ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 12:11
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  นายกซุกบ้าน เลยโดนลงโทษ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2]
นายกซุกบ้าน เลยโดนลงโทษ  (อ่าน 4158 ครั้ง)
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #50 เมื่อ: 22-12-2006, 15:47 »

ชอบแถ ยังหาเรื่องใส่ร้ายเค้าไปทั่ว หันคูหา ศาล ตัดสิน ว่าไม่ผิด นิ ที่ผิดหน่ะ เวียนเทียน ปฏิบัติหน้าที่มิชอบจนต้องติดคุกต่างหาก เฮ้อคนเรา

แล้วเรื่องอื่นเค้าตัดสิน เป็นเรื่องๆไป จุดใหน ที่ไปเกี่ยวข้องกับ สุดที่รักชอบแถ ก็หาว่าไม่ผิดทั้งนั้น แล้วมันจะพูดรู้เรื่องเหรอ ตกลง ไม่เคารพศาล ผมก็พูดด้วยลำบากหล่ะครับ

แต่ก่อนโต้แย้ง กัน ไปสรุปที่ศาลตัดสิน แต่เดี๊ยวนี้ศาลตัดสินก็ไม่ยอมรับ จะให้เข้าใจว่ายังไง ฝั่งคนรักทักษิณก็บอกมาตรงๆ ดีกว่า ว่าถ้าทักษิณไม่ถูกก็ไม่ยอมรับอะไร จะได้เข้าใจและไม่แย้งอีก

พูดผิด พูดใหม่ได้นะ ไม่แม่นข้อมูลก็ไม่อยากซ้ำเติมมาก

ศาลรัฐธรรมนูญกู้ระเบิดการเมือง มติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 6 วินิจฉัย กกต.จัดการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเปลี่ยนแปลงคูหากาบัตร ขณะที่มติ 9 ต่อ 5 เพิกถอนเลือกตั้ง จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=9/May/2549&news_id=124137&cat_id=501

ซ้ำเติมตามสบาย ครับ ยอมรับว่า จำผิด ต้องขอโทษชอบแถด้วย

แต่ในเมื่อศาลตัดสิน ผมก็ยอมรับ แล้วไม่ได้ ว่าการหันตูดมันผิดหรือไม่ผิดด้วย อันนั้นมันเป็นวินิจฉัยของศาล ท่านครับ

หากไม่มีศาลตัดสิน 3 หนา ก็คงกร่าง คิดว่าตัวเองไม่ผิดอยู่อย่างนี้

แล้วยังไงหล่ะครับ คุณชอบแถ เคารพ และ ยอมรับคำตัดสิน หรือเปล่า ถ้าไม่ยอมรับก็บอกกันตรงๆ


ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าศาลตัดสิน เป็นจุดหรือระบบยุติธรรม ยังไงศาลก็ตัดสินถูกต้องเสมอ ผมก็ต้องยอมรับ

เพียงแต่มันไม่ครบเท่านั้นเอง ไปดู case ไอทีวีได้ ผมไม่ได้เถียงเรื่องศาลตัดสินผิด แต่ระบบยุติธรรมแบบนี้มัน

ยังตัดสินไม่ถึงที่สุด เพราะมีส่วนของรัฐผิดแล้วต้องให้เอกชนฟ้องอีกที
บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #51 เมื่อ: 22-12-2006, 16:00 »

http://www.matichon.co.th/news_relate/news.php?tag950=01act03161249&paper=mctb

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10507

"ปัญหาไอทีวี" พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ของสื่อเสรีทีวีสาธารณะ

โดย สุรพล ศรีวิทยา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต



"ไอทีวี" มีปัญหาตลอดมาตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งแล้ว เพราะเจตนารมณ์เดิมต้องการให้เป็น "สื่อเสรีทีวีสาธารณะ" (Public Television) แต่รัฐบาลยุคนั้นกลับนำสัมปทานรัฐไปให้บริษัทเอกชน 10 รายดำเนินการโดยบริษัท สยามอินโฟเทนแมนท์ จำกัด (ก่อตั้งวันที่ 9 พฤษภาคม 2538) ด้วยทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาท และเพิ่มทุนเป็น 1,000 ล้านบาทในปีเดียวกัน โดยกลุ่มบริษัท สยามทีวีแอนด์คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด นำโดยธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งได้รับอนุมัติจากสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ให้เป็นผู้ดำเนินงานสัมปทานสถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ เป็นระยะยาว 30 ปี ซึ่งประสบภาวะขาดทุนสะสมมาตลอดเพราะต้องจ่ายค่าสัมปทานที่สูงมาก

ต่อมาในปี 2544 ปัญหาไอทีวีได้เริ่มขยายวงกว้าง เมื่อบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ตกลงซื้อหุ้นจากธนาคารไทยพาณิชย์ ทำให้ชินคอร์ปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในไอทีวีถึง 53% อันเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์เดิมที่ไม่ต้องการให้เอกชนรายเดียวถือหุ้นใหญ่และมีอำนาจผูกขาดการบริหารไอทีวี

และในปี 2545 ไอทีวียื่นข้อพิพาทในสัญญากับ สปน.เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ ซึ่งวินิจฉัยคำชี้ขาดข้อพิพาทเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2547

(1) ให้ สปน.ชดเชยความเสียหายให้บริษัทไอทีวีเป็นเงิน 20 ล้านบาท

(2) ให้ปรับลดผลประโยชน์ตอบแทนตามสัญญาจากเดิมปีละ 1,000 ล้านบาท เหลือ 230 ล้านบาท

(3) ให้ สปน.คืนเงินผลตอบแทนขั้นต่ำที่ได้จ่ายไประหว่างเกิดข้อพิพาทจำนวน 800 ล้านบาท โดยคืนให้บริษัทไอทีวีเป็นจำนวน 570 ล้านบาท

(4) ให้สถานีไอทีวีสามารถออกอากาศรายการบันเทิงได้ในช่วงเวลาไพรมไทม์ไม่น้อยกว่า 50% (ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนเดิมเพียง 30%)

ดังนั้น สปน.จึงต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางโดยระบุในคำร้องว่าเป็นคำวินิจฉัยชี้ขาดที่เกินขอบเขตอำนาจของคณะอนุญาโตตุลาการ และเป็นการแก้ไขสัดส่วนการนำเสนอเนื้อหาระหว่างข่าวสารสาระและบันเทิงในผังรายการ ถือเป็นการแก้เจตนารมณ์เดิมในการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ไอทีวี

นอกจากนี้ ปลายปี 2548 ครอบครัวอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ยังได้ขายหุ้นกลุ่มชินคอร์ปให้กับกองทุนเทมาเส็กของสิงคโปร์ที่มีบริษัทเอกชนไทยเป็นนอมินี ซึ่งทำให้ต่างชาติกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทางพฤตินัยในบริษัทไอทีวี ยิ่งทำให้วิกฤตไอทีวีบานปลายเป็นปัญหาที่กระทบต่อผลประโยชน์และความมั่นคงแห่งชาติ เพราะเป็นการนำสมบัติชาติไปขายให้กับต่างชาติ

ศาลปกครองกลางได้พิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการทั้ง 4 ข้อดังกล่าวข้างต้น เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2549 โดยมีคำวินิจฉัยตอนหนึ่งว่า "...การที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดให้ปรับสัดส่วนการเสนอรายการข่าวสารคดีและสาระประโยชน์ลงเหลือไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของเวลาออกอากาศทั้งหมด โดยที่ผู้คัดค้านมิได้ร้องขอ จึงเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดเกินคำขอของผู้คัดค้านและขัดต่อมาตรา 37 วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 ทั้งยังมีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของการจัดทำบริการสาธารณะ เป็นการขัดกับข้อสัญญาและวัตถุประสงค์หลักในการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ดังกล่าว ที่ประสงค์จะจัดทำบริการสาธารณะให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆ ไม่ใช่สถานีโทรทัศน์เพื่อความบันเทิงเช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์โดยทั่วไป..." ดังนั้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด

เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งเมื่อบ่ายวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางข้างต้นที่ให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าวข้างต้น อันมีผลกลับไปสู่เจตนารมณ์เดิมตามข้อตกลงสัญญาไอทีวี

จากคำพิพากษาดังกล่าวของศาลปกครองสูงสุดส่งผลให้บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จะต้องจ่ายค่าสัมปทานย้อนหลัง (ปีละ 1,000 ล้านบาท รวม 2,300 ล้านบาท) และค่าปรับผิดสัญญาสัมปทาน (โดยต้องเสียค่าปรับ 10% ของค่าสัมปทานในแต่ละปีให้ สปน. คิดเป็นค่าปรับประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท) รวมทั้งสิ้นกว่า 9.7 หมื่นล้านบาทให้ สปน. และสถานีโทรทัศน์ไอทีวีจะต้องปรับผังรายการให้กลับไปเหมือนเดิม ในสัดส่วนรายการข่าวสารคดีและสาระประโยชน์ 70% รายการบันเทิง 30%

โดยต้องเสียค่าปรับจากการเปลี่ยนแปลงผังรายการในช่วงที่ผ่านมาดังกล่าวด้วย

หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาข้างต้นแล้ว สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ต้องหาทางออกพลิกวิกฤตไอทีวีให้เป็นโอกาสสื่อเสรีทีวีสาธารณะแก่ประชาชนทันทีโดยไม่ชักช้า 3 ขั้นตอน ดังนี้

1.ทำหนังสือแจ้งเตือนให้บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) นำเงินค่าสัมปทานย้อนหลังและค่าปรับกรณีปรับผังรายการที่เปลี่ยนแปลงไปจากสัญญาเดิมที่มากถึง 9.7 หมื่นล้านบาทมาจ่าย สปน. และส่งหนังสือยืนยันให้สำนักอัยการสูงสุดดำเนินคดีค่าปรับอีกครั้งหนึ่งภายใน 1 ปีเพื่อไม่ให้คดีขาดอายุความ

2.หากบริษัทไอทีวีไม่สามารถจ่ายค่าสัมปทานย้อนหลังและค่าปรับดังกล่าวให้กับรัฐได้ สปน.จะต้องฟ้องให้ไอทีวีเป็นบริษัทล้มละลายและยึดสัมปทานไอทีวีคืนเป็นของรัฐ แล้วออกพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งไอทีวีให้มีนิติบุคคลเป็น "บรรษัทมหาชนแห่งชาติ ไอทีวี" (ITV National Public Corporation : ITV Npc.) โดย สปน.สามารถนำเงินค่าสัมปทานและค่าปรับไอทีวีทั้งหมดมาจัดตั้งกองทุนบรรษัทมหาชนแห่งชาติไอทีวี เพื่อใช้เป็นทุนดำเนินการบริหารฟื้นฟูกิจการของไอทีวีให้สถานีโทรทัศน์สาธารณะ (Public Television) ที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง และระดมทุนขายหุ้นในรูปพันธบัตรรัฐบาลให้แก่พนักงานไอทีวีและประชาชนรายย่อยทั่วไปเป็นผู้ถือหุ้นไอทีวีทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน (Public Company) เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด

3.ปลดประธานกรรมการบริหารและทีมผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ที่แต่งตั้งมาจากชิน คอร์ปอเรชั่นออกทั้งหมด แต่ให้โอนทีมผู้บริหารระดับกลางและล่างที่ไม่ได้แต่งตั้งมาจากชิน คอร์ปอเรชั่น รวมทั้งพนักงานทั้งของไอทีวีให้เป็นพนักงานของบรรษัทมหาชนแห่งชาติไอทีวี เพื่อช่วยให้ผู้บริหารและพนักงานเหล่านี้ ซึ่งมิได้มีส่วนได้เสียหรือรับผิดชอบในการขายสมบัติของสังคมไทยให้กับกองทุนเทมาเส็กสิงคโปร์ต้องตกงาน

นี่คือการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเพื่อปลดปล่อยไอทีวีจากระบบสัมปทานของรัฐ และการผูกขาดครอบงำบริษัทเอกชนไทยและกองทุนเทมาเส็กสิงคโปร์อย่างถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมาย ให้ไอทีวีเป็น "สื่อเสรีทีวีสาธารณะ" ที่ประชาชนชาวไทยเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง โดยพนักงานไอทีวีไม่ต้องตกงานด้วย


ถ้าเป็นไปตามบทความนี้   รัฐต้องชดใช้อะไรครับ ชอบแถ
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #52 เมื่อ: 22-12-2006, 16:07 »

link ไปหลายทีหลายรอบแล้ว กระทู้เรื่องไอทีวีในนี้แหละ ที่บอกเรื่องข้อห้าวรรคสี่ ไอทีวีเป็นผู้ขอแก้

แต่ สปน จัดให้จนครบกระบวนการไง ตบมือข้างเดียวไม่ดังครับ ลองไปอ่านดูผมจำไม่ได้แล้ว กระทู้

ยังไม่ตกหรอก อยู่แถวกลางๆ

http://forum.serithai.net/index.php?topic=10176.msg144142#msg144142
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2006, 16:13 โดย ชอบแถ » บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #53 เมื่อ: 22-12-2006, 16:35 »

link ไปหลายทีหลายรอบแล้ว กระทู้เรื่องไอทีวีในนี้แหละ ที่บอกเรื่องข้อห้าวรรคสี่ ไอทีวีเป็นผู้ขอแก้

แต่ สปน จัดให้จนครบกระบวนการไง ตบมือข้างเดียวไม่ดังครับ ลองไปอ่านดูผมจำไม่ได้แล้ว กระทู้

ยังไม่ตกหรอก อยู่แถวกลางๆ

http://forum.serithai.net/index.php?topic=10176.msg144142#msg144142

ถามชอบแถหน่อย ครับ สปน จัดการให้เสร็จ สรรพ แล้ว เค้า จะฟ้องไอทีวี ทำไมหล่ะครับ

และเค้าเริ่มฟ้องเมื่อไหร่ รบกวนบอกหน่อย
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #54 เมื่อ: 22-12-2006, 16:45 »

ถามชอบแถหน่อย ครับ สปน จัดการให้เสร็จ สรรพ แล้ว เค้า จะฟ้องไอทีวี ทำไมหล่ะครับ

และเค้าเริ่มฟ้องเมื่อไหร่ รบกวนบอกหน่อย


ปี 47 ใช่มั้ยถ้าจำไม่ผิด มันห่างจากปี 38 ตั้งเยอะ ลองอ่านที่ศาลตัดสินดีๆ สิครับ แล้วจะรู้ว่าตัดสินไม่ครบ

แค่เป็นจุด ศาลตัดสินว่า การขอแก้สัญญา ถือเป็นสาระสำคัญต้องทำเหมือนกับตอนทำสัญญาคือให้เข้า ครม

ตอนนี้ผิด อันทีเกิดทีหลังก็เลยไม่มีผลกันหมด ไม่ได้ตัดสินอันที่เกิดทีหลังเลยนะ แต่ตอนแก้สัญญา ไอทีวี

ทำเองไม่ได้ไง แล้วที่ฟ้องไอทีวี เค้าก็คงคิดว่าเรื่อง คณะอนุญาโต ไม่ใช่เรื่องตั้งต้นแบบนี้ ลองไปอ่านดู

บันทึกการเข้า
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #55 เมื่อ: 25-12-2006, 19:07 »



กระทู้นี้สนุกดีเนอะ 
บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
MacBookPro
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 765



« ตอบ #56 เมื่อ: 25-12-2006, 20:10 »

นายกไม่ได้ซุกบ้าน

ไอ้แถเลยมั่วนิ่ม 55555+
บันทึกการเข้า

ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #57 เมื่อ: 25-12-2006, 20:32 »

ผมขอปฏิเสธว่าไม่ใช่บ้านของผม ส่วนบ้านอีกหลังหนึ่งที่ปรากฏให้เห็นในภาพนั้นเป็นการสร้างทีหลัง ซึ่งเป็นของเพื่อนผมที่สนิทกันมากสนิทกันมา 25 ปี มาพักอยู่ด้วยกัน ซึ่งเขามาเห็นพื้นที่และชอบใจเลยขอมาอยู่และสร้างบ้านด้วย แต่ผมได้ชี้แจงไปให้เข้าใจว่า เราสามารถใช้พื้นที่ได้แต่เราไม่มีเอกสารสิทธิ์ส่วนด้านหน้าเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ของเพื่อนผมที่มาเฝ้าบ้าน ในส่วนของผมเองมีทหารช่วยดูแล ที่สร้างเรียงกันอยู่ ซึ่งมีทั้งโรงรถ โรงเก็บของห้องส้วม ในภาพจะเห็นชัดเจนว่า ในที่เป็นอย่างไร

โคตรของเพื่อนซี้เลยครับ พอๆ กับนายชวน ถ้าเป็นท่านทักษิณโดนหาว่าซุกไปแล้ว แต่ที่แน่ๆ ก็ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เห็นวิวเขื่อนลำตะคองด้วย


บันทึกการเข้า
MacBookPro
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 765



« ตอบ #58 เมื่อ: 25-12-2006, 20:36 »

โห่ หิ โห หิ โห หิ โห หิ้วววววววววววววววววววว

แถมาแล้ว มาแล้วแถ แถสู้ๆ แถสู้ตาย แถสู้ตายเพื่อทรราชย์ไอ้เหลี่ยม ฮิ้วววววว!!!!! 
บันทึกการเข้า

ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #59 เมื่อ: 25-12-2006, 20:38 »

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว นสพ.ไทยรัฐได้โทรศัพท์ไปหา พล.ท.นินนาท เบี้ยวไข่มุก นายทหารคนสนิท พล.อ. สุรยุทธ์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องโบกี้รถไฟ 4 ตู้ที่อยู่ ในบริเวณบ้านพักส่วนตัวของ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่เขายายเที่ยง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ปรากฏว่า พล.ท.นินนาทตอบกลับมาอย่างมีอารมณ์ว่า ไม่ใช่ของนายกฯ แต่ก็ไม่เป็นไร อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทุกอย่างพิสูจน์กันได้

คงเป็นเหตุผลว่าทำไมไม่พาไปดูซะวันนี้ ต้องรอหลังปีใหม่
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #60 เมื่อ: 25-12-2006, 20:50 »

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ตอบรับการนัดไปตรวจสอบดูพื้นที่บริเวณบ้านพักบนเขายายเที่ยงหลังเทศกาลปีใหม่ของสื่อมวลชน โดยระบุว่า เมื่อพร้อมเมื่อไหร่ให้นัดมา แต่ขอเป็นช่วงหลังปีใหม่ พร้อมยืนยันว่า พื้นที่บ้านพักเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม แต่ได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะไม่อย่างนั้น กฟฝ. คงไม่สามารถสร้างอ่างเก็บน้ำได้ จึงถือเป็นพื้นที่ทั่วไป และบริเวณเขายายเที่ยงมีชาวบ้านปลูกที่อยู่อาศัย โดยแบ่งเป็น 2 หมู่บ้าน เป็นเขายายเที่ยงเหนือ กับเขายายเที่ยงใต้ และปัจจุบันยังมีการสร้างรีสอร์ทโดยรอบด้วย แต่ขณะนี้ยังออกเอกสารสิทธิ์ไม่ได้ แต่ได้แจ้งกับ ป.ป.ช.แล้ว โดยเป็นการเข้าไปใช้พื้นที่ดังกล่าวในลักษณะการจ่ายภาษีบำรุงท้องที่

เอกสารสิทธิ์ออกไม่ได้ แค่จ่ายภาษีบำรุงท้องที่ ก็ไปปลูกบ้านตากอากาศได้แล้ว อ่านแล้วก็โคตรสุจริตเลยนะเนี่ย

ไม่งั้นที่ตั้ง 20 ไร่ ให้ชาวบ้านอยู่ได้ตั้งไม่รู้กี่ครัวเรือน อยู่ดีๆ ก็ไปยึดครองแบบไม่มีเอกสารสิทธิ์แล้วปลูกบ้านซะงั้น

มันเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลหรือเปล่าเนี่ย ทำเลก็สวยสุดยอด ถนนหนทางก็ไม่ต้องสร้างเข้าที่อีก
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #61 เมื่อ: 25-12-2006, 20:56 »

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ตอบรับการนัดไปตรวจสอบดูพื้นที่บริเวณบ้านพักบนเขายายเที่ยงหลังเทศกาลปีใหม่ของสื่อมวลชน โดยระบุว่า เมื่อพร้อมเมื่อไหร่ให้นัดมา แต่ขอเป็นช่วงหลังปีใหม่ พร้อมยืนยันว่า พื้นที่บ้านพักเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม แต่ได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะไม่อย่างนั้น กฟฝ. คงไม่สามารถสร้างอ่างเก็บน้ำได้ จึงถือเป็นพื้นที่ทั่วไป และบริเวณเขายายเที่ยงมีชาวบ้านปลูกที่อยู่อาศัย โดยแบ่งเป็น 2 หมู่บ้าน เป็นเขายายเที่ยงเหนือ กับเขายายเที่ยงใต้ และปัจจุบันยังมีการสร้างรีสอร์ทโดยรอบด้วย แต่ขณะนี้ยังออกเอกสารสิทธิ์ไม่ได้ แต่ได้แจ้งกับ ป.ป.ช.แล้ว โดยเป็นการเข้าไปใช้พื้นที่ดังกล่าวในลักษณะการจ่ายภาษีบำรุงท้องที่

เอกสารสิทธิ์ออกไม่ได้ แค่จ่ายภาษีบำรุงท้องที่ ก็ไปปลูกบ้านตากอากาศได้แล้ว อ่านแล้วก็โคตรสุจริตเลยนะเนี่ย

ไม่งั้นที่ตั้ง 20 ไร่ ให้ชาวบ้านอยู่ได้ตั้งไม่รู้กี่ครัวเรือน อยู่ดีๆ ก็ไปยึดครองแบบไม่มีเอกสารสิทธิ์แล้วปลูกบ้านซะงั้น

มันเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลหรือเปล่าเนี่ย ทำเลก็สวยสุดยอด ถนนหนทางก็ไม่ต้องสร้างเข้าที่อีก



'สุรยุทธ์'โต้'จิ๋ว'ซุกโบกี้รถไฟบ้านพักแค่ข่าวลือ

25 ธันวาคม 2549 14:38 น.
นายกรัฐมนตรี แถลงยืนยันไม่มี"โบกี้รถไฟ" ที่บ้านพักเขายายเที่ยง โคราช ระบุบ้านเป็นแค่อาคารกั้นฝา ไม่มีสระน้ำหรูอย่างในเว็บไซต์อ้าง ย้ำแค่ข่าวลือ พร้อมจะชี้แจงทุกอย่าง พร้อมแหย่มีโบกี้รถไฟอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็น 10 โบกี้ โอกาสหน้าจะพาไปดู
 
-

ที่สโมสรทหารบก วันนี้(25 ธ.ค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีข่าว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบเรื่องโบกี้รถไฟที่อยู่ภายในบ้านพัก พล.อ.สุรยุทธ์ ที่เขายายเที่ยง จังหวัดนครราชสีมา

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ได้นำโบกี้รถไฟจำลอง 2 ขบวน ภาพถ่ายบ้านพักขยายใหญ่ จำนวน 3 ภาพ สำเนาภาพถ่ายบ้านพักที่ปรากฏในเว็บไซต์ ซึ่งมีการระบุว่า เป็นบ้าน พล.อ.สุรยุทธ์ มาประกอบการชี้แจงด้วย

ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ขอชี้แจงความเป็นมาของพื้นที่บริเวณดังกล่าวว่า เป็นพื้นที่ที่ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ได้ เนื่องจากยังไม่มีเอกสารสิทธิ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวตนได้ปรับปรุงและนำมาใช้ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 เพราะเป็นพื้นที่ที่มีอากาศดี มีลมเย็น ทัศนียภาพสวยงาม และยังเป็นสถานที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์หลายช่อง ซึ่งแต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของชาวบ้านไม่ได้ปลูกพืชอะไร เป็นทุ่งหญ้า ตนจึงได้ไปเช่ากับประชาชนที่มีกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันบวชเป็นพระชื่อ "เบ้า"

  "บ้านหลังนี้จะใช้พักช่วงหน้าหนาว ซึ่งแต่ก่อนเวลาไปพักจะกางเต็นท์ แต่ต่อมามีอยู่ปีหนึ่งที่อุณหภูมิลดลงถึง 6 องศา มีลมแรง ภริยาบอกว่าอยู่ไม่ไหว จึงมีการสร้างอาคาร กั้นฝา และมีเสาตรงกลาง เป็นพื้นที่โล่ง ใช้ทำกิจกรรม ถ้าจะเปรียบเทียบกับบ้านในเว็บไซต์ก็ไม่รู้ว่าเป็นบ้านใคร เพราะบ้านนั้นมีสระว่ายน้ำ แต่พื้นที่ตรงนี้ไม่มี และบ้านหลังที่สร้างใกล้กันก็เป็นของเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมา 25 ปีแล้ว มาเห็นพื้นที่ก็พอใจ ขอสร้างบ้านด้วย ซึ่งผมก็ชี้แจงว่าสร้างได้ แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนมีโบกี้รถไฟอยู่ที่กรุงเทพมหานครเป็น 10 โบกี้ โอกาสหน้าจะพาไปดูว่า มีพื้นที่อยู่ในความฝันตนเป็นพันๆ ไร่ มีเมือง มีทะเลสาบ มีทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในนั้น หลายคนอาจจะถามว่าวันเสาร์อาทิตย์ตนไปทำอะไร ซึ่งตนก็ทำเมืองในฝัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำเอง ตอนที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เคยให้ช่อง 9 ไปถ่ายเลเอาต์รถไฟ และนี่ก็ถือเป็นอีกผลงานที่ทำใกล้เสร็จแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดแอบแฝง ทุกอย่างมีที่มาที่ไป สามารถทำความเข้าใจได้

"อยากเรียนว่า ผมยืนบนพื้นฐานความจริง ชี้แจงทุกอย่างได้ หากใครมีข้อสงสัยก็พร้อม บางคนอยากดู ขอเป็นโอกาสหน้า แล้วนัดเวลากัน เพราะช่วงปีใหม่ ไม่อยากไปไหน อย่างที่เคยพูดว่า ช่วงนี้มีคนเดินทางเยอะแล้ว หากผมจะเดินทางอีกก็เพิ่มปริมาณการจราจร ดังนั้น ขอถือโอกาสนี้อยู่เฝ้าติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ" นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า ได้ตรวจสอบที่มาของข่าวดังกล่าวและได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับ พล.อ.ชวลิต หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้มีโอกาสพูดคุยและยังไม่ได้ตรวจสอบที่มาที่ไปของข่าวว่าเป็นอย่างไร แต่ในฐานะที่ถูกพาดพิง จึงถือโอกาสชี้แจงความเป็นจริงว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งกับ พล.อ.ชวลิต นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่า ส่วนตัวไม่ได้มีความขัดแย้ง เพียงแต่อยากทำให้เรื่องปรากฏชัดว่า สิ่งที่สงสัยเป็นเพียงข่าวลือ ข่าวจริงก็คือโบกี้รถไฟสามารถยกใส่กระเป๋าได้ ไม่ใช่โบกี้ใหญ่โตอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตรวจสอบหรือไม่ว่า บ้านพักต่างๆ ที่เขาใหญ่มีโบกี้รถไฟหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เคยไปดูของคนอื่น แต่บ้านข้าง ๆ ก็รู้จักกัน เป็นทหารอากาศรุ่นพี่และไม่มีโบกี้รถไฟ เมื่อถามอีกว่า ได้ตั้งข้อสังเกตอีกไม่ว่า ทำไมในช่วงนี้มีข่าวโจมตีนายกรัฐมนตรีออกมา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นธรรมดา เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะก็ต้องเปิดเผย ซึ่งตนพร้อมชี้แจง ถ้ายังสงสัยก็ยินดีชี้แจงทุกอย่าง เพื่อแสดงให้เห็นว่า ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต ทำทุกอย่างให้อยู่บนพื้นฐานถูกต้องเป็นธรรม และได้แจ้งต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วว่า มีบ้านหลังดังกล่าวอยู่ แต่ไม่ได้มีการขอเอกสารสิทธิ เพียงแต่จ่ายภาษีบำรุงท้องถิ่น
 
 
http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=142520
 

นำ"ข่าว"จากกรุงเทพธุรกิจ ไม่ตัดตอน มาให้สาธุชนเปรียบเทียบกับ"ข่าว"จากคุณชอบแถ "เด็กเลี้ยงแกะ" คนใหม่.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #62 เมื่อ: 25-12-2006, 21:15 »

ที่ยกขึ้นมาก็มาจาก link ของกระทู้แถวๆ นี้ไป คมชัดลึก ไม่ได้แต่งเอง แต่เห็นว่าซ้ำเลยไม่ได้ลงให้หมด

http://www.komchadluek.net/2006/12/25/a001_77497.php?news_id=77497

ว่าแต่การนำรูปบ้านพักพร้อมสระว่ายน้ำมาลงของใครก็ไม่รู้ในพันทิปรวมกับการค้นหาโบกี้รถไฟก็ทำให้ได้ข้อมูลว่า

- นายกมีที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ในทำเลสุดยอดไข่แดงบนเขายายเที่ยงซึ่งเป็นที่ป่าเสื่อมโทรมจัดให้เกษตรกรทำกิน ตั้ง 20 ไร่

- มีการปลูกบ้านเฉยๆ โดยไม่ต้องใช้เอกสารสิทธิ์ และจ่ายแค่ภาษีบำรุงท้องที่

- มีการอ้างว่าบ้านในบริเวณเดียวกันเป็นของเพื่อนสนิทมาปลูก อ้างกันลอยๆ ไม่ต้องหลักฐาน เพราะไม่มีเอกสารสิทธิ์ ง่ายดี

- ห้ามเข้าไปดูและถ่ายรูปโดยเด็ดขาดเพราะจะโดนทหารสิบกว่าคนที่เฝ้าอยู่เอาจอบเสียมไล่

- ขอเวลาเตรียมความพร้อมจนหลังปีใหม่ค่อยพาเข้าไปดูได้ บริสุทธิ์ใจกันจริงแท้

แค่นี้ก็คุ้มแล้วสำหรับรูปนั้น
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #63 เมื่อ: 25-12-2006, 22:04 »

เวลาแถก็ต้องพิมพ์มากกว่าปกติ เป็นเรื่องธรรมดา 
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #64 เมื่อ: 25-12-2006, 23:49 »

สุรยุทธฺ์เป็นใคร?
ขนาดไอ้เหลี่ยมผมยังยอมให้มันเป็นผู้นำมาตั้ง 5 ปี

นี่แค่ 3 เดือน



สิวๆ 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #65 เมื่อ: 25-12-2006, 23:57 »

ที่ยกขึ้นมาก็มาจาก link ของกระทู้แถวๆ นี้ไป คมชัดลึก ไม่ได้แต่งเอง แต่เห็นว่าซ้ำเลยไม่ได้ลงให้หมด

http://www.komchadluek.net/2006/12/25/a001_77497.php?news_id=77497

ว่าแต่การนำรูปบ้านพักพร้อมสระว่ายน้ำมาลงของใครก็ไม่รู้ในพันทิปรวมกับการค้นหาโบกี้รถไฟ ก็ทำให้ได้ข้อมูลว่า

- นายกมีที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ในทำเลสุดยอดไข่แดงบนเขายายเที่ยงซึ่งเป็นที่ป่าเสื่อมโทรมจัดให้เกษตรกรทำกิน ตั้ง 20 ไร่

- มีการปลูกบ้านเฉยๆ โดยไม่ต้องใช้เอกสารสิทธิ์ และจ่ายแค่ภาษีบำรุงท้องที่


- มีการอ้างว่าบ้านในบริเวณเดียวกันเป็นของเพื่อนสนิทมาปลูก อ้างกันลอยๆ ไม่ต้องหลักฐาน เพราะไม่มีเอกสารสิทธิ์ ง่ายดี

- ห้ามเข้าไปดูและถ่ายรูปโดยเด็ดขาดเพราะจะโดนทหารสิบกว่าคนที่เฝ้าอยู่เอาจอบเสียมไล่

- ขอเวลาเตรียมความพร้อมจนหลังปีใหม่ค่อยพาเข้าไปดูได้ บริสุทธิ์ใจกันจริงแท้

แค่นี้ก็คุ้มแล้วสำหรับรูปนั้น



คุณชอบแถ เป็น "เด็กเลี้ยงแกะ" แล้วยังเป็น "หมาป่า" อีกด้วย......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #66 เมื่อ: 26-12-2006, 02:31 »

อายแทน ชอบแถ เลยนะเนี่ย
แต่ชอบแถคงไม่รู้สึกอะไรหรอก เพราะหนามาก
บันทึกการเข้า
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #67 เมื่อ: 26-12-2006, 03:46 »

คนสนับสนุนการขายชาติ มันก็ต้องหาหลักฐานเท็จมากลั่นแกล้งคนบริสุทธิ์เรื่อยๆน่ะแหล่ะ
ถ้ามันยังหน้าด้านอยู่ ผมเชื่อว่า มันจะโชว์ของเทียมมาอีกเรื่อยๆ ครับ

น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น ชอบแหล นะครับ
 
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #68 เมื่อ: 26-12-2006, 08:44 »

จะหาตัวเจ้าของบ้านคงไม่ใช่เรื่องยากหรอก ถ้าเค้าทำตามกฎหมายนะ เพราะ พรบ ควบคุมอาคารมีอยู่ ถ้าบอกว่า
หายแล้วที่อำเภอก็ไม่มีต้นขั้วเอกสาร ก็คงแปลว่าซุก หรือไม่แจ้ง ถ้าเจอเอกสารก็ต้องไปถามสถาปนิกหรือผู้ควบ
คุมงานอีกทีว่าบ้านนี้ของใคร ก็คงจะต้องมีคนโกหกเพื่อชาติกันบ้างละนะ

มาตรา 39 ทวิ ผู้ใดจะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต
จากเจ้าพนักงานท้องถิ่นก็ได้ โดยการแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นและต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) แจ้งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบตามแบบที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนด พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลและ
ยื่นเอกสารดังต่อไปนี้ด้วย

(ก) ชื่อของผู้รับผิดชอบงานออกแบบอาคาร ซึ่งจะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้
ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมประเภทวุฒิสถาปนิกตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพสถาปัตยกรรม และ
จะต้องไม่เป็นผู้ได้รับการแจ้งเวียนชื่อตามมาตรา 49 ทวิ
(ข) ชื่อของผู้รับผิดชอบงานออกแบบและคำนวณอาคาร ซึ่งจะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต
ให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมประเภทวุฒิวิศวกรตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพวิศวกรรม และจะ
ต้องไม่เป็นผู้ได้รับการแจ้งเวียนชื่อตามมาตรา 49 ทวิ
(ค) ชื่อของผู้ควบคุมงาน ซึ่งจะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
สถาปัตยกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพสถาปัตยกรรม และเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็น
ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพวิศวกรรม และจะต้องไม่เป็นผู้ได้รับการแจ้ง
เวียนชื่อตามมาตรา 49 ทวิ
(ง) สำเนาใบอนุญาตของบุคคลตาม (ก) (ข) และ (ค)
(จ) หนังสือรับรองของบุคคลตาม (ก) (ข) และ (ค) ว่าตนเป็นผู้ออกแบบอาคาร เป็นผู้ออก
แบบและคำนวณอาคาร หรือจะเป็นผู้ควบคุมงาน แล้วแต่กรณี พร้อมทั้งรับรองว่าการก่อสร้าง ดัดแปลง
รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารนั้น ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงและข้อบัญญัติ
ท้องถิ่นที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องทุกประการ
(ฉ) แผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลน และรายการคำนวณของอาคาร
ที่จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายซึ่งมีคำรับรองของบุคคลตาม (ก) และ (ข) ว่าตนเป็น
ผู้ออกแบบอาคารและเป็นผู้ออกแบบและคำนวณอาคารนั้น
(ช) วันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว
(2) ชำระค่าธรรมเนียมการตรวจแบบแปลนก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร ในกรณีที่เป็นการแจ้งการ
ก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร
ถ้าผู้แจ้งได้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่งครบถ้วนแล้วให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกใบรับแจ้ง
ตามแบบที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำหนดเพื่อเป็นหลักฐานการแจ้งให้แก่ผู้นั้นภายในวันที่ได้รับแจ้ง และให้ผู้
แจ้งเริ่มต้น ดำเนินการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารตามที่ได้แจ้งไว้ได้ตั้งแต่วันที่ได้รับ
ใบแจ้ง
บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #69 เมื่อ: 26-12-2006, 09:34 »

เข้าใจชอบแถนะครับ ว่าเป็นคนที่เชื่ออะไรยากจริงๆ นอกจากสิ่งที่ทักษิณพูด
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #70 เมื่อ: 26-12-2006, 11:50 »



ก็เพิ่งรู้นะคะ ว่าคนเราเลือกฉลาด เลือกมีเหตุผล เลือกหาข้อมูลได้เป็นบางเรื่องเนอะ

ขณะที่บางเรื่องก็แกล้งโง่ ไม่ขวนขวายหาข้อมูล ไม่มีเหตุผลซะงั้น


คนดีๆ มีความรู้ความสามารถ เขาก่นด่านายตัวเองไปทั้งบ้านทั้งเมือง

แทนที่จะฉุกคิด นี่ฝันไปเถอะ ข้าจะเชื่อ ว่านายของข้าเป็นคนดีล้นฟ้า ใครจะทำไม

แต่กับคนที่อยู่ตรงข้ามกับนายข้าล่ะก็นะ

ข้าก็อ้างว่า ข้าเป็นคนมีเหตุมีผลทันที ต้องหาข้อมูล (มั่วๆ ก็เอา) มาตีแผ่


ก็ทำไมไม่ขยัน ไม่มีเหตุผลอย่างนี้ให้มันตลอดล่ะฮ้า

แหม.. ความงมงายไม่เข้าใครออกใครจริงจริ๊งงงง.........



ปล. ไม่ได้เจาะจงว่าใครนะคะ แต่ขอด่าพวกงมงาย ที่ทำตัวเดี๋ยวโง่ เดี๋ยวฉลาด 
 
บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #71 เมื่อ: 26-12-2006, 11:56 »

เข้าใจชอบแถนะครับ ว่าเป็นคนที่เชื่ออะไรยากจริงๆ นอกจากสิ่งที่ทักษิณพูด


ผมไม่ได้คิดอย่างเดียวกับคุณ butoshiว่าเขาเป็นคนเชื่ออะไรยาก
เรื่องไม่น่าเชื่ออย่างว่า "นายผู้ชาย" เป็นคนบริสุทธิ์ สะอาด ยุติธรรม ที่ใคร ๆ ไม่ยอมเชื่อ เขายังเชื่องมงายเลย........
Exclamation

เจตนาของเขานั้น ไม่ยอมเชื่อ และต้องการใส่ความมากกว่า จึงไม่สามารถหาเหตุผล อ้างอิงอะไรมาเล่าให้ฟังได้........
มีอะไรในความคิดเห็นของเขา ที่ทำให้เชื่อถือหรืออ้างอิงได้.......
Question

ปล. "เด็กเลี้ยงแกะ" หรือ "หมาป่า" พูดอะไรที่เชื่อถือได้...... Question


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
engg
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #72 เมื่อ: 26-12-2006, 18:11 »

นายกให้ข่าว เป็นที่รับต่อจากคนอื่น ไม่มีกรรมสิทธิ์ ครอบครองใช้ประโยชน์โดยเสียภาษีรายปี

มีอยู่ 20 ไร่

บ้านปลูกโดยคนรู้จัก

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง
บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #73 เมื่อ: 26-12-2006, 18:19 »

บอกแล้วว่าคนบางคน

ฉลาด ...แต่ว่า ฉลาดแต่เรื่องโง่ๆ นะ 55+
บันทึกการเข้า
decison_making
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 254


แม่ไม่ว่าเหรอแม้ว ทำตัวอย่างงี้


« ตอบ #74 เมื่อ: 27-12-2006, 00:38 »

   วู้้้ๆๆๆ ไม่เข้ามานาน มาเยี่ยมเวปอีกที

ยังแถได้ ดักดานจริงๆ แฮะ   


อ่านกระทู้ข้างล่าง จะอ้วกแล้ว

กระทู้นี้ มึนตึ้บยิ่งกว่า

ระดับปัญญาแบบนี้ มิน่าล่ัะ ถึงได้รักพ่อเหลี่ยมไม่เสื่อมคลาย



บันทึกการเข้า
Naymoon
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13


« ตอบ #75 เมื่อ: 27-12-2006, 21:04 »

ใช่บ้านแน่หรือครับ

ดูจากตรงบริเวณระเบียง มันมีหลายๆ ประตูแล้วติดๆ ดูลักษณะคล้ายพวก รีสอร์ทมากกว่านะ
บ้านคนประตูคงไม่เยอะขนาดนั้นมั้งครับ

เตียงรอบๆ สระน้ำเห็นไม่ค่อยชัด ก็ดูจะเยอะๆ อยู่นะ 
บันทึกการเข้า
A-NOY
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 546


« ตอบ #76 เมื่อ: 27-12-2006, 21:45 »

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้ตอบรับการนัดไปตรวจสอบดูพื้นที่บริเวณบ้านพักบนเขายายเที่ยงหลังเทศกาลปีใหม่ของสื่อมวลชน โดยระบุว่า เมื่อพร้อมเมื่อไหร่ให้นัดมา แต่ขอเป็นช่วงหลังปีใหม่ พร้อมยืนยันว่า พื้นที่บ้านพักเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม แต่ได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะไม่อย่างนั้น กฟฝ. คงไม่สามารถสร้างอ่างเก็บน้ำได้ จึงถือเป็นพื้นที่ทั่วไป และบริเวณเขายายเที่ยงมีชาวบ้านปลูกที่อยู่อาศัย โดยแบ่งเป็น 2 หมู่บ้าน เป็นเขายายเที่ยงเหนือ กับเขายายเที่ยงใต้ และปัจจุบันยังมีการสร้างรีสอร์ทโดยรอบด้วย แต่ขณะนี้ยังออกเอกสารสิทธิ์ไม่ได้ แต่ได้แจ้งกับ ป.ป.ช.แล้ว โดยเป็นการเข้าไปใช้พื้นที่ดังกล่าวในลักษณะการจ่ายภาษีบำรุงท้องที่

เอกสารสิทธิ์ออกไม่ได้ แค่จ่ายภาษีบำรุงท้องที่ ก็ไปปลูกบ้านตากอากาศได้แล้ว อ่านแล้วก็โคตรสุจริตเลยนะเนี่ย

ไม่งั้นที่ตั้ง 20 ไร่ ให้ชาวบ้านอยู่ได้ตั้งไม่รู้กี่ครัวเรือน อยู่ดีๆ ก็ไปยึดครองแบบไม่มีเอกสารสิทธิ์แล้วปลูกบ้านซะงั้น

มันเข้าข่ายผู้มีอิทธิพลหรือเปล่าเนี่ย ทำเลก็สวยสุดยอด ถนนหนทางก็ไม่ต้องสร้างเข้าที่อีก
ผิดถูกไม่รู้ แต่ที่รู้ๆที่ภบท.5 น่ะเขาให้สร้างบ้านอยู่ได้ 1หลังนะว้อยไอ้เบื๊อก
บันทึกการเข้า

A-NOY
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #77 เมื่อ: 28-12-2006, 08:33 »

แถมใจดีให้เพื่อนมาสร้างอีก 1หลังได้ด้วยนะว้อยไอ้เบื๊อก
บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #78 เมื่อ: 31-12-2006, 12:31 »

แล้วเมิงจะรับผิดชอบ ข้อมูลเน่าๆ ของมรึงยังไงเล่าไอ้เบื้อก แถ...
บันทึกการเข้า
MacBookPro
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 765



« ตอบ #79 เมื่อ: 31-12-2006, 14:02 »

แล้วเมิงจะรับผิดชอบ ข้อมูลเน่าๆ ของมรึงยังไงเล่าไอ้เบื้อก แถ...

พี่ชอบแถแสนรู้เค้าบกพร่องโดยทุจริตคร้าบบบบ
บันทึกการเข้า

ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
เพนกวินน้อยนักอ่าน
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 866



« ตอบ #80 เมื่อ: 31-12-2006, 21:32 »

แถไปเรื่อยๆ เลย รูปบ้านมีสระน้ำ น่ะของใครเอ่ย
ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด อย่าเป็นคนเลยวะ นายชอบแหล
 
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #81 เมื่อ: 01-01-2007, 10:01 »

ทำอย่างไรดีกับบ้านบนเขา

โดย โสภิณ ทองปาน

บ้านบนเขากลายเป็นข่าวขึ้นมา เพราะเป็นบ้านบนเขายายเที่ยงถ้าเป็นบนเขาเกาะสมุย และที่ภูเก็ตจะไม่เป็นข่าว ล่าสุดเป็นข่าวเมื่อเจ้าของบ้านคือ นายกรัฐมนตรีให้ข่าวว่า ถ้าเรื่องที่ดินที่ปลูกบ้านผิดจริงพร้อมจะลาออกจากตำแหน่ง (มติชน 28 ธันวาคม 2549)

เป็นข่าวขึ้นมาช่วงปลายเดือนธันวาคม เมื่อคนสนิทของบิ๊กจิ๋วเปิดเผยว่า "เจ้านายสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับภาพโบกี้รถไฟที่บ้านพักส่วนตัวของ พล.อ.สุรยุทธ์ บนเขายายเที่ยง" แล้วทุกคนปฏิเสธว่าไม่ได้พูด ไม่ได้ให้ข่าวนักข่าวเขียนเอง

สุดท้ายโดนคำถามมากเข้าเจ้าของบ้านต้องออกมาให้ข่าวเมื่อเที่ยงวันที่ 25 ธันวาคม 2549 ว่ามีบ้านอยู่จริงปลูกบนเนื้อที่ราว 20 ไร่ ไม่มีสระว่ายน้ำ ไม่มีตู้รถไฟ เป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ มีแต่ไปเสียภาษีบำรุงที่ดิน (ภบท.5) โดยซื้อมาจากชาวบ้านชื่อเบ้า ปัจจุบันบวชเป็นพระ (มหาชน 29 ธันวาคม 2549)

ปัญหา ภบท.5 คนทั่วไปอาจจะสับสน บางทีแกล้งทำเป็นสับสนเอกสารนี้มิใช่เอกสารสิทธิแต่เป็นหลักฐานการเสียภาษีบำรุงท้องถิ่น ซึ่งมีอัตราภาษีตั้งแต่ไร่ละ 5 บาท ถึงสูงสุด 100 บาท ต่างกันไปตามท้องที่ ไม่มีใครไปเสียทุกปี ห้าปีสิบปีไปเสียทีแต่ต้องเสียค่าปรับ ก็ไม่มาก ที่ดินแปลงนี้ในพื้นที่นี้คาดว่าจะไม่เกินไร่ละ 5 บาท ยี่สิบไร่ค่าภาษีปีละ 100 บาท

ที่ดินแถวรังสิตคลองห้าคลองหกอัตราภาษีไร่ละ 50 บาทเท่านั้นเอง ใครก็ไปเสียได้แม้ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพียงแต่ไปแจ้งว่าที่ดินอยู่ตรงไหน

ประเด็นต่อมาที่ชมรมคนวันเสาร์ถามคือ ที่ดินที่ปลูกบ้านเจ้าของไปบุกรุกที่ป่าสงวนหรือไม่ ก็คิดว่าคงจะไม่ แต่อาจจะให้ชาวบ้านไปบุกรุกแบบที่ผู้มีอิทธิพลทำกันทั่วไป ความกระจ่างเกิดขึ้นเมื่อลูกเขยพระเบ้า บอกว่าคุณพ่อขายให้กับนายทหารในราคาหกแสนบาท (มติชน 28 ธ.ค.2549) ก็ไร่ละสี่หมื่นกว่าบาท เป็นที่ดินที่กรมป่าไม้จัดแบ่งให้แก่เกษตรกร ราว 100 กว่าครอบครัว ครอบครัวละ 16 ไร่ จึงตัดประเด็นบุกรุกป่าสงวนออกไป

ปัญหาคือเกษตรกรผู้ที่ได้รับที่ดินทำกินจากกรมป่าไม้ครอบครัวละประมาณ 14 ไร่ มาจากการจัดที่ดินทำกินของกรมป่าไม้ เพื่อแก้ปัญหาการทำกินในพื้นที่ป่าสงวน ระยะหลังมีจัดน้อยมาก ขณะนี้กำลังจัดอยู่ในพื้นที่ตำบลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด รวมทั้งจัดรอบๆ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาใน เพื่อรองรับการอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เขตรักษาพันธุ์ฯ โดยจัดให้ครอบครัวละ 14 ไร่ เรียกว่า โครงการจัดที่ดินทำกินของกรมป่าไม้ เอกสารที่มอบให้เรียกว่าหนังสือแสดงสิทธิทำกิน (ส.ท.ก)

ลุงเบ้าหรือภิกษุเบ้าในปัจจุบันก็คงจะมีเอกสารนี้ แต่ที่ดินที่ได้รับซื้อขายไม่ได้เว้นแต่ให้ทายาททำกินแทน หรือตกทอดโดยมรดก แต่โดยทั่วไปก็ซื้อขายกัน ร้อยครอบครัวที่ได้รับ ส.ท.ก พร้อมลุงเบ้าก็คงขายกันไปเยอะแล้ว

ถ้าขายคราวเดียวที่ พล.อ.สุรยุทธ์ ซื้อก็ราคาไร่ละ 4-5 หมื่นบาท ไม่มีการจดทะเบียนการซื้อขาย คนซื้อไปก็ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ แต่ดูจากภาพแล้วก็เป็นชุมชนพอควรมีถนนพอจะใช้ได้ ปัจจุบันอยู่ในหมู่ที่ 6 ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว

การซื้อขายที่ดินลักษณะนี้มีกันทั่วไป โดยเฉพาะในเขตปฏิรูปที่ดิน ทั้งได้รับหนังสือแสดงสิทธิทำกินแล้วคือ ส.ป.ก.4-01 และที่ยังไม่ได้รับ (ที่ดินประเภทนี้สร้างปัญหาให้ ส.ป.ก. มาก จะแจกเอกสาร 4-01 ก็ไม่มีคนมารับเพราะขายไปแล้ว) มีอยู่ทุกเขตพื้นที่ปฏิรูปรวมทั้งในเขตอำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งเป็นข่าวฮือฮาเมื่อสิบปีก่อน เพราะพบว่าคนใหญ่โตในบ้านเมืองมีที่ดินและคฤหาสน์หลังงาม

ที่จริงเป็นความน่ารักของสังคมไทย คนที่จ่ายเงินไปเป็นล้านแต่ไม่มีชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ก็ยินดี แถมน่ารักยังให้คนขายอาศัยทำกินและเฝ้าที่ดินให้ด้วยเวลาไปถามผู้ที่อยู่อาศัยก็ตอบซื่อๆ ว่า "ไม่ใช่ที่ดินของผม ผมขายไปแล้ว แต่คนซื้อยังให้ผมอาศัยอยู่" อย่างนี้ก็มี

ปัญหาของบ้านบนเขายายเที่ยงจะหาทางออกอย่างไร ทีแรกที่ผู้เขียนคิดไว้ คือ ถ้าเป็นที่ป่าสงวนก็ให้เจ้าของบ้านขอใช้ประโยชน์ที่ดินจากกรมป่าไม้โดยจ่ายค่าเช่าเป็นไร่ต่อปี ดูเหมือนจะไม่เกินไร่ละ 30 บาท มีคนที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง โดยเสียค่าเช่า และอยู่เฉยๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตอีกมากเกือบล้านไร่ตั้งแต่ที่ทำกินและทำรีสอร์ทในจังหวัดภาคเหนือ อำเภอมวกเหล็กปากช่องก็มีกันทั้งนั้น ขออนุญาตให้ถูกต้องจะแจ้งว่าเพื่อปลูกสวนป่าก็น่าจะได้ ทำย้อนหลังก็น่าจะรับได้ เพราะเป็นการหลงลืมโดยสุจริต

ทีดินบนเขายายเที่ยงก็หมดปัญหาไปเพราะมิใช่เป็นที่ป่าสงวน แต่เป็นที่ดินอนุญาตภายใต้โครงการ ส.ท.ก. เจ้าของขายไปแล้ว ก็เป็นเรื่องของเจ้าของเดิม ซึ่งต้องให้ทายาทของพระภิกษุเบ้าเป็นคนจัดการ แต่เจ้าของบ้านคนปัจจุบันไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ แต่ไม่เป็นไร เพราะท่านมีบ้านเพื่อหาความวิเวก เพื่อชมวิวลำตะคองและอำเภอปากช่อง

โล่งใจแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าจะรื้อระบบ ส.ท.ก.ก็เป็นเรื่องใหญ่อาจจะถึงขั้นย้ายกรมป่าไม้อีกก็ได้ เพราะโครงการนี้มีอยู่ทุกจังหวัดรวมทั้งที่ผู้เขียน (พอจะจำได้) มีที่เขาไม้แก้ว จังหวัดชลบุรี ผู้ที่ครอบครองก็เป็นนายทหารระดับบิ๊กเหมือนกัน แถมมีตู้รถไฟเสียด้วยจะบอกให้

หน้า 6<


http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act03010150&day=2007/01/01
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #82 เมื่อ: 01-01-2007, 10:03 »

ว่าไงจ๊ะ นายชอบแถ กับพวกลิ่วล้อทุยรักทุย เฮอะ ๆ ๆ 
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #83 เมื่อ: 01-01-2007, 11:06 »

ในที่สุด ความจริงก็กระจ่างสักที ... 
บันทึกการเข้า

เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #84 เมื่อ: 01-01-2007, 12:59 »


รออ่านว่าจะแถต่อไปยังไง

อ่านๆ ไป ก็ขำขำดีค่ะ
 
บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
หน้า: 1 [2]
    กระโดดไป: