดที่ผ่านมา
       
        และนับวันแต่ที่มันจะยิ่งชั่วร้ายหนักเข้าไปใหญ่
       
        เพราะต่อไปนี้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากพฤติกรรมต่างๆ ทางการเมืองที่นัก
       
        การเมืองปฏิบัติกันมา บรรดานายทุนต่างๆ จะทุ่มเทกันใช้เงินในประเทศ และซื้อคนทุกคนที่มีประโยชน์สำหรับทุนและนายทุนมีความชั่วพอที่จะเป็น

ทาสทุน เฉพาะอย่างยิ่ง การไม่รู้ทันวิธีการสกปรกของการเมืองสมัยใหม่จะทำให้นักการเมืองที่เห็นแก่ชาติบ้านเมืองมีความสะอาดและสุจริตใจจะถูกทำลาย

ย่อยยับ และเสียผู้เสียคนอย่างไม่ได้ผุดได้เกิดต่อไปอีก!
       
        รัฐธรรมนูญจะเขียนขึ้นมาอย่างไรก็ตาม จะทำให้บ้านเมืองหรือนักการเมืองเป็นนักการเมืองที่ดีไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญจะเป็นได้เพียงเศษกระดาษไม่กี่

หน้าเท่านั้น ไม่มีอำนาจอาญาสิทธิ์อะไรแม้แต่น้อย แต่อำนาจหรือการบันดาลให้มันเป็นอะไรขึ้นมาหรือไม่เป็นนั้นมันขึ้นอยู่กับคนใช้รัฐธรรมนูญ
       
        คนที่มีหน้าที่นำรัฐธรรมนูญมาใช้ในบ้านเมืองหรือเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมานั้น ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นเพียงพวกเดียรัจฉานทางการเมืองพวกหนึ่งที่

จะนำรัฐธรรมนูญหลอกลวงประชาชนและบังหน้าเพื่อทำมาหากินเท่านั้น
       
        และเมื่อมาถึงตอนนี้ ผมเริ่มเป็นห่วงนักการเมืองที่เป็นพรรคพวกกันหรือที่เคารพนับถือท่านหนึ่ง ดูเหมือนยังจะมีเคราะห์ตรงที่อาจจะหวนกลับมาสู่การ

เมืองอีกครั้งหนึ่ง ที่เป็นห่วงก็คือผมกลัวไปว่าจะมาตกหลุมลึกของการเมืองชั่วไปง่ายๆ ก็ได้
       
        นักการเมืองที่ว่านั้นคือท่านพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ผมเคยพบปะพูดคุยกับท่านอยู่บ่อยๆ แต่ในระยะนี้ผมได้ห่างเหินไปเพราะเกรงว่าจะเป็นการรบกวน

หรือคิดว่าท่านจะไม่ ค่อยมีเวลาเพราะเหตุการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวายในระยะเวลาที่ผ่านมา แต่มาถึงวันนี้ผมจำเป็นที่จะต้องเขียนถึงท่าน จุดประสงค์ของผมก็

คือการพูดถึงเรื่องของการเมืองของประเทศและท่านเองก็เป็นคนหนึ่งที่ตกหลุมลึกของการเมืองไทยมาแล้วเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เมื่อครั้งสุดท้ายที่ท่านออกจากทุก

ตำแหน่งในพรรคไทยรักไทย ผมเคยบอกท่านว่าออกไปแล้วก็จริง ในฐานะที่ผมเป็นนักโหราศาสตร์สมัครเล่นคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับดวงชะตาของท่านพอสมควร

 เมื่อผมเอาดวงมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งผมก็เคยบอกท่านว่า ท่านจะต้องกลับมาอีก คือมารับผิดชอบในวงการเมืองของประเทศอีกครั้งหนึ่ง แต่ผมยืนยันว่าท่าน

ไม่ได้เข้ามาเสวยบุญใดๆ แต่ท่านเข้ามาเป็นนักการเมืองเต็มตัวอีกในฐานะผู้ที่จะต้องใช้กรรมเก่าเท่านั้น
       
        หมายถึงว่ามันยังไม่หมดเวร
       
        และกรรมหลายๆ กรรมนั้น ท่านจะไม่ได้ทำเองแต่จะต้องรับกรรมที่นักการเมืองที่เข้ามาร่วมงานตลอดจนลูกน้องบริวารที่ท่านไว้วางใจ เช่น ในปี 2540

มันจะพากันหลอกต้มเอาจนต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นคนที่รู้ว่าคนทุกคนเป็นคนมีเกียรติ และให้เกียรติคน แต่คนที่ท่านให้เกียรติที่ทำมา

แล้วส่วนมากเป็นนักการเมือง และอย่างที่ผมกล่าวมาแล้วว่านักการเมืองคือ เดียรัจฉานทางการเมืองประเภทที่สกปรกที่สุดในกระบวนการการเมืองของไทย

เช่นเดียวกับเหตุการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ ที่ทำให้รัฐต้องสูญเสียไปเป็นแสนๆ ล้านและเสียเกียรติของชาติสะเทือนไปทั่วทั้งโลก เพราะ

นักการเมืองในรัฐบาล คมช.จะละเว้นไม่ได้หรือนักการเมืองในอนาคตภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังร่างอยู่ในขณะนี้ ก็จะใช้การเมืองเป็นตลาดการเงินและทำ

มาหากินในตลาดนี้ต่อไป
       
        พลเอกชวลิต ยงใจยุทธจะดีหรือจะชั่วก็ตาม แต่ในชีวิตท่านได้ทำการเมืองด้วยการตั้งความหวังอันบริสุทธิ์ว่าจะสร้างการเมืองไทยให้แข็งขึ้น แต่ผลสุด

ท้ายท่านก็ถูกทำลายด้วยวิธีการทางการเมืองและนักการเมืองมากมายหลายประการ โดยที่ประชาชนทั้งชาติรู้จักท่านในแง่เท็จบ้างจริงบ้าง แต่ที่แน่นอนที่

สุดก็เสียหายหลายเรื่องซึ่งถ้านอนกระดิกเท้าอยู่ที่บ้านชีวิตจะสดใสกว่านี้มากนัก
       
        ยิ่งคราวนี้ถ้าหากท่านยังจะกลับเข้ามาทำงานทางการเมืองใหม่อีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะตั้งพรรคเก่าตั้งพรรคใหม่หรือเป็นนักการเมืองประเภทใดก็ตาม ผม

อยากจะเรียนท่านให้ทราบว่าผมอยากจะทักท้วงท่านหรือคัดค้าน ขออย่าหันกลับเข้าไปสู่วงการเมืองอีกเด็ดขาด
       
        ผมเคยเรียนท่านและทำนายดวงชะตาท่านว่า ท่านจะต้องกลับเข้ามาสู่วงการเมืองอีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่เพราะบุญวาสนาที่ยังมีอยู่ แต่เป็นการกลับมาเพื่อ

ใช้กรรมเก่า
       
        เพื่อให้ถูกสับถูกโขกและเสียผู้เสียคนต่อไปอีก
       
        และจะยังไม่มีโอกาสได้ใช้กรรมเก่าอีกต่อไป เพราะกรรมมันจะเล่นงานเสียตั้งแต่คราวนี้ ซึ่งก็น่าจะหนักหนาสาหัสพอสมควร
       
        ดวงชะตาพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นดวงที่มีฆาตรุนแรงในดวงชะตา เพราะการเล็งหรือทำมุม 180 องศาต่อกันระหว่างดาวเสาร์ ราหู มฤตยู ดวง

ประเภทนี้ท่านว่าจะได้อะไรสักอย่างหนึ่งจะยุ่งยากมากหรือเป็นเรื่องต้องสู้ต้องทำ จะไม่มีอะไรราบรื่นในชีวิตการงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องจะทำให้เกิดปัญหาที่ไม่

ควรเกิดเสมอ ตัวอย่างที่เกิดขึ้นในยุคที่มีปัญหาทางการเงินและการเดินขบวนขับไล่ของประชาชนทุกอย่างไม่ได้ทำเอง แต่พรรคพวกที่ร่วมงานหรือเดียรัจฉาน

ทางการเมืองยุคนั ้นทำให้ทั้งสิ้น แต่ตัวเองต้องมารับบาปเคราะห์ทุกอย่าง ตำราว่าญาติมิตรบริวารให้โทษ
       
        นอกจากดวงชะตาของท่านเองจะทำลายแล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปอีก 2 ปีครึ่งถึง 5 ปี ดวงชะตาเมืองไทยจะมีปัญหาหนักและรุนแรงมาก เพราะเป็นระยะ

เวลาที่ต้องนานพอสมควรสำหรับการกวาดล้างความสกปรกในประเทศชาติ ไม่ว่าจะทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและสิ่งแวดล้อม อาชญากรรมและ

อาชญากรจะเหิมเกริมยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงทั้งสิ้น เช่นเดียวกับสภาพชีวิตและสังคมของไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างหน้า

มือเป็นหลังมือ ความชั่วทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการทุจริต และการคอร์รัปชันต่างๆ ที่ใครก็ตามยังสนุกสนานอยู่กับชีวิตเหล่านี้จะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงที่

สุด
       
        เป็นยุคที่เรียกกันว่ายุคแห่งการล้างบางก็น่าจะได้
       
        คนที่จะขึ้นมาปกครองเมืองไทยในยุคที่ว่านี้จะต้องเด็ดขาด ***มพอสมควรสำหรับการตอบโต้กับความชั่วร้ายไม่ว่าจะมาในรูปไหน จึงจะอยู่ในฐานะที่

เคยเรียกว่า “เอาให้อยู่”
       
        สถานการณ์ทุกอย่างในบ้านเมืองทุกวันนี้ ดวงชะตาพลเอกชวลิต ยงใจยุทธซึ่งเป็นคนเกรงใจคน ปรารถนาดีต่อคนทุกคน หวังดีต่อคนทุกคน จะทำไม่

ได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นท่านก็จะถูกทำลายโดยสถานการณ์หรือความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง และสังคมในยุคที่การตื่นตัวของสังคมมนุษย์ในปัจจุบันกำลัง

ต้องการ
       
        เดียรัจฉานทางการเมืองที่รกบ้านรกเมืองอยู่ทุกวันนี้ จะต้องถูกกำจัดให้สิ้นไป
       
        อิทธิพลของดาวเสาร์ซึ่งกำลังโคจรอยู่ในราศีสิงห์เป็นเวลานาน 2 ปีครึ่ง และมีราหู  กับมฤตยู (0) ทำมุมในระยะ 180 องศา และมีพลูโตดาวแห่ง

การทำลายล้าง และความรุนแรงมีระยะเชิงมุมดีส่งเสริมความร้ายแรงของมฤตยูและราหูอยู่ในราศีธนูเข้าอีก ระยะเชิงมุมดังกล่าวนี้เป็นโทษมหันต์ไม่ว่าใครจะมี

บุญวาสนาเพียงใด
       
        กรุณาอย่าเชื่อถ้าไม่เคยเชื่อ แต่ผมทำนายตามตำราเท่านั้น
       
        คำทำนายทั้งหมดใช้ความสัมพันธ์ตามตำราโหราศาสตร์ระบบนิรายนะโดยเริ่มต้นด้วยดาวพฤหัสบดี (5) เสาร์ (7) ราหู  มฤตยู (0) เนปจูน, พลูโต

เป็นหลัก ผู้ที่ไม่มีปัญหา เรื่องความชั่วกรุณาอย่าสนใจ แต่พวกที่ก่อกรรมทำเข็ญหรือพวกกินบ้านกินเมืองอยู่ทุกวันนี้อย่าไปหวังหรือฝันว่าจะไม่ติดคุกหรือไม่

ฉิบหายไปอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นอันขาด ราหูและเสาร์ในระยะเชิงมุมนี้ไม่ต้องกลัวว่าทำผิดแล้วจะไม่ผิด ถึงแม้จะบังอาจยืนยันว่าจะไม่ยอมมาศาลหรือจะใช้

เล่ห์กลประการใดก็ตาม กรรมที่จะต้องชดใช้นั้นมันเอาแน่ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
       
        ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองคนใด พลเอกชวลิต ยงใจยุทธหรือใครก็ตาม ตอนนี้อย่าหวังอะไรให้มากนัก เมืองไทยมีปัญหาหนัก 3 ประการที่ไม่มีใครแก้ได้

คือ (1) ปัญหาคอร์รัปชัน (2) ปัญหาความรับผิดชอบของผู้มีอำนาจ (3) ปัญหาความไม่รู้เรื่องที่จะต้องรู้ในบ้านเมืองของประชาชน จะไม่มีใครสามารถแก้

ปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งจะทำให้ปกครองกันไม่ได้
       
        ผมจึงขอเรียนว่าสำหรับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ผมไม่อยากให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองไทยของเราอีกต่อไป ทุกอย่างทำมามากพอแล้วมันไม่มี

อะไรดีขึ้น นอกจากอายุจะมากขึ้นอีกไม่กี่ปีก็จะต้องตาย ต่อไปนี้น่าจะนอนดูลมดูฟ้าไปเรื่อยๆ และถึงตอนนั้นก็สวดมนต์บทพาหุง 8 บทไปเรื่อยๆ จะดีกว่า ถึง

จะตายก็นอนตาหลับ
       
        ไม่ว่าจะชื่อความหวังใหม่หรือไทยรักไทยก็อย่าไปสนใจมัน เพราะจะเป็นเพียงเศษขยะสำหรับชีวิตทางการเมืองของท่านเท่านั้น ทิ้งมันไปเสีย!!

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000159160
 
 
 
 
 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ฝากถึง"รัฐบาล+คมช."อย่าปล่อย"พล.อ.ชวลิต" ว่างงานจนเพี้ยน
 
โดย เซี่ยงเส้าหลง 27 ธันวาคม 2549 19:37 น.
 
 
       •• ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของ ปี 2550 เราจะได้เห็น คู่ขัดแย้ง คู่ใหม่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กับ รัฐบาล + คมช. วิจารณ์กันตามเนื้อผ้าต้องถือว่า คู่คี่สูสี ขุนพลเฒ่าวัย 75 นั้นแม้ในสายตาประชาชนอาจจะ พูดไม่รู้เรื่อง และประสบการณ์ในการบริหารชาติบริหารแผ่นดินที่ได้โอกาสไปแล้ว 1 สมัย 1 ปีเมื่อ 10 ปีที่แล้วจะ ล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่จริง ๆ แล้วจุดเด่นของท่านผู้นี้อยู่ที่ พลังในการทำงานลับเชิงต่อต้านบ่อนทำลาย -- รวมทั้งการสร้างเครือข่าย ชื่อเสียงในอดีตคือความเป็น ทูตลับ, ผบ.กองกำลังลับปฏิบัติการในเขตศัตรู, จัดตั้งหน่วย ต่อต้านพื้นเมืองขึ้นในเขตศัตรู และมีความถนัดเป็นพิเศษใน งานมวลชน, งานข่าว พูดง่าย ๆ ว่าสมแล้วกับที่เป็น นายทหารเหล่าสื่อสาร จุดเด่นเหล่านี้จะบังเอิญมา ชง ทำปฏิกิริยากับด้านที่เป็น จุดอ่อน ของ รัฐบาล + คมช. ที่ในปี 2550 จะต้อง รับศึกหลายด้าน และมีแนวโน้มที่ยิ่งนานวันไป ศรัทธาที่ได้รับจากประชาชนจะค่อย ๆ ลดลง นักข่าวจำนวนหนึ่งที่ไปร่วมสนทนากับเจ้าของสมญา บิ๊กจิ๋ว เมื่อ 2 วันก่อนที่บ้านซอยปิ่นประภาคมโดยการประสานจากพี่ใหญ่ในวงการ เผด็จ ภูรีปฏิภาณ – ไพวงศ์ เตชะณรงค์ จับอาการขุนพลเฒ่าได้ว่า อารมณ์ดีและร่าเริงกับแนวโน้มสงครามครั้งใหม่ในปี 2550 เป็นพิเศษ ในระดับที่พอจะเปรียบเทียบได้ว่า จิตใจกระชุ่มกระชวยขึ้นมา 20 ปี แต่บางส่วนของผู้รับเชิญไปสนทนาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวและ รู้จักความเป็นบิ๊กจิ๋ว มามากพอควรกลับรู้สึก หนาว เพราะเกรงว่าสงครามครั้งใหม่จะไม่จำกัดอยู่แค่วง การเมือง, การเลือกตั้ง หากแต่จะกินปริมณฑลเข้ามาในวง การทหาร, การก่อความไม่สงบในเมือง ด้วย “เซี่ยงเส้าหลง” เองรู้ดีว่าความร่าเริงนี้มาจากการที่ขุนพลเฒ่าซึ่งเคยเริ่ม เฉา เพราะ ไร้งาน จู่ ๆ ก็เกิดกลับมาเป็น ตัวแปรของสถานการณ์บ้านเมือง ที่เคยเป็นมาตลอดชีวิตราชการอีกครั้งในลักษณะที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องทุนรอน เหมือนก่อน
       
       •• แต่ในฐานะที่ เคยรัก และ ยังรัก ในตัว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ชนิดที่เคยเขียนแก้ข้อกล่าวนานานัปการและเผยแพร่วีรกรรมลับที่คนไม่เคยรู้ให้ท่าน ณ ที่นี้หลายต่อหลายครั้งก็อยากจะขอบังอาจ ติง, เตือน ท่านให้คิดให้รอบคอบอีกครั้งว่าจะ ทิ้งศักดิ์ศรีทิ้งเกียรติภูมิในอดีตลงมาดำเนินงานในทิศทางที่สอดคล้องสอดรับกับโจรปล้นแผ่นดินที่เริ่มจะคิดการใหญ่ถึงขั้นปล้นราชบัลลังก์ เชียวละหรือ “เซี่ยงเส้าหลง” ขอให้พ่อใหญ่งดน้ำมังสวิรัติเข้าห้องพระ รวบรวมจิตให้เป็นสมาธิ – สัมผัสเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีชั้นมหาโยธิน ที่ได้รับพระราชทานและผ่าน พิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา สักสองสามชั่วยาม สัมมาปัญญา ที่อาจจะเกิดขึ้นมาน่าจะเป็น ตัวช่วย ให้ตัดสินใจใหม่ได้อีกครั้ง
 
 
 


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000158583

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ความหวังของคน

ใส่กันคนละดอกระหว่าง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ แต่รายหลังดูเหมือนจะออกตัวได้ เพราะคนที่ให้ข่าว เป็นคนใกล้ชิด

 เลยปฏิเสธได้เต็มปากเต็มคำได้ว่า ไม่ได้สั่งให้ใครไปตรวจสอบโบกี้รถไฟในภาพถ่ายที่เขายายเที่ยงที่คาดว่าอยู่ในเขตบริเวณบ้านพักของ พล.อ.สุรยุทธ์

 ย้อนกลับไปในการกล่าวปาฐกถา ของ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่เล่าความหลังครั้งเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ว่า มีคนสนิทของหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่รายหนึ่งเอากระเป๋าใส่เงินมามอบให้ในช่วงที่การหาเสียงกำลังเข้มข้น

 พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ปฏิเสธไป เพราะถ้ารับก็เป็นการเสียความตั้งใจ ที่จะไม่ทำเรื่องเช่นนี้

 นั่นทำให้หลายคนเชื่อว่า เป็นที่มาของกระแสข่าวตรวจสอบ "โบกี้รถไฟ"

 แต่ความจริงแล้วยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่เมื่อถูกเปิดเผยแล้วจะต้องร้องอ๋อว่า นักการเมืองคนที่ว่านั้นเป็นใคร

 เพราะความจริงการพบปะกันระหว่าง พล.อ.สุรยุทธ์ กับคนมีสีเด็กนักการเมืองครั้งนั้น ไม่ได้รู้กันเฉพาะแต่ผู้ที่เข้าพบกับผู้ที่ให้พบ

 ยังมีผู้ที่รู้ว่า ทันทีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ปฏิเสธ "ลาภที่มิควรได้" แล้ว ก็ถูกสวนกลับมาด้วยท่าทีที่แข็งกร้าว ทั้งที่ รุ่น ตำแหน่งชั้นยศของคนมีสีเด็กนักการเมืองผู้นั้น ด้อยกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่หลายช่วง

 "พี่ไม่รับเหรอ พี่ไม่รับ ผมจะไปบอกกับนาย...ว่าพี่ไม่รับ"

 จากนั้นก็ก้าวฉับๆ ออกไป โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า "กระเป๋าเงิน" ได้คืนสู่เจ้าของหรือเปล่า

 ถ้อยแถลงของ พล.อ.สุรยุทธ์ ถูกคาดเดาว่า ใช่หมายถึง "จิ๋วหวานเจี๊ยบ" หรือไม่

 พอๆ กับคาดเดาว่า คนมีสีเด็กนักการเมืองนั้น ใช่คนที่เพิ่งได้สังกัดพรรคภาคกลางหรือไม่ 

 เป็นคำถามที่น่าสนใจพอๆ กับการออกมาเคลื่อนไหวเป็นจุดศูนย์รวมอีกครั้งของ พล.อ.ชวลิต หลังจากที่หลายฝ่ายประเมินแล้วว่า ถึงแม้ไทยรักไทยจะรอดไม่ถูกยุบพรรค แต่ตราบใดที่ ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีโอกาสโลดแล่นเป็นอิสระ ก็ไม่ต่างกับภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด

 ขณะที่หลายคนมองว่านี่คือ "วิกฤติ" แต่ก็มีบางคนมั่นใจว่า นี่คือ  "โอกาส"

 อาจเป็นความหวังสุดท้ายของชายวัย 75 ปี ที่ยังต้องลุ้นว่าเป็นลมๆ แล้งๆ หรือเปล่า
 
 http://www.komchadluek.net/2006/12/column/m011_78060.php?news_id=78060

[จูล่ง_j]

ช่วงนี้ บทความล้วงตับลุงจิ๋วเพียบเลย
พวกนักเขียนการ์ตูนก็เอามาล้อ
ไม่รอดสายตาหรอกน่า
ลุงจิ๋ว เอ้ย อย่าเปลืองตัวตอนแก่เลย ประวัติก็ ดีๆ เน่าๆ ปนๆกัน พอตายได้อย่างสงบ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ก็น่านนะสิคะ... คงเข้าตำรา

"ไม่มีควันย่อมไม่มีไฟ''

'ไม่มีมูลหมาย่อมไม่ขี้''  มังคะ


ปล. โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง

[เก็ดถวา]

ช่วงนี้ บทความล้วงตับลุงจิ๋วเพียบเลย
พวกนักเขียนการ์ตูนก็เอามาล้อ
ไม่รอดสายตาหรอกน่า
ลุงจิ๋ว เอ้ย อย่าเปลืองตัวตอนแก่เลย ประวัติก็ ดีๆ เน่าๆ ปนๆกัน พอตายได้อย่างสงบ

เอ่อออ... แล้วถ้าไอ้ที่เตือนๆ กันอยู่นี่ ถ้าเกิดว่ามันถอยกลับไม่ทันแล้วล่ะคะ

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ลาดตระเวน

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ “น้ำ ฟ้า ฝั่ง” ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลบันดาลให้ประชาชนคนไทย 60 ล้านคน จงมีความสุข ความเจริญ คิดอะไรขอให้สมหวังปรารถนาในปีมหามงคล 2550

 "น้ำ ฟ้า ฝั่ง” กะว่าจะไม่พูดเรื่องของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เกรงว่าจะตกข่าว เพราะสัปดาห์ก่อนถือว่าร้อนแรงสุดๆ เพราะอยู่ดีๆ ก็มีข่าวจากแวดวงในบ้านพักซอยปิ่นประภาคมเล็ดลอดออกมาว่า “พ่อใหญ่จิ๋ว” สั่งให้ “ลูกน้อง” ไปตรวจสอบ “โบกี้” รถไฟ 4 ตู้ ที่เขายายเที่ยง บ้านพักตากอากาศของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ภาพไปปรากฏอยู่ในจอทีวีช่องหนึ่ง 


 พอวันรุ่งขึ้นข่าวถูกเปิดตามหน้าหนังสือพิมพ์ “พ่อใหญ่จิ๋ว” ถึงกับเต้นผางว่าใครให้ข่าวเรื่องนี้ (วะ) เล่นเอาบรรดา “ลูกน้อง” ทั้งหลายสืบเสาะหากันจ้าละหวั่น แต่ถึงอย่างไรก็หาไม่เจอเพราะคนที่ให้ข่าว“ลับ” แบบนี้มีหรือจะเปิดตัว เพราะหากเปิดตัวก็รู้ว่าเป็นคนใกล้ชิด มีหวังโดนยำแน่ๆ 


 เรื่องคงไม่จบง่ายๆ เพราะดันไปลองของ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่เป็นลูกรักของ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาทันตาเห็น ทั้งๆ ไม่มีอะไรในกอไผ่ ดันมาสั่งให้ลูกน้องตรวจสอบได้อย่างไร


วันก่อน “น้ำ ฟ้า ฝั่ง” ไปร่วมงานพิธีทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อเป็นสิริมงคล กับผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันมีศักดิ์รามาธิบดี โดยมี พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน โดยเชิญ พล.อ.เปรม เป็นประธานในพิธีดังกล่าว 


 งานนี้อดีตนายทหารระดับสูงเข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ชวลิต  พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีตผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งแต่ละคนผูกเนกไทสวมใส่เสื้อสูทกันเป็นแถว มีเพียง “พ่อใหญ่จิ๋ว” เท่านั้น ที่แต่ง เครื่องแบบทหารอย่างเต็มยศดูแปลกตาเพียงคนเดียว


แม้แต่ พล.อ.เปรม เห็นถึงกับออกปากทัก “อ้าว !!!! วันนี้แต่งตัวหล่อจัง” ทำให้ “พ่อใหญ่จิ๋ว” เคอะเขินอยู่พักหนึ่ง ก่อนตอบว่า “วันนี้มาร่วมงานเลยแต่งตั้งเครื่องแบบทหารมา” แต่ดูเหมือนป๋าจะไม่รับมุก เพราะหันไปชี้ที่บิ๊กเหวียงพร้อมกับบอกว่า “เหวียงยังไม่เห็นแต่งเครื่องแบบเลย" 


 ถึงจะถูกกระเซ้าเย้าแหย่ แต่ก็มีคนไขปริศนา "นายจิ๋ว" เหตุที่แหกโผแต่งเครื่องแบบเต็มยศ ก็เพราะอยากให้รู้ว่า เลือดทหารนั้นเข้มข้น ไม่ใช่ว่า ที่พูดจาเหมือนจะอยู่ข้างฝ่ายอดีตนายกฯ แม้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ขออย่าได้ขัดเคือง และเรื่องของเรื่องที่เขายายเที่ยงนั้น นายจิ๋ว ไม่รู้ไม่เห็นเลย...จริงจริ๊ง
 
 


http://www.komchadluek.net/2007/01/column/m007_79090.php?news_id=79090

[สมชายสายชม]

ขงเบ้ง กำลังจะเลื่อนขั้น ขึ้นป็น --->  ขงบื้อ


           

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

พรานข่าวเล่าขาน

เสียคน....ตอนแก่อีกแล้ว

26 ธันวาคม 2549 น.
ใครจะนึกว่าคนมีมันสมองระดับขงเบ้งแบบ "พ่อใหญ่จิ๋ว" ของชาวโขง ชี มูล นั้น จะคิดปูเส้นทางกลับคืนสู่การเมืองรอบใหม่ด้วยการให้ชื่อเสียงของนายกฯ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เสียหาย

เอาเรื่องโบกี้รถไฟเก่าๆ มาเป่าหูประชาชนให้เชื่อว่า นายกฯ สุรยุทธ์ ก็มีพฤติกรรมน่าสงสัย ทั้งๆ ที่พร่ำพูดเรื่อง สุจริต ธรรมาภิบาล

"พรานข่าว" ได้ยินเสียงนินทาลับหลังพ่อใหญ่ว่า ถ้าการเปิดโปงมาจากมันสมองขงเบ้งจริง แสดงว่าไม่ใช่พลังสมองก้อนเดิม หรือรอยหยักเดิมๆ

แต่น่าจะเป็นผลพวงของพิษโรคอัลไซเมอร์มากกว่า

จริงหรือไม่ ต้องไปสอบถามความเป็นแพทย์!

หลักฐานชัดเจนก็คือ "พ่อใหญ่" ลืมคำมั่นสัญญาเรื่องจะไปกระโดดแม่น้ำโขงตาย ถ้าทำอีสานให้เขียวไม่สำเร็จ คนอีสานรอจนหน้าเขียว "พ่อใหญ่" ยังไม่กระโดดโขง ชี หรือมูล ลืมสนิทจริงๆ รวมทั้งเรื่องลดค่าเงินบาท จนบ้านเมืองเกือบล่มจมด้วย

เรื่องโบกี้รถไฟกลายเป็นศึกน้ำลายระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง ยามบ้านเมืองต้องการความสมานฉันท์ แต่ความกระสันอยากมีส่วนร่วมทางการเมืองทำให้บรรยากาศร้อนระอุอย่างช่วยไม่ได้

เรื่องนี้ไม่น่าจะจบง่ายๆ หาก "พ่อใหญ่" ต้องการรับงานฟื้นฟูพรรคไทยรักไทย โดยมีค่าเหนื่อยสมน้ำสมเนื้อ ใช้วัย 75 ปี ของ "พ่อใหญ่จิ๋ว" ให้คุ้ม! ไม่ยอมให้เลิกรา พักผ่อน!

แสดงว่าความพยายามหวนคืนสู่อำนาจของ "ทักษิณ" ได้ลงร่องเดียวกับความอยากของ "พ่อใหญ่" เป็นการเจือสมทางอารมณ์

หรือว่าทั้งคู่มองเห็น คมช. และนายกฯ สุรยุทธ์ เป็นศัตรูร่วม?

ถ้าเป็นเช่นนั้น การเมืองและการอะไรต่อมิอะไรต้องดุเดือดแน่ๆ ในการชิงความเป็นผู้นำประเทศ และกุมอำนาจการเมือง

การเปิดประเด็นโบกี้รถไฟ ทำให้ "พ่อใหญ่" จำใจรับสมญาว่า "จิ๋วโบกี้" ไปอย่างช่วยไม่ได้ เต็มใจรับหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่ ล่าสุด มีข้อเสนอให้ "พ่อใหญ่" คืนสู่หิ้งด้วยตำแหน่งประธานที่ปรึกษา ทั้งๆ ที่เพิ่งพลาดท่า ด้วยการเอาเรื่องโบกี้มาเป็นข่าวโคมลอย

ถ้าเป็นประธานที่ปรึกษา "พ่อใหญ่" ก็รับบทเดิม แต่ค่าจ้างต้องคุ้มค่ากับการให้ถูกด่าว่าเป็นตัวช่วยให้ว่าที่ผู้ต้องหาในคดีอาญา "พ่อใหญ่" จะยอมเสียคนตอนแก่อีกครั้ง แล้วนึกว่าจะคุ้มค่า หรือว่าทนแรงยุให้รำ ตำให้รั่ว โดยก๊วนลูกน้องอกหักไม่ไหว

"พรานข่าว" รู้ว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มอำนาจเก่ายังเป็นไปอย่างคึกคัก ซ่อนเร้น ปรึกษาหารือยุทธศาสตร์ใหม่ ไม่จำกัดวิธีการ

มีเป้าหมายประการเดียว คือ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วการกุมอำนาจการเมือง การทหารโดยเร็วที่สุด ให้ "ทักษิณ" และครอบครัวรอดพ้นจากการตรวจสอบการทุจริต เกี่ยวโยงคดีอาญาด้วย

"เซฟเฮ้าส์" เร้นลับของคลังสมองของคณะผู้สูญเสียอำนาจ อยู่ภายในบ้านหลังใหญ่ในซอยพหลโยธิน 10 หลังอาคารชินวัตร เป็นแหล่งชุมนุมมังกร ซ่อนพยัคฆ์ เพราะผู้มาร่วมกลั่นมันสมองวางแผน ล้วนเป็นระดับผู้นำวงใน ได้รับความไว้วางใจของ "ทักษิณ"

บ้านหลังนี้ "ทักษิณ" เป็นคนซื้อหลายปีก่อนในราคามิตรภาพกว่า 100 ล้านบาท สำหรับเป็นแหล่งพบปะหารือกันของกลุ่มคนวงใน สมาชิกพรรคระดับธรรมดา ไม่มีสิทธิย่างก้าวเข้าไปร่วมด้วย!

แขกขาประจำบ้าน คือ ผู้ถูกตรวจสอบเรื่องภาษี นักวางแผนยุทธศาสตร์การเมือง ความเคลื่อนไหวด้านมวลชนสัมพันธ์ และผู้บริหารระดับสูงสุด มือขวา มือซ้าย ของ "ทักษิณ" มีน้อยคนที่จะรู้ถึงความเป็นอยู่ของ "เซฟเฮ้าส์"หลังนี้! หรือว่ามีใครไปแอบซุ่มดูพฤติกรรม การเข้าออกของผู้มาเยือน เหมือนการไปซุ่มโป่งดูคฤหาสน์ของ "พ่อใหญ่" ในซอยปิ่นประภาคม

ช่วงนี้มีการเรียกประชุมค่อนข้างถี่ เมื่อมีความเคลื่อนไหวหลากหลายมิติ รวมทั้งการสาวไส้พฤติกรรมทำลายบ้านเมือง

เป็นจังหวะเดียวกับเจ้าของนาม "เตมูจิน" ออกมาปูดเรื่อง "ยี้" หมอผีเขมร ว่าได้มีส่วนทำอะไรไปบ้างในกิจกรรมการเมือง

เป็นอีกเรื่องซึ่งจะแฉในศาล งานนี้สนุกยิ่งกว่าโบกี้รถไฟเสียอีก!



http://www.bangkokbiznews.com/viewOpinionNews.jsp?newsid=142655

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

คำต่อคำ : บิ๊กจิ๋ว-เสธ.หมึกเปิดบ้านโต้ ปฏิเสธอยู่เบื้องหลังบึ้มกรุง



3 มกราคม 2550 17:35 น.
บิ๊กจิ๋ว-เสธหมึก เปิดบ้าน ปฏิเสธอยู่เบื้องหลังวางระเบิดกลางกรุง อัดกลับพวกมือใหม่ ไม่มีประสบการณ์บริหารประเทศ ท้ามีหลักฐานให้ออกหมายจับได้เลย ขณะที่เสธหมึกครวญ เจอทุกทีที่เกิดเรื่อง

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านพักซอยปิ่นประภาคม ถึงกระแสข่าวว่าเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ กทม. เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว พล.อ.ชวลิต ได้กล่าวย้ำว่า ต้องสัญญาก่อนว่าจะต้องปฏิบัติตามสัญญาถึงจะให้สัมภาษณ์ คือต้องเอาไปออกทุกตัวอักษร ทุกคำพูดเลยจะได้รู้กัน ของดีๆไม่เอาไปออกจะเสียดาย

รายละเอียด"คำต่อคำ"มีดังนี้

ถาม : สาเหตุที่ถูกนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิดในวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา รู้สึกอย่างไรบ้าง

พล.อ.ชวลิต : ไม่ทราบว่าไปเชื่อมโยงกันได้อย่างไร จึงไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น เป็นแต่เพียงว่าเป็นลักษณะประจำอยู่แล้ว ปกติจะเป็นอย่างนี้ เมื่อหาอะไรไม่ได้ก็จะต้องมีเหตุ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็จะต้องมาลงที่ตัวใช่มั้ย ดังนั้นจะต้องหาเหตุว่าคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง ก็จะเป็นลักษณะอย่างนี้เป็นการประจำ โดยเฉพาะพวกมือใหม่ เขาเรียกว่าพวกมือใหม่ ไม่ค่อยมีประสบการณ์ และไม่ค่อยเข้าใจต่อปัญหาต่างๆ ก็จะเป็นอย่างนี้ โดยหาไปเรื่อยว่าคนโน้นเป็น คนนี้มั้ง คนนั้นมั้งก็ว่ากันไป

ถาม: ท่านมองหรือไม่ว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่ทำให้ต้องเชื่อมโยงมาถึงตัวท่าน

พล.อ.ชวลิต : ก็ไม่ทราบ มันก็เป็นมาตั้งแต่โน้นแล้ว อย่าไปโทษเขาเลย คมช. หรือ รัฐบาล คุณสุรยุทธ์ (พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ) มันทีหลังนะ โน้นมันเชื่อมโยงมา ตั้งแต่ปราบคอมมิวนิตส์ จนมาถึงรุ่นหลังๆก็ได้ สมัยท่านทักษิณ(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ก็เหมือนกัน ท่านทักษิณก็ยังบอกตรงๆ เช่นกรณีที่เรารับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาภาคใต้และท่านทักษิณก็เอาผมออกจากตำแหน่งหน้าที่นี้ แต่ท่านก็บอกตรงๆว่าเป็นเพราะว่ามีคนบอกว่าพี่จิ๋วฝักใฝ่มุสลิม เราก็เตือนแกแล้วบอกว่าระวังนะจะเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งผมก็เจอเรื่องแบบนี้มาตลอด มายุคนี้ก็เจออีก ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุอะไรเขาจึงคิดอย่างนั้น

"เขาจะต้องบอกมาซิ อย่างเช่น เขาบอกว่าเราอยู่เบื้องหลัง อะไรคือสิ่งบอกเหตุ ต้องพูดมา ถ้าไม่พูดเราก็ไม่รู้ จะไปว่าเราเป็นคนไปทำให้เขาเดือดร้อน เดือดร้อนอะไร เช่นไปว่าเขาว่า เป็นทหารไปอยู่รัฐวิสาหกิจทำไมอย่างนี้ก็ผิด ผมบอกหลายทีแล้วว่าให้ไปฟังเทปดู หรือไปถามคนที่รู้เรื่องไปจับข่าวอะไรก็ไม่รู้มาพูดจา หรือไปว่าเขาเรื่องโบกี้รถไฟเหมือนกัน จะต้องไปหาคนที่รู้เรื่อง ไปถามคนไม่รู้เรื่องก็อย่างนี้ หรืออยู่ดี ๆ ก็มาบอกว่าโกรธ เนื่องจากว่าตัวเองไม่มาอวยพร ก็รู้อยู่แล้วว่า เราไม่เคยให้ใครมาอวยพร เคยสั่ง เคยบอกทุกครั้ง มีอำนาจทุกครั้งก็บอกว่าเอ็งไม่ต้องมากันนะ เอาแต่การ์ดมาใบเดียวก็พูดกันมาตลอด ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่รู้เรื่อง" พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า

ถาม: จำเป็นต้องทำความเข้าใจกันระหว่าง คมช.และ รัฐบาล หรือไม่

พล.อ.ชวลิต : ก็ยังไม่รู้ว่าเขาคิดกับเราอย่างไร อย่างเช่นบอกว่า เราอยู่เบื้องหลังใครพูดมาซิ อยากให้มาหาหน่อย เอาหมายมาด้วยก็ดี จะได้มาจับกัน จะได้ว่ากันไปเลย เอากระบวนการทางศาลมาเลยก็แล้วกัน เราทำงานอะไรมาตั้งแต่สมัยไหน ตั้งแต่สมัยพวกนี้ยังไม่อย่านมแม่เลย เรารับผิดชอบแผ่นดินมา และทำมาจนถึงปานนี้แล้ว ศักดิ์ศรีก็มี ถึงแค่นี้แล้ว คนได้รับเหรียญรามา ถวายสัตย์ปฏิญาณดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยากับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโบสถ์วัดพระแก้ว มีใครบ้างที่จะได้รับอย่างนี้มากกี่คน น้อยคนก็รู้กันอยู่ แล้วทำได้อย่างไร เขาผ่านงานมาตั้งเยอะแย่ แสดงถึงความอ่อนด้อยในการปกครอง ความไร้ประสิทธิภาพในการปกครอง การไร้ซึ่งประสบการณ์ในการดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นทหารทำไมในเมื่อไม่รู้ว่างานการข่าวเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ทำไมข่าวเก่งนักล่ะ โอ๋แป๊ปเดียวรู้แล้วว่าใครอยู่ข้างหลัง ทำไมไม่จับแม่งให้หมดเสียล่ะจะปล่อยไว้ทำไม

ถาม: มองว่าเป็นการด่วนสรุปแล้วเกินไปหรือไม่ เมื่อรัฐบาล และ คมช. ว่าเป็นผู้สูญเสียผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นคนก่อเหตุระเบิด

พล.อ.ชวลิต : มันก็อย่างนี้ตลอดเวลา ก็บอกแล้วว่า ชอบทำแบบนี้ กลัวว่าเขาจะว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่รู้ "สพรั่ง"บอกว่า มีอะไรเกิดขึ้นรู้หมด รู้มาแล้วเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ใช้ไม่ได้สักรายเลย ก็แสดงว่าตัวเองไม่เห็นความสำคัญ หรือไม่เข้าใจในเรื่องงานข่าวกรอง ซึ่งไม่ใช่ข่าวเละเทะอย่างทุกวันนี้ มันจะต้องเป็นข่าวที่ลึก คุณทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร)ก็เชื่อข่าวอย่างนี้มาทีหนึ่งแล้ว ก็มีปัญหา มาครั้งนี้ก็ซ้ำรอยอีกแหล่ะมันเป็นแบบนี้ ฉะนั้นใครขึ้นมาเป็นใหญ่ ใครเป็นศัตรูกับตัวก็ยันไปเลยนะ

ถาม: ทางรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในช่วงนี้

พล.อ.ชวลิต : มันล้าหลังไปหมดแล้ว มันฉุดไม่ไหวแล้วแย่ ต่างชาติเขาว่ากันอย่างไรรู้มั้ย ต่างชาติเขาบอกว่า มันทำกันเอง นี่เขาพูดนะ ไอ้เราก็โกรธ และยังนึกเลยว่าไปโกรธแทนเขาทำไมนี่ รู้อย่างนี้อัดซ้ำเข้าไปอีก แต่ก็โกรธมันก็เพราะเป็นน้องเรา เห็นแก่กองทัพ กองทัพของเรา เขาว่านะ ก็บอกให้ไปบอกด้วยว่า เขารู้กันแล้วว่าใครเป็นคนทำเพราะมันมีเทปอยู่ไปขอเทปเขาดูซิ ถ้ายังไม่รู้ว่าที่ไหนมีเทปก็บ้าแล้ว ปกครองบ้านเมืองกันแบบนี้

ถาม: ท่านเชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้ประเทศไทยตกเป็นเป้าในการสร้างสถานการณ์เช่นนี้อีก

พล.อ.ชวลิต : ไม่ได้ตกเป็นเป้าใครหรอก ทำกันเอง ตัวเองทำกันเอง คนในประเทศไทยทั้งนั้น คนไทยทำกันเอง ใครจะมาทำเราได้

ถาม: น่าจะมีความขัดแย้ง หรือไม่พอใจในลักษณะไหนถึงได้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้

พล.อ.ชวลิต : ก็อย่างว่า คือว่า ผู้ปกครองไม่มีขีดความสามารถในการปกครอง ต้องอยู่ใต้การปกครอง แต่ประชาชนไม่ยอมให้ปกครอง ก็มีปัญหาอย่างนี้ทุกยุคทุกสมัยมันเป็นแบบนี้มา

ถาม: มียุทธวิธีในการดูแลอย่างไรในฐานะที่มีประสบการณ์

พล.อ.ชวลิต : ไม่มียุทธวิธี หรือรูปแบบฉบับ ในเรื่องการเมืองการปกครองที่สำคัญ คือเรื่องการเมือง หรือให้อำนาจกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ปกติถ้าอำนาจก็เหมือนของประชาชนเลย อย่าไปแย่งชิงให้มาอยู่นานนัก เอามาเพื่อแก้ไขปัญหาชั่วคราวก็เห็นด้วย เสร็จแล้วก็จะต้องคืนให้เขา ปกติน่าจะใช้เวลาสัก 20-30 วัน ก็คืนให้เขาได้ มันสามารถทำได้ ขี้คร้านเขาจะยกย่องชมเชยเราเสียอีก ฉะนั้นปัจจัยเวลาในเรื่องการคืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นเรื่องหลัก ยิ่งขืนอยู่นานจะยิ่งตาย จะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนกับคนอื่นเขาอีก ก็จะเหมือนกันจะต้องระวังให้ดี นี่เป็นเรื่องของความเป็นจริง มันง่าย ๆ แบบนี้

ถาม : อยากให้วิเคราะห์การเมืองในช่วงปี 2550 ที่อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับมาชี้แจงในเรื่องคดียุบพรรคจะเป็นส่วนปะทุความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่

พล.อ.ชวลิต : ไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่ทราบหรอก แต่ถ้าหากว่าได้แสดงให้พี่น้องให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์แน่นอนพูดกับท่านเถอะ ประชาชนรับฟังทั้งนั้นยกย่องผู้ปกครองเสมอคนไทย ไม่มีใครไม่ยกย่องผู้ปกครอง

ถาม : มีโอกาสจะกลับมาสร้างศักยภาพ

พล.อ.ชวลิต : ทำให้ดีซิ ความเป็นจริงวันนี้ มันถลำลึกไปมากแล้ว เสียหายมาตลอดทุกเรื่อง ฉะนั้นจะต้องแก้ไขด้วยตัวเองเสียใหม่ เอาประชาชนมาช่วยให้มากๆ จำไว้ให้ดีแก้อันไหนไม่ได้ให้ประชาชนแก้เถอะเขาทำได้ ผมทำเรื่องการประชุมเอเปค ที่รับผิดชอบอยู่ ประมาณ 5-6 วัน ไม่มีสักแอะใช่มั้ย แม้แต่ ตึงตั๋งรถชนก็ไม่มี ประทัดสักนัดก็ยังไม่มี มากันไม่รู้กี่สิบชาติที่เข้าร่วมประชุม

ถาม : ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาภายในประเทศ

พล.อ.ชวลิต : แน่นอนมันจะไปอยู่ไหนหล่ะ

ถาม : เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงกับภาคใต้หรือไม่

พล.อ.ชวลิต : อันนี้ไม่ใช่ประเทศไทยหรือ หนู เวลาหนูไปไข้ขึ้นมา ทันทีไข้ตัวร้อนจะตายเอา เขาก็จะต้องดูว่าหนูเป็นอะไรก่อนในขณะนี้ ภาคใต้ก็เหมือนแผลอันหนึ่งที่อยู่ในตัวเรา คนก็จะต้องตรงกันก่อน ไม่ใช่ว่าดูตรงนี้อย่างเดียว หมอก็จะต้องตรวจที่อื่นด้วย ใช่หรือเปล่า ถ้าเผื่อว่าคนบอกว่าเอาเขาไปพาดพิงทำไม ก็มันเป็นแบบนี้ ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก แต่จะบอกให้ว่ามาถามกันทำไมเวลานี้ ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าใครทำวันนี้รู้อยู่แล้วนี่ก็บอกว่าให้ไปหาเทปดู

ถาม : ความเคลื่อนไหวมีการเชื่อมโยงประเด็นทางการเมืองทำไมถึงคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง

พล.อ.ชวลิต : ใครพูดยังไม่ได้บอกเลย

ถาม : ท่านผบ.ทบ.เป็นคนระบุว่า กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นผู้ก่อเหตุ

พล.อ.ชวลิต : ไม่ทราบ ต้องไปถามเขา ยังไม่รู้ว่าเลยว่า การเมืองจะมายุ่ง

ถาม: น่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยเฉพาะพลังคลื่นใต้น้ำ

พล.อ.ชวลิต : การเมืองของท่านทั้งหลายหมายความอะไร

ถาม: ผู้สูญเสียอำนาจเป็นคนกระทำ

พล.อ.ชวลิต : สูญเสียอำนาจก็จะต้องออกมาต่อต้านธรรมดา แต่วิถีทางในการต่อต้านเขาก็จะต้องมี นึกออกมั้ย เขาต่อต้านไปและเสียมวลชน มหาชนเขาจะทำเหรอ คนที่ทำอะไรโดยไม่คิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนอะไรต่าง ๆ มันทำได้อย่างไร มันไม่มีหรอก ฉะนั้นก็ต้องระวังให้ดี ต้องแก้ตัวให้ดีด้วย เพราะมีคนพูดกันอย่างนั้นว่าทำเอง ฉะนั้นจะต้องระวัง ต้องไปดู

ทางด้าน พล.ท.พิรัช สวามิวัศดิ์ หรือเสธ.หมึก นายทหารคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้คนใกล้ชิดโทรศัพท์มาสอบถามว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน ว่า "จริงๆแล้วยังงงว่า เรื่องแบบนี้หลุดออกไปได้อย่างไร จริง ๆ ก็คุยกันและถามสารทุกข์สุขดิบ อวยพรกันแบบพี่น้อง ไม่รู้หลุดไปได้อย่างไรทางโทรศัพท์มือถือ"

ถาม : ช่วงวันหยุดท่านได้ทำอะไร

พล.ท.พิรัช : ไม่มีอะไร น้องเขาโทรศัพท์มาถามว่า พี่ทำอะไรอยู่วันนี้ ผมก็บอกว่าไม่มีอะไรอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน อายุมันมากแล้วไม่เหมาะที่จะไปเที่ยวแล้วเท่านั้นเอง

ถาม: ตอนนี้ท่านตกเป็นเป้าว่ามีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์ระเบิด

พล.ท.พิรัช : จริงๆแล้วจะเข้าใจผิด เพราะว่าอะไรที่ทำและเดือดร้อนกับประชาชน คนชื่อ "หมึก" ไม่ทำหรอกครับ

ถาม: พอจะทราบหรือไม่ ว่าทำไมถึงได้นำท่านไปเชื่อมโยง

พล.ท.พิรัช : มันคงหาอะไรไม่ได้ก็เลยอาสักหน่อย เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นกับตัวตนมาหลายครั้งหลายหน คนตาย คนสูญหาย คนทำชำเรา ใส่ชื่อหมึกไว้ก่อนคงจะถูกบ้าง คงเป็นอย่างไร

ถาม :ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานงานมาหรือไม่ว่าจะเข้ามาตรวจค้นที่บ้านพัก

พล.ท.พิรัช : ไม่มีหรอกครับ ไม่มี

ถาม: มีการเชิญไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์อย่างไรบ้าง

พล.ท.พิรัช : ไม่มีครับ น้องเขาคงไม่ทำแบบนี้ เพราะถ้าทำแบบนั้นก็ขัดแย้งกัน

ถาม : ในฐานะที่ถูกพาดพิงจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร

พล.ท.พิรัช : ไม่หรอกครับ นอกจากเขาจะมาหาที่บ้าน "เถาถั่ว ใช้ต้มถั่ว ใยร้อนลุ่มเช่นนี้ "

ถาม : มีกระแสข่าวว่าจะขอควบคุมตัว พล.อ.ชวลิต และตัวท่านด้วย

พล.ท.พิรัช : เขาคงไม่ทำ ดูแล้วมันก็พี่น้องกันทั้งนั้น คงไม่ทำ

ถาม : ได้เคยหารือกับ พล.อ.ชวลิต หรือไม่

พล.ท.พิรัช : ไม่ได้หารือ

http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=144727

[ภัทร]

ที่นี่ (คงไม่ใช่ทุกคน)   

แม้กระทั่ง ถ้าทอดไข่เจียวที่บ้านแล้วไหม้ ฝนตก แดดออก ลมพัด ก็ยังโทษได้ว่าเป็นฝีมือของ "ทักษิน" สั่งการมาหมด

เฮ้อ จะคิดอะไร จะตรองอะไร



น่าจะอยู่บนพื้นฐานของ เหตุผล บ้างก็ดีนะครับ  ..

[ใบไม้ทะเล]

ที่นี่ (คงไม่ใช่ทุกคน)   

แม้กระทั่ง ถ้าทอดไข่เจียวที่บ้านแล้วไหม้ ฝนตก แดดออก ลมพัด ก็ยังโทษได้ว่าเป็นฝีมือของ "ทักษิน" สั่งการมาหมด

เฮ้อ จะคิดอะไร จะตรองอะไร



น่าจะอยู่บนพื้นฐานของ เหตุผล บ้างก็ดีนะครับ  ..

ทำไมถึงคิดว่าพวกเราไม่มีเหตุผลล่ะค่ะ

ทำไมไม่มองว่า คนทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง เหตุผลที่เขาจะเชื่ออย่างงนั้น เป็นอย่างนี้..........

เปิดใจให้กว้าง แล้วมองโลกให้ไกลกว่านี้ค่ะ ก่อนที่จะมาว่าคนอื่น 

[ดอกฟ้ากับหมาวัด]

ที่นี่ (คงไม่ใช่ทุกคน)   

แม้กระทั่ง ถ้าทอดไข่เจียวที่บ้านแล้วไหม้ ฝนตก แดดออก ลมพัด ก็ยังโทษได้ว่าเป็นฝีมือของ "ทักษิน" สั่งการมาหมด

เฮ้อ จะคิดอะไร จะตรองอะไร



น่าจะอยู่บนพื้นฐานของ เหตุผล บ้างก็ดีนะครับ  ..

ไม่อยากจะเชื่อเลยเชียว ว่าคุณจะดูถูกภูมิปัญญาของเพื่อนร่วมประเทศ

ได้ขนาดนั้นเพราะเพียงแค่เห็นแตกต่างไปจากคุณ และก็อุปมาอุปมัยอะไรที่ไม่เข้าท่า

กับสิ่งที่น่าจะยอมรับฟังได้ ไปหาเหตุผลดีๆมากล่าวอ้างใหม่ดีกว่า..จะรอฟังค่ะ

[*bonny]

ที่นี่ (คงไม่ใช่ทุกคน)   

แม้กระทั่ง ถ้าทอดไข่เจียวที่บ้านแล้วไหม้ ฝนตก แดดออก ลมพัด ก็ยังโทษได้ว่าเป็นฝีมือของ "ทักษิน" สั่งการมาหมด

เฮ้อ จะคิดอะไร จะตรองอะไร

น่าจะอยู่บนพื้นฐานของ เหตุผล บ้างก็ดีนะครับ  ..

ยังดีนะครับที่ใช้วงเล็บบอกว่า ไม่ใช่ทุกคน

เชื่อว่า หากเทียบกับบอร์ดอื่นๆ ทางด้านการเมืองด้วยกัน  ที่นี่มีคนใช้เหตุผลมากกว่านะครับ ไม่เชื่อลองเทียบดูเถอะ 
แต่คุณยังต้องคิดต่อเนื่องอีกว่า การใช้เหตุผลนั้น คือ ..เหตุผลของใคร?  เดี๋ยวนี้แยกกันเลยด้วยว่า เหตุผลของฝ่ายไหน เพราะต่างก็อ้างว่าตนเองมีหลักการ มีเหตุผลด้วยกันทั้งสิ้น

สิ่งสำคัญของผู้ไตร่ตรอง คือ มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องราวพอจะวินิจฉัยได้หรือเปล่าว่า ใช่เหตุผลที่น่าเชื่อถือ และคิดได้อย่างถูกต้อง

[นายเกตุ]

อ้าว...ชายชื่อจิ๋วยังไม่ตายไปจากวงการเมืองอีกหรือครับ

[น้องแบ๊งค์เองครับ]

พ่อใหญ่จิ๋วหมดตูดไปนานแล้วครับ ทุกวันนี้ใช้ตังเยอะมาก เพราะแกเลี้ยงผู้หญิงเอาไว้เพียบ ตาแก่ตัณหากลับ เลี้ยงหญิงมาก สุดท้ายก็ต้องการเงิน