ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 20:40
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  มาช่วยชาติกันด้วยการขายๆ เงินบาทออกไปให้หมดดีกว่านะ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
มาช่วยชาติกันด้วยการขายๆ เงินบาทออกไปให้หมดดีกว่านะ  (อ่าน 2164 ครั้ง)
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« เมื่อ: 16-12-2006, 09:55 »

ต่างชาติเค้ามองเห็นจริยธรรม คุณธรรม ของรัฐบาลชุดนี้อย่างมาก เลยช่วยมาเก็บเงินบาท
ที่ชาวไทยมองว่าเป็นปีศาจใช้หว่านหลอกรากหญ้าเรื่อยมา เมืองไทยจะได้มีเงินบาทน้อยลง
ชาวบ้านชาวช่องมองเห็นจริยธรรมมากขึ้น แล้วจะอยู่ได้แบบพอเพียงไม่ต้องใช้เงินแล้ว เอา
จริยธรรมมาแลกอาหารกิน ถูกใจรัฐบาลเป็นยิ่งนัก จนเงินบาทแข็งโด่ไปอยู่ระดับ 35 บาท
แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านฝรั่งไม่ใช่พ่อใช่แม่แกจะเบื่อเงินบาทเมื่อไหร่ เกิดแกมองเห็นว่าเป็นปีศาจเหมือน
ชาวไทยมั่ง ดันเอามาขายคืนแล้วเราไม่ซื้อมันก็ใช่ที่จะทำให้เงินเราเป็นบาทกงเต็ก อย่ากระนั้น
เลยเพื่อป้องกันปากท้องของตัวท่านเอง ขอให้ท่านรีบเอาจริยธรรมใส่หัวให้มากที่สุด แล้วก็รีบ
ช่วยรัฐบาลหอยจริยธรรมนี้เอาเงินบาทของท่านไปขายแลกดอลล่าห์หรือทองกลับมา เพื่อให้
เงินบาทรีบๆ หมดไปจากประเทศ ตอนนั้นถึงท่านฝรั่งจะเบื่อเอามาขายคืนเราก็ไม่สนใจแล้ว
เพราะพออยู่พอกินอยู่ได้ด้วยการกินจริยธรรมต่างข้าว และยังมีดอลล่าห์เก็บไว้ซื้อนาฬิกาสวิส
กับตุ้มหูเพชรได้ ช่วยๆ กันนะพวกเรา
บันทึกการเข้า
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #1 เมื่อ: 16-12-2006, 10:51 »

ชอบแถอย่าลืมกินข้าวเช้านะจะได้ฉลาดๆ
เจ้านายเอ็งหนะจะติดคุกอยู่แล้ว เมียลูกก็โดน เอ็งยังจะขุดอะไรมาชมมันอีกวะ?
ตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่ กระนะกระแหนชาวบ้านเค้า สันดาน
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 16-12-2006, 11:23 »

เงินบาทกระจุยไปอยู่ในมือต่างชาติตั้งแต่สมัยไอ้เหลี่ยมคุยโม้ว่า ทุนสำรองโตเท่าโน้นเท่านี้เป็นประวัติการณ์ จำได้หรือเปล่า?? ที่มันไปคุยโม้ออกทีวีสดช่อง 7 ข้างๆมีนายอำพน กับนายคมทวยอะ

จริงๆแล้ว ทุนสำรองจะลดหรือเพิ่มไม่ได้เกี่ยวกับไอ้เหลี่ยมหรือพล.อ.สุรยุทธ์เลย แต่อยู่ที่แบงก์ชาติทั้งนั้น ยังมีหน้ามาแถอีก หน้าไม่อายเล้ยยย
บันทึกการเข้า

55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #3 เมื่อ: 16-12-2006, 12:28 »

เขียนอย่างนี้ไม่เหมือนกับชอบแถ ที่ผมเคยอ่าน ........มันเหมือนกับพวกตั้งกระทู้แล้วหนียังไงพิกล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2006, 13:02 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 16-12-2006, 12:34 »

เค้าคงกำลังเตะประตูเข้าโกลล์ตัวเองอยู่น่ะครับ
ถามจริง ไปลอกความคิดใครมาเนี่ย เรื่องกักตุนดอลลาร์ กับการขายเงินบาทเนี่ย
บันทึกการเข้า

A-NOY
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 546


« ตอบ #5 เมื่อ: 16-12-2006, 13:55 »

ต่างชาติเค้ามองเห็นจริยธรรม คุณธรรม ของรัฐบาลชุดนี้อย่างมาก เลยช่วยมาเก็บเงินบาท
ที่ชาวไทยมองว่าเป็นปีศาจใช้หว่านหลอกรากหญ้าเรื่อยมา เมืองไทยจะได้มีเงินบาทน้อยลง
ชาวบ้านชาวช่องมองเห็นจริยธรรมมากขึ้น แล้วจะอยู่ได้แบบพอเพียงไม่ต้องใช้เงินแล้ว เอา
จริยธรรมมาแลกอาหารกิน ถูกใจรัฐบาลเป็นยิ่งนัก จนเงินบาทแข็งโด่ไปอยู่ระดับ 35 บาท
แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านฝรั่งไม่ใช่พ่อใช่แม่แกจะเบื่อเงินบาทเมื่อไหร่ เกิดแกมองเห็นว่าเป็นปีศาจเหมือน
ชาวไทยมั่ง ดันเอามาขายคืนแล้วเราไม่ซื้อมันก็ใช่ที่จะทำให้เงินเราเป็นบาทกงเต็ก อย่ากระนั้น
เลยเพื่อป้องกันปากท้องของตัวท่านเอง ขอให้ท่านรีบเอาจริยธรรมใส่หัวให้มากที่สุด แล้วก็รีบ
ช่วยรัฐบาลหอยจริยธรรมนี้เอาเงินบาทของท่านไปขายแลกดอลล่าห์หรือทองกลับมา เพื่อให้
เงินบาทรีบๆ หมดไปจากประเทศ ตอนนั้นถึงท่านฝรั่งจะเบื่อเอามาขายคืนเราก็ไม่สนใจแล้ว
เพราะพออยู่พอกินอยู่ได้ด้วยการกินจริยธรรมต่างข้าว และยังมีดอลล่าห์เก็บไว้ซื้อนาฬิกาสวิส
กับตุ้มหูเพชรได้ ช่วยๆ กันนะพวกเรา
ค่าเงินบาทแข็งอย่างนี้มันจะเป็นแบ็งค์กงเต็กได้ไงวะ งงว่ะ
บันทึกการเข้า

A-NOY
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #6 เมื่อ: 16-12-2006, 21:19 »

ต่างชาติเค้ามองเห็นจริยธรรม คุณธรรม ของรัฐบาลชุดนี้อย่างมาก เลยช่วยมาเก็บเงินบาท
ที่ชาวไทยมองว่าเป็นปีศาจใช้หว่านหลอกรากหญ้าเรื่อยมา เมืองไทยจะได้มีเงินบาทน้อยลง
ชาวบ้านชาวช่องมองเห็นจริยธรรมมากขึ้น แล้วจะอยู่ได้แบบพอเพียงไม่ต้องใช้เงินแล้ว เอา
จริยธรรมมาแลกอาหารกิน ถูกใจรัฐบาลเป็นยิ่งนัก จนเงินบาทแข็งโด่ไปอยู่ระดับ 35 บาท
แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านฝรั่งไม่ใช่พ่อใช่แม่แกจะเบื่อเงินบาทเมื่อไหร่ เกิดแกมองเห็นว่าเป็นปีศาจเหมือน
ชาวไทยมั่ง ดันเอามาขายคืนแล้วเราไม่ซื้อมันก็ใช่ที่จะทำให้เงินเราเป็นบาทกงเต็ก อย่ากระนั้น
เลยเพื่อป้องกันปากท้องของตัวท่านเอง ขอให้ท่านรีบเอาจริยธรรมใส่หัวให้มากที่สุด แล้วก็รีบ
ช่วยรัฐบาลหอยจริยธรรมนี้เอาเงินบาทของท่านไปขายแลกดอลล่าห์หรือทองกลับมา เพื่อให้
เงินบาทรีบๆ หมดไปจากประเทศ ตอนนั้นถึงท่านฝรั่งจะเบื่อเอามาขายคืนเราก็ไม่สนใจแล้ว
เพราะพออยู่พอกินอยู่ได้ด้วยการกินจริยธรรมต่างข้าว และยังมีดอลล่าห์เก็บไว้ซื้อนาฬิกาสวิส
กับตุ้มหูเพชรได้ ช่วยๆ กันนะพวกเรา
ค่าเงินบาทแข็งอย่างนี้มันจะเป็นแบ็งค์กงเต็กได้ไงวะ งงว่ะ

อ่านให้เข้าใจซะหน่อยสิ จะได้ไม่ต้องอธิบาย ถ้าฝรั่งเอาเงินบาทมาขายคืน
แล้วเราไม่มีปัญญาจะซื้อ มันก็จะเป็นของราคาถูกไง

เขียนอย่างนี้ไม่เหมือนกับชอบแถ ที่ผมเคยอ่าน ........มันเหมือนกับพวกตั้งกระทู้แล้วหนียังไงพิกล

บอร์ดมันผีสิงนี่ครับ เข้ามาก็ต้องรีบหนี

เค้าคงกำลังเตะประตูเข้าโกลล์ตัวเองอยู่น่ะครับ
ถามจริง ไปลอกความคิดใครมาเนี่ย เรื่องกักตุนดอลลาร์ กับการขายเงินบาทเนี่ย

มาเตือนให้นะด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่ง มีดอลลาร์ไว้มันอุ่นใจ เงินบาทมันมีอะไรดีถึงได้แพงอย่างงี้
ถ้าแพงระดับสามสิบสองบาทแล้วกลัวจะหาซื้อดอลลาร์ไม่ทันนะ (ก่อนที่มันจะกลับข้าง)
บันทึกการเข้า
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #7 เมื่อ: 16-12-2006, 22:05 »

น้าแถนี่ก็มาแปลกนะวันนี้ สงสัยเวลาไปซื้อโอเลี้ยงปากซอย ใช้เงิน USD ไปซื้อ

แล้วเค้าทอนให้เป็นเงิน SGD แหงมๆเลย อิ อิ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ลับ ลวง พราง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 945



« ตอบ #8 เมื่อ: 16-12-2006, 22:38 »

ไม่ต้องกังวลไปครับ ป่านนี้ไอ้แม้วมันจัดการ พอร์ตมันเรียบร้อยแล้วครับ หมูเข้าปาก ห-มา อย่างนี้ ไอ้แม้วไม่พลาดหรอกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2006, 22:41 โดย อำพรางฯ » บันทึกการเข้า

"คนฟุ่มเฟือย แม้จะรวยก็มักขัดสน คนประหยัด แม้จะจนก็มักมีเหลือเก็บ"
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #9 เมื่อ: 16-12-2006, 22:58 »

เค้าคงกำลังเตะประตูเข้าโกลล์ตัวเองอยู่น่ะครับ

พูดเรื่องไรเนี่ย     
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #10 เมื่อ: 17-12-2006, 07:28 »

Attacking Money โจมตีค่าเงิน เขาทำกันอย่างไร

http://www.storydd.com/knowledge/view.asp?id=15
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #11 เมื่อ: 17-12-2006, 07:33 »

บันทึกการเข้า
ซารุโทบิ ซาสุเกะ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 72


ผู้ตื่นในยามที่ผู้คนหลับไหล


« ตอบ #12 เมื่อ: 17-12-2006, 07:36 »

เรื่องนี้เราควรฟังชอบแถไว้บ้างก็ดีนะครับ เพราะในอดีตเคยมี เฮี้ย บางตัวรวยด้วยวิธีนี้มาแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2006, 07:38 โดย ซารุโทบิ ซาสุเกะ » บันทึกการเข้า

ชิโนบิโนะโมโนะ โดยเขียนในคันจิว่า 忍者 โดยตัวอักษรแรก 忍 (นิน) หมายถึง "คงทน" โดยในภายหลังคำนี้ได้มีความหมายเพิ่มเติมหมายถึง "การซ่อนตัว" และ "การขโมย" โดยตัวอักษรที่สอง 者 (จา) หมายถึง "บุคคล" นอกจากนี้ได้มีภาษาจีนได้กล่าวถึงนินจาว่า 林鬼 (หลินกุ้ย) ซึ่งหมายถึง ปีศาจในป่า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #13 เมื่อ: 17-12-2006, 15:58 »

มันก็แข็งขึ้น เกืิอบทั้งภูมิภาค ไม่ใช่เหรอ ???

ยูโร ก็แข็งขึ้น ถ้าเทียบกะ USD

เยน ด้วย

แถ..โง่ๆ อีกแว้ววว คนเรา
บันทึกการเข้า
stromman
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 526



« ตอบ #14 เมื่อ: 17-12-2006, 16:10 »

แถสมชื่อคับ เดี๋ยวไม่รู้ว่าตัวจริง 
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #15 เมื่อ: 17-12-2006, 18:59 »

มันก็แข็งขึ้น เกืิอบทั้งภูมิภาค ไม่ใช่เหรอ ???

ยูโร ก็แข็งขึ้น ถ้าเทียบกะ USD

เยน ด้วย

แถ..โง่ๆ อีกแว้ววว คนเรา

อ้อ รู้จักแค่คำว่า แข็ง อย่างเดียว ไม่รู้จักคำว่า แข็งมาก ซะแล้ว
โด่ไม่รู้ล้ม รู้จักหรือเปล่าน้อง ว่างๆ ก็หัดเทียบ % ซะมั่งว่ามัน
แข็งกว่าชาวบ้านเค้าแค่ไหนแล้ว อย่าโชว์โง่ขอร้อง
บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #16 เมื่อ: 17-12-2006, 19:20 »

ไอ้แข็งกว่า ชาวบ้าน หน่ะ ทำไมเหรอ ...

อ่อนกว่าชาวบ้านได้

แล้วแข็งกว่าชาวบ้านไม่ได้หรือไง

พี่นั่นแหละชอบโชว์โง่ ประจำ

เรื่องการป้องกัน มันหน้าที่ของ ธ.ชาติ อยู่แล้วพี่ไม่ต้องแสดงความเห็นแบบเสร่อๆ แบบนี้หรอก

------------------------------------------------------------------------------------------------
นึกว่าจะโชว์วิสัยทัศน์การป้องกัน ที่แท้แถ โชว์โง่ นี่เอง

กำพืดไม่เคยเปลี่ยนเล้ยยย ไอ้แถ.
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #17 เมื่อ: 17-12-2006, 21:38 »

ไอ้แข็งกว่า ชาวบ้าน หน่ะ ทำไมเหรอ ...

อ่อนกว่าชาวบ้านได้

แล้วแข็งกว่าชาวบ้านไม่ได้หรือไง

พี่นั่นแหละชอบโชว์โง่ ประจำ

เรื่องการป้องกัน มันหน้าที่ของ ธ.ชาติ อยู่แล้วพี่ไม่ต้องแสดงความเห็นแบบเสร่อๆ แบบนี้หรอก

------------------------------------------------------------------------------------------------
นึกว่าจะโชว์วิสัยทัศน์การป้องกัน ที่แท้แถ โชว์โง่ นี่เอง

กำพืดไม่เคยเปลี่ยนเล้ยยย ไอ้แถ.

เถียงไปเหมือนปั่นกระทู้ตัวเอง ประเทศไทยมันมีดีตรงไหนเหรอตอนนี้ค่าเงินมันถึงได้แข็งขึ้นกว่าชาวบ้านเค้าได้
แข็งตามจริยธรรมคุณธรรมหรือไง ธปท จะป้องกันอย่างปี 40 หรือเปล่า ลำพัง ธปท ไม่มีปัญญาหรอกไอ้น้อง
มันต้องเป็นนโยบายของรัฐบาลต่างหาก ธปท มาป้องกันเอาปลายเหตุแล้ว หัดอ่านประวัติศาสตร์ใกล้ๆ ที่ผ่าน
มาซะบ้างจะได้เลิกซื่อบื้อเถียงไม่เลิกแบบนี้ จะป้องกันตัวเองก็บอกแต่ต้นแล้วไงให้ซื้อดอลล่าร์เก็บไว้มั่ง แต่
สำหรับประเทศก็ตัวใครตัวมันหละคร้าบ
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 17-12-2006, 21:47 »

ท่าทางแถจะสะใจมากๆเลย ที่มีโอกาสจะได้ซ้ำเติมชาติบ้านเมืองให้แย่ลงไปกว่าเดิม ป้ายขี้ให้คนอื่นอีก

ถ้าเจ้านายแถติดคุกเมื่อไหร่ ผมจะช่วยซับน้ำตาให้นะครับ
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 17-12-2006, 23:34 »

เรื่องนี้เราควรฟังชอบแถไว้บ้างก็ดีนะครับ เพราะในอดีตเคยมี เฮี้ย บางตัวรวยด้วยวิธีนี้มาแล้ว

เฮี้ยตัวนั้น ใช่ที่หน้าเหลี่ยมๆ ที่เวลานี้เร่ร่อนไปทั่ว เดี๋ยวลั้นดั้น เดี๋ยวปักกิ่งหรือเปล่าครับ  Question Mr. Green
บันทึกการเข้า

so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #20 เมื่อ: 18-12-2006, 00:34 »

มีนแข็งจาก 42 ลงมา 37 ตั้งแต่สมัยไอ้เหลี่ยมเป็นนายกแล้วหละครับ คุณแถ

สงสัยเที่ยวนี้ผมจะมีเงินออกรถใหม่อีกแล้ว    Mr. Green Laughing Mr. Green
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #21 เมื่อ: 18-12-2006, 09:05 »

มีนแข็งจาก 42 ลงมา 37 ตั้งแต่สมัยไอ้เหลี่ยมเป็นนายกแล้วหละครับ คุณแถ

สงสัยเที่ยวนี้ผมจะมีเงินออกรถใหม่อีกแล้ว    Mr. Green Laughing Mr. Green
ตอนนั้นประเทศมีคุณค่า เงินบาทก็มีราคา ตอนนี้มีอะไรที่ไหน ละเมอเพ้อพกกันอยู่ได้ว่าเศรษฐกิจดี
เงินบาทเลยแข็ง เพราะต่างชาติแห่ขนเงินเข้ามาลงทุน อยากออกรถอะไรก็ออกไปเหอะครับ เอา
ยี่ห้อดีๆ หน่อยนะ ถ้ามันเน่าจริงฝากเบอร์ไว้ได้ ใช้ถนอมๆ หน่อยแล้วกัน ผมกดราคานะ เหอ เหอ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #22 เมื่อ: 18-12-2006, 09:18 »

ประเด็นก็คือ การแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบทำให้การส่งออกของไทยทำได้ลำบากขึ้น และท้ายสุดมูลค่าการส่งออกก็น้อยลง ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ก็คงต้องรอดูฝีมือการแก้ปัญหาของรัฐบาลขิงแก่ท่านดูว่าจะแน่แค่ไหน แต่ขอดักคอไว้ก่อนว่ากรุณาอย่าโบ้ยว่าเป็นผลงานของอดีตรัฐบาลทักษิณเลยล่ะกัน เพราะสมัยทักษิณ..ไม่เห็นคนบ่นหรือกลัวเรื่องการแข็งค่าของบาทเลย โดยเฉพาะแบงค์ชาติของหม่อมอุ๋ยก็ชิลๆ  แต่พอตอนนี้เห็นบอกว่าจะเข้าไปแทรกแซงตลาด


คนดีชอบแก้ไข คนอะไรชอบแก้ตัว!?!
บันทึกการเข้า
A-NOY
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 546


« ตอบ #23 เมื่อ: 18-12-2006, 21:16 »

ประเด็นก็คือ การแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบทำให้การส่งออกของไทยทำได้ลำบากขึ้น และท้ายสุดมูลค่าการส่งออกก็น้อยลง ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ก็คงต้องรอดูฝีมือการแก้ปัญหาของรัฐบาลขิงแก่ท่านดูว่าจะแน่แค่ไหน แต่ขอดักคอไว้ก่อนว่ากรุณาอย่าโบ้ยว่าเป็นผลงานของอดีตรัฐบาลทักษิณเลยล่ะกัน เพราะสมัยทักษิณ..ไม่เห็นคนบ่นหรือกลัวเรื่องการแข็งค่าของบาทเลย โดยเฉพาะแบงค์ชาติของหม่อมอุ๋ยก็ชิลๆ  แต่พอตอนนี้เห็นบอกว่าจะเข้าไปแทรกแซงตลาด


คนดีชอบแก้ไข คนอะไรชอบแก้ตัว!?!
ไอ้คนที่กลัวก็เห็นมีแต่ลูกกะโปขกไอ้เหลี่ยมทั้งนั้นแหละว้า
บันทึกการเข้า

A-NOY
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #24 เมื่อ: 18-12-2006, 22:24 »

....
ตอนนั้นประเทศมีคุณค่า เงินบาทก็มีราคา ตอนนี้มีอะไรที่ไหน ละเมอเพ้อพกกันอยู่ได้ว่าเศรษฐกิจดี
เงินบาทเลยแข็ง เพราะต่างชาติแห่ขนเงินเข้ามาลงทุน อยากออกรถอะไรก็ออกไปเหอะครับ เอา
ยี่ห้อดีๆ หน่อยนะ ถ้ามันเน่าจริงฝากเบอร์ไว้ได้ ใช้ถนอมๆ หน่อยแล้วกัน ผมกดราคานะ เหอ เหอ

....

ประเทศมีคุณค่าแบบไหนครับ
แบบที่มีนายกโคตรรวยแต่ทั้งด้านทั้งหนาทั้งซุกหุ้นทั้งหลบเลี่ยงภาษีเหรอ คุณแถ   Mr. Green Laughing Mr. Green

เรื่องรถไม่ต้องห่วง ผมซื้อเงินสดตลอดไฟแนนซ์ไม่เคยได้แดรกดอกเบี้ยผมหรอก
ถ้าจะขายก็คือเปลี่ยนใหม่ ชีวิตนี้ไม่เคยจนตรอกขนาดขายทิ้งเพราะผ่อนไม่ไหวหรอก
ถ้าแถอยากได้ต้องรอนานหน่อยนะ เพราะใช้จนคุ้มแล้วถึงจะขายทิ้งซื้อใหม่ 

                                         
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #25 เมื่อ: 19-12-2006, 09:04 »

แบงก์โวยอัดยาแรงเกินขนาด ผวาหุ้นป่วน! ธปท. สั่งกันสำรองสกัดเก็งค่าบาท [ไทยรัฐ 19 ธ.ค. 49 - 04:38]
 
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดแถลงข่าวเมื่อเวลา 16.30 น. ถึงมาตรการดูแลเงินระยะสั้นเพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทและลดความผันผวนของค่าเงินบาทเกินพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ ว่า ภายหลังที่ ธปท.ได้ออกมาตรการดูแลเงินทุนระยะสั้นจากต่างประเทศไปก่อนหน้านี้ แต่ยังคงมีเงินทุนระยะสั้นไหลเข้ามาเก็งกำไรต่อเนื่อง โดยในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมามีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าในประเทศสูงถึง 950 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อสัปดาห์ (ประมาณ 33,250 ล้านบาท) จากเดือน พ.ย.ที่มีเงินทุนไหลเข้าสัปดาห์ละ 300 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 10,500 ล้านบาท)

ดังนั้น ธปท.จึงเห็นควรมีมาตรการเพิ่มเติม โดยให้สถาบันการเงินที่รับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาทจะต้องกันเงินตราต่างประเทศที่มาแลกไว้เป็นเงินสำรอง 30% ของวงเงินที่ลูกค้านำมาแลก เช่น หากลูกค้านำเงินมาแลก 100 เหรียญฯ จะต้องเก็บไว้ก่อน 30% หรือ 30 เหรียญฯ ที่เหลือ 70 เหรียญ แลกเป็นเงินบาทให้กับลูกค้าได้และนำเงินมัดจำทั้งหมดที่ได้รับส่งมอบต่อให้ ธปท.เป็นรายเดือน

ทั้งนี้ ลูกค้าจะขอเงินที่มัดจำไว้คืนได้ต่อเมื่อเงินตราต่างประเทศที่นำเข้ามาลงทุนอยู่ในประเทศไทยครบ 1 ปี นับตั้งแต่วันกันสำรองโดยลูกค้าจะต้องแสดงเอกสารหลักฐานให้ชัดเจนว่าเงินที่นำมาลงทุนมีอายุไม่น้อยกว่า 1 ปี เมื่อสถาบันการเงินพิสูจน์ว่าเป็นความจริง ให้แจ้ง ธปท.เพื่อคืนเงินมัดจำ 30% ดังกล่าวให้กับลูกค้าต่อไป แต่ หากลูกค้าลงทุนระยะสั้นไม่ถึง 1 ปี แต่ต้องการที่จะนำเงินตราต่างประเทศออกจากประเทศก่อนกำหนดจะได้รับเงินมัดจำเพียง 2 ใน 3 ของเงินที่กันสำรองไว้ หรือได้คืน 90% ของเงินทุนที่เข้ามา ธปท.จะหักเงินเก็บไว้ 10%
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #26 เมื่อ: 19-12-2006, 09:21 »

ท่าทางจะเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติเศรษฐกิจไทยซะแล้วงานนี้....ยินดีกับรัฐบาลขิงแก่จริงๆที่ได้รับฉันทานุมัติจากปชช.ทั่วประเทศให้เข้ามารับเกียรติ์แก้ไขปัญหา Big Bang ดังกล่าว ณ ขณะนี้


'จารน์จ๊ะ' ปลื้มจนน้ำตาไหลพรากเชียว
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #27 เมื่อ: 19-12-2006, 09:27 »

ไปซื้อดอลล่าร์ช่วยชาติกันเถอะ จารย์จ๊ะ 
บันทึกการเข้า
Nepal
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 16


ประชาธิปไตยมีภาษาเดียว พูดคุยได้ทั่วโลก


« ตอบ #28 เมื่อ: 19-12-2006, 09:35 »

  อารายยย  ไม่มีใครมีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์เลยหรือ ค่ะ

 ผิดหวังจัง  มีแต่แย้งเค้า เยาะเย้ย ถากถาง เท่านั้นเองหรือค่ะ

 ทำไม ไม่เอาข้อมูล ภูมิความรู้มาแย้งประเด็ดที่เค้าหามาละ
 
 หรือถ้าไม่รู้ ก็ต้องยอมรับว่าไม่รู้ แล้วรีบหาความรู้เรื่องนั้นๆมาเสริม

 ข้อมูลที่เจ้าของกระทู้ให้มาดีมาก ควรพิจารณาดูด้วย

 ถ้ารู้ทันก็จะรู้ทางรวยได้ รวยด้วยวิธีนี่ไม่น่าเกลียด ขอให้เป็นคนไทยรวย

 เพราะต่างชาติรวย มันโกยหนีไปบ้านมัน เงินเราก็หายต๋อม เศรษฐกิจพัง

 บางที ความเห็นต่างก็จริง แค่เรื่องพรรคการเมือง ก็ไม่น่าจะสูญเสียความรักชาติ

 หรือเห็นขัดไปซะทุกเรื่อง อย่างไรก็คนไทย ต่างชาติเห็นช่องสบโอกาส กอบโกย

 กำลังจะทุบค่าเงินบาท  แต่คนไทยมั่วทะเลาะกัน ไม่หันมาป้องกัน จะดีหรือ

การช้อนซื้อดอนล่าร์ สำหรับไว้ คนละเล็กคนละน้อย ก็สามารถช่วยดึงไว้ได้เหมือนกัน

แต่ต้องร่วมมือกันค่ะ  หวังคนกลุ่มเดียวที่บริหารประเทศไม่ได้ ย้ำว่าต้องช่วยกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2006, 10:31 โดย Nepal » บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #29 เมื่อ: 19-12-2006, 09:40 »


  อารายยย  ไม่มีใครมีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์เลยหรือ ค่ะ

 ผิดหวังจัง  มีแต่แย้งเค้า เยาะเย้ย ถากถาง เท่านั้นเองหรือค่ะ

 ทำไม ไม่เอาข้อมูล ภูมิความรู้มาแย้งประเด็ดที่เค้าหามาละ

 บางที ความเห็นต่างก็จริง แค่เรื่องพรรคการเมือง ก็ไม่น่าจะสูญเสีย

 ไปซะทุกเรื่อง อย่างไรก็คนไทย ต่างชาติเห็นช่องสบโอกาส กอบโกย

 กำลังจะทุบค่าเงินบาท  แต่คนไทยมั่วทะเลาะกัน ไม่หันมาป้องกัน จะดีหรือ

การช้อนซื้อดอนล่าร์ สำหรับไว้ คนละเล็กคนละน้อย ก็สามารถช่วยดึงไว้ได้เหมือนกัน

แต่ต้องร่วมมือกันค่ะ  หวังคนกลุ่มเดียวที่บริหารประเทศไม่ได้ ย้ำว่าต้องช่วยกัน
ผู้หญิงเหรอเนี่ย ชื่อแบบนี้คงไม่อยู่หลังเขานะ เอ แต่อยู่ข้างบนเค้าก็เรียกหลังได้เหมือนกัน

ก็เข้าใจถูกแล้วนี่ ซื้อดอลลาร์ช่วยชาติ เอาไว้ขายตอนที่ค่าเงินมันแข็งขึ้นไปอีก หลายๆ มือ

ก็พอจะช่วยได้นิดหน่อย เหมือนเอาขันวิดน้ำท่วม แต่ถ้ารอเวลาหลังจากเค้าโจมตีเสร็จกิจ

แล้วมันก็เปลี่ยนเป็นช่วยกระเป๋าตัวเองแทน เพราะตอนนั้นจะได้กำไรสบายใจเฉิบ รายละเอียด

คนในนี้มันรู้กันอยู่แล้วหละ แกล้งโง่เอาชนะไปวันๆ เอง
บันทึกการเข้า
Nepal
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 16


ประชาธิปไตยมีภาษาเดียว พูดคุยได้ทั่วโลก


« ตอบ #30 เมื่อ: 19-12-2006, 09:59 »

รัฐบาลนี้ไล่ทุบความเชื่อมั่นของประเทศไทยต่อสายตานักลงทุน แทบจะทุกส่วน...เล่นเอาต่างชาติเริ่มงงแล้วครับว่า สิ่งที่รัฐบาล คมช. เดินสายไปต่างประเทศเพื่อแสดงความเชื่อมั่นกับนักลงทุน เรียกทูตมาอธิบาย แต่ในทางกลับกันภายในประเทศกลับมีพฤติกรรมไล่ทุบ ทำลายความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนหลายด้าน...

เริ่มจากเรื่องกรณี คำอธิบายเรื่อง นอมินี ที่ตอนนี้ก็เงียบหายไป..เหมือนทำท่าว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่การหลอกด่าเพื่อล้มรัฐบาลทักษิณ...จากเรื่องกุหลาบแก้ว..จนท้ายที่สุดแล้ว นักลงทุนยังไม่ได้คำตอบว่า ตกลงกฎหมายไทย เรื่องการลงทุนของต่างชาติในประเทศไทย ตามนโยบาย แล้วมาไล่ทุบเขาด้วยข้อหานอมินี..จะเอาอย่างไรกันแน่...

อีกเรื่องก็คือกระแสยึดคืน ถอนคืนกิจการของรัฐที่แปรรูปเป็นบริษัทมหาชน แล้วเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ที่สื่อแนวร่วม คมช. ประโคมข่าวเพื่อเอาคืน ยื่นเรื่องให้ศาลปกครองถอดถอนอีรุงตุงนังออกจากตลาดหลักทรัพย์...ไม่ว่าจะเป็น ปตท. หรือ อสมท. ที่กำลังเป็นคดีอยู่ในศาลเวลานี้ ที่จะเอาออกจากตลาดให้ได้...ต่างชาติงงครับ..แล้วเงินทุนที่ลงในหุ้นของ ปตท. มันจะทำอย่างไร...การออกข่าวมากลายเป็นทุบราคาหุ้นให้ต่ำ.. ผลก็คือรัฐนั่นแหละที่เสียหายเพราะมูลค่าหุ้นส่วนใหญ่รัฐถือทั้งนั้นมันด้อยค่าลงทัน
ที...แล้วไม่แน่นอนว่าจะเอาอย่างไร อ้างว่าให้เป็นไปตามกฎหมาย..ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของบริษัทนั้นๆเอง แล้วยังส่งผลให้ตลาดทุนของประเทศไทยขาดความเชื่อมั่น...

เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันกับตลาดทุน คือเรื่องภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ที่คนระดับ คมช. คุมประเทศใครก็รู้อำนาจอยู่กับคนกลุ่มนี้ ออกมาย้ำว่าขายหุ้นไม่เสียภาษี ผิดกฎหมาย...ยิ่งไปกันใหญ่...นั่นมันกำลังทุบลงไปตรงๆบนตลาดหลักทรัพย์..นักลงทุนงงตกใจกับเรื่องนี้..ตกลงเอ็งจะเอาอย่างไร...นี่มันเร่งเร้าให้เขาถอนตัวเร็วขึ้น... กระตุ้นให้ค่าเงินบาทตกกระแทกอย่างแรงในเวลารวดเร็วหากยังพูดซ้ำซากโดยไม่ให้คำตอบว่
าเอ็งจะเอาอย่างไร...ในเมื่อกฎหมายมันยกเว้นไว้..กับการขนเงินของนักลงทุนมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย...ดัชนีมันถึงไม่ไปไหน..ในเวลานี้..รอจังหวะร่วง..

ยังไม่ทันสิ้นความดีมาตอกย้ำทุบความเชื่อมั่นกับชาวต่างชาติให้มั่นใจขึ้นว่า..รัฐบาลไทยทำตามกฎหมาย...ด้วยการตัดสินของศาลปกครองกรณีไอทีวี ทั้งที่มันเป็นเรื่องของคู่สัญญาต้องไปตกลงหาทางแก้สัญญาให้ปฏิบัติจริงได้..เพราะสัญญามันขูดรีดเอากับสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ แล้วผลออกมาตะแบง บิดเบือนคำพิพากษาของศาล ไปเสนอในทำนองว่าศาลเห็นด้วยและตัดสินให้ สปน. ต้องจ่ายค่าปรับตามสัญญาอัปยศ จ่ายไม่ได้ให้ฟ้องล้มละลาย ยึดทรัพย์สินทั้งหมด...ดูมันขย่มกันเข้า..กับนักลงทุนทั้งที่ไอทีวีเป็นธุรกิจเอกชนล้วนๆที่ขอสัญญาสัมปทานมา..ไม่ใช่รัฐสร้างขึ้นมาให้เขาเช่า...ที่มันเกินกว่าจะปฏิบัติได้กับค่าสัมปทานปีละ ๑ พันล้าน ในขณะที่ค่าปรับวันละ ๑๐๐ ล้าน...มันบ้าสิ้นดี..สัญญาแบบนี้มันเปรียบไม่ได้เลยกับคู่แข่งอย่างช่องอื่นๆ มันแข่งขันด้วยไม่ได้บนสัญญาแบบนี้..
เช่นเดียวกับสัญญาโทรคมนาคมที่อ้างว่าไม่เป็นธรรม คู่แข่งได้เปรียบ..กรณีไอทีวียิ่งแล้วใหญ่..เมื่อเทียบค่าสัมปทานกับช่องอื่นๆซึ่งนำตลาด ที่เขาจ่ายสัมปทานให้รัฐ...ไม่ได้มากมายขนาดนี้

ผลกระทบของไอทีวี แล้วมามีการบิดคำพิพากษาศาลไปตามกระแสยึดทรัพย์ ส่งผลให้นักลงทุนงงกับระบบกฎหมายไทย ระบบอนุญาโตตุลาการซึ่งคู่สัญญาตกลงกันเองเมื่อมีข้อขัดแย้ง...แต่รัฐไปดึงสาลปกครองมาเป็นเครื่องมือเพื่อหักดิบเอกชนด้วยวิธีการนี้..
การกระทำแบบนี้...ระบบกฎหมาย ระบบศาลไทยเสียหาย เพราะต่างชาติจะขาดความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมไทย การลงทุนใดๆก็อาจจะมีเงื่อนไขให้ไปใช้ศาลโลก..ทีนี้ก็ยุ่งกันใหญ่..ประเทศไทย...

เพื่อทักษิณพ้นไป ทำกันได้ขนาดนี้เลยหรือ...สุรยูดดดดดด....จะทุบทำลายความเชื่อมันของประเทศไทยไปถึงไหน...เอ็งถึงจะพอใจ..
ฐานที่มั่นด้านการลงทุน ฐานที่มั่นด้านการค้า การขนส่ง ที่หวังจะให้สุวรรณภูมิเป็นแม่เหล็ก...ล้มเหลวในครานี้เป็นแน่...พี่น้องครับ..
หากความเชื่อมั่นเสื่อมถอยลงไปเช่นนี้เรื่อยๆ.. มาเรื่อยๆกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องของรัฐบาลนี้เพียงเพื่อตอบคำถามการปฏิวัติให้ได้
...เอาตัวให้รอดเพื่อตอบเหตุผลการปฏิวัติรักษาหน้าตนเองและพวก...ประเทศจะพังไม่เป็นไร...วันๆเอาแต่อ้างข้าเป็นทหาร เป็นรัฐบาลของพระเจ้าอยู่หัว ประชาชนต้องฟัง ใครไม่ฟังไม่รักชาติ เป็นงั้นไป......พวกเอ็งต้องท่องเอาไว้..พอเพียง พอเพียง...แค่นั้นพอ..หากไม่ยึดหลักพอเพียง ก็จะบอกว่าทรยศชาติ สถาบัน ไม่รักในหลวง..ไม่ทำเพื่อพ่อ...เฮ้อ...

ถ้าประชาชนเดินขบวนยื่นฎีกาขึ้นมาเพื่อฟ้อง...ให้ปลดพวกท่านให้พ้นไปจากครอบงำประเทศ...แล้วจะเป็นเรื่อง.ที่ประกาศศัตรูกันแน่นอนกับประชาชน ถึงตอนนั้นสมานฉันท์ก็อย่าหวังว่าจะมี...ไม่มีทาง...

ประชาชาติธุรกิจ
บันทึกการเข้า
Nepal
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 16


ประชาธิปไตยมีภาษาเดียว พูดคุยได้ทั่วโลก


« ตอบ #31 เมื่อ: 19-12-2006, 10:05 »

ทุบความมั่นใจอีกทีด้วยข่าวนี้

สำหรับมาตรการของธปท. มีรายละเอียดดังนี้ :

ใ นช่วงที่ผ่านมา พบว่ายังคงมีเงินทุนนำเข้าระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรในค่าเงินบาทในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ค่าเงินบาทยังคงผันผวนและแข็งค่าขึ้นเกินกว่าพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ จึงเห็นควรมีมาตรการ เพิ่มเติมโดยกำหนดให้สถาบันการเงินที่รับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเ ทศเป็นเงินบาท ต้องกันเงินสำรองเป็นเงินตราต่างประเทศไว้จำนวนร้อยละ 30 ของเงินตราต่างประเทศดังกล่าว ส่วนที่เหลือร้อยละ 70 ให้รับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทให้แก่ลูกค้า ยกเว้นเงินตราต่างประเทศที่รับซื้อ หรือแลกเปลี่ยนเป็น เงินบาทที่ได้รับจากค่าสินค้า บริการ หรือเงินที่บุคคลหรือนิติบุคคลไทยได้รับคืนจากการลงทุนในต่างประเทศ ไม่ต้องกันเงินไว้ตามมาตรการนี้ โดยมีรายละเอียดและวิธีปฏิบัติดังนี้

1. ลูกค้าที่สถาบันการเงินกันเงินไว้จะขอคืนเงินได้ เมื่อครบกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ถูกกันเงิน โดยลูกค้าต้องแสดงเอกสารหลักฐานให้ชัดเจนว่าเงินที่ตนนำเข้ามาลงทุนนั้นอยู่ ในประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปี

2. เมื่อสถาบันการเงินพิสูจน์และรับรองแล้วว่าลูกค้ารายนั้นมีการนำเข้าเงินทุน และอยู่ในประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปีแล้ว ให้แจ้ง ธปท. เพื่อดำเนินการส่งเงินให้สถาบันการเงินคืนแก่ลูกค้าต่อไป

3. ลูกค้ารายใดนำเงินลงทุนกลับคืนก่อนครบระยะเวลา 1 ปี จะได้รับเงินคืนเพียง 2 ใน 3 ของเงินที่กันไว้

4. ธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตามสัญญาการรับซื้อหรื อ แลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทที่ได้ตกลงก่อนวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องกันเงินตราต่างประเทศดังกล่าว

5. สำหรับธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่เป็นการลงทุนโดยตรง (Foreign Direct Investment) ที่เป็นส่วนของทุน หรือเงินโอน ให้ลูกค้าผู้ถูกกันเงินยื่นคำร้องผ่านสถาบันการเงินพร้อมเอกสารหลักฐาน เมื่อสถาบันการเงินพิสูจน์และรับรองความถูกต้อง และ ธปท. เห็นสมควร จะคืนเงินดังกล่าวแก่ลูกค้าโดยเร็ว

6. เมื่อสถาบันการเงินกันเงินดังกล่าวแล้ว ให้นำส่งแก่ ธปท. ทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป

7. ผลประโยชน์ที่ ธปท. ได้จากมาตรการนี้จะดูแลเพื่อใช้เป็นประโยชน์ของรัฐและสาธารณชนต่อไป

ม าตรการที่กำหนดให้ต้องดำรงเงินสำรองเงินทุนระยะสั้นจากต่างประเทศ ที่ออกเพิ่มเติมในวันนี้ เคยใช้มาแล้วในหลายประเทศในภาวะที่จำเป็น เพื่อควบคุมการนำเข้าเงินทุนระยะสั้น และ ธปท. เห็นว่า เป็นมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบ าท ธปท. จะได้ติดตาม และประเมินผลของมาตรการอย่างใกล้ชิดต่อไป

จากกรุงเทพธุรกิจ
http://www.bangkokbiznews.com/viewNews.jsp?newsid=140709


สรุปสั้นๆว่า
ถ้าต่างชาติจะเอาเงินเข้ามาลงทุน 100บาท จะโดนยึด 30บาทไปก่อน 1 ปี เหลือเงินลงทุนเพียง 70บาท
ถ้าลงทุนไม่ถึง 1 ปี จะขอคืน 2ใน3 ที่ยึดมา คือ 20บาท แล้วยึดไว้ 10บาท


แล้วทีนี้ใครหน้าไหนจะกล้าเข้ามาลงทุนละ?? แล้วถ้าเกิดการรวมหัวกันจากต่างชาติ เอาเงินออกทีเดียวหมดประเทศ ยิ่งกว่าต้มยำกุ้งอีกนคราวนี้

แบงค์ชาติ มันกำลังทำอะไรของมัน ปกป้องแบงค์ แต่ทำลายชาติ

เวรกรรมของประเทศไทย..
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #32 เมื่อ: 19-12-2006, 10:23 »

ไปซื้อดอลล่าร์ช่วยชาติกันเถอะ จารย์จ๊ะ 


อืมมมม.....มันเป็นเรื่องของการสั่งสอนระดับโลกเค้าอ่ะครับ บทเรียนก็คือ คุณไม่สามารถต้านกระแสทุนเสรีได้ ไม่ว่าคุณจะแน่แค่ไหนในประเทศก็ตาม...ท้ายสุดแล้วก็ตายลูกเดียว


'จารย์จ๊ะ' ขอซิบในฐานะคนชอบพอกันน๊ะครับคุณแถว่า ปี 2550 จะมีวิกฤติมากกว่าปี 2540 อีก...ตอนนี้ช่วยกันบอกคนที่คุณห่วงใยด้วยว่าเก็บ cash ไว้ให้มากๆ และอย่าก่อหนี้เด็ดขาด


ตามนั้นครับ!!
บันทึกการเข้า
Nepal
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 16


ประชาธิปไตยมีภาษาเดียว พูดคุยได้ทั่วโลก


« ตอบ #33 เมื่อ: 19-12-2006, 10:36 »

ค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ และดีที่สุด

 คือการประหยัดให้มาก ถึงมากที่สุด อย่าสร้างหนี้ (ดอกเบี้ยจะพุ่งปร๊ด)

 หรือก่อหนี่เพิ่ม 
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #34 เมื่อ: 19-12-2006, 10:41 »

โหซึ้งใจจัง  ทั้งจารย์จ๊ะ และน้องใหม่สาวเนปาล ที่ห่วงใยประเทศชาติโดยมองความเป็นจริงมากกว่า

พวกดัดจริตชน อ้างเรื่องจริยธรรม คุณธรรม ไปวันๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็อยู่แสนสบาย มีบ้านบนเขาในพื้นที่ที่ชาวบ้านเค้าทำเกษตร

แต่ก็เหอะ ถึงมันจะล่มจมในปีหน้า พวกนี้ก็คงอยู่สบายเพราะมันคงตุนกันไว้อ้วนแล้วหละเล่นรู้ล่วงหน้ากันอย่างงี้
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #35 เมื่อ: 19-12-2006, 11:59 »

'จารย์จ๊ะ' พูดเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจไทยยังไม่ทันขาดคำก็เกิดซะแล้วอ่ะ...ประกาศชัดๆอีกครั้งว่า วิกฤติครั้งนี้แรงกว่าปี 2540 เพราะมันจะเกิดวิกฤติสังคมและการปกครองในประเทศไทยอีกด้วย!!





http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9490000155071&#Opinion

ตลาดหุ้นพัง-ตลท.ประกาศพักการซื้อขาย
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 ธันวาคม 2549 11:40 น.
 
 
 
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
 
ภัทรียา เบญจพลชัย

 
 
 
  แรงเทขายหุ้น ทำดัชนีเดี้ยงเกิน 10% ตลาดหุ้นประกาศ Cirkit Breaker ให้หยุดการซื้อขายแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.ดัชนีดิ่งลง 74.06 จุด หรือลดลง 10.14%
       
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้หยุดพักการซื้อขายหุ้นแล้ว (Cirkit Breaker) เนื่องจากดัชนีปรับลดลงเกิน 10% โดยล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 656.49 จุด ลดลง 74.06 จุด หรือลดลง 10.14% มูลค่าการซื้อขายกว่า 3 หมื่นล้านบาท
       
       นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวในช่วงเช้าว่า ตลท.ได้เตรียมมาตรการบรรเทาผลกระทบในภาวะที่ตลาดหุ้นตื่นตระหนก หากดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยหากดัชนีปรับในระหว่างลดลงถึงระดับ 10 % ตลท.จะสั่งใช้มาตรการหยุดการซื้อขายชั่วคราวได้ (Cirkit Breaker) นอกจากนี้ ตลท.ยังได้เร่งประสานงานกับธปท.เพื่อขอให้ผ่อนผันมาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่ออกมาเมื่อวานนี้ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้น รวมทั้งตลท.จะติดตามภาวะการซื้อขายอย่างใกล้ชิด
 
 
 
 
 
บันทึกการเข้า
Nepal
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 16


ประชาธิปไตยมีภาษาเดียว พูดคุยได้ทั่วโลก


« ตอบ #36 เมื่อ: 19-12-2006, 12:29 »

ค่ะหลังจากเบรกไป 30 นาที  และเปิดตลาดใหม่ หุ้นก็ยังดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง อย่างน่าเป็นห่วง   

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ส่วนด้านความเชื่อมั่นลดลงนั้น มรว ปรีดียาธร ให้ข่าวว่า
เมื่อดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ไม่เห็นมีใครพูดถึง แต่กลับพูดถึงเฉพาะเมื่อดัชนีความเชื่อมั่นลดลง ทั้งที่เศรษฐกิจไทยไม่ได้มีปัญหาใด นักธุรกิจก็พอใจกับสถานการณ์เศรษฐกิจมากนัก ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เหลือเพียงค่าเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งก็ให้ ธปท.ดูแลอยู่” dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?Newsid=110913&NewsType=1&Template=2

-------------------------------------------------------------------------------

ท่านกำลังหลอกใครอยู่ไม่ทราบค่ะ คนไทยไม่ได้โง่ทั้งหมดนะค่ะ หรือท่านกำลังหลอกตัวเอง ???

บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #37 เมื่อ: 19-12-2006, 12:53 »

ไปซื้อดอลล่าร์ช่วยชาติกันเถอะ จารย์จ๊ะ 


อืมมมม.....มันเป็นเรื่องของการสั่งสอนระดับโลกเค้าอ่ะครับ บทเรียนก็คือ คุณไม่สามารถต้านกระแสทุนเสรีได้ ไม่ว่าคุณจะแน่แค่ไหนในประเทศก็ตาม...ท้ายสุดแล้วก็ตายลูกเดียว


'จารย์จ๊ะ' ขอซิบในฐานะคนชอบพอกันน๊ะครับคุณแถว่า ปี 2550 จะมีวิกฤติมากกว่าปี 2540 อีก...ตอนนี้ช่วยกันบอกคนที่คุณห่วงใยด้วยว่าเก็บ cash ไว้ให้มากๆ และอย่าก่อหนี้เด็ดขาด


ตามนั้นครับ!!

มันจะมีอะไรแย่กว่าปี 40 อีกเหรอ .........ปิดไป 50 กว่า ไฟแนนซ์ เงิน เกือบกลายเป็นแบ็งค์กงเต๊ก.........คนตกงานเป็นล้าน.........มาฟอร์มเก่า ทิ้งขี้ไว้ให้เค้าเก็บ แล้วจะไปโทษคนปัดกวาด.........ตูล่ะเหนื่อยจริง ๆ
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #38 เมื่อ: 19-12-2006, 13:23 »

ไปซื้อดอลล่าร์ช่วยชาติกันเถอะ จารย์จ๊ะ 


อืมมมม.....มันเป็นเรื่องของการสั่งสอนระดับโลกเค้าอ่ะครับ บทเรียนก็คือ คุณไม่สามารถต้านกระแสทุนเสรีได้ ไม่ว่าคุณจะแน่แค่ไหนในประเทศก็ตาม...ท้ายสุดแล้วก็ตายลูกเดียว


'จารย์จ๊ะ' ขอซิบในฐานะคนชอบพอกันน๊ะครับคุณแถว่า ปี 2550 จะมีวิกฤติมากกว่าปี 2540 อีก...ตอนนี้ช่วยกันบอกคนที่คุณห่วงใยด้วยว่าเก็บ cash ไว้ให้มากๆ และอย่าก่อหนี้เด็ดขาด


ตามนั้นครับ!!

มันจะมีอะไรแย่กว่าปี 40 อีกเหรอ .........ปิดไป 50 กว่า ไฟแนนซ์ เงิน เกือบกลายเป็นแบ็งค์กงเต๊ก.........คนตกงานเป็นล้าน.........มาฟอร์มเก่า ทิ้งขี้ไว้ให้เค้าเก็บ แล้วจะไปโทษคนปัดกวาด.........ตูล่ะเหนื่อยจริง ๆ


ไม่เอาน่า....พอทำไรไม่ได้ดั่งใจก็โบ้ยว่าเป็นความผิดของรัฐบาลชุดก่อน ไม่แมนเลยสักนิด


ขออนุญาตรื้อฟื้นความทรงจำกันนิดนึงน๊ะครับว่า คุณทักษิณเคยพูดบ่อยๆว่าเครดิตของประเทศและผู้นำประเทศถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของประเทศไทย ตราบใดก็ตามที่นานาประเทศเค้าเชื่อใจและไว้ใจผู้นำประเทศและระบบการบริหารประเทศ....การไหลเข้าของเงินทุน การให้ความสนับสนุน และการยอมรับในประเทศไทยย่อมมีผลกระทบ

ถามว่า...ณ วันนี้ ความเชื่อมั่นในผู้นำและระบบการบริหารต่างของประเทศไทยในสายตาของชาวโลกมีมากน้อยเพียงใด? ประเด็นก็คือ ถ้าเค้าเชื่อมั่นก็ย่อมต้องขนเงินมาลงทุน แต่ถ้าไม่เชื่อมั่นก็ขนเงินออก ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้น....มันไม่ใช่แค่การขนเงินออกแล้วจบ

บริษัทต่างๆขายของไม่ได้
ยอดการผลิตลด
การสั่งซื้อวัตถุดิบต่างๆลดลง
ภาคบริการ/ภาคเกษตรชะลอตัว
ธุรกิจต่างๆหยุดชะงัก
คนตกงาน
วิกฤติเศรษฐกิจ
วิกฤติสังคม
และน่าจะวิกฤติการปกครองซะด้วยซ้ำเที่ยวนี้


ที่มาที่ไปมันมีครับ....ไม่ใช่พูดเอามันส์อย่างเดียว!!
 
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #39 เมื่อ: 19-12-2006, 13:30 »

คุณทักษิณเคยบอก....!!!!!!!  โอว...เชื่อ เชื่อ เชื่อ ๆๆๆๆ 


 
บันทึกการเข้า
TAKSIN THE BEST PM.
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258


« ตอบ #40 เมื่อ: 19-12-2006, 16:45 »

มาแล้ว กว่าที่คิด

ศก.พอกันที  ปากคาบ "คุณ น่ะ ทำ"

น้ำท่วมติดเกาะ หุ้นตกติดดอยกัน เป็นแสนคน

น้ำท่วมอดข้าวแห้งตาย จมน้ำตาย ไปหลาย ชาวบ้านยังรอเอาคืนอยู่ 

มาคราวนี้พวกกาลีมันเปิดศึกกะ ชนชั้นกลาง อีก....

อีกไม่นาน เสาร์อาทิตย์ นี้คนตรึมแน่

อึ้ย หนาว.......

 

บันทึกการเข้า
Nepal
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 16


ประชาธิปไตยมีภาษาเดียว พูดคุยได้ทั่วโลก


« ตอบ #41 เมื่อ: 19-12-2006, 18:57 »

มันจะมีอะไรแย่กว่าปี 40 อีกเหรอ .........ปิดไป 50 กว่า ไฟแนนซ์ เงิน เกือบกลายเป็นแบ็งค์กงเต๊ก.........คนตกงานเป็นล้าน.........มาฟอร์มเก่า ทิ้งขี้ไว้ให้เค้าเก็บ แล้วจะไปโทษคนปัดกวาด.........ตูล่ะเหนื่อยจริง ๆ
----------------------------------------------------------

  ปิดไฟแนนท์ ขายทรัพย์สินของชาติไปแบบถูกๆ ยังไม่รู้อีกหรือว่าใครทำ????   ไม่รู้จริงง๊ะ   
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: