O_envi
|
|
« เมื่อ: 20-12-2006, 15:11 » |
|
เอาแบบบความรู้ล้วนๆ นะครับ กระทบรากหญ้ารึเปล่า รึว่ากระทบแค่แมงเม่า แล้วชาวต่างชาติล่ะครับถ้าเขาไม่มาลงทุนในหุ้นเนี่ยประเทศเสียหายแค่ไหน ตอนนี้มาตรการแบงค์ชาติผ่านคลายลงแล้วหุ้นดีดขึ้นมาแล้วถามว่าเมื่อวานหุ้นตกวันนี้หุ้นขึ้นสมมติว่า หุ้นขึ้นจนไปแตะที่ระดับเดิมถือว่าประเทศชาติเสียหายรึเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
The change musts come one by one.It has to start with you
|
|
|
นู๋เจ๋ง
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 20-12-2006, 15:26 » |
|
ตั้งคำถามดี คิดได้สัมพันธ์ กันดีค่ะ รอผู้รู้เข้ามาตอบละกัน เพราะนู๋ ไม่ช่าย ผู้เชี่ยวชาญ ..
นั่งนึกถึงว่า ประเทศไทยใน 5-10 ปีข้างหน้านี้ ต้องเร่งผลิต นักเศรษฐศาสตร์ Macro กับนักกฎหมายระหว่างประเทศไว้เยอะๆ มหาวิทยาลัยต้อง ให้ความสำคัญกับบุคลากรด้านนี้ไว้มากๆหน่อยค่ะ ใครมีลูกหลาน ญาติพี่น้อง ส่งเรียนด้านนี้กันเยอะๆ เพราะคือความมั่นคง เลยน๊า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 20-12-2006, 15:55 » |
|
เพิ่มเติมจากเจ้าของกระทู้ น่าจะมีคนศึกษาเสียหน่อยนะว่า ถ้าจะยุบตลาดหุ้นทิ้งไปเสียเลยเนี่ย จะเกิดอะไรขึ้น ประเทศไทยจะลำบากอย่างไร กระทบใครบ้าง จะได้ยุบๆ ไปเสียเลย เพราะผมว่าตลาดหุ้นน่าจะเป็นตัวถ่วงประเทศมากกว่านะ รัฐบาลจะขยับอะไรที ต้องคอยดูอย่าให้หุ้นร่วง มันจะบริหารประเทศได้ยังไง ไม่เข้าใจ มีคนอยู่กระจุกเดียวที่ได้ประโยชน์จากตลาดหุ้น น่าจะยุบไปเสียเลย แล้วไปโปรโมทการลงทุนจากต่างชาติในรูปแบบอื่นแทน ประเทศไทยน่าจะลดปัญหาลงไปได้เยอะ อีกหน่อยประเทศอื่นก็จะยุบตามเมืองไทยแน่ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 20-12-2006, 17:27 » |
|
คำตอบคือไม่กระทบรากหญ้าครับ และกระทบเฉพาะกับคนที่ไปขายหมูเท่านั้นครับ
การที่เราต้องการต่างชาติมาลงทุนนั้น แรกเริ่มเดิมที เราต้องการเทคโนโลยี โนวฮาวจากเขา เพราะเขาก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มากกว่าเรา แล้วมาสร้างงานให้คนไทยทำ และหวังว่า สักวันหนึ่งคนไทยจะได้เรียนรู้แล้วมาทำเองบ้าง เหมือนหลักการไปเป็นลูกจ้างเขาก่อน หาประสบการณ์แล้วมาเป็นเถ้าแก่เองง่ะ แต่ทุกวันนี้มันก็ยังเป็นแรงงานถูกๆให้เขาไปเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะเราไปกลัวเขา อีกส่วนคือคนไทยโหลยโท่ยซะเอง นี่เป็นการลงทุนโดยตรง ส่วนที่ให้ต่างชาติมาลงทุนในตลาดหุ้นได้ จะได้เพิ่มทางเลือกแก่ธุรกิจในประเทศไว้ระดมทุน ให้เงินทุนมันไหลเข้ามาในประเทศ เกิดการไหลเวียน
แต่ถ้าจะให้ยุบตลาดหุ้นไปเลย นี่ก็สุดโต่งครับ จุดมุ่งหมายของตลาดหุ้นคือเอาไว้เป็นที่สำหรับธุรกิจไว้ระดมเงินทุน นี่คือประโยชน์มหาศาลของมัน จะระดมทุนได้ง่ายก็คือ มันต้องให้เกิดสภาพคล่อง คือ ซื้อง่ายขายคล่อง คนมันถึงอยากจะเอาเงินมาลงทุนโดยแลกกับผลตอบแทนจากการดำเนินงานของบริษัท ธุรกิจก็เอาเงินไปขยายกิจการ
แต่ว่าในความเป็นจริง สำหรับเมืองไทย มันกลายเป็นการเอาตลาดหุ้นไปเป็นแหล่งฟอกเงินบ้าง เลี่ยงภาษีเวลามีการโอนหุ้นบ้าง ปั่นราคาหาเงินเลือกตั้ง เป็นที่พักเงินมาเก็งกำไร ที่มันเพี้ยนไปหมดเพราะการบังคับใช้กฎหมายบ้านเรา มันทำแบบศรีธนญชัยไง ไอ้คนคุมกฎมันก็ดันพวกเดียวกับคนแหกกฎ คนตีความกฎหมายก็พวกเดียวกัน แล้วอีกอย่างก็คือ ที่คุณพูดถึง "รากหญ้า" มันก็สะท้อนอยู่แล้วไงว่า ประเทศนี้มันพัฒนาไปอย่างเท่าเทียมที่ไหนเล่า รากหญ้าไม่ใช่คนโง่ แต่จงใจไม่ให้เขารู้เรื่องอะไร ปิดโอกาส ด้วยการหาอย่างอื่นมามอมเมา เช่น เงิน วัตถุ บันเทิง หรือการศึกษาแบบห่วยๆ ไม่ทัดเทียม ไม่ได้สอนให้คิด ส่วนกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลักๆก็ตกอยู่ในมือไม่กี่ตระกูล ความมั่งคั่งมันก็เวียนวนอยู่ไม่กี่คน ก็เท่านั้น
ก็เหมือนประชาธิปไตยบ้านเราไง มันรัฐธรรมนูญ มีสภา มีเลือกตั้ง มีส.ส. มันก็บอกเป็นประชาธิปไตยแล้ว กฎหมายมีเยอะแยะไปหมด แต่มีแต่คนจน คนไม่มีเส้นเท่านั้นที่เข้าคุก พูดไปพูดมามันก็กลับไปสู่เรื่อง การไร้ความยุติธรรม การไร้นิติธรรม ในบ้านเมืองไง ระบบที่เราไปเห็นเมืองฝรั่งมันใช้แล้วดี พอมาบ้านเรามันเละตุ้มเป๊ะอย่างนี้
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-12-2006, 17:34 โดย ThaiTruth »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 20-12-2006, 17:58 » |
|
ถ้าตลาดมันถูกใช้ไปตามวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของมันก็ไม่น่าจะเห็นหุ้นร่วงแบบเมื่อวานหรอก ในเมื่อมันใช้งานไม่ได้ ก็ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม จริงไม๊ อีก 50 ปีข้างหน้า มองกลับมา ประเทศไทยอาจจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศแรกที่เลิกตลาดหุ้นก็ได้นะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 21-12-2006, 10:43 » |
|
รากหญ้าไม่ได้อยู่ในตลาดทุน ก็ไม่เกี่ยวครับ
...................................................................
ที่จริง รากหญ้าจะเกี่ยวข้องกับ "ค่าเงินบาท" หรือ เรื่องศักยภาพในการแข่งขันในต่างประเทศ มากกว่า
ที่ ธปท. ต้องทำครั้งนี้ คือป้องกันนักเก็งกำไรจากค่าเงิน ไม่ให้ค่าเงินผันผวน หรือป้องกันการโจมตีค่าเงินบาท
ที่บอกว่ารากหญ้าเกี่ยวข้องกับค่าเงินบาทนั่นก็คือ เกี่ยวข้องในการขายผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งจะต้องส่งออก
หากค่าเงินบาทแข็ง เราก็แลกเงินบาทมาได้น้อย
หากเงินบาทอ่อน เราก็แลกกลับมาเป็นเงินบาทได้เยอะ
เมื่อได้บาทเยอะ พ่อค้าก็สามารถรับซื้อสินค้าเกษตรได้ราคาดีขึ้น
แต่มิใช่เรื่องค่าเงินบาทอย่างเดียวที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าเกษตร มันขึ้นกับปริมาณของสินค้าที่ผลิตได้ด้วย
เช่นปีนี้เราโดนอุทกภัย เราสูญเสียสินค้าเกษตรไปจำนวนหนึ่ง ทำให้สินค้าเกษตรมีน้อย
ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่อาจทำให้สินค้าเกษตรในประเทศดีขึ้นมาบ้าง
...........................
แต่ 9 เดือนที่ผ่านมา มันไม่เป็นแบบนั้น ค่าเงินแข็งค่าขึ้นมาตลอดเวลา
ทำให้ต้องเหนื่อยที่จะนำสินค้าไปแข่งราคากับต่างชาติทีมีสินค้าชนิดเดียวกับเราเป็นรายตัว
เท่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทางรัฐบาลและธปท. เค้ากำลังพยายามทำให้ "ผู้ส่งออก" มีโอกาสดีขึ้น
ก็น่าจะเชื่อได้ว่า เกษตรกรน่าจะได้รับผลดี
ส่วนตลาดทุนนั้น เค้ามองกันที่ "ความเชื่อมั่นจากนักลงทุน" ถ้าไม่มีเงินทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนจริง เราก็ลำบากเหมือนกัน
เพราะการลงทุนในตลาดหุ้น ก็คือลงทุนในราคาหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง กำไรของเค้าก็หวังจากตลาดหุ้นและเงินปันผลครับ
..................................
ถ้าหากมาตรการทำให้เงินบาทอ่อนตัวลงได้ผล ฝ่ายส่งออกก็มีโอกาสมากขึ้น เกษตรกร รากหญ้าตามโรงงานก็มีโอกาสดีขึ้น
อ้อ...ตลาดหุ้นมีประโยชน์ครับ ...ยุบไม่ได้หรอกครับ เพราะมันเป็นระบบ "ทุนนิยม" เป็นที่ระดมทุน เพื่อหาเงินมาลงทุนในกิจการต่าง ๆ
คือถ้าไม่มีตลาดทุน ผู้ประกอบการก็มีทางหาทุนมาทำการผลิตหรือขยายการผลิตได้ทางเดียวคือ กู้เงินจากธนาคารเท่านั้น
การเข้าตลาดทุนของบริษัทผู้ประกอบการก็มิใช่จะเข้ากันง่าย ๆ นะครับ เค้ามีเกณฑ์ต่าง ๆ มากมาย
เอาเป็นว่า ตลาดหุ้นมีประโยชน์ครับ ส่วนคนที่เข้าไปลงทุนเค้าก็ไปเสี่ยงกันเอง...
เรารากหญ้าหรือคนไม่เข้าไป....ไม่มีผลกระทบจากหุ้นขึ้นหุ้นตกอะไรหรอกครับ
รู้สึกพวกเรารู้เรื่องตลาดทุนในนี้มีหลายคน...ผมก็แค่แอบมองแอบอ่าน อิ อิ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2006, 10:54 โดย CanCan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
กาลามชน
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 21-12-2006, 13:04 » |
|
ที่บอกว่ากระเทือนเฉพาะนักลงทุนแค่แสนคนนั้นไม่จริงดอก
รากหญ้าไม่กระเทือน แต่กระเทือนลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการที่อยู่ในระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจำนวนกว่าล้านคน เพราะเงินกองทุนฯอยู่ในตลาดหุ้น ใครเกษียณปีหน้า เงินที่ออมไว้จากการทำงานตลอดชีวิต มีแนวโน้มว่าจะหายไปหลายเปอร์เซนต์ ถึงได้มีคนโมโหกันมาก
ที่ไม่ชอบมากคือหุ้นขึ้นเมื่อวานนี้เพราะมีใครก็ไม่รู้เกณฑ์กองทุนต่างๆให้เข้าไปช้อนซื้อหุ้นเพื่อรักษาหน้า ทั้งๆที่ฝรั่งยังขายไม่หยุด ถึงเช้านี้กองทุนไทยใกล้จะหมดแรงแล้ว หุ้นกำลังตกอีกแล้ว
เงินที่ใช้รักษาหน้ารัฐบาล เป็นเงินออมของลูกจ้างและประชาชนทั้งนั้น
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2006, 13:18 โดย กาลามชน »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Me.
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 21-12-2006, 13:31 » |
|
ดัชนีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มันแสดงถึงความน่าเชื่อถือของประเทศในสายตาของนานาชาติ ถ้าดัชนีมันการลงทุนสูงมันแสดงถึงว่าประเทศนั้น มีความเชื่อมั่นในสายตาของนักลงทุนเพราะอาจมีปัจจัยต่าง ๆทำให้เข้ามาลงทุน
การเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ทำให้เกิดการเรียนรู้ทางเทคโนโลยีถึงแม้หัวใจสำคัญของเทคโนโลยีเค้าจะปกปิดและเป็นความลับขั้นสูง แต่ก็ทำให้เกิดการจ้างงานเกิดขึ้น นศ ที่จบมาใหม่ก็มางานทำ แรงงานก็มีงานทำ ผู้ที่ขายของเกี่ยวเนื่องในวงจรดังกล่าวก็สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้
ตัวอย่างคร่าว ๆก็คือ โฆษณาสมัยก่อน ผมจำไม่ค่อยได้ ที่มีเพลงประกอบโฆษณาว่า " เงินกำลังจะหมุน หมุนไปให้ชุมชน " โฆษณาชิ้นนั้นสามารรถแสดงให้ถึงการเคลือนไหวของเงินทุนต่าง ๆ คล้ายๆกับการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
การลงทุนการจ้างงานล้วนมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนภายนอกประเทศ หากความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากนอกประเทศปราศจากความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศแล้วประเทศไทยถึงคราววิกฤติแน่นอน เพราะประเทศไทยความมั่นคงในเศรษฐกิจยังไม่มั่นคงเพียงพอที่จะยืนได้ด้วยแรงขับภายในตัวเอง
หากมีนักลงทุนจากภายนอกไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยแล้ว การลงทุนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะหยุดชงักลง โรงงานอาจมีการค่อย ๆ ลดอัตราการผลิตลง และมีการลดจำนวนพนักงานลงเรื่อย ๆ จนไปถึงการย้ายฐานการผลิต หากโรงงาน 1 โรงงานมีการปิดตัวลงนั่นหมายถึงจะมีผลกระทบต่อ กลุ่มคนมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นแรงงาน หรือ อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องจากการผลิต
ลองกลับไปตรวจสอบข้อมูลเมื่อปี 2540 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะเป็นตัวบ่งชี้ได้อย่างดีว่าเกิดอะไรขึ้นภายในประเทศ
การออกความเห็นในเกี่ยวเนื่องกับการเมืองและเศรษฐกิจควร ศึกษาข้อมูลและความสำคัญต่าง ๆ ให้ดีก่อน เพราะการแสดงความเห็นทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจจะมีผลในวงกว้าง
หากแสดงความเห็นที่ปราศจากความรู้ จะแสดงถึง
คุณภาพของมันสมองและสติปัญญาที่มีรวมถึงพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 21-12-2006, 15:09 » |
|
อิอิ ลองปิดตลาดหุ้นดูสิ ว่าต่างชาติยังจะเข้ามาลงทุนในเมืองไทยหรือเปล่า ไม่รู้ว่าจะกลัวไปทำไมกับต่างชาติไม่มาลงทุนเนี่ย ไล่มันไปมันยังไม่ไปเลย ส่วนเรื่องคุณภาพของมันสมองและสติปัญญา น่าจะน้อยกว่าคุณ Me. มาก พื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวก็ไม่ค่อยจะสู้ดีอะน่ะ ว่างๆ คุณ Me. ลองเอาตัวเลขแบบคนรู้จริงมาให้ดูกันหน่อยดีกว่า ว่าไอ้ตลาดหุ้นเนี่ย นอกจากมันสร้างความร่ำรวยกับเจ้าของหุ้นแล้ว มันถูกนำไปใช้ในการสร้างความเติบโตในการผลิตของบริษัทที่อยู่ในตลาดจริงๆ สักกี่มากน้อย แล้วไอ้ที่ดัชนีมันสูงเนี่ย มันสะท้อนผลดำเนินการของบริษัทที่อยู่ในตลาดจริงๆเหรอ? เดี๋ยวจะมาคอยฟังความรู้แบบคนรู้จริงจากคุณ Me. ใครอยากฟัง ลงชื่อรอที่นี่ได้เลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ซารุโทบิ ซาสุเกะ
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 21-12-2006, 15:43 » |
|
มาลงชื่อรอฟังไอ้เนียน เอ้ย คุณ Me. ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ชิโนบิโนะโมโนะ โดยเขียนในคันจิว่า 忍者 โดยตัวอักษรแรก 忍 (นิน) หมายถึง "คงทน" โดยในภายหลังคำนี้ได้มีความหมายเพิ่มเติมหมายถึง "การซ่อนตัว" และ "การขโมย" โดยตัวอักษรที่สอง 者 (จา) หมายถึง "บุคคล" นอกจากนี้ได้มีภาษาจีนได้กล่าวถึงนินจาว่า 林鬼 (หลินกุ้ย) ซึ่งหมายถึง ปีศาจในป่า
|
|
|
justy
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 21-12-2006, 15:50 » |
|
แต่ไหนแต่ไรไม่เคยสนใจ แต่ตอนนี้ตื่นตัวมาก เริ่มสนใจแล้วค่ะ
ขอบคุณอุ๋ยมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อ
|
|
|
Me.
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 21-12-2006, 15:54 » |
|
อ้า ครับ
แน่ใจเหรอครับว่าไล่เค้าแล้วเค้าไม่ไป เมื่อวันอังคารเกิดอะไรขึ้นละครับ ทำไมหุ้นตกไป 100 จุด(เงินมันไหลออกนอกประเทศไปเท่าไหร่ครับ) เนื่องจากนโยบายในตลาดใช่ไหมครับ ? ตลาดหุ้นกับตลาดทุนมันใช้ในการระดมทุนนะครับ มันส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัท หากหุ้นราคาบริษัทนั้นราคาต่ำ ๆ ใครเค้าอยากจะทำธุระกิจร่วมละครับ ภาพลักษณ์ของบริษัทมันประเมินค่าไม่ได้นะครับ
ดัชนีสูงมันแสดงถึงประเทศนั้นๆ มันน่าลงทุนครับ เมื่อมีเงินหมุนเวียนในตลาดสูงมันย่อมดีไม่ใช่เหรอครับ ?
ถ้าคุณไล่ต่างชาติออกจากตลาดไทยหมด พังกับพังครับ ลองดูรอบ ๆ ตัวคุณดูมีสินค้าอะไรบ้างที่เป็นแบรนไทย อุตสาหกรรมที่ต่างชาติเค้ามาลงทุนมันเกิดการจ้างงาน อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในท้องถิ่นก็เป็นของคนไทย พวกคนเหล่านี้ทำสินค้าป้อนโรงงานของพวกต่างชาติในไทยนี่ครับ หากต่างชาติยกเลิกการผลิตในไทยเพราะคุณไล่เค้าออกไป บริษัทคนไทยที่ทำสินค้าป้อนโรงงานจะอยู่อย่างไรล่ะครับ
ถึงไล่เค้าตอนนี้เค้าก็ยังไม่สามารถไปได้ทันทีหรอกครับ เค้าก็ค่อย ๆลดขนาดลงเรื่อย ค่อยๆ ปลดคนงานลงเรื่อย ๆจนสุดท้ายไม่เหลือ คุณคิดว่าอะไรจะตามหากคนที่ถูกเลิกจ้างจากโรงงานที่ยกเลิกการผลิตไปละครับ ?
ดัชนี่ในตลาดสูงมันแสดงถึงการน่าเข้ามาลงในทุนในประเทศไงครับ ลองไปดูดัชนี่ของประเทศที่เป็น จีแปด ดูดัชนีมูลค่าเค้าสูงขนาดไหน ?
ศึกษาข้อมูลให้มาก ๆ ครับผมพิมพ์มาอย่าเพิ่งเชื่อ ลองไปเข้าเวปพวกกระทรวงต่าง ๆ ดู อ่านให้ระเอียด ๆ อย่าไปเชื่ออะไรง่าย ๆครับ อ่านเยอะ ๆ ครับ
การแสดงความเห็นที่ปราศจากความรู้ และการแสดงความเห็นที่เน้นการแสดงอารมณ์ มันแสดงถึงคุณภาพของตัวผู้ที่แสดงความเห็นแหละครับ
เห็นไหมครับ เวลาผ่านไปนิดเดียวขึ้น "ไอ้" เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ซารุโทบิ ซาสุเกะ
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 21-12-2006, 16:00 » |
|
ผมเรียกคุณว่าไอ้เนียน มาตั้งแต่กระทู้ก่อนแล้ว คุณ Me.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ชิโนบิโนะโมโนะ โดยเขียนในคันจิว่า 忍者 โดยตัวอักษรแรก 忍 (นิน) หมายถึง "คงทน" โดยในภายหลังคำนี้ได้มีความหมายเพิ่มเติมหมายถึง "การซ่อนตัว" และ "การขโมย" โดยตัวอักษรที่สอง 者 (จา) หมายถึง "บุคคล" นอกจากนี้ได้มีภาษาจีนได้กล่าวถึงนินจาว่า 林鬼 (หลินกุ้ย) ซึ่งหมายถึง ปีศาจในป่า
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 21-12-2006, 16:12 » |
|
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สามารถชี้วัดสภาพของเศรษฐกิจได้จริง แต่ในกรณีประเทศไทย มันชี้ว่าทุกอย่างคือ 1.การเมือง 2.ทุกอย่างอยู่ในมือต่างชาติ ก็คือคุณเป็น "ทาส" เขาอะ ผมจึงชอบพูดล้อเสมอครับ ลงทุนในหุ้นลงทุนได้ แต่ผมไม่ลงทุนในหุ้นสาระขันหรอกครับแน่ใจเหรอครับว่าไล่เค้าแล้วเค้าไม่ไป เมื่อวันอังคารเกิดอะไรขึ้นละครับ ทำไมหุ้นตกไป 100 จุด(เงินมันไหลออกนอกประเทศไปเท่าไหร่ครับ)
การขายหุ้น หรือขายพันธบัตรในพอร์ต ไม่ว่าที่ไหนในโลก มันจะมีเวลา settlement 3 วัน กว่าเงินมันจะโผล่ในพอร์ต หลังจากนั้นถ้าคุณจะโอนออกก็ไม่ได้ทันทีมันต้องมีเวลาอีก 1 วันก่อนเงินจะไปโผล่ที่บัญชี (ผมไม่ทราบว่่าในเมืองไทยเป็นแบบนี้ด้วยหรือเปล่า)
ดังนั้น ต้องดูกันต่อไปครับ เชื่อว่ามีเงินไหลออกแน่ครับ อย่างน้อยก็พวกเงินเก็งกำไรบาทน่ะไปแน่ แต่ขายทิ้งหุ้นปุ๊บเงินออกปั๊บ เป็นไปไม่ได้ครับดัชนีสูงมันแสดงถึงประเทศนั้นๆ มันน่าลงทุนครับ เมื่อมีเงินหมุนเวียนในตลาดสูงมันย่อมดีไม่ใช่เหรอครับ ? ถูกต้อง แต่ผมไม่คิดว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างนั้น คุณกล้ารับประกันหรือเปล่าครับว่าตลอดมา ไม่มีการใช้ตลาดในการเลี่ยงภาษี ปั่นหุ้นไปใช้เลือกตั้ง ฯลฯ
แค่นี้ก็พอแล้วที่จะพิสูจน์คำพูดคุณว่าเชื่อได้หรือเปล่า
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2006, 16:14 โดย ThaiTruth »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
varada
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 21-12-2006, 16:19 » |
|
ที่คุณMeพูดมามีส่วนถูกนะ อย่าทำให้ความเกลียดทักษินมาบดบังจน ไม่รับรู้ข้อมูลกันเลย
รบ.ชุดนี้อ่อนเรื่องเศรษฐกิจ-การเงิน
ถ้าจะต้องเกิดต้มยำกุ้งรอบสอง ก็ถามตัวเองกันก่อน ว่าเตรียมพร้อมที่จะเซฟตัวเองและครอบครัว กันไว้บ้างหรือยัง
หลายๆคนเพลินกับระบบทุนนิยม-บริโภคจนเกินตัวในสมัยทักษิน จะให้เลี้ยวกลับมาใช้เศรษฐกิจพอเพียงนั้นค่อนข้างยาก
แต่หากทำได้ จงเริ่มทำเสีย เพราะอีก1ปีต่อไปนี้ กว่าเราจะมีรบ.ใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง เราไม่รุ้ว่ารบ.รักษาการชุดนี้ จะเจออะไรอีกบ้าง เชื่อว่า..........นี่แค่เพิ่งเริ่มชิมลางเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ซารุโทบิ ซาสุเกะ
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 21-12-2006, 16:26 » |
|
เรื่อง รบ.ชุดนี้อ่อนเรื่องเศรษฐกิจ-การเงิน นี่ผมเห็นด้วย อุ๋ยไม่เก่งจริง ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ชิโนบิโนะโมโนะ โดยเขียนในคันจิว่า 忍者 โดยตัวอักษรแรก 忍 (นิน) หมายถึง "คงทน" โดยในภายหลังคำนี้ได้มีความหมายเพิ่มเติมหมายถึง "การซ่อนตัว" และ "การขโมย" โดยตัวอักษรที่สอง 者 (จา) หมายถึง "บุคคล" นอกจากนี้ได้มีภาษาจีนได้กล่าวถึงนินจาว่า 林鬼 (หลินกุ้ย) ซึ่งหมายถึง ปีศาจในป่า
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 21-12-2006, 16:27 » |
|
ไม่อยากให้เกิดหรอกครับต้มยำกุ้งรอบสอง ถ้าเกิดผมก็กำไรเละสิครับ
แต่ผมคิดว่า การที่พล.อ.สุรยุทธ์ออกมาการันตีหม่อมอุ๋ย ถือว่าพลาดอย่างมหันต์ ควรปลดหม่อมอุ๋ยออก แต่นี่ท่านทำตรงกันข้าม อันตราย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2006, 16:30 โดย ThaiTruth »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 21-12-2006, 16:27 » |
|
อ้า ครับ
แน่ใจเหรอครับว่าไล่เค้าแล้วเค้าไม่ไป เมื่อวันอังคารเกิดอะไรขึ้นละครับ ทำไมหุ้นตกไป 100 จุด(เงินมันไหลออกนอกประเทศไปเท่าไหร่ครับ) เนื่องจากนโยบายในตลาดใช่ไหมครับ ?
อ้า แน่ใจหรือครับ ว่าไอ้ที่ทิ้งหุ้นไปเป็นนักลงทุนอย่างที่คุณ Me. ว่า ในย่านนี้ผมไม่เห็นมีที่ไหนน่าลงทุนเหมือนในเมืองไทยเลย ถ้าคุณไล่ต่างชาติออกจากตลาดไทยหมด พังกับพังครับ ลองดูรอบ ๆ ตัวคุณดูมีสินค้าอะไรบ้างที่เป็นแบรนไทย อุตสาหกรรมที่ต่างชาติเค้ามาลงทุนมันเกิดการจ้างงาน อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในท้องถิ่นก็เป็นของคนไทย พวกคนเหล่านี้ทำสินค้าป้อนโรงงานของพวกต่างชาติในไทยนี่ครับ หากต่างชาติยกเลิกการผลิตในไทยเพราะคุณไล่เค้าออกไป บริษัทคนไทยที่ทำสินค้าป้อนโรงงานจะอยู่อย่างไรล่ะครับ
อิอิ ผมบอกให้ปิดตลาดหุ้น ยังไม่ได้ให้ไล่นักลงทุน (จริงๆ ) สักกะหน่อย เพราะนักลงทุนจริงๆ ไล่ให้ไป มันยังไม่ไปเลยจะบอกให้ แม่แต่ในพม่า อเมริกามันยังแอบเข้าไปทำธุรกิจเลย ถึงไล่เค้าตอนนี้เค้าก็ยังไม่สามารถไปได้ทันทีหรอกครับ เค้าก็ค่อย ๆลดขนาดลงเรื่อย ค่อยๆ ปลดคนงานลงเรื่อย ๆจนสุดท้ายไม่เหลือ คุณคิดว่าอะไรจะตามหากคนที่ถูกเลิกจ้างจากโรงงานที่ยกเลิกการผลิตไปละครับ ?
ที่เขาจะไป ไม่น่าจะใช่เพราะ SET Index ต่ำน่า หากเขาจะไป น่าจะเพราะความสามารถของประเทศไทยในการรองรับความต้องการในการผลิตเขาได้มากกว่า ศึกษาข้อมูลให้มาก ๆ ครับผมพิมพ์มาอย่าเพิ่งเชื่อ ลองไปเข้าเวปพวกกระทรวงต่าง ๆ ดู อ่านให้ระเอียด ๆ อย่าไปเชื่ออะไรง่าย ๆครับ อ่านเยอะ ๆ ครับ
ช่วย link ไปหาข้อมูลในเวปพวกกระทรวงที่คุณ Me. อ่านมาหน่อยสิ เดี๋ยวจะเข้าไปอ่านบ้าง จะได้ฉะหลาดๆ กับเขาเสียที ว่าแต่ว่า แน่ใจนาว่าไม่ได้ไปจำขี้ปากใครมาพูด การแสดงความเห็นที่ปราศจากความรู้ และการแสดงความเห็นที่เน้นการแสดงอารมณ์ มันแสดงถึงคุณภาพของตัวผู้ที่แสดงความเห็นแหละครับ
ฟังดูขลังดีแฮะ เห็นคุณ Me. ตบท้ายด้วยประโยคอย่างนี้แทบทุกกระทู้เลยอ่ะ ขอจำไปใช้ข่มคนอื่นบ้างได้มั๊ยอ่ะ? ใครจะจำไปใช้บ้าง ช่วยลงชื่อขออนุญาตจากคุณ Me. ได้ที่นี่เช่นกันครับ ใครโง่ๆ จำเอาไปใช้ รับรองดูแล้วฉลาดขึ้นเยอะเลย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2006, 16:29 โดย sleepless »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 21-12-2006, 16:54 » |
|
อ้าว เฮ้ยแกผูกคอตายไปตั้งแต่มีรัฐประหารแล้วไม่ใช่รึ ไปเอามาล้อเล่นได้ยังไง เดี๋ยวเหอะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Cherub Rock
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 21-12-2006, 17:01 » |
|
ดัชนีสูงมันแสดงถึงประเทศนั้นๆ มันน่าลงทุนครับ
เวลาต่างชาติจะมาลงทุนคงไม่ดูแค่ดัชนีตลาดหุ้นมั้ง บางที่ดัชนีมันสูงเพราะปั่นฟองสบู่ ไม่ได้หมายความว่าน่าลงทุน ตกลงการเก็งกำไร=การลงทุน?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 21-12-2006, 17:05 » |
|
ดัชนีสูงมันแสดงถึงประเทศนั้นๆ มันน่าลงทุนครับ
เวลาต่างชาติจะมาลงทุนคงไม่ดูแค่ดัชนีตลาดหุ้นมั้ง บางที่ดัชนีมันสูงเพราะปั่นฟองสบู่ ไม่ได้หมายความว่าน่าลงทุน ตกลงการเก็งกำไร=การลงทุน? ตรรกะคุณ Me. เค้าแหล่ะ ไม่รู้ไปจำใครพูดมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Me.
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 21-12-2006, 17:43 » |
|
เห้ออ อย่ามากล่าวหากันสิครับว่า ผมจำคำพูดคนอื่นมาพูด ไม่ดีมั้งครับ กล่าวหากันแบบนี้ผมก็แย่สิครับ อย่าสร้างบรรทัดฐาน ในการกล่าวหา คนอื่นเค้าแบบนี้สิครับ
ผมกับคุณก็รับข้อมูลจากสื่อมาพอ ๆ กันมันต่างกันที่ว่า คิดก่อนแล้วถึงเชื่อ หรือ หลับหูหลับตาเชื่อถ้าคนนี้เป็นคนพูด
" ตกลงการเก็งกำไร=การลงทุน? " ผมคิดว่าไม่ใช่ครับ คนที่เข้าไปเล่นหุ้นทั้งหมดไม่ได้เข้าไปเล่นเพื่อเก็งกำไร 100 % นี่ครับ แต่ดัชนีในตลาดมีผลต่อการลงทุน ใช่ไหมครับ ? ซึ่งผมก็ไม่ได้กล่าวว่า การลงทุนทั้งหมดมาจากการตัดสินใจของดัชนีในตลาด
ส่วนเรื่อง link อยากได้ด้านไหนล่ะครับ
อย่ามากล่าวหากันดีกว่าครับ อย่าเอาให้แบบนี้เป็นบรรทัดฐานของสังคมดีกว่า ครับ เพราะทุกวันนี้มันก็แย่พอแล้วครับ กล่าวหาคนอื่นลอย ๆ แล้วก็ไม่รับผิดชอบ
ถ้าคิดจะกล่างหาว่าผมจำคำพูดคนอื่นมาพูดก็ช่วยหาหลักฐานมาให้ผมดูสักหน่อยสิครับ ไม่ใช่อะไรมากล่าวหากันเฉยแบบนี้
ซึ่งถ้าผมไม่ได้จำคำพูดใครมาพูด คุณจะรับผิดชอบการกล่าวหาผมโดยคุณเป็นผู้กระทำ ซึ่งสำเร็จด้วยความผิดแล้ว แบบนี้จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรครับ ? ถ้าไปเจอคนแรง ๆ เดี้ยวจะโดน ฟ้องหมิ่นประมาท เอาง่าย ๆ นะครับ (คุณก็คิดว่าแค่ในเวปบอร์ดใครจะมาบ้าฟ้องจริงไหม ? แต่นั่นมันก็แสดงถึงความมักง่ายของผู้กระทำว่ามีความรับผิดชอบเพียงใด)
ใช้ความจริงและเหคุผลมาถกดีกว่า ทำตัวให้คนมีอารยธรรมสักนิดเถอะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 21-12-2006, 19:04 » |
|
(คุณก็คิดว่าแค่ในเวปบอร์ดใครจะมาบ้าฟ้องจริงไหม ? แต่นั่นมันก็แสดงถึงความมักง่ายของผู้กระทำว่ามีความรับผิดชอบเพียงใด)
ตัวอย่างความมักง่ายที่เห็นชัดๆ เลยนะ: หากแสดงความเห็นที่ปราศจากความรู้ จะแสดงถึง
คุณภาพของมันสมองและสติปัญญาที่มีรวมถึงพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 21-12-2006, 19:06 » |
|
(คุณก็คิดว่าแค่ในเวปบอร์ดใครจะมาบ้าฟ้องจริงไหม ? แต่นั่นมันก็แสดงถึงความมักง่ายของผู้กระทำว่ามีความรับผิดชอบเพียงใด)
ตัวอย่างความมักง่ายที่เห็นชัดๆ เลยนะ: หากแสดงความเห็นที่ปราศจากความรู้ จะแสดงถึง
คุณภาพของมันสมองและสติปัญญาที่มีรวมถึงพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2006, 19:08 โดย sleepless »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 21-12-2006, 19:43 » |
|
คุณ Me. อธิบายได้ถูกต้องชัดเจนมาก จะผิดอยู่อย่างเดียวคือมาอธิบายผิดที่ เรียกว่ายังไงมันก็ไม่เชื่อ กฎเกณฑ์เหล่านี้มันเป็นสากลของชาวโลกอยู่แล้ว ถ้าเรามีปัญญาจะเขียนกติกาให้ชาวโลกเค้าทำตาม ก็ว่าไปอย่าง นี่ขนาดเขียนกติกาแล้วคนไทยยังไม่ทำกันเองเลยเอาอะไรมาก คิดแต่จะใช้กำลังซะงั้น ถ้าไม่เข้าใจว่ามีเครดิตเอาไว้ทำอะไร เครดิตประเทศมีประโยชน์อะไร แล้วคิดว่าปิดๆ ไปก็ไม่เห็นจะ เดือดร้อนอะไร แค่เรื่องของคนนิดเดียว ก็ป่วยการอธิบายแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 21-12-2006, 22:56 » |
|
ทำไมไม่หาอ่านข่าวจากเสียงตอบรับของผู้ที่อยู่ในภาคอื่นบ้าง เช่น เสี่ยปั้น คุณชาติศิริ ( ฝ่ายธนาคาร)
สภาอุตสาหกรรม สมาคมผู้ส่งออก สมาคมอัญมณี
เรื่องแบบนี้พูดเองเออเองไม่ได้ครับ
เราต้องมาดูว่าผลของการไล่พวกเก็งกำไรออกไป สามารถฉุดไม่ให้ค่าเงินแข็งขึ้นได้จริงหรือไม่
ภาพที่ปรากฎในวันนี้ มันบอกเราว่า มีการเสียหายในตลาดทุน ต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น
แต่ต้องมองอีกมุม ค่าเงินเป็นอย่างไร พวกเก็งค่าเงินบาทว่ายังไง
ถ้าจะว่าไปนี่คือสงครามย่อย ๆ เหมือนกันเพียงแต่ การศึกยังไม่จบ ศพยังไม่ต้องนับ
การอ่อนตัวลงของค่าเงินบาท มีความหมายยต่อภาคการผลิตจริง 60 % เราต้องเลือกเอาครับ
การไล่นักลงทุนออกไปก่อน เข้ามาใหม่คุณต้องแยกเงินแล้ว ต้องชี้แจงแล้ว เพื่อบันทึกไว้ว่า คุณนำเงินเข้ามทำอะไร
พวกที่เอามาพักกินส่วนต่างค่าเงิน ส่วนต่างดอกเบี้ย จะได้คิดให้มากขึ้น
ผมมองว่าอีกไม่นาน พวกนักลงทุนมันมาเองแหละครับ เพราะเราไม่ยอมลดดอกเบี้ย เพราะกลัวผลกระทบด้านอื่น
ตอนนี้มีอย่างเดียว รอดู...
เจ้าของกระทู้ถามเรื่องรากหญ้ากระทบมั๊ย ผมว่าไม่กระทบครับ
ถ้ากระทบคือรอรับส่วนดีของมาตรการสะกัดการเก็งกำไรค่าเงิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TAKSIN THE BEST PM.
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 22-12-2006, 08:31 » |
|
อืม ตาแคนเดี๋ยวนี้ใช้ได้ ไม่ออกลีลา
ฝ่ามือโหนฟ้า ตัดพระราชดำรัส
มาสนับสนุนตนเอง ดีครับ
ทำดีเราก็ยกย่อง
เจ้าของกระทู้ถามเรื่องรากหญ้ากระทบมั๊ย ผมว่าไม่กระทบครับ
ถ้ากระทบคือรอรับส่วนดีของมาตรการสะกัดการเก็งกำไรค่าเงิน
ถ้านักลงทุนออกไปแล้ว เอาเงินที่ไหนมาเป็นทุนล่ะครับ
หันกู้หนี้ ยืมสิน ดอกเบียโผล่ รง.ลดรายจ่าย ปลดพนักงาน
ลดการผลิต พนักงานมาจากบ้านนอก ส่งเงินเลี้ยงพ่อแม่
ไม่ค่อยโดน รากหญ้าเลยครับ ขอบอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Me.
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 22-12-2006, 08:36 » |
|
แน่ใจเหรอว่าผมมักง่าย ?
ผมเคยเผยคำพูดหยาบคาย หรือกล่าวหาใครไหมในเวปบอร์ดนี้ ?
ใครครับที่มักง่าย ?
สุภาพชนครับ ไม่มีใครเค้าด่า "ไอ้" กับคนที่มีความเห็นที่ไม่ตรงกันหรอก ใจกว้างหน่อย ครับ " อารยชน "เค้าไม่ทำกัน อย่าทำตัว " สถุน "
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
buntoshi
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 22-12-2006, 09:13 » |
|
แน่ใจเหรอว่าผมมักง่าย ?
ผมเคยเผยคำพูดหยาบคาย หรือกล่าวหาใครไหมในเวปบอร์ดนี้ ?
ใครครับที่มักง่าย ?
สุภาพชนครับ ไม่มีใครเค้าด่า "ไอ้" กับคนที่มีความเห็นที่ไม่ตรงกันหรอก ใจกว้างหน่อย ครับ " อารยชน "เค้าไม่ทำกัน อย่าทำตัว " สถุน "
คุณ Me ใจเย็นๆ ครับ คุยกันด้วยเหตุผลดีกว่า อย่าไปว่า คุณ Type ชอบแถ Taksin Isฯลฯ อะไรจ๊ะ Doss แบบนั้นสิครับ
คุยกันด้วยเหตุผล แย้งกันได้ ส่วนใคร ทำตัวแบบนั้น ก็อย่าไปเหมารวมสิครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น.... ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ---------------------------
|
|
|
พรรณชมพู
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 22-12-2006, 10:36 » |
|
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=22/Dec/2549&news_id=135184&cat_id=300"ปู่หมาย" ใครจำได้บ้างเอ่ย..ยกมือขึ้น? ปรากฏว่ายกกันหร็อมแหร็ม ก็เลยต้องกล้อมแกล้มแถลง "ปู่หมาย" นั้นไซร้คือ ท่านสมหมาย ฮุนตระกูล อดีตขุนคลังยุคท่านประธานองคมนตรีในวันนี้ที่เป็น "นายกรัฐมนตรี" ในวันนั้น "วีรกรรม" ของท่านคือแก้วิกฤติการเงิน ด้วยการลดค่าเงินบาท ปรากฏว่าชาวประชา "ด่าแหลก" ตั้งแต่ท่าช้างยันท่าเตียน ถึงขนาด "ป๋า" ยังแทบอาเจียน-ขัดใจกับ "บิ๊กซัน" ผู้ยิ่งใหญ่เพราะ วิสัยทัศน์ยาวไม่เท่ากัน ครั้นต่อมาตราบวันนั้นจนถึงวันนี้ ด้วยอานิสงส์ที่ "ปู่หมาย" แก้ปัญหาให้ชาติชนิดตัวเองต้องถูก "ความเข้าใจผิด" จนชีวิตแทบวางวาย กลับเป็นสิ่งสร้างความแข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่เป็นรากฐานให้เศรษฐกิจ-การเงินไทย "สบายๆ" กันถ้วนหน้าอยู่นี่ไง และใครๆ ต่าง "สำนึกได้" ยกให้ปู่สมหมายเป็นผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ ฝังอยู่กลางใจคนไทยทุกคน "ผู้ชำนาญการด้านเล่นแร่แปรธาตุ" ยกเหตุปู่สมหมายมาเปรียบเทียบกับวิกฤติตลาดหุ้นจากพิษ มาตรการหักสำรอง 30%" เมื่อ 19 ธันวา.ปรากฏว่าคนที่ถูกทั้งเกี๊ยะ-ถูกทั้งก้อนอิฐปาใส่แทบล้มประดาตายตอนนี้ก็คือ "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ขุนคลังใหญ่ แต่ "ศิษย์นอกกุฏิหลวงตาบัว" ให้ทัศนะแบบไม่มั่วว่าหม่อมอุ๋ยไม่ต้องร้องอี๋..อี๋..เพราะการทำหน้าที่ "ดีที่สุด" มันอยู่ข้างใน แต่เรื่องข้างนอกต้องปล่อยให้ชาวบ้านเขาด่า เพื่อความสดใส-ซาบซ่า แห่งยุคสมัย "สายลับคัสโตเดียน" กระมิดกระเมี้ยนแถลงรับว่า "กลุ่มทุนต่างชาติ" รวมหัวเทหุ้นขายหวังทำลายตลาดต้านมาตรการ "สำรอง 30%" จริง เฉพาะต่างชาติรับมือได้ แต่ตกตอนบ่าย นักเล่นหุ้นและกลุ่มทุนไทย "ตกใจ" ร่วมเทขายพรวดเดียวกว่า 30,000 ล้านบาท แถมออเดอร์ของนักลงทุนไทยแท้สั่งรอขายอยู่อีกเพียบ เป็นการตัดไฟก่อนเป็นไข้หัวลม หม่อมอุ๋ย-ธาริษา หารือทางสายจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร-จึงตกลงใจกันว่า "ยอมให้ถูกด่าเพื่อชาติ" จะให้ผู้หญิงถูกด่า-ไม่ดี เลยขอบิณฑบาตให้ลูกพี่ "หม่อมอุ๋ย" ช่วยลุยรับหน้าเสื่อ ประกาศผ่อนคลายมาตรการ ผลก็คือถูกด่าบานยิ่งกว่าริดสีดวงระเบิด แต่ "ชมรมใบบัวบก" เปิดประชุมท่ามกลางอาการฟกช้ำดำเขียวประเมินสถานการณ์ล่าผ่านจุดสุดเสียววานนี้ปรากฏว่า แฮปปี้-สมราคาที่ถูกด่าฟรี ถึงหุ้นจะยังหมุนจี๋อยู่กับที่ถอยหลัง แต่ค่าเงินบาทค่อยๆ อ่อนระทวยนวยนาดมาอยู่ในระนาบ 36 บาทกว่าต่อหนึ่งดอลลาร์ เจ๊ธาริษายิ้มแป้น แต่คนที่หลังแอ่นต่อไปต้องยกให้ "หม่อมอุ๋ย" จะยาวนานอีกแค่ไหนกว่าคนจะเข้าใจเหมือนอย่างในกรณี "ปู่สมหมาย" ศิษย์นอกกุฏิหลวงตาบัวบอกให้ทำใจ ต้มไข่เค็มใส่บาตรพระให้มากเข้าไว้ ยิ่งนานเท่าไหร่..ไข่แดงยิ่งมัน!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 22-12-2006, 10:52 » |
|
ประเทศไทยยังต้องอาศัยเงินทุนจากต่างชาติมาพัฒนา เมื่อต่างชาติไม่มาลงทุนแล้วจะเอาเงินไหนพัฒนาจ๊ะ ตอบ......ง่ายมาก เก็บภาษีจากประชาชนเพิ่มไง หึหึ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 22-12-2006, 11:24 » |
|
รู้แต่ว่าคุยกับลูกค้า เขาโล่งใจครับที่แบ๊งก์ชาติใส่ใจกับผู้ส่งออก เขาโล่งใจผมก็โล่งใจตาม เขาไม่ได้ต้องการให้บาทต้องอ่อนปวกเปียก ขอแค่ไม่ใช่แข็งค่าแบบรายวันแบบนี้ก็พอแล้ว คนด่าก็มีแต่พวกเสียประโยชน์จากการเก็งกำไรน่ะ แล้วมาอ้างตัวเองสวยหรูเป็นนักลงทุน
เมื่อวานนั่งฟัง broker เจ้าหนึ่งพล่ามออกทีวี ขู่ใหญ่ เหมือนที่คุณ Me ขู่เลย "โอ๊ย ผมเพิ่งคุยกับลูกค้านักลงทุนคนหนึ่ง เดี๋ยวต่างชาติจะกลับมาก็หลังเลือกตั้งปีหน้าโน่น" "นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่น" โถ่ ผมนั่งหัวเราะ ลูกไม้ตื้นๆครับ พวกนี้เกมทั้งนั้น เหมือนพวกฝรั่งเวลามันจะล่อให้แมงเม่าเข้ามารับของแพง มันก็ออกบทวิเคราะห์แบบกระทิง เสร็จแล้วมันปล่อยของเลย คริสต์มาสมันก็ไปพักผ่อน ส่วนการลงทุนระยะยาวที่มาตั้งฐานการผลิต ถ้าเขาสนใจเขามาโดยตรงเลยครับ
นอกจากนี้นะเรื่องที่คุณอ้างว่า ดัชนีสูงๆเป็นสิ่งที่ชี้ว่าบ้านเราน่าลงทุน แต่คุณก็พูดขัดกันเองกับดัชนีตลาดหุ้นสมัยก่อนปี 40 ตอนนั้นเป็นไงครับ ดัชนีไปถึง 1700 ถามว่านั่นน่าลงทุนจริงหรือเปล่า หรือว่าเป็นการเก็งกำไรกันแน่ แยกออกหรือเปล่าครับ ช่วงปี 31-34 ไม่อยากคุยครับ ตอนนั้นผมยังเด็ก ตามพ่อแม่ไปทุกที่เลย ไปซื้อขายที่ดินครับ เก็งเช้า ขายเย็น ซื้อ 3000 ตอนเช้า ตอนบ่ายกลายเป็นวาละ 4000 เป็นไปได้ อยู่มาวันหนึ่งพ่อผมบอกว่า ไอ้แบบนี้ไม่ยั่งยืนแล้วมันจะต้องมีจุดสิ้นสุด เราควรเลิกก่อน แล้วก็ล้างมือครับ แล้วก็จริงๆไหมล่ะ เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นล่ะ
ผมคิดว่าจะเก็งกำไรอะไร ไม่เป็นไร ถ้าเกิดอะไรไม่คาดฝันคุณก็ควรรับผลของมัน อย่ามาทำเป็นโวยวายจนเหมือนประเทศชาติจะล่มสลายแล้ว
ช่วงนี้เป็นช่วงคริสต์มาสเขาปิดกันหมดแล้ว ปีใหม่ค่อยว่ากันใหม่ประเทศไทยยังต้องอาศัยเงินทุนจากต่างชาติมาพัฒนา เมื่อต่างชาติไม่มาลงทุนแล้วจะเอาเงินไหนพัฒนาจ๊ะ ตอบ......ง่ายมาก เก็บภาษีจากประชาชนเพิ่มไง หึหึ เงินลงทุนต่างชาติที่จะเอามาพัฒนานี่ มาแบบปีสองปีแล้วก็ไปนี่ จะพัฒนาอะไรได้เหรอ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2006, 11:29 โดย ThaiTruth »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 22-12-2006, 12:06 » |
|
เงินลงทุนต่างชาติที่จะเอามาพัฒนานี่ มาแบบปีสองปีแล้วก็ไปนี่ จะพัฒนาอะไรได้เหรอ แล้วถ้าเขาจะลงทุนจริงๆเขาจะมาแค่ปี2ปีเหรอ ถ้าไม่ใช่พวกเล่นโจมตีไม่ได้เป็นไปตามกลไกตลาด อ่า....ลืมบอกไป คนจะลงทุน เขาก็ต้องดูความน่าเชื่อถือของรัฐบาลด้วยนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 22-12-2006, 12:09 » |
|
ผมว่าคุยกันจนลืมกันไปแล้วว่า นักลงทุนต่างชาติ ที่วางแผนลงทุนในเมืองไทยเกินกว่า 1 ปี ไม่ได้กระทบอะไรเลยประเทศไทยยังต้องอาศัยเงินทุนจากต่างชาติมาพัฒนา เมื่อต่างชาติไม่มาลงทุนแล้วจะเอาเงินไหนพัฒนาจ๊ะ ตอบ......ง่ายมาก เก็บภาษีจากประชาชนเพิ่มไง หึหึ [/b] ถูกแล้วครับ เรายังต้องอาศัยนักลงทุนต่างชาติ .........แต่ควรเป็นต่างชาติที่นำเงินมาลงทุนใน real sector ไม่ใช่เข้ามาเก็งกำไร ปั่นเศรษฐกิจ ให้ลอยเป็นฟองสบู่.....เงินแบบนี้ ทุกประเทศเค้ารังเกียจอยู่แล้ว เพียงแต่ ถ้ามันไม่เกินเลย จนทำให้เศรษฐกิจมีปัญหา เค้าก็หลับตาให้ข้างหนึ่ง.............นโยบายที่ออกมาก็มุ่งเป้าไปที่เงินร้อนพวกนี้อยู่แล้ว ส่วนนักลงทุนประเภทที่ลงทุนจริง ๆ พอศึกษาจนเข้าใจ ก็คงไม่รู้สึกกระทบอะไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 22-12-2006, 12:18 » |
|
ก็ใช่ไง ก็แบ๊งก์ชาติก็สกัดพวกเก็งกำไรอยู่นี่ไง แต่พวกที่เขาไม่ได้มาเก็งกำไร ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนี่
การจะเข้ามาลงทุนเขาไม่ได้ดูความเชื่อถือรัฐบาลอย่างเดียว สมมติรัฐบาลน่าเชื่อถือแล้วจะทำอะไรได้ มันมีปัจจัยอื่นด้วย เช่น ผลตอบแทน ทักษะแรงงาน สาธารณูปโภค แล้วก็ต้องดูอีกว่าที่มาลงทุนมาลงทุนอะไร ลงแล้วมาทำลายเศรษฐกิจประเทศอีกหรือเปล่า เช่น พวกห้างยักษ์ ที่ปล่อยให้มันเปิดโครมๆ 4-5 ปีที่ผ่านมาน่ะ แล้วไอ้ที่มีอยู่แล้วที่เราแทบจะไปกราบมัน ให้สิทธิพิเศษทางภาษีสารพัด แล้วป่านนี้คนไทยได้อะไรมาบ้าง ก็เห็นยังเป็นแรงงานเข้าโรงงานกันเหมือนเดิม
ถ้าต้องการให้ประเทศน่าลงทุนแบบยั่งยืน ต้องไปพัฒนาการศึกษา ความคิดความอ่านของคน ไม่ใช่เพิ่มจำนวนโรงเรียนกับปริญญา แล้วก็หยุดคอรับชั่น นั่นแหละ
ไอ้ทุกวันนี้มันพูดกันขรม "เดี๋ยวต่างชาติจะไม่มาลงทุน" พูดกันแบบนกแก้วนกขุนทอง ไอ้คนไม่รู้เรื่องก็แตกตื่นไปเรื่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 22-12-2006, 12:27 » |
|
ผมว่าคุยกันจนลืมกันไปแล้วว่า นักลงทุนต่างชาติ ที่วางแผนลงทุนในเมืองไทยเกินกว่า 1 ปี ไม่ได้กระทบอะไรเลยประเทศไทยยังต้องอาศัยเงินทุนจากต่างชาติมาพัฒนา เมื่อต่างชาติไม่มาลงทุนแล้วจะเอาเงินไหนพัฒนาจ๊ะ ตอบ......ง่ายมาก เก็บภาษีจากประชาชนเพิ่มไง หึหึ [/b] ถูกแล้วครับ เรายังต้องอาศัยนักลงทุนต่างชาติ .........แต่ควรเป็นต่างชาติที่นำเงินมาลงทุนใน real sector ไม่ใช่เข้ามาเก็งกำไร ปั่นเศรษฐกิจ ให้ลอยเป็นฟองสบู่.....เงินแบบนี้ ทุกประเทศเค้ารังเกียจอยู่แล้ว เพียงแต่ ถ้ามันไม่เกินเลย จนทำให้เศรษฐกิจมีปัญหา เค้าก็หลับตาให้ข้างหนึ่ง.............นโยบายที่ออกมาก็มุ่งเป้าไปที่เงินร้อนพวกนี้อยู่แล้ว ส่วนนักลงทุนประเภทที่ลงทุนจริง ๆ พอศึกษาจนเข้าใจ ก็คงไม่รู้สึกกระทบอะไร แล้ว ประเทศที่เป็นเผด็จการนี่ต่างชาติเาไม่รังเกียจเหรอครับ ประเทศไหนเขาจะมาช่วยเหลือ เอ้อ ไม่สงสัยกันมั่งเหรอ ทำไมเขาเลือกมาป่วนไทยช่วงนี้ ไม่อยากจะโทษรัฐบาลอ่านะ .....แต่ก็แค่สงสัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 22-12-2006, 12:32 » |
|
แล้ว ประเทศที่เป็นเผด็จการนี่ต่างชาติเาไม่รังเกียจเหรอครับ ประเทศไหนเขาจะมาช่วยเหลือ เอ้อ ไม่สงสัยกันมั่งเหรอ ทำไมเขาเลือกมาป่วนไทยช่วงนี้ ไม่อยากจะโทษรัฐบาลอ่านะ .....แต่ก็แค่สงสัย ก็ USA เพิ่งต่อ GSP ให้ไทยอยู่หลัดๆไม่ใช่เหรอ ปากมันก็ท่องไป "เลือกตั้ง ๆ ๆ ๆ "
เออ แล้วพม่ามันไม่เห็นมีเลือกตั้ง แต่ประเทศจากอียู ปากมันก็ด่าไป แต่เสือกมีบริษัทน้ำมันไปขุดน้ำมันมันอะไร
แล้วจีน เวียดนาม ไม่มีเลือกตั้งไม่พอ ยังจับพวกปากกล้าเข้าคุกกันตลอด ก็เห็นเขายังแห่ไปลงทุนอยู่เลย
ไทยมันประเทศอ่อนแอ อ่อนแอเพราะคอรับชั่นกันมูมมาม เห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง อ่อนแอเพราะการใช้กฎหมายแบบไม่เป็นธรรม อ่อนแอเพราะคนไทยคิดไม่เป็น คิดสั้นๆ เท่านั้นเองจริงๆ มันถึงได้เป็นเป้าได้ตลอด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 22-12-2006, 12:48 » |
|
แล้ว ประเทศที่เป็นเผด็จการนี่ต่างชาติเาไม่รังเกียจเหรอครับ ประเทศไหนเขาจะมาช่วยเหลือ เอ้อ ไม่สงสัยกันมั่งเหรอ ทำไมเขาเลือกมาป่วนไทยช่วงนี้ ไม่อยากจะโทษรัฐบาลอ่านะ .....แต่ก็แค่สงสัย ก็ USA เพิ่งต่อ GSP ให้ไทยอยู่หลัดๆไม่ใช่เหรอ ปากมันก็ท่องไป "เลือกตั้ง ๆ ๆ ๆ "
เออ แล้วพม่ามันไม่เห็นมีเลือกตั้ง แต่ประเทศจากอียู ปากมันก็ด่าไป แต่เสือกมีบริษัทน้ำมันไปขุดน้ำมันมันอะไร
แล้วจีน เวียดนาม ไม่มีเลือกตั้งไม่พอ ยังจับพวกปากกล้าเข้าคุกกันตลอด ก็เห็นเขายังแห่ไปลงทุนอยู่เลย
ไทยมันประเทศอ่อนแอ อ่อนแอเพราะคอรับชั่นกันมูมมาม เห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง อ่อนแอเพราะการใช้กฎหมายแบบไม่เป็นธรรม อ่อนแอเพราะคนไทยคิดไม่เป็น คิดสั้นๆ เท่านั้นเองจริงๆ มันถึงได้เป็นเป้าได้ตลอดจีนเขาเป็นคอมิวนิสต์นี่ครับ มีเลือกตั้งครับแต่เลือกใครไปแล้วก็ต้องไปสังกัดพรรคคอมมิวนิสต์จีนครับ ส่วนในจีนนั้นเขาก็อยากเป็นประชาธิปไตยครับ แต่ประเทศเขาประชากรเยอะ ตอนนี้เขาก็เปิดประเทศแล้ว ด้วยปัจจัยหลายอย่าง จึงไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยได้ในทันทีครับเพียงแต่ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป มีแต่เขาจะพัฒนา ไปสู่ประชาธิปไตย มีประเทศไทยนี่หล่ะท ี่ มีคนเห็นดีเห็นงามกับการยึดอำนาจจากเผด็จการทหาร ขุดน้ำมันในพม่ามันจะมีไรแตกต่างไปจากขายทรัพยากรธรรมชาติกิน ที่นักลงทุนเขาย้ายไป เวียดนามก็เพราะเสถียรภาพทางการเมืองที่นั่นเขามั่นคงกว่าครับ ประเทศไทยมันเอาแน่เอานอนไม่ได้หรอก รัฐบาล ไหนที่ประชาชนเลือกตั้งมาไม่ถูกใจใครเดี๋ยวก็ลุกขึ้นมายึดอำนาจอีก ไม่รุ้มันจะมองยังไงออกว่ารัฐบาลมันมี การสนับสนุนทางด้านไหน เดี๋ยวก็ยุบสภา เดี๋ยวก็มีนโยบายใหม่ เดี๋ยวก็ยึดอำนาจ โอ้ย ....มึน!! มีรัฐบาลเข้มแข็งก็ลกขึ้นยึดอำนาจ เอ้า...พวกฉลาดเข้าครองประเทศ โดนป่วนตลาดหุ้นเนี่ยจะแก้ไข จะป้องกันยังไง ทำให้ดูทีสิ ฉลาดนักนี่ รัฐบาลที่แล้วก็ไม่รู้เขาไปคอรัปชั่นไปมูมมามตรงไหน เห็นแต่ ไอ้หาร มันเข้าไปนั่งบอรืด รสก. นี่ย ไม่มูมมามเลย เป็นไง พวกที่คุณว่า คอรัปชั่นออกไปพวกทำให้ไทยอ่อนแอ ต่างชาติไม่กล้าป่วนตลาด พอพวกอ่อนแอที่คุณว่าไม่อยู่ มันเล่นแล้วไง .........หุหุ สงสัยต่างชาติมันอยากวัดกึ๋นพวกที่เก่งๆพวกนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 22-12-2006, 12:56 » |
|
เฮ้ย ๆๆๆ อย่าเบี่ยงประเด็น ประเด็นคือ ตราบใดที่ต่างชาติมันคิดว่าจะเข้ามาหาประโยชน์ได้ มันมาเอง มันไม่แคร์หรอกว่า จีน ไทย จะเป็นคอมหรือเป็นประชาธิปไตย หรือจะรัฐประหารกี่ครั้ง มันก็ไม่สน สมมติมีคนมาปฏิวัติคมช.ทิ้งตอนนี้แล้วมันอยู่ได้ 1 ปี แต่ประกาศขายด่วนรัฐวิสาหกิจ เหมืองแร่ ป่าไม้ สนามบิน เมื่อมันคิดว่ามาหาประโยชน์ได้ รับรองมันมาเอง แต่มันมารุมทึ้งเสร็จแล้วก็ไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
O_envi
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 22-12-2006, 12:58 » |
|
USA เพิ่งต่อ GSP ให้ไทยอยู่หลัดๆไม่ใช่เหรอ ปากมันก็ท่องไป "เลือกตั้ง ๆ ๆ ๆ "
เออ แล้วพม่ามันไม่เห็นมีเลือกตั้ง แต่ประเทศจากอียู ปากมันก็ด่าไป แต่เสือกมีบริษัทน้ำมันไปขุดน้ำมันมันอะไร
แล้วจีน เวียดนาม ไม่มีเลือกตั้งไม่พอ ยังจับพวกปากกล้าเข้าคุกกันตลอด ก็เห็นเขายังแห่ไปลงทุนอยู่เลย
ไทยมันประเทศอ่อนแอ อ่อนแอเพราะคอรับชั่นกันมูมมาม เห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง อ่อนแอเพราะการใช้กฎหมายแบบไม่เป็นธรรม อ่อนแอเพราะคนไทยคิดไม่เป็น คิดสั้นๆ เท่านั้นเองจริงๆ มันถึงได้เป็นเป้าได้ตลอด
อันนี้เห็นด้วยเลยครับผมว่าที่เขากดดันเรากดดันไปตามหน้าที่เท่านั้นแหละครับจริงๆ แล้วถ้าประเทศไทยมี ผลประโยชน์ให้ยังไงเขาก็ไม่ทิ้ง
มีวันนึงฟัง ASTV เขาบอกว่าประเทศอื่นเขาระบบไม่เหมือนประเทศไทยประเทศไทยมีธปท. เป็นโต๊ะในการ รับแลกเปลี่ยนค่าเงิน(ถ้าฟังมาไม่ผิด) มันเลยมีการเก็งกำไรค่าเงินกัน แล้วประเทศอื่นเขาทำกันยังไง? ประเทศไทยน่าจะปฏิรูป กลต ได้แล้วอ่อนแอมากใครก็ได้มาปั่นหุ้นโดยไม่มีการเอาผิด ค่าเงินเห็นบอกว่าถ้ามีภาษีสำหรับคนเก็งกำไรค่าเงินบาทโดยเฉพาะก็ช่วยได้ผมว่าน่าจะออกกม เรื่องพวกนี้ได้แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
The change musts come one by one.It has to start with you
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 22-12-2006, 13:11 » |
|
เฮ้ย ๆๆๆ อย่าเบี่ยงประเด็น ประเด็นคือ ตราบใดที่ต่างชาติมันคิดว่าจะเข้ามาหาประโยชน์ได้ มันมาเอง มันไม่แคร์หรอกว่า จีน ไทย จะเป็นคอมหรือเป็นประชาธิปไตย หรือจะรัฐประหารกี่ครั้ง มันก็ไม่สน สมมติมีคนมาปฏิวัติคมช.ทิ้งตอนนี้แล้วมันอยู่ได้ 1 ปี แต่ประกาศขายด่วนรัฐวิสาหกิจ เหมืองแร่ ป่าไม้ สนามบิน เมื่อมันคิดว่ามาหาประโยชน์ได้ รับรองมันมาเอง แต่มันมารุมทึ้งเสร็จแล้วก็ไป
ก็เพราะความเชื่อมั่นไง ใครจะกล้าลงทุน แสวงหาผลกำไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 22-12-2006, 13:17 » |
|
USA เพิ่งต่อ GSP ให้ไทยอยู่หลัดๆไม่ใช่เหรอ ปากมันก็ท่องไป "เลือกตั้ง ๆ ๆ ๆ "
เออ แล้วพม่ามันไม่เห็นมีเลือกตั้ง แต่ประเทศจากอียู ปากมันก็ด่าไป แต่เสือกมีบริษัทน้ำมันไปขุดน้ำมันมันอะไร
แล้วจีน เวียดนาม ไม่มีเลือกตั้งไม่พอ ยังจับพวกปากกล้าเข้าคุกกันตลอด ก็เห็นเขายังแห่ไปลงทุนอยู่เลย
ไทยมันประเทศอ่อนแอ อ่อนแอเพราะคอรับชั่นกันมูมมาม เห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง อ่อนแอเพราะการใช้กฎหมายแบบไม่เป็นธรรม อ่อนแอเพราะคนไทยคิดไม่เป็น คิดสั้นๆ เท่านั้นเองจริงๆ มันถึงได้เป็นเป้าได้ตลอด
อันนี้เห็นด้วยเลยครับผมว่าที่เขากดดันเรากดดันไปตามหน้าที่เท่านั้นแหละครับจริงๆ แล้วถ้าประเทศไทยมี ผลประโยชน์ให้ยังไงเขาก็ไม่ทิ้ง
มีวันนึงฟัง ASTV เขาบอกว่าประเทศอื่นเขาระบบไม่เหมือนประเทศไทยประเทศไทยมีธปท. เป็นโต๊ะในการ รับแลกเปลี่ยนค่าเงิน(ถ้าฟังมาไม่ผิด) มันเลยมีการเก็งกำไรค่าเงินกัน แล้วประเทศอื่นเขาทำกันยังไง? ประเทศไทยน่าจะปฏิรูป กลต ได้แล้วอ่อนแอมากใครก็ได้มาปั่นหุ้นโดยไม่มีการเอาผิด ค่าเงินเห็นบอกว่าถ้ามีภาษีสำหรับคนเก็งกำไรค่าเงินบาทโดยเฉพาะก็ช่วยได้ผมว่าน่าจะออกกม เรื่องพวกนี้ได้แล้ว
มันไม่ทิ้งหรอกครับตราบใดไทยมีผลประโยชน์ แค่มันป่วนเศรษฐกิจไทย เดี๋ยวรัฐบาลก็ต้องไปกู้เงินมัน โดย มีเงื่อนไข ที่เอารัดเอาเปรียบไทยก่อนการให้กู้เงิน สงสัยจะต้องตกเป็นทาสทางเศรษฐกิจอีก แหงมๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 22-12-2006, 13:22 » |
|
ถ้าเชื่อมั่นแบบว่า เงินดอลล่าร์อ่อน เงินบาทจะต้องแข็งขึ้น ตลาดหุ้นเปิดช่อง พันธบัตร อะไรเปิดช่องหมด งั้นมาเก็งกำไรดีกว่า แต่เศรษฐกิจที่แท้จริงประสบปัญหา กระทบไปถึงการจ้างงาน
คนที่หวังแค่สภาพคล่องจากต่างชาติไหลเข้าตลาดแล้วก็มาเล่นเกมกันในตลาด ก็คงดีใจ แต่ผมไม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 22-12-2006, 13:37 » |
|
ถ้าเชื่อมั่นแบบว่า เงินดอลล่าร์อ่อน เงินบาทจะต้องแข็งขึ้น ตลาดหุ้นเปิดช่อง พันธบัตร อะไรเปิดช่องหมด งั้นมาเก็งกำไรดีกว่า แต่เศรษฐกิจที่แท้จริงประสบปัญหา กระทบไปถึงการจ้างงาน
คนที่หวังแค่สภาพคล่องจากต่างชาติไหลเข้าตลาดแล้วก็มาเล่นเกมกันในตลาด ก็คงดีใจ แต่ผมไม่
โถ........ไม่อยากจะอธิบาสยยากนะ รัฐบาลเก่าเขาสนับสนุนการ ลงทุนด้านต่างๆ พวกเก็งกำไรไม่กล้าที่จะมาเก็งกำไรด้วย แต่พอไม่อยู่ ผมไม่อย่างบอกนะว่ารัฐบาลปัจจุบันมันเป็นยังไง เขาถึงหันมาถล่มด้วยการ ทำแบบนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sleepless
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 22-12-2006, 14:51 » |
|
เฮ้ย ๆๆๆ อย่าเบี่ยงประเด็น ประเด็นคือ ตราบใดที่ต่างชาติมันคิดว่าจะเข้ามาหาประโยชน์ได้ มันมาเอง มันไม่แคร์หรอกว่า จีน ไทย จะเป็นคอมหรือเป็นประชาธิปไตย หรือจะรัฐประหารกี่ครั้ง มันก็ไม่สน สมมติมีคนมาปฏิวัติคมช.ทิ้งตอนนี้แล้วมันอยู่ได้ 1 ปี แต่ประกาศขายด่วนรัฐวิสาหกิจ เหมืองแร่ ป่าไม้ สนามบิน เมื่อมันคิดว่ามาหาประโยชน์ได้ รับรองมันมาเอง แต่มันมารุมทึ้งเสร็จแล้วก็ไป
คุณ ThaiTruth พูดถูกต้อง 100% เต็มเลยครับ เรียกว่าเป็นสัจธรรมได้เลย นักลงทุนที่ไหนๆ ก็เห็นกำไรเป็นอันดับหนึ่งทั้งนั้น ประชาธิปไตย หรือเผด็จการ หรือจะเรื่องอื่นๆ ผมว่าเขาเอาไว้พิจารณาลำดับสุดท้ายเลย ยกเว้นจะเอาไว้ต่อรองเหมือนที่พวกไอ้กันชอบเอามาใช้ นึกอะไรไม่ออก งัดรายงาน "สิทธิมนุษยชน" ขึ้นมาก่อนเลย แล้วก็ตามด้วยมาตรการโต้ตอบทางการค้า ประเทศต่างๆ ก็ต้องคอยหงอ ลดแลกแจกแถม เพียงเพื่อให้มันเข้ามาลงทุน "เอากำไร" กลับไป ถึงบอกว่าไล่เช้าไล่เย็น มันก็ไม่ไปจากเมืองไทยหรอกครับ ประเทศไทยมันเหมือนดาวประจำหมู่บ้าน ไอ้หนุ่มเวียนเช้าเวียนเย็น พ่อสาวเอาปืนลูกซองออกมาขู่ มันก็ทำเป็นวิ่งไปหลบ อีกไม่เกินห้านาทีก็กลับมาด้อมๆ มองๆ อีกแล้ว เชื่อเหอะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: 22-12-2006, 15:44 » |
|
โธ่ เวร เข้ามาลงทุนไม่กี่บริษัท กับเป็นพันเป็นหมื่นบริษัท ดันคิดว่าเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
AsianNeocon
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 22-12-2006, 16:15 » |
|
คือ ตลาดหุ้นบูม และมันบูมเพราะว่า ประเทศไทยมีพื้นฐานแข็งแกร่ง คนอยากเข้ามาลงทุน แบบนี้มีแต่คนโมทนาสาธุ
แต่ถ้ามันบูมแบบไร้เหตุผล ตัวตลาดเองมันไม่ได้ส่งผลร้ายอะไรหรอก แต่มันเป็นผลพวงจากการเก็งกำไรที่มาทำร้ายกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แท้จริง แบบนี้คือ จะต้องไปทำยังไงกับต้นเหตุ จะพลาดเป้าไป หรือแรงไป อันนี้เป็นอีกเรื่องนึง
เหมือนปี 36 ที่มันไปถึง 1700 ตอนนั้นก็บอก โอ้โห นี่เป็นตัวชี้วัดความน่าลงทุน ประเทศไทยแข็งแกร่งจะเป็น NICS (จำได้ปะ) เป็นเสือตัวใหม่ เป็น financial hub (ตอนนั้นก็ฮิตคำนี้อะ) in-out out-in out-out เพ้อเจ้อตามฝรั่งไปเรื่อยตอนนั้นน่ะ แต่เบื้องหลังดุลการเงินเกินเอาๆๆๆ ไปทำให้ทุนสำรองพุ่งๆ คนไทยเลยนึกว่ากูรวยแล้ว แต่ต่างชาติมันรู้ไส้ในครับ ไอ้โบรกเกอร์มันก็รู้กันกับต่างชาติ เพราะว่าปริมาณการซื้อขายก็คือหม้อข้าวมันนี่ แต่ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเละ เพราะเราขาดดุลการค้าเละเทะไง แล้วหลังจากนั้นเป็นไงเหรอ? ก็แตกสิครับ จากบทเรียนแบบนั้น มันสอนเราว่า ให้ความสำคัญกับภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงดีกว่าครับ และให้ตลาดหลักทรัพย์เป็น "ดัชนี" อย่างแท้จริง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2006, 16:18 โดย ThaiTruth »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 22-12-2006, 17:14 » |
|
ถ้าเชื่อมั่นแบบว่า เงินดอลล่าร์อ่อน เงินบาทจะต้องแข็งขึ้น ตลาดหุ้นเปิดช่อง พันธบัตร อะไรเปิดช่องหมด งั้นมาเก็งกำไรดีกว่า แต่เศรษฐกิจที่แท้จริงประสบปัญหา กระทบไปถึงการจ้างงาน
คนที่หวังแค่สภาพคล่องจากต่างชาติไหลเข้าตลาดแล้วก็มาเล่นเกมกันในตลาด ก็คงดีใจ แต่ผมไม่
โถ........ไม่อยากจะอธิบาสยยากนะ รัฐบาลเก่าเขาสนับสนุนการ ลงทุนด้านต่างๆ พวกเก็งกำไรไม่กล้าที่จะมาเก็งกำไรด้วย แต่พอไม่อยู่ ผมไม่อย่างบอกนะว่ารัฐบาลปัจจุบันมันเป็นยังไง เขาถึงหันมาถล่มด้วยการ ทำแบบนี้ ตอนนี้ก็เห็นตรงกันแล้วว่ามันมีพวกอีแร้งฟันเข้ามาถล่ม.........แล้ว แบ็งค์ชาติออกมาตรการมาสกัดกั้น ทำไมคุณ Type ถึงไม่ชอบ........
เรื่องรัฐบาลเผด็จการ แล้วไม่มีคนไปลงทุน........ผมก็ไม่รู้จะไปเถียงยังไง.....เห็นที่ประเทศจีน คนทั่วโลกเค้าก็ไปลงทุนกัน หรือแม้แต่อิหร่าน ที่เป็นเผด็จการยิ่งกว่าเรา ก็ยังมีผรั่งเศสเข้าไปลงทุน......ปากีสถาน ทุกวันนี้ยังรับเงินช่วยเหลือจากอเมริกา เจ้าของตำรับ ประชาธิปไตยจ๋า แม้แต่พม่า ยังมีคนไทยบางคนไปลงทุนอยู่เลย คงไม่ต้องบอกหรอกว่าใคร..เรื่องแบบนี้เถียงกันไปก็ไม่จบหรอกครับ ...เอาเป็นว่า ถ้ามีใครมาปั่นฟองสบู่ในบ้านเรา แล้ว แบ็งค์ชาติไม่ทำอะไร ค่อยมาด่าดีกว่า ....ดูตัวอย่างปี 40 ก็แล้วกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|